ถังหมิงหลียังกำหนดกฎเกณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เรื่องจิตวิญญาณของทีมและการปฏิบัติตามข้อตกลง เมื่อเลือกสมัครเข้าร่วมแล้วจะต้องลงนามในสัญญา ซึ่งผลที่ตามมาทั้งหมดจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีคนสมัครเป็นจำนวนมาก ฉันดูโพสต์ลงทะเบียนที่ยาวเหยียด คิดไม่ถึงว่าในบรรดาผู้ชมของฉันจะมีผู้มีพลังวิเศษและผู้ฝึกวิชาอยู่มากมาย แถมยังมีนักพรตอีกไม่น้อยเลยด้วยหลังจากหมดเขตสิ้นสุดการรับสมัคร ถังหมิงหลีก็ได้เรียกผู้สมัครที่เลือกไว้ทั้งหมดสิบคนมาสัมภาษณ์ออนไลน์ มีเพียงสี่คนเท่านั้นที่ผ่านการสัมภาษณ์ ในกลุ่มนี้มีผู้ฝึกวิชาสองคนที่อยู่ในระดับกลางของขั้นหมิงจิน คนหนึ่งชื่อฉินหนานเฉิง อีกคนชื่อเซี่ยชิงหยู ส่วนอีกสองคนเป็นผู้มีพลังวิเศษ คนหนึ่งชื่อว่าถังซิน มีความสามารถประเภทไม้ในระดับที่หนึ่ง ส่วนอีกคนชื่อหวางรุ่ยซี มีความสามารถประเภทดินในระดับที่หนึ่งทว่านักพรตเหล่านั้นกลับถูกถังหมิงหลีคัดออก เพราะมีศักยภาพต่ำ แต่พวกเขาก็ยังโอหังอวดดี เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากเข้าร่วมการไลฟ์สดด้วย จึงส่งข้อความมาขอร้องฉันไม่หยุดครั้งนี้ฉันเลือกหมู่บ้านผีสิงแห่งหนึ่งตามตำนานเล่ากันว่า ใต้เขตตงซานทางท
[พวกผู้หญิงข้างบนหยุดผู้ชายสักทีจะได้ไหม? ยังอยากดูไลฟ์สดดี ๆ อยู่หรือเปล่า?]พวกเราเดินไปตามทางบนเขาเรื่อย ๆ หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า “หมู่บ้านตี้เหมิน” ตั้งอยู่บนที่ราบและถูกโอบล้อมด้วยภูเขา มีทางเข้าไปเพียงทางเดียวเท่านั้น ซึ่งมันถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มหนามและวัชพืช เพราะไม่มีใครเดินเข้ามาหลายปีแล้วโชคดีที่ทั้งสี่คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าพวกเขาเป็นลูกคนรวยที่ถูกเลี้ยงแบบตามใจมาตั้งแต่เด็ก คงจะมีปัญหาอย่างแน่นอนทันใดนั้นถังหมิงหลีก็หยุดชะงักและมองไปรอบ ๆ พร้อมขมวดคิ้ว“ทำไมเหรอ?” ฉันถาม“เหมือนจะมีคนอยู่ในป่า” เขาลดเสียงลง พลันดึงมีดสั้นออกจากรองเท้าบู๊ท ก่อนเดินช้า ๆ ไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ ในป่าเงียบสงัดจนน่าประหลาด เงียบจนไม่มีแม้กระทั่งเสียงนกเสียงแมลงเมื่อจวนจะถึงที่หมาย เราทุกคนก็ได้กลิ่นเลือดอันน่าสะอิดสะเอียนเซี่ยชิงหยูหยิบไม้ไผ่ขึ้นมาหนึ่งท่อนปัดวัชพืชใต้ต้นไม้ออกไป พบว่าข้างในมีซากกระต่ายและไก่ป่าเปื้อนเลือดเต็มไปหมดมือหนาหยิบกระต่ายตัวหนึ่งขึ้นมา ที่ท้องของมันเหวอะหวะและมีเลือดทะลัก เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “กระต่ายตัวนี้ถูกสัตว์ป่ากัดตายครับ”ฉินหนานเฉิงเปิดซากไก่ป่าสด
เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อยและเอามือเกาหัว “ตอนนี้ผมทำได้แค่ฝึกสร้างกำแพงดินและควบคุมก้อนดินเพื่อโจมตีคน รอให้ผมทะลุผ่านระดับสองไปก่อน ผมก็สามารถเคลื่อนไหวภายในดินได้ เช่น การทะลุกำแพงหรือดำลงไปในดิน”[โอ้ พี่ชายท่านนี้ยอดเยี่ยมมาก เจ้าแห่งปฐพีระดับสอง พี่จะเป็นนักลอบสังหารอย่างนั้นเหรอ หรือมือดีในการปล้นธนาคารล่ะ?][คนข้างบนไม่มีสมองหรือเปล่า? อาคารในสมัยนี้ล้วนมีเหล็กเส้น ความสามารถที่เหนือธรรมชาติของเจ้าแห่งปฐพีไม่สามารถทะลุผ่านเหล็กเส้นได้ อีกทั้งต้องผ่านระดับสามถึงจะทะลุผ่านกำแพงปูนซีเมนต์ได้][แบบนี้ดูเหมือนว่าวิชาของเจ้าแห่งปฐพีจะอ่อนมาก][เฮอ เฮอ ไม่ใช่มืออาชีพจะไปเข้าใจอะไรล่ะ ไม่มีความสามารถไหนที่เหนือธรรมชาติหรอก มีแต่จะใช้ความสามารถที่เหนือธรรมชาตินั้นอย่างไร]พวกเราคุยกันแบบนี้จนดึก ฉันนับคนดูที่ออนไลน์อยู่ในตอนนี้ พลางคิดว่าเนื้อหาในไลฟ์สดน่าเบื่อขนาดนี้ กลับไม่นึกว่าจำนวนคนจะเพิ่มขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย ตอนนี้มีผู้ชมถึงแปดล้านคนแล้ว และจำนวนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงหลังเที่ยงคืนจำนวนคนก็ทะลุเกินสิบล้านคนไปแล้วในไลฟ์สดมีจำนวนคนดูสิบล้านคน ฉันไม่เคยพบเห็
สีหน้าของถังหมิงหลีเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขารีบขึ้นไปดึงร่างที่ถูกห้อยลงมา แต่ฉันรีบเอื้อมมือออกไปดึงเขาไว้เขามองฉันด้วยความแปลกใจ ฉันจึงพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “เขายังไม่ตาย”“ยังไม่ตายยิ่งต้องรีบเอาลงมา”“ปล่อยให้เขาถูกแขวนไว้อีกสักพัก” ฉันว่าต่อ “เมื่อเลือดไหลลงสู่สมองจะทำให้เขาตื่นเร็วขึ้น”หลังจากหยุดพูดไปชั่วครู่หนึ่ง ฉันก็เอ่ยต่อ “ออกไปข้างนอกแล้วขุดดินเหนียวที่เหม็นที่สุด เอามายัดเข้าไปในปากของเขา แล้วเขาจะตื่นขึ้นมา”ถังหมิงหลีฉลาดมาก เขาสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที “เป็นความคิดที่ดี ฉันเห็นกองมูลสัตว์ตรงทางเข้าหมู่บ้านพอดี ใช้สิ่งนั้นยิ่งมีประโยชน์ จะได้เห็นผลเร็วขึ้น”พูดจบ พวกเราสองคนก็หันหลังเดินออกไป ทันใดนั้นหวางรุ่ยซีก็รีบขยับตัวทันที “รอก่อน รอก่อน! อย่างเพิ่งไป”พวกเราไม่สนใจเขาและเดินออกมาถึงด้านหน้าประตู ฉันเงยหน้าและพูดขึ้นว่า “ออกมากันได้แล้ว”ถังซินและคนอื่น ๆ ค่อย ๆ ออกมาจากพุ่มไม้ด้านข้าง เซี่ยชิงหยูหัวเราะเบา ๆ แก้เก้อ “แอดมิน พวกเราแค่ล้อคุณเล่น”ฉันพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ตลกเลยสักนิด”[เมื่อกี้ฉันตกใจเกือบตาย อีกนิดเดียวก็จะแจ้งความแล้ว][ไม่ตลกเ
ฉันตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “พลังมืดได้เข้าสู่ร่างกายของคุณ อารมณ์ของคุณจึงเปลี่ยนไปและถูกควบคุมโดยผีเหล่านั้น แต่ฉันได้กำจัดพลังมืดทั้งหมดในร่างกายของคุณออกไปแล้ว”ถังซินที่เพิ่งรู้สึกตัวก็พูดอย่างกลัว ๆ ว่า “พี่สาวแอดมิน ความหมายของพี่ก็คือ การที่เขาบอกให้พวกเรามาหลอกคุณ ความจริงแล้วไม่ใช่เขา แต่เป็นผีที่คอยบงการอยู่ข้างหลัง?”ฉันพยักหน้าตอบ “ถูกต้อง”ถังซินสูดลมเข้าปาก เธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว[เป็นอย่างนี้นี่เอง! ฉันบอกแล้ว แอดมินของเราที่จริงแล้วไม่ใช่คนแบบนั้น][แอดมินล้วนมีแก่นแท้เป็นเทพธิดาตลอดมา มีความเมตตา เกลียดชังความริษยา จะสามารถทำลายอนาคตของผู้อื่นด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำได้][แอดมิน ฉันขอโทษ ฉันคือพี่ใหญ่ของเซี่ยซิงหยู เมื่อกี้ฉันเข้าใจเธอผิดไป ฉันขอโทษ ฝีมือการกำจัดพลังมืดของเธอเมื่อกี้สวยงามอ่อนช้อยมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะขอคำแนะนำจากเธอด้วย]“อ๊า!” จู่ ๆ ภายในศาลพระภูมิก็มีเสียงร้องออกมา พวกเรารีบหันหลังและวิ่งเข้าไปข้างใน ฉันเห็นหวางรุ่ยซีลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ พลันดวงตาของรูปปั้นหินที่น่านับถือก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำและปล่อยแสงสีชาดออกมาปกคลุมรอบตัวเขา“ช่วยด้วย! ช
หวางรุ่ยซีหมดสติล้มลงบนพื้น ตาทั้งคู่ปิดสนิท ฉันจึงให้ชีพจรแก่เขา เขาไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต แค่เสียเลือดมากเกินไปและบาดเจ็บสาหัส เกรงว่าจะต้องใช้เวลารักษาเป็นเวลานานร่างกายถึงจะฟื้นตัวได้เต็มที่ได้อันที่จริงยาเม็ดเผยหยวนไม่กี่เม็ดก็สามารถรักษาให้หายได้ แต่ฉันไม่สามารถเปิดเผยไม้ตายของตัวเองบ่อย ๆ ได้ตามอำเภอใจฉันให้เขากินยาเม็ดเผยหยวนเล็กไปหนึ่งเม็ด และให้เซี่ยชิงหยูกับฉินหนานเฉิงพาเขาไปพักผ่อนในกระท่อมหลังเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กันไม่นานพลังที่เก้าก็พูดขึ้นว่า “ในรูปปั้นหินมีของล้ำค่าอยู่ชิ้นหนึ่ง หาโอกาสไปเอามา และอย่าให้คนอื่นเห็น”ฉันใจเต้นแรงพลันหันไปมองที่รูปปั้นหินจากนั้นเสียงประหลาดก็ดังขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งตรงท้ายหมู่บ้าน ถังหมิงลี่พูดขึ้น “พวกนายได้ยินเสียงนั่นไหม?”พวกเราล้วนเงี่ยหูฟังและดูเหมือนจะเป็นเสียงฝีเท้าแผ่วเบา เสียงฝีเท้าเหล่านั้นฟังดูพลุกพล่านและยุ่งเหยิงราวกับมีคนจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังเดินอยู่เสียงของฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ฉันจึงเปิดประตูห้องออกเป็นช่องแคบ ๆ และมองออกไปข้างนอกพลันสีหน้าของฉันก็ต้องเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันมันคือมัมมี่!มีมัมมี่จำนวนนับไม่
