หลังจากที่ภพกูลบอกกล่าวคนในวงการนักธุรกิจให้มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ ครอบครัวของน้ำขิงก็ได้มาร่วมงานบวชของลูกชายคนโตของเขาด้วย.....โดยการบวชครั้งนี้เป็นการบวชช่วงเข้าพรรษาพอดี และลูกชายของท่านก็ขอบวชหนึ่งพรรษาหรือการบวชเอาพรรษาก็เท่ากับ3เดือน ตอนแรกท่านก็คิดว่าลูกชายเขาจะบวชหนึ่งพรรษาที่แปลว่า 1 ปี เพราะเขาคิดว่าลูกชายเขาไม่น่าจะบวชได้นานขนาดนั้น เอกดนัยที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้... เพราะเขากลัวว่าเขาจะเผลอด่าไอ้ผัวเมียคู่นี้... เมียมันก็คอยมาออเซาะเมียเขา ส่วนไอ้น้อยเวรมันก็คอยส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เมียเขาเช่นกัน และที่สำคัญไอ้สองผัวเมียคู่นี้มันชอบมากวนใจให้เขาแทบจะหลงลืมตัวและด่ามันออกไป แต่ติดที่ว่าเขาต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ... นี่สินะที่เขาเรียกว่า มารผจญ ก่อนบวชมักจะมีมารผจญ.. ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อถึงเวลาที่เอกดนัยเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ทุกคนในงานก็ต่างสงบเสงี่ยมมากขึ้น... เอกภพเลือกวัดที่นอกเมืองหน่อย เพราะมันไม่ค่อยวุ่นวาย.... แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันกลับผิดไปหมด.....ทุกเช้าที่เขาออกมาบิณฑบาตก็มักจะมีสาวๆไม่ว่าจะเด็กสาววัยรุ่น วันกลางคน และคนแก่แม่ม่ายก็มักจะตื
ครอบครัวใหญ่สองครอบครัวกำลังมารอลุ้นว่าตอนนี้พวกเขาจะได้หลายชายหรือหลานสาว สองสาวบอกว่าไม่ขอตรวจเพศให้รอมาลุ้นตอนคลอดเอา และวันนี้คนเป็นปู่เป็นตาก็มาลุ้นกันที่หน้าห้องคลอดกันอย่างเนืองแน่น... ครามถูกตามให้มากรุงเทพ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาสักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อคนเป็นพ่อบอกว่ายัยน้องกำลังจะคลอดเขาก็เลยต้องรีบจองตั๋วแล้วก็มายังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังทันที....พลั่ก.... อุ๊ย...." ขอโทษครับ... ฝ้าย...." ครามถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาเห็น... รักแรกของเขา.... เขาไม่ได้เจอรักแรกของเขาตั้งแต่ที่เธอบอกเลิกเขาไป.... จนป่านนี้... ก็เกือบ8ปีแล้ว...ฝ้ายมาเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่เหรอ...." สวัสดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ..." หญิงสาวรีบทักทายพร้อมกับก้มหัวให้หนึ่งครั้งและเดินจากไปทันที...ครามเดินมายังกลุ่มคนด้วยท่าทางที่เหม่อลอย.. เขาบอกไม่ถูกว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงดี ดีใจ? หรือเสียใจ...." มาแล้วเหรอเจ้าคราม ตอนนี้กำลังรอลุ้นอยู่เลยว่าใครจะคลอดก่อนกัน.... " พ่อตาของยัยน้องพูดขึ้น แต่เท่าเขาคิดไว้เขาว่ายัยน้องน่าจะคลอดก่อน เพราะยัยน้องท้องก่อนไม่ใช่เหรอ..." น้ำขิงต้องคลอดก่อนสิครับเพราะน้ำขิงท้องก่อนแพทเกื
