ใบหน้าที่แสนดุร้ายพร้อมร่างเปื่อยแห้งของซากศพเดินได้ต่างแย่งชิงกันพุ่งเข้ามา[ตื่นเต้นมาก ไลฟ์สดนี้น่าตื่นเต้นกว่าหนังซอมบี้ของอเมริกาอีก!][ซากศพเดินได้พวกนี้น่ากลัวมาก พวกมันจะออกจากภูเขาเข้ามาในตัวเมืองไหม?][เกรงว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะมาถึงในตัวเมือง ก็คงโดนฆ่าเกลี้ยงเสียก่อน แต่ถึงยังไงถ้าโดนพวกเขากัดก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเปลี่ยนไปเป็นซากศพเดินได้หรอกนะ][แอดมินระวัง! ด้านหลังคุณมีซากศพเดินได้!]ฉันสังเกตเห็นว่าด้านหลังมีลมมืดกวาดผ่านจึงรีบหมอบตัวลง แขนที่เหี่ยวแห้งข้างหนึ่งกวาดผ่านหัวของฉันไป ถ้ามันจับฉันได้คงต้องถูกแขนแห้ง ๆ นับสิบที่กำลังพุ่งเข้ามาตีจนเนื้อแตกยับแน่ ๆ ฉันถือดาบไม้ท้อและพลิกมือแทงเข้าไปที่หน้าอกของมันพลังงานมืดที่รวมอยู่ในร่างของซากศพเดินได้ถูกฉันแทงเข้าไปด้วยไม้สายฟ้าฟาดนี้ ทันใดนั้นพลังสีดำก็ปรากฏขึ้นจากบาดแผลอย่างต่อเนื่องและส่งเสียงดังฉ่าออกมาฉันดึงดาบออกมาแล้วลากไปด้านข้างราวกับว่ากำลังหั่นแตงหั่นผัก พร้อมตัดหัวมันออกพลังของไม้สายฟ้าแข็งแกร่งจริง ๆ ตอนนี้สถานการณ์กำลังวุ่นวาย ฉันฆ่าซากศพเดินได้ไปแล้วสองตัว ด้านหนึ่งสู้อีกด้านหนึ่งถอย ฉันถอย
ฉันตกใจมากจนโพล่งถาม “งั้นฉันจะต้องทำยังไง?”พลังที่เก้าจึงเอ่ยตอบ “ของสิ่งนั้นกระหายเลือดอย่างที่สุด มีแค่ไหมเกล็ดมังกรสีแดงเท่านั้นที่จะสามารถหยุดมันได้ เธอต้องใช้เลือดล่อมันออกมาก่อน และหลังจากนั้นก็ใช้ไหมเกล็ดมังกรสีแดงผนึกมัน”ฉันเอากรรไกรออกมาและตัดไหมเกล็ดมังกรสีแดงออกไปชิ้นหนึ่ง หลังจากนั้นก็ใช้มีดกรีดที่บนฝ่ามือของตัวเอง พลันหยดเลือดก็ไหลออกมาและมีแสงสีแดงสว่างออกมาจากในรูปปั้นหินนั่นเนื่องจากผ้าไหมเกล็ดมังกรสีแดงปิดตาของรูปปั้นหินนั้นอยู่ มันจึงไม่สามารถสูดเลือดฉันได้โดยตรง แต่โดนกลิ่นเลือดของฉันดึงดูด และรูปปั้นหินทั้งหมดก็เริ่มส่องแสงสีแดงฉันตื่นเต้นจนทำให้มือที่จับไหมเกล็ดมังกรสีแดงสั่นเล็กน้อยและจู่ ๆ กลุ่มแสงสีแดงก็พุ่งออกมาจากรูปปั้นหิน มันลอดผ่านรูไหมสีแดงที่ฉันตัด แล้วลอยมาหาฉันฉันตาไว มือไว กระโดดหนีทันที พร้อมใช้ไหมสีแดงห่อแสงสีนั่นไว้อย่างแน่นหนาแท้ที่จริงแล้วมันคือลูกปัดสีแดงลูกหนึ่งขนาดเท่าเม็ดลำไย ถึงแม้จะโดนห่อแล้ว มันก็ยังคงดีดกระเด้งอยู่ในผ้าไหม“นี่คืออะไร?” ฉันถามขึ้นโดยที่ในหัวเต็มไปด้วยหมอก“ไขมุ่กแห่งจิตวิญญาณโลหิต” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ในตอ
