บททั้งหมดของ หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี: บทที่ 261 - บทที่ 270

514

บทที่ 261

“ท่านอ๋อง เชิญไปดูแม่นางซูก่อนเถิดเพคะ!"หยุนซีเอ่ยร้องขออีกครั้งในที่สุดเซียวเย่หลันก็ไม่อาจต้านทานคำร้องขอจากนางได้ จึงตอบตกลงไปว่า "คาดจะไปเดี๋ยวนี้”กล่าวจบเขาก็นึกถึงคำพูดของเสี่ยวตงสะท้อนขึ้นมาในใจหากพระชายาอ๋องจะแสร้งทำตัวน่าสงสารขี้ออดอ้อนเหมือนแม่นางซูบ้าง...เซียวเย่หลันขยี้ไปที่หัวคิ้ว แล้วกำจัดความคิดนี้ออกไปอวี้เออร์ไม่ได้แสร้งทำตัวน่าสงสารสักหน่อยนางถูกพิษจริง และพิษนี้เข้าไปในดวงตาของนาง จะไม่ให้นางร้องไห้ได้อย่างไรในตอนนั้นที่เขาแต่งงานกับเซี่ยเชียนฮวันเพราะไม่มีทางเลือก ทั้งยังให้เข้ามาเป็นพระชายาอ๋อง ถือว่าทำให้ซูอวี้เออร์ผิดหวังมากพอแล้ว หากตอนนี้รู้ว่าอาการของนางแย่ลงแต่กลับยืนกรานไปพบเซี่ยเชียนฮวัน ทนเห็นนางต้องเจ็บปวดรวดร้าวก็คงจะไม่ยุติธรรมเซียวเย่หลันเดินทางมายังเรือนจิ่นซิ่วด้วยอารมณ์เช่นนี้ ก่อนจะทำการปลอบโยนซูอวี้เออร์อยู่พักใหญ่จากนั้นกว่าเขาจะปลีกตัวออกมาได้แล้วกลับไปที่หอหลันเซียง กลับพบว่าที่นั่นไม่มีใครอยู่ !"เห็นพระชายาอ๋องหรือไม่?"เซียวเย่หลันเดินมาที่หน้าประตูใหญ่ พบเย่ซิ่นยืนอยู่ที่นั่นจึงรีบเอ่ยเย่ซิ่นหันกลับมาตอบด้วยความนอบ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 262

“ท่านกุ่ยอี่ แม่หนูนั่นได้รับความนิยมมากกว่าท่านเสียอีก"ชิวหมิ่นเดินไปหาชายผู้นั้นพร้อมกับอาหารเรียกน้ำย่อยแล้ววางมันลงอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะล้อเลียนขึ้นเสิ่นหรงยิ้มขึ้นเบาๆ "นี่เป็นเรื่องดี หากข้าต้องการหาผู้สืบทอด ข้าคงไม่อยากหาคนที่มีนิสัยแปลกๆ และสันโดษเช่นเดียวกับข้า""ที่แท้ท่านรู้ตัวว่าตนมีนิสัยแปลกหรือ ไม่ง่ายเลยจริงๆ " ชิวหมิ่นพึมพำออกมาเบาๆ ที่จริงแล้ว นิสัยของกุ่ยอีนางว่าก็ไม่ได้แปลกอะไรนัก แค่ไม่ปกติมีขุนนางชั้นสูงมากมายนำเงินมามอบให้เขาหลายล้านตะลึง แต่เขาไม่ย่างกายไปให้เห็นแม้แต่เงา ว่าในบางครั้งเจอกับขอทานข้างถนนที่กำลังใกล้ตาย พวกเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วแท้ๆ เพราะอยู่ไปก็มีแต่ความทุกข์ลำบาก แต่หมอคนนี้กลับยัดเยียดที่จะรักษาโรคให้หายถ้าไม่เรียกว่าแปลก แล้วนี่มันอะไรกัน?แต่ผู้ชายนิสัยเยี่ยงนี้กลับกลายเป็นกุ่ยอี ผู้ที่มีความสามารถล้นฟ้า ช่างเดาได้ยากเหลือเกิน"น่าเสียดาย แม่นางคนนี้โชคไม่ดีนัก”เสิ่นหรงลูบไปที่เคราของตน สายตาจ้องไปยังรถม้าของเซี่ยเชียนฮวันที่ขับเคลื่อนไกลออกไปชิวหมิ่นถามด้วยความสงสัย "โชคหรือ?""เห็นได้ชัดว่าโรคระบาดครั้งนี้มีคนทำขึ้น หา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 263

