บททั้งหมดของ ลูกเขยฟ้าประทาน: บทที่ 221 - บทที่ 230

1455

บทที่ 221

มันจะเป็นไปได้อย่างไร? คนไร้ประโยชน์อย่างเขาน่ะหรือจะได้รับคำเชิญจากเทียนฉางเฉิง นอกจากดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตกเท่านั้นแหละ พวกเขาออกจากคฤหาสน์ของตระกูลซูแล้วกลับไปที่โครงการคฤหาสน์เขาหยุนติง ที่ประตูใหญ่ รถของหานซานเฉียนกลับถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกั้นไว้ “เกิดอะไรขึ้น? คนพวกนี้ไม่รู้เหรอว่าพวกเราอาศัยอยู่คฤหาสน์บนเนินเขา?” เจี่ยงหลานบ่นด่าอยู่ในรถ รถได้รับการลงทะเบียนแล้ว ต่อให้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนใหม่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ ฝ่ายนิติบุคคลไม่มีทางยอมให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้ หานซานเฉียนลงจากรถด้วยความงุนงง เห็นเทียนหลิงเอ๋อร์นั่งอยู่ในป้อมยาม เธอไม่ได้มาดีแน่ สงสัยสิ่งที่เจี่ยงหลานพูดเมื่อวานน่าจะลอยไปเข้าหูองค์หญิงท่านนี้เข้าให้แล้ว หานซานเฉียนเดินขึ้นเขาไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนทำตามความต้องการของเทียนหลิงเอ๋อร์ พวกเขากระชากประตูรถให้เปิดออก แล้วดึงซูกั๋วเย่ากับเจี่ยงหลานลงจากรถ “พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นเจ้าของคฤหาสน์บนเนินเขา?” เจี่ยงหลานพูดพร้อมกับดิ้นรนขัดขืน ซูหยิงเซี่ยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอจึงลงจาก
Read More

บทที่ 222

“ต้องแรงจนฉันพอใจ เธอจะได้ไม่ต้องทรมานมาก คุณตั้งใจดี ๆ ล่ะ” เทียนหลิงเอ๋อร์เตือนซูกั๋วเย่า เจี่ยงหลานหลับตาลง นี่เป็นครั้งแรกที่เต็มใจยอมให้ซูกั๋วเย่าทุบตีจึงพูดว่า “ซูกั๋วเย่า ถ้าคุณกล้าปล่อยให้ฉันถูกตีเป็นครั้งที่สอง ฉันจะไม่ยกโทษให้คุณ” ซูกั๋วเย่ากัดฟันกรอด หลายปีที่ผานมา ถ้าจะบอกว่าเขาไม่รู้สึกคับข้องในหัวใจเลยคงเป็นไปไม่ได้ เขาถูกผู้หญิงคนนี้กดขี่ แม้ว่าจะยอมทิ้งศักดิ์ศรีไปแล้ว แต่ไฟโทสะนั้นสั่งสมวันแล้ววันเล่าจนร้ายแรง “ผัวะ” ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของเจี่ยงหลานเสียงดังกังวาน จนเจี่ยงหลานถึงกลับล้มลงกับพื้นทั้งตัว การตบครั้งนี้เต็มไปด้วยความคับแค้นที่สั่งสมมานานหลายปีของซูกั๋วเย่า สะใจที่สุด! สะใจจนเกินจะบรรยาย ซูกั๋วเย่ารู้สึกสบายใจขึ้นมาก เจี่ยงหลานถูกตบจนรู้สึกวิงเวียน ใบหน้าแสบร้อนผะผ่าว แก้มบวมเป่งขึ้นอย่างรวดเร็ว “ไม่เลว ฉันพอใจมาก เรื่องนี้ก็ให้จบแค่นี้แล้วกัน” เทียนหลิงเอ๋อร์ปรบมือแล้วเดินจากไป หลังจากที่เจี่ยงหลานรู้สึกตัว เธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วเตะซูกั๋วเย่าหลายครั้งพร้อมกับด่าว่า “ซูกั๋วเย่า คุณจ้องหาโอกาสแก้แค้นฉันอยู่ใช่ไหม?” “ถ้าผมไม่ตบคุณ เทียนหลิง
Read More

