Share

ตอนที่ 3

เช้าวันต่อมา

เสียงปลดล็อกรหัสประตูห้องภายในคอนโดหรูดังขึ้นในขณะที่สาวสวยเจ้าของห้องยังคงหลับปุ๋ยอยู่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ใบหน้าสวยใสไร้เครื่ิองสำอางมีรอยยิ้มประดับอยู่บนหน้าคล้ายว่าเธอกำลังอยู่ในห้วงนิทราที่แสนหวาน

ซินดี้เปิดประตูห้องนอนเข้ามายืนมองอย่างอ่อนใจนี่ต้องเข้ากองถ่ายสิบโมง แต่ดูสิแปดโมงแล้วแม่นางร้ายของเธอยังนอนฝันหวานน้ำลายยืดอยู่เลย

เธอเดินไปข้าง ๆ เตียงนอนก่อนจะเขย่าแขนเอยเบา ๆ แต่คนที่นอนอยู่กลับหันตัวหนีมาอีกด้านหนึ่งซะนี่ ซินดี้สะกิดอีกรอบ แต่เอยก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับยังคงนอนยิ้มไม่ตื่นจากฝัน จนกระทั่งสุดท้ายแล้วซินดี้ที่ทนไม่ไหวก็ตะโกนขึ้นอย่างดัง

“ยัยเอย ตื่นได้แล้ว”

เสียงร้องโหยหวนของแม่กะเทยทำเอาเอยที่กำลังฝันหวานถึงคุณคิณ อัคนี สะดุ้งเฮือกผุดลุกขึ้นตื่นมานั่งตัวตรงด้วยความตกใจทันทีใบหน้าเนียนสวยมองซ้ายก่อนจะมองขวาก็เจอซินดี้ยืนเท้าสะเอวมองมาที่เธอตาเขียวปั๊ด

“ฝันถึงใครอยู่คะลูกสาว แม่สะกิดตั้งหลายรอบก็เอาแต่นอนยิ้มหวานไม่ยอมตื่นสักที”

ซินดี้เอ็ดคนที่เพิ่งตื่นนอนหน้าตางัวเงียเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ยิ้มหวานจนแทบฉีกถึงรูหูใครกันนะที่อยู่ในความฝันดูฟินเชียว

“แหะ แหะ เมื่อคืนเอยนอนดึกไปหน่อยค่ะเช้านี้เลยเพลินไปนิด”

เอยหัวเราะไม่เต็มเสียงนักอย่างรู้สึกผิดเพราะเขาคนเดียวเลยคุณคิณ มาจุ๊บ Goodnight Kiss แบบนั้นใครจะหลับลงล่ะ ตาค้างทั้งคืนน่ะสิ ส่วนฝันดีน่ะเหรอคิดถึงความฝันก่อนตื่นที่ทำให้ตนยิ้มหวานพลันหน้าก็แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย

ในฝันเขากับเธอเป็นสามีภรรยากัน ใช้ชีวิตด้วยกันแล้วก็มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ฮือ บ้าบอสิ้นดีนี่เธอหลงรักเขาจนเก็บมาเพ้อมโนเป็นตุเป็นตะแล้วเหรอนี่

พลันมือสองข้างยกขึ้นมากุมแก้มเนียนใสไว้แล้วส่ายหน้าไปมาอย่างต้องการสลัดความฝันที่เพิ่งตื่นขึ้นมาให้มันออกไปจากหัวทำเอาซินดี้ที่ยืนรออยู่ถึงกับงง ลูกกะเทยเป็นอะไรเนี่ย???

“เอยเป็นอะไรลูก ส่ายหน้าทำไม”

ซินดี้ถามด้วยความสงสัยคิ้วขมวดเข้าหากันจนจะผูกโบแล้วล่ะ

“อะ อ้อ เปล่าค่ะพี่ซินดี้ พอดีฝันดีไปหน่อยดีจนเกินจริงเอยต้อง         มูฟออนเอามันออกไปจากหัวก่อน”

เงยหน้าแดง ๆ บอกคุณแม่อย่างขัดเขินก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนอย่างไวเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีถ่ายละครตอนสิบเอ็ดโมงเช้า ซึ่งเธอต้องเข้ากองตอนสิบโมง

“เอยไปอาบน้ำก่อนนะคะพี่ซินดี้สายแล้ว เดี๋ยวรถติดไปถึงกองช้านางเอกแอ๊บแบ๊วจะโวยวายทางสายตาเอาได้”

เอยเบะปากอย่างหมั่นไส้เมื่อพูดถึงนางเอกคนดังนามว่า น้ำฟ้า ซึ่งเธอมีละครที่ต้องถ่ายทำด้วยกันวันนี้ Look นางเอกแอ๊บแบ๊วซะจนเธอรำคาญกับภาพลักษณ์ใส ๆ ที่นางพยายามสร้าง แต่พออยู่กันสองต่อสองทีไรสันดานเดิมก็มักจะออกทุกที ทั้งจิกทั้งกัดทั้งแขวะจนเธอนึกว่าโตมาในสลัมมากกว่าจะเกิดมาในดงผู้ดีตามที่เธอให้สัมภาษณ์ใครต่อใครไว้

“วันนี้แต่งตัวสวย ๆ ดีกว่า เอยต้องสวยฟาดกว่านางหน้าตุ๊กตาปัญญาอ่อนให้ได้ ฮึ”

เอยมีสีหน้ามุ่งมั่นพร้อมทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะเดินนวยนาดไปยังห้องน้ำ

