บททั้งหมดของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์: บทที่ 841 - บทที่ 850

1467

บทที่ 841 ฝันที่น่าตกใจ

นิ้วมือของเย่จิ่งอวี้เลื่อนเข้าไปในคอเสื้อ ความรู้สึกหยาบกร้านจากการลูบไล้ ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกสั่นสะท้าน และหายใจเข้าลึกๆ อย่างอดไม่ได้พูดเสียงสั่นว่า “อาอวี้ อย่าเล่นซนนะ เช่นนี้จะไม่ดีต่อลูก”อินชิงเสวียนหดร่างกาย น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยการวิงวอน และนางก็จับมือที่ซุกซนเอาไว้แน่นลักษณะท่าทางเขินอายของนาง กลับยิ่งทำให้เย่จิ่งอวี้มีความปรารถนาเพิ่มมากขึ้น เขาอยากจับเด็กสาวคนนี้กดลงบนพื้นหญ้า และกลั่นแกล้งนางด้วยความรุนแรง“ข้าจะพาจ้าวเอ๋อร์ออกไปส่งด้านนอก”เย่จิ่งอวี้หอบหายใจครู่หนึ่ง พยายามกดเสียงแหบพร่าในลำคอแล้วพูดว่า “ท่านแม่คงกำลังรอจ้าวเอ๋อร์อยู่”“อย่านะเพคะ นานๆ จะได้อยู่กับลูก ท่านอย่าได้คิดแผนร้ายเด็ดขาด”อินชิงเสวียนคว้ามือของเขาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ชายผู้นั้นกลับเคลื่อนตัวลงไปอีกเล็กน้อยแล้วพูดอย่างฮึกเหิมว่า “เมื่อมีความปรารถนา จึงแสวงหาหญิงรักผู้งดงาม เรื่องธรรมดาที่พบเห็นเป็นอาจิณ”ร่างกายของอินชิงเสวียนอ่อนไหวเป็นอย่างมาก จึงร้องตกใจและพูดด้วยความโกรธเล็กน้อย “อาอวี้ ท่านอย่าเล่นซนนะ”เย่จิ่งอวี้จึงต้องชักมือกลับไปด้วยความเสียดาย ความรู้สึกนุ่มนวลท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 842 รถม้าที่มาอย่างฉับพลัน

อินชิงเสวียนตกใจตื่นขึ้นมาทันที และเหงื่อเย็นก็ไหล่ท่วมทั้งตัวด้านข้าง เสี่ยวหนานเฟิงยังคงหลับอยู่ ร่างที่อวบอ้วนนอนตะแคงด้านข้าง น่องทั้งสองพับเข้าหากัน และผ้าห่มผืนเล็กที่คลุมตัวไว้ก็ถูกเตะออกไปอีกด้านอินชิงเสวียนห่มผ้าให้เขาใหม่อีกครั้ง ความรู้สึกตกใจกลัวยังไม่หายไปเหตุใดจู่ๆ ตัวเองถึงฝันเช่นนี้ได้?เสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่ในความฝัน คือเสื้อผ้าที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งนางไม่มีทางทำทรงผมที่สวยงามเช่นนั้นได้เมื่อลองเปลี่ยนมุมมองความคิด ความฝันคือสิ่งที่ไร้ข้อจำกัด ฝันเห็นอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น คงเป็นเพราะตัวเองคิดถึงคุณย่ามากเกินไป จึงได้ฝันเห็นเธอเมื่อคิดได้เช่นนี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกสงบขึ้นมาทันที นางพนมมือและหลับตาอธิษฐานหวังว่าเทวดาจะคุ้มครองและปกปักรักษา ครอบครัวของอารอง ลูกพี่ลูกน้องชายและสะใภ้จะดูแลเธอเป็นอย่างดี เพื่อให้คุณย่ามีความสุขในบั้นปลายของชีวิต!เสียงประตูเปิดออกดังเอี๊ยด อินชิงเสวียนก็รีบวางมือลง เซี่ยวอิ๋นหวนหิ้วกล่องอาหารเข้ามาจากด้านนอก“ได้ยินอวี้เอ๋อร์บอกว่าเจ้าหลับแล้ว ข้าจึงไม่กล้าเข้ามาดู แต่กลัวว่าเจ้าจะหิว เพราะความอดไม่ได้จึงแ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 843 ยิ้มในเวลานี้ดูเหมือนไม่ค่อยเหมาะสม

