All Chapters of ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: Chapter 461 - Chapter 470

1229 Chapters

บทที่ 461

ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่นแล้วเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “ท่านอ๋อง ท่านยังต้องถามอีกหรือ? แน่นอนว่าย่อมเป็นผู้ที่ท่านทะนุถนอมไว้กลางใจ!” “นอกจากนางแล้ว ยังจะเป็นผู้ใดอีกเล่า?” เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมา “อย่าได้พูดเรื่องเหลวไหลโดยไร้ซึ่งหลักฐาน!” ลั่วชิงยวนยิ้มเยาะ “ต่อให้มีหลักฐาน ท่านอ๋องก็คงไม่เชื่อกระมัง” “ยิ่งไปกว่านั้น ลำพังด้วยความสามารถของท่านอ๋องแล้ว การค้นหาหลักฐานและค้นหาตัวผู้ที่ปล่อยข่าวลือก็คงเป็นเรื่องยากกระมัง?” ฟู่เฉินหวนสามารถปกป้องลั่วเยวี่ยอิงได้ ต่อให้เขาจะล่วงรู้ถึงสิ่งที่นางทำ เขาก็มิได้จัดการกับนาง ลั่วชิงยวนทราบเรื่องนี้ดียิ่ง ฟู่เฉินหวนโมโหเสียจนหน้าตาซีดขาว เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นเพราะความสัมพันธ์อันเคลือบคลุมระหว่างนางกับฟู่อวิ๋นโจวจึงก่อให้เกิดเรื่องซุบซิบนินทามากมายปานนั้น เมื่อข่าวมาถึงราชสำนัก ขุนนางทั้งหลายต่างพากันกล่าวโทษเขาแล้วแนะนำให้เขาจัดการเรื่องส่วนตัวให้ดีเสียก่อนที่จะมาจัดการเรื่องบ้านเมือง เพราะเรื่องเสื่อมทรามที่ทำลายหน้าตาของราชวงศ์ พวกเขาจึงฉวยโอกาสนี้รวมหัวกันต่อต้านและกีดกันเขามิให้มีส่วนร่วมในเร
Read more

บทที่ 462

ฟู่เฉินหวนชะงักฝีเท้า “หม่อมฉันตกลงช่วยชีวิตเขาก็ได้” “แต่ท่านต้องให้หม่อมฉันรักษาเขาเอง!” นี่คือเงื่อนไขของนาง ยามนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงต่างล่วงรู้ว่าอัครเสนาบดีป่วยหนัก แม้แต่หมอหลวงก็อับจนหนทาง ทว่านางสามารถรักษาลั่วไห่ผิงได้ อย่างไรเสีย ลั่วไห่ผิงก็ยังดวงมิถึงฆาต คราวนี้ก็น่าจะยังมิตายหรอก แต่นางคงมิยอมให้ลั่วไห่ผิงหายเป็นปกติง่าย ๆ ขนาดนั้นหรอก นางจะทำให้เขาต้องทรมานด้วยความเจ็บปวดไปชั่วชีวิต! อีกอย่างนางก็ไม่ยอมยกผลงานของตนให้ผู้ใดแน่ เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยิน เขาก็กำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว เพื่อฟู่อวิ๋นโจวแล้ว นางถึงกับตอบรับเงื่อนไขที่จะช่วยชีวิตลั่วไห่ผิง หากนางบอกว่ามิได้รักใคร่ไยดีในตัวฟู่อวิ๋นโจว ผู้ใดจะเชื่อกันเล่า? รอยยิ้มเยียบเย็นผุดขึ้นบนเครื่องหน้าอันเด่นชัดของฟู่เฉินหวน จากนั้นน้ำเสียงเย็นชาก็ค่อย ๆ ดังขึ้นว่า “หากเจ้ายอมตอบตกลงช่วยชีวิตลั่วไห่ผิงเพื่อช่วยชีวิตฟู่อวิ๋นโจว ดูเหมือนว่าท่านมหาราชครูก็หาได้สลักสำคัญกับเจ้าเท่ากับฟู่อวิ๋นโจวนักหรอก” “ข้าคิดว่าหามีสิ่งใดสั่นคลอนจิตใจที่จะสังหารลั่วไห่ผิงของเจ้าได้ไม่เสียอีก ดังนั้นข้าจึงรู้สึกชื่นชมว่ามิเสียแรงที
Read more

