Share

บทที่ 526

Author: ลั่วหูโยว
“คุณหมายความว่าไง? ตอนนั้นเป็นคุณเองไม่ใช่เหรอที่ต้องการหย่า?”

“ฉันต้องการหย่า?”

เหมือนกับว่าเฑอกำลังฟังเรื่องตลกบางอย่างอยู่ เสิ่ยหยินอู้ผลักฉินเย่ออกไปและถอยหลังไปสองสามก้าว ทำให้ร่างกายของเธออยู่ท่ามกลางสายฝน

เมื่อฉินเย่เห็นเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกางร่มให้เธอเพื่อบังฝน

เมื่อเห็นว่าเธอยังคงก้าวถอยไปอีก ฉินเย่ก็คว้าเอวของเธอไว้

"ถ้ายังถอยไปอีก เดี๋ยวก็เปียกหรอก"

“นั่นมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”

เสิ่นหยินอู้พูด และพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากพันธนาการของเขา แต่กลับถูกฉินเย่จับข้อมือไว้ "ทำไมมันจะไม่เกี่ยวกับผมล่ะ? งั้นวันนี้คุณก็พูดให้ชัดเจนต่อหน้าคุณย่าสิ"

เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ทันใดนั้นเสิ่นหยินอู้ก็ตระหนักได้ว่าพวกเขายังอยู่ที่หน้าหลุมศพของคุณย่า ถ้าจะทะเลาะกัน ก็ต้องออกไปจากหน้าหลุมศพของคุณย่าก่อน

ต้องควบคุมตัวเองเอาไว้ให้ได้

เมื่อคิดเช่นนั้น อารมณ์ที่ไม่ดีของเสิ่นหยินอู้ก็ค่อยๆลดลง และเธอก็เริ่มสงบลง

เธอลดสายตาลงและสงบสติอารมณ์

“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้ว กลับเถอะ”

หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Orawin
กำลังสนุกเลย ...
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 527

    เดิมทีพวกเขากำลังจะไปโรงพยาบาล แต่ก่อนที่รถจะไปถึงโรงพยาบาล เสิ่นหยินอู้ก็ตื่นขึ้นมา เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอพบว่าตัวเองนอนอยู่บนรถ แอร์ที่เปิดในรถตั้งอุณภูมิไว้สูงมาก แต่เสื้อผ้าของหลี่มู่ถิงที่อยู่เบาะหน้ายังคงเปียกอยู่ เขาเริ่มจามจากความหนาวเย็นและสูดจมูก เธออึ้งไปครู่หนึ่ง เอื้อมมือออกไปกุมศีรษะของตัวเอง แต่กลับสบตากับสายตาคู่ที่สงบนิ่ง ฉินเย่นั่งอยู่ที่มุมเบาะแถวหลัง มองดูเธออย่างเงียบ ๆ จากนั้นเธอก็รู้ตัวว่าเธอได้กินที่ของเบาะแถวหลังไปทั้งหมด ดังนั้นฉินเย่จึงนั่งอยู่ตรงมุมเบาะ เธอต้องการที่จะลุกขึ้นมานั่ง แต่ก็พบว่าตัวเองรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เธอจึงนอนอยู่แบบนั้น หลี่มู่ถิงที่นั่งอยู่เบาะหน้าจามอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง เขาไม่รู้ว่าเสิ่นหยินอู้ตื่นแล้ว หลังจากจาม เขาก็บีบจมูกแล้วหันไปถามฉินเย่ “ประธานฉิน ผมเห็นว่าหลังของคุณเปียก แต่ทำไมคุณไม่จามเลยล่ะ?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไปชั่วคราว เธอกำลังปะปิดปะต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เธอเป็นลมไปด้วยคำพูดของหลี่มู่ถิง ตอนนั้นฝนตก แต่เธอเป็นลมไปอีกครั้ง ทั้งคู่ตัวเปียกไปหมด เธอนอนอยู่บนรถ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 528

