บททั้งหมดของ สุดชีวาชะตาลิขิต: บทที่ 131 - บทที่ 140

200

บทที่ 131

อเล็กซ์จ้องมองท้องฟ้าสีครามในขณะที่ออกจากแอสเส็กซ์ วิลล่า เขารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นหลังจากพยายามทำความเข้าใจคุณนายแคลร์ว่าเธอมีปัญหาทางจิต อย่างไรก็ตาม คุณนายแคลร์นั้นโกรธมาก เธอกระทืบเท้าขณะก่นด่าอเล็กซ์ “ดูสิ ผู้ชายแบบไหนที่เธอแต่งงานด้วย? เงินก็น้อย แถมตอนนี้ยังมีหน้ามาพยายามหลอกลวงฉันด้วยเช็คปลอมอีก เห็นไหม? มันคิดว่าฉันโง่เหรอ? ดูสิว่าตอนนี้มันหยิ่งผยองแค่ไหน! ฉันบอกให้มันทำอาหารให้ แต่มันกลับกล้าดีมาปฏิเสธ! ธุระอะไรกันนักหนา? ฆ่าตัวตายเหรอ?” ทันใดนั้น แคลร์บังเอิญเหยียบเศษของแจกันที่แตกและร้องออกมาเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด โดโรธีมองดูบาดแผลของเธอและเห็นว่ามันเป็นเพียงแค่รอยข่วนนิดเดียวเท่านั้น เธอจึงถอนหายใจและพูดว่า “หนูจะไปทำงานต่อแล้ว ถ้าหิว คุณแม่สั่งอาหารมาทานเองก็ได้นะคะ” อเล็กซ์กลับไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เยเรมีย์ไม่อยู่แล้วและฝูงชนต่างก็แยกย้ายกันไป เขาขึ้นรถ BMW M8 สีขาวและขับรถไปที่ธนาคารใกล้ ๆ เขาต้องการฝากเช็คที่ตระกูลโยเวลได้มอบให้กับเขา ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ตอนนี้ บัญชีธนาคารของเขามีเงินออมประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ เขาสามารถหารายได้มากกว่าคนงานทั่ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 132

นิโคลัสเกาะขาของผู้หญิงคนนั้น “ชาริส เงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตหรอกนะ! สิ่งที่สำคัญก็คือความรักที่ผมมีให้คุณต่างหาก! บนโลกใบนี้ไม่มีใครรักคุณมากกว่าผมแน่นอน!” ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับทันที “ไร้สาระ! ฉันไม่สนใจความรักของคุณหรอกนะ มันกินไม่ได้!” ทันใดนั้นก็มีรถ BMW 520 ขับมาหยุดอยู่ตรงหน้าของทั้งคู่ ชายหนุ่มโผล่หัวออกมาทางหน้าต่างรถ ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างสดใส “อ้าว ที่รัก มาพอดีเลย! รอฉันสักครู่นะคะ” จากนั้นเธอก็ทั้งเตะทั้งสะบัดนิโคลัสซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! แฟนฉันมารับแล้วไม่เห็นเหรอ? เขาคือผู้ชายที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของฉัน ใส่ทั้ง Armani แถมขับ BMW อีกด้วย! เขาไม่ขับรถโฟล์คสวาเก้นมือสองเก่า ๆ แบบแกหรอกนะ! ฉันไม่ต้องการขยะแบบนั้น!” ชายในรถ BMW ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักนิโคลัสด้วยเช่นกัน เขาพูดเสริมและเยาะเย้ย “นิโคลัส ชาริสเป็นของฉันแล้ว ถ้าแกไม่รีบปล่อยเธอเดี๋ยวนี้ ฉันจะทำให้ชีวิตของแกเหมือนตกนรกทั้งเป็น ดูสารรูปตัวเองบ้าง แกไม่สมควรที่จะมีแฟนด้วยซ้ำ ทั้งโง่ทั้งจน” ชาริสแสดงท่าทางอวดดี ก่อนที่เธอจะกระทืบส้นเท้าอย่างแรงเข้าไปที่ต้นขาของเขาด้วยท่าทีดูถูก จู่ ๆ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 133