บทที่ 463

“ใช่” ฟู่เฉินหวนมิได้ปิดบังสิ่งใด ทว่าเมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเช่นนี้เข้า นางกลับร้อนใจมากเสียจนคว้าแขนเสื้อของฟู่เฉินหวนเอาไว้ “ท่านอ๋อง จักทำเช่นนี้ได้อย่างไรเพคะ!” “ท่านกับหม่อมฉันต่างรู้ดีว่าท่านพี่เกลียดชังท่านพ่อของหม่อมฉัน หากนางทำร้ายท่านพ่อขึ้นมาจักทำเช่นไรเพคะ?" “ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนั้นมิได้นะเพคะ!” ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางมองดวงตาแดงก่ำของลั่วเยวี่ยอิงที่ราวกับจวนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ จนเขาเกือบจะตกปากรับคำนางไปแล้ว ทว่าเหตุผลทำให้เขาต้องระงับตนเองพลางตอบว่า “ข้าจักคอยดูมิให้นางทำร้ายท่านอัครเสนาบดี ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่นางเองก็เป็นบุตรีคนหนึ่งของท่านอัครเสนาบดีเช่นกัน” “ท่านอ๋อง!” ลั่วเยวี่ยอิงขวางลั่วชิงยวนเอาไว้ด้วยท่าทีร้อนรนกังวลใจ ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วแล้วมองฟู่เฉินหวน “หากมิต้องการให้ข้าตรวจดูก็ช่างเถอะ เช่นนั้นข้าก็จักกลับแล้ว” หลังจากนางพูดจบก็หันหลังเดินจากไป ไหน ๆ นางก็ไม่เต็มใจที่จะรักษาลั่วไห่ผิงมาตั้งแต่แรกแล้ว ฟู่เฉินหวนคว้ามือนางเอาไว้ ทว่ายามนี้หมอหลวงทั้งหลายต่างกำลังเฝ้ามองดูอยู่ ฟู่เฉินหวนไม่อาจพูดจารุนแรงจึงได้แต่เอ่ยกระซิบว่า “เจ้าตกลง
Read more

บทที่ 464

หมอหลวงเองก็รีบวิ่งเข้ามาในห้อง “อ๊ะ เขากระอักโลหิตเสียแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอาการเช่นนั้นมาก่อนเลย” ทุกคนก้าวเข้ามาตรวจอาการของลั่วไห่ผิงด้วยท่าทีร้อนใจยิ่ง ลั่วเยวี่ยอิงที่ตกอยู่ท่ามกลางความสิ้นหวัง ออกแรงผลักลั่วชิงยวนแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดว่า “เจ้ามันสตรีใจอำมหิต ท่านเป็นบิดาของเจ้านะ! ไฉน! ไฉนเจ้าต้องทำเช่นนี้ด้วย?” ลั่วเยวี่ยอิงโมโหเสียจนหน้าตาเหยเก ดูเหมือนว่านางพร้อมจะฉีกทึ้งลั่วชิงยวนให้เป็นชิ้น ๆ แล้ว หลังจากลั่วชิงยวนโดนอีกฝ่ายผลักอย่างแรงจนซวนเซถอยหลังไปหลายก้าว ลั่วชิงยวนก็ปัดมือของอีกฝ่ายออกอย่างหมดความอดทน โดยไม่คิดจะอธิบายสักนิด บัดนี้เอง หมอหลวงที่เป็นกังวลเรื่องอาการของลั่วไห่ผิงก็ร้องอุทานออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า “ชีพจรเช่นนี้มิดีแล้ว!” “เขาหายใจเร็วเสียแล้ว หากมิสามารถควบคุมการหายใจได้ มีความเป็นไปได้มากว่า…” “อาการของอัครเสนาบดีเข้าขั้นวิกฤตแล้ว!” หมอหลวงเอาแต่พูดคุยกัน เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ อาการป่วยของลั่วไห่ผิงก็วิกฤตขึ้นมาราวกับว่าเขาควบคุมมิได้อีกแล้ว พวกเขาต่างก็ร้อนใจขึ้นมา เกรงว่าวันนี้เขาคงไม่รอดแล้ว ตอนนี้ฟู่เฉินหวนเองก็มอง
Read more

