All Chapters of อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส: Chapter 2001 - Chapter 2010

2032 Chapters

บทที่ 2001

เซียวหลันยวนจนใจ "ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าจะรอเขาออกมา""ขอบคุณใต้ฝ่าพระบาทที่เข้าใจ"ซางจื่อแอบถอนใจโล่ง เหมือนคิดถึงอะไรได้อีก "จริงด้วย ใต้ฝ่าพระบาท เจ้าอารามยังคำนวณไว้อีกเรื่องหนึ่ง""เรื่องอะไร?""เจ้าอารามบอกว่า พระชายาของท่านวันนี้จะได้เจอกับคนที่พิเศษมากสำหรับนางคนหนึ่ง"เซียวหลันยวนหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยในสมองเขามีภาพถังอู๋เจวี้ยนปรากฏขึ้นมาทันทีนี่ควบคุมไม่อยู่แล้วจิรงๆ พอได้ยินคำนี้ของซางจื่อ เขา็คิดถึงชายคนนั้นขึ้นมาเดิมทีก็หึงหวงไปแล้ว ประโยคนี้เป็นเหมือนก้อนหินใหญ่อีกก้อนที่ขวางมาในใจเขาเขาเองก็ค่อนข้างเชื่อการคำนวณของเจ้าอารามด้วย แม้หลายเรื่องจะยังดูน่าสงสัย แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเชื่อและเพราะเชื่อ พอได้ยินคำนี้เขาจึงหันมาสนใจเขารู้สึกว่าในใจลนลานขึ้นมา หมุนตัวเดินกลับไปทันทีถ้าเจ้าอารามคำนวณคนแบบนี้ออกมา เช่นนั้นเขาไม่มีทางปรากฏตัวแค่ที่ลานหินยื่นแน่นอน คงจะเข้ามาพัวพันน่าดูแล้วการที่เขาขึ้นมาก่อน ก็เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพอดี...พอคิดถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็ใช้วิชาตัวเบาทันที ไปถึงด้านนอกอารามอย่างรวดเร็วราวกลุ่มควันพอยืนอยู่นอกประตูใหญ่ก็มองเห็นฟู่จาวหนิงรีบ
Read more

บทที่ 2002

"ข้าขอตัวก่อน อ๋องเจวี้ยน ไว้ว่างแล้วค่อยคุยกัน" ถังอู๋เจวี้ยนบอก เดินผ่านข้างตัวเซียวหลันยวนไปเซียวหลันยวนหรี่ตามองแผ่นหลังเขา กลิ่นอายเย็นชาลงมาจนตอนที่ถังอู๋เจวี้ยนเข้าประตูอารามโยวชิงไป เขาจึงคลายมือที่กดท้ายทอยฟู่จาวหนิงไว้ออกฟู่จาวหนิงถอยออกมาจากในอกของเขาทันที ถลึงตามองเขาเคืองๆ"เซียวหลันยวนท่านคิดจะให้ข้าขาดใจตายหรือไรกัน?"ตอนแรกสุดเขาไม่ได้เป็นแบบนี้นี่นา ทำไมจู่ๆ ก็มาทำตัวไร้เดียงสาแบบนี้?"ทำไมเจ้าถึงขึ้นเขามาพร้อมกับเขา?" เซียวหลันยวนถาม"ก็ไม่ใช่เพราะท่านขึ้นมาก่อนหรือไงกัน? ไม่อย่างนั้นเขาก็ขึ้นมาพร้อมพวกเราสองคนแล้ว" ฟู่จาวหนิงเน้นหนักคำว่า ‘เราสองคน’น่าขำซะจริงถ้าไม่ใช่เขาหนีมาก่อนคนเดียว จะเหลือนางไว้ให้ขึ้นมากับถังอู๋เจวี้ยนหรือไง? ตอนนี้ยังจะมาหึงหวงอะไรอีกเซียวหลันยวนมองถนนขึ้นเขาที่ทอดยาวขึ้นมา เดิมทีก่อนหน้านี้เวลาเขามาเองไม่เคยรู้สึกว่าเส้นทางนี้มันยาวมันไกลนักเลย แต่ว่าตอนนี้...ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้รู้สึกว่ายาวนานนัก เพราะรู้สึกว่าระยะทางแบบนี้ พอที่จะทำให้ถังอู๋เจวี้ยนคุยอะไรกับฟู่จาวหนิงได้มากมาย? สามารถทำให้พวกเขาเข้าใจกันและกันได้มากขึ้น?
Read more