บทที่ 223

ห้าวันต่อมา เป็นวันสำคัญประจำปีของเมืองหยุนเฉิง เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ของสังคมชั้นสูง เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเทียนฉางเฉิง นายใหญ่แห่งตระกูลเทียน โรงแรมเพนนินซูล่าซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่หรูหราที่สุดในเมืองหยุนเฉิงหยุดรับแขกทั้งหมดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เพราะพวกเขาต้องเตรียมจัดงานวันเกิดให้เทียนฉางเฉิง ในวันเกิดวันนั้น นอกจากแขกผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดแล้ว ก็ไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นที่ไม่มีหน้าที่ประจำปรากฏตัวขึ้น แม้แต่บริกรในโรงแรมยังได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีให้ทำงานในวันนั้น จะเห็นได้ว่าเรื่องนี้มีอิทธิพลต่อเมืองหยุนเฉิงเพียงใด รถยนต์หรูหราแล่นเข้าไปในลานจอดรถของโรงแรมคันแล้วคันเล่า คนที่ลงจากรถหน้าทางเข้าโรงแรม ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลระดับแนวหน้าของรัฐบาลและธุรกิจในเมืองหยุนเฉิง สมาชิกในตระกูลซูสิบคนถือว่าเป็นกำลังหลักในงานเลี้ยงวันเกิด ในจำนวนนั้นรวมไปถึงซูไห่เฉาและซูอี้หานด้วย ซูหยิงเซี่ยในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการทางเฉิงซีก็ย่อมไม่พลาดเช่นกัน นอกจากหญิงชราแล้ว บุคคลที่เหลืออีกหกคนก็มีซูกั๋วหลินและคนอื่น ๆ รวมอยู่ในนั้นด้วย ล้วนเป็นสมาชิก
Read More

บทที่ 224

ผู้อาวุโสท่านนี้มีชื่อว่าหวางเม่า เป็นประธานสมาคมหมากล้อมแห่งเมืองหยุนเฉิง ชายหญิงอย่างละคนเดินตามหลังต่างก็เป็นลูกศิษย์ของเขา ผู้ชายชื่อเซี่ยเฟย ผู้หญิงชื่อสวี่ฮวน เมื่อหานซานเฉียนเห็นเขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หวางเม่ามีชื่อเสียงที่ดีมากในวงการหมากล้อมแห่งเมืองหยุนเฉิง เป็นผู้อาวุโสที่มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง แถมยังเป็นที่นับหน้าถือตาด้วย โรงเรียนหมากล้อมที่เขาก่อตั้งขึ้นนั้นมีชื่อเสียงมากในเมืองหยุนเฉิง เศรษฐีหลายคนส่งลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ นอกเหนือจากการฝึกฝนหมากล้อมแล้ว ยังเป็นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสท่านนี้อีกด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบันเป็นหนึ่งในลูกศิษย์รุ่นแรกของเขา เมื่อพบกันต้องโค้งคำนับและเรียกอาจารย์ ด้วยความสัมพันธ์เช่นนี้ ทางโรงเรียนหมากล้อมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการรับสมัครนักเรียนใหม่เลย หานซานเฉียนคิดไม่ถึงว่าหวางเม่าและเทียนฉางเฉิงจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเช่นนี้ “ตาแก่ หายไปไหนมา ฉันร้อนใจแทบแย่” เทียนฉางเฉิงอดไม่ได้ที่จะเดินไปหาหวางเม่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ หวางเม่ายิ้มแล้วพูดว่า “นายร้อนใจอะไร แก่จวนจะลงโลงอยู่แล้ว ใจเย็น ๆ” “ถุย พูดบ
Read More