บทที่ 465

ในยามนี้เอง หลังจากลั่วเยวี่ยอิงได้ยินวาจาเหล่านี้ก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ “ลั่วชิงยวน เจ้าทำเกินไปแล้ว!” นางรู้สึกตื่นตระหนกมากเสียจนอยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่กลับถูกฟู่เฉินหวนรั้งแผ่นหลังเอาไว้ ลั่วชิงยวนหยิบเข็มเงินแล้วฝังให้ลั่วไห่ผิงด้วยความเชี่ยวชาญ หามีหมอหลวงคนใดกล้าเดินเข้ามาอีกไม่ อย่างไรเสีย หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นกับท่านอัครเสนาบดี พวกเขาคงแบกรับมิไหวเป็นแน่ พวกเขาจึงได้แต่จับตามองทุกความเคลื่อนไหวของลั่วชิงยวน ทว่าสิ่งที่สร้างความตกตะลึงให้แก่พวกเขาก็คือ การที่ลมหายใจของลั่วไห่ผิงค่อย ๆ สงบลงทีละนิด มิได้เร็วเท่าก่อนหน้านี้อีกแล้ว เห็นได้ว่าหน้าอกที่สะท้อนขึ้นลงสม่ำเสมอแล้ว หมอหลวงต่างตกตะลึง หลังจากลั่วชิงยวนฝังเข็มเสร็จสิ้น นางก็ถอนเข็มเงินออกมาแล้วหยิบโอสถเสริมลมปราณออกมาจากล่วมยามาป้อนให้ลั่วไห่ผิงกิน หลังจากนั้นสักพัก สีหน้าของลั่วไห่ผิงกลับมีเลือดฝาด มิได้ซีดขาวเช่นก่อนหน้านี้อีก ลั่วชิงยวนเอ่ยเสริมขึ้นมาว่า “เดี๋ยวข้าจะเขียนเทียบโอสถให้ เพียงแต่ต้องใช้เครื่องยาสมุนไพรทั่วไปเพื่อบำรุงกำลัง กินสักสามวันเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง” “เขาคงฟื้นแล้วลุกขึ้นได้ภายในส
Read more

บทที่ 466

“ถึงเวลาปล่อยฟู่อวิ๋นโจวไปแล้ว”น้ำเสียงเย็นชาของลั่วชิงยวนทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกโกรธอีกครั้งดวงตาของเขามืดลงและพูดอย่างเย็นชา “ข้าเป็นคนรักษาคำพูดอยู่แล้ว”“เช่นนั้นก็ดี!” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชาและไม่มีความอบอุ่นใด ๆ ระหว่างทางกลับตำหนัก ทั้งคู่ต่างพากันเงียบ บรรยากาศอึดอัดไม่น้อยเมื่อมาถึงตำหนักอ๋อง ลั่วชิงยวนบอกให้ฟู่เฉินหวนปล่อยตัวเขาทันทีฟู่เฉินหวนไม่รอช้า และได้ปล่อยฟู่อวิ๋นโจวออกจากคุกน้ำทันทีลั่วชิงยวนไปยังเรือนทักษิณาหลังจากนั้นใบหน้าของฟู่อวิ๋นโจวทั้งซีดและดูซูบผอม เส้นผมที่เปียกโชกของเขาแนบแก้มและลำคอ เผยให้เห็นผิวขาวซีดอย่างคนป่วยลั่วชิงยวนรีบจับชีพจรของเขาอย่างรวดเร็วฟู่อวิ๋นโจวฟื้นคืนสติขึ้นมาด้วยความงุนงง และเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ชิงยวน ข้าเป็นภาระเจ้าอีกแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ครั้งนี้ท่านเป็นหวัด ดังนั้นโปรดรักษาตัวด้วยเพคะ หม่อมฉันจักสั่งยาให้ท่าน ขอให้ท่านพักผ่อนให้เต็มที่เถิดเพคะ”ขณะที่นางกำลังพูด จู่ ๆ หมอกู้ก็เดินเข้ามา“มิรบกวนพระชายา ข้าดูแลองค์ชายห้าเองขอรับ”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วและหันไปมองหมอกู้ “ในเมื่อหมอกู้เป็นหมอเทวดา ไฉน
Read more