[แอดมินเท่มาก!][แอดมิน ผมอยากมีลูกกับคุณ!][แอดมินรอฉันด้วย เดี๋ยวฉันจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปสู้กับซากศพเดินได้เอง!]พวกเราเดินจากหัวหมู่บ้านไปจนสุดหมู่บ้าน คนแรกที่พบคือฉินหนานเฉิง เขากำลังเหยียบหลังซากศพเดินได้ตัวหนึ่งและจับหัวของมันเอาไว้แล้วบิดอย่างแรงมีเสียงกระดูกแตกดังขึ้นอย่างชัดเจน ก่อนที่เขาจะหันกลับมา พลางเดินมาหาเราอย่างเงียบสงบ “พวกเราไปต่อกันเถอะ”เซี่ยชิงหยูและหวางรุ่ยซีอยู่ด้วยกัน หวางรุ่ยซียังคงอยู่ในอาการที่อ่อนแอมาก แต่ก็ฝืนเสกกำแพงที่สูงกว่าหนึ่งเมตรขึ้นมา เมื่อเท้าของซากศพเดินได้สะดุดเข้า เซี่ยชิงหยูก็ใช้โอกาสตัดหัวของพวกมันออกเขาฆ่าพวกมันราวกับคนเสียสติ พร้อมพูดอย่างตื่นเต้น “สบายมาก! ผมไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้ว นี่มันตื่นเต้นกว่าสู้กับซอมบี้ในเกมอีก!”“ถังซินล่ะ?” ฉันถามขึ้นทุกคนมองหน้ากันโดยไม่รู้ว่าหญิงสาวตัวเล็ก ๆ หายไปไหน ในหัวของฉันเต็มไปด้วยเส้นดำยุ่งเหยิงผู้ชายพวกนี้ใช้ไม่ได้จริง ๆ พวกเขากำลังเพลินอยู่กับเกมนี่จนทำนังหนูวัยสิบเก้าปีหายพวกเราต้องเข้าไปหาในหมู่บ้านอีกครั้ง ตอนนั้นซากศพเดินได้ที่ตายไปมีเพียงเจ็ดสิบถึงแปดสิบคน ซึ่งล้วนเป็นซากศพเดินได้
รถคันสีดำขับมาจอดอยู่ข้างหน้าฉันอย่างช้า ๆ คนขับเป็นผู้ชายวัยกลางคน ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่เคยขับรถให้ถังหมิงหลีมาก่อนหลังจากที่ขึ้นรถ ถังหมิงหลีก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “จุนเหยา เธอไม่ควรนำยาเม็ดออกมาใช้นะ โดยเฉพาะยาถอนพิษ ตอนนี้เราไม่รู้ว่ามีกี่คนที่เข้ามายังเมืองเฉิงซานแล้วมุ่งเป้ามาที่เธอ”ฉันพูดยิ้ม ๆ “ต่อให้ฉันไม่เอาออกมา ก็มีคนจับตามองฉันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ห้องไลฟ์สดของฉันแปลกขนาดนี้ ทุกครั้งที่ไลฟ์สดก็เจอผี ฉันโดนคนพวกนี้จับตามองตั้งนานแล้ว”ถังหมิงหลีถอนหายใจพรางส่ายหัว “เมื่อก่อนพวกนั้นแค่ตามดูไลฟ์คุณเพื่อความสนุก แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว ในมือของคุณมียาถอนพิษและยาเพิ่มพลัง แถมผลลัพธ์ก็ดีมาก แล้วมีเหรอที่คนตระกูลสูงพวกนั้นจะไม่อยากได้ไปครอบครอง?”ฉันตอบอย่างช่วยไม่ได้ “แต่ถ้าฉันไม่ใช้มัน เกรงว่าไม่ช้าก็เร็วคงได้มีคนตายในไลฟ์สด และต่อให้ฉันแอบกินยาแบบไม่ให้รู้ พวกเขาก็ต้องสงสัยว่าทำไมฉันถึงฟื้นตัวได้เร็วขนาดนั้น ถูกไหมล่ะ?”นี่คือความจริง ในเมื่อเลือกที่จะทำอาชีพแอดมินหญิงและเดินบนเส้นทางสายนี้ ก็ไม่มีทางที่จะอยู่ใช้ชีวิตแบบเดิมได้อีกแล้วถังหมิงหลีเองก็เข้าใจในจ
