นี่ มันอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ เพราะเขาก็ไม่สนใจพวกหล่อนเลย
ดังนั้น เขา ชายหนุ่มที่หล่อเหลารูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวจัด และดวงตาดำมีเสน่ห์เส้นผมดำสนิท
ยามเขาเดินผ่านร้านรวงเหล่านั้นเส้นผมที่ปะทะพัดผ่านไปมาทำให้พะเยิบไหวไปตามแรงลม ริมฝีปากบางเหมือนลูกผู้ดี แต่ลึกลงไปเขาดูคล้ายเป็นคนเก็บกด เพราะไม่ชอบยิ้มให้ใคร
คิดว่า หากถ้าเขายิ้มโปรยออกมาบ้าง ก็จะทำให้เขาดูมีเสน่ห์เพิ่มกว่าเดิมมากที่สุด
เพราะเป็นคนปากกว้างคางแหลม จมูกโด่ง
ส่วนสูงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งกว่ามาตรฐานคนเอเชียด้วยซ้ำ
เพราะว่าเขานั้นมีส่วนสูงถึง182เซนติเมตร
จากนั้นเขาตัดสินใจเข้าไปในร้านมินิมาร์ท ที่อยู่ใกล้ๆ
สักครู่ก็เดินออกมาอีกครั้ง ด้วยหมากฝรั่งสำหรับไว้เคี้ยวเล่นดับกลิ่นปาก กับน้ำผลไม้แช่เย็นกล่องหนึ่งเป็นน้ำกีวีฟรุต
พร้อมกับบัตรเติมเงินจากนั้นก็เดินตรงไปไขกุญแจที่รถเก๋งของตนเองอีกครั้งก่อนจะสตาร์ทรถออกไปโดยที่ไม่มีจุดหมายปลายทางเหมือนเดิม
บางทีเขาอาจจะไปหาเคียส เพื่อนรัก ที่คอนโดก็ได้ เอ หากถ้ามันไม่อยู่ หรือว่าไปต่างจังหวัด เขาจะทำยังไงดี ก็ต้องลองโทรหามันดูก่อน
และเช้าของวันรุ่งขึ้น ในที่ทำงาน
บริษัทที่ฝ้ายนิลทำงานอยู่
ภาพนั้นประดังเข้ามาในใจอีกครั้ง ทำให้ฝ้ายนิลเอ่ยออกมากับเพื่อนรัก
“ฉันแสนจะเกลียดผู้ชายเห็นแก่ตัวมากที่สุดนะมอส ฮึ นี่ ไปไหนมาไหน ก็ขออย่าให้ได้พบเจอะเจออีกเลย นะ”
นั่นเอง มันเหมือนกับว่าเป็นการระบายคำพูดออกมามากกว่าจากปากของฝ้ายนิล
เพราะหล่อนก็จงใจที่จะเน้นในประโยคที่บอกว่า หล่อนเกลียดผู้ชายมากที่สุด
เหมือนทำท่าขยะแขยงรังเกียจปานนั้น
และทำให้ปวีณาเพื่อนรักนั้นก็รับรู้อย่างดีกับอารมณ์ของเพื่อน ที่แอนตี้ในเรื่องนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ฝ้ายนิล จึงยังครองตัวอยู่ในสมาคมสาวโสดแห่งคานทองนิเวศน์
และเพราะด้วยน้ำเสียงของฝ้ายนิลที่ค่อนข้างดูจะจริงจังมากไปหน่อย
เมื่อปวีณารับฟังถ้อยคำนี้แล้ว เธอก็หวนมาคิดถึงตัวเองบ้าง
เพราะเธอมีแฟนหนุ่มแล้วที่คบหากันมานาน ไม่ได้เป็นอย่างฝ้ายนิลที่ครองตัวเป็นสาวโสด
แต่นั่นเธอคิดว่า เธอเลือกด้วยหัวใจของเธอต่างหาก
และมันผิดด้วยหรือสำหรับความรักนี่
เพราะคิดว่าคนที่จะรักกัน?
