เพราะตอนนี้จะให้ทำอะไรได้ เพราะสถานการณ์มันบังคับอีก
สำหรับฝ้ายนิล เจอคนบ้า อารมณ์เถื่อน
หลังจากนั้นเขาใช้วิธีลากจูงมือพร้อมกับแกมบังคับหล่อนให้ไปกับเขาด้วยกันกับเขา
“งั้นเอาแบบนี้ ไปคุยกันที่รถของฉัน”
แม้เป็นคำพูดสั้นๆ ที่ทำให้เธอนั้นจะต้องยอม
และเชื่อเขาไปง่ายๆ ในขณะนี้ เพราะไม่มีทางเลือกอะไรสำหรับเธอ
ในขณะนี้เพราะหากถ้าเขาจะเอาไปฆ่าไปแกงอย่างไรก็ทำได้
และเธอคงไม่รอดพ้นมือเขาเป็นแน่
มีแต่ทางเสียเปรียบ
ครั้นเมื่อหล่อนจ้องไปที่ใบหน้าของเขา
ซึ่งหน้าตาของเขานั้นไม่ได้น่าเกลียดสักหน่อย เพราะออกจะหล่อเหลา เอาการทีเดียว
หากแต่ทำไมจิตใจเขาถึงเถื่อน ทมิฬ หินชาติอย่างนี้
คือการใช้กำลังประทุษร้ายผู้หญิงอย่างนี้
ถือว่าแสนเลวที่สุด
“งั้นที่ฉันถามเธอในตอนนั้น ทำไมเธอถึงไม่ตอบ หรือเธอชอบผู้หญิงเพศเดียวกัน”
ครั้นเมื่อเขาคิดไปแบบนี้
เลยทำให้ฝ้ายนิลรีบรับสมอ้างทันที
“ใช่ ใช่ละ เพราะฉันชอบแบบนั้น คือ ฉันไม่ชอบผู้ชายเลยสักนิด”
“ฮึ ก็นั่น ไงฉันนึกแล้วไม่มีผิดเลย และมันก็แค่นี้เอง ที่ฉันอยากรู้ ชื่นชอบและนิยมตีฉิ่ง ก็ไม่บอกกันเสียแต่คราวแรก นี่ เธอมาทำให้ฉันอารมณ์เสียอย่างมาก ฮึ เอาล่ะไปเสียสิ ไปได้ ฉันปล่อยเธอแล้ว แล้วต่อไปอย่ามาทำแบบนี้อีกนะคือ อ่อยผู้ชาย”
อะไรกัน หล่อนนี่นะ หรือ อ่อยผู้ชาย บ้าที่สุด
พร้อมกันนั้นฝ้ายนิลก็ได้ทบทวนกับเรื่องที่เกิดขึ้นแบบสดๆร้อนๆกับตนเอง
มันเกิดขึ้นได้อย่างไรหนอ ถือว่าวันนี้โชคร้ายที่สุด
ก็แล้วทำไมละ จะต้องมาพบเจอะเจอกับผู้ชายปากร้าย ป่าเถื่อนคนนั้นด้วย
ผู้ชายอย่างเขา ที่มองเห็นความทุกข์ของคนอื่น เป็นเรื่องสนุกสนาน น่าล้อเล่น
จนกระทั่งหล่อนเดินเข้าไปข้างในตึก เพื่อกดลิฟต์ชั้นสามห้องที่พัก
สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ คือรีบอาบน้ำเปลี่ยนเครื่อง
แต่งกายเข้านอนเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องทำงานต่อ
และฝ้ายนิลไม่กล้าโทรศัพท์ไปเล่าให้ใครฟังทั้งสิ้น
แม้แต่ปวีณาเพราะเกรงจะไปรบกวนการหลับนอนที่แสนสุขของเพื่อน
เพราะเรื่องนี้หล่อนขอสาปส่งผู้ชายประเภทนี้
ก็ขออย่าได้พบเจออีกเลยเถอะเจ้าประคุ้น
ส่วนเขานั้นก้าวลงจากรถ แล้วเดินไปกดออดที่หน้าประตูรั้วอัลลอยด์สีทองของคฤหาสน์หลังงามตระหง่านเบื้องหน้า
สักครู่ก็มีร่างของสาวใช้นามว่า นางสาวเสริมสวยวิ่งกระหืดกระหอบมาเปิดประตู
ก่อนหน้านั้นแม่คุณเงยหน้ามองทางกระจกลูกชายของคุณท่านและนายท่านรูปหล่อ