“ฮ่าๆ คิดว่าใครเสียอีก พระชายาอ๋องไม่ใช่หรือนี่”ท่านหญิงหยวนหลี่ไม่ได้แต่งกายหรูหราดูดีมีเครื่องประดับเช่นเมื่อก่อน นางไร้ซึ่งความรู้สึกเหมือนเป็นเทพธิดาลงมาจุติ บัดนี้มองดูแล้วช่างทรุดโทรมห่อเหี่ยว เป็นเพียงสตรีธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นนางหัวเราะขึ้นอย่างเยือกเย็น “ทำไมหรือ วันนี้เดินทางมาเพื่อตั้งใจเยาะเย้ยข้า? ขอบใจมากจริงๆ "เซี่ยเชียนฮวันส่ายหน้า "เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าแค่บังเอิญผ่านมาเจอเจ้า"“ไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไรก็ตาม เจ้าก็ได้เห็นสภาพของข้าเช่นนี้แล้ว เจ้าคงจะสะใจน่าดู มีความสุขมากสินะ"ท่านหญิงหยวนหลี่กำมือแน่น กัดริมฝีปากซีดเผือดแห้งผากของตนเซี่ยเชียนฮวันรู้ว่านางอธิบายไปเช่นไรนางก็คงไม่เชื่อ จึงเอ่ยว่า “แท้จริงแล้วเจ้ามีพรสวรรค์ด้านการแพทย์มากนัก เพียงแต่เดินทางผิดไป หากเจ้าออกไปถึงหยาโจวแล้วสงบอารมณ์ตั้งใจศึกษาทักษะการรักษา สร้างคุณงามความดีให้ประชาชนก็คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย""เจ้าไม่ต้องมาพูดจาปลอบโยนข้า! เซี่ยเชียนฮวัน แต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยคิดว่าข้าด้อยกว่าเจ้า รอดูเถอะ สักวันข้าจะรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง แล้วกลับมาแย่งฉายายอดหมอเทวดาของเจ้า!"แววตาของท่านหญิงหยวนห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 264

ห้องนี้ดูไม่เหมือนเป็นที่พักอาศัย เหมือนห้องเก็บฟืนเสียมากกว่าไม่มีโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะ เก้าอี้หรือเครื่องเรือนใดสักชิ้น ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงฉากกั้นอันงดงาม มีเพียงเตียงไม้เปล่าๆ วางไว้ไม่เพียงเท่านั้น บนเพดานเต็มไปด้วยใยแมงมุมและฝุ่น เมื่อผลักประตูเข้าไปฝุ่นมากมายร่วงหล่นลงมา“อะไรกัน สถานที่ทรุดโทรมเช่นนี้ ท่านภิกษุณี เหนียงเหนียงของเราเป็นถึงพระชายาอ๋อง จะให้อยู่ในห้องทรุดโทรมแบบนี้ได้อย่างไร!"เสี่ยวตงอดไม่ได้ที่จะบ่นขึ้นนางสามารถทนอยู่ได้ แต่นางไม่อาจทนเห็นเหนียงเหนียงต้องลำบากคิดไม่ถึงว่าภิกษุณีผู้นั้นจะตอบกลับอย่างเย็นชา “พระชายาอ๋องแล้วอย่างไรเล่า? สตรีที่อยู่ ณ ที่นี้ ใครบ้างเล่าที่ไม่ใช่สนมของฮ่องเต้องค์ก่อน แต่ทุกคนก็ล้วนมารวมกันที่นี่""แต่ว่า แต่ว่าบัดนี้เหนียงเหนียงของข้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ หากเป็นอะไรขึ้นมา ใครเล่าจะรับผิดชอบไหว!"เสี่ยวตงพูดขึ้นด้วยความโมโหแต่ภิกษุณีผู้นั้นหัวเราะขึ้นด้วยความเยือกเย็น "พวกเจ้าถูกส่งมาที่นี่ หมายความว่าเด็กในท้องคงไม่สำคัญต่อราชวงศ์นัก""“เจ้า..."เสี่ยวตงพูดไม่ออกแต่เซี่ยเชียนฮวันกลับสงบลงอย่างรวดเร็ว นางยอมรับความจริงนี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 265