ต่างมั่นใจในกันและกัน
เมื่อถามคำนี้ ป้อนให้แก่ใจตนเองเต็มที่แล้ว
ฝ่ายปวีณาก็กลับรู้สึกนิ่งงัน ในความจริงกับการแสดงออก
และถ้าจะให้เอ่ยปากกล้าพูดตรงๆเหมือนอย่างฝ้ายนิลนั้น
เธอคงไม่กล้าขนาดนั้นหรอก
ฝ้ายนิลนั้นขวานผ่าซาก และกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
หากกระนั้น เธอก็ไม่อยากเอาเวลาไปใส่ใจในเรื่องส่วนตัวของฝ้ายนิลมากเกินไปนัก
บางครั้งฝ้ายนิลแรงสุดเหวี่ยง อาจจะมีบางคนที่มองพวกหล่อน ไปในเชิงที่ไม่สร้างสรรค์
เพราะสนิทสนมกลมเกลียวกัน และแทบจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้ง ที่คนทั่วไปเห็น
แต่ฝ้ายนิลไม่สนใจ
“ก็ช่างมันสิ เพราะพวกเราเจอะเจอแต่พวกที่สมองไร้ความคิด ชอบดูถูกต่อว่า คนอื่นว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ และถ้าเราไม่ได้เป็นไปอย่างนั้นจริง เราก็ไม่ควรจะไปเดือดร้อนกับมันหรอกมอส”
หากคำพูดที่แบบขวานผ่าซากของฝ้ายนิล
ทำให้ปวีณาทั้งทึ่งแล้วก็อึ้ง
กับความเป็นสาวแกร่งไม่แคร์ไม่สนโลก
ถูกเล่นงานจากหลายฝ่าย ก็ทั้งฝ่ายในและนอกนั่นแหละ ก้อ พวกศรศิลป์ไม่กินกันกับฝ้ายนิล
ซึ่งมันดูจะเป็นเรื่องธรรมดาปกติแล้ว
ที่ฝ้ายนิลเองก็สงบใจ ไม่ถือสาหาความ
ถึงไม่ขยันไปหาเรื่อง แต่เรื่องก็แล่นแจ้นมาถึงตัวหล่อนจนได้ เพราะคนมันอยากจะหาเรื่อง
หากฝ้ายนิลนั้นทำตัวให้เยือกเย็น และสงบใจได้อย่างดี
และดูเหมือนจะบ่อยครั้ง ที่ฝ้ายนิลนั้นก็มักจะพูดในเชิงปลงๆกับเพื่อนสาวอย่างปวีณา
“งั้นยายมอส ฉันว่า เห็นที พวกเราต้องทำใจเอาไว้ล่ะ นอกจากจะใจเย็นลงกว่าเดิม เพราะไม่งั้นอารมณ์จะขาดผึงง่ายๆ”
น้ำเสียงของฝ้ายนิลที่เข้มแข็งและแข็งแกร่ง
และภาพเบื้องหน้านั่นเอง ที่เห็น คือรถยนต์คันสีดำที่แล่นปราดตรงหน้า
ทำให้เด็กสาวรู้สึกเคยคุ้น กับใบหน้าของคนขับ และเมื่อมองจ้องเหลือบไปดูท้ายรถหมายเลขทะเบียน
หญิงสาวยิ่งแน่ใจ ว่าใช่เมธา
พี่เขยจอมร้ายของหล่อนอย่างแน่นอน
มีผู้หญิงสาววัยขบเผาะหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งเคียงเป็นตุ๊กตาหน้ารถด้วย
หากว่าตอนนี้ นายเมธาจะมุ่งรถไปทางไหนกันล่ะ
เพราะนี่ตอนกลางวันแสกๆทีเดียว เขายังคิดกล้าที่จะทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงให้เห็นอีก ด้วยการพาผู้หญิงเข้าโรงแร ม
“มีอะไรหรือฝ้าย นั่นเธอพยายามมองหาอะไร”
