บททั้งหมดของ คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: บทที่ 521 - บทที่ 530

594

บทที่ 521

สิบนาทีต่อมา ณ ร้านอาหารเสฉวน เสิ่นหยินอู้คืนเมนูให้กับพนักงาน "เอาแค่นี้ก่อนค่ะ" พนักงานรับเมนูไปแล้วพยักหน้า: "ได้ครับ" หลังจากพูดจบ เขาก็ถือเมนูและเดินจากไป ฉินเย่ซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกับเสิ่นหยินอู้ไม่ได้พูดอะไรสักคำตั้งแต่แรก พวกเขาทั้งสามนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับบรรยากาศที่แปลกประหลาด หลี่มู่ถิงเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ดังนั้นในตอนนี้จึงรู้สึกดีขึ้นมา เสิ่นหยินอู้ไม่มีความต้องการที่จะพูดคุยกับฉินเย่ จึงหยิบโทรศัพท์มาค้นหาข้อมูล หลังจากที่หลี่มู่ถิงซึ่งอยู่ข้างๆเธอรู้เข้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจว่าเธอเป็นพวกบ้างาน เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าฉินเย่เป็นคนบ้างานมาก แต่เขาไม่เคยคิดว่าเสิ่นหยินอู้จะบ้างานหนักกว่าเขาด้วยซ้ำ ผู้คนเดินไปมาในร้านอาหารเสฉวน แม้แต่ในอากาศก็ยังเต็มไปด้วยกลิ่นเผ็ดร้อน มันมีกลิ่นที่หอมมาก แต่มันไม่เป็นมิตรกับท้องของฉินเย่ หลังจากรอประมาณสิบนาที อาหารที่เสิ่นหยินอู้สั่งก็มาเสิร์ฟทีละจาน สมกับเป็นร้านอาหารเสฉวนจริงๆ ทุกจานที่ยกมาเสิร์ฟล้วนมีสีแดงสด ในด้านเต็มไปด้วยพริกทอด หลี่มู่ถิงชอบอาหารเผ็ดๆ และคิดว่าอาหารรสเผ็ดเข้ากันไ
Read More

บทที่ 522

เพราะเมื่อก่อนเขาทำไม่ดีกับเธอไว้ แม้ว่าเขาจะปิดกั้นหัวใจของเขา แต่หากเธอต้องการแก้แค้นเขาจริงๆ เขาก็จะยอมรับมัน ทันทีที่เขาพูดจบ พนักงานก็ยกจานสุดท้ายมาเสิร์ฟ “ขอโทษทีนะครับคุณผู้หญิง ต้มโจ๊กต้องใช้เวลาสักพัก โจ๊กเพิ่งสุกน่ะครับ ทานให้อร่อยครับ” พนักงานวางโจ๊กสีขาวในหม้อใบเล็กๆไว้ตรงที่ว่างทางด้านซ้ายมือ เมื่อเห็นหม้อโจ๊ก สมองฉินเย่ก็สับสนเล็กน้อย หลี่มู่ถิงก็ตกตะลึงเช่นกัน “คะ คุณหนูเสิ่น โจ๊กหม้อนี้…?”เสิ่นหยินอู้เห็นท่าทางประหลาดใจของเขา จึงหัวเราะเยาะ: "ฉันดูใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ? รู้อยู่แก่ใจว่าเขามีปัญหาเกี่ยวกับท้อง แต่ก็ยังจะให้เขากินอะไรพวกนี้งั้นหรอ?" หากเธอต้องการให้เขาเป็นอะไรไป เธอก็ไม่ต้องไปโรงพยาบาล ไม่ต้องไปดูแลเขาก็ได้ ทำไมจะต้องทำอะไรอ้อมค้อมมากมายขนาดนี้ แต่เสิ่นหยินอู้ก็พาเขามาที่ร้านอาหารเสฉวนก็เพราะเธอตั้งใจ ถ้าไม่มีเธอ เขาก็จะกินข้าวดีๆไม่ได้สินะ? งั้นก็ให้เขามากินโจ๊กจืดๆที่นี่ แล้วนั่งมองเธอกับหลี่มู่ถิงกินอย่างเอร็ดอร่อย "เปล่าครับ เปล่าเลย" หลี่มู่ถิงรีบอธิบาย อารมณ์ที่ซับซ้อนก่อนหน้านี้ของเขาก็ชัดเจนขึ้นในทันใด ไม่
Read More

