ผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ถูกใจเขานัก
ทำให้กริญจ์มอง เพิ่งกลับจากไปส่งหวานใจกลับคอนโด ตามประสาผู้ชายเจ้าชู้
พอชอบ อยากจีบทันที
ผู้หญิงสวยเรียบดูไม่ฉูดฉาด ไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ กริญจ์ทำเจ้าชู้ที่ริมถนนค่อนข้างมืด
หล่อนคงไม่เห็นนัยน์ตาของเขาหรอกน่า
แต่แล้วฝ้ายนิลรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง มองจ้อง
แล้วเดินมาถึงที่หล่อนขายของ
เดินตามหล่อนใกล้เข้ามา และเขาทำท่าจะมาจีบหล่อน
“คุณครับหันมาทางนี้หน่อย อยากจะรู้จักคุณจังเลย ชื่ออะไรครับ”
เขาทักหล่อนแบบนี้ ทั้งที่ไม่รู้จักกัน
ฝ้ายนิลเลยชะงัก แต่ลูกไม้ตื้นแบบนี้รู้ทัน เลยไม่อยากสนใจ อาจจะเป็นพวกขี้เมา พยายามหาทางลวนลามเห็นเธอเป็นแม่ค้าขายมาลัยริมทางก็จะมาเจ๊าะแจ๊ะแบบนี้มีบ่อย จนชิน
“จะมาหาเรื่องเหรอ ไปเถอะคุณ วันนี้อารมณ์ไม่ดี”
เธอตอบกลับไป ไม่ไว้ใจชายตรงหน้า
คนถูกกล่าวหาว่า หาเรื่อง หน้าตึง
เรื่องอะไรจะปล่อย
คนอย่างกริญจน์ยอมใครที่ไหน
“หน้าตาก็ไม่ได้ดีมาก ปากก็ไม่ดีด้วย”
“เอ๊ะคุณ หาเรื่องเหรอ เห็นทีต้องพึ่งตำรวจเสียแล้ว”
เมื่อเอ่ยคำว่าตำรวจ ทำให้อีกฝ่ายยิ่งหน้าตึง
เพราะไม่ถูกกับชื่อนี้ หวังจะมาแบบมิตรคุยดีด้วย แต่ฝ่ายนี้คงระวังตัวแจ
งั้นไปก่อนเถอะ วันหลังยังมีอีก
จากนั้นกริญจน์ก็เดินไปที่รถ ขับออกไปทันที
ฝ้ายนิลถอนใจ มองตามเห็นชายคนนั้นเดินไปในความมืดแล้วขับรถออกไป นี่มันอะไรของเธอนี่
เจอแต่ละเรื่อง ชวนปวดหัวที่สุด ไม่พวกเมาเหล้าก็เมายา
เขาต้องมาครุ่นคิดเพราะไม่พอใจ ที่เหมือนเธอหยิ่ง ไม่สนใจเขาไม่เคยมีใครทำกับเขาแบบนี้
ใบหน้ากริญจ์เข้มขึ้นในความมืด และพาลหงุดหงิด ไม่พอใจนักถ้าผู้หญิงจะมาเล่นตัว หน้าตาของเขาออกจะหล่อเหลาสุภาพ สาวตอมกันเกรียวเหมือนแมงหวี่แมลงวัน ขอหลบมุมก่อน พอมีจังหวะจึงเดินกลับมาอีกครั้ง สาวน้อยคนเดิมยังอยู่
“ถามดีๆ ก็ตอบดีสิ”
“แน่ใจหรือว่า คุณมาดี” เธอเถียง
“อ้าว พูดได้นี่ นึกว่าไม่ได้เอาปากมาด้วยซะแล้ว แค่อยากจะรู้จักคุณ แค่นี้ ถึงกับ ต้องเดินหนีด้วยหรือ”
“ใช่ ถ้าคุณ เป็นผู้ชายเจ้าชู้ละก็ กรุณาหลีกไปไกลเลย นะ ฮึ เพราะฉันนั้นเกลียดพวกผู้ชาย”
ทำให้เขารู้สาเหตุที่แท้จริงว่าอย่างนี้เอง
อ้อ หรือว่าหล่อนจะไม่ใช่หญิงแท้
แต่เป็นหญิงรักหญิง ขอบผู้หญิงด้วยกัน