ใบหน้าที่แสนดุร้ายพร้อมร่างเปื่อยแห้งของซากศพเดินได้ต่างแย่งชิงกันพุ่งเข้ามา[ตื่นเต้นมาก ไลฟ์สดนี้น่าตื่นเต้นกว่าหนังซอมบี้ของอเมริกาอีก!][ซากศพเดินได้พวกนี้น่ากลัวมาก พวกมันจะออกจากภูเขาเข้ามาในตัวเมืองไหม?][เกรงว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะมาถึงในตัวเมือง ก็คงโดนฆ่าเกลี้ยงเสียก่อน แต่ถึงยังไงถ้าโดนพวกเขากัดก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเปลี่ยนไปเป็นซากศพเดินได้หรอกนะ][แอดมินระวัง! ด้านหลังคุณมีซากศพเดินได้!]ฉันสังเกตเห็นว่าด้านหลังมีลมมืดกวาดผ่านจึงรีบหมอบตัวลง แขนที่เหี่ยวแห้งข้างหนึ่งกวาดผ่านหัวของฉันไป ถ้ามันจับฉันได้คงต้องถูกแขนแห้ง ๆ นับสิบที่กำลังพุ่งเข้ามาตีจนเนื้อแตกยับแน่ ๆ ฉันถือดาบไม้ท้อและพลิกมือแทงเข้าไปที่หน้าอกของมันพลังงานมืดที่รวมอยู่ในร่างของซากศพเดินได้ถูกฉันแทงเข้าไปด้วยไม้สายฟ้าฟาดนี้ ทันใดนั้นพลังสีดำก็ปรากฏขึ้นจากบาดแผลอย่างต่อเนื่องและส่งเสียงดังฉ่าออกมาฉันดึงดาบออกมาแล้วลากไปด้านข้างราวกับว่ากำลังหั่นแตงหั่นผัก พร้อมตัดหัวมันออกพลังของไม้สายฟ้าแข็งแกร่งจริง ๆ ตอนนี้สถานการณ์กำลังวุ่นวาย ฉันฆ่าซากศพเดินได้ไปแล้วสองตัว ด้านหนึ่งสู้อีกด้านหนึ่งถอย ฉันถอย
ฉันตกใจมากจนโพล่งถาม “งั้นฉันจะต้องทำยังไง?”พลังที่เก้าจึงเอ่ยตอบ “ของสิ่งนั้นกระหายเลือดอย่างที่สุด มีแค่ไหมเกล็ดมังกรสีแดงเท่านั้นที่จะสามารถหยุดมันได้ เธอต้องใช้เลือดล่อมันออกมาก่อน และหลังจากนั้นก็ใช้ไหมเกล็ดมังกรสีแดงผนึกมัน”ฉันเอากรรไกรออกมาและตัดไหมเกล็ดมังกรสีแดงออกไปชิ้นหนึ่ง หลังจากนั้นก็ใช้มีดกรีดที่บนฝ่ามือของตัวเอง พลันหยดเลือดก็ไหลออกมาและมีแสงสีแดงสว่างออกมาจากในรูปปั้นหินนั่นเนื่องจากผ้าไหมเกล็ดมังกรสีแดงปิดตาของรูปปั้นหินนั้นอยู่ มันจึงไม่สามารถสูดเลือดฉันได้โดยตรง แต่โดนกลิ่นเลือดของฉันดึงดูด และรูปปั้นหินทั้งหมดก็เริ่มส่องแสงสีแดงฉันตื่นเต้นจนทำให้มือที่จับไหมเกล็ดมังกรสีแดงสั่นเล็กน้อยและจู่ ๆ กลุ่มแสงสีแดงก็พุ่งออกมาจากรูปปั้นหิน มันลอดผ่านรูไหมสีแดงที่ฉันตัด แล้วลอยมาหาฉันฉันตาไว มือไว กระโดดหนีทันที พร้อมใช้ไหมสีแดงห่อแสงสีนั่นไว้อย่างแน่นหนาแท้ที่จริงแล้วมันคือลูกปัดสีแดงลูกหนึ่งขนาดเท่าเม็ดลำไย ถึงแม้จะโดนห่อแล้ว มันก็ยังคงดีดกระเด้งอยู่ในผ้าไหม“นี่คืออะไร?” ฉันถามขึ้นโดยที่ในหัวเต็มไปด้วยหมอก“ไขมุ่กแห่งจิตวิญญาณโลหิต” พลังที่เก้าพูดขึ้น “ในตอ