เซี่ยเชียนฮวันมองไปยังหญิงวัยกลางคนแปลกหน้าผู้นี้ด้วยความตกตะลึงพบว่านางสวมชุดคลุมสีเทายาวเรียบง่าย ผมยาวถึงเอวดำขลับ มองออกว่ามีอายุแล้ว ท่าทีสง่างาม ตอนสาวๆ คงจะงดงามไม่น้อย“ท่านคือ..."เซี่ยเชียนฮวันลุกขึ้นยืนแม้นางจะไม่รู้จักสตรีคนตรงหน้า แต่ก็พอจะเดาได้ว่าตำแหน่งไม่ธรรมดา “ข้าแซ่หลิว ทุกคนล้วนเรียกข้าว่าหลิวไท่เฟย" สตรีผู้นั้นยิ้มขึ้น"เป็นหลิวไท่เฟยนี่เอง"เซี่ยเชียนฮวันพยักหน้าตอบรับในอารามแห่งนี้ล้วนเป็นสนมของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ไม่ช้าก็เร็วสักวันคงได้เจอกันทุกคน เพียงแต่นั่งคิดไม่ถึงว่าจะมีคนมา หานางถึงที่"ไท่เฟยอาจจะจำผิดไป ข้าแซ่เซี่ย มาจากจวนอันติ้งโหว หาได้แซ่มู่หรง" เซี่ยเชียนฮวันกล่าวขึ้นหลิวไท่เฟยหัวเราะ เดินเข้ามาจูงมือเซี่ยเชียนฮวันไว้ราวกับเป็นญาติผู้ใหญ่อาวุโสและตบไปที่หลังมือของนางเบาๆ “ไม่หรอก ข้าไม่ได้จำผิดไป บิดาของเจ้าคือหลานของมู่หลงไทเฮา และเจ้าก็คือหลานสาวของนาง ดังนั้นเจ้าจึงเป็นสตรีในตระกูลมู่หรง"เซี่ยเชียนฮวันจึงได้เข้าใจไทเฮาองค์ปัจจุบันแซ่มู่หรงและนี่ก็คือแซ่ของย่าทวดนางจู่ๆ เรียกนางเช่นนั้นจึงไม่ทันคิดได้"ในตอนนั้น ท่านและท่านป้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 266

"กรี๊ด..."เซี่ยเชียนฮวันส่งเสียงกรีดร้องออกมาสั้นๆ จากนั้นนางก็ลื่นล้มลงไปในหน้าผา!จากมุมนี้ บังเอิญมีกิ่งไม้สองสามกิ่งงอกขึ้นมาปิดบังเอาไว้ นางจึงมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนผลักนางตกลงมา!แม้ที่นี่จะไม่ใช่หน้าผาลึก แต่ก็มีความลาดชันมาก หากเซี่ยเชียนฮวันตกลงไปละก็คาดว่าคงจะรอดยากโชคดีเหลือเกินหลินซวี่กระโดดออกมากอดเซี่ยเชียนฮวันเอาไว้แน่น ใช้ปลายเท้าแตะไปยังหินที่ยื่นออกมา แล้วเอาร่างกายของตนเป็นเกราะกำบัง เพื่อไม่ให้เซี่ยเชียนฮวันได้รับอันตรายแต่ว่าตัวเขากลับบาดเจ็บไม่น้อยเซี่ยเชียนฮวันล้มลงมากระแทกเขาด้วยเต็มแรงอีกทั้งเขายังกระแทกเข้ากับหินข้างล่างหน้าผาหลายทีทำให้องครักษ์ลับตัวน้อยคนนี้ที่ไม่เคยเอ่ยปากพูด ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ซึ่งเซี่ยเชียนฮวันก็ได้ยินมันทั้งสองคนกลิ้งลงมาถึงสุดหน้าผาแล้ว ในที่สุดเซี่ยเชียนฮวันก็ปลอดภัย นางรีบลุกขึ้นตรวจดูอาการของหลินซวี่แย่แล้ว...ที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บมีเลือดออก กระดูกซี่โครงหักหลายซี่ ร่างกายฟกช้ำ ดูเหมือนอาจเดินไม่ได้ด้วยอาการค่อนข้างจะรุนแรง“พระชายาอ๋องไม่ต้องสนใจข้าน้อย ได้โปรดเดินตามถ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 267