บทที่ 2003

เซียวหลันยวนสูดลมหายใจลึก อธิบายขึ้นมา อยากจะบอกว่าตนเองทำเพื่อมาดูท่าทีของเจ้าอารามก่อน..."อายวน!"เสียงของฮูหยินเฉิงก็ตัดบทคำพูดเซียวหลันยวนเข้าพอดีพวกเขาหันกลับไปมอง ฮูหยินเฉิงกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมาถึงแล้ว"ท่านเข้าไปบอกกับเจ้าอารามก่อน ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็มาแล้วใช่ไหม? ให้เขาอย่าพูดว่าองค์หญิงใหญ่เหมาะสมกับท่านมากใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงย้อนถามไม่ใช่นะเขาไม่ได้คิดจะเอ่ยถึงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลยหญิงสาวคนอื่นไม่คู่ควรให้เขาเอ่ยถึงแม้แต่คำเดียวแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็มาถึงตรงหน้าพวกเขาแล้วปีนบันไดหินขึ้นมาพักหนึ่ง แม้เนินจะค่อนข้างราบเรียบ แต่สำหรับสตรีสูงศักดิ์ก็ถือว่าลำบากอยู่พอควรดังนั้นบนใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้จึงมีหยดเหงื่อบางๆ ขมับชื้นเล็กน้อย ใบหน้าแดงระเรื่อ ลมหายใจหอบถี่นางยืนอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"อ๋องเจวี้ยน ท่านพบกับเจ้าอารามแล้วหรือยัง? ข้าอยากจะถามว่าเจ้าอารามมีนิสัยอย่างไร จะได้ไม่พูดอะไรที่ท่านผู้เฒ่าผู้แก่ไม่ชอบออกมา"คำถามนี้ อยู่กับฮูหยินเฉิงมาตลอดทาง ไม่ได้ถามนางหรอกรึ?ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากขำไม่รู้ว่านางเข้าใจผิดหรือเปล่า
Read more

บทที่ 2004

นั่นเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดมากพอก้าวเข้ามาก็รู้สึกโปร่งสบาย ราวกับลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านใบหน้า สติจิตใจก็เหมือนเปลี่ยนไปในชั่วพริบตาฟู่จาวหนิงมองไปรอบๆ พบว่าในอารามนี้ปลูกต้นต้นเหมยไว้หลายต้นต้นเหมยเหล่านี้ทุกต้นเหมือนถูกประดับไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของพวกมัน ทำตอนที่คนมองไปยังมุมพวกนั้นจึงรู้สึกดูดีผิดปกติ ราวกับเป็นภาพวาดก็มิปาน"รู้สึกว่าที่นี่แปลกหน่อยๆ ใช่ไหม?"ฮูหยินเฉิงถามขึ้น ฟู่จาวหนิงมองไป ก็พบว่านางกำลังพูดกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"อารามโยวชิงนี้เจ้าอารามวาดแปลนขึ้นเองแล้วปรับสร้าง ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็มีอยู่ แต่ว่าเล็กและทรุดโทรมไปหน่อย หลังจากเจ้าอารามเข้ามาก็ปรับแก้ทีละนิดทีละน้อย ย้ายกำแพงตรงนี้ สร้างบันไดหินตรงนั้น ที่นี่วางเสาเพิ่มสองต้น ตรงนั้นปลูกต้นไม้เพิ่ม""เหล่านี้ ล้วนเป็นเขาที่ทำให้อารามโยวชิงเปลี่ยนมาเป็นแบบปัจจุบันนี้ด้วยมือของตนเอง"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพอเข้ามาก็อดหลับตาลงสูดหายใจลึกไม่ได้ นางเองก็รู้สึกเหมือนฟู่จาวหนิงเดิมทีอารมณ์ที่กระวนกระวายไม่เป็นสุข รู้สึกสับสนอย่างมากต่ออนาคต แต่จังหวะที่ก้าวเข้ามา ความรู้สึกในใจนางก็โล่งสบาย เหมือนว่า
Read more