บทที่ 467

“องค์ชาย หม่อมฉันจักพยายามโน้มน้าวแม่นางฝูเสวี่ยอย่างเต็มที่ แต่หม่อมฉันมิสามารถรับประกันได้ว่าแม่นางฝูเสวี่ยจักยอมรับปากเพคะ”ลั่วชิงยวนบังเอิญได้ยินการสนทนาของพวกเขาและอดไม่ได้ที่จะแอบตกใจ กับเรื่องนี้แล้วฟู่จิ่งหลีนับว่าหน้าใหญ่ใจโตไม่น้อยเลย“องค์ชายฟู่” ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยปากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของนาง ฟู่จิ่งหลีก็เงยหน้าขึ้น รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “นี่ ช่างบังเอิญนัก ท่านเซียนฉู่ก็มาที่นี่เพื่อดื่มด้วยงั้นรึ?”“กระหม่อมมาเพราะมีเรื่องจะถามองค์ชายฟู่พ่ะย่ะค่ะ” ลั่วชิงยวนกล่าวเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่จิ่งหลีก็โบกมือและขอให้เหล่าสตรีที่อยู่รอบตัวเขาออกไปก่อนแม่เล้าเฉินเองก็จากไปอย่างรู้งานเช่นกันลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้า และฟู่จิ่งหลีก็รินสุราให้นางหนึ่งแก้ว “ไม่ง่ายเลยที่จะได้พบกับท่านเซียนฉู่ที่นี่ มาดื่มกันหน่อยเถอะ”ลั่วชิงยวนปฏิเสธ “กระหม่อมดื่มมิเก่ง เพราะฉะนั้นกระหม่อมมิดื่มกับองค์ชายฟู่หรอกพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมมาที่นี่ครั้งนี้เพื่อถามองค์ชายฟู่ว่า ภาพวาดที่ถูกนำมาประมูลครั้งก่อนนั้นเป็นของสะสมตระกูลองค์ชายฟู่จริงหรือ?”“กระหม่อมได้ยินมาว่าภาพวาดนั้นสร้าง
Read more

บทที่ 468

ผู้มาเยือนคือสตรีในอาภรณ์และผ้าคลุมสีขาว นางดูมีอายุ แต่ชุดของนางบ่งบอกได้ถึงความไม่ธรรมดาและดูสูงส่งราวกับเทพธิดาตรงข้ามกับการแต่งกายของลั่วชิงยวนในขณะนี้อย่างสิ้นเชิงทันใดนั้นเสียงของลิ่นฝูเสวี่ยก็ดังขึ้น “ลี่เซียง!”ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อย และหลังจากพินิจมองอย่างถ้วนถี่ นางก็เห็นว่าสตรีผู้นี้คือลี่เซียงซึ่งเป็นนายหญิงคนปัจจุบันของหอเจาเซียง เป็นท่านอาฉินจริง ๆ ด้วยทุกคนในที่นี้ถูกท่านอาฉินดึงดูดและแอบซุบซิบกันอย่างไม่รู้ว่านางเป็นผู้ใดมาจากไหนจนกระทั่งร่างที่คุ้นเคยของหลีเถาติดตามนางไปแม่เล้าเฉินสะดุ้งและก้าวไปข้างหน้าทันที “วันนี้ คนจากหอเจาเซียงอย่างเจ้าคิดจักมาก่อปัญหางั้นรึ?”“พวกเจ้าขับไล่แม่นางฝูเสวี่ยผู้นี้มาด้วยตัวเอง ยามนี้เจ้ามายังหอฝูเสวี่ยของข้าเพื่อก่อปัญหา มิคิดว่าผิดจรรยาบรรณไปหน่อยหรือ?”แม่เล้าเฉินหัวเราะเยาะและดูประหลาดใดใบหน้าของท่านอาฉินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ดวงตาที่เฉียบคมของนางจ้องมองไปที่อาภรณ์สีแดงเพลิงบนเวทีโดยตรง ก่อนจะเอ่ยย่างเย็นชา “หอฝูเสวี่ยของพวกเจ้านี่มันอะไรกัน? กล้าขโมยชื่ออาจารย์ของข้าไปใช้ วันนี้ข้าย่อมต้องมาเปิดโปงพวกเจ้าอยู่แล้ว!”
Read more

