เย่เฟยหลีพยักหน้าพลางยืนขึ้นเพื่อจะกลับเสื้อสีดำตัวใหญ่พลิ้วไหวในอากาศคลุมแผ่นหลังอันกว้างของเขาสุดท้ายสี่เชว่ก็ทนต่อไปไม่ไหวจึงตะโกนด้วยเสียงคร่ำครวญ “ท่านอ๋อง”เย่เฟยหลีหันกลับมาด้วยสีหน้าเฉยเมยพร้อมมองนางด้วยท่าทางไว้ตัวสี่เชว่กลั้นใจพูดออกมาว่า “บางครั้งคุณหนูก็ไม่ยอมบอกหม่อมฉันว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ แต่หม่อมฉันก็พอเดาได้เพคะ”“แม้วันนั้นนางจะบอกท่านอ๋องว่าต่อไปจะไม่รบกวนท่านอ๋องอีก แต่นางก็คงปล่อยท่านไปไม่ได้ นางมักจะซ่อนตัวร้องไห้อยู่ในที่ที่ไร้ผู้คนอยู่หลายครั้ง ทุกครั้งที่นางร้องไห้จนตาบวมนางก็จะบอกหม่อมฉันว่านางไม่เป็นอะไร หม่อมฉันกลัวว่าหากปลอบนางต่อไปก็จะทำให้คุณหนูต้องเสียใจอีก เมื่อคืนก็เป็นเพราะนางนั่งร้องไห้อยู่ที่ชิงช้าจนป่วยเพคะ” เย่เฟยหลีเหลือบมองชิงช้าพลางนึกถึงตอนที่เขายังเด็ก ไทเฮาทรงตอบรับคำขอของซุนจื่อซีตั้งชิงช้าแบบเดียวกันให้ แต่ซุนจื่อซีก็บังเอิญล้มลงมาขณะแกว่งชิงช้าอยู่ เลือดสด ๆ จากแขนและขาไหลลงพื้นไทเฮาทั้งกริ้วทั้งเสียพระทัยมากจนต้องรื้อชิงช้าออก ทำให้ซุนจื่อซีร้องไห้อยู่หลายครั้ง“ดูแลนางให้ดี” สายตาของเย่เฟยหลีที่คิดถึงวันวานไม่เย็นชาเหมือนก
Last Updated : 2024-06-17 Read more