บทที่ 225

ผู้ชายคนนี้ แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาจริงจังขึ้นมา แต่หวางเม่าแค่ยิ้มตอบออกมาบาง ๆ สมัยนี้คนหนุ่มสาวมากมายล้วนท่าดีทีเหลว อย่างเช่นในโรงเรียนสอนหมากล้อมของเขา ทายาทเศรษฐีพวกนี้เรียนรู้อะไรไม่สำเร็จสักอย่าง ยกเว้นการควบคุมพลังรัศมีของตัวเอง ภาพลักษณ์เช่นนี้ล้วนจอมปลอม หากไม่มีความสามารถที่แท้จริง ไม่ช้าก็เร็วความจริงก็ต้องถูกเปิดเผย “อาจารย์ ฉันหิวแล้วค่ะ” สวี่ฮวนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เห็นได้ชัดว่าเธออยากให้หวางเม่าเอาชนะหานซานเฉียนโดยเร็ว “ได้ ๆ ๆ อาจารย์จะรีบจัดการโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เธอได้ลงไปกินข้าว” หวางเม่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม การแข่งหมากล้อมเปรียบเสมือนการเข่นฆ่าในสนามรบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เหยียนจุนได้เตือนสติหานซานเฉียนตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาจับหมากล้อม ดังนั้นแม้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือหวางเม่า ผู้อาวุโสที่น่านับถือในเมืองหยุนเฉิง หานซานเฉียนก็ไม่มีความคิดที่จะออมมือเลยแม้แต่น้อย ในช่วงเริ่มเปิดเกม หวางเม่าได้ลงหมากอย่างรวดเร็ว เพราะเขาไม่ได้เห็นหานซานเฉียนอยู่ในสายตาเลย ไม่ได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองออกมา จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงกลางกระดาน หวางเม่าถึงตระหนัก
Read More

บทที่ 226

หวางเม่าที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอด เอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “หลังรับประทานอาหาร เรามาเล่นกันอย่างจริงจังเถอะ” หวางเม่าไม่เชื่อว่าตัวเองจะแพ้ ฝีมือหมากล้อมของเขาอยู่ในระดับสูงกว่าคนมากมาย แล้วจะแพ้ให้กับคนหนุ่มคนเดียวได้อย่างไร? หานซานเฉียนไม่อาจปฏิเสธคำขอนี้ มิฉะนั้นมจะเป็นการไม่ให้เกียรติหวางเม่า ส่วนใครจะแพ้หรือใครจะชนะ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง “คุณปู่หวาง เราไปกินดื่มให้อิ่มหนำสำราญกันก่อน แล้วค่อยมาสู้กันใหม่นะครับ” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม หวางเม่าออกจากห้องไปก่อนพร้อมกับลูกศิษย์สองคน เทียนฉางเฉิงไม่ได้สนใจเรื่องอายุของตัวเองเลยว่าจะมากกว่าหานซานเฉียนหลายรอบ เขาวางมือลงบนไหล่ของหานซานเฉียนแล้วบอกว่า “พ่อหนุ่ม นายเก่งมาก ถ้าจริงจังขึ้นมา แม้แต่หวางเม่าก็ไม่ใช่คู่ต่อกร แต่ว่าเขาอาจไม่ได้เอาจริงเอาจัง เกมหลังจากนี้ นายมั่นใจแค่ไหนกัน?” “นายใหญ่ ผมจำได้ว่าเหมือนมีคนอยากจะขอฝากตัวเป็นศิษย์นะครับ” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม สีหน้าเทียนฉางเฉิงชะงักงัน เจ้าหมอนี่ยังจำเรื่องนี้ได้อยู่อีก เขาอายุขนาดนี้จะให้มาขอฝากตัวเป็นศิษย์ ถ้าพูดออกไปจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อีกอย่าง
Read More