ไม่น่าเชื่อเลยนะ เพราะหล่อนเป็นคนสวยมากมายอยู่หรอก แถมน่ารักอีกต่างหาก
ในปัจจุบัน เป็นเรื่องปกติไปแล้ว นี่ นายกริญจ์ เขาโง่เองไม่น่าเข้าไปทักหล่อนเลย ดูท่าจะปากร้าย และสายตาไม่เป็นมิตร
“อ้อ คุณถ้าเกลียดผู้ชาย งั้นคุณก็ต้องชอบผู้หญิง”
เขาเถียงกลับไป เหมือนเป็นการเกี้ยวจีบในตัว
ฝ้ายนิลไม่อยากตอบคำถามของเขา แต่อดไม่ได้
เมื่อเขายวนมา หล่อนก็คันปากไม่น้อย
“นี่คุณคะไม่ใช่ธุระอะไรของคุณสักหน่อย และถ้าฉัน จะรักจะเกลียดใคร ก็เรื่องของฉัน กับคุณ คนแปลกหน้า ฉัน ไม่ได้รู้จักสักหน่อย”
หล่อนตอบไปอย่างนี้ หากเขาสวนออกมาทันที
เหมือนรอจังหวะและโอกาส
“อ้าว คุณครับ ผมอยากจะรู้จักกับคุณนี่”
“เอ๊ะ” หล่อนนึกเคืองที่ผู้ชายคนนี้พาล เลยมีคำตอบที่หลุดออกมาจากปากของหล่อนรุนแรงทันที อย่างไม่สนใจ
“ขอโทษค่ะ เสียใจใสเจีย ด้วยนะคะ ขอเชิญคุณไปหาเอาข้างหน้าเถอะค่ะ”
คำตอบของหล่อนมันดังเข้าใส่หูของเขาโครมใหญ่ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงประเภทปากร้าย ด่าทันควันแบบนี้ ถ้าไม่พอใจ
เพราะผู้หญิงที่คบกับเขา และเป็นผู้หญิงของเขาพวกหล่อนมักจะไหลหลงในตัวเขา พูดจาอ่อนหวานเอาอกเอาใจ
หากแต่ผู้หญิงคนนี้กลับตรงกันข้าม
ท่าทางหล่อนเหมือนไล่ตะเพิดเหมือนไม่แยแส
และไม่กลัวเขาอีกต่างหาก
เป็นผู้หญิงขาลุยนี่นา
ทำให้กริญจน์ ยิ่งอยากจะสนใจและอยากรู้จักบ้านช่องห้องหอของหล่อนเสียแล้ว
เอ งั้น ขับรถตามไปดีกว่า เล่นตัวดีนัก เพราะเห็นว่าเหมือน หล่อนจะยืนรอรถ
คงรอนั่งแท็กซี่กลับหรือเปล่า คันไหน
พอเห็นเขาจะขับรถตามคันนั้นไปเลย เพราะจะได้รู้ว่า เขานั้นจีบผู้หญิงคนไหนไม่เคยพลาดเป้าหมายเลย ถ้าต้องการ
เจ้าหล่อนก็โบกรถแท็กซี่คันนั้นไปเสียแล้ว เพราะหล่อนผลุบหายเข้าไปนั่ง จากนั้นแท็กซี่ก็ออกตัว พุ่งลิ่วไปบนถนนข้างหน้า
อ้าวเฮ้ย กริญจ์ ช้าไม่ได้แล้ว ไอ้เสือ
ซึ่งเป็นเวลาสามทุ่มครึ่งเท่านั้นเอง กริญจ์ยกต้นแขนเพื่อดูเวลา ทำให้เขานั้นต้องเร่งเครื่องเพื่อให้ ทันเจ้ารถแท็กซี่สีและทะเบียนคันดังกล่าว ซึ่งมีผู้หญิงปากกล้า หล่อนนั่งอยู่ในนั้นด้วย
ใกล้เข้ามาแล้วทุกขณะ มองเห็นชัด
เจ้าแท็กซี่คันนั้น คนขับทำท่าจะรู้ตัวว่ามี
รถเบ๊นซ์ราคาแพงวิ่งจี้ตามมาติดๆ เหมือนสะกดรอยตาม และด้วยห่วงสวัสดิภาพ คนขับพยายามครุ่นคิด
กลัวเจ้าของรถเบ๊นซ์มีปืน ติดมือมาด้วย หากมันลั่นโป้งป้างขึ้นมาล่ะ มันเคยมีข่าวบ่อยๆ