ว่ากันว่ารัฐมนตรีหูคนนี้เกิดในตระกูลหู ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง และเป็นนักบำเพ็ญเพียรชั้นสูงผู้หนึ่ง เขาเคยได้เรียนรู้คำสอนและคาถาของลัทธิเต๋าจากนักพรตเต๋าผู้มีพลังแข็งแกร่งมากท่านหนึ่ง เขาอายุยังน้อย แต่ก็ได้รับการฝึกฝนขั้นสูงระดับจนถึงระดับสามแล้ว ทั่วทั้งทิศตะวันตกเฉียงใต้ เขาคือคนที่มีพรสวรรค์ที่หาตัวได้ยากมากเขายกกาน้ำชาที่ชงเสร็จแล้ว เทลงในถ้วยน้ำชาและผลักไปข้างหน้า แล้วพูดว่า “คุณหยวน เชิญชิมชาถ้วยนี้ดูสิครับ”ฉันจึงเดินเข้าไปและนั่งลงตรงข้ามเขา มือเรียวถือชาไว้ในมือทั้งสองข้างและจิบไปหนึ่งที เพียงแค่จิบครั้งเดียวก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมคลุ้งไปทั่วริมฝีปากและฟัน ชาสีเหลืองอำพันไหลเข้าสู่ร่างกายและถูกห้อมล้อมด้วยพลังจิตจาง ๆ โดยไม่คาดคิดพลังงานจิตนั้นหายากอย่างที่สุด แม้แต่อาหารกับยาที่ฉันทำยังเทียบไม่ได้ นี่เป็นชาแห่งจิตวิญญาณ ในยุคนี้ชาแห่งจิตวิญญาณถือว่าเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้เลย“เป็นชาที่ดีจริง ๆ” ฉันอุทานขึ้นพลันมุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย “เมื่อเทียบกับยาต้มถ่ายพิษปาเจินของคุณแล้ว ของเหล่านี้แทบอะไรไม่ได้หรอกครับ”ฉันยิ้มตอบ “องค์กรของคุณช่วยฉันได้มาก และฉัน
หลังจากที่ฉันเปิดจิตสำนึกแห่งสวรรค์ ฉันจึงรู้สึกไวต่อจิตวิญญาณของคนอื่น พวกเราอยู่ใกล้กันมากและเขาก็ไม่สามารถป้องกันฉันได้ ดังนั้นฉันจึงรู้สึกว่ามีเลือดไหลอยู่ในจิตวิญญาณของเขาร่างบางยิ้มและเอ่ยต่อ “อาจารย์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ฉันเลยเรียนรู้มาจากเขาค่ะ”หูชิงหยูเม้มริมฝีปาก ชาถ้วยเมื่อกี้ทำให้เขารู้สึกสบายสมองและสดชื่นชานี้ดีต่อพลังจิตของเขาจริงหรือ?ดวงตาของเขาร้อนผ่าวเมื่อมองมาที่ฉัน “คุณหยวน...คุณสามารถรักษาผมได้ไหม?”“ตอนนี้ยังไม่ได้” ฉันตอบกลับทันที “วัตถุดิบยาในมือของฉันมีไม่ครบ ถึงแม้ว่าบาดแผลของคุณจะไม่หนัก แต่มันผ่านมาหลายปีแล้ว ถ้าต้องรักษาก็ไม่ใช่ว่าจะรักษาไห้หายได้ภายในวันเดียว”ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ และต้มกาน้ำชาอีกครั้ง หลังจากชาเดือดเขาก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “คุณหยวน คุณจดรายการให้ผม ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบยาอะไร ผมสามารถหามาได้ทั้งนั้น”“ฉันขอดูพลังจิตของคุณก่อน” ฉันยืนขึ้นและเดินไปที่ข้างหลังเขา จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่ศีรษะของเขาและปล่อยพลังจิตเข้าไปข้างในพลังจิตของเขาเหมือนหมอกสีขาว และในหมอกนั้นมีเมฆสีแดงเลือดลอยดิ้นอยู่ตลอดเวลา เมฆสีแดงเลือดนั้นย