บทที่ 227

เขาไม่เพียงมาที่นี่เท่านั้น แต่ยังเข้ามาในงานพร้อมกับนายใหญ่ด้วย นี่เป็นการต้อนรับที่สูงส่งอะไรเช่นนี้! “เป็นไปได้ยังไง จะเป็นหานซานเฉียนไปได้ยังไง” ซูไห่เฉาหน้าเขียวอย่างไม่อยากเชื่อ เขาคิดไว้เสียดิบดีว่าจะให้หานซานเฉียนคุกเข่าต่อหน้าเขาอย่างไรดี แต่ความจริงกระตุ้นให้เขารู้สึกตัว หญิงชราสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยสีหน้าและแววตาที่เคร่งขรึมเป็นพิเศษ เธอไม่อยากรู้ว่าทำไมหานซานเฉียนถึงไปเดินอยู่เคียงข้างเทียนฉางเฉิงได้ เพราะสาเหตุนั้นไม่สำคัญเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เกียรติยศอันสูงส่งได้บังเกิดขึ้นกับหานซานเฉียนแล้วจริง ๆ “นี่มันเรื่องอะไรกัน? เจ้าคนไร้ประโยชน์หานซานเฉียน! กล้าดียังไง!” ซูอี้หานพูดอย่างไม่พอใจ แม้ว่าเธอไม่จำเป็นต้องคุกเข่าแล้วเห่าเหมือนสุนัข แต่เธอก็ไม่สามารถยอมรับได้ว่าคนไร้ประโยชน์ในสายตาของเธอตอนนี้ยืนอยู่ในจุดสูงส่งเคียงข้างเทียนฉางเฉิง ซูหยิงเซี่ยยังรู้สึกงุนงงอยู่ แม้เธอจะรู้ว่าหานซานเฉียนนั้นไม่ธรรมดา แต่เธอก็ไม่เคยคิดเลยว่า หานซานเฉียนจะมายืนอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่งและโดดเด่นทัดเทียมกับเทียนฉางเฉิงเช่นนี้ เมื่อหานซานเฉียนเดินไปยังที่นั่งประธาน และนั่งลงข้าง
Read More

บทที่ 228

ซูหยิงเซี่ยรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างถึงขีดสุดกับคำพูดของหญิงชรา ถ้าทำให้ตระกูลซูกลายเป็นตระกูลแถวหน้าได้ ก็จะยอมรับความดีงามของหานซานเฉียนงั้นหรือ? แต่ดูเหมือนเธอจะไม่เคยคิดว่าหานซานเฉียนไม่จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากเธอด้วยซ้ำ คนที่นั่งข้างเทียนฉางเฉิงได้ ยังจะต้องสนใจความคิดเห็นของคนอื่นอีกทำไม? หลังจากงานเลี้ยงผ่านไปครึ่งทาง เทียนหลิงเอ๋อร์ก็เดินสะบัดเปียหางม้ามาที่โต๊ะของตระกูลซู หญิงชราลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นเทียนหลิงเอ๋อร์ แต่ไม่กล้าอาศัยความเป็นอาวุโสข่มคนอื่น “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณหนูเทียน ฉันมาจากตระกูลซู...” หญิงชรายังพูดไม่ทันจบ เทียนหลิงเอ๋อร์ก็รีบตัดบทอย่างเสียมารยาท “ใครคือซูไห่เฉา ได้ยินว่ามีการแสดงให้ดูเหรอคะ?” เทียนหลิงเอ๋อร์ไม่ใช่คนไม่มีมารยาท แต่ตอนนี้เธอไม่ชอบคนตระกูลซูเลย ดังนั้นจึงไม่เห็นหญิงชราอยู่ในสายตา คนรักในฝันของเธอ ถูกครอบครัวนี้เรียกว่าคนไร้ประโยชน์ แล้วเธอจะรู้สึกดีได้อย่างไร? เมื่อได้ยินคำพูดของเทียนหลิงเอ๋อร์ สายตาของทุกคนในตระกูลซูต่างพากันจับจ้องไปที่ซูไห่เฉาอย่างช่วยไม่ได้ การแสดงที่พูดถึงนั้น น่าจะเป็นการที่ซูไห่เฉาต้องคุกเข่าเ
Read More