แพทตี้พนักงานต้อนรับสาววัย24ปี เธอทำงานที่โรงแรม PP Group เธอทำงานที่นี่มาได้ 1ปีแล้ว เธอทุ่มเทแรงกายของเธออย่างเต็มที่ เธอและพ่อได้มีโอกาส มาทำงานที่นี่ เพราะว่าพ่อของเธอรู้จักกับเจ้าของโรงแรมนี้โดยบังเอิญ ที่ว่าบังเอิญก็คือพ่อของเธอรู้จักกับเจ้าของที่นี่ ท่านทั้งสองเป็นเพื่อนกัน คุณลุง ภพกูล ที่เป็นเจ้าของโรงแรมในเครือPP Group ท่านได้เจอรถเฉี่ยว มันเลยทำให้พ่อและเธอวิ่งเข้าไปช่วย รถมอร์ไซต์คันนั้นขับหนีหายไป แต่คุณลุงภพกูลเจ็บนิดหน่อย ถึงว่าท่านบอกว่านิดหน่อยแต่เธอก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี เธอเลยพาคุณลุงภพกูลไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เมื่อคุณลุงภพกูลมองเธอและพ่อดีๆ ท่านก็จำได้ว่าพ่อของเธอเป็นเพื่อนของท่าน ท่านทั้งสองจึงเริ่มพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน และเป็นโชคดีของพ่อเธอ เพราะพ่อของเธอตกงานจากที่ทำงานเก่า และเธอก็กำลังหางานทำเช่นกันคุณลุงภพกูลเลยรับเธอเข้าทำงาน พ่อของเธอทำงานเป็นพนักงานบัญชีตำแหน่งเล็กๆ ส่วนเธอทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับหน้าเคาท์เตอร์ เธอชอบมาก เธอชอบพูดคุย และดูแลลูกค้า เธอมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานหนึ่งคนชื่อน้ำขิง น้ำขิงเป็นสาวมั่นมาก สวยแซ่
ทุกวันนี้เธอได้มาอยู่บ้านหลังเล็กที่ลูกชายของคุณภพกูลซื้อเอาไว้เพื่อที่เขาจะได้สามารถพาผู้หญิงของเขามาหลับนอนได้อย่างสะดวก เธอทำได้แค่มองทั้งสองคนเดินเข้าออกบ้านราวกับคู่รัก ส่วนเธอก็เป็นเหมือนแม่บ้านหรือคนใช้..." วันนี้แยมจะมากินข้าวที่บ้านทำกับข้าวรสชาติอ่อนๆไว้ด้วยแยมไม่กินเผ็ด" เอกดนัยสั่งผู้หญิงที่เขาเกลียดจนแทบอาเจียน เห็นหน้ากี่ครั้งก็ทำให้เขารู้สึกพะอืดพะอมทุกครั้ง.... เกลียดเขาเกลียดผู้หญิงคนนี้มาก เป็นเพราะยันผู้หญิงทุเรศคนนี้ทำให้เขาจำใจต้องแต่งงานด้วย เพราะคุณพ่อของเขาเอาเรื่องมรดกมาขู่ และมันทำให้น้องแยมถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจเพราะเธอดันไปรู้ว่าเขากับยัยผู้หญิงน่าเกลียดคนนี้แต่งงานกัน..."มันคือเรื่องของพวกคุณค่ะ ไม่เกี่ยวกับฉัน พวกคุณอยากกินอะไรพวกคุณก็หากินกันเอาเอง ฉันขอตัว ฉันมีงานอย่างอื่นที่จะต้องทำ" แพทตี้กระชับกระเป๋าสะพายของเธอแล้วเดินออกไปจากบ้านที่ทุเรศทุรังหลังนี้ทันที เธอไม่กล้าบอกคุณลุง เพราะเธอยังเป็นห่วงพ่อของเธออยู่ เขาเอาพ่อของเธอมาขู่ ว่าถ้าเธอไปบอกคุณลุงเรื่องของเขา เขาจะให้คนมาเก็บพ่อของเธอ แล้วจากนิสัยและสันดานของเขาที่เธอเฝ้าระวังมาสักพักใ