บทที่ 523

ก่อนเข้านอน เสิ่นหยินอู้ส่งข้อความไปถามไถ่เฉียวลี่ซือ ลี่ซือส่งวิดีโอของเด็กที่ไร้เดียงสาสองคนกำลังเล่นเกมในสนามเด็กเล่นให้เธอ “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันพาพวกเขาไปให้แล้วนะ วันนี้เด็กน้อยทั้งสองมีความสุขกันมาก พรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดี ฉันจะพาพวกเขากลับดึกหน่อยนะ” ไม่ใช่ว่าลี่ซือไม่เคยช่วยเธอพาเด็กๆไปเที่ยวมาก่อน เสิ่นหยินอู้จึงวางใจได้ “โอเค ขอบใจนะ รอฉันกลับบ้านนะ” หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็เก็บโทรศัพท์และพักผ่อน เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากที่ลี่ซือส่งข้อความหาเธอ เธอก็เปิดวิดีโอของเสิ่นซือเหนียนและเสิ่นเหมิงเหมิงอีกครั้ง เพราะคิดว่าพวกเขาน่ารักมาก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะแชร์ไปใน Wechat moment ของเธอ ไม่นานหลังจากที่เธอแชร์ หนุ่มๆหลายคนที่ตามจีบเธออยู่ก็กดไลค์ใน Wechat moment ของเธอทันที และชมเด็กๆด้วยหลายๆวิธีต่างเพื่อให้เธอสนใจ ลี่ซือเลื่อนดูคอมเมนต์เหล่านี้ แต่เธอกลับไม่ดีใจเลย ไม่ว่าเธอจะโพสต์อะไร ผู้ชายพวกนี้ก็มีแต่จะมาชมแบบไม่ใช้สมอง ผู้ชายจอมลวงโลกพวกนี้ เมื่อนึกบางอย่างได้ ลี่ซือจึงกดออกจาก Wechat moment และอดไม่ได้ที่จะมองดูช่องทางการติดต่อของบัญชี We
Read More

บทที่ 524

“ผู้ช่วยหลี่ คุณมาเตือนฉันคงจะไม่ดีเท่าไปเตือนประธานฉินของคุณนะ เขาสวมเสื้อน้อยกว่าฉันอีก” อย่างน้อยเธอก็สวมเสื้อโค้ท แล้วเสื้อโค๊ทก็เป็นแบบกันหนาวพิเศษ “ไม่หนาว” ฉินเย่กล่าว “แต่คุณป่วยอยู่” เสิ่นหยินอู้สวน เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเย่ก็หัวเราะเบา ๆ: "ถ้าเป็นคนป่วยผมจะไปสุสานกับคุณได้เหรอ? ไปกันเถอะ อย่าจุกจิกนักเลย คุณยังต้องไปช้อปปิ้งต่อไม่ใช่เหรอ?" เสิ่นหยินอู้ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ในเมื่อเขาไม่ไปหาอะไรมาใส่เพิ่ม เขาคงจะรู้ดีอยู่แก่ใจ เธอคงไม่สามารถทำตัวเหมือนแม่ของเขาไปได้ตลอดสินะ? หลังจากคิดได้ เสิ่นหยินอู้ก็ไม่พูดอะไรอีก และพยักหน้า "งั้นก็ไปกันเถอะ" พวกเขาไปซื้อผลไม้ ดอกไม้สด และของเซ่นไหว้ และในที่สุดก็รีบตรงไปที่สุสาน ระหว่างทางไปสุสาน อารมณ์ของเสิ่นหยินอู้จู่ๆก็หนักอึ้งขึ้นมากะทันหัน บรรยากาศในรถก็อึมครึมเช่นกัน ไม่มีใครพูดอะไร ทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจมาก "ถึงแล้ว" เมื่อมาถึง รถก็จอด และประตูรถก็ถูกเปิดออก พื้นของสุสานที่ผ่านหยาดสายฝนมาตลอดทั้งคืนยังคงมีคราบน้ำอยู่ ในอากาศก็มีกลิ่นสายฝนปะปนกับกลิ่นชื้นของหญ้าและดิน ที่สุสานหลังจากฝนตกน
Read More