“อืม…” อเล็กซ์ ตกตะลึง เขาไม่ได้คาดคิดว่าลาเวนเดอร์จะรู้จักกับผู้ชายที่ขับ BMW คนนี้ 'ซีดาร์? ฟังดูเหมือนทั้งสองจะเป็นพี่น้องกันนะ' ซีดาร์เริ่มตื่นตระหนก “พี่ เอ่อ คือว่าผม… รถผมเสีย ผมเลยเอารถของพี่มาใช้ก่อน” เขาพูดขณะที่พยายามขยิบตาส่งสัญญาณให้ลาเวนเดอร์ เขาเพิ่งจะได้คบกับชาริส เขาเพียงแค่อยากจะอวดเธอ! อย่างไรก็ตามลาเวนเดอร์ไม่ยอมรับสัญญาณใด ๆ และพูดว่า “มอเตอร์ไซค์ของแกเสียเหรอ? ก็เอาไปซ่อมสิ! ไม่รู้มารยาทขั้นพื้นฐานบ้างหรือไง ก่อนจะเอารถของคนอื่นมาใช้ แกควรที่จะขออนุญาตเจ้าของรถก่อน? อ่ออออ แล้วอีกอย่าง ขอโทษคุณร็อคกี้เฟลเลอร์ด้วย” การแสดงออกของชาริสเปลี่ยนไป BMW ที่ซีดาร์ขับมา มันไม่ใช่ของเขาเองหรอกหรือ เขามีแค่เพียงรถจักรยานยนต์เท่านั้นเองจริง ๆ หรือ? รถจักรยานยนต์นั้นเทียบอะไรไม่ได้กับโฟล์คสวาเกนมือสองของนิโคลัสเสียด้วยซ้ำ! ซีดาร์ชี้ไปที่อเล็กซ์แล้วถามว่า “ทำไมผมจะต้องขอโทษมันด้วย? มันไม่เห็นสมควรได้รับการขอโทษเลย! ก็เป็นแค่ขี้ข้าทาสรับใช้ผู้หญิงเท่านั้นเอง พี่ให้ผมไปขอโทษสุนัขหมา ผมยังเต็มใจที่จะทำมากกว่าอีก!” ทันใดนั้น ก็มีเสียงตบหน้าซีดาร์ดังลั่น ลาเวนเดอร์ต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 134

ชาริสเย้ยหยัน “ล้อเล่นกันใช่มั้ย? เขาเนี่ยนะ? คนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปมาบนท้องถนน เลือกแบบสุ่ม ๆ มาสักคนยังจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเขาเสียอีก!” จากนั้น เธอก็เตะไปที่โฟล์คสวาเก้นซึ่งจอดอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเป็นรถของนิโคลัสนั่นเอง “ดูนี่สิ ใครกันที่ยังคงขับรถเก่า ๆ แบบนี้อยู่อีก? มีแต่คนจนที่น่าสมเพชอย่างเขาเท่านั้นแหละ!” อเล็กซ์พยักหน้า “เธอพูดถูก นิโคลัสสมควรได้ขับรถที่ดีกว่านี้ มันดูไม่ค่อยเหมาะสมกับเขาเท่าไร นั่นเป็นสาเหตุที่ BMW M8 ใหม่เอี่ยมที่กำลังจะมาส่งในตอนนี้ นั่นคือสิ่งที่นิโคลัสสมควรที่จะได้รับมันอย่างแท้จริง” “เขาสมควรได้รับ BMW M8 หรือ? ตลกชะมัด!” สิบห้านาทีต่อมา โคลอี้ขับรถมาที่ตำแหน่งที่อเล็กซ์ได้ส่งข้อมูลให้กับเธอ ชาริสเบิกตากว้างเมื่อเห็น BMW M8 อเล็กซ์มอบกุญแจรถให้กับนิโคลัสและพูดว่า "รถคันนี้เป็นของนายแล้ว" ในขณะนั้น นิโคลัสกำลังสับสนงุนงง จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อย่างไรก็ตาม เขาตกใจมากเมื่อได้รับกุญแจรถนั้น “อเล็กซ์ นายพูดเล่นใช่ไหม? ให้ฉันเหรอ? ทำไมคนอย่างฉันถึงคู่ควรกับรถหรูแบบนี้?” “นายคู่ควรกับมันเหมือนกับที่ฉันพูดแหละ รับไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะทุบ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 135

“มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่อยากให้เธอมาที่นี่ละครับ? ผมยินดีต้อนรับเธอเสมอ!” อเล็กซ์ยิ้ม บริตทานีกลอกตา “ให้มันได้อย่างนี้สิ” จากนั้นเธอก็ทักทายนิโคลัสและโคลอี้ที่เดินตามหลังอเล็กซ์เข้ามา “อ้าว นิโคลัส ลูกก็มาด้วยเหรอ โอ้สาวสวยคนนั้น แฟนเหรอ?” นิโคลัสส่ายหัวและปฏิเสธ “เปล่า ไม่ใช่ครับ คุณนายร็อคกี้เฟลเลอร์ เธอเป็นเพื่อนของอเล็กซ์ครับ” อเล็กซ์จึงพูดขึ้นว่า “คุณแม่ครับ งั้นขอแนะนำให้รู้จักกับเธอ นี่คือโคลอี้ ซี ผมจ้างเธอมาเป็นพนักงานบริษัทของคุณแม่ เธอเป็นพนักงานการตลาดที่น่าทึ่งและขยันทำงานด้วย ที่สำคัญที่สุด เธอเป็นคนดีมาก ๆ ” บริตทานียิ้มอย่างสดใสขณะที่เธอพาโคลอี้ไปที่โต๊ะและเชิญให้เธอนั่งลง มาญายิ้มทักทายด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “คุณแม่คะ ของหวานใกล้จะเสร็จแล้ว หนูจะรีบไปนำมาเสิร์ฟให้เดี๋ยวนี้ค่ะ!” อเล็กซ์สำลักชาที่เพิ่งเริ่มดื่ม “เธอเรียกแม่ฉันว่าอะไรนะ?” มาญา เงยหน้าขึ้นมองเขา “จากนี้ไป แม่ของนายก็คือแม่ของฉัน” จากนั้นเธอก็สวมรองเท้าใส่ในบ้าน และรีบเดินเข้าไปในครัว อเล็กซ์ยังคงอึ้งอยู่ แต่บริตทานีกลับยิ้มและยังคงไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกด้วย เขารีบเดินตามมาญา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 136

“ก็นายมันโง่จริง ๆ! ถ้างั้นนายก็ยกไปเองเลย ผิวของนายหยาบกระด้าง ดังนั้นนายก็คงจะไม่รู้สึกร้อนหรอก” “ใช่ ๆ ฉันมันก็แค่วัวตัวหนึ่ง รอนแค่นี้ไม่เห็นสะทกสะท้อนเลย พอใจยัง?” อเล็กซ์หยิบจานและเดินออกจากครัวไป เขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของมาญาจากข้างหลัง แต่ไม่ได้ยินเธอพึมพำกับตัวเองในภายหลังว่า “นี่มันจะกลายเป็นเรื่องปกติสินะ ฉันดีใจจังที่จะได้เจอหน้านายทุก ๆ วันแบบนี้” หลังจากรับประทานของหวานสร็จ บริตทานี มาญา โคลอี้ และนิโคลัส ก็เริ่มพูดคุยกันเรื่องบริษัทใหม่ อเล็กซ์สามารถบอกได้เลยว่ามาญาไม่เพียงลาออกเพื่อมาดูแลบริตทานีอย่างเดียว เธอต้องการช่วยบริษัทใหม่ด้วย มีความเป็นไปได้ที่บริตทานีจะเป็นคนที่เชิญมาญามาเอง อเล็กซ์ไม่ได้สนใจด้านธุรกิจ ดังนั้นเขาจึงหาข้ออ้างที่จะทำวิจัยเกี่ยวกับพลังฉีของตระกูลโยเวล มันยังคงมีข้อบกพร่องอยู่มากมาย หลังจากครึ่งชั่วโมงของการค้นคว้า อเล็กซ์กำผ้าชิ้นหนึ่งไว้ในมือและเปิดใช้พลังฉีของเขา เมื่อเขาปล่อยมือออก ผ้าก็ได้กลายไปเป็นขี้เถ้าแล้ว “นี่คือ พลังฉีหยาง” เขาพึมพำกับตัวเองพลางส่ายหัวเบา ๆ เมื่อพูดถึงการควบคุม พลังฉีหยางของตระกูลโยเวลมันถือว่าเป็
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 137