“นั่นไง มอส ฉันมองเห็นนายเมธา ไอ้พี่เขยตัวร้าย ที่เวลานี้กลางวันแสกๆแท้ๆ ทำจู๋จี๋หนุงหนิงกันกับ แม่สาวคนไหนไม่รู้ ยังกะหนุ่มสาว นี่ ฉันจะขับรถตามไปดูเลยนะมอส ฉันอยากรู้นัก ทำไมมันต้องจองกรรมจองเวรกับพี่สาวของฉันแบบนี้ ฮึ ไม่มีความซื่อสัตย์ให้พี่สาวฉัน มันออกลายอย่างนี้ แล้วก็มีข้ออ้างให้ พี่พินทุมาลย์ของฉันว่ามันทำงานหนัก”
เมธา พี่เขยจอมร้าย ที่ฝ้ายนิลนั้นได้มองเห็นถนัดชัดเต็มตาทีเดียว ว่ามัน กำลังจะพาขับรถพาผู้หญิงเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด
นี่จิตใจมันเป็นคนหรือเปล่า มันคงจะจงใจ ที่จะทำให้พี่สาวของหล่อน นั้นล้มป่วยลงและให้ตายไปไวๆ
อ้อ มันจะได้หาใหม่น่ะสิ
และฝ้ายนิลนั้นทั้งแสนแค้น และเจ็บปวดแทนพี่สาวอย่างมากที่สุด
คิดว่ากลับไปถึงบ้านคืนนี้ หล่อนจะไปรออยู่ที่บ้านพี่สาว เพื่อดักพบมัน และก็รีบกระชากหน้ากากเลวๆออกมา ให้พี่สาวรับรู้จะได้ตาสว่าง
ผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ถูกใจเขานักทำให้กริญจ์มอง เพิ่งกลับจากไปส่งหวานใจกลับคอนโด ตามประสาผู้ชายเจ้าชู้พอชอบ อยากจีบทันทีผู้หญิงสวยเรียบดูไม่ฉูดฉาด ไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ กริญจ์ทำเจ้าชู้ที่ริมถนนค่อนข้างมืดหล่อนคงไม่เห็นนัยน์ตาของเขาหรอกน่าแต่แล้วฝ้ายนิลรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง มองจ้องแล้วเดินมาถึงที่หล่อนขายของเดินตามหล่อนใกล้เข้ามา และเขาทำท่าจะมาจีบหล่อน“คุณครับหันมาทางนี้หน่อย อยากจะรู้จักคุณจังเลย ชื่ออะไรครับ”เขาทักหล่อนแบบนี้ ทั้งที่ไม่รู้จักกันฝ้ายนิลเลยชะงัก แต่ลูกไม้ตื้นแบบนี้รู้ทัน เลยไม่อยากสนใจ อาจจะเป็นพวกขี้เมา พยายามหาทางลวนลามเห็นเธอเป็นแม่ค้าขายมาลัยริมทางก็จะมาเจ๊าะแจ๊ะแบบนี้มีบ่อย จนชิน“จะมาหาเรื่องเหรอ ไปเถอะคุณ วันนี้อารมณ์ไม่ดี”เธอตอบกลับไป ไม่ไว้ใจชายตรงหน้าคนถูกกล่าวหาว่า หาเรื่อง หน้าตึง เรื่องอะไรจะปล่อยคนอย่างกริญจน์ยอมใครที่ไหน“หน้าตาก็ไม่ได้ดีมาก ปากก็ไม่ดีด้วย”“เอ๊ะคุณ หาเรื่องเหรอ เห็นทีต้องพึ่งตำรวจเสียแล้ว”เมื่อเอ่ยคำว่าตำรวจ ทำให้อีกฝ่ายยิ่งหน้าตึงเพราะไม่ถูกกับชื่อนี้ หวังจะมาแบบมิตรคุยดีด้วย แต่ฝ่ายนี้คงระวังตัวแจ งั้นไ