“บังอาจ กล้าดีอย่างไรบุกเข้ามาในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์!”ลูกศิษย์หลายคนที่เฝ้าประตูต่างก็ชักดาบยาวออกมา และล้อมชายคนนั้นเอาไว้อินชิงเสวียนมองรูปร่างที่คุ้นตาของชายผู้นั้น และเดินเข้าไปหาเมื่อมองใบหน้าด้านข้างของเชา อินชิงเสวียนก็แทบไม่อยากเชื่อ“พี่ใหญ่?”ลูกศิษย์ได้ยินดังนั้นก็หันกลับมา“แม่นางอินรู้จักชายผู้นี้ด้วยหรือ?”อินชิงเสวียนจึงพยุงเขาขึ้นมา“พวกเจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจได้ นี่คือพี่ชายของข้า เขาเดินทางไกลนับพันลี้มาที่นี่ ต้องการมาหาข้าอย่างแน่นอน”“เช่นนี้นี่เอง”คนเหล่านั้นจึงรีบยกอินสิงอวิ๋นเข้าไปในห้องอินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมา และป้อนให้อินสิงอวิ๋นหนึ่งแก้วเพียงครู่หนึ่ง เขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นใบหน้าของอินชิงเสวียนที่อยู่ตรงหน้าก็ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ อินสิงอวิ๋นจึงจับมือของนางด้วยความตื่นเต้น“น้องใหญ่ ในที่สุดข้าก็หาเจ้าพบ!”อินชิงเสวียนกุมมือเขาตอบ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “พี่ใหญ่ถึงเป่ยไห่ได้อย่างไร หรือว่าเกิดเรื่องอะไรที่บ้าน?”“พี่สะใภ้ของเจ้านาง... น้องใหญ่รีบช่วยนางด้วยนะ!”อินสิงอวิ๋นพยายามลุกขึ้นนั่ง เมื่อเห็นว่าบนเตียงมี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 844 คำพูดก่อนหน้านี้ยังนับหรือไม่

ระหว่างที่สองคนพูดคุยกัน อินชิงเสวียนได้นำเป่าเล่อเอ่อร์มายังห้องพักของเย่จิ่งหลาน“รีบตรวจให้นางหน่อยสิ ดูว่ามีโรคเกิดจากสารอินทรีย์หรือไม่?”เย่จิ่งหลานกำลังอ่านนิยายอยู่ในห้อง เมื่อเห็นอินชิงเสวียนอุ้มคนหนึ่งเข้ามา เขาจึงกลอกตาแล้วพูดว่า “ใครอีกเนี่ย?”“องค์หญิงน้อยแห่งเจียงวู เป่าเล่อเอ่อร์”อินชิงเสวียนพูดรวบรัดชัดเจนนางก็ไม่ได้อยากทรมานเย่จิ่งหลาน แต่คิดว่าการได้ตรวจสักหน่อยก็จะทำให้สบายใจยิ่งขึ้น หากเป็นเพียงแค่หนอนกู่ก่อกวน นางค่อยไปหาเซี่ยวอิ๋นหวนก็ยังไม่สาย“หา? นางมาถึงเป่ยไห่ได้อย่างไร?”เย่จิ่งหลานโยนนิยายลง ค้ำเตียงและลุกขึ้นนั่ง“เป็นเพราะนังสารเลวจูอวี้เหยียนก่อเรื่องเอาไว้”อินชิงเสวียนนำเรื่องที่เป่าเล่อเอ่อร์มีพิษกู่ในร่างกาย และเรื่องที่แท้งลูกเล่าให้เขาฟังคร่าวๆเย่จิ่งหลานด่าออกมาอย่างอดไม่ได้ “นังดอกทองนั่นช่างขาดศีลธรรมจริงๆ โชคดีที่นางตายไปแล้ว ไม่เช่นนั้นจะทำร้ายผู้อื่นอีกกี่คน”เขายกมือเรียกมิติห้องรักษา แต่สองเท้ายังขยับได้ไม่สะดวกนัก อินชิงเสวียนรีบพูดว่า “เจ้าไม่ต้องลุก บอกข้าว่าเครื่องมือใช้อย่างไรก็พอแล้ว?”เย่จิ่งหลานเลิกดวงตาหั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 845 ชิงพิณ

