อินชิงเสวียนเดินออกจากบ้านอย่างอาลัยอาวรณ์ เสี่ยวหนานเฟิงไปเล่นลูกสุนัขที่ทำจากฟางกับชายผมขาวแล้ว และมีเสียงหัวเราะดังออกมาไม่หยุดเมื่อได้ยินเสียงของเสี่ยวหนานเฟิงราวกับเสียงกระดิ่งเงิน อินชิงเสวียนก็รู้สึกหดหู่อย่างอดไม่ได้ลูกคนนี้สนิทสนมกับเขาเร็วเกินไปแล้วหรือไม่ หากเป็นเช่นนี้ ใครก็ลักพาตัวเขาไปได้ง่ายอย่างนั้นหรือ?ทว่ามันก็ทำให้ความโศกเศร้าเจือจางลงเช่นกัน หากว่าเสี่ยวหนานเฟิงร้องไห้งอแงไม่ให้นางไป ไม่แน่ว่านางอาจอยู่ต่อในตอนนี้เลยสีหน้าของเย่จิ่งอวี้ก็ดูไม่ดีมากนักภายใต้แสงจันทร์ เดิมทีรูปเส้นของใบหน้านั่นก็เด่นชัดอยู่แล้ว กลับยิ่งคมชัดมากขึ้น ริมฝีปากบางสองด้านประกบเข้าหากันแน่นอินชิงเสวียนเหลือบมองเขา และเดินเคียงข้างเขาพร้อมกับหนิงซวง“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นห่วง แค่การเรียนศิลปะการเล่นพิณเพียงเจ็ดวัน มันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว”เสียงที่นุ่มนวลดังขึ้นข้างกาย เย่จิ่งอวี้กลับยิ่งโทษตัวเอง“เพราะข้าไม่มีความสามารถ ไม่อาจปกป้องเจ้าและจ้าวเอ๋อร์ให้ดีได้”อินชิงเสวียนยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยและพูดว่า “ฝ่าบาทพูดเกินไปแล้วเพคะ การเรียนศิลปะการเล่นพิณกับท่านผู้อาวุโส ก็เป็นความต้อง
Read more