และนั่นต่อมา ก็ทำให้เธอพลอยตกใจด้วย“เอ ลุงคะ แล้วนี่ ลุงรู้จักกับคนขับรถเบ๊นซ์คันนั้นไหมล่ะคะ”และคนขับแท็กซี่คนเดิมสั่นหน้าอีกตอบ“โอ้ย ไม่หรอกอีหนู แต่ว่า ไอ้ประเภทที่มีการเฉี่ยวชนกับรถเบ๊นซ์ก็พอมีเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นไอ้พวกนี้”เมื่อคนขับพูดอย่างนั้น เลยพลอยทำให้จิตใจของฝ้ายนิลไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียแล้ว นี่เธอปะเหมาะเคราะห์ร้ายหรือเปล่าเหมือนกับคนหนีเสือมาปะจระเข้ด้วยหญิงสาวพยายามครุ่นคิดอย่างมีสติ“งั้น ลุง ก็ช่วยเร่งเครื่องแรงๆกว่านี้ได้ไหมคะ ไปหาจอดในย่านที่ชุมชนให้กับหนูหน่อย เอ้อ พอที่หนูจะหารถคันใหม่แทนได้ง่าย เพราะหนูอยากจะกลับบ้าน”ฝ้ายนิลบอกความประสงค์พร้อมทั้งพยายามชะเง้อมองหาคนขับรถเบ๊นซ์ เพราะว่าสีรถที่ดูเหมือนกับคุ้นเคย ว่าเห็นที่ไหนมาก่อน“อ๋อนี่ คิดจะเร่งเครื่องหนีอีกหรือยังไง”เลยทำให้กริญจ์สบถออกมาพร้อมกับเหยียบคันเร่งเพิ่มแบบไม่ลดละจนเขานั้นสามารถวิ่งแซงตีคู่กับรถแท็กซี่ คันที่เป็นเป้าหมายได้แล้วเพราะกริญจ์ขับรถขนาบอยู่ทางด้านขวา ดังนั้นเขาจึงลดไขกระจกลง เพื่อให้เห็นหน้าชัดเจนจากนั้นพอฝ้ายนิลมองเห็นหน้าชัดเจน ถึงกับตกใจในทันที“อ๋อ นายบ้า คนน
เพราะตอนนี้จะให้ทำอะไรได้ เพราะสถานการณ์มันบังคับอีกสำหรับฝ้ายนิล เจอคนบ้า อารมณ์เถื่อน หลังจากนั้นเขาใช้วิธีลากจูงมือพร้อมกับแกมบังคับหล่อนให้ไปกับเขาด้วยกันกับเขา“งั้นเอาแบบนี้ ไปคุยกันที่รถของฉัน”แม้เป็นคำพูดสั้นๆ ที่ทำให้เธอนั้นจะต้องยอมและเชื่อเขาไปง่ายๆ ในขณะนี้ เพราะไม่มีทางเลือกอะไรสำหรับเธอในขณะนี้เพราะหากถ้าเขาจะเอาไปฆ่าไปแกงอย่างไรก็ทำได้และเธอคงไม่รอดพ้นมือเขาเป็นแน่มีแต่ทางเสียเปรียบ ครั้นเมื่อหล่อนจ้องไปที่ใบหน้าของเขาซึ่งหน้าตาของเขานั้นไม่ได้น่าเกลียดสักหน่อย เพราะออกจะหล่อเหลา เอาการทีเดียวหากแต่ทำไมจิตใจเขาถึงเถื่อน ทมิฬ หินชาติอย่างนี้คือการใช้กำลังประทุษร้ายผู้หญิงอย่างนี้ถือว่าแสนเลวที่สุด“งั้นที่ฉันถามเธอในตอนนั้น ทำไมเธอถึงไม่ตอบ หรือเธอชอบผู้หญิงเพศเดียวกัน”ครั้นเมื่อเขาคิดไปแบบนี้เลยทำให้ฝ้ายนิลรีบรับสมอ้างทันที“ใช่ ใช่ละ เพราะฉันชอบแบบนั้น คือ ฉันไม่ชอบผู้ชายเลยสักนิด”“ฮึ ก็นั่น ไงฉันนึกแล้วไม่มีผิดเลย และมันก็แค่นี้เอง ที่ฉันอยากรู้ ชื่นชอบและนิยมตีฉิ่ง ก็ไม่บอกกันเสียแต่คราวแรก นี่ เธอมาทำให้ฉันอารมณ์เสียอย่างมาก ฮึ เอาล่ะไปเสียสิ ไปได้