"อะไรนะ? เสียชีวิตแล้ว? “เขาเสียชีวิตได้ยังไง?” อเล็กซ์ตกใจมากจนเกือบที่จะกระโดดออกจากเก้าอี้ คนขับรถบรรทุกที่ชื่อแอนโธนี่ แพตทินสันเป็นคนที่สำคัญที่สุดที่รู้ความจริงเกี่ยวกับอุบัติเหตุนั้น ถ้าหากเขาเสียชีวิตไป แสดงว่าพวกเราได้สูญเสียหลักฐานสำคัญไปด้วยเช่นกัน “ฉันไปที่นั่นเพื่อตรวจดูให้มั่นใจ คนที่นั่นบอกว่าเขาพยายามที่จะหลบหนีจากเรือนจำและจบลงด้วยการถูกไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิต ร่างกายของเขาไหม้เกรียม ฉันยังมีรูปถ่ายศพของเขาด้วยนะ นายอยากจะเห็นไหม?" อเล็กซ์พยักหน้า จากนั้น วอลทซ์ก็ได้เลื่อนดูโทรศัพท์เพื่อค้นหารูปภาพ ศพนั้นเป็นสีดำไหม้เกรียมจริง ๆ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำเขาได้ “ไม่ใช่” อเล็กซ์ส่ายหัว "ไม่ใช่?" วอลทซ์หันไปหาอเล็กซ์ “นี่ไม่ใช่แอนโธนี่ แพตทินสันได้ไง?” “ไม่ เป็นเขาจริง ๆแต่สาเหตุการตายไม่ใช่ไฟฟ้าช็อต” คนอื่น ๆ อาจจะไม่สามารถสังเกตได้ว่าแอนโธนีถูกไฟฟ้าซ็อตหรือถูกสังหาร แต่ทว่าอเล็กซ์นั้น เขาไม่เหมือนคนทั่ว ๆ ไป เขามีความรู้ด้านการแพทย์ขั้นสูงสุด แค่ดูภาพก็รู้แล้วว่าชายคนนี้ถูกฆ่าแล้วถูกนำไปสร้างสถานการณ์ว่าถูกไฟช็อต เพื่อที่จะทำลายหลักฐาน “นายกำลังจะบอกว่า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 138

อเล็กซ์ส่งสัญญาณบอกใบ้ไปที่ชั้นล่าง และวอลทซ์ก็เข้าใจข้อความนั้นทันที ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะส่งพวกนักฆ่ามาอีกครั้งเมื่อไหร่ อเล็กซ์ต้องการให้แน่ใจว่าบริตทานีจะปลอดภัย เนื่องจากเหตุการณ์ของคุณนายแคลร์ อเล็กซ์ต้องรีบออกไปตอนเช้านี้เลยเหมือนกัน แต่ก็ต้องทิ้งบริตทานีให้อยู่คนเดียว สิ่งนี้ทำให้เขาค่อนข้างไม่สบายใจ และยิ่งเมื่อแอนโธนีมาเสียชีวิตอีก เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้เลย “ฉันขอคุยโทรศัพท์สักครู่นะ” วอลทซ์ยิ้ม คราวนี้ วอลทซ์โทรหาอาเซอร์ “นี่ อาเซอร์จะมาที่นี่ในอีกสักครู่ เขาจะพาคนของเราสองสามคนมาเพื่อคุ้มกันที่นี่ด้วย” อเล็กซ์ขมวดคิ้ว “อย่าทำให้มันประเจิดประเจ้อจนมากเกินไป แม่ของฉันอาจไม่ชอบที่ฉันติดต่อกับผู้คนจากกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์” วอลทซ์หันกลับมามองเขา “กลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ แล้วจะทำไม? นายกำลังดูถูกพวกเราอยู่เหรอ?” อเล็กซ์ตัดสินใจที่จะเงียบ จากนั้นวอลทซ์ก็ทำให้เขามั่นใจ “ไม่ต้องกังวล พวกเขาเข้าใจดี พวกเขาจะแอบปกป้องเธออย่างลับ ๆ ” อเล็กซ์พยักหน้าอย่างพอใจ ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว…
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 139

