“คุณชายลู่มีผู้หญิงที่เต็มใจร่วมหลับนอนกับคุณเยอะแยะ ทำไมถึงต้องมาเสียแรงกับฉันด้วย” จุนเหยารีบเร่งฝีเท้าและหันหลังกลับบ้านอย่างไว โดยไม่ได้สังเกตเห็นแววตามาดร้ายของลู่ฉี่หลินดูเสียงเข้มเอ่ยกรอด “คนอย่างลู่ฉี่หลิน ถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องคว้าเอามาให้ได้”ถังหมิงหลียังไม่กลับจากการไปทำธุระที่เมืองหลวง แต่ฉันเห็นว่าตอนนี้ใกล้จะครบหนึ่งอาทิตย์ที่หยุดพักผ่อนแล้ว จึงเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการไลฟ์สดในครั้งถัดไปร่างเล็กกดดูความคิดเห็นของผู้ชม ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่าอยากเข้าร่วมไลฟ์สดกับฉันด้วย แถมยังยินดีจ่ายค่าธรรมเนียมราคาสูงเพื่อได้เข้าร่วมอีกด้วย มือเรียวลูบที่คางอย่างใช้ความคิด จะว่าไปก็น่าสนใจดีนะ การเปิดให้ผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วม สามารถเพิ่มรายได้ที่มีอยู่ให้มากขึ้น และดึงดูดผู้ชมใหม่ ๆ ให้เข้ามาสนับสนุนช่องไลฟ์สดของฉันด้วยแต่ก็ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้ฉันจึงลองปรึกษากับถังหมิงหลี เขาเองก็เห็นด้วยที่จะเชิญผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมในไลฟ์สด แต่อาจจะมีข้อแม้คือต้องเป็นผู้ฝึกตน นักรบ หรือผู้มีพลังวิเศษเท่านั้น จะเป็นคนธรรมดาไม่ได้เด็ดขาด และในการเลือกสถานที่ลี้ลับก็จะต้องไม่เฮี
“คุณกล้าดียังไง!” เขาตะโกนด้วยสีหน้าซีดเซียว “ผมคือคนของตระกูลลู่แห่งจินหลิง ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไปแน่!”ขาเรียวก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก่อนจะหันกลับมาจ้องเขาอย่างเย็นชา “คุณกำลังบังคับให้ฉันฆ่าคุณอยู่นะ”เขากำหมัดและพยายามจะยืนขึ้น แต่ขาของเขาอ่อนแรงเกินไปมือเรียวตบเข้าไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย “นี่คือบทเรียนสำหรับสิ่งที่คุณทำในวันนี้ ถ้าเป็นอาจารย์ของฉัน ท่านไม่ปล่อยคุณไว้แน่ นี่ถือว่าฉันมีเมตตาแล้วนะ”ไม่ว่าจะอย่างไร ฉันก็ต้องกุเรื่องอาจารย์ขึ้นมาก่อน เพื่อเป็นการขู่ไม่ให้เขามารังแกฉันได้อีกเขามองมาที่ฉันด้วยสายตาเกลียดชังและอาฆาตแค้น ส่วนฉันก็ปรายตามองเขาอย่างเยือกเย็นและทิ่มแทงจนเข้าไปถึงกระดูก พลันหมุนตัวเดินออกจากห้องไปตอนนี้ฉันมีธุระที่สำคัญกว่าต้องทำนั่นคือ การค้นหาสมุนไพรสีม่วงที่ส่งกลิ่นหอมแปลก ๆ ออกมาต้นนั้น!ลุงเฝิงมีกลิ่นนั่นติดตัวอยู่ จุนเหยาจึงเดินตามกลิ่นนั้นไปและพบว่าเขาพักอยู่ในห้องดีลักซ์อีกห้องหนึ่งที่อยู่ชั้นบนมือเรียวเคาะประตู ทว่าทันทีที่เขาเปิดประตู ฉันก็ยื่นมือออกไปสับที่คอหอยของเขาทันที เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่งเสียงร้องเบา ๆ หรือกระทั่งเห็นรูปร่างหน้า