และนางสาวเสริมสวยเต็มไปด้วยสีหน้าเขิน และทำท่าแบบอายม้วนต้วนบิดกายไปมา
ครั้นจากนั้นแล้วความคิดของนางสาวเสริมสวยก็แวบขึ้นและบันไดหินอ่อนที่สองเท้าของเขา เหยียบเข้ามา
ชะงักนิดหนึ่งเมื่อทราบว่ามีประตูผลักเปิดออกมา
นางสาวเสริมสวยหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
เขามองภาพ ไปที่นั่นเห็นด้านข้างเป็นไม้กวาด วางพิงไว้ใกล้กับประตูโค้งรูปตัวยู
ซึ่งเป็นประตูไม้สักลวดลายสลักเสลาวิจิตรของบ้าน ใกล้นั้นถัดไปเป็นชั้นวางรองเท้า
และเมื่อมองเข้าไปภายในห้องโถงกว้างของตัวบ้าน เป็นตู้เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ซึ่งจัดตั้งโชว์ของที่ระลึกต่างๆ
ถ้วยโถโอชามสมัยเก่ากับจานชามเบญจรงค์ เมื่อถึงห้องส่วนตัวของเขาแล้ว
กริญจ์ยืนครุ่นคิด พร้อมกับกรามทั้งสองของเขานั้นบดเข้าหากัน เมื่อมือหนึ่งนั้นล้วงแผ่นกระดาษแข็งคล้ายๆกับเป็นนามบัตร
แล้วหยิบขึ้นมาดูนิดหนึ่งพร้อมกับพิจารณา
นางสาว ฝ้ายนิล ตำแหน่งพนักงานผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หากเขายิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
ได้การล่ะ เขาไม่เคยถูกผู้หญิงหลอก
มีแต่หลอกผู้หญิงฝ่ายเดียว
แต่นี่ เมื่อมาเจอเข้ากับตัวเอง เขานั้นจึงเกิดโกรธ ที่หล่อนบอกว่า หล่อนชอบเล่นกีฬาตีฉิ่ง นั่นหล่อนโกหกเขาทั้งเพ เพราะเขาเพิ่งนึกได้
แม่สาวเลสเบี้ยนตัวปลอม
เขารู้แต่ว่าตนเองถูกหลอก เพียงแค่นี้ก็เก็บเอามาเป็นอารมณ์
สำหรับเขานึกเซ็งที่กลับเข้ามาในบ้าน ไม่น่ารีบกลับเลย คิดผิด งั้นออกไปข้างนอกต่อดีกว่า
เลยต้องผลุนผลันออกมาจากบ้านไปอีกครั้ง
ตอนนี้ รู้แต่ว่ามันมีความอัดอั้นและพล่านไปหมด
หากว่า หนุ่มหล่อตาสวยอย่างกริญจ์ เขาขับรถไปเรื่อยๆอีกครั้ง กินลมชมวิว
แต่หัวใจนั้นดูเอื่อยเฉื่อย และบนท้องถนนที่หมู่ตึกรามเหล่านั้นประดับไปด้วยแสงไฟริมสองข้างทาง พราวพร่างตาไปหมด
กับดวงไฟที่สีฉูดฉาดกลางมหานคร ผิวหน้าขาวจัดของเขาเย็นจนแผ่ซ่านเพราะแรงขับจากแอร์ จากนั้นเขาเป่าพ่นลมหายใจออกอย่างช้าๆ
ท่ามกลางแสงไฟที่ล้อมจนดูพราวอาบผ่านใบหน้า
หากดวงไฟสีฉูดฉาดเหล่านั้นเมื่อยามตัดผ่านร่างของเขาจนเกิดเป็นสีสันแปลกตา
เพราะเขานั้นมีรูปร่างสูงโปร่ง มีดวงตาคู่สวย ปากและหน้าออกไปทางหวานสีอมชมพู
หากมองดูแล้ว ส่วนหนึ่งมีทั้งความคมคายและคมเข้ม อยู่ในตัวตนบุคคลคนเดียวกัน
เพราะเขาเป็นบุรุษเพศ ไม่ใช่สตรีเพศ
ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะแปลกๆไม่ค่อยได้พบเจอจากผู้ชายคนไหน เสื้อผ้าที่ดูหรูหราเช่นเดิม
เขาหยิบลูกกุญแจติดมือเมื่อเทียบจอดรถคันหรูชิดติดกับริมฟุตบาธ หยิบติดมือมาด้วย
แล้วก้าวผ่านรวงร้านเหล่านั้นในราตรีดึกสงัดที่ยังมีผู้คนเดินพลุกพล่านอยู่ในขณะนี้
ซึ่งเรียกได้ว่า ในสถานบริการแห่งนั้น ก็ดูเหมือนยังหนาแน่นด้วยผู้คน
ส่วนภาพของแม่สาวเหล่านั้นแต่งกายด้วยชุดกระโปรงหลากสีสัน นุ่งน้อยห่มน้อย โชว์สรีระยักคิ้วหลิ่วตา
เอ่ยเชิญชวนให้เขาเข้าไปใช้บริการภายในร้านของเจ้าหล่อน
หากแต่นัยน์ตาของเขานั้นกลับนิ่งและสงบเงียบ แล้วเขาก็ไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา
ถึงแม้จะรับรู้ว่ามีสายตาของสาวน้อยหลายคนนั้น ที่พุ่งตรงมายังเขาด้วยเสน่หา และประกายแวววามหว่านโปรย
ซึ่งสายตาเหล่านั้น เหมือนจะมารุมทึ้งกินความหล่อเหลาของเขาเลยทีเดียว
นี่ มันอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ เพราะเขาก็ไม่สนใจพวกหล่อนเลย ดังนั้น เขา ชายหนุ่มที่หล่อเหลารูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวจัด และดวงตาดำมีเสน่ห์เส้นผมดำสนิทยามเขาเดินผ่านร้านรวงเหล่านั้นเส้นผมที่ปะทะพัดผ่านไปมาทำให้พะเยิบไหวไปตามแรงลม ริมฝีปากบางเหมือนลูกผู้ดี แต่ลึกลงไปเขาดูคล้ายเป็นคนเก็บกด เพราะไม่ชอบยิ้มให้ใครคิดว่า หากถ้าเขายิ้มโปรยออกมาบ้าง ก็จะทำให้เขาดูมีเสน่ห์เพิ่มกว่าเดิมมากที่สุดเพราะเป็นคนปากกว้างคางแหลม จมูกโด่งส่วนสูงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งกว่ามาตรฐานคนเอเชียด้วยซ้ำเพราะว่าเขานั้นมีส่วนสูงถึง182เซนติเมตรจากนั้นเขาตัดสินใจเข้าไปในร้านมินิมาร์ท ที่อยู่ใกล้ๆสักครู่ก็เดินออกมาอีกครั้ง ด้วยหมากฝรั่งสำหรับไว้เคี้ยวเล่นดับกลิ่นปาก กับน้ำผลไม้แช่เย็นกล่องหนึ่งเป็นน้ำกีวีฟรุตพร้อมกับบัตรเติมเงินจากนั้นก็เดินตรงไปไขกุญแจที่รถเก๋งของตนเองอีกครั้งก่อนจะสตาร์ทรถออกไปโดยที่ไม่มีจุดหมายปลายทางเหมือนเดิมบางทีเขาอาจจะไปหาเคียส เพื่อนรัก ที่คอนโดก็ได้ เอ หากถ้ามันไม่อยู่ หรือว่าไปต่างจังหวัด เขาจะทำยังไงดี ก็ต้องลองโทรหามันดูก่อนและเช้าของวันรุ่งขึ้น ในที่ทำงาน บริษัทที่ฝ้ายนิลทำงานอยู
ผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ถูกใจเขานักทำให้กริญจ์มอง เพิ่งกลับจากไปส่งหวานใจกลับคอนโด ตามประสาผู้ชายเจ้าชู้พอชอบ อยากจีบทันทีผู้หญิงสวยเรียบดูไม่ฉูดฉาด ไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ กริญจ์ทำเจ้าชู้ที่ริมถนนค่อนข้างมืดหล่อนคงไม่เห็นนัยน์ตาของเขาหรอกน่าแต่แล้วฝ้ายนิลรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง มองจ้องแล้วเดินมาถึงที่หล่อนขายของเดินตามหล่อนใกล้เข้ามา และเขาทำท่าจะมาจีบหล่อน“คุณครับหันมาทางนี้หน่อย อยากจะรู้จักคุณจังเลย ชื่ออะไรครับ”เขาทักหล่อนแบบนี้ ทั้งที่ไม่รู้จักกันฝ้ายนิลเลยชะงัก แต่ลูกไม้ตื้นแบบนี้รู้ทัน เลยไม่อยากสนใจ อาจจะเป็นพวกขี้เมา พยายามหาทางลวนลามเห็นเธอเป็นแม่ค้าขายมาลัยริมทางก็จะมาเจ๊าะแจ๊ะแบบนี้มีบ่อย จนชิน“จะมาหาเรื่องเหรอ ไปเถอะคุณ วันนี้อารมณ์ไม่ดี”เธอตอบกลับไป ไม่ไว้ใจชายตรงหน้าคนถูกกล่าวหาว่า หาเรื่อง หน้าตึง เรื่องอะไรจะปล่อยคนอย่างกริญจน์ยอมใครที่ไหน“หน้าตาก็ไม่ได้ดีมาก ปากก็ไม่ดีด้วย”“เอ๊ะคุณ หาเรื่องเหรอ เห็นทีต้องพึ่งตำรวจเสียแล้ว”เมื่อเอ่ยคำว่าตำรวจ ทำให้อีกฝ่ายยิ่งหน้าตึงเพราะไม่ถูกกับชื่อนี้ หวังจะมาแบบมิตรคุยดีด้วย แต่ฝ่ายนี้คงระวังตัวแจ งั้นไ
และนั่นต่อมา ก็ทำให้เธอพลอยตกใจด้วย“เอ ลุงคะ แล้วนี่ ลุงรู้จักกับคนขับรถเบ๊นซ์คันนั้นไหมล่ะคะ”และคนขับแท็กซี่คนเดิมสั่นหน้าอีกตอบ“โอ้ย ไม่หรอกอีหนู แต่ว่า ไอ้ประเภทที่มีการเฉี่ยวชนกับรถเบ๊นซ์ก็พอมีเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นไอ้พวกนี้”เมื่อคนขับพูดอย่างนั้น เลยพลอยทำให้จิตใจของฝ้ายนิลไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียแล้ว นี่เธอปะเหมาะเคราะห์ร้ายหรือเปล่าเหมือนกับคนหนีเสือมาปะจระเข้ด้วยหญิงสาวพยายามครุ่นคิดอย่างมีสติ“งั้น ลุง ก็ช่วยเร่งเครื่องแรงๆกว่านี้ได้ไหมคะ ไปหาจอดในย่านที่ชุมชนให้กับหนูหน่อย เอ้อ พอที่หนูจะหารถคันใหม่แทนได้ง่าย เพราะหนูอยากจะกลับบ้าน”ฝ้ายนิลบอกความประสงค์พร้อมทั้งพยายามชะเง้อมองหาคนขับรถเบ๊นซ์ เพราะว่าสีรถที่ดูเหมือนกับคุ้นเคย ว่าเห็นที่ไหนมาก่อน“อ๋อนี่ คิดจะเร่งเครื่องหนีอีกหรือยังไง”เลยทำให้กริญจ์สบถออกมาพร้อมกับเหยียบคันเร่งเพิ่มแบบไม่ลดละจนเขานั้นสามารถวิ่งแซงตีคู่กับรถแท็กซี่ คันที่เป็นเป้าหมายได้แล้วเพราะกริญจ์ขับรถขนาบอยู่ทางด้านขวา ดังนั้นเขาจึงลดไขกระจกลง เพื่อให้เห็นหน้าชัดเจนจากนั้นพอฝ้ายนิลมองเห็นหน้าชัดเจน ถึงกับตกใจในทันที“อ๋อ นายบ้า คนน
นี่ มันอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ เพราะเขาก็ไม่สนใจพวกหล่อนเลย ดังนั้น เขา ชายหนุ่มที่หล่อเหลารูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวจัด และดวงตาดำมีเสน่ห์เส้นผมดำสนิทยามเขาเดินผ่านร้านรวงเหล่านั้นเส้นผมที่ปะทะพัดผ่านไปมาทำให้พะเยิบไหวไปตามแรงลม ริมฝีปากบางเหมือนลูกผู้ดี แต่ลึกลงไปเขาดูคล้ายเป็นคนเก็บกด เพราะไม่ชอบยิ้มให้ใครคิดว่า หากถ้าเขายิ้มโปรยออกมาบ้าง ก็จะทำให้เขาดูมีเสน่ห์เพิ่มกว่าเดิมมากที่สุดเพราะเป็นคนปากกว้างคางแหลม จมูกโด่งส่วนสูงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งกว่ามาตรฐานคนเอเชียด้วยซ้ำเพราะว่าเขานั้นมีส่วนสูงถึง182เซนติเมตรจากนั้นเขาตัดสินใจเข้าไปในร้านมินิมาร์ท ที่อยู่ใกล้ๆสักครู่ก็เดินออกมาอีกครั้ง ด้วยหมากฝรั่งสำหรับไว้เคี้ยวเล่นดับกลิ่นปาก กับน้ำผลไม้แช่เย็นกล่องหนึ่งเป็นน้ำกีวีฟรุตพร้อมกับบัตรเติมเงินจากนั้นก็เดินตรงไปไขกุญแจที่รถเก๋งของตนเองอีกครั้งก่อนจะสตาร์ทรถออกไปโดยที่ไม่มีจุดหมายปลายทางเหมือนเดิมบางทีเขาอาจจะไปหาเคียส เพื่อนรัก ที่คอนโดก็ได้ เอ หากถ้ามันไม่อยู่ หรือว่าไปต่างจังหวัด เขาจะทำยังไงดี ก็ต้องลองโทรหามันดูก่อนและเช้าของวันรุ่งขึ้น ในที่ทำงาน บริษัทที่ฝ้ายนิลทำงานอยู
เพราะตอนนี้จะให้ทำอะไรได้ เพราะสถานการณ์มันบังคับอีกสำหรับฝ้ายนิล เจอคนบ้า อารมณ์เถื่อน หลังจากนั้นเขาใช้วิธีลากจูงมือพร้อมกับแกมบังคับหล่อนให้ไปกับเขาด้วยกันกับเขา“งั้นเอาแบบนี้ ไปคุยกันที่รถของฉัน”แม้เป็นคำพูดสั้นๆ ที่ทำให้เธอนั้นจะต้องยอมและเชื่อเขาไปง่ายๆ ในขณะนี้ เพราะไม่มีทางเลือกอะไรสำหรับเธอในขณะนี้เพราะหากถ้าเขาจะเอาไปฆ่าไปแกงอย่างไรก็ทำได้และเธอคงไม่รอดพ้นมือเขาเป็นแน่มีแต่ทางเสียเปรียบ ครั้นเมื่อหล่อนจ้องไปที่ใบหน้าของเขาซึ่งหน้าตาของเขานั้นไม่ได้น่าเกลียดสักหน่อย เพราะออกจะหล่อเหลา เอาการทีเดียวหากแต่ทำไมจิตใจเขาถึงเถื่อน ทมิฬ หินชาติอย่างนี้คือการใช้กำลังประทุษร้ายผู้หญิงอย่างนี้ถือว่าแสนเลวที่สุด“งั้นที่ฉันถามเธอในตอนนั้น ทำไมเธอถึงไม่ตอบ หรือเธอชอบผู้หญิงเพศเดียวกัน”ครั้นเมื่อเขาคิดไปแบบนี้เลยทำให้ฝ้ายนิลรีบรับสมอ้างทันที“ใช่ ใช่ละ เพราะฉันชอบแบบนั้น คือ ฉันไม่ชอบผู้ชายเลยสักนิด”“ฮึ ก็นั่น ไงฉันนึกแล้วไม่มีผิดเลย และมันก็แค่นี้เอง ที่ฉันอยากรู้ ชื่นชอบและนิยมตีฉิ่ง ก็ไม่บอกกันเสียแต่คราวแรก นี่ เธอมาทำให้ฉันอารมณ์เสียอย่างมาก ฮึ เอาล่ะไปเสียสิ ไปได้
และนั่นต่อมา ก็ทำให้เธอพลอยตกใจด้วย“เอ ลุงคะ แล้วนี่ ลุงรู้จักกับคนขับรถเบ๊นซ์คันนั้นไหมล่ะคะ”และคนขับแท็กซี่คนเดิมสั่นหน้าอีกตอบ“โอ้ย ไม่หรอกอีหนู แต่ว่า ไอ้ประเภทที่มีการเฉี่ยวชนกับรถเบ๊นซ์ก็พอมีเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นไอ้พวกนี้”เมื่อคนขับพูดอย่างนั้น เลยพลอยทำให้จิตใจของฝ้ายนิลไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียแล้ว นี่เธอปะเหมาะเคราะห์ร้ายหรือเปล่าเหมือนกับคนหนีเสือมาปะจระเข้ด้วยหญิงสาวพยายามครุ่นคิดอย่างมีสติ“งั้น ลุง ก็ช่วยเร่งเครื่องแรงๆกว่านี้ได้ไหมคะ ไปหาจอดในย่านที่ชุมชนให้กับหนูหน่อย เอ้อ พอที่หนูจะหารถคันใหม่แทนได้ง่าย เพราะหนูอยากจะกลับบ้าน”ฝ้ายนิลบอกความประสงค์พร้อมทั้งพยายามชะเง้อมองหาคนขับรถเบ๊นซ์ เพราะว่าสีรถที่ดูเหมือนกับคุ้นเคย ว่าเห็นที่ไหนมาก่อน“อ๋อนี่ คิดจะเร่งเครื่องหนีอีกหรือยังไง”เลยทำให้กริญจ์สบถออกมาพร้อมกับเหยียบคันเร่งเพิ่มแบบไม่ลดละจนเขานั้นสามารถวิ่งแซงตีคู่กับรถแท็กซี่ คันที่เป็นเป้าหมายได้แล้วเพราะกริญจ์ขับรถขนาบอยู่ทางด้านขวา ดังนั้นเขาจึงลดไขกระจกลง เพื่อให้เห็นหน้าชัดเจนจากนั้นพอฝ้ายนิลมองเห็นหน้าชัดเจน ถึงกับตกใจในทันที“อ๋อ นายบ้า คนน
ผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ถูกใจเขานักทำให้กริญจ์มอง เพิ่งกลับจากไปส่งหวานใจกลับคอนโด ตามประสาผู้ชายเจ้าชู้พอชอบ อยากจีบทันทีผู้หญิงสวยเรียบดูไม่ฉูดฉาด ไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ กริญจ์ทำเจ้าชู้ที่ริมถนนค่อนข้างมืดหล่อนคงไม่เห็นนัยน์ตาของเขาหรอกน่าแต่แล้วฝ้ายนิลรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง มองจ้องแล้วเดินมาถึงที่หล่อนขายของเดินตามหล่อนใกล้เข้ามา และเขาทำท่าจะมาจีบหล่อน“คุณครับหันมาทางนี้หน่อย อยากจะรู้จักคุณจังเลย ชื่ออะไรครับ”เขาทักหล่อนแบบนี้ ทั้งที่ไม่รู้จักกันฝ้ายนิลเลยชะงัก แต่ลูกไม้ตื้นแบบนี้รู้ทัน เลยไม่อยากสนใจ อาจจะเป็นพวกขี้เมา พยายามหาทางลวนลามเห็นเธอเป็นแม่ค้าขายมาลัยริมทางก็จะมาเจ๊าะแจ๊ะแบบนี้มีบ่อย จนชิน“จะมาหาเรื่องเหรอ ไปเถอะคุณ วันนี้อารมณ์ไม่ดี”เธอตอบกลับไป ไม่ไว้ใจชายตรงหน้าคนถูกกล่าวหาว่า หาเรื่อง หน้าตึง เรื่องอะไรจะปล่อยคนอย่างกริญจน์ยอมใครที่ไหน“หน้าตาก็ไม่ได้ดีมาก ปากก็ไม่ดีด้วย”“เอ๊ะคุณ หาเรื่องเหรอ เห็นทีต้องพึ่งตำรวจเสียแล้ว”เมื่อเอ่ยคำว่าตำรวจ ทำให้อีกฝ่ายยิ่งหน้าตึงเพราะไม่ถูกกับชื่อนี้ หวังจะมาแบบมิตรคุยดีด้วย แต่ฝ่ายนี้คงระวังตัวแจ งั้นไ