    เมื่อเห็นฉินเย่ยังคงนั่งอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับเขยื้อน หลี่มู่ถิงก็ทำได้เพียงพูดคำพูดที่รุนแรง: "ถ้าคุณไม่ถอดเสื้อที่เปียกออก ถ้าอีกเดี๋ยวคุณหนูเสิ่นมาเห็นเข้า เธอจะไม่รู้หรอว่าคุณตั้งใจ?" “ที่คุณพูดก็มีเหตุผล” ในที่สุดฉินเย่ก็ถูกเขาเกลี้ยกล่อมสำเร็จ เขาลุกขึ้นยืนและถอดเสื้อคลุมออกที่เปียกออก หลังจากเปลี่ยนเสื้อ ฉินเย่ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นในทันที ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของหลี่มู่ถิงดังขึ้น ทันทีที่เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา เขาก็ได้ยินฉินเย่ถามว่า: "เธอพูดอะไรคุณบ้าง?" หลี่มู่ถิง: "..." เขายังไม่ทันดูข้อความด้วยซ้ำ หลังจากที่เขาดูเสร็จ หลี่มู่ถิงก็พูดว่า: "คุณหนูเสิ่นบอกว่า เธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย อยากงีบสักหน่อย เธอก็เลยจะไม่ไปกินข้าวกับเราตอนเที่ยง" “รู้สึกไม่สบายเหรอ?” ฉินเย่ขมวดคิ้ว: "โทรหาเธอ แล้วถามเธอว่าไม่สบายตรงไหน?" อย่างไรเสีย เธอก็เพิ่งเป็นลมมา ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงกังวลมากที่เธอบอกว่ารู้สึกไม่สบาย อย่างไรก็ตาม หลี่มู่ถิงถือโทรศัพท์โดยไม่ขยับไปไหน เขามองไปที่ฉินเย่อย่างครุ่นคิด “ประธานฉิน ทำไมคุณไม่ใช้โทรศัพท์ของคุณโทรล่ะครับ?” ทันทีที่เขาพูดจบ หลี่มู่ถิงก็ได้รั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 529

    เมื่อพนักงานของโรงแรมเห็นพวกเขาทั้งสอง เขาก็แสดงความประหลาดใจออกมา "พวกคุณคือ?" หลี่มู่ถิงชี้ไปที่ตัวเอง: "ผมเพิ่งโทรไปสั่งอาหารให้เพื่อนของผม เธออยู่ตรงข้ามนี้ครับ" เมื่อได้ยิน พนักงานโรงแรมก็แสดงอาการที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ออกมาในทันที “อย่างนี้นี่เอง แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของคุณจะไม่ได้อยู่ข้างในห้องนะคะ ฉันกดกริ่งไปหลายครั้งแล้วก็ไม่มีใครมาเปิดประตูเลย” เมื่อพูดถึงตรงนี้ พนักงานโรงแรมก็พูดอย่างกระวนกระวายว่า: "ถ้างั้น พวกคุณลองโทรไปเช็คดูไหมคะว่าเธออยู่ข้างในไหม?" ฉินเย่มองไปที่หลี่มู่ถิง "โทร" หลี่มู่ถิงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเสิ่นหยินอู้ "ผู้ช่วยหลี่" ผู้ช่วยหลี่ได้ยินเสียงที่แจ่มใสเสียงของเสิ่นหยินอู้ ดูไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งถูกปลุกขึ้นมาจากการนอนหลับ งั้นในตอนนี้ เธอก็คงไม่ได้นอนอยู่สินะ? แล้วทำไมกดกริ่งแล้วแต่กลับไม่มีใครมาเปิดประตู? "คุณหนูเสิ่น คุณตื่นแล้วหรอครับ?" เสิ่นหยินอู้กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงที่มีผู้คนเดินไปมา เธอถือโทรศัพท์อยู่ที่ข้างๆหูของเธอ เม้มริมฝีปาก แล้วจึงถอนหายใจ "คุณหนูเสิ่นถ้าคุณตื่นแล้วก็ช่วยมาเปิดประตูให้หน่อยนะครับ ผมก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 530

    หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็วางสาย และรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไป หลังจากวางสายแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เก็บโทรศัพท์และเดินไปที่ประตูขึ้นเครื่องพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ฉินเย่ส่งโทรศัพท์คืนให้หลี่มู่ถิงด้วยใบหน้าที่มืดมน หลี่มู่ถิงมอง และพบว่าโทรศัพท์ถูกตัดสายไปแล้ว จากที่เขาเพิ่งได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสอง เขาจึงถามอย่างระมัดระวังว่า: "ประธานฉิน คุณหนูเสิ่นไปสนามบินแล้วเหรอครับ?" เขาไม่ไดัตอบอะไร แต่ใบหน้าที่บูดบึ้งของเขาได้บอกทุกอย่างแทนคำพูดแล้ว “แล้ว…เราควรจะทำยังไงต่อครับ?” ฉินเย่เหลือบมองเขาแล้วพูดว่า "กลับไปที่บริษัทก่อน" หลังจากพูดจบ ฉินเย่ก็เดินกลับเข้าไปในห้องพักของโรงแรม เมื่อหลี่มู่ถิงต้องการจะตามเขาไป เขานึกได้ว่ามีพนักงานของโรงแรมที่มาส่งอาหารอยู่ข้างๆ เขาจึงพูดไปว่า: "อาหารพวกนี้ไม่จำเป็นแล้วครับ เอาให้พนักงานในโรงแรมของคุณแบ่งกันได้เลยครับ คนในห้องออกไปแล้ว" หลังจากพูดจบ เขาก็รีบเดินตามฉินเย่ไป พนักงานโรงแรมยืนอยู่ที่เดิมสักพักหนึ่ง หลังจากที่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เบิกตากว้างขึ้นด้วยความดีใจ - ณ เจียงเฉิง ทันทีที่เสิ่นหยินอู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 531