ขณะที่กำลังพูด หล่อนก็ยื่นรูปถ่ายรูปหนึ่งให้คุณนายลู่ดู ลู่ฉี่หลินถึงกับแสดงอาการเหลือเชื่อผู้ช่วยหยูกล่าว “ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ สองสามเดือน เนื้องอกบนใบหน้าของหล่อนก็หายไปหมดเลย อีกทั้งยังได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์ แถมบ้านที่หล่อนอาศัยอยู่ในตอนนี้ก็เคยเป็นบ้านของตระกูลร่ำรวยในพื้นที่ โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมบ้านราคาแพงขนาดนั้นถึงตกไปอยู่ในมือของหล่อนได้”คุณนายลู่ค่อย ๆ เดินไปที่หน้าต่างพลางมองวิวภูเขาด้านนอก “แปลกจัง หรือว่าหล่อนจะเจอกับเรื่องประหลาดมหัศจรรย์?”ลู่ฉี่หลินจำ “อาจารย์” ที่จุนเหยากล่าวก่อนหน้านี้ได้ แต่ตอนนี้เขาแค่อยากรักษาอาการเจ็บป่วย เขาจึงไม่ได้พูดออกไป และเลือกพูดเพียง “แม่ครับ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เราไปลงมือกับน้องชายของหล่อนดีกว่าไหมครับ?”ผู้ช่วยหยูกล่าว “อ้างตามข้อมูลที่เราหาเจอ หยวนจุนเหยารักและทะนุถนอมน้องชายคนนี้มาก ถ้าเราจับเขาไว้ในเงื้อมมือได้ เธอจะเชื่อฟังเราอย่างแน่นอนค่ะ”คุณนายลู่ชำเลืองมองลูกชายของตน ในวันนี้ดวงตาของเขาดูเป็นทุกข์ ทำให้จิตใจคนเป็นแม่รู้สึกเจ็บปวดหล่อนเป็นคนฉลาดหลักแหลม ถ้าเป็นเรื่องอื่น หล่อนจะไม่บุ่มบ่ามขนาด
“งั้น...ฉันยังเอาเขากลับมาได้ไหม?” ฉันถามด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน“ได้”ทว่าขณะที่กำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาก็เอ่ยขัดเสียก่อน “รอให้เธอผ่านไปถึงระดับเก้าก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นเธอก็จะสามารถใช้เครื่องมือวิเศษของจักรวาลเพื่อข้ามผ่านภพภูมิไปยังโลกอื่น ๆ ได้”มือเรียวกำหมัดแน่น การคุยกับพลังที่เก้าก็เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา พึ่งขึ้นไปข้างบนไม่ทันไรก็ตกลงมาด้านล่างในเสี้ยววิระดับเก้า มันช่างห่างไกลอะไรอย่างนี้ ตลอดชีวิตนี้ฉันจะมีโอกาสผ่านไปถึงระดับเก้าจริง ๆ ไหมนะ?“แทนที่จะกังวลเรื่องนี้ เธอไปกังวลเรื่องตัวเองก่อนไม่ดีกว่าเหรอ” พลังที่เก้ากล่าว “คนที่ต้องการจับตัวเธอมาถึงแล้ว”จุนเหยาสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงการต่อสู้ดังมาจากข้างนอก ก่อนจะเอนตัวไปที่ประตูและมองออกไป พบว่ามีชายร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์สีขาวสองสามคนกำลังมุ่งตรงมาทางนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลสังเกตว่าพวกเขามีบางอย่างผิดปกติ จึงเข้ามาขัดขวาง แต่ก็โดนพวกมันสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งจนล้มลงไปนอนกับพื้นพวกนี่เป็นคนของตระกูลลู่หรือเปล่า?พวกเขาจะมาจับน้องชายของฉัน จากนั้นก็ใช้อำนาจคุกคามเพื่อให้ฉันช่วยรักษาลู่ฉี