บทที่ 2005

อ๋องเจวี้ยนพักอยู่ที่หอเทาอวิ๋นด้านหลังอารามโยวชิง เป็นเรือนที่ไม่ใหญ่ไม่เล็ก เป็นเรือนสี่ห้องและมีลานสี่เหลี่ยมเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีสะพานทางเดินสั้นๆ ไม่กี่สิบก้าวเชื่อมที่นี่กับอารามโยวชิงอยู่ในอดีตตอนที่อ๋องเจวี้ยนเข้ามาพักที่นี่ ประตูสะพานทางเดินจะมีคนเฝ้าไว้ ไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนการพักฟื้นของเขาได้โดยง่ายพูดได้ว่า สิบกว่าปีที่นี่ในยอดเขาโยวชิงของเซียวหลันยวน มีความเงียบสงบมากจริงๆคนทั่วไปจะไม่ให้ข้ามไปยังหอเทาอวิ๋นเลยจุดนี้ฮูหยินเฉิงน่าจะรู้อยู่ แต่ตอนนี้นางเห็นชิงอีจะพาฟู่จาวหนิงไปยังหอเทาอวิ๋นอย่างชัดเจน จึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจหน่อยๆรู้สึกว่าการให้ฟู่จาวหนิงมาพักในหอเทาอวิ๋นเป็นกรณีพิเศษแบบนี้ เท่ากับยอมรับความสัมพันธ์ของนางกับเซียวหลันยวนในยอดเขาโยวชิงแห่งนี้แล้วนางเลยอดพูดขึ้นมาไม่ได้ "ให้องค์หญิงใหญ่เข้าไปดูด้วยสิ บนยอดเขาโยวชิงนี้ นอกจากหออู๋จิ้งที่เจ้าอารามอยู่แล้ว ก็มีหอเทาอวิ๋นนี่ล่ะที่อบอุ่นที่สุด องค์หญิงใหญ่เดินทางมานับพันลี้ พวกเราเองก็ต้องทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีสิ อายวนว่าใช่ไหม?"เซียวหลันยวนยังไม่พูดอะไร นางก็ต่อมาอีกคำหนึ่งว่า "จะว่าไป สถานที่อื่นเองก็ไม่มี
Read more

บทที่ 2006

จุดนี้อันที่จริงฮูหยินเฉิงเองก็รู้นางมองเซียวหลันยวน ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปหรือเปล่าเซียวหลันยวนบอกให้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปที่สวนเวยเซียง คงไม่ใช่ว่าเลือกสถานที่ที่ตนเองไปน้อยมากๆ ออกมาหรอกกระมัง?ยิ่งไปกว่านั้น นางเปิดปากขอดื่มชาแล้ว แต่เซียวหลันยวนก็ไม่ให้หน้ากันเลย ทำให้นางรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"สวนเวยเซียงข้ารู้จัก ถ้าอย่างนั้นข้าพาอาฝูไปเองได้ ไม่ต้องให้สือซานส่งหรอก" ฮูหยินเฉิงพูดออกมาแบบนี้ นางมองไปรอบๆ "เจ้าอารามน่าจะรู้ว่าพวกเจ้ามาวันนี้ ัดงนั้นวันนี้จึงไม่ให้คนนอกขึ้นเขามา ตอนนี้ถึงได้เงียบขนาดนี้"นางหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "อาฝู ไปกัน ข้าจะพาเจ้าชมรอบๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกัดริมฝีปาก กล้ำกลืนเดินไปกับฮูหยินเฉิง"พระชายา เชิญทางนี้" ชิงอีกระแอมขึ้นมายังต้องให้ท่านอ๋องเอ่ยปากจริงๆ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่รู้จะปฏิเสธกันอย่างไร"ไปเถอะ" ฟู่จาวหนิงเดินผ่านเซียวหลันยวนตามชิงอีไปเซียวหลันยวนถอนหายใจเบาๆ และเดินตามไปอย่างว่าง่ายผ่านสะพานทางเดินนั้นมา ก็เข้าถึงหอเทาอวิ๋น ตัวเรือนมีสองชั้น ด้านล้างมีสี่ห้อง ชั้นบนเป็นเหมือนศสาลา ว่างเปล่าไม่มีอะไ
Read more