"พระชายาอ๋องพ่ะย่ะค่ะ รีบหาที่ซ่อนเร็ว..."หลินซวี่ได้ยินเสียงหอนของหมาป่าดังนั้นก็ตั้งใจจะเข้ามากันเซี่ยเชียนฮวันให้อยู่ข้างหลังตน แต่บัดนี้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บมาก เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ปวดร้าวอย่างรุนแรงจนไม่อาจขยับได้เซี่ยเชียนฮวันรีบปลอบใจเขาว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นกังวลไป สัตว์ป่าเหล่านั้นเพียงคำรามอยู่รอบๆ มันอาจไม่กล้าเข้ามา”"หาได้เป็นดังนั้นพ่ะย่ะค่ะ พวกมันจะตามกลิ่นเลือดมายังที่นี่” ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของหลินซวี่ดูจริงจังมากในขณะนี้ “ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้าน้อย หากไม่รีบไปก็คงไม่ทันแล้ว"“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เราหาที่หลบป้องกันภัยก่อนดีกว่า" เซี่ยเชียนฮวันไม่เคยคิดที่จะทิ้งองครักษ์ตัวน้อยนี้เอาไว้เลยนางพยุงหลินซวี่ขึ้นมาแล้วเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามอย่างช้าๆ ทีละก้าว"ข้าน้อยต้องทำบุญมามากมายเพียงไรกัน... จึงทำให้พระชายาอ๋องใส่ใจข้าน้อยเช่นนี้"ใบหน้าของหลินสีแดงเรื่อ เซี่ยเชียนฮวันพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เจ้าคอยปกป้องข้าอย่างลับๆ เป็นเวลาเนิ่นนาน จะว่าไปแล้วข้าต่างหากที่ควรขอบคุณ เพราะเจ้าเอาใจใส่ดูแลข้ามากเหลือเกิน""นั่นเป็นเพราะคำสั่งของท่านอ๋อง..
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 268

“ฟ่อๆ ..."ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนตัวออกมาจากสระน้ำลึก ใกล้เข้ามาทางเซี่ยเชียนฮวันกับหลินซวี่"เป็นงูใหญ่" หลินซวี่ใบหน้าซีดเผือด เขาพยายามเอื้อมมือออกไปคลำเพื่อต้องการปกป้องเซี่ยเชียนฮวันไว้ข้างหลัง “พระชายาอ๋องรีบไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะคอยกันมันเอาไว้เอง"“ไม่ได้ บัดนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บอยู่"แน่นอนว่าเซี่ยเชียนฮวันไม่ยอมไปหลินซวี่รีบร้อนใจขึ้นทันที เขาใช้แรงคิดจะผลักเซี่ยเชียนฮวันออกไป "หน้าที่ของข้าน้อยคือปกป้องคุ้มกันท่านเอาไว้ ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ขึ้นเขาลงห้วย ก็จะไม่ปล่อยให้ท่านได้พบกับอันตราย!"เขาเอื้อมมือออกไปผลักร่างของเซี่ยเชียนฮวัน จากนั้นร่างเขาก็ชะงักลงด้วยใบหน้าอันแดงเรื่อบัดนี้เซี่ยเชียนฮวันดูสงบเงียบกว่าเขาเสียอีก“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเช่นนั้น งูถือว่าเป็นสัตว์เลือดเย็น ตราบใดที่พวกมันไม่รู้สึกว่าถูกคุกคามจากเรา มันก็จะไม่โจมตีเรา”เซี่ยเชียนฮวันกดไปที่บ่าของหลินซวี่แล้วกระซิบพูดเมื่อได้ยินน้ำเสียงอันนุ่มนวลแต่ทรงพลังของนาง หลินซวี่ก็ค่อยๆ สงบลง เขากลั้นลมหายใจ พยายามไม่ส่งเสียงใดออกมาเพื่อรบกวนงูใหญ่ตัวนั้นเมื่อเสียงของงูดังมาใกล้เข้าม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 269