แพทตี้รีบมาเข้างานอย่างเคย ไม่มีใครรู้ว่าเธอแต่งงานกับลูกชายคนโตของท่านประธานใหญ่ เธอไม่ใส่แหวนแต่งงาน เธอถูกเขาดึงแหวนแต่งงานออกจากนิ้วทิ้งตั้งแต่หลังจบพิธี พิธีแต่งงานของเธอและเขาไม่ได้จัดอะไรมาก นอกจากครอบครัวเขาและพ่อของเธอ ดังนั้นจึงไม่มีใครมางานแต่งที่โสมมครั้งนี้เธอคิดว่ามันก็ดีเหมือนกันที่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และสามีของเธอเขาก็ไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานและไม่เต็มใจที่จะเห็นเธออยู่ในบ้านหลังนั้น แต่แล้วยังไงล่ะไม่ใช่แค่เขาที่ไม่อยากเห็นเธอก็เหมือนกันเธอไม่อยากเห็นเขาและผู้หญิงของเขา ถามว่าเสียใจไหม ตอบตามตรงว่าเสียใจ แต่มากรึเปล่า ไม่มากนะ เพราะเธอไม่ได้รักเขาไง ถ้าเธอรักเขามันก็อีกเรื่องแต่เมื่อคนสองคนที่ไม่ชอบกันเกลียดขี้หน้ากันมาแต่งงานด้วยกัน มันเลยทำให้เธอและเขาเหมือนกับโลกขู่ขนาน.... " แพทตี้จ๋า...วันนี้ตอนเย็นแพทตี้จะไปไหนต่อรึเปล่าจ๊ะ" น้ำขิงถามเพื่อนสนิทในสายงานเดียวกับเธอ วันนี้เธออยากไปเดินตลาดนัดแต่เธอไม่อยากไปเดินคนเดียว เธอเลยอยากชวนแพทตี้ที่รักของเธอไปด้วย...." ไปได้ไม่นานน่ะขิง เพราะวันนี้ต้องไปเฝ้าพ่อน่ะ ไปได้แต่ห้ามดึกไม่งั้นไม่มีรถกลับแน่นอน.." อันที่จริงเธอไ
เอกดนัยบีบแขนของยัยปลิงดูดเลือดเอาไว้แน่น วันนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาบีบมัน เขาอยากจะบีบให้มันเละคามือเขาไปเลย จองหองนัก "ปล่อยค่ะ " ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บมากขนาดไหนแต่แพทตี้ไม่ยอมที่จะร้องขอ หรือส่งเสียงออกมา เธอพยายามเก็บกักความรู้สึกของเธอเอาไว้ เธอจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้หัวเราะเยาะเธอได้อีก..." ปล่อยงั้นเหรอ? ได้... ปล่อยแน่... " ไม่เพียงเขาไม่ปล่อยแขนเล็กนี้แล้ว เขายังฉุดกระชากร่างเล็กให้ถลาตามเขาไปอีก...เสียงโวยวายของแพทตี้ดังขึ้นเพราะอยู่ๆเขาก็ลากแขนของเธอให้ตามเขาไปยังที่ไหนก็ไม่รู้ แขนเธอมันเริ่มเจ็บมากกว่าเดิม แล้วการลากของเขามันก็คือการลากจริง เขาไม่สนใจเลยสักนิดว่าเธอจนชนอะไรหรือว่าหกล้ม ถึงแม้ว่าเธอจะล้มลงไปจริงๆ เขาก็ลากเธอไปตามกับพื้น ความรู้สึกที่มันทำให้เธอนึกสมเพชตัวเองมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดพ้อหรือร้องขอให้เขาหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนนี้ได้ ปัง!!!!เอกดนัยลากยัยปลิงดูดเลือดเข้ามาในห้องของเขา เขาล็อกประตูเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะความโมโหและความเกลียดมันทำให้เขาต้องการที่จะลงโทษผู้หญิงคนนี้ การลงโทษของเขามันจะทำให้ผู้หญิงคนนี้เหมือนตายทั้งเป็น
แพทเองออกมาห้องน้ำเธอพยายามอย่างเป็นที่สุด ที่จะขจัดคราบโสโครกที่เขาทำกับเธอ เธออยากมอบร่างกายให้กับชายที่เธอรัก และเขาก็รักเธอแต่ตอนนี้... ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วเธอมีราคีมีตราบาปที่เธอไม่สมยอม เธอเกลียดเขา ถ้าไม่ติดว่าคุณลุงเป็นผู้มีพระคุณ เธอฆ่าเขาแน่ เธอทำแน่ "คุณพ่อขา.... หนูจะทนได้อีกนานไหมคะคุณพ่อ" ร่างเล็กล้มตัวลงบนที่นอนขนาด 3ฟุต ห้องที่เล็กแคบมันยังไม่อึดอัดเท่ากับหัวใจที่มันคับแคบของเขา เธอสัญญาเลยเธอจะรีบหาเงินให้ได้เยอะๆ แล้วเอามาคืนให้กับคุณลุงภพกูลเธอไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว ไม่อยากอยู่แล้วด้วยร่างกายและหัวใจที่บอบช้ำของแพทตี้ มันทำให้เธอเผลอหลับลงไปโดยที่เธอไม่ได้ปิดไฟเอกดนัยมายืนอยู่ที่หน้าห้องเล็กๆคล้ายห้องเก็บของ ห้องที่เป็นที่สุดของบ้านแต่มันก็เหมาะกับผู้หญิงคนนี้แล้วแต่เพราะอะไร ทำไมเขาต้องมาอยู่ที่หน้าห้องของยัยปลิงดูดเงินนี้ด้วย....