บทที่ 229

“คุณหนูเทียน การแสดงนี้ดีมากจริง ๆ เขาคือใครเหรอ เห่าเหมือนหมามากเลย” “ดูเหมือนเขาจะชื่อซูไห่เฉาอะไรนี่แหละ แพ้พนันคนอื่น ดังนั้นเขาจึงต้องเห่าเหมือนสุนัข” เทียนหลิงเอ๋อร์อธิบาย หลายคนในที่นี้ไม่เคยได้ยินชื่อซูไห่เฉามาก่อนเลย หลังจากถามไถ่กันสักพัก ถึงได้รู้ว่าซูไห่เฉาเป็นคนในตระกูลซูนั่นเอง สิ่งนี้ทำให้ซูไห่เฉายิ่งรู้สึกขายหน้า อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นทายาทตระกูลดังแถวสองในเมืองหยุนเฉิง แต่ผู้คนมากมายไม่รู้จักว่าเขาคือใคร ตระกูลซูไม่มีอิทธิพลในเมืองหยุนเฉิงขนาดนี้เลยหรือ? ตระกูลซูเป็นตระกูลที่ถือดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงชรา เธอได้สร้างกฎเกณฑ์มากมายเพื่อให้ตระกูลซูคิดว่าตนเองเป็นตระกูลอันสูงศักดิ์ แต่ในเมืองหยุนเฉิงนั้น ก่อนที่พวกเขาจะได้ร่วมมือกับบริษัทลั่วเฉว มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จัก การที่เรียกว่าตระกูลแถวสองก็สมควรแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชื่อของซูไห่เฉาเลย นอกจากในหมู่เพื่อนของเขาเอง แล้วก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเลยสักนิด “คุณหนูเทียน คุณกับซูไห่เฉาไม่ค่อยลงรอยกันเหรอครับ” “พวกเราจะจำไว้ คราวหน้าถ้าเจอเจ้าหมอนี่ จะได้ไม่ไว้หน้าเขาอีก” “คุณหนูเทียนไม่ต้องก
Read More

บทที่ 230

ยังคงเป็นห้องนั้น คราวนี้หวางเม่าไม่ได้ชะล่าใจ กระดานนี้เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี เขาจำเป็นต้องเอาชนะหานซานเฉียน เพื่อสร้างที่ยืนใหม่ให้กับตัวเองในวงการหมากล้อมเมืองหยุนเฉิง แม้ว่าจะมีคนไม่มากที่รู้เรื่องความพ่ายแพ้ในเกมหมากล้อม แต่สำหรับหวางเม่าแล้วนี่เป็นความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างมาก เพราะหานซานเฉียนนั้นเด็กเกินไป เด็กมากจนหวางเม่าคิดว่าเขาไม่มีศักยภาพขนาดนั้น “ตอนนี้อาจารย์ของผมจะจริงจังแล้ว คุณระวังตัวด้วย อย่าโทษว่าผมไม่เตือนคุณก่อนแล้วกัน” เซี่ยเฟยที่ยืนอยู่ข้างหลังหวางเม่าพูดกับหานซานเฉียนด้วยรอยยิ้ม หานซานเฉียนพยักหน้ารับ การแสดงออกที่เอาจริงเอาจังของเขาแสดงให้เห็นว่าสติของได้เข้าไปอยู่ในเกมหมากล้อมแล้ว เส้นตัด 38 เส้น ตำแหน่งวางหมาก 361 จุด ตั้งแต่วินาทีที่เขาจับตัวหมากไว้นั้นก็ไม่ใช่กระดานหมากล้อมธรรมดาอีกต่อไป แต่เป็นสนามรบ เซี่ยเฟยไม่ได้ดูทั้งสองแข่งกัน เพราะเขารู้สึกว่าผลลัพธ์นั้นชัดเจนแล้ว กระบวนการไม่ได้สำคัญเลย แต่กับเทียนฉางเฉิงและสวี่ฮวนนั้นกลับดูอย่างตั้งใจเป็นพิเศษ ตั้งแต่เทียนฉางเฉิงได้รู้ว่าหานซานเฉียนมีความมั่นใจเต็มสิบว่าจะเอาชนะหวางเม่าได้ เขาจึงต้
Read More
ก่อนหน้า
1
...
2122232425
...
146
DMCA.com Protection Status