อินชิงเสวียนกระแอมแล้วพูดว่า “ข้าพูดสิ่งใดไว้งั้นหรือ ทำไมข้าจำไม่ได้แล้ว?”เย่จิ่งอวี้โกรธขึ้นมาทันที“ไม่รักษาคำพูด จะเป็นปัญญาชนที่ดีได้อย่างไร?”อินชิงเสวียนเม้มปากยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าไม่ใช่ปัญญาชนเสียหน่อย ข้าไม่สนใจหรอกว่าสิ่งใดเป็นไปได้หรือไม่ได้”เย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปจั๊กจี้นาง อินชิงเสวียนยิ้มและวิ่งหนีทันทีเย่จิ่งอวี้ยกเท้าเตรียมวิ่งตาม จู่ๆ ก็รู้สึกถึงความผิดปกติอินชิงเสวียนก็ยืนนิ่งเช่นกัน พร้อมส่งสัญญาณให้ข้า เย่จิ่งอวี้ใจตรงกันและเข้าใจในทันทีเขาเดินสองสามก้าวไปยังอินชิงเสวียน ยิ้มแล้วถามว่า “เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงพิณ เสวียนเอ๋อร์เป็นผู้บรรเลงใช่หรือไม่?”อินชิงเสวียนเอื้อมมือหยิบพิณการเวกออกมา และพูดด้วยความภูมิใจว่า “เจ้าค่ะ นั่นคือบทเพลงที่ข้าเพิ่งเรียนรู้ใหม่”เย่จิ่งอวี้เอ่ยชม “บทเพลงนี้สุกสว่างดั่งจันทร์ฉาย ราวกับบทเพลงเซียนเทพที่เข้ามาในหู ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข เพียงแต่บรรเลงที่นี่คงไม่เหมาะสมนัก”อินชิงเสวียนอุ้มพิณและถามเสียงอ้อนว่า “เช่นนั้นควรไปบรรเลงที่ใดดีเพคะ?”เย่จิ่งอวี้ยิ้มด้วยความรัก“หากมีเสียงคลื่นคอยประสาน นั่น
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 846 พิณแตกสลาย

เสียงพิณหยุดลงกะทันหัน ร่างของหลายคนกระโจนเข้าไปหาอินชิงเสวียน“สุนัขชั้นต่ำที่ไหนกัน!”เย่จิ่งอวี้พูดตะโกนด้วยความโมโห เขาพุ่งขึ้นมากลางอากาศ ลมที่ฝ่ามือมืดฟ้ามัวดิน กวาดชาวตงหลิวหลายคนชาวตงหลิวรีบแยกจากกันทันที ลำเลียงพลังฝ่ามือส่วนใหญ่ จากนั้นก็รวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง และแตกออกเป็นชิ้นๆอาวุธลับที่มีรูปร่างแปลกประหลาดมากมาย บินออกมาจากในมือของพวกเขา ปกคลุมทั้งสองไว้จนไม่เหลือช่องว่างเย่จิ่งอวี้สะบัดดาบออกมา เสียงกระทบกันกลางอากาศดังแกร๊งโมริตะคาวาสึบาเมะหลบอยู่ในที่มืดตลอดเวลา จ้องหาโอกาสจะเข้าไปชิงพิณ เดิมทียังเป็นห่วงว่าทุกคนจะได้รับผลกระทบจากเสียงพิณ โชคดีที่อินชิงเสวียนกอดพิณการเวกไว้แน่น และยังไม่บรรเลงออกมาในชั่วพริบตาก็เกิดการต่อสู้กันหลายสิบกระบวนท่าแม้ว่าเย่จิ่งอวี้มีวรยุทธ์ที่สูงส่ง แต่น่าเสียดายที่เสือไม่อาจต้านทานฝูงหมาป่าได้ หลังจากนั้นสิบห้านาทีก็เผยให้เห็นความพ่ายแพ้“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าไปก่อน ปกป้องพิณการเวกให้ดี”เย่จิ่งอวี้หันกลับมาตะโกนบอก แขนเสื้อกลับถูกกรีดด้วยมีดสั้น มีเลือดไหลออกมา แขนเสื้อและข้อมือก็กลายเป็นสีแดงทันที“อาอวี้”อินชิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 847 ดาวนำโชค