บทที่ 525

ฉินเย่ยืนอยู่ในที่ไกลๆ มองดูเสิ่นหยินอู้พิงหลุมศพและพูดคุยกับคุณย่าอย่างเงียบๆ เขาไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูด แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าและความสิ้นหวังอันหนักหน่วงที่ออกมาจากร่างกายของเธอ สภาพนี้เหมือนกับเขาในตอนแรกที่ทราบว่าคุณย่าของเขาจากไปทุกอย่าง ไม่สิ แย่กว่าเขาเสียด้วยซ้ำ ฉินเย่นึกถึงช่วงเวลาที่คุณย่าเข้ารับการผ่าตัดเมื่อห้าปีที่แล้ว เธอตกอยู่ในภวังค์ของเธอเอง มันแสดงให้เห็นว่าคุณย่าที่อยู่ในใจเธอนั้นสำคัญเพียงใด เมื่อคิดถึงเช่นนี้ ดวงตาสีดำของฉินเย่ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลงมา และเริ่มกังวลว่าเธอจะเป็นเช่นไรหลังจากที่คุยกับคุณย่าเสร็จ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด อากาศเริ่มแย่ลงอีกครั้ง และมีเสียงฟ้าร้องดังลั่น หลี่มู่ถิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพบว่าสภาพอากาศดูเหมือนจะแย่ลง เขาจึงขมวดคิ้วและเตือนว่า: "ประธานฉิน เหมือนว่าฝนจะตกแล้ว เราควรไปหาเรียกคุณหนูเสิ่นกลับดีไหมครับ?" ฉินเย่ยืนนิ่ง จากนั้นก็พูดกับเขา: "ไปหาร่มมาสองคัน" หลี่มู่ถิงลังเลที่จะพูด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร และเดินไปขอร่มจากยามเฝ้าประตู ไม่กี่นาทีต่อมา หลี่มู่ถิงก็วิ่งเหยาะๆกลับมาพร้อมกับร่ม
Read More

บทที่ 526

“คุณหมายความว่าไง? ตอนนั้นเป็นคุณเองไม่ใช่เหรอที่ต้องการหย่า?” “ฉันต้องการหย่า?” เหมือนกับว่าเฑอกำลังฟังเรื่องตลกบางอย่างอยู่ เสิ่ยหยินอู้ผลักฉินเย่ออกไปและถอยหลังไปสองสามก้าว ทำให้ร่างกายของเธออยู่ท่ามกลางสายฝน เมื่อฉินเย่เห็นเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกางร่มให้เธอเพื่อบังฝน เมื่อเห็นว่าเธอยังคงก้าวถอยไปอีก ฉินเย่ก็คว้าเอวของเธอไว้ "ถ้ายังถอยไปอีก เดี๋ยวก็เปียกหรอก" “นั่นมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ” เสิ่นหยินอู้พูด และพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากพันธนาการของเขา แต่กลับถูกฉินเย่จับข้อมือไว้ "ทำไมมันจะไม่เกี่ยวกับผมล่ะ? งั้นวันนี้คุณก็พูดให้ชัดเจนต่อหน้าคุณย่าสิ" เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ทันใดนั้นเสิ่นหยินอู้ก็ตระหนักได้ว่าพวกเขายังอยู่ที่หน้าหลุมศพของคุณย่า ถ้าจะทะเลาะกัน ก็ต้องออกไปจากหน้าหลุมศพของคุณย่าก่อน ต้องควบคุมตัวเองเอาไว้ให้ได้ เมื่อคิดเช่นนั้น อารมณ์ที่ไม่ดีของเสิ่นหยินอู้ก็ค่อยๆลดลง และเธอก็เริ่มสงบลง เธอลดสายตาลงและสงบสติอารมณ์ “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้ว กลับเถอะ” หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว
Read More

