ดวงตาของผู้นำเผิงเฉียบแหลม สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างเร็ว พลันตะโกนว่า “หยุด!”ปรมาจารย์แห่งความมืดเหล่านั้นหยุดไปชั่วขณะ ผู้นำเผิงเอ่ยต่อ “ถอยกลับมาหาฉัน”ไม่นานพวกมือดีแห่งสายดำก็ถอยหลังกลับไปอย่างเงียบ ๆ ผู้นำเผิงยืนขึ้นพร้อมกับไม้เท้าของเขา แล้วค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหาฉัน พลางมองดูแผ่นเหล็กนี่อย่างใกล้ชิดเขาชี้ไปที่ป้ายอย่างตื่นตระหนก “เธอ เธอมีสิ่งนี้ได้อย่างไร?”ฉันยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนเอ่ยตอบไปว่า “คุณไม่จำเป็นต้องรู้”ใบหน้าของผู้นำเผิงมีสีหน้าที่ไม่แน่นอนและไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ ดูเหมือนหลัวเต๋อว่านจะจำแผ่นเหล็กอันนี้ไม่ได้ เขาจึงยืนขึ้นถามอย่างเร็ว “ท่านผู้นำ สิ่งนี้มันคืออะไร?”ผู้นำเผิงไม่ตอบเขา เขาจึงเค้นเสียงถามต่อ “ผู้นำเผิง ท่านจะปล่อยเธอไปเพราะแผ่นป้ายเหล็กอันเดียวไม่ได้ แล้วเราจะเอาหน้าของสมาคมไปไว้ที่ไหนได้?”ฉันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “แผ่นเหล็กนี้เป็นใบรับรองพลังสูงสุดของกลุ่มโอสถ พวกคุณไม่รู้จักหรอก แต่ผู้นำเผิงไม่มีทางที่จะไม่รู้จักอย่างแน่นอน”ฉันเพิ่มระดับเสียง “ผู้นำเผิง ตอนที่เห็นเหล็กแผ่นนี้ก็เหมือนเห็นปรมาจารย์ แต่ทำไมคุณถึงไม่คำนับล่ะ?”ประธานเผิงตกใจจน
ฉันยิ้มเล็กน้อย พลางเอ่ย “ช่างน่าอายอะไรเช่นนี้”ผู้นำเผิงส่ายหัว “สำหรับทายาทของปรมาจารย์ผู้เฒ่าแล้ว ค่าตอบแทนนี้เล็กน้อยเกินไปด้วยซ้ำ หากเธอเข้าร่วมสมาคมอย่างเป็นทางการ อย่างน้อยที่สุด เธอก็จะได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการคนต่อไป”ฉันถอนหายใจเบา ๆ “น่าเสียดายที่ท่านอาจารย์ไม่ให้ฉันเข้าร่วมองค์กรใดใด ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นการดีที่ได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการของสมาคม”หญิงชราในชุดกี่เพ้ายิ้มบาง “อาจารย์ต้องรู้ว่าเธอเป็นคนพิเศษ และเกรงว่าด้วยอายุที่น้อย มีหลายคนเคารพนับถือ พร้อมยกยอปอปั้นขนาดนี้ จะไม่เอื้อต่อการพัฒนาการปรุงยาในอนาคต”ฉันแอบคิดในใจ นี่คืออิทธิพลของอำนาจ พวกเขาจะหาเหตุผลให้คุณโดยอัตโนมัติเพื่อมาลบล้างคำโกหกที่เคยพูดไปฉันเก็บแผ่นเหล็กให้เรียบร้อย พลันตอบกลับ “เนื่องจากมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ดังนั้นฉันขอตัวกลับก่อน เชิญทุกคนทำตัวตามสบายค่ะ”ผู้นำเผิงไปส่งฉันที่ประตูเป็นการส่วนตัวและสั่งให้คนไปส่งฉันกลับบ้านอย่างปลอดภัยหลังจากที่จุนเหยาเดินออกไปแล้ว หลัวเต๋อว่านก็รอจนอีกสามคนเดินแยกออกไป จึงค่อย ๆ หันมาหาผู้นำเผิงแล้วเอ่ย “แค่เศษเหล็ก บางทีอาจจะเป็นของปลอมก็ได้”ผู้นำเผิงสูดลมหา