มือหนาจับไปที่ลูกบิดของห้องเล็กๆนั่น เขารู้ว่ายัยนี่ต้องล็อกประตูแน่นอน ดังนั้นเขาจึงใช้กุญแจไขเข้าไปเพื่อที่จะดูว่ายัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้ทำอะไรอยู่เพียงแค่เอกดนัยก้าวเข้าไปภายในเขาก็ต้องตกใจเพราะภายในห้องเล็กแคบนี้เปิดไฟทิ้
หลังจากที่ยัยปลิงดูดเงินพูดจบ เอกดนัยก็ถึงกับควันออกหู เขาไม่คิดว่ายัยนี่จะปากกล้าได้ขนาดนี้... แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาจะช่วยน้องแยมล้างจานเอง...แพทตี้เหนื่อยมากแค่ต่อปากต่อคำกับไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นแค่คนเดียวเธอก็แทบจะตายแล้ว แต่นี่ยังมาเพิ่มอีกหนึ่ง เธอจะตายก่อนวัยอันควรไหมเนี่ย....แพทตี้เลือกที่จะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอหยิบโน๊ตบุ๊คเครื่องเล็กๆของเธอออกมา เธอเปิดหาข้อมูลบางอย่าง และหางานเสริม เธอต้องหาเงินให้ได้เยอะๆ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว เธอไม่อยากอยู่เลย...แพทตี้เสียบหูฟังเข้าไปที่โน๊ตบุ๊คของเธอ เธอเปิดเพลงฟังไปเรื่อยๆ แว่นตาอันโตถูกหยิบมาใส่เพื่อกรองแสงจากโน๊ตบุ๊ค มือที่ขยับไปมาสายตาที่ไล่หาข้อมูลไปเรื่อย เพียงแค่เธอเจออะไรที่มันน่าสำคัญๆกับเธอ เธอก็รีบจดมันลงใส่สมุดเล่มเล็กเอาไว้ทันที...การกระทำของแพทตี้อยู่ในสายตาของเอกดนัยตลอด เขาถือวิสาสะไขประตูเข้ามาเอง เขาจะเข้ามาต่อว่ายัยนี่สักหน่อย แต่เพียงแค่เห็นยัยนี่นั่งหึมหัมๆ มือที่ขีดเขียนอะไรยุกยิกๆไปมา มันทำให้เขาหลงลืมไปเลยว่าเขาจะขึ้นมาพูดอะไร ดวงตากลมโตที่อยู่ภายใต้แว่นตาอันโตมันทำให้ยัยนี่ดูเหมือนเด็กม.ปลายที่กำลังนั่งห
ครอบครัวใหญ่สองครอบครัวกำลังมารอลุ้นว่าตอนนี้พวกเขาจะได้หลายชายหรือหลานสาว สองสาวบอกว่าไม่ขอตรวจเพศให้รอมาลุ้นตอนคลอดเอา และวันนี้คนเป็นปู่เป็นตาก็มาลุ้นกันที่หน้าห้องคลอดกันอย่างเนืองแน่น... ครามถูกตามให้มากรุงเทพ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาสักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อคนเป็นพ่อบอกว่ายัยน้องกำลังจะคลอดเขาก็เลยต้องรีบจองตั๋วแล้วก็มายังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังทันที....พลั่ก.... อุ๊ย...." ขอโทษครับ... ฝ้าย...." ครามถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาเห็น... รักแรกของเขา.... เขาไม่ได้เจอรักแรกของเขาตั้งแต่ที่เธอบอกเลิกเขาไป.... จนป่านนี้... ก็เกือบ8ปีแล้ว...