บทที่ 527

เดิมทีพวกเขากำลังจะไปโรงพยาบาล แต่ก่อนที่รถจะไปถึงโรงพยาบาล เสิ่นหยินอู้ก็ตื่นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอพบว่าตัวเองนอนอยู่บนรถ แอร์ที่เปิดในรถตั้งอุณภูมิไว้สูงมาก แต่เสื้อผ้าของหลี่มู่ถิงที่อยู่เบาะหน้ายังคงเปียกอยู่ เขาเริ่มจามจากความหนาวเย็นและสูดจมูก เธออึ้งไปครู่หนึ่ง เอื้อมมือออกไปกุมศีรษะของตัวเอง แต่กลับสบตากับสายตาคู่ที่สงบนิ่ง ฉินเย่นั่งอยู่ที่มุมเบาะแถวหลัง มองดูเธออย่างเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็รู้ตัวว่าเธอได้กินที่ของเบาะแถวหลังไปทั้งหมด ดังนั้นฉินเย่จึงนั่งอยู่ตรงมุมเบาะ เธอต้องการที่จะลุกขึ้นมานั่ง แต่ก็พบว่าตัวเองรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เธอจึงนอนอยู่แบบนั้น หลี่มู่ถิงที่นั่งอยู่เบาะหน้าจามอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง เขาไม่รู้ว่าเสิ่นหยินอู้ตื่นแล้ว หลังจากจาม เขาก็บีบจมูกแล้วหันไปถามฉินเย่ “ประธานฉิน ผมเห็นว่าหลังของคุณเปียก แต่ทำไมคุณไม่จามเลยล่ะ?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไปชั่วคราว เธอกำลังปะปิดปะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เธอเป็นลมไปด้วยคำพูดของหลี่มู่ถิง ตอนนั้นฝนตก แต่เธอเป็นลมไปอีกครั้ง ทั้งคู่ตัวเปียกไปหมด เธอนอนอยู่บนรถ
Read More

บทที่ 528

เมื่อเห็นฉินเย่ยังคงนั่งอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับเขยื้อน หลี่มู่ถิงก็ทำได้เพียงพูดคำพูดที่รุนแรง: "ถ้าคุณไม่ถอดเสื้อที่เปียกออก ถ้าอีกเดี๋ยวคุณหนูเสิ่นมาเห็นเข้า เธอจะไม่รู้หรอว่าคุณตั้งใจ?" “ที่คุณพูดก็มีเหตุผล” ในที่สุดฉินเย่ก็ถูกเขาเกลี้ยกล่อมสำเร็จ เขาลุกขึ้นยืนและถอดเสื้อคลุมออกที่เปียกออก หลังจากเปลี่ยนเสื้อ ฉินเย่ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นในทันที ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของหลี่มู่ถิงดังขึ้น ทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา เขาก็ได้ยินฉินเย่ถามว่า: "เธอพูดอะไรคุณบ้าง?" หลี่มู่ถิง: "..." เขายังไม่ทันดูข้อความด้วยซ้ำ หลังจากที่เขาดูเสร็จ หลี่มู่ถิงก็พูดว่า: "คุณหนูเสิ่นบอกว่า เธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากงีบสักหน่อย เธอก็เลยจะไม่ไปกินข้าวกับเราตอนเที่ยง" “รู้สึกไม่สบายเหรอ?” ฉินเย่ขมวดคิ้ว: "โทรหาเธอ แล้วถามเธอว่าไม่สบายตรงไหน?" อย่างไรเสีย เธอก็เพิ่งเป็นลมมา ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงกังวลมากที่เธอบอกว่ารู้สึกไม่สบาย อย่างไรก็ตาม หลี่มู่ถิงถือโทรศัพท์โดยไม่ขยับไปไหน เขามองไปที่ฉินเย่อย่างครุ่นคิด “ประธานฉิน ทำไมคุณไม่ใช้โทรศัพท์ของคุณโทรล่ะครับ?” ทันทีที่เขาพูดจบ หลี่มู่ถิงก็ได้รั
Read More