พืชแห่งจิตวิญญาณนั้นมีราคาแพงมาก และนักเล่นแร่แปรธาตุหลายคนล้วนต้องการมีพืชแห่งจิตวิญญาณไว้ในครอบครอง และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลของการขาดแคลนนักเล่นแร่แปรธาตุฉันต้องคิดหาวิธีทำเงินเพิ่ม ถึงแม้การไลฟ์สดจะทำเงินได้ แต่มันก็ยังไม่มากพอฉันกลั่นยาเสี่ยวเป่ยหยวนตานและยารักษาโรคไว้จำนวนมาก หรือจะแบ่งขายพวกมันไปบ้างดี? มือเรียวกดเข้าสู่ระบบทีวี และค้นหาลูกค้าจากข้อความ มีคนอยากซื้อยาเป็นจำนวนมาก แต่จะขายแบบส่ง ๆ ไปก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้ขณะเดียวกันฉันก็เห็นผู้ใช้ทีวีรายหนึ่งที่ชื่อว่า “นักปรุงยาน้อย” ได้ฝากข้อความเสียงถึงฉัน โดยบอกว่าถ้าฉันสนใจจะขายยาสามารถขายได้ทางนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์ก โดยอีกฝ่ายส่งที่อยู่เว็บไซต์ไว้ในข้อความส่วนตัวแล้วฉันค้นเจอที่อยู่เว็บไซต์และคลิกเข้าไป พลันหน้าเว็บเพจที่สะอาดตาก็เด้งขึ้นมา มันออกแบบเป็นสไตล์โบราณที่สวยงามมากความจริงแล้วเว็บไซต์นี้เป็นเว็บสำหรับผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ นักยุทธ์ และนักพรต ที่สนับสนุนโดยหน่วยงานพิเศษรัฐบาลกล่าวถึงสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ นักยุทธ์ และนักพรตว่า “นักเล่นแร่แปรธาตุ” ดังนั้นเว็บไซต์นี้จึงเรีย
“ลมตะวันออกสูญสลาย” ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และพูดกับกล้องว่า “ทุกคน ยารักษาของ ‘ความวุ่นวายของดอกไม้ไฟ’ ได้ผลจริง ๆ ฉันตัดสินใจที่จะซื้อในปริมาณมากขึ้น ทุกคนดูผลของมันเอาเองเถอะ”“เจ้าของโพสต์ คุณได้เพิ่มเทคนิคพิเศษอะไรหรือไม่ ยาเม็ดเล็ก ๆ ไม่ถือว่าเป็นยาวิเศษ มันจะได้ผลดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”“คนข้างบนนี่สมองตายหรือเปล่า? คุณรู้ไหมว่าเจ้าของโพสต์เป็นใคร? เขาคือนักยุทธ์แห่งความมืด ‘พี่ผอ’ ผู้สง่างามเลยนะ แล้วเขาจะเป็นคนหลอกลวงได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้ ฉันต้องไปซื้อมาใช้ตามสักหน่อยแล้วล่ะ”“พี่ผอเป็นคนรวย เขาทำวิดีโอทดสอบยามาเยอะมาก ฉันซื้อยาตามคำแนะนำของเขาในครั้งที่แล้ว มันได้ผลดีมาก ๆ พี่ผอ สินค้าที่พี่ผอรีวิวเชื่อถือได้แน่นอน ฉันต้องรีบไปซื้อมาบ้างแล้ว ไม่งั้นมันก็ต้องหมดภายในเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ”“เอ๋? ยาทั้งสองเหมือนจะถูกใช้โดย ‘แอดมินสยองขวัญ’ ระหว่างการถ่ายทอดสดเลย เป็นไปได้ไหมว่า ‘ความวุ่นวายของดอกไม้ไฟ’ จะเป็นแอดมินสยองขวัญ?”“อะไรนะ ถ้าเธอเป็นแอดมินหญิงสยองขวัญจริง ๆ ถ้าเธอมียาอยู่มากแค่ไหน ฉันก็จะซื้อมากเท่านั้น”“ฉันทิ้งคำพูดมากมายไว้ให้เธอในทีวีว่าฉันอยากซื้อยาวิเศษ แต่เธอไม่สนใจฉ