ฝ้ายมาเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่เหรอ...." สวัสดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ..." หญิงสาวรีบทักทายพร้อมกับก้มหัวให้หนึ่งครั้งและเดินจากไปทันที...ครามเดินมายังกลุ่มคนด้วยท่าทางที่เหม่อลอย.. เขาบอกไม่ถูกว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงดี ดีใจ? หรือเสียใจ...." มาแล้วเหรอเจ้าคราม ตอนนี้กำลังรอลุ้นอยู่เลยว่าใครจะคลอดก่อนกัน.... " พ่อตาของยัยน้องพูดขึ้น แต่เท่าเขาคิดไว้เขาว่ายัยน้องน่าจะคลอดก่อน เพราะยัยน้องท้องก่อนไม่ใช่เหรอ..." น้ำขิงต้องคลอดก่อนสิครับเพราะน้ำขิงท้องก่อนแพทเกื
หลังจากที่ภพกูลบอกกล่าวคนในวงการนักธุรกิจให้มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ ครอบครัวของน้ำขิงก็ได้มาร่วมงานบวชของลูกชายคนโตของเขาด้วย.....โดยการบวชครั้งนี้เป็นการบวชช่วงเข้าพรรษาพอดี และลูกชายของท่านก็ขอบวชหนึ่งพรรษาหรือการบวชเอาพรรษาก็เท่ากับ3เดือน ตอนแรกท่านก็คิดว่าลูกชายเขาจะบวชหนึ่งพรรษาที่แปลว่า 1 ปี เพราะเขาคิดว่าลูกชายเขาไม่น่าจะบวชได้นานขนาดนั้น เอกดนัยที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้... เพราะเขากลัวว่าเขาจะเผลอด่าไอ้ผัวเมียคู่นี้... เมียมันก็คอยมาออเซาะเมียเขา ส่วนไอ้น้อยเวรมันก็คอยส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เมียเขาเช่นกัน และที่สำคัญไอ้สองผัวเมียคู่นี้มันชอบมากวนใจให้เขาแทบจะหลงลืมตัวและด่ามันออกไป แต่ติดที่ว่าเขาต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ... นี่สินะที่เขาเรียกว่า มารผจญ ก่อนบวชมักจะมีมารผจญ.. ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อถึงเวลาที่เอกดนัยเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ทุกคนในงานก็ต่างสงบเสงี่ยมมากขึ้น... เอกภพเลือกวัดที่นอกเมืองหน่อย เพราะมันไม่ค่อยวุ่นวาย.... แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันกลับผิดไปหมด.....ทุกเช้าที่เขาออกมาบิณฑบาตก็มักจะมีสาวๆไม่ว่าจะเด็กสาววัยรุ่น วันกลางคน และคนแก่แม่ม่ายก็มักจะตื
หลังจากงานแต่งงานอันใหญ่โตได้สิ้นสุดลง ตอนนี้น้ำขิงและเอกภพก็พากันไปอยู่ที่ภูเก็ต เพราะเอกดนัยบอกให้ทั้งสองคนไปดูแลงานที่นั่น เพราะตอนนี้ที่ภูเก็ตขาดคนดูแลและไหนพ่อกับพี่ของยัยน้ำเน่าที่ปักหลักอยู่ที่นั่นอีก ดังนั้นมันก็เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ไอ้สองคนนั้นกระเด็นออกจากบ้านไป เพราะเขาเบื่อขี้หน้าของสองคนผัวเมียที่คอยแต่จะเคลมเมียเขา... เขารู้หรอกน๊าว่าเมียเขาน่ะน่ารัก ถึงแม้ว่าเขาจะมองเห็นความน่ารักของเมียเขาช้าไปนิดก็ตาม แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เห็นแล้วไงจะมาวุ่นวายอะไรกันอีก..." รีบๆไสหัวกันไปได้แล้ว น่ารำคาญ" เพี๊ยะ....โอ๊ย...." เจ็บน้ำยัยหน้าเงิน!!! " เอกดนัยถึงกับร้องโอ๊ยออกมาทันทีเพราะเมียเขาฟาดลงมาที่แขนด้วยไม้พายที่กวนขนม...ดูสิแขนหักไปแล้วมั้งเนี่ย..." ทำไมคุณเอกดนัยถึงพูดแบบนี้คะ? น้ำขิงเป็นน้องสะใภ้คุณ และพี่ภพก็เป็นน้องชายคุณด้วย..." แพทตี้ล่ะไม่ชอบเลยที่คุณเอกดนัยชอบพูดจาแบบนี้ใส่น้ำขิงและพี่ภพ.." โห้... ที่มันเธอเรียกว่าพี่ ส่วนฉันเธอเรียกว่าคุณ.... น่าน้อยใจฉิบหาย..." เพียงเท่านั้นเอกดนัยก็เดินหนีออกจากห้องนั่งเล่นทันที...เอกดนัยเดินออกไปด้านนอกของตัวบ้าน จากอารมณ์
หลังจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในครอบครัวพิจารุวรรณ ก็มีข่าวดีเกิดขึ้นเพราะคุณภพกูลได้ไปสู่ขอหนูน้ำขิงกับพ่อของหนูน้ำขิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยยินดีสักเท่าไรนั่นก็คือน้ำขิง...." คุณจะมาเดินตามอะไรฉันหนักหนาคุณเอกภพ..." เจ้าสาวคนสวยถึงกับหน้างอคอหักเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอเดินตามเธอยิ่งกว่าเงาอีก..." เฮียภพ เรียกเฮียภพ... แล้วที่เดินตามเพราะว่าเธอกำลังให้พ่อของฉันและพ่อของเธอต้องเสียหน้าเพื่อเธอไม่รู้... เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะเลี้ยงลูกได้ยังไงกัน..." เอกภพถึงกับต้องถอนหายใจออกมายาวๆ "ฉันคงไม่ซวยขนาดนั้นมั้งที่จะท้องเลย..." น้ำขิงเบ้ปากใส่เจ้าบ่าวของเธอไปหนึ่งที และตอนนี้เธอเห็นแพทกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกำลังกินอาหารอย่างสนุกสนานโดยมีไอ้คุณเอกดนัยจับนั่น ป้อนนี้ใส่ปากแพทตี้ของเธออยู่.." อิจฉาน้องแพทเหรอ? จะให้ป้อนแบบนั้นไหม.. แบบว่า.. ป้อนบนเตียง... ป้อนในห้องน้ำ... ป้อนบนโต๊ะทำงาน แบบนั้นก็คงจะอร่อยไปอีกแบบนะ.." เอกภพถึงกับรีบยียวนเมียมาดๆของเขา เพราะเท่าที่เขาเดาได้.. ยั
เสียงกรี๊ดที่ดังสะนั่นบ้านปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นและคนที่ตกใจมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้..."คุณทำอะไรฉัน...ห๊ะ... กรี๊ดดด...." น้ำขิงกรี๊ดสุดเสียงเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง..."เงี๊ยบ!! ผมบอกให้เงี๊ยบบบ " เอกภพไม่พูดเปล่าเขายังใช้ฝ่ามือของเขาปิดทับลงไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม.... จากการดูด และขบเม้ม... ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเขามันขนาดไหน" ถ้ายังร้องโวยวายอีกละก็...ฉันจะฆ่าหมกเตียง.. ลองดูไหมล่ะ ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะจะบอกให้..." น้ำขิงถึงกับต้องทำหน้ายี้เลยทันทีคนบ้าอะไรชมตัวเอง พูดเองเออเองเหมือนคนเป็นพี่ไม่มีผิด...อือ.. อือ...อือ......เอกภพค่อยๆปล่อยมือออกจากปากของน้ำขิงช้าๆ เพราะเขาคิดว่าน้ำขิงคงอยากจะพูดอะไรกับเขาเป็นแน่..." แก... ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้หน้าหมา ไอ้อืออออ" และนั่นก็เป็นคำสุดท้ายของน้ำขิงที่ถูกพ่นออกมาก...เอกภพไม่รอช้าเขาจูบหนักๆที่ริมฝีปากบางแต่กลับพูดมาก พูดจาไม่ดี พูดจากไม่เพราะจากแค่เขาต้องการที่จะทำโทษน้ำขิงที่พูดไม่ดีใส่เขา แต่เพียงแค่เขาจูบไปจูบมา... มันก็ทำให้อารมณ์ที่โกรธจางหายไปและแปลเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์แห่งความดิบเถื่อนชวนสยิว....น้ำขิงถึงกับทำอะไร