บทที่ 529

เมื่อพนักงานของโรงแรมเห็นพวกเขาทั้งสอง เขาก็แสดงความประหลาดใจออกมา "พวกคุณคือ?" หลี่มู่ถิงชี้ไปที่ตัวเอง: "ผมเพิ่งโทรไปสั่งอาหารให้เพื่อนของผม เธออยู่ตรงข้ามนี้ครับ" เมื่อได้ยิน พนักงานโรงแรมก็แสดงอาการที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ออกมาในทันที “อย่างนี้นี่เอง แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของคุณจะไม่ได้อยู่ข้างในห้องนะคะ ฉันกดกริ่งไปหลายครั้งแล้วก็ไม่มีใครมาเปิดประตูเลย” เมื่อพูดถึงตรงนี้ พนักงานโรงแรมก็พูดอย่างกระวนกระวายว่า: "ถ้างั้น พวกคุณลองโทรไปเช็คดูไหมคะว่าเธออยู่ข้างในไหม?" ฉินเย่มองไปที่หลี่มู่ถิง "โทร" หลี่มู่ถิงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเสิ่นหยินอู้ "ผู้ช่วยหลี่" ผู้ช่วยหลี่ได้ยินเสียงที่แจ่มใสเสียงของเสิ่นหยินอู้ ดูไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งถูกปลุกขึ้นมาจากการนอนหลับ งั้นในตอนนี้ เธอก็คงไม่ได้นอนอยู่สินะ? แล้วทำไมกดกริ่งแล้วแต่กลับไม่มีใครมาเปิดประตู? "คุณหนูเสิ่น คุณตื่นแล้วหรอครับ?" เสิ่นหยินอู้กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงที่มีผู้คนเดินไปมา เธอถือโทรศัพท์อยู่ที่ข้างๆหูของเธอ เม้มริมฝีปาก แล้วจึงถอนหายใจ "คุณหนูเสิ่นถ้าคุณตื่นแล้วก็ช่วยมาเปิดประตูให้หน่อยนะครับ ผมก
Read More

บทที่ 530

หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็วางสาย และรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไป หลังจากวางสายแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เก็บโทรศัพท์และเดินไปที่ประตูขึ้นเครื่องพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ฉินเย่ส่งโทรศัพท์คืนให้หลี่มู่ถิงด้วยใบหน้าที่มืดมน หลี่มู่ถิงมอง และพบว่าโทรศัพท์ถูกตัดสายไปแล้ว จากที่เขาเพิ่งได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสอง เขาจึงถามอย่างระมัดระวังว่า: "ประธานฉิน คุณหนูเสิ่นไปสนามบินแล้วเหรอครับ?" เขาไม่ไดัตอบอะไร แต่ใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาได้บอกทุกอย่างแทนคำพูดแล้ว “แล้ว…เราควรจะทำยังไงต่อครับ?” ฉินเย่เหลือบมองเขาแล้วพูดว่า "กลับไปที่บริษัทก่อน" หลังจากพูดจบ ฉินเย่ก็เดินกลับเข้าไปในห้องพักของโรงแรม เมื่อหลี่มู่ถิงต้องการจะตามเขาไป เขานึกได้ว่ามีพนักงานของโรงแรมที่มาส่งอาหารอยู่ข้างๆ เขาจึงพูดไปว่า: "อาหารพวกนี้ไม่จำเป็นแล้วครับ เอาให้พนักงานในโรงแรมของคุณแบ่งกันได้เลยครับ คนในห้องออกไปแล้ว" หลังจากพูดจบ เขาก็รีบเดินตามฉินเย่ไป พนักงานโรงแรมยืนอยู่ที่เดิมสักพักหนึ่ง หลังจากที่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เบิกตากว้างขึ้นด้วยความดีใจ - ณ เจียงเฉิง ทันทีที่เสิ่นหยินอู
Read More
ก่อนหน้า
1
...
5152535455
...
60
DMCA.com Protection Status