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”เจ้าสำนักเซี่ยวนิสัยโผงผาง ไม่สนใจว่าแอบฟังอะไรจากด้านนอกได้บ้าง จึงเดินเข้ามาอย่างโจ่งแจ้งฉุยอวี้ได้ยินเสียงฝีเท้า คิดว่าเป็นเพียงลูกศิษย์ของสำนักกระบี่สังหาร ไม่คิดว่าผู้มาเยือนคือเจ้าสำนักเซี่ยวจึงประสานมือคำนับแล้วพูดว่า “เจ้าสำนักเซี่ยว สบายดีหรือไม่เจ้าคะ”สายตาของเจ้าสำนักเซี่ยวเหลือบมองฉุยอวี้ด้วยความเย็นชา และถามอย่างไม่เกรงใจว่า “เวลาดึกดื่นเช่นนี้ เจ้ามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด?”เฮ่ออวิ๋นทงรู้สึกอึดอัดอย่างอดไม่ได้ น้ำเสียงที่ใช่ถามของเหล่าเซี่ยว ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกคนจับผิดเรื่องศีลธรรมอย่างน่าประหลาดรู้จักกันมานานหลายปี เขารู้จักนิสัยของเจ้าสำนักเซี่ยวเป็นอย่างดี หากตัวเองพูดอะไรออกไปในตอนนี้ จะยิ่งทำให้เหล่าเซี่ยวโกรธมากกว่าเดิม จึงหยิบแก้วขึ้นมาและค่อยๆ ดื่มชาฉุยอวี้กระแอมไอและพูดว่า “ข้ามาที่นี่ก็เพื่อเจรจาเรื่องการโจมตีตงหลิว”เจ้าสำนักเซี่ยวฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโหว่า “ฉุยอวี้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนหูหนวกงั้นหรือ เจ้าคิดอย่างไร คิดว่าข้าไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้งั้นหรือ หากเข้ากล้าแย่งโจมตีคนของตงหลิวจากมือของข้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 848 คำเสียดสีเฟิงเอ้อร์เหนียง

เมื่อได้ยินเฮ่ออวิ๋นทงกล่าวชมเชยอินชิงเสวียนเช่นนี้ ในที่สุดใบหน้าของเจ้าสำนักเซี่ยวก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อยถามเสียงเรียบว่า “ฉุยอวี้มาที่นี่ มีเรื่องอะไรกันแน่?”เฮ่ออวิ๋นทงรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องถาม“เหล่าเซี่ยวเคยได้ยินตำหนักเทพหอทองคำหรือไม่?”เจ้าสำนักเซี่ยวเลิกคิ้วยาวที่ขาวโพลนของเขา“ตำหนักเทพหอทองคำและเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง เรียกได้ว่าเป็นสองสำนักอมตะที่ซ่อนตัวอยู่ นอกจากนี้ยังถือได้ว่าเป็นการมีอยู่ที่ลึกลับที่สุดในโลก ข่าวลือเล่าว่าทั้งสองแห่งมีหอตำรามากมายนับไม่ถ้วน ส่วนมากเป็นเคล็ดวิชาการต่อสู้ เป็นสถานที่ที่ชาวยุทธจักรจำนวนมากใฝ่ฝันหา แต่ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับฉุยอวี้?”เจ้าสำนักเฮ่อลูบเคราแล้วพูดว่า “สถานที่ที่นางเชิญข้าไปก็คือตำหนักเทพหอทองคำ”“หา? นางรู้จักที่นี่ด้วยงั้นหรือ?”เจ้าสำนักเซี่ยวถามด้วยความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเจ้าสำนักเฮ่อพูดหัวเราะเยาะว่า “ท่านคงไม่มีความสนใจต่อที่แห่งนี้หรอกนะ?”เจ้าสำนักเซี่ยวทำเสียงฮึดฮัดและพูดว่า “ข้าอายุมากขนาดนี้แล้ว ไม่มีใจที่จะแก่งแย่งชิงดีกับใครหรอก การมาที่เป่ยไห่ สิ่งเดียวที่ข้าต้องการคือการทำลายพวกผีแคระตง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 849 มื้อดึกในมิติ