มื้อค่ำถูกจัดขึ้นที่ห้องอาหารใหญ่ เพราะวันนี้ลูกชายเจ้าของบ้านทั้งสองคนมานั่งร่วมโต๊ะด้วยพร้อมกับน้ำขิงแขกประจำของบ้าน แต่กว่าน้ำขิงจะหยุดโวยวายได้ก็ทำเอาเอกภพถึงกับปวดหัว...และในที่สุดมื้อค่ำก็ถูกจัดเรียงเอาไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง อาหารแต่ละอย่างนั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยแม่ครัวประจำของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆอาหารทุกจานก็จะถูกกวาดเรียบเสียจนไม่เหลือแม่แต่น้ำสักหยด ทุกคนบนโต๊ะอิ่มเอมกับอาหารตรงหน้า คนที่มีอายุมากที่สุดของบ้านก็ชวนเด็กๆรุ่นลูกคุยเรื่องต่างๆนานา คุยสัพเพเหระ และถามแขกของบ้านว่าอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งไหม แต่เขาก็ได้คำตอบมาเพียงว่าเธอไม่ต้องการ เธอชอบตำแหน่งนั้นมากกว่าเธอเรียนมาทางนี้ จะให้เธอไปทำบัญชีก็คงจะไม่ไหว เธอพอทำได้บ้างแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถนัดเอาเสียเลย คุณภพกูลถึงกับถูกใจในคำตอบของหนูน้ำขิง ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะมีเงินมากมายจนไม่จำเป็นต้องทำงานก็สามารถมีกินได้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะออกมาทำงานหาเงินเพื่อหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง แบบนี้สิดี ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้อีกคนก็คงจะดี....เอกดนัยจ้องมองสายตาของคนเป็นพ่อที่ดูจะถูกอกถูกใจในตัวของยัยน้ำเน่านี่
หนึ่งอาทิตย์ที่แพทมาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่โดยมีน้ำขิงอยู่เป็นเพื่อนเธอ เธอก็ถามว่าน้ำขิงไม่ไปทำงานเหรอ น้ำขิงก็ตอบว่าเธอลาได้สิบวัน นั่นก็คือสองอาทิตย์ หลังจากนั้นเธอก็จะกลับไปทำงานเหมือนเดิม แต่น้ำขิงให้สัญญาว่าเธอจะแวะมาหาทุกเย็นก่อนกลับบ้าน และวันนี้ก็มีแขกพิเศษมาที่บ้าน....แพทกับน้ำขิงอยู่ในครัวทำตัววุ่นวายกันอยู่ในครัวพร้อมกับมีลูกแมวสองตัวที่นั่งเป็นกำลังใจให้ทาสของตัวเอง แม้ว่ามันจะเน้นหลับกับกินมากกว่าการเล่นแต่ดูเหมือนว่าสองสาวก็ไม่ติดอะไรกลับยิ่งชอบในสิ่งที่พวกมันทำเสียอีก..." ทำอะไรกันอยู่ครับ..." น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังมาแต่ไกลและมันก็ทำให้สองสาวและคนอื่นๆหันไปมองยังทิศทางของเสียง...." เอ๊ะ.... คุณคนที่เคยชนกันกับฉันที่ตลาดนัดนี่คะ.." แพทจำเขาได้ คนที่ชนกับเธอที่ตลาดนัด เธอเป็นคนจำคนได้แม่นด้วยสิ... เพราะด้วยความสูงบวกกับหน้าตาของเขามันเด่นกว่าคนอื่นมันเลยทำให้เธอจำเขาได้ง่ายขึ้น.."ครับพี่สะใภ้... แต่พี่สะใภ้อายุดันน้อยกว่านี่สิ เลยไม่รู้ว่าจะแทนตัวเองว่ายังไงดี..." เอกภพยิ้มให้พี่สะใภ้ของเขาจนตาของเขาเป็นสระอิ ไม่รู้ว่าจะลำดับขั้นกันยังไงดี" อายุมากกว่าก็ต้องแทนตัวเองว่าพ