ฉันสนใจตัวอย่างนั้นมาก ถังหมิงหลีจึงติดต่อนักสะสมคนนั้น และขอไปดูที่บ้านของเขา จริง ๆ เรานัดกันไว้ว่าจะไปเช้าวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย เรากลับโทรหาเขาไม่ติดนักสะสมคนนั้นชื่อหลี่ยู่เสียง เขามีชื่อเสียงในวงการนักสะสมของเมืองซานเฉิงมาก และอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ทางตอนเหนือของเมืองเราขับรถมุ่งหน้าไปถึงด้านนอกของคฤหาสน์ ถังหมิงหลีสาวเท้าเดินไปเคาะประตู ผ่านไปครู่ใหญ่ประตูก็แง้มรอยต่ออย่างเงียบ ๆ เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีด“คุณหลี่ใช่ไหมครับ?” ถังหมิงหลีกล่าว “ผมแซ่ถังครับ พวกเรานัดกับคุณเพื่อมาดูตัวอย่างสัตว์ประหลาดตนนั้น”หลี่ยู่เสียงเปิดประตู พลางเอ่ย “เข้ามาสิ”ทันทีที่เข้าไปได้ จุนเหยาก็ตกใจกับสิ่งที่เห็นการตกแต่งภายในนั้นแตกต่างจากคฤหาสน์ทั่วไปโดยสิ้นเชิง บนผนัง บนตู้ และบนโต๊ะล้วนมีวัตถุโบราณวางเรียงรายอยู่ทุกหนทุกแห่ง และยังมีขวดแก้วหลายใบรายเรียงอยู่ที่เชิงกำแพงด้านตะวันออกอีกด้วย ข้างในขวดมีอวัยวะต่าง ๆ ที่ถูกแช่ฟอร์มาลีนไว้ฉันเอ่ยถาม “คุณหลี่คะ ตามที่ฉันเคยบอกว่าจะมาไลฟ์สดที่นี่ คุณว่าตอนนี้เราเริ่มได้หรือยังคะ?”หลี่ยู่เสียงพยักหน้าตอบ “ได้ทุกเวลาครับ”ร่าบางจึงเปิดห
[คนข้างบนนี่รู้เยอะจังเลยนะ!][เดี๋ยวก่อน พวกเธอดูสิ บนหัวของตัวอย่างมีเข็มเงินแค่สี่สิบแปดเล่มเอง!] [นับดีแล้วเหรอ เจ้าจักรพรรดิแห่งคณิตศาสตร์ด้านบน] [ถ้าเข็มเงินถูกดึงออกมา ปีศาจจะฟื้นคืนชีพ แอดมินวิ่งหนีเร็วเข้า!] ฉันไม่ได้ดูหน้าจอ แต่กลับจ้องมองปีศาจนั่นอย่างละเอียด และจู่ ๆ ก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา ดูเหมือนว่าในอากาศจะมีกลิ่นคาวเลือดลอยฟุ้งอยู่ ร่างบางขยับเข้าไปใกล้ ๆ กลับพบว่ามุมปากของปีศาจมีสีแดงติดอยู่นิดหน่อย จึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปปิดปากเขา กลิ่นคาวเลือดฉุน ๆ ลอยออกมาทันที ฉันสูดหายใจเข้าแล้วหันมองหลี่ยู่เสียง “นี่คุณทําอะไรลงไป?” หลี่ยู่เสียงตื่นเต้นจนหน้าแดง ดวงตาแดงของเขาก่ำเล็กน้อย “ปีศาจฟื้นแล้ว! ปีศาจฟื้นแล้วจริง ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกคุณหัวเราะเยาะผมที่ซื้อบ้านโทรม ๆ นี่ ตอนนี้คุณรู้แล้วหรือยังล่ะ? ของสะสมของผมมันเป็นของจริง!” ถังหมิงหลีรีบขวางหน้าฉันไว้ทันที พวกเราค่อย ๆ ถอยไปข้างหลัง ทว่าไม่ทันระวังก็ถอยไปชนเข้ากับโลงศพที่พิงอยู่บนผนัง ฝาโลงศพเลื่อนเปิดออกอย่างเงียบ ๆ พลันมีศพหนึ่งร่วงลงมา ฉันก้มลงมอง แล้วตกใจจนสีหน้าซีดเผือด ศพนี่คือศพของห
ฉันรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง จึงลืมตาขึ้นและเอียงตัวหลบหลีก แต่มันก็สายไปแล้ว มีดสั้นคมแทงเข้าที่หลังของฉันอย่างจัง ฉันอดทนต่อความเจ็บปวด พลันดึงดาบไม้ท้อออกมาแล้วหมุนตัวกลับแทงเข้าที่ลําคอของเขา หลี่ยู่เสียงร้องโหยหวน ก่อนที่ดวงตาและปากพ่นจะแสงสีแดงออกมา และกลายเป็นกองเถ้าถ่านอยู่บนพื้น ฉันคว้ายารักษาออกมาสองเม็ด และยัดเข้าไปในปาก ถังหมิงหลีตกใจพลันยื่นมือมาโอบเอวของฉันไว้และดึงไปด้านข้าง เขาพลิกมือเสียบมีดสั้นเข้าไปในฝักมีดบริเวณเอวด้านหลัง จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือแห่งโชคฟันไปข้างหน้า ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กําแพงครึ่งซีกถูกผ่าจนพังยับเยิน ปีศาจจึงปรากฏตัวออกมา