บทที่ 2007

ของตกแต่งในห้องเรียบง่ายมากล้วนเป็นสีฟ้าคราม ดูสะอาดตามากทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้ดูยุ่งเหยิงเลยฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกสงสารเซียวหลันยวนขึ้นมา เป็นถึงองค์ชาย อายุไม่กี่ขวบก็ถูกส่งมายังสถานที่ห่างไกลเย็นเยียบแบบนี้ แล้วยังอยู่มาตั้งสิบกว่าปี"หนิงหนิง เข้ามาสิ"เซียวหลันยวนเรียกนาง ฟู่จาวหนิงจึงเดินเข้าไป"ดูสะอาดดีจริงๆ" นางยื่นมือลากเบาๆ บนโต๊ะ จากนั้นก็มองที่นิ้วมือ ไม่มีฝุ่นเลยแต่ก็จริง ยอดเขาสูงขนาดนี้ บวกกับมีหิมะอยู่ตลอด ไม่ค่อยจะมีฝุ่นเท่าไรนัก"น่าจะเพราะซางจื่อบางครั้งก็คอยเข้ามาปัดกวาด""ซางจื่อ?" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว "จะใช่สาวใช้ที่มีความคิดเป็นศัตรูกับข้าอีกคนหรือเปล่า? เซียวหลันยวน ข้าจะบอกท่านไว้นะ ข้าเริ่มหมดความอดทนแล้ว"ข้างกายนางถ้ามีคนแบบนี้กระโจนออกมาทำไม่ดีต่อหน้านางอีก มาเล่นแง่กับนางอีก นางก็จะไม่เกรงใจแล้วนะก่อนหน้านี้ที่นางไม่คิดเล็กคิดน้อยเพราะเห็นแก่หน้าเขา แต่ถ้าคนแบบนี้มีมากเกินไป หน้าของเขาก็ไม่พอรับไว้เหมือนกันนะ"ซางจื่ออายุไล่เลี่ยกับข้า เป็นทารกถูกทิ้งที่เจ้าอารามอุ้มกลับมาน่ะ ไม่ใช่สาวใช้ เป็นผู้ชาย"เซียวหลันยวนมองออกถึงอา
Read more

บทที่ 2008

ผ่านไปครู่หนึ่งฟู่จาวหนิงเลิกม่านเตียงออก เดนหาผ้าเช็ดมือไปทั่วหลังจากเช็ดเสร็จนางก็จัดระเบียบเสื้อผ้าตัวเอง ยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นไป๋หู่"ไป๋หู่ ยกน้ำเข้ามาหน่อย"เซียวหลันยวนนอนอยู่บนเตียง ตอนนี้ลมหายใจยังคงไม่สงบเขาเมื่อครู่เหมือนพุ่งขึ้นสวรรค์ อยู่ในแดนเซียนที่สวยงาม คิดไม่ถึงว่ามือของฟู่จาวหนิง...พอได้ยินฟู่จาวหนิงเรียกไป๋หู่ให้เอาน้ำเข้ามา เขาก็หัวเราะร่าขึ้น เพราะตอนที่ฟู่จาวหนิงพูดน้ำเสียงยังดูสงบมาก ฟังไม่ออกเลยว่านางเพิ่งทำเรื่องอะไรไปบางที เพราะเป็นหมอนางจึงดูสงบสติอารมณ์ได้มากหรือเปล่า?ไป๋หูนำน้ำเข้ามา วางไว้แล้วก็ออกไปฟู่จาวหนิงรีบล้างมือพอเห็นว่าบนเตียงยังไม่ขยับ นางก็เหลือบมองไป "ท่านยังไม่ลุกหรือ?""มันเกินจะบรรยาย ชวนฝันไม่รู้ลืม"เซียวหลันยวนตอบนางมาแบบนี้หลังม่านฟู่จาวหนิงเมื่อครู่เดิมทียังดีอยู่ ไม่ได้อายอะไร แต่พอได้ยินเขาถอนหายใจพูดความรู้สึกนี้มา นางกลับหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันที"น่าเกลียด"เอาเปรียบเขาแล้วยังจะทำสำออยคิดไม่ถึงว่าจะทำให้เขานอนจนลุกไม่ขึ้นอยู่นานเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงต่ำขึ้นมา ตอนนี้เขาอารมณ์ดีแล้ว ความหึงหวงที่พ
Read more