    “ฉันไม่ต้องการ”เสิ่นหยินอู้พูดอย่างโกรธเคือง:“ฉันไม่ได้ต้องการจะใช้ชีวิตแบบนั้นอีก”คำตอบนี้ทำให้อู๋อี้ไห่ประหลาดใจเล็กน้อย“งั้นคุณหมายความว่า หลังจากนี้ก็จะไม่คิดจะมีใครอีกแล้วหรอ? คิดที่จะอยู่คนเดียวไปตลอดเลยเหรอ?”เสิ่นหยินอู้เบิกตากว้างขึ้นอีกครั้ง:“ประมาณนั้นแหละ”“งั้นคุณต้องคิดให้ดีนะ ถ้าจะใช้ชีวิตคนเดียวล่ะก็ ในอนาคตมันจะเหงานะ”อู๋อี้ไห่เลี้ยวพวงมาลัย แล้วขับเข้าไปตามถนนสายหลัก จากนั้นก็พูดว่า:“คนน่ะยังไงก็เป็นสัตว์สังคมอยู่วันยังค่ำ ตอนยังเด็กคุณยังมีพ่อมีแม่ แล้วก็เพื่อนๆที่ยังโสดอยู่ข้างๆ ก็เลยคิดว่าถึงไม่ได้แต่งงานมันก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณอายุมากขึ้น พอไม่มีพ่อ แม่ เพื่อนฝูงอยู่ข้างๆแล้ว คุณก็จะโหยหาใครสักคนที่จะมาอยู่ข้างๆเป็นเพื่อนคุณ มากินข้าวด้วยกันกับคุณ”เสิ่นหยินอู้ฟังคำพูดเหล่านี้อย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเธอไม่ได้ตัวคนเดียวเธอมีลูกๆอีกสองคน“ตอนที่ผมยังหนุ่มผมก็เคยคิดที่จะไม่แต่งงาน การแต่งงานน่ะมันดีตรงไหน? การมีลูกน่ะมันดีตรงไหน? ใช้ชีวิตไปคนเดียวมันไม่ดีตรงไหน? ผมยังต้องจ่ายเงินเลี้ยงดูลูก จ่ายค่ากิน ค่าเรียน ค่าอะไรต่างๆอีก แต่พอมีครอบครัวจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 532

    เพราะในที่ทำงานในวันนั้น ปฏิกิริยาของโม่ไป๋นั้นเหมือนว่าเขากำลังบังคับเธอ เธอถึงกับรู้สึกได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงคนที่เห็นเหตุการณ์เลย หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยกันแบบคุยๆหยุดๆจนมาถึงบริษัท เสิ่นหยินอู้กลับไปที่ห้องทำงาน ระหว่างนั้น เธอได้คุยโทรศัพท์กับเฉียวลี่ซือ ลี่ซือบอกว่าวันนี้ลูกๆทั้งสองคนของหยินอู้ยังอยู่กับเธอ “โอเค ฉันจะไปรับพวกเขาหลังเลิกงาน” - ณ หนานเฉิง ฉินเย่กลับไปที่บริษัท ทันทีที่เขามาถึงบริษัท หลี่มู่ถิงได้รับข้อความว่าให้เก็บข้าวของ และช่วงนี้ให้ย้ายที่ทำงานไปที่สำนักงานสาขาในเจียงเฉิง เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่มู่ถิงจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? เขาจึงไปเตรียมตัวในทันที ฉินเย่นั่งลงในห้องทำงาน ยื่นมือออกไปกุมตำแหน่งที่เขาปวดท้องเล็กน้อย สีหน้าของเขายังคงไม่ค่อยสู้ดีอยู่เล็กน้อย วันนี้ถูกเธอทำให้โกรธเป็นอย่างมาก ในขณะนี้ ฉินเย่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความคิดและอารมณ์ของเขา เขาเปิดโทรศัพท์และกดเข้าไปในแอปเพื่อดูว่าช่วงนี้เด็กน้อยทั้งสองคนนั้นได้โพสต์คลิปวิดีโอใหม่ๆอะไรบ้างหรือไม่ หลังจากกดเข้าไป เขาพบว่ามีการโพสต์คลิปวิด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 533