เมื่อเธอจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้ร่างสวยสมส่วนตัวเล็กน่ารักอยู่ในชุดเดรสรัดรูปสีแดงเพลิงโชว์สัดส่วนงดงาม อกเป็นอก แหงล่ะสิ Cup D นะจ๊ะ บั้นท้ายงามงอนจนผู้ชายอยากสัมผัส หน้าสวยเฉี่ยวแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงที่มองแล้วช่างน่าจูบยิ่งนัก

เอยกำลังยืนหมุนตัวไปมาหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนที่เธอจะถือกระเป๋าแบรนด์ดังรุ่นใหม่ล่าสุดมาคล้องแขนไว้แล้วเดินไปหาซินดี้ที่นั่งอ่านตารางงานของเธอในไอแพดอยู่บนโซฟา

“ไปค่ะพี่ซินดี้ เอยพร้อมแล้ว”

เอยสวมแว่นตาสีดำอย่างต้องการปกปิดตัวเองไว้นิดหนึ่งก็ยังดีเมื่อต้องออกไปทำงานข้างนอก

“แหม สวยเลิศนะจ๊ะลูกกะเทย จะแต่งไปประชันกับน้องน้ำฟ้าล่ะสิท่า”

ซินดี้หยอกเย้าเอยยิ้มๆอย่างรู้ทัน

“แหงสิคะ หมั่นไส้หน้าแบ๊ว ๆ แต่งตัวเรียบร้อยอย่างกับลูกคุณหนูทั้ง ๆ ที่วาจาอย่างกับโตมาในสลัม”

หน้าสวยเบะคว่ำยามพูดถึงนางเอกแอ๊บแบ๊วเจอกันครั้งแรกสุภาพมาก ครั้งที่สองเริ่มออกลาย ครั้งที่สามที่ผิดคิวเผลอไปตบโดนหน้าสวยของนางเต็มรัก นางตามไปวีนถึงในห้องน้ำเลยจ้าและใช่ เอยคนนี้จะไม่ทนแต่เธอมักจะโต้กลับด้วยคำพูดจามากกว่าการกระทำที่ต่ำทรามเสมอ

ภายนอกเธอดูอ่อนหวานน่ารักแต่ความจริงข้างในเธอเข้มแข็งและไม่เคยอ่อนแอเลยเนื่องจากเธอกำพร้าพ่อกับแม่ตั้งแต่อายุ 18 ปีเธอต้องทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียวตั้งแต่นั้นมา เพื่อส่งน้องชายเรียนให้จบมัธยมเธอยอมเสียสละเวลาเกือบสามปีเพื่อตั้งหลักหาเงินใช้หนี้ที่พ่อกับแม่ทิ้งเอาไว้โดยไม่เคยหนีเจ้าหนี้เลยสักครั้ง

กว่าจะมีวันนี้ได้เธอผ่านการใช้ชีวิตมาหลายรูปแบบรวมถึงนิสัยกล้าได้กล้าเสียที่มันติดตัวเธอมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นใครดีมาเธอดีตอบใครร้ายมาใช่ว่าเธอจะไม่เอาคืน คนแบบเอย อรนลิน ไม่เคยยอมให้ใครรังแกฝ่ายเดียวหรอกนะ

“โอ๊ย เอาเถอะ ๆ อย่าไปหามีเรื่องกันล่ะมันจะดูไม่ดีในสายตาผู้ใหญ่”

ซินดี้เตือนเอยอย่างหวังดีเพราะรู้จักนิสัยเธอดีกว่าใคร

“เอยไม่ตบให้เสียมือหรอกค่ะ รุ่นนี้เขาใช้มันสมอง”

เผยยิ้มร้ายออกมาจนซินดี้รู้สึกขนลุก แหม ว่าแต่น้องนางเอกแอ๊บแบ๊วร้ายลับหลังลูกสาวเธอก็ใช่ย่อยภายใต้ใบหน้าไร้เดียงสากลับซ่อนความร้ายกาจเอาไว้อย่างมิดชิดเรื่องเซี้ยว ๆ แบบนี้ไม่พ้นยัยข้าวแน่ ๆ สอนมา เฮ้อ กะเทยล่ะเพลียไปกันค่ะไปกองถ่ายกัน

กองถ่ายละคร

เมื่อมาถึงกองถ่ายเอยก็ยกมือไหว้ทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่เว้นแม้แต่แม่บ้านประจำกองหรือแม่ครัวก็ตามเธอไม่ได้เอาใจใคร แต่เธอมองว่ามันเป็นมารยาทที่ควรมีต่อผู้ใหญ่มากกว่า คนเป็นเด็กแบบเธอก็ต้องมือไม้อ่อนเป็นธรรมดาส่วนซินดี้แค่แวะมาส่งเพราะรถเอยซ่อมอยู่ที่ศูนย์

“แหมน้องเอย วันนี้แซบนะจ๊ะ แต่งมาเต็มกะไม่ให้พี่ได้ทำหน้าที่แต่งต่อเลยนะเนี่ย”

พี่หมีที่หุ่นหมีสมชื่อช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายเอ่ยแซวคนสวยยิ้ม ๆ

“นี่เบา ๆ เองนะคะ แต่งยังไงก็ไม่สวยเท่าพี่หมีหรอกค่ะ”

เอยยิ้มโชว์ฟันสวยก่อนจะวาดแขนโอบรอบเอวหนาอย่างเอาใจ

“พี่จะลอยได้แล้วนะคะเนี่ยเล่นมาชมกันแบบนี้”