เลขาของนายกเทศมนตรีเหลือบมองเขาและกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “นายกเทศมนตรีของเราบอกว่าเขามีมิตรภาพกับอาจารย์จางอยู่บ้าง ซึ่งอาจารย์จางเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนมือหนึ่งของประเทศในเมืองหลวง ที่ท่านสามารถแนะนำให้คุณชายลู่ได้”ลู่ฉี่หลินยังต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกคนเป็นแม่ขัดเอาไว้ก่อน สีหน้าของหล่อนซีดเซียวทว่ายังคงเก็บอาการไว้ “พวกเราเข้าใจแล้วค่ะ คืนนี้เราจะไปจากเมืองซานเฉิงค่ะ”เลขาของนายกเทศมนตรีพยักหน้าตอบ “ถ้าคุณทั้งสองเข้าใจแล้วก็ดีค่ะ ฉันยังมีเรื่องต้องทำ งั้นฉันไปก่อนนะคะ”หลังจากที่หล่อนจากไป ลู่ฉี่หลินก็ถามแม่ของเขาอย่างโกรธเคือง “แม่ ทำไมแม่ถึง…”คุณนายลู่ตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “หุบปาก! ที่นี่คืออาณาบริเวณของคนอื่น ถึงยังไงพวกเราก็คือคนต่างแดน ถ้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าก็มีแต่จะเสียเปรียบ เรากลับจินหลิงกันก่อนแล้วค่อยไปปรึกษาหาวิธีกันใหม่”จุนเหยาป้อนซุปไก่ผ่านท่ออาหารเข้าไปในกระเพาะของอันอี้ สีหน้าของเขามีเลือดฝาดเล็กน้อยและดูดีขึ้นมากเมื่อห่มผ้าให้อันอี้เสร็จก็หันไปดูเย่เซียนหลัว “เซียนหลัว ช่วงนี้คุณรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าอก เหงื่อออกตอนกลางคืน และปวดหัวในตอนเช้าใ
ถังหมิงหลียังกำหนดกฎเกณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เรื่องจิตวิญญาณของทีมและการปฏิบัติตามข้อตกลง เมื่อเลือกสมัครเข้าร่วมแล้วจะต้องลงนามในสัญญา ซึ่งผลที่ตามมาทั้งหมดจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีคนสมัครเป็นจำนวนมาก ฉันดูโพสต์ลงทะเบียนที่ยาวเหยียด คิดไม่ถึงว่าในบรรดาผู้ชมของฉันจะมีผู้มีพลังวิเศษและผู้ฝึกวิชาอยู่มากมาย แถมยังมีนักพรตอีกไม่น้อยเลยด้วยหลังจากหมดเขตสิ้นสุดการรับสมัคร ถังหมิงหลีก็ได้เรียกผู้สมัครที่เลือกไว้ทั้งหมดสิบคนมาสัมภาษณ์ออนไลน์ มีเพียงสี่คนเท่านั้นที่ผ่านการสัมภาษณ์ ในกลุ่มนี้มีผู้ฝึกวิชาสองคนที่อยู่ในระดับกลางของขั้นหมิงจิน คนหนึ่งชื่อฉินหนานเฉิง อีกคนชื่อเซี่ยชิงหยู ส่วนอีกสองคนเป็นผู้มีพลังวิเศษ คนหนึ่งชื่อว่าถังซิน มีความสามารถประเภทไม้ในระดับที่หนึ่ง ส่วนอีกคนชื่อหวางรุ่ยซี มีความสามารถประเภทดินในระดับที่หนึ่งทว่านักพรตเหล่านั้นกลับถูกถังหมิงหลีคัดออก เพราะมีศักยภาพต่ำ แต่พวกเขาก็ยังโอหังอวดดี เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากเข้าร่วมการไลฟ์สดด้วย จึงส่งข้อความมาขอร้องฉันไม่หยุดครั้งนี้ฉันเลือกหมู่บ้านผีสิงแห่งหนึ่งตามตำนานเล่ากันว่า ใต้เขตตงซานทางท