    วันนี้เฉียวลี่ซือไม่ได้ไปทำงาน เธอดูแลเด็กๆสองคนแทนเสิ่นหยินอู้ที่บ้าน เด็กทั้งสองคนอยู่ในโอวาทและเชื่อฟังมาก ที่จริงแล้วเธอไม่จำเป็นต้องพาพวกเขาไปไหน เธอมีหน้าที่แค่ช่วยดูไม่ให้พวกเขาไปไหนและทำอะไรซี้ซั้ว ไม่ให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกเขา ดังนั้นในเวลาอื่น เธอล้วนทำสิ่งที่เธออยากทำ ตัวอย่างเช่น ในตอนนี้เธอกำลังเลื่อนดูโทรศัพท์เพื่อดูสินค้าแฟชั่นใหม่ล่าสุด ขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะสั่งซื้อสินค้าให้มาส่งที่บ้านหรือจะพาเสิ่นหยินอู้ไปด้วยกันกับเธอในตอนที่เธอว่าง โทรศัพท์ของเธอก็สั่น มีข้อความใหม่ล่าสุดเด้งขึ้นมาที่ด้านบนสุดของหน้าจอ หลังจากมองดู เฉียวลี่ซือก็ตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม แม้ว่าแขนขาของเธอจะแข็งไปหมด แต่หัวใจของเธอกลับเริ่มเต้นรัวขึ้นมา เธอดูผิดหรือเปล่า? เหมือนว่าเธอจะเห็นคุณผู้ชายฉินอะไรนั่นส่งข้อความมาหาเธองั้นเหรอ? หลังจากที่เธอได้สติ เฉียวลี่ซือก็รีบเปิด WeChat ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าเธอเห็นข้อความใหม่ล่าสุดจากบัญชีที่เธอปักหมุดไว้ เฉียวลี่ซือรู้สึกตื่นเต้นมากจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร และดวงตาของเธอก็ร้อนผ่าวตาม เธอกดเข้าไปในแชท คุณผู้ชายฉิน: คุณเฉียว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 534

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉียวลี่ซือก็ตกใจ จากนั้นก็แย้งว่า “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ? พวกเขาไม่ใช่ลูกของฉันหรอก ถ้าฉันมีลูกแล้ว ฉันจะไปคุยกับคุณทำไมล่ะคะ?” เพื่อกำจัดความสงสัยในใจของอีกฝ่ายว่าเธอแต่งงานแล้วและมีลูกแล้วหรือยัง เฉียวลี่ซือจึงรีบอธิบาย: "สองคนนั้นเป็นลูกของเพื่อนฉันเอง คนที่คุณถามถึงครั้งก่อนน่ะค่ะ" เมื่อพูดประโยคนี้ ความรู้สึกผิดก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเฉียวลี่ซือ อย่าไปโทษเธอเลย ในความเป็นจริงแล้ว เธอสงสัยมาโดยตลอดว่าเสิ่นหยินอู้กับฉินเย่อาจรู้จักกันมาก่อน ไม่เช่นนั้นชายคนนั้นคงจะไม่ทำตัวเช่นนี้ ตอนนี้เมื่อเธอมีโอกาส งั้นเธอจะต้องพูดถึงเรื่องของเสิ่นหยินอู้ให้ได้ ถ้าเขารู้ว่าเสิ่นหยินอู้มีลูกแล้ว เขาคงจะถอดใจไปเองใช่ไหม? ถ้าเป็นแบบนี้...โอกาสของเธอเองก็จะมากขึ้นสินะ? แน่นอนว่านี่เป็นเพียงโชคที่มีอยู่อันน้อยนิดของลี่ซือ และเธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าเธอทำอะไรผิด ท้ายที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็มีลูกแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็โตมากแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่มีลับลมคมในอะไร และเธอก็แค่พูดความจริงเท่านั้นเอง หลังจากได้ยิน ฉินเย่คงจะกำลังคิดบางอย่างอยู่ในใจ “โอ้?” เขาเลิกคิ้ว: “ผู้หญิงที่

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status