ร่างกายของมันบิดเบี้ยวราวกับถูกรถบรรทุกขนาดใหญ่บดขยี้ กระดูกทั่วร่างหักเป็นเสี่ยง ๆ แล้วร่วงลงไปกองกับพื้นกรวด ข้างหูของฉันได้ยินเสียงหยินฉางเซิงดังขึ้น “นังหนู ปีศาจตัวนี้มันไม่ธรรมดาเลย อาศัยจังหวะตอนที่มันยังดิ้นหลุดจากผนึกได้ไม่เต็มที่ และพลังยังไม่แข็งแกร่ง แล้วรีบกําจัดมันซะ ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาคงยากจะจินตนาการได้!” “แล้วจะฆ่ายังไงคะ?” ฉันกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดและเอ่ยเบา ๆ ไม่ว่าเจ้าปีศาจนี่จะ
ฉันเอ่ยปาก “คุณบอกเราได้ไหมคะว่า คุณจะใช้ปีศาจทำอะไร?” ชายชุดดํามองมาที่ฉัน มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ลึกลับราวกับมีดโค้ง ทําให้ผู้ชมสาว ๆ ที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เลือดกําเดาไหลกันเป็นแถว เขามองฉันอย่างสนใจเป็นเวลานาน ก่อนกล่าว “น่าสนใจ น่าสนใจจริง ๆ เจ้าหนุ่ม นายกับฉันมาทำข้อตกลงกันดีไหม?” ถังหมิงหลีมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี “ข้อตกลงอะไร?” “ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้ แค่นายมอบหล่อนให้ฉัน แล้วฉันจะปล่อยเจ้าปีศาจนี่ให้นายจัดการได้ตามสบาย” ชายชุดดําแสยะยิ้ม “ว่าไง?” ถังหมิงหลีตวาดอย่างโกรธเคือง “ไม่มีทาง!” ฉันก็ไม่เข้าใจความคิดของชายแปลกหน้าเหมือนกัน ตอนนี้ฉันใส่หมวกกับหน้ากากอยู่เลยนะ เขาน่าจะมองไม่เห็นหน้าตาฉันไม่ใช่เหรอ? ทําไมเธอถึงสนใจฉันล่ะ? ชายชุดดําหัวเราะ พลางกล่าว “ฉันยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์มอบให้นายอีกด้วยนะ ว่าไงล่ะ?” ถังหมิงหลีตกใจตาโต อาวุธศักดิ์สิทธิ์เป็นอาวุธที่มีพลังลึกลับ มันสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ของจอมยุทธ์ได้มากเลยทีเดียว ในสมัยชุนชิวจ้านกั๋วคือสวรรค์ของจอมยุทธ์ ในช่วงเวลานั้นมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์กลื่อนกลาดมากมาย เช่น กระบี่คู่กั้นเจี้ยงมั่วเย๋
เธอหยุดชั่วคราวและกล่าวอย่างยิ้ม ๆ อีกครั้งว่า “ฉันยังมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลอีกข้อหนึ่ง หวังว่าคุณหยวนจะตกลง”“เรื่องอะไรเหรอคะ?” ฉันไม่พอใจเล็กน้อยกับสายตาที่มีความดูถูกเหยียดหยามของเธอ แต่ฉันก็ยังถามอย่างเก็บอารมณ์เธอพูดว่า “ในการไลฟ์สดครั้งนี้ มีบางฉากที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่าย ฉันอยากให้คุณหยวนได้โปรดอธิบายให้ผู้ชมฟังในการไลฟ์สดครั้งต่อไปด้วย เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจลูกเทียนของเราผิด”ใจของฉันสงบลงและรอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนเป็นไม่เต็มใจเล็กน้อย “คุณนายเสวีย การไลฟ์สดของฉันเป็นการไลฟ์สดจับผีไม่ใช่การไลฟ์สดเกี่ยบกับความรู้สึก”คุณนายเสวียพูดอย่างสุภาพแต่ไม่ยอมปฏิเสธ “ฉันก็กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของคุณเหยาเหมือนกัน ถึงอย่างไรคุณก็เข้าใจสถานะของตระกูลเราในเมืองจินหลิงชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเกิดทำให้คนอื่นเข้าใจคุณเหยาผิดว่าประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”สีหน้าของฉันเย็นลงมา นี่เป็นการเปลี่ยนวิธีที่จะบอกว่าฉันกำลังประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลฉันยิ้มจาง ๆ “คุณนายเสวีย ไม่รู้ว่าคุณชายเสวียเคยบอกคุณไหมว่าฉันเป็นคนรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี”คุณนายเสวียตะลึงไปคร
ยังไม่ถึงสองวัน ชาวเน็ตผู้หญิงที่ซื้อสบู่ทำมือเหล่านี้ไปก็มาโพสต์ที่หมวดยา พวกเธอพูดอย่างตื่นเต้นว่าสบู่ทำมือนี้ใช้ดีมาก ๆ พึ่งจะใช้ไปไม่กี่วันสภาพผิวก็ดีขึ้นมาก ริ้วรอยตรงขอบตาและมุมปากต่างก็ตื้นขึ้นเยอะด้วยมีหญิงสาวนักรบสายขาวคนหนึ่งบอกว่าบนใบหน้าของเธอมีสิวเยอะมาก เมื่อก่อนนี้เธอใช้เครื่องประทินผิวเยอะเยอะหลายชนิด แต่ก็ไม่ได้ผล และนั่นทำให้เธอเป็นทุกข์มาก ๆ แต่หลังจากที่เธอได้ใช้สบู่ทำมือ สิวบนใบหน้าของเธอก็หายไป และไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นมาอีก เธอยังปล่อยภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังออกมาเป็นพิเศษอีกด้วยในไม่ช้า สบู่ทำมือนี้ก็ถูกอัปโหลดลงบนนักเล่นแร่แปรธาตุเน็ตเวิร์กทั้งหมด และนักเล่นแร่แปลธาตุผู้หญิงจำนวนมากต่างก็ฝากข้อความต้องการจะซื้อไว้ทางบริษัทเครื่องสำอางก็มีผลตอบรับกลับมาว่าได้กำหนดสูตรสบู่ทำมือแล้วสามชนิด ชนิดที่หนึ่งคือ กลิ่นหอมของหอมหมื่นลี้ที่ใช้สำหรับขาวใส ชนิดที่สองคือกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ใช้สำหรับป้องกันสิว และอีกหนึ่งชนิดก็คือกลิ่นหอมของว่านหางจระเข้ที่ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษผลลัพธ์ของทั้งสามชนิดต่างก็ดีมาก ๆ และทีมผู้บริหารของบริษัทก็พร้อมที่จะทำ
เมื่อมองดูรถของพวกเขาหายไป ฉันก็แอบถอนหายใจในใจ ถึงแม้ว่าคุณนายเสวียจะลืมช่วงความตายของคุณชายเสวียไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนโดนกรวยแหลมคมแทงทะลุเข้าไปในใจก็ยังฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของเธอฉันยักไหล่ ถึงอย่างไรฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันไม่สามารถขอให้ทุกคนมาชอบตัวเองได้หรอกร่างบางกลับมาถึงห้องก็นอนหลับอย่างสบายใจ จนเช้าวันรุ่งขึ้นก็โดนปลุกให้ตื่นโดยเสียงเคาะประตูอย่างแรงฉันหาวหวอดพลางเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก็เห็นถังหมิงหลียืนอยู่นอกประตู เขาถือกระเป๋าสัมภาระธรรมดาใบหนึ่ง เขาหน้าซีดเผือดมาก ราวกับว่าไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนเพราะรีบกลับมาเมื่อเขาเห็นฉันก็รีบโผเข้ามากอดไว้แน่น ทำให้ใบหน้าของฉันฝังอยู่ที่คอของเขาอย่างแรงและเขาก็พูดขึ้นทันที “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่บนเกาะหิมะตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าเธอว่าได้เจอกับอันตรายแบบนั้น ไม่อย่างนั้นฉันต้องรีบกลับมาช่วยเธอโดยเร็วที่สุดแน่นอน”ฉันยิ้มออกมา “เป็นเพราะอย่างนี้เองเหรอ วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอะไร”เขาจับหน้าของฉันไว้แล้วก้มหน้าลงจูบอย่างเร็วฉันตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วรีบผลักเขาออก พลันพูดอย่างร้อนใจ “นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”“ใช่ ฉันบ้าไปแ
พลังที่เก้าเอ่ยแทรก “หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ที่จริงผีตัวนี้มีชีวิตและมีเนื้อหนัง แค่เนื้อหนังของมันก็คือทั้งหมดของโรงเรียนแห่งนี้เท่านั้นเอง”ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางยังกล่าวอีกว่า “ฉันไม่ได้เจอผีที่มีเลือดเนื้อในร่างกายมนุษย์แบบนี้มาหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังมีอยู่ในโลกมนุษย์”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถึงแม้ว่าในตอนนี้ในโลกมนุษย์จะขาดแคลนพลังปราณ แต่อารมณ์เจ็ดอายตนะหกของผู้คนก็ยังแข็งแกร่งมากขึ้น” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ผีก็มากขึ้นเรื่อย ๆ”หัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ก้อนนั้นเริ่มเผาไหม้และควันหนาค่อย ๆ ลอยออกมา ผีใบหน้าสีดำตัวนั้นเผยหน้าตาที่แสนเจ็บปวดออกมา พลันกำแพงรอบ ๆ ก็เริ่มลุกไหม้ขึ้นมา เปลวไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วและพวกเราก็ได้วิ่งออกมาจากโรงเรียนแห่งนั้น อาคารร้างทั้งหลังล้วนจมลงไปในเปลวไฟ ริ้วลิ้นแห่งเปลวไฟยังกระโจมอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าฉันจะเห็นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยแสงไฟ“อ๊าก!” ในที่สุดผีใบหน้าสีดำก็ปรากฏขึ้นมาในเปลวไฟ มันโดนไฟเผาจนเล็กลงเรื่อย ๆ และมองไม่เห็นอีกต่อไปฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกยาว ๆ ในที่สุดก็จบลงแล้ว จะไม่มีเกมส์แห่งความตายอีกต่อไปแล้ว และก
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาแต่เปื้อนเลือดของคุณชายเสวีย ในใจของฉันก็รู้สึกเหน็บหนาวขึ้นมาเป็นพัก ๆ[เป็นไปไม่ได้มั้ง คุณเสวียตายแล้ว?][จะเป็นไปได้ยังไง ถึงแม้ว่าคุณเสวียจะมาเข้าร่วมไลฟ์สดแค่ชั่วคราว แต่จะตายง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้เชียวนะ][ใครบอกว่าจะไม่มีคนตาย? ทุกครั้งที่แอดมินไลฟ์สดล้วนอันตรายมาก แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดจากภัยอันตรายมาได้หลายครั้ง เมื่อก่อนที่จอมเผด็จการไม่ตายก็แค่โชคดีมากเท่านั้นเอง พวกคุณคิดว่าพวกเขาจะมีรัศมีของตัวเอกจริง ๆ เหรอ?][แอดมิน ฉันคือคนใช้ของครอบครัวคุณเสวีย เมื่อสักครู่แม่ของเขาก็ดูไลฟ์สดอยู่ แต่ตอนนี้ได้เป็นลมหมดสติไปแล้ว คุณเตรียมใจรอรับความโกรธของตระกูลเสวียได้เลย][คนข้างบนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งชาวบ้าน ถ้าพวกคุณมีความสามารถก็ไปจัดการกับผีใบหน้าเองสิ จะระบายอารมณ์ใส่แอดมินทำไม?][แอดมิน...