“พระชายาอ๋อง เจ้า...เจ้ากลับมาแล้วจริงหรือ?"แม่ชีที่กำลังกวาดลานเอ่ยถามอย่างเหลือเชื่อเซี่ยเชียนฮวันเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า "พวกเจ้าคิดว่าข้าตายแล้วหรือ""หลิวไท่เฟยบอกว่า ตอนที่เจ้ากำลังเดินเล่นบริเวณวัดถู่ตี้กง ไม่ทันระวังลื่นล้มลงไปในเหว ที่แห่งนั้นอันตรายยิ่งนัก ก้นเหวมีงูพิษสัตว์ดุร้ายมากมาย พวกเราจึงคิดว่าเจ้าไม่อาจกลับมาได้แล้ว” แม่ชีพูดแล้วส่ายหน้า"นั่นหมายความว่าข้าเป็นผู้มีบุญซึ่งพระพุทธเจ้าทรงคุ้มกัน" เซี่ยเชียนฮวันยิ้มขึ้นอย่างบางเบาเมื่อแม่ชีผู้นี้เอ่ยขึ้น เซี่ยเชียนฮวันก็เข้าใจได้ในทันที หลิวไท่เฟยคงไม่บอกกับคนอื่นว่านางเป็นคนผลักตนลงไปในเหว บอกเพียงแค่ว่าตนตกเหวเพื่อจะได้หลอกลวงผู้อื่นให้เชื่อภิกษุณีติงจิ้งที่นำทางเซี่ยเชียนฮวันเมื่อวานนี้ ได้ยินว่านางกลับมาแล้วจึงรีบเดินทางมาทันทีนางเห็นว่าเซี่ยเชียนฮวันสบายดี หัวใจตุ้มๆ ต่อมๆ ก็ผ่อนคลายลงแล้วกล่าวหลายครั้งว่า “อามิตตาพุทธ” คนที่ถูกส่งมา ณ ที่นี้ แม้จะกล่าวว่าเป็นคนที่ราชวงศ์ไม่ต้องการ แต่หากพวกนางเป็นอะไรขึ้นมา อารามจื่อเสียก็จะถูกลงโทษอย่างเคร่งครัดโดยฮ่องเต้“พระชายาอ๋อง เจ้าไม่คุ้นเคยกับทางที่นี่และยังก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 270

"ช่างเถิดพระชายาอ๋อง ข้าเดินทางจากไปก็ได้"ถึงอย่างไรหลินซวี่ก็เป็นชายหนุ่มเลือดร้อนคนหนึ่งเขาถูกสตรีกลุ่มนี้บีบบังคับ ทั้งยังมีผลกระทบต่อความบริสุทธิ์ของพระชายาอ๋อง บัดนี้เขาจึงไม่อาจทนได้เขาหยิบนกหวีดออกมา ยัดใส่มือเซี่ยเชียนฮวันแล้วกระซิบว่า "ข้าน้อยจะไปหาที่พักอาศัยตรงตีนเขา หากท่านพบอันตรายใด ได้โปรดเป่านกหวีดนี้ แล้วข้าน้อยจะรีบเดินทางมา""เสี่ยวหลินจื่อ"เซี่ยเชียนฮวันเห็นเขาเดินหันหลังจากไป ใช้ไม้เท้าพยุงร่างของตนลงภูเขา เดิมทีนางต้องการจะเอ่ยบางอย่างขึ้นแต่ก็ได้เงียบลงภิกษุณีติงจิ้งยกมือขึ้นโบกเบาๆ "เอาเถอะ ในเมื่อพระชายาอ๋องเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันเถอะ"ทุกคนแยกย้ายกันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเซี่ยเชียนฮวันหันหลังกลับมามองดูหลิวไท่เฟย พบว่าสตรีนางนี้เผยอมุมปากยิ้มขึ้นอย่างเยือกเย็น ก่อนจะเดินติดตามภิกษุณีติงจิ้งไปข้างหลัง ไม่ได้เอ่ย คำใดกับนางอีกสักประโยคเดียวถึงอย่างไรนางก็เคยเป็นสนมผู้ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนนางได้ต่อสู้แก่งแย่งกับสตรีในวังหลังมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี สำหรับเซี่ยเชียนฮวันแล้วยังอ่อนหัดนักเซี่ยเชียนฮวันถอน
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
2526272829
...
52
DMCA.com Protection Status