พี่หมียิ้มปลื้มเขินกับคำชมของดาราสาวสวยรุ่นน้องปากหวานจริงเชียว

“เรื่องจริงไม่มีหลอกค่ะ วันนี้ขอจัดจ้านน่าฟาดนะคะ เย็นนี้เอยจะไปเที่ยวผับต่อค่ะ”

เอยขยิบตาหนึ่งข้างให้พี่หมีอย่างรู้กันวันนี้เลิกกองแล้วเธอจะแอบหนีพี่ซินดี้ไปเที่ยวกับแก๊งกะเทยเพื่อนสนิทที่มหา’ลัยกัน เพื่อนผู้หญิงเธอไม่คบหรอกนิสัยตอแหลเกินไป ส่วนเพื่อนกะเทยนั้นเธอเต็มร้อยจ้ะ คิก คิก

กว่าจะถ่ายทำละครสามฉากเสร็จเอยแทบกรี๊ดออกมาให้สมกับความโมโห น้ำฟ้าแกล้งผิดคิวจนผู้กำกับสั่งเทกใหม่อยู่เกือบห้ารอบในแต่ละซีนที่เธอกับน้ำฟ้าต้องเข้าฉากด้วยกัน จนฉากสุดท้ายกว่าที่ผู้กำกับจะสั่งคัต!!เธอลุ้นจนตื่นเต้นไปหมด พอได้ยินเสียงคัตเท่านั้นแหละ โคตรโล่งอะนี่พูดเลย!!  

ตอนนี้เธออยู่ในห้องแต่งตัวกำลังเปลี่ยนชุดกลับไปใส่ชุดแซบ ๆ อยู่ ขณะที่กำลังสาละวนกับการดูความเรียบร้อยของชุดก็มีเงา ๆ หนึ่งที่เดินเข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นมองก็เจอกับน้ำฟ้าคู่อริตัวฉกาจของเธอที่ยืนทำหน้าเย้ยหยันอยู่ตรงหน้า

“ไงจ๊ะ เอย วันนี้เหนื่อยไหม  ขอโทษนะที่วันนี้ทำให้โดนสั่งเทกบ่อย ๆ” น้ำฟ้าทำน้ำเสียงอ่อย ๆ อย่างรู้สึกผิดแต่กลับเน้นคำว่าบ่อย ๆ เพื่อยั่วโมโหคนตรงหน้า

“เอ๊ะ ฉันกำลังสงสัยนะน้ำเน่า ว่าละครเรื่องนี้เธอหรือฉันที่เป็นนางเอกหรือเราจะสลับบทกันอยู่ ฉันเป็นนางร้ายที่ต้องท่องบทคำพูดหยาบ ๆ ต่ำ ๆ ในขณะที่เธอเป็นนางเอกต้องท่องบทคำพูดหวาน ๆ ใสซื่อ  แต่ดูเหมือนเราจะสลับบทกันท่องเลยเนอะว่าไหม”

ยิ้มหวานเคลือบยาพิษถูกส่งไปให้คนตรงหน้าก่อนที่เอยจะยกมือกอดอกอย่างพร้อมฟาด

“แกว่าใครน้ำเน่ายะ นังเอย”

น้ำฟ้าชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจก่อนที่จะถามเสียงเข้มด้วยความโมโห

“อุ๊ยตาย โทษทีลืมไปเลยชื่อน้ำฟ้านี่นา แต่อยู่ใกล้ทีไรนี่ได้กลิ่นน้ำเน่าลอยโชยมาทุกที โทษนะที่ฉันเข้าใจผิด”

เอยยกมือป้องปากพร้อมแสดงสีหน้าขอโทษแต่ปากนี่ยิ้มแทบฉีกถึงหู ไงล่ะทักษะนางร้ายของเอยใช่ย่อยนะจ๊ะ

“ฮึย แก”

น้ำฟ้ายกมือบางขึ้นมาหมายจะฟาดหน้าสวยให้สมกับที่ยั่วโมโหเธอ

“ทำไม จะทำไมน้ำฟ้า ฮึ เธอจะตบฉันเหรอ”

เอยรับมือบางเอาไว้พร้อมกำจนแน่นเหมือนกะจะให้แหลกคามือในขณะที่น้ำฟ้านิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

“นี่แกปล่อยฉันนะนังเอย”

น้ำฟ้าตะโกนบอกเอยเสียงกร้าวมือก็พยายามบิดออกจากการเกาะกุมของเอยแต่ทว่าบิดยังไงก็ไม่หลุด

“ตอนยกมือจะฟาดหน้าฉันทำไมไม่คิด พออย่างนี้มาบอกให้ปล่อย หึตลกละน้ำเน่า หน้าสวย ๆ ของฉันมีไว้ทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอย่าคิดที่จะมาแตะต้องมันเชียวนะ”

เอยปล่อยมือบางของน้ำฟ้าพร้อมกับผลักเบา ๆ ร่างบอบบางของน้ำฟ้าก็ล้มลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น

“แก นังเอย ฮึย ฝากไว้ก่อนเถอะแก”

น้ำฟ้ากรีดร้องเสียงแหลมใส่ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งจากไปทันทีในขณะที่เอยถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย วงการละครดารานางแบบเงินดีก็จริง แต่เอาจริง ๆ ในแต่ละวันเธอต้องเจอกับอะไรบ้างใครจะรู้ ทั้งผู้กำกับหัวงู ทั้งสไตลิสต์ขี้นินทา อีกทั้งนักแสดงด้วยกันที่อิจฉาเธอเกินเบอร์