จะมีชีวิตกลับมาไหม?]ขณะนี้ในใจของฉันว่างเปล่า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นและกอดหัวของเสวียห้าวเทียนไว้ ทั้งยังรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างกายฉันและคุณชายเสวียไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่เขากับฉันได้ร่วมเป็นร่วมตายกันมาในเกมส์แห
เพี๊ยะ เพี๊ยะ! ไฟในเมรุเผาศพดังขึ้นและลัดวงจร กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันในมือของฉันจนกลายเป็นก้อนใหญ่ [ว้าว ใช้กระแสไฟฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ควบแน่นเป็นสายฟ้าก้อนกลม แอดมินเธอเก่งขั้นเทพเลยอ่ะ] [แรงดันไฟฟ้าสูงเท่าหนึ่งแสนโวลต์ที่ไหนกัน!] [ฉันพูดเกินจริงไม่ได้เหรอ? คุณจะยุ่งเกินไปแล้ว?] “คุณเสวีย หลบไปเร็วเข้า!” ฉันตะโกนเสียงดังแล้วโยนกระแสไฟฟ้าในมือออกไป ตูม! เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น กระแสไฟฟ้าพุ่งเข้าใส่ร่างของผีกองกอย ร่างของมันเปล่งแสงสีม่วงออกมาและส่งเสียงร้องเหมือนสัตว์ป่า แต่สุดท้ายร่างกายก็ไหม้กลายเป็นศพไหม้เกรียม “เร็วเข้า เอามันเข้าไปในเตาเผาศพ!” ฉันและเสวียห้าวเทียนอดทนต่อกลิ่นเหม็นเน่าเพื่อยกผีกองกอยขึ้น แล้วรีบเข้าไปในห้อง พร้อมเปิดเตาเผาศพและโยนศพเข้าไป บึ้ม! ในเตาเผามีเปลวไฟลุกโชนออกมา ผีกองกอยดิ้นทุรนทุรายอย่างดุเดือด ฉันตะโกน “ปิดประตู!” ประตูเตาเผาได้ปิดลงเสียงดังปัง เสียงดิ้นรนดังออกมาจากด้านใน ศพถูกเผาเป็นเวลานานมากก่อนที่จะหยุดลง และท้ายที่สุดก็มีเศษกระดูกออกมาจากรูด้านหลัง กระดูกไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านทั้งหมด แต่เผาแล้วกลายเป็นเศษเล็ก ๆ พวกมัน
[เพื่อเงินเพียงเล็กน้อย แต่เขากลับฆ่าพ่อของตัวเอง ช่างน่าเศร้าจริง ๆ] [มีลูกชายแบบนี้ มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้โกรธทะยานขึ้นจนศพเปลี่ยนไป] [จะไปโทษใครได้? นอกจากตัวเขาเอง ใครบอกให้เขารักลูกชายมากเกินไปล่ะ? รู้จักแต่เลี้ยงแต่ไม่รู้จักอบรม นั่นเป็นความผิดขอพ่อแม่] ในห้องไลฟ์สดมีการโต้เถียงทุกแบบอย่าง ผีดิบฟางเหวินตัวนั้นกระโดดออกมาจากโลงศพ โลงศพเป็นโลงไม้เนื้อแข็งแบบดั้งเดิม และสูงพอ ๆ กับไหล่ของผู้ใหญ่ แต่มันสามารถมันกระโดดออกมาได้ในพริบตา ในตอนนั้นเอง ร่างกายของฟางเหวินก็เริ่มมีขนงอกออกมาอย่างรวดเร็ว เขามีขนปุกปุยราวกับลิงอุรังอุตังที่เป็นบรรพบุรุษ [ผีกองกอย! นี่มันผีกองกอยจริง ๆ!] [ผีกองกอยเป็นกระดูกเหล็กทองแดงในตํานาน! มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว กระโดดขึ้นอาคารบ้านเรือนไปบนต้นไม้ กระโดดโลดเต้นราวกับบิน ไม่กลัวไฟธรรมดา หรือแม้แต่แสงอาทิตย์] [ข้างบนมีความรู้เยอะจัง] [ไร้สาระ เว็บไป๋ตู้ก็เขียนเอาไว้แบบนั้น] ฉันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาถูกลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าตาย ลูกชายก็อกตัญญู และมักจะด่าทอเขา เขามีความคับข้องใจมาเป็นเวลานาน แถมลูกชายก็ไม่ได้จัดงานศพให้ หลังจ