อย่างที่เห็นเพื่อนอาชีพเดียวกันซึ่งเคราะห์ร้ายทางหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย คู่กรณีเลือดร้อน พวกโจ๋วัยรุ่นอารมณ์เดือด
จนผู้โดยสารสาวมองเห็นแล้ว หล่อนก็ชักสีหน้า และมีท่าทีแบบงุนงง ไม่ไว้ใจ
“เอ้อ เป็นอะไรไปคะ ลุง ดูแล้วท่าทางเหมือนลุงกลัวอะไรบางอย่าง”
“ใช่ จะไม่ให้ลุง กลัวได้ไงล่ะอีหนู เอ้ย ดูข้างหลังนั่นสิ คันที่วิ่งรถ เข้ามาจ่อติดๆ กับลุง นี่มันคงมาหาเรื่องลุงอย่างแน่นอนเลย เอาไงดี สังเกตดูนานแล้ว มันไม่ยอมขับแซงไปเสียที”
แล้วชายคนขับก็บุ้ยใบ้พร้อมกับชี้มือไป
เลยทำให้ฝ้ายนิล นั้นตัดสินใจเหลียวหันไปมองตามบ้าง ก็เห็นรถเบ๊นซ์สีบรอนซ์คันดังกล่าว ขับตามมาแบบจี้ๆใกล้จะชนตูดจริง
หากแต่ยังมองไม่เห็นคนขับรถเลย
และนั่นต่อมา ก็ทำให้เธอพลอยตกใจด้วย“เอ ลุงคะ แล้วนี่ ลุงรู้จักกับคนขับรถเบ๊นซ์คันนั้นไหมล่ะคะ”และคนขับแท็กซี่คนเดิมสั่นหน้าอีกตอบ“โอ้ย ไม่หรอกอีหนู แต่ว่า ไอ้ประเภทที่มีการเฉี่ยวชนกับรถเบ๊นซ์ก็พอมีเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นไอ้พวกนี้”เมื่อคนขับพูดอย่างนั้น เลยพลอยทำให้จิตใจของฝ้ายนิลไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียแล้ว นี่เธอปะเหมาะเคราะห์ร้ายหรือเปล่าเหมือนกับคนหนีเสือมาปะจระเข้ด้วยหญิงสาวพยายามครุ่นคิดอย่างมีสติ“งั้น ลุง ก็ช่วยเร่งเครื่องแรงๆกว่านี้ได้ไหมคะ ไปหาจอดในย่านที่ชุมชนให้กับหนูหน่อย เอ้อ พอที่หนูจะหารถคันใหม่แทนได้ง่าย เพราะหนูอยากจะกลับบ้าน”ฝ้ายนิลบอกความประสงค์พร้อมทั้งพยายามชะเง้อมองหาคนขับรถเบ๊นซ์ เพราะว่าสีรถที่ดูเหมือนกับคุ้นเคย ว่าเห็นที่ไหนมาก่อน“อ๋อนี่ คิดจะเร่งเครื่องหนีอีกหรือยังไง”เลยทำให้กริญจ์สบถออกมาพร้อมกับเหยียบคันเร่งเพิ่มแบบไม่ลดละจนเขานั้นสามารถวิ่งแซงตีคู่กับรถแท็กซี่ คันที่เป็นเป้าหมายได้แล้วเพราะกริญจ์ขับรถขนาบอยู่ทางด้านขวา ดังนั้นเขาจึงลดไขกระจกลง เพื่อให้เห็นหน้าชัดเจนจากนั้นพอฝ้ายนิลมองเห็นหน้าชัดเจน ถึงกับตกใจในทันที“อ๋อ นายบ้า คนน
เพราะตอนนี้จะให้ทำอะไรได้ เพราะสถานการณ์มันบังคับอีกสำหรับฝ้ายนิล เจอคนบ้า อารมณ์เถื่อน หลังจากนั้นเขาใช้วิธีลากจูงมือพร้อมกับแกมบังคับหล่อนให้ไปกับเขาด้วยกันกับเขา“งั้นเอาแบบนี้ ไปคุยกันที่รถของฉัน”แม้เป็นคำพูดสั้นๆ ที่ทำให้เธอนั้นจะต้องยอมและเชื่อเขาไปง่ายๆ ในขณะนี้ เพราะไม่มีทางเลือกอะไรสำหรับเธอในขณะนี้เพราะหากถ้าเขาจะเอาไปฆ่าไปแกงอย่างไรก็ทำได้และเธอคงไม่รอดพ้นมือเขาเป็นแน่มีแต่ทางเสียเปรียบ ครั้นเมื่อหล่อนจ้องไปที่ใบหน้าของเขาซึ่งหน้าตาของเขานั้นไม่ได้น่าเกลียดสักหน่อย เพราะออกจะหล่อเหลา เอาการทีเดียวหากแต่ทำไมจิตใจเขาถึงเถื่อน ทมิฬ หินชาติอย่างนี้คือการใช้กำลังประทุษร้ายผู้หญิงอย่างนี้ถือว่าแสนเลวที่สุด“งั้นที่ฉันถามเธอในตอนนั้น ทำไมเธอถึงไม่ตอบ หรือเธอชอบผู้หญิงเพศเดียวกัน”ครั้นเมื่อเขาคิดไปแบบนี้เลยทำให้ฝ้ายนิลรีบรับสมอ้างทันที“ใช่ ใช่ละ เพราะฉันชอบแบบนั้น คือ ฉันไม่ชอบผู้ชายเลยสักนิด”“ฮึ ก็นั่น ไงฉันนึกแล้วไม่มีผิดเลย และมันก็แค่นี้เอง ที่ฉันอยากรู้ ชื่นชอบและนิยมตีฉิ่ง ก็ไม่บอกกันเสียแต่คราวแรก นี่ เธอมาทำให้ฉันอารมณ์เสียอย่างมาก ฮึ เอาล่ะไปเสียสิ ไปได้
นี่ มันอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ เพราะเขาก็ไม่สนใจพวกหล่อนเลย ดังนั้น เขา ชายหนุ่มที่หล่อเหลารูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวจัด และดวงตาดำมีเสน่ห์เส้นผมดำสนิทยามเขาเดินผ่านร้านรวงเหล่านั้นเส้นผมที่ปะทะพัดผ่านไปมาทำให้พะเยิบไหวไปตามแรงลม ริมฝีปากบางเหมือนลูกผู้ดี แต่ลึกลงไปเขาดูคล้ายเป็นคนเก็บกด เพราะไม่ชอบยิ้มให้ใครคิดว่า หากถ้าเขายิ้มโปรยออกมาบ้าง ก็จะทำให้เขาดูมีเสน่ห์เพิ่มกว่าเดิมมากที่สุดเพราะเป็นคนปากกว้างคางแหลม จมูกโด่งส่วนสูงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งกว่ามาตรฐานคนเอเชียด้วยซ้ำเพราะว่าเขานั้นมีส่วนสูงถึง182เซนติเมตรจากนั้นเขาตัดสินใจเข้าไปในร้านมินิมาร์ท ที่อยู่ใกล้ๆสักครู่ก็เดินออกมาอีกครั้ง ด้วยหมากฝรั่งสำหรับไว้เคี้ยวเล่นดับกลิ่นปาก กับน้ำผลไม้แช่เย็นกล่องหนึ่งเป็นน้ำกีวีฟรุตพร้อมกับบัตรเติมเงินจากนั้นก็เดินตรงไปไขกุญแจที่รถเก๋งของตนเองอีกครั้งก่อนจะสตาร์ทรถออกไปโดยที่ไม่มีจุดหมายปลายทางเหมือนเดิมบางทีเขาอาจจะไปหาเคียส เพื่อนรัก ที่คอนโดก็ได้ เอ หากถ้ามันไม่อยู่ หรือว่าไปต่างจังหวัด เขาจะทำยังไงดี ก็ต้องลองโทรหามันดูก่อนและเช้าของวันรุ่งขึ้น ในที่ทำงาน บริษัทที่ฝ้ายนิลทำงานอยู