บทที่ 2009

ฟู่จาวหนิงมองออกไป เห็นชายหนุ่มร่างสูงสง่าคนหนึ่งนางรู้สึกว่า นี่น่าจะเป็นซางจื่อเพราะเขามีความสง่าราศีที่ยากจะบรรยาย บางทีอาจมีสาเหตุจากการเติบโตและอยู่เป็นเวลานานในสถานที่แห่งนี้"ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"เซียวหลันยวนพยักหน้า เขาสวมหน้ากากซางจื่อหันหน้ามองมาทางฟู่จาวหนิง คารวะให้เล็กน้อย"เชิญท่านอ๋องพาพระชายาไปด้วยกัน ฮูหยินเฉิงพาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปแล้ว""ได้"เซียวหลันยวนกวักมือมาทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงเดินออกมา"คนนี้คือซางจื่อหรือ?""ใช่แล้ว""ดูสง่าราศีดี" ฟู่จาวหนิงมองแผ่นหลังซางจื่อที่จากไป"อื๋อ?" เซียวหลันยวนบีบมือนาง "เจ้านี่จริงๆ เลย อย่าชมผู้ชายคนอื่นต่อหน้าข้านักได้ไหม""ก็แค่ชื่นชมเท่านั้นไม่ได้หรือ?""อืม ไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกลั้นขำ "ท่านเองก็พอเถอะ นี่ขนาดคนข้างกายเจ้าอารามก็ยังหึงเนี่ยนะ"แต่ว่า ฮูหยินเฉิงพาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไปหาเจ้าอารามแล้ว ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกว่าต้องรีบไป ไม่เช่นนั้นให้เจ้าอารามรอนานคงจะเสียมารยาท"เสี่ยวเยว่ ไป๋หู่ นำของขวัญติดไปด้วย"เซียวหลันยวนเห็นไป๋หู่กับเสี่ยวเยว่อุ้มกล่องไว้คนละใบ "เจ้าเตรียมของขวัญไว้สองชิ้นเลยหรือ?"
Read more

บทที่ 2010

พรวด เรื่องนี่ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดมากซางจื่อตอนนี้ก็รับศิษย์แล้ว อายุยังไม่เท่าไรเลยนี่ ยิ่งไปกว่านั้นพอมองสามคนนี้แล้ว ถ้าอยู่ภายนอกถือว่าเป็นยอดฝีมือได้เลย"ถ้าเป็นแบบนี้ วิชายุทธ์ของซางจื่อก็ยอดมากเลยสิ?" ฟู่จาวหนิงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา"อืม ดีมากเลยล่ะ"ชิงอีหันกลับมาเอ่ยคำหนึ่ง "แน่นอนว่ายังสู้ท่านอ๋องไม่ได้"ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้วนางไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่มองไปรอบๆ"ดูอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"ก่อนหน้านี้ถังอู๋เสวียนไม่ใช่เข้ามาแล้วหรอ? เขาไปไหนแล้วล่ะ?" ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะพูดว่า ถังอู๋เจวี้ยนเข้ามาแล้วพอได้ยินว่าเจ้าอารามปิดด่านจึงกลับไปแล้วหรือเปล่าความคิดต่อถังอู๋เจวี้ยนของนางตอนนี้ซับซ้อนมากแล้วยังอยากจะไปพิสูจน์ที่มาของเขาด้วย ว่าใช่เพื่อนออนไลน์ของนางหรือเปล่า ลุงที่เขาบอก จะมีตัวตนอยู่จริงไหม ยิ่งไปกว่นั้นตายไปในทะเลเพลงที่เมืองชายแดนจริงหรือเปล่าถ้าหากอาจารย์ที่นางกับผู้อาวุโสจี้อุปโลกขึ้นมา "ชน" กับลุงของถังอู๋เจวี้ยนเข้าจริงๆ เช่นนั้นนางก็พูดลำบากแล้วจริงๆแล้วอีกฝ่ายก็ดันถนัดวิชาแพทย์ขึ้นมาด้วยพอดีอีกแล้วญาติของเขาชิงถงนี่ ยังต้องยอมรับอยู่อีกไ
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status