ขณะนั้นเอง เย่จิ่งอวี้ได้นำอินชิงเสวียนกลับมายังหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เดิมทีอินชิงเสวียนต้องการไปดูเป่าเล่อเอ่อร์ แต่ไฟในห้องถูกดับแล้วเย่จิ่งอวี้จึงพูดเสียงเบาว่า “วันนี้ไม่ต้องไปรบกวนพวกเขาแล้ว การเดินทางที่แสนยาวนาน พวกเขาคงเพลียแย่แล้ว”หนอนกู่ของเป่าเล่อเอ่อร์เพิ่งถูกกำจัด นางจะเป็นต้องพักผ่อนให้มาก เมื่อคิดได้เช่นนี้อินชิงเสวียนก็พยักหน้า“เพคะ พวกเราไปพักผ่อนในมิติดีกว่า”เย่จิ่งอวี้ยิ้ม“ดีเลย”ทันทีที่อินชิงเสวียนคิดภาพ ทั้งสองก็ปรากฏตัวอยู่ด้านในมิติ“อาอวี้เจ็บแผลอยู่หรือไม่?”“แผลภายนอกไม่มีอะไรหรอก ล้างด้วยน้ำพุวิญญาณก็ดีขึ้นมากแล้ว”เย่จิ่งอวี้ปลดผ้าพันแผลสีขาวบนแขนเสื้อออก ปรากฏว่าบาดแผลตกสะเก็ดเรียบร้อยแล้วอินชิงเสวียนจึงวางใจลง เมื่อเห็นว่าพืชผลในมิติเติบโตเต็มที่แล้ว จึงทำการหว่านและเก็บเกี่ยว และเมล็ดพืชก็ถูกบดเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเย่จิ่งอวี้เพิ่งเคยเห็นอินชิงเสวียนเก็บเกี่ยวมิติเป็นครั้งแรก เมื่อเห็นว่าผลไม้ทั้งหมดร่วงหล่อลงมาเอง และถูกวางไว้ข้างๆ อย่างเป็นระเบียบ เปลือกข้าวสาลีก็ถูกแยกและบรรจุถุงด้วยตัวเอง เขาอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างด้ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 850 ปลอบโยน

เจ้าสำนักเซี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงที่คล้ายระฆังใหญ่ “ไม่ต้องพิธีรีตอง”อินชิงเสวียนยืดตัวตรง และพูดแนะนำพวกเขาเหล่านี้ “นี่คือท่านพี่ของข้าอินสิงอวิ๋น และพี่สะใภ้ของข้าเป่าเล่อเอ่อร์ ทั้งสองท่านนี้ก็คือเจ้าสำนักเซี่ยวและผู้คุมตราเซี่ยวของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ และเป็นท่านแม่ผู้ให้กำเนิดฝ่าบาท”อินสิงอวิ๋นตกใจเป็นอย่างมากหลายปีก่อนหวนไท่เฟยป่วยจนสิ้นพระชนม์ เรื่องนี้ทุกคนต่างทราบกันเป็นอย่างดี ไม่คิดว่าตอนนี้นางยังนั่งอยู่ที่นี่อย่างสบายดี และยังเป็นผู้คุมตราของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เมื่อเห็นว่าอินสิงอวิ๋นยืนนิ่งไม่ขยับ เป่าเล่อเอ่อร์จึงดึงแขนเสื้อของเขาเบาๆอินสิงอวิ๋นได้สติกลับมาทันที และพูดอย่างเคารพว่า “อินสิงอวิ๋นและภรรยาขอคำนับเจ้าสำนักเซี่ยว คำนับไท่เฟย ขอบคุณผู้อาวุโสทั้งสองที่เมตตาและช่วยชีวิตเอาไว้”เซี่ยวอิ๋นหวนยิ้มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“ไม่ต้องเกรงใจ ผู้ที่ช่วยเจ้าไม่ใช่ข้า แต่เป็นเสวียนเอ๋อร์”เจ้าสำนักเซี่ยวพูดต่อว่า “ในเมื่อมาแล้วก็พักสักสองสามวันก่อน ดูขนบธรรมเนียมและประเพณีของที่นี่ก็ดีเช่นกัน สองวันนี้ไม่มีธุระอะไร ให้อาอวี้และเสวียนเอ๋อร์พาพวกเ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
8384858687
...
147
DMCA.com Protection Status