ฉันถามถึงที่อยู่และเรียกแท็กซี่กับเสวียห้าวเทียน จนมาถึงเมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝางเจีย เมืองนี้ค่อนข้างหดหู่กว่าเมืองชิงหยาง มีเพียงคนแก่ใกล้วาระสุดท้ายที่นั่งอาบแดดอยู่หน้าประตู เราสอบถามเกี่ยวกับโรงฌาปนกิจศพในเมืองฝางเจีย วันนี้ไม่มีการจัดงานศพ ภายในนั้นเงียบมาก และมีชายชราคนหนึ่งกําลังกวาดพื้น “ขอถามหน่อยค่ะ คุณคือผู้เฒ่าฟางใช่ไหมคะ?” ฉันก้าวไปข้างหน้าและถามเขาทันที เขามองฉันอย่างระมัดระวังพลางกล่าว “คุณมีธุระอะไร?” “เมื่อสองวันก่อน มีช่างขนศพพาศพหกศพมาค้างคืนที่นี่ใช่ไหมคะ?” ฉันถาม ความระแวดระวังในดวงตาของชายชรายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น “ผมจําไม่ได้แล้ว” พูดจบก็เดินเข้าบ้านไป เสวียห้าวเทียนเดินไปข้างหน้าและจับไหล่ของอีกฝ่ายไว้ “ผู้เฒ่าฟาง อย่าเพิ่งรีบไปสิ มาคุยกับพวกเราเถอะครับ” พร้อมกันนั้น เขาก็ยัดธนบัตรสีแดงสองใบใส่มือชายชราไปด้วย เขาลังเลเล็กน้อยและกำธนบัตรสีแดงไว้ ก่อนจะกล่าว “คุณต้องการถามอะไร?” เสวียห้าวเทียนยิ้มบาง “เราแค่อยากรู้ว่าในโลงศพทั้งหกศพนั้นบรรจุอะไรไว้” “แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่าต้องเป็นศพอยู่แล้ว” ตาแก่ฟางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ฉันยิ่งงงเข้าไปใหญ่ การที่ภูตผีจากโรงเรียนมัธยมหวนซานนี้ รวบรวมเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นจริงไว้มากมายเพื่อทดสอบคนอื่น ที่แท้เพราะอะไรกันแน่นะ? เขาวางแผนอะไรอยู่นะ? จริงสิ! ความกลัวไงล่ะ! ความกลัวที่พวกเราประสบในมิติวิญญาณจะกลายเป็นแหล่งพลังงานของมัน ทําให้มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมภูตผีถึงชอบทำให้คนกลัว หลังจากที่มนุษย์หวาดกลัวแล้ว พลังหยางจะถูกทําลาย ทำให้ถูกสิงได้ง่ายขึ้น แต่ภูตผีบางชนิดสามารถดูดซับความกลัวได้ เพื่อทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น พอดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีเสียงกรนดังมาจากห้องเวร ตอนแรกฉันว่าจะไปผนึกศพพวกนี้ก่อน แต่ตัวอักษรเลือดพูดถึงผีดิบที่ฆ่าศพฟื้นคืนชีพ ถ้าฉันฝืนเปลี่ยนเค้าโครงเรื่อง ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้จะดีกว่า พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว และเป็นตอนที่พลังหยินพลุ่งพล่านที่สุด พระจันทร์เสี้ยวสีแดงเลือดดวงนั้นสว่างจนแสบตาเป็นพิเศษ ฉันสอนวิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เสวียห้าวเทียน โดยการปิดปากและจมูก เพื่อให้ผีดิบไม่ได้กลิ่นมนุษย์บนตัวเรา ทันใดนั้นกลิ่นอายวิญญาณก็พวยพุ่งออกมาจากในห้อง ศพทั้งหกพลันลืมตาขึ้นมาพร้อ