นี่ มันอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ เพราะเขาก็ไม่สนใจพวกหล่อนเลย ดังนั้น เขา ชายหนุ่มที่หล่อเหลารูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวจัด และดวงตาดำมีเสน่ห์เส้นผมดำสนิทยามเขาเดินผ่านร้านรวงเหล่านั้นเส้นผมที่ปะทะพัดผ่านไปมาทำให้พะเยิบไหวไปตามแรงลม ริมฝีปากบางเหมือนลูกผู้ดี แต่ลึกลงไปเขาดูคล้ายเป็นคนเก็บกด เพราะไม่ชอบยิ้มให้ใครคิดว่า หากถ้าเขายิ้มโปรยออกมาบ้าง ก็จะทำให้เขาดูมีเสน่ห์เพิ่มกว่าเดิมมากที่สุดเพราะเป็นคนปากกว้างคางแหลม จมูกโด่งส่วนสูงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งกว่ามาตรฐานคนเอเชียด้วยซ้ำเพราะว่าเขานั้นมีส่วนสูงถึง182เซนติเมตรจากนั้นเขาตัดสินใจเข้าไปในร้านมินิมาร์ท ที่อยู่ใกล้ๆสักครู่ก็เดินออกมาอีกครั้ง ด้วยหมากฝรั่งสำหรับไว้เคี้ยวเล่นดับกลิ่นปาก กับน้ำผลไม้แช่เย็นกล่องหนึ่งเป็นน้ำกีวีฟรุตพร้อมกับบัตรเติมเงินจากนั้นก็เดินตรงไปไขกุญแจที่รถเก๋งของตนเองอีกครั้งก่อนจะสตาร์ทรถออกไปโดยที่ไม่มีจุดหมายปลายทางเหมือนเดิมบางทีเขาอาจจะไปหาเคียส เพื่อนรัก ที่คอนโดก็ได้ เอ หากถ้ามันไม่อยู่ หรือว่าไปต่างจังหวัด เขาจะทำยังไงดี ก็ต้องลองโทรหามันดูก่อนและเช้าของวันรุ่งขึ้น ในที่ทำงาน บริษัทที่ฝ้ายนิลทำงานอยู
เพราะตอนนี้จะให้ทำอะไรได้ เพราะสถานการณ์มันบังคับอีกสำหรับฝ้ายนิล เจอคนบ้า อารมณ์เถื่อน หลังจากนั้นเขาใช้วิธีลากจูงมือพร้อมกับแกมบังคับหล่อนให้ไปกับเขาด้วยกันกับเขา“งั้นเอาแบบนี้ ไปคุยกันที่รถของฉัน”แม้เป็นคำพูดสั้นๆ ที่ทำให้เธอนั้นจะต้องยอมและเชื่อเขาไปง่ายๆ ในขณะนี้ เพราะไม่มีทางเลือกอะไรสำหรับเธอในขณะนี้เพราะหากถ้าเขาจะเอาไปฆ่าไปแกงอย่างไรก็ทำได้และเธอคงไม่รอดพ้นมือเขาเป็นแน่มีแต่ทางเสียเปรียบ ครั้นเมื่อหล่อนจ้องไปที่ใบหน้าของเขาซึ่งหน้าตาของเขานั้นไม่ได้น่าเกลียดสักหน่อย เพราะออกจะหล่อเหลา เอาการทีเดียวหากแต่ทำไมจิตใจเขาถึงเถื่อน ทมิฬ หินชาติอย่างนี้คือการใช้กำลังประทุษร้ายผู้หญิงอย่างนี้ถือว่าแสนเลวที่สุด“งั้นที่ฉันถามเธอในตอนนั้น ทำไมเธอถึงไม่ตอบ หรือเธอชอบผู้หญิงเพศเดียวกัน”ครั้นเมื่อเขาคิดไปแบบนี้เลยทำให้ฝ้ายนิลรีบรับสมอ้างทันที“ใช่ ใช่ละ เพราะฉันชอบแบบนั้น คือ ฉันไม่ชอบผู้ชายเลยสักนิด”“ฮึ ก็นั่น ไงฉันนึกแล้วไม่มีผิดเลย และมันก็แค่นี้เอง ที่ฉันอยากรู้ ชื่นชอบและนิยมตีฉิ่ง ก็ไม่บอกกันเสียแต่คราวแรก นี่ เธอมาทำให้ฉันอารมณ์เสียอย่างมาก ฮึ เอาล่ะไปเสียสิ ไปได้