บทที่ 469

คำพูดอันชอบธรรมของท่านอาฉินทำให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ในเวลานี้ ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เสียงที่ชัดเจนดังขึ้น ทำให้บริเวณโดยรอบเงียบลงทันที“ข้าชื่อฝูเสวี่ย แต่ข้ามิได้บอกว่าชื่อของข้าคือลิ่นฝูเสวี่ย ในฐานะผู้เป็นนายของหอเจาเซียง ท่านมาร่ายรำเทพเหมันต์ที่หอฝูเสวี่ยของข้า มิทราบว่าจุดประสงค์ของท่านคือสิ่งใดกัน?”“อีกอย่าง ข้าได้ยินมาว่าทุกคนในหอสมุทรมรกตประสบอุบัติเหตุในปีนั้น และไม่มีผู้ใดรอดแม้แต่คนเดียว จู่ ๆ ศิษย์ของลิ่นฝูเสวี่ยก็ปรากฏตัวขึ้น ข้าสงสัยยิ่งนักว่าท่านรอดมาได้เช่นไร?”“เหตุใดจึงเร้นกายไปเสียหลายปีเช่นนี้เล่า?”ลั่วชิงยวนถามคาดคั้น ทำให้ใบหน้าของท่านอาฉินซีดลงท่านอาฉินโต้กลับอย่างเย็นชา “ในปีนั้นหอสมุทรมรกตประสบเรื่องราวเช่นที่เจ้าว่าจริง ข้าโชคดีที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้เพียงผู้เดียว มันเป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตสำหรับข้า ข้าจึงเลือกปลีกวิเวกเร้นกายจากสังคม แปลกมากหรือไร?”“ข้าต้องอธิบายเรื่องนี้ให้เจ้าฟังด้วยรึ?”มุมปากของลั่วชิงยวนยกขึ้นด้วยความสนใจ “โอ้? เพราะความเจ็บปวด ท่านจึงหายตัวไปและกลายเป็นนายหญิงหอเจาเซียงเช่นนั้นรึ?”“ทุกคน
Read more

บทที่ 470

เป็นไปได้อย่างไร?!ใต้หล้านี้ นอกจากลิ่นฝูเสวี่ยแล้วจะยังมีผู้ใดที่สามารถแสดงรำเทพที่สมบูรณ์ได้อีกหรือ?!แม้แต่ตัวนางเองก็ได้เรียนรู้ไปเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น!เป็นลิ่นฝูเสวี่ยที่กลับมาจากความตายหรืออย่างไร? เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!การแสดงจบลงแล้วภายในโถงกว้างเงียบราวกับสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่นได้เกิดความเงียบขึ้นครู่หนึ่งก่อนที่จะมีเสียงปรบมือดังกึกก้องดังขึ้นตามมา“งดงามยิ่ง! นี่สิ รำเทพเหมันต์ของจริง!”แม้แต่ฟู่จิ่งหลีก็ลุกขึ้นจากที่นั่งของตนอย่างมีความสุขไม่น้อย ก่อนเอ่ยอย่างฝีปากกล้า “แม่นางฝูเสวี่ยเก่งกาจสมคำร่ำลือจริง ๆ! ข้ายังชมการร่ายรำไม่จุใจเลย ข้าจักขอถามแม่นางฝูเสวี่ยว่าจะสามารถร่ายรำอีกสองสามครั้งได้หรือไม่?”“วันนี้ ข้าจะดูแลเรื่องเครื่องดื่มและของว่างทั้งหมดในหอฝูเสวี่ยเอง!”ท่าทางใจป้ำเช่นนี้ทำให้เกิดเสียงโห่ร้องอย่างตื่นเต้นเร้าใจในหอฝูเสวี่ยแม่เล้าเฉินมีความสุขมาก “เพคะ หม่อมฉันขอบพระทัยองค์ชายเจ็ดแล้ว!”ฟู่จิ่งหานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในขณะที่เขานั่งอยู่บนที่นั่งของเขา กวักมือเรียกเครื่องเคียงและสุราดี ๆ “องค์ชายเจ็ดผู้นี้เอื้อเฟื้อนัก หากข้าม
Read more
PREV
1
...
4546474849
...
123
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status