[พวกผู้หญิงข้างบนหยุดผู้ชายสักทีจะได้ไหม? ยังอยากดูไลฟ์สดดี ๆ อยู่หรือเปล่า?]พวกเราเดินไปตามทางบนเขาเรื่อย ๆ หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า “หมู่บ้านตี้เหมิน” ตั้งอยู่บนที่ราบและถูกโอบล้อมด้วยภูเขา มีทางเข้าไปเพียงทางเดียวเท่านั้น ซึ่งมันถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มหนามและวัชพืช เพราะไม่มีใครเดินเข้ามาหลายปีแล้วโชคดีที่ทั้งสี่คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าพวกเขาเป็นลูกคนรวยที่ถูกเลี้ยงแบบตามใจมาตั้งแต่เด็ก คงจะมีปัญหาอย่างแน่นอนทันใดนั้นถังหมิงหลีก็หยุดชะงักและมองไปรอบ ๆ พร้อมขมวดคิ้ว“ทำไมเหรอ?” ฉันถาม“เหมือนจะมีคนอยู่ในป่า” เขาลดเสียงลง พลันดึงมีดสั้นออกจากรองเท้าบู๊ท ก่อนเดินช้า ๆ ไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ ในป่าเงียบสงัดจนน่าประหลาด เงียบจนไม่มีแม้กระทั่งเสียงนกเสียงแมลงเมื่อจวนจะถึงที่หมาย เราทุกคนก็ได้กลิ่นเลือดอันน่าสะอิดสะเอียนเซี่ยชิงหยูหยิบไม้ไผ่ขึ้นมาหนึ่งท่อนปัดวัชพืชใต้ต้นไม้ออกไป พบว่าข้างในมีซากกระต่ายและไก่ป่าเปื้อนเลือดเต็มไปหมดมือหนาหยิบกระต่ายตัวหนึ่งขึ้นมา ที่ท้องของมันเหวอะหวะและมีเลือดทะลัก เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “กระต่ายตัวนี้ถูกสัตว์ป่ากัดตายครับ”ฉินหนานเฉิงเปิดซากไก่ป่าสด
เขารู้สึกเขินอายเล็กน้อยและเอามือเกาหัว “ตอนนี้ผมทำได้แค่ฝึกสร้างกำแพงดินและควบคุมก้อนดินเพื่อโจมตีคน รอให้ผมทะลุผ่านระดับสองไปก่อน ผมก็สามารถเคลื่อนไหวภายในดินได้ เช่น การทะลุกำแพงหรือดำลงไปในดิน”[โอ้ พี่ชายท่านนี้ยอดเยี่ยมมาก เจ้าแห่งปฐพีระดับสอง พี่จะเป็นนักลอบสังหารอย่างนั้นเหรอ หรือมือดีในการปล้นธนาคารล่ะ?][คนข้างบนไม่มีสมองหรือเปล่า? อาคารในสมัยนี้ล้วนมีเหล็กเส้น ความสามารถที่เหนือธรรมชาติของเจ้าแห่งปฐพีไม่สามารถทะลุผ่านเหล็กเส้นได้ อีกทั้งต้องผ่านระดับสามถึงจะทะลุผ่านกำแพงปูนซีเมนต์ได้][แบบนี้ดูเหมือนว่าวิชาของเจ้าแห่งปฐพีจะอ่อนมาก][เฮอ เฮอ ไม่ใช่มืออาชีพจะไปเข้าใจอะไรล่ะ ไม่มีความสามารถไหนที่เหนือธรรมชาติหรอก มีแต่จะใช้ความสามารถที่เหนือธรรมชาตินั้นอย่างไร]พวกเราคุยกันแบบนี้จนดึก ฉันนับคนดูที่ออนไลน์อยู่ในตอนนี้ พลางคิดว่าเนื้อหาในไลฟ์สดน่าเบื่อขนาดนี้ กลับไม่นึกว่าจำนวนคนจะเพิ่มขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย ตอนนี้มีผู้ชมถึงแปดล้านคนแล้ว และจำนวนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงหลังเที่ยงคืนจำนวนคนก็ทะลุเกินสิบล้านคนไปแล้วในไลฟ์สดมีจำนวนคนดูสิบล้านคน ฉันไม่เคยพบเห็