และนั่นต่อมา ก็ทำให้เธอพลอยตกใจด้วย“เอ ลุงคะ แล้วนี่ ลุงรู้จักกับคนขับรถเบ๊นซ์คันนั้นไหมล่ะคะ”และคนขับแท็กซี่คนเดิมสั่นหน้าอีกตอบ“โอ้ย ไม่หรอกอีหนู แต่ว่า ไอ้ประเภทที่มีการเฉี่ยวชนกับรถเบ๊นซ์ก็พอมีเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นไอ้พวกนี้”เมื่อคนขับพูดอย่างนั้น เลยพลอยทำให้จิตใจของฝ้ายนิลไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียแล้ว นี่เธอปะเหมาะเคราะห์ร้ายหรือเปล่าเหมือนกับคนหนีเสือมาปะจระเข้ด้วยหญิงสาวพยายามครุ่นคิดอย่างมีสติ“งั้น ลุง ก็ช่วยเร่งเครื่องแรงๆกว่านี้ได้ไหมคะ ไปหาจอดในย่านที่ชุมชนให้กับหนูหน่อย เอ้อ พอที่หนูจะหารถคันใหม่แทนได้ง่าย เพราะหนูอยากจะกลับบ้าน”ฝ้ายนิลบอกความประสงค์พร้อมทั้งพยายามชะเง้อมองหาคนขับรถเบ๊นซ์ เพราะว่าสีรถที่ดูเหมือนกับคุ้นเคย ว่าเห็นที่ไหนมาก่อน“อ๋อนี่ คิดจะเร่งเครื่องหนีอีกหรือยังไง”เลยทำให้กริญจ์สบถออกมาพร้อมกับเหยียบคันเร่งเพิ่มแบบไม่ลดละจนเขานั้นสามารถวิ่งแซงตีคู่กับรถแท็กซี่ คันที่เป็นเป้าหมายได้แล้วเพราะกริญจ์ขับรถขนาบอยู่ทางด้านขวา ดังนั้นเขาจึงลดไขกระจกลง เพื่อให้เห็นหน้าชัดเจนจากนั้นพอฝ้ายนิลมองเห็นหน้าชัดเจน ถึงกับตกใจในทันที“อ๋อ นายบ้า คนน
ผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ถูกใจเขานักทำให้กริญจ์มอง เพิ่งกลับจากไปส่งหวานใจกลับคอนโด ตามประสาผู้ชายเจ้าชู้พอชอบ อยากจีบทันทีผู้หญิงสวยเรียบดูไม่ฉูดฉาด ไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ กริญจ์ทำเจ้าชู้ที่ริมถนนค่อนข้างมืดหล่อนคงไม่เห็นนัยน์ตาของเขาหรอกน่าแต่แล้วฝ้ายนิลรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง มองจ้องแล้วเดินมาถึงที่หล่อนขายของเดินตามหล่อนใกล้เข้ามา และเขาทำท่าจะมาจีบหล่อน“คุณครับหันมาทางนี้หน่อย อยากจะรู้จักคุณจังเลย ชื่ออะไรครับ”เขาทักหล่อนแบบนี้ ทั้งที่ไม่รู้จักกันฝ้ายนิลเลยชะงัก แต่ลูกไม้ตื้นแบบนี้รู้ทัน เลยไม่อยากสนใจ อาจจะเป็นพวกขี้เมา พยายามหาทางลวนลามเห็นเธอเป็นแม่ค้าขายมาลัยริมทางก็จะมาเจ๊าะแจ๊ะแบบนี้มีบ่อย จนชิน“จะมาหาเรื่องเหรอ ไปเถอะคุณ วันนี้อารมณ์ไม่ดี”เธอตอบกลับไป ไม่ไว้ใจชายตรงหน้าคนถูกกล่าวหาว่า หาเรื่อง หน้าตึง เรื่องอะไรจะปล่อยคนอย่างกริญจน์ยอมใครที่ไหน“หน้าตาก็ไม่ได้ดีมาก ปากก็ไม่ดีด้วย”“เอ๊ะคุณ หาเรื่องเหรอ เห็นทีต้องพึ่งตำรวจเสียแล้ว”เมื่อเอ่ยคำว่าตำรวจ ทำให้อีกฝ่ายยิ่งหน้าตึงเพราะไม่ถูกกับชื่อนี้ หวังจะมาแบบมิตรคุยดีด้วย แต่ฝ่ายนี้คงระวังตัวแจ งั้นไ