หลังจากฟังคุณยายพูดเรื่องการหย่าร้างของพ่อแม่แล้ว จุนเหยาก็ได้รู้ว่าพ่อของตนได้แต่งงานเป็นลูกเขยในตระกูลร่ำรวย และมีลูกชายกับภรรยาใหม่ด้วยกันหนึ่งคน นานวันเข้าบริษัทก็ยิ่งเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง แต่ในใจของเขาคงคิดว่า ฉันอาจจะเป็นความอับอายที่สุดในชีวิตของเขาก็ได้มั้ง“พ่อคะ ดูสิ หนูสวมสร้อยคอหยกเส้นนี้แล้วสวยมากเลย งานเลี้ยงวันเกิดคุณปู่เดือนหน้า หนูจะต้องสะกดสายตาผู้คนได้แน่นอนค่ะ” หญิงสาวพูดอย่างมั่นอกมั่นใจหยวนเหวินพยักหน้าเห็นด้วย “งั้นก็ซื้อเลยสิ”“คุณผู้หญิงหยวนต้าเป็นลูกค้าประจำของทางร้านเรา ดังนั้นทางเราจะมอบส่วนลดสิบเปอร์เซ็นต์ รวมทั้งหมดเป็นเงินยี่สิบสามล้าน”หยวนเหวินไม่แม้แต่จะตกใจกับจำนวนเงิน “ตราบใดที่ลูกสาวของผมมีความสุข เงินแค่นี้ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไร” หญิงสาวดีใจจนตาหยี ฉันกำมือแน่น แม้แต่ค่าเลี้ยงดูของฉันเขาก็ไม่เคยคิดจะส่งให้สักนิด แต่เขากลับใจกว้างซื้อเครื่องประดับให้หญิงสาวคนนี้“โอ๊ย ขวดหยกใบนี้สวยจังเลย” หญิงสาวเหลือบตามองขวดหยกที่ฉันใช้เป็นตัวอย่างสินค้า เธอหยิบขึ้นมาหมุนดูรอบ ๆ “ฉันจะเอาอันนี้”เถ้าแก่รูปร่างอ้วนกล่าว “ต้องขอโทษด้วยนะครับ ขวดหยกใบนี
เจ้าของร้านกัดฟันแน่น เพราะอย่างไรของทั้งหมดก็ต้องทิ้งไป “เอาล่ะ ๆ ฉันจะยอมหน่อยแล้วกัน อันใหญ่หนึ่งร้อย อันเล็กห้าสิบ”“งั้นฉันก็จะเอาแค่สองกระถางเล็กนี่” ฉันหยิบกระถางออกจากมือของเด็กหนุ่มแล้วยื่นเงินหนึ่งร้อยหยวนให้เขาไป“เดี๋ยวสิ” ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนว่า “ฉันขอซื้อกระถางต้นไม้นั่น ใบละห้าร้อย” จุนเหยาขมวดคิ้วและหันหลังไปมอง กลับกลายเป็นหยวนเหวินและลูกสาวของเขาหญิงสาวเชิดคางขึ้นอย่างผู้ชนะ ท่าทีเดียวกันกับตอนที่หยิบขวดหยกไป เพราะเมื่อครู่ฉันหยิบขวดหยกปาดหน้าเธอไป ตอนนี้เธอจึงกลับมาเอาคืนฉันแล้วเด็กน้อยเสียจริง“เงินและสินค้าซื้อขายแล้ว ของสิ่งนี้เป็นของฉัน” ฉันเอ่ยเบา ๆ หญิงสาวพ่นลมหายแรง ๆ “ฉันให้กระถางละหนึ่งพัน”เจ้าของร้านเบิกตากว้างเมื่อได้ยินราคา ก่อนจะรีบวิ่งมาหาฉัน พลันเอ่ย “ฉันไม่ขายกระถางต้นไม้นี้ให้เธอ และฉันจะคืนเงืนให้เธอหนึ่งร้อยหยวน”ฉันหันหลังกลับและเลี่ยงไม่รับเงินจากเขา แล้วพูดเสียงดังขึ้นอีก “ทำไมพวกร้านแหล่งรวมหยกถึงได้เป็นแบบนี้? เงินก็จ่ายแล้ว ยังจะเอาของคืนไปขายในราคาที่แพงขึ้นอีก นี่พวกคุณยังทำการค้าขายอยู่ไหม? ขนาดแค่กระถางต้นไม้ยังไม่สนใจกฎการซ