เอกดนัยมีเรื่องที่จะต้องไปจัดการดังนั้นเขาจึงฝากพิมาญาไว้กับยัยน้ำเน่าเอาไว้ เขาล่ะชังขี้หน้านัก ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องขอให้ยัยนี่อยู่เป็นเพื่อนพิมาญาล่ะก็ พอถีบออกจากบ้านไปนานแล่ว...." เดี๋ยวไปทำธุระก่อนนะยัยหน้าเงินเอ่อ.. พิ.. พิมาญา ฉันไปทำธุระข้างนอกแล้วจะรีบกลับ...." จุ๊บ....เอกดนัยจูบลงไปที่ริมฝีปากค่อนข้างแห้งของพิมาญาเป็นเพราะนอนโรงพยาบาลนานมันเลยทำให้ปากที่เคยอวบอิ่มถึงกับแตกแห้งเป็นขุย... น้ำขิงเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้.. โด่เธอก็ได้จุ๊บแพทตี้ของเธอแล้วเถอะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการขโมยจุ๊บก็ตามแต่เธอก็ได้จุ๊บแล้ว... แพทตี้พยักหน้ารับคำของคุณเอกดนัยส่งๆ เธอไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรมากนักว่าเขาจะไปไหนหรือทำอะไร ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอว่างเปล่าไปหมด ทั้งความคิดและการกระทำ...เพียงแค่เอกดนัยออกไปจากห้องนั่งเล่นน้ำขิงก็สรรหาคำพูดหรือเรื่องราวมาพูดคุยกับแพท แต่ดูเหมือนว่าแพทก็ยังคงไม่ยินดียินร้าย.. เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี เธอกลัวว่าถ้าเธอปล่อยให้แพทตี้คลาดสายตามันจะทำให้แพทตี้คิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเข้าห้องน้ำหรือหาของกินเธอก็จะลากแพทตี้ให้ต
หลังจากที่แพทตี้ไม่ได้สติไปเกือบสองอาทิตย์ เธอก็ตื่นมาพร้อมกับอาการเบลอๆ เธอไม่แน่ใจว่าเธอเป็นอะไร ร่างกายของเธอรู้สึกปวดร้าวไปหมด ตกลงแล้วเธอเป็นอะไรกันแน่....อือ...เอกดนัยที่เฝ้าพิมาญาตลอดทั้งวันทั้งคืนได้ยินเสียงครางเบาๆของใครบางคนมันก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมาและกวาดตามองหาเสียง แต่เขาก็ไม่พบอะไรผิดปกติเลยสักนิด...." คงแค่ฝันไป.... " เอกดนัยพึมพำอยู่คนเดียวแต่เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินอีกครั้งและครั้งนี้มันก็ทำให้เขาดีใจจนน้ำตาไหลออกมา...หมับ!! ฮึก.... ฟอดดด" ตื่นแล้วเธอตื่นแล้วยัยผู้หญิงบ้า...ในที่สุดก็ตื่นสักที... รอแป๊บนึงนะ ฉันเรียกหมอก่อน รอแป๊บนึง..." เอกดนัยรีบกดเรียกพยาบาลและหมอให้เข้ามาในห้องของพิมาญาโดยเร็ว เพียงไม่นานทั้งหมอและพยาบาลก็มายืนเสนอหน้ากันเต็มห้องพักผู้ป่วยของพิมาญา....คุณหมอเล่าทุกอย่างให้พิมาญาฟัง เอกดนัยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักเขาเห็นน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหล่ออกมาจากวงตากลมโตคู่นั้น... แววตาที่เคยเศร้าตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา.... เขาสงสารพิมาญา เขาจะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้... เขาสัญญาเลย...เพียงแค่หมอและพยาบาลออกไปเขาก็รีบพาตัวเองที่ยังต้องนั่งรถเข