"อะไรนะ?" “ตัวนี้ฐานมันพังนะ! มันตั้งไม่ตรงด้วยซ้ำ จะไปมีประโยชน์อะไร?” วอลทซ์พูดขึ้นด้วยท่าทางสับสนงุนงง ดวงตาของอเล็กซ์เป็นประกายและตอบอย่างใจเย็นว่า “มันหนักที่สุด” วอลทซ์พูดอะไรไม่ออก “ฉันคิดว่าเรากำลังจะซื้อเศษโลหะอยู่ เฮ้ โทเบียส พี่ชายของฉันต้องการตัวที่โทรมที่สุด นายให้ราคาเท่าไร? เอาไปชั่งน้ำหนักและบอกราคามา” อเล็กซ์ได้แต่ยิ้ม ไม่พูดอะไร เขากำลังรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เตาเล่นแร่แปรธาตุที่โทรมที่สุดตัวนี้มันอาจจะไม่มีฐาน แต่มันดีที่สุดในทั้งสามเตาแล้ว เขารู้สึกได้ถึงพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ภายในเตานี้ นี่แสดงว่าเตาโทรม ๆ นี้อาจจะมีพลังลึกลับอยู่ โทเบียสยิ้ม "นายหญิงเฟลอร์ ถ้าท่านพี่ของคุณชอบก็รับไปเถอะ ผมไม่คิดเงินหรอก! เก็บไว้ก็รกร้านเปล่า ๆ น่ะ ผมเกือบจะโยนมันทิ้งไปแล้วด้วย ถ้ามันไม่พอที่จะมีประโยชน์อยู่บ้าง” “งั้นตกลง ฉันจะเอาอันนี้” เตาไม่ใหญ่มากแต่ว่ามันค่อนข้างหนัก อย่างไรก็ตาม น้ำหนักดังกล่าวไม่เป็นผลอะไรสำหรับอเล็กซ์เลย ขณะที่พวกเขากำลังจะออกจากร้าน ก็มีคนวิ่งเข้ามาและตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้น “โทเบียส โทเบียส! หินสีเขียว! สีเขียว! หยกแก้วจักรพร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 140

เธอสวมชุดราคาแพงของ Chanel จับคู่กับกระเป๋า LV ดูเหมือนกับผู้หญิงไฮโซทั่ว ๆ ไปที่กำลังควงแขนผู้ชายคนหนึ่ง แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ใช่คนที่อเล็กซ์เห็นเธอควงครั้งสุดท้ายก็ตาม คราวนี้เป็นชายแก่อ้วนอายุ 40 ปีอย่างนั้นเหรอ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับโคลอี้ เพียงแค่สะบัดเงินในมือเธอก็พร้อมจะย้ายก้นงาม ๆ ไปตรงนู้นทีตรงนี้ทีอย่างว่าง่าย ทันใดนั้น โคลอี้ก็สังเกตเห็นอเล็กซ์ ด้วยความตกใจ เธอจึงแสดงสีหน้าไม่พอใจทันทีและจ้องเขม็งอย่างโกรธเคือง เธอถูกตบหลายครั้งในร้าน แอล จี บัลโฟร์ เมื่อครั้งก่อน และโยนความผิดเรื่องทั้งหมดให้กับอเล็กซ์ ในเวลาต่อมาเธอได้ยินมาว่าอเล็กซ์สามารถซื้อเครื่องประดับได้เพียงเพราะกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ เพราะมาจากเพื่อนของพ่อเขา ในท้ายที่สุดเขาก็ยังคงเป็นไอ้ขีแพ้ที่เป็นขี้ข้าของบ้านแอสเส็กซ์อยู่ดี แล้วทำไมเธอถึงจะต้องกลัวเขาในตอนนี้ล่ะ? เธอพูดออกมาเสียงดังทันที “อเล็กซ์ แกมาที่นี่ทำไม? ไอ้ขี้แพ้ไร้ประโยชน์! แกกำลังพยายามหาประมูลแร่ราคาถูกให้ตัวเองอยู่หรือเปล่า? มีเงินพอเหรอ?” อเล็กซไม่มีอารมณ์ที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเธอ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ?” โคลอี
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1213141516
...
20
DMCA.com Protection Status