นี่ มันอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ เพราะเขาก็ไม่สนใจพวกหล่อนเลย ดังนั้น เขา ชายหนุ่มที่หล่อเหลารูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวจัด และดวงตาดำมีเสน่ห์เส้นผมดำสนิทยามเขาเดินผ่านร้านรวงเหล่านั้นเส้นผมที่ปะทะพัดผ่านไปมาทำให้พะเยิบไหวไปตามแรงลม ริมฝีปากบางเหมือนลูกผู้ดี แต่ลึกลงไปเขาดูคล้ายเป็นคนเก็บกด เพราะไม่ชอบยิ้มให้ใครคิดว่า หากถ้าเขายิ้มโปรยออกมาบ้าง ก็จะทำให้เขาดูมีเสน่ห์เพิ่มกว่าเดิมมากที่สุดเพราะเป็นคนปากกว้างคางแหลม จมูกโด่งส่วนสูงไม่ต้องพูดถึง ยิ่งกว่ามาตรฐานคนเอเชียด้วยซ้ำเพราะว่าเขานั้นมีส่วนสูงถึง182เซนติเมตรจากนั้นเขาตัดสินใจเข้าไปในร้านมินิมาร์ท ที่อยู่ใกล้ๆสักครู่ก็เดินออกมาอีกครั้ง ด้วยหมากฝรั่งสำหรับไว้เคี้ยวเล่นดับกลิ่นปาก กับน้ำผลไม้แช่เย็นกล่องหนึ่งเป็นน้ำกีวีฟรุตพร้อมกับบัตรเติมเงินจากนั้นก็เดินตรงไปไขกุญแจที่รถเก๋งของตนเองอีกครั้งก่อนจะสตาร์ทรถออกไปโดยที่ไม่มีจุดหมายปลายทางเหมือนเดิมบางทีเขาอาจจะไปหาเคียส เพื่อนรัก ที่คอนโดก็ได้ เอ หากถ้ามันไม่อยู่ หรือว่าไปต่างจังหวัด เขาจะทำยังไงดี ก็ต้องลองโทรหามันดูก่อนและเช้าของวันรุ่งขึ้น ในที่ทำงาน บริษัทที่ฝ้ายนิลทำงานอยู
เพราะตอนนี้จะให้ทำอะไรได้ เพราะสถานการณ์มันบังคับอีกสำหรับฝ้ายนิล เจอคนบ้า อารมณ์เถื่อน หลังจากนั้นเขาใช้วิธีลากจูงมือพร้อมกับแกมบังคับหล่อนให้ไปกับเขาด้วยกันกับเขา“งั้นเอาแบบนี้ ไปคุยกันที่รถของฉัน”แม้เป็นคำพูดสั้นๆ ที่ทำให้เธอนั้นจะต้องยอมและเชื่อเขาไปง่ายๆ ในขณะนี้ เพราะไม่มีทางเลือกอะไรสำหรับเธอในขณะนี้เพราะหากถ้าเขาจะเอาไปฆ่าไปแกงอย่างไรก็ทำได้และเธอคงไม่รอดพ้นมือเขาเป็นแน่มีแต่ทางเสียเปรียบ ครั้นเมื่อหล่อนจ้องไปที่ใบหน้าของเขาซึ่งหน้าตาของเขานั้นไม่ได้น่าเกลียดสักหน่อย เพราะออกจะหล่อเหลา เอาการทีเดียวหากแต่ทำไมจิตใจเขาถึงเถื่อน ทมิฬ หินชาติอย่างนี้คือการใช้กำลังประทุษร้ายผู้หญิงอย่างนี้ถือว่าแสนเลวที่สุด“งั้นที่ฉันถามเธอในตอนนั้น ทำไมเธอถึงไม่ตอบ หรือเธอชอบผู้หญิงเพศเดียวกัน”ครั้นเมื่อเขาคิดไปแบบนี้เลยทำให้ฝ้ายนิลรีบรับสมอ้างทันที“ใช่ ใช่ละ เพราะฉันชอบแบบนั้น คือ ฉันไม่ชอบผู้ชายเลยสักนิด”“ฮึ ก็นั่น ไงฉันนึกแล้วไม่มีผิดเลย และมันก็แค่นี้เอง ที่ฉันอยากรู้ ชื่นชอบและนิยมตีฉิ่ง ก็ไม่บอกกันเสียแต่คราวแรก นี่ เธอมาทำให้ฉันอารมณ์เสียอย่างมาก ฮึ เอาล่ะไปเสียสิ ไปได้