บางทีเธอก็เหนื่อยกับอะไรแบบนี้แต่เธอก็ต้องอดทนถึงเธอจะใช้หนี้แทนพ่อแม่หมดแล้ว แต่เธอยังต้องส่งเสียตัวเองและน้องชายเรียนให้จบอีกเธอต้องอดทนเท่านั้นเอยบอกตัวเองในใจ

ออร์นิกซ์ผับ

เฮลโหลวมาค่ะ เอยมาถึงผับแล้วป่านนี้เพื่อนกะเทยทั้งสองคนคงรอที่ชั้น VIP แล้วสินะ ที่นี่เป็นผับชื่อดังสำหรับเหล่าดารา ไฮโซ คนดัง  เซเลบ นักธุรกิจทั้งหลายที่ชอบมานั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศสบาย ๆ ปลดปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงเพลงเพราะ ๆ ที่เข้ากับบรรยากาศในร้านมากกว่าผับที่ออกสไตล์ EDM หรือสไตล์ฮิปฮอปอะไรเทือกนั้น

อันนั้นน่ะเด็กเขาไปกันจ้ะที่นี่ความปลอดภัยสูงเหล่าคนดังสามารถปลดปล่อยผ่อนคลายได้เต็มที่โดยที่ไม่ต้องมานั่งกังวลกับเหล่านักข่าวหรือปาปารัซซีที่ตามติดชีวิตพวกเธอเลย  เพราะการ์ดเขาตรวจเข้มมากและไม่เคยมีภาพหลุดคนดังออกไปจากผับนี้เลยเอยเลยชอบหนีซินดี้มาเที่ยวประจำ

“ไฮ ลูกกะเทยคิดถึงจังเลย มากอดหน่อยเร็ว”

เจนนี่หรือชื่อเดิมเจษ กะเทยสาวเพื่อนไฮโซของเอยทักขึ้นเห็นแบบนี้เอยก็มีเพื่อนเป็นไฮโซนะคะ แต่แบบเพื่อนโคตรจริงใจอะนี่พูดเลย ไฮโซอะไรไม่ถือตัวแถมกันเองมากเวอร์

“ว้าว ลูกสาวแม่สวยฟาดมากวันนี้ เลิศ ๆ ๆ ปรบมือให้กับความแซบนี้”

เบนนี่ หรือชื่อเดิม เบนซ์ แม่ตั้งมาให้แมนอยู่นะ ปรบมือรัว ๆ ชื่นชมชุดเดรสแดงรัดรูปเว้าหลัง อันนี้ก็เซเลบยูทูปตัวแม่ไม่มีใครไม่รู้จัก ไปไงมาไงไม่รู้มาคบเป็นแก๊งกันได้เฉยเลย ทั้ง ๆ ที่เคยเกลียดขี้หน้ากันมาก่อนตอนปี 1 จนตอนนี้พวกเธอขึ้นปี 4 แล้วก็ยังคบกันอยู่เลย

“ไม่สวย ไม่แซบ ไม่แดง ไม่ใช่เอยจ้ะ คิก คิก”

เอยป้องปากหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินไปหาแม่ ๆ ทั้งสองอย่างคิดถึง ช่วงนี้งานเข้าเธอเยอะมากแทบไม่มีเวลาไปเรียน เธอกำลังจะเคลียร์งานให้เสร็จเพื่อกลับไปเรียนให้ทันเพื่อน

“ว่าไงชีวิตช่วงนี้มึงเป็นไงบ้างเอย แซบหรือเฟล”

เจนนี่เอ่ยถามอย่างต้องการอัปเดตชีวิตของเพื่อนไปด้วย

“เออนั่นดิ มึงหายเงียบไปเลยกูนึกว่าโดนผู้กำกับหัวงูหิ้วไปแดกละ”

เบนนี่เอ่ยแซวขำ ๆ แต่กลับได้รับค้อนวงใหญ่จากเอยตอบแทน

“ก็แซบอยู่นะมึง แต่ก็เพิ่งมาเฟลวันนี้นิดหน่อย”

เอยตอบเพื่อนออกไปก่อนที่มือเรียวสวยจะยกแก้วไวน์ราคาแพงขึ้นดื่มวันนี้ไม่เมาไม่กลับ ถึงจะเมาแค่ไหนเธอมั่นใจว่าเพื่อนเธอแบกเธอกลับได้แน่นอนแถมปลอดภัยชัวร์ ๆ

“อะไหนเหลาเรื่องแซบมาก่อนดิ กูอยากรู้ต่อมเผือกกูทำงานละ”

เพื่อนกระเทยสุดซี้ยื่นหน้าไปใกล้ ๆ สาวสวยมือเท้าคางบ่งบอกว่าพวกเธอพร้อมเสือกเต็มที่

“พวกมึงรู้จักคุณคิณ อัคนีปะ”

เอยเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคนพร้อมยกไวน์กระดกรวดเดียวหมดแก้ว รสขมเฝื่อนที่บาดคอช่วยให้เธอมีความกล้าที่จะเล่าให้เพื่อนฟังอย่างเต็มที่

พรวด แค่ก แค่ก แค่ก

ไวน์ที่เพิ่งยกจิบขึ้นไปของสองสาวพุ่งออกมาแทบโดนหน้ากันมือเรียวบางคล้ายผู้หญิงหยิบทิชชูมาเช็ดปากก่อนจะไอจนหน้าดำหน้าแดง

“ทำไมต้องตกใจกันด้วยเล่ามีอะไรน่าตกใจอะ”

เอยถามด้วยความสงสัยแค่เอ่ยชื่อคิณ ทำไมเพื่อนของเธอต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงขนาดนั้น

“โห่ อีดอกนี่มึงไม่เคยรู้จักคิณ อัคนี จริง ๆ เหรอ”

เจนนี่ถามด้วยความตกใจเพื่อนเธอไปอยู่ประเทศไหนมาถึงไม่รู้จักหนุ่มโคตรหล่อเบ้าหน้าฟ้าประทาน โคตรรวยติดอันดับของโลก ที่สำคัญโคตรแซบวงในเขาเมาท์กันนะ เธอเกิดที่ประเทศโลกที่สามหรืออย่างไรกัน เชยสะบัดเลย

“ก็เพิ่งรู้จักตอนงานเดินแบบประมูลเครื่องเพชรอะเขาประมูลชุดที่กูใส่อยู่”

เอยบอกเพื่อนทั้งสองก่อนจะทำหน้างง ๆ ผิดเหรอที่เธอเพิ่งรู้จักเขา ไม่เห็นแปลกนี่ก็เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนจริงๆ นี่นา

“ต๊ายตายอีเจน กูว่าอีเอยมาจากดาวอังคารว่ะไม่รู้จักคิณ อัคนี ผู้ชายเบ้าหน้าชนชั้นสูง หุ่นนายแบบ รวยโคตร ๆ แถมเป็นนักธุรกิจที่เก่งมาก ละแมะ ละแมะ กูอยากได้อยากโดนถ้ากูเป็นผู้หญิงกูยอมให้เสียบฟรีอะกูแค่ไม่มีมดลูกแค่นั้นเอง”

เบนนี่จีบปากจีบคอพูดอย่างเมามันโดยที่เอยนั่งฟังอย่างงง ๆ

“ลูกสาวคะทีวีเขาน่ะออกข่าวเกือบทุกวัน แถมออกงานสังคมเยอะมากกว่าดารา ไฮโซ เซเลบ บางคนเสียอีกแม่เขาก็คุณเอมอรนางแบบเบอร์หนึ่งของวงการสมัยก่อน เฮ้อ กูว่าหล่อได้แม่ นิสัยแบดได้พ่อว่ะ ไม่เจ้าชู้นะ แต่ฟาดเรียบว่ะมึง”

เจนนี่เมาท์ผู้ชายในฝันของสาว ๆ ค่อนประเทศให้ชะนีหน้าสวยผู้ไม่เคยรู้อะไรเลยฟังอย่างได้อรรถรส

“ทำแมะ มึงโดนเขาตกใช่ไหมไหนพูด!!!”

เบนนี่คาดคั้นร่างบางที่กระดกไวน์แก้วที่สี่รวดเดียวหมดหน้าสวยเริ่มแดงก่ำด้วยความเมานิด ๆ มั้ง เธอว่าเธอยังไหว ยังไหวอยู่ แต่เธอคอไม่แข็งแก้วสองแก้วก็เมาแอ๋แล้ว

“มึง เขาหล่ออะ หล่อมากจนกูอยากได้เขา แต่กูแม่งก็ไม่คู่ควรกับเขาแค่ดาราเต้นกินรำกินเขาไม่มีวันมาสนใจกูหรอก เนี่ยเจอกันครั้งแรกเขาก็จูบกูครั้งที่สองก็จุ๊บกู กูว่าจะไม่หวั่นไหวแล้วอีดอก แต่แม่งใจกูมันไม่ฟังเต้นทุกครั้งที่เจอหน้า คนอะไรหล่อฉิบหายหล่อจนมดลูกสั่น เอิ๊ก”

เอยพรั่งพรูความในใจออกมาให้เพื่อนกะเทยฟังขณะที่เพื่อนกะเทยตอนนี้อึ้งกันไปแล้วเพื่อนไวไฟมากค่ะไม่เคยรู้จักแต่จูบกับเขาไปแล้ว

เจอกันแบบไหนคะ กะเทยขอ How to รู้จักไม่มากแต่ได้จูบปากกันค่ะ

“อ๊าย อีเอยกูอิจฉามึงมากค่ะ มึงมันแน่ มึงมันแน่มาตลอดเพิ่งรู้จักกันแต่ได้จูบปากกันแล้ว เจอกันต่อไปไม่ได้เขาเป็นผัวเลยเหรอยะลูกกะเทย”

เจนนี่เอ่ยแซวเพื่อนด้วยความอิจฉาเพื่อนเธอแต้มบุญสูงมากทุกคนขา

“ละเป็นไงแซบไหมมึง แซบเหมือนที่อีพวกนางแบบมันเมาท์กันมะ” เบนนี่ยื่นหน้าเข้าไปถามด้วยความอยากรู้

“แซบเหรอ แซบแบบหนาย ไม่แซบอะ แต่ลามุนมาก เอิ๊ก”

เอยพูดไปก็ยิ้มไปเมื่อคิดถึงปากนุ่ม ๆ ที่แนบจูบลงมาบดเคล้าริมฝีปากของเธอ

“โอ๊ย ปวดฉี่อะ อีเจนกูปวดฉี่พากูปายห้องน้ำทีมึง”

เอยร้องบอกเพื่อนเสียงงุ้งงิ้งก่อนที่เจนนี่จะพยุงร่างบางที่แทบทรงตัวไม่อยู่ไปที่ห้องน้ำหญิง เมื่อทำธุระเสร็จออกมาก็เดินโซซัดโซเซมาหาเพื่อนที่ยืนรออยู่ด้านนอก

“ขอบใจที่มึงยังมีสติพอลุกออกมาจากห้องน้ำได้ไม่เสือกหลับบนชักโครกไปก่อน”

เจนนี่อดที่จะเหน็บเพื่อนไม่ได้เพราะหลายรอบมากที่เอยชอบหลับบนชักโครกจนเพื่อน ๆ ตามหากันให้ควั่ก

“กูเก่งงาย วานนี้กูเก่ง เอิ๊ก”

คนเมายังเพ้อไม่หยุดในขณะที่เจนนี่พยุงร่างบางกลับมาที่โต๊ะแต่พอเดินมาได้แค่ครึ่งทางสายตาเอยก็เหลือบไปเห็นน้ำฟ้า คู่อริเบอร์หนึ่งกำลังนั่งส่งสายตาอ่อยผู้ชายที่นั่งบนโซฟาข้าง ๆ กัน

หึ มึงเสร็จกูแน่อีน้ำเน่าจอมแอ๊บ

เอยไม่รอช้าสับขาเดินตุปัดตุเป๋ไปที่โซนนั้นทันทีทำเอาเจนนี่งงเป็นไก่ตาแตกกับท่าทางของเพื่อนสาว

“อ้าว อีเอย มึงไปไหน มึงมานี่โต๊ะเราอยู่ทางนี้ อีดอกรอกูด้วย”

เจนนี่ตะโกนร้องเรียกคนเมาด้วยความตกใจขาก็วิ่งตามร่างบอบบางของเพื่อนสาวไปทันที

“ฮาย ว่าไงจ๊ะน้ามเน่า นี่มาเที่ยวกับครายอะ”

คนเมาเดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ น้ำฟ้าอย่างแรงมือบางยกขึ้นเกาะแขนน้ำฟ้าอย่างกับคนที่สนิทสนมกันมาเป็นชาติ ทั้ง ๆ ที่ความจริงนั้นเกลียดกันแทบตาย ในขณะที่น้ำฟ้าสีหน้าเลิ่กลั่กอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ เอยก็โผล่พรวดมาจากไหนไม่รู้เข้ามาขัดจังหวะเธอกับคุณคิณซะได้

นางเอกหน้าหวานคิดในใจเมื่อมีมารตัวเบ้อเริ่มมาผจญเธอซะแล้ว ส่วนเจนนี่ที่วิ่งตามมาก็เบรกเอี๊ยดทันทีที่เจอคิณ อัคนี นั่งอยู่กับน้ำฟ้าและข้าง ๆ นั้นก็เป็นเพื่อนสาวสายเมาแล้วเลื้อยของเธอเอง เวรแล้วไหมล่ะนังเอย เจนนี่ยกมือขึ้นกุมขมับอย่างปวดหัวกับภาพตรงหน้าเอาไงดีล่ะทีนี้ ก่อนที่เธอจะยังคงยืนนิ่ง ๆ มองเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ขยับไปไหนนาทีนี้ขอยืนอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ไปก่อนแล้วกันนะคะทุกคน

“อ้าว ถามทามมายไม่ตอบอ่า มากับใครนี่ใคร”

ดวงตาสวยที่ใกล้จะปิดเต็มทีพยายามเบิกตามองผู้ชายหน้าหล่อที่นั่งนิ่ง ๆ จิบบรั่นดีไม่พูดไม่จาอยู่บนโซฟาข้าง ๆ

“โอ๊ะ คุณคิณ อัคนี นี่นา”

ตาที่ใกล้จะปิดเบิกกว้างอย่างตกใจมือเล็กเรียวยกขึ้นป้องปากก่อนจะลุกขึ้นเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนตักคิณแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาน้ำฟ้ากับเจนนี่ถึงกับเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน ก่อนที่ท่อนแขนเรียวสวยจะยกขึ้นคล้องคอคิณเอาไว้หลวม ๆ  วงหน้างามซบลงที่ซอกคอหอมกรุ่นโดยที่คิณไม่มีทีท่าจะผลักไสเธอเลยสักนิดเขายังคงนั่งนิ่งๆให้ร่างบอบบางของเอยจับนู่นแตะนี่ได้ตามอำเภอใจ หึ ลวนลามซะให้พอแม่สาวขี้เลื้อย

“อะ เอ่อ คุณคิณรู้จักเอยด้วยเหรอคะ”

น้ำฟ้าเอ่ยถามคิณเสียงสั่น ๆ ด้วยความโมโห นังเอย นังบ้าแกกล้าดียังไงมาแตะว่าที่ผัวของฉัน  นึกเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจอย่างโกรธเคือง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ณ จุด ๆ นี้เธอต้องสำรวมท่าทีก่อนเดี๋ยวผู้ชายตื่น

ในขณะที่คิณไม่ตอบคำถามของน้ำฟ้าเขาได้แต่คอยจับมือบางที่แตะไปทั่วตัวเขาไม่หยุดก่อนจะเอ่ยเสียงเข้มปรามคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักกว้าง

“เอย อย่าซนอยู่นิ่ง ๆ”

มือใหญ่จับแขนเรียวออกจากหน้าอกแกร่งเมาแล้วเลื้อยจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้

“คุณคิณ มาเดตกับน้ามเน่าหรอ คบกันหรอ”

คนเมาถามด้วยน้ำเสียงน้อยใจทั้ง ๆ ที่เธอไม่สิทธิ์อะไรแค่คนแอบชอบเขาแต่น้ำเสียงที่ถามออกไปเจือด้วยความน้อยใจอย่างปิดไม่มิด หน้าสวยมุ่ยลงปากยื่นอย่างกำลังงอนคนตรงหน้า

“เปล่านี่ ไม่รู้จักกัน เขามานั่งด้วยเฉย ๆ”

คิณตอบกลับร่างบางบนตักด้วยเสียงนุ่มทุ้ม มือก็ยกบรั่นดีขึ้นจิบจนหมดแก้ว ก่อนจะวางลงบนโต๊ะแล้วเหลือบมองหน้าสวยเฉี่ยวที่กำลังทำหน้ามุ่ยอยู่ตอนนี้

“ดีแล้วที่ม่ายรู้จักกาน คุณคิณอย่าไปคบกับมานนะ มานนิสัยเสีย วันนี้จะตบเอยด้วยอะ”

คนเมาเอ่ยปากฟ้องคนตัวสูงก่อนที่จะซบหน้าสวยลงที่อกกว้างอย่างออดอ้อน

“นี่เอย มันจะมากไปแล้วนะ”

น้ำฟ้ายื่นมือมาหมายจะกระชากร่างบางบนตักคิณให้ลุกขึ้นแต่คิณกลับเบี่ยงตัวหลบอย่างไวทำให้มือที่ยื่นมาชะงักค้างกลางอากาศก่อนจะค่อย ๆ ตกลงแนบกับลำตัว

“อย่ามาแตะต้องเอย แล้วคุณจะไปไหนก็ไปผมรำคาญเต็มทน นั่งพูดคนเดียวอยู่ได้ไม่เบื่อเหรอครับ”

น้ำเสียงดุดันเอ่ยเตือนออกมาก่อนที่จะเอ่ยปากไล่คนที่นั่งอยู่ข้างๆตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อม

“นี่คุณคิณไล่น้ำฟ้าเหรอคะ?”

น้ำฟ้าเอ่ยถามเสียงแผ่วเบาไม่คิดว่าคิณจะไล่เธอตรง ๆ แบบนี้นั่งกับเขามาตั้งนานก็ไม่มีทีท่าจะไล่เธอเลยสักนิดพอนังเอยมาเขาก็ไล่เธอทันที เพราะมันคนเดียวคอยดูนะสักวันฉันจะตอบแทนแกอย่างสาสม น้ำฟ้าเชิดหน้าขึ้นสะบัดผมแบบนางร้ายในละครก่อนจะเดินนวยนาดออกไปไม่หันหลังกลับ ในขณะที่คนเมายังคงซุกซบใบหน้าที่หน้าอกแกร่งของคิณไม่ยอมผละไปไหน

“ฮ่า คุณคิณเจ๋งอะ พูดทีเดียวนังมารร้ายไปนู่นเยย โสมน้ามหน้ามานแอ๊บเก่งดีนัก”

คนเมาเอ่ยปากชมพลางชี้ไม้ชี้มือไปทางน้ำฟ้าที่สะบัดก้นเดินห่างออกไป และไม่ทันที่คิณจะได้ตั้งตัวเอยก็ก้มลงจูบคิณทันที ริมฝีปากนุ่มนิ่มกรุ่นไปด้วยกลิ่นไวน์จูบแผ่วเบาไปบนริมฝีปากหนาอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออก

“อะ นี่รางวานสามราบคนเก่ง คิก คิก”

เสียงยานคางเอ่ยบอกแผ่วเบาก่อนจะหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ

“ให้รางวัลจริง ๆ เขาต้องทำแบบนี้ เมื่อกี้นี่มันเด็ก ๆ เขาทำกัน”

มือหนาโน้มคอคนบนตักลงมาก่อนจะกดจูบแผ่วเบาลงบนปากสวยนุ่มนิ่มนั้นลิ้นหนาไล้เลียดูดชิมริมฝีปากภายนอก ก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าข้างในปากของเอย รสชาติของไวน์จากเธอผสมบรั่นดีจากของเขาทำเอาเอยมัวเมาในรสสัมผัสที่ได้รับ จนเผลอจูบตอบเจ้าของตักที่เธอนั่งอยู่อย่างเงอะงะ จนกระทั่งเขาถอนจูบออกเธอก็มองตามริมฝีปากที่ถอดถอนไปด้วยตาปรอยอย่างแสนเสียดาย

ด้านนอกนั้นเจนนี่ยืนตาโตอ้าปากค้างกับภาพที่เห็นตรงหน้า โอ๊ะ แม่เจ้า ลูกกะเทยมันแน่อีกแล้ว มันใจกล้าไปจุ๊บคุณคิณก่อน แล้วคุณคิณเขายังจับมันจูบปากอย่างดูดดื่มอีก โอ๊ย กะเทยอิจฉา นังเพื่อนเลว นังเพื่อนทรยศ วิ่งมาแอบฟินก็ไม่บอกทิ้งให้กะเทยยืนเหงาอยู่ได้แต่ตอนนี้ต้องจับแยกก่อนที่มันจะเตลิดเลื้อยคุณเขาจนเสียตัวให้มันก่อน ฉายาเมาแล้วเลื้อยนี่นางไม่ได้มาเล่น ๆ นะดูมันสิเลื้อยไปเต็มตัวคุณเขาเลย อีตาคุณคิณก็ดี๊ดีไม่ห้ามมันเลยสักนิด

“อะ เอ่อ เอยแกหายไปไหนมาฉันตามหาตั้งนานแหนะ ปะ กลับโต๊ะเราเหอะ”

เจนนี่แสร้งทำเป็นว่าตามหาเพื่อนไม่เจอจนต้องออกตามหาทั้ง ๆ ที่จริงเธอยืนแอบมองเพื่อนโดนจูบตั้งนานสองนาน

“ครายอ่า อ้าวเจนนี่เพื่อนเยิฟหายปายไหนมาอ่า”

เมื่อหันมาเจอเพื่อนรักมือก็ตะปบหน้าสวยไว้ก่อนจะเพ้อออกมาอีกแต่ก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นมาจากตักคิณสักที นังนี่มันร้ายดูสิคะทุกคนเกาะติดผู้ไม่ห่างเชียวเพื่อนมามันยังไม่ยอมลุกอะคิดดู

“ปะกลับโต๊ะเราเหอะ นังเบนมันโทรตามละเนี่ย”

เจนนี่บ่นกระปอดกระแปดมือก็พยายามดึงร่างบอบบางที่เกิดมาพยศเมื่อน้ำเมาเข้าปากไม่ยอมลุกตามแรงดึงเพื่อนเลย

“ง่ะ เอยจะอยู่นี่ นอนนี่ นี่นุ่ม ๆ เนี่ย ๆ คูมคิณงาย”

เอยจิ้มนิ้วเรียวไปบนอกแกร่งก่อนจะซบหน้าสวยลงไปอีกรอบ โอ๊ยอีเอย อีดอกมึงเมาแล้วเลื้อยลำบากกูมากค่ะ มือนี่เกาะแน่นอย่างกับปลิงดึงยังไงก็ไม่ยอมออกเจนนี่บ่นในใจจนในที่สุดเธอก็ดึงร่างบางบนตักคิณ ลอยหวือติดมือมาจนได้

“เอ่อ เจนนี่ขอโทษแทนเอยด้วยนะคะคุณคิณที่เอยมารบกวนเวลาสุนทรีของคุณคิณ ขอโทษจริง ๆ ค่ะ”

เจนนี่ก้มหน้าก้มตาขอโทษก่อนจะลากเพื่อนกลับไป ซึ่งคนที่ถูกลากก็โวยวายยกใหญ่ ในขณะที่คิณ โคลงศีรษะน้อย ๆ ตอบรับคำขอโทษนั้น

“เจนนี่มึงจาลากกูปายหนาย นั่นคูมคิณ กูจะหาคูมคิณ    งื้อ”

หน้าสวยเบะปากที่ถูกขัดใจก่อนจะงอแงร้องไห้เสียงงุ้งงิ้งออกมา

“มึงจะบ้าเหรอลูกกะเทย พอเลยมึงพอพักก่อนอย่าไปกวนคุณเขาแค่นี้มึงก็ล่วงละเมิดเขาไปหลายทีแล้วอีดอก”

เจนนี่บ่นให้เพื่อนก่อนจะลากกลับมาจนถึงโต๊ะด้วยความเหนื่อยและทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดแรง

“ห้องน้ำบ้านพวกมึงอยู่ประเทศเกาหลีหรือไง อีเอย อีเจน หายไปเป็นชั่วโมงกูก็รอเหมือนหมาหงอยไปเหอะ บอกนี่มาหายไปไหนมา ห้ามบิดพูด”

เบนนี่บ่นให้เพื่อนสาวอย่างโมโหนิด ๆ ไปเข้าห้องน้ำห่าไรนึกว่าตกท่อส้วมตายห่าไปแล้วทั้งคนยังดีอยู่และคนเมาเหมือนหมา

“โอ๊ย อีเบน มึงรู้มะลูกมึงไปวีนอีน้ำเน่าหน้าแบ๊วมากับไปล่วงละเมิดผู้ชายมาอีดอก ใจกูนี่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มกลัวใจคุณคิณจะให้บอดีการ์ดเขาเหวี่ยงมันออกมาแต่ที่ไหนได้แม่งไปดูดปากกันเฉย ลูกมึงมันแน่จริง ๆ อีเบนกูยอมใจ”

“เดี๋ยว ๆ  นะมึงช้าก่อน คิณไหน อย่าบอกนะว่าคิณ อัคนี”

เบนนี่ถามเสียงหวีดว้ายยกมือขึ้นทาบอกอย่างตกใจ

“เออ จะคิณไหนล่ะ มีคิณเดียวมะ คิณ อัคนี”

เจนนี่ตอบกลับเพื่อนอย่างโมโหไม่หายยังดีนะที่นี่ห้ามนักข่าวเข้ามาเด็ดขาดไม่อย่างนั้นนะนังเอยข่าวแกจูบกับคุณคิณ แพร่สะพัดไปไวเหมือนไฟลามทุ่งแน่ ๆ

“โอ๊ย กูจะเป็นลม เพื่อนมึงไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงก๋ากั่นไปจูบเขาแบบนั้น”

เบนนี่ถามอย่างสงสัยก่อนจะผินหน้าไปมองคนที่นอนหลับฟุบไปกับพนักโซฟาอย่างพินิจพิจารณา

“มึงก็รู้เพื่อนมึงมันเลื้อย ยังดีนะที่กูเข้าไปห้ามทันไม่งั้นกูว่าคุณคิณได้เสียตัวให้อีเอยแน่ ๆ กูฟันธง”

เจนนี่ทำหน้ามั่นอกมั่นใจเต็มที่ว่าเพื่อนเธอต้องไปแต๊ะอั๋งเขาจนเตลิดแน่ ๆ

“พอ ๆ ๆ กลับกันมึงกูปวดหัวกับมันรีบออกไปก่อนที่มันจะตื่นมาเลื้อยอีก ไปมึง”

เบนนี่รีบพยุงเอยขึ้นมาก่อนจะประคองกอดเอวบางที่ยืนแทบไม