และนั่นต่อมา ก็ทำให้เธอพลอยตกใจด้วย“เอ ลุงคะ แล้วนี่ ลุงรู้จักกับคนขับรถเบ๊นซ์คันนั้นไหมล่ะคะ”และคนขับแท็กซี่คนเดิมสั่นหน้าอีกตอบ“โอ้ย ไม่หรอกอีหนู แต่ว่า ไอ้ประเภทที่มีการเฉี่ยวชนกับรถเบ๊นซ์ก็พอมีเหมือนกัน หรือว่าจะเป็นไอ้พวกนี้”เมื่อคนขับพูดอย่างนั้น เลยพลอยทำให้จิตใจของฝ้ายนิลไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียแล้ว นี่เธอปะเหมาะเคราะห์ร้ายหรือเปล่าเหมือนกับคนหนีเสือมาปะจระเข้ด้วยหญิงสาวพยายามครุ่นคิดอย่างมีสติ“งั้น ลุง ก็ช่วยเร่งเครื่องแรงๆกว่านี้ได้ไหมคะ ไปหาจอดในย่านที่ชุมชนให้กับหนูหน่อย เอ้อ พอที่หนูจะหารถคันใหม่แทนได้ง่าย เพราะหนูอยากจะกลับบ้าน”ฝ้ายนิลบอกความประสงค์พร้อมทั้งพยายามชะเง้อมองหาคนขับรถเบ๊นซ์ เพราะว่าสีรถที่ดูเหมือนกับคุ้นเคย ว่าเห็นที่ไหนมาก่อน“อ๋อนี่ คิดจะเร่งเครื่องหนีอีกหรือยังไง”เลยทำให้กริญจ์สบถออกมาพร้อมกับเหยียบคันเร่งเพิ่มแบบไม่ลดละจนเขานั้นสามารถวิ่งแซงตีคู่กับรถแท็กซี่ คันที่เป็นเป้าหมายได้แล้วเพราะกริญจ์ขับรถขนาบอยู่ทางด้านขวา ดังนั้นเขาจึงลดไขกระจกลง เพื่อให้เห็นหน้าชัดเจนจากนั้นพอฝ้ายนิลมองเห็นหน้าชัดเจน ถึงกับตกใจในทันที“อ๋อ นายบ้า คนน
ผู้หญิงคนนี้ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ถูกใจเขานักทำให้กริญจ์มอง เพิ่งกลับจากไปส่งหวานใจกลับคอนโด ตามประสาผู้ชายเจ้าชู้พอชอบ อยากจีบทันทีผู้หญิงสวยเรียบดูไม่ฉูดฉาด ไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ กริญจ์ทำเจ้าชู้ที่ริมถนนค่อนข้างมืดหล่อนคงไม่เห็นนัยน์ตาของเขาหรอกน่าแต่แล้วฝ้ายนิลรู้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง มองจ้องแล้วเดินมาถึงที่หล่อนขายของเดินตามหล่อนใกล้เข้ามา และเขาทำท่าจะมาจีบหล่อน“คุณครับหันมาทางนี้หน่อย อยากจะรู้จักคุณจังเลย ชื่ออะไรครับ”เขาทักหล่อนแบบนี้ ทั้งที่ไม่รู้จักกันฝ้ายนิลเลยชะงัก แต่ลูกไม้ตื้นแบบนี้รู้ทัน เลยไม่อยากสนใจ อาจจะเป็นพวกขี้เมา พยายามหาทางลวนลามเห็นเธอเป็นแม่ค้าขายมาลัยริมทางก็จะมาเจ๊าะแจ๊ะแบบนี้มีบ่อย จนชิน“จะมาหาเรื่องเหรอ ไปเถอะคุณ วันนี้อารมณ์ไม่ดี”เธอตอบกลับไป ไม่ไว้ใจชายตรงหน้าคนถูกกล่าวหาว่า หาเรื่อง หน้าตึง เรื่องอะไรจะปล่อยคนอย่างกริญจน์ยอมใครที่ไหน“หน้าตาก็ไม่ได้ดีมาก ปากก็ไม่ดีด้วย”“เอ๊ะคุณ หาเรื่องเหรอ เห็นทีต้องพึ่งตำรวจเสียแล้ว”เมื่อเอ่ยคำว่าตำรวจ ทำให้อีกฝ่ายยิ่งหน้าตึงเพราะไม่ถูกกับชื่อนี้ หวังจะมาแบบมิตรคุยดีด้วย แต่ฝ่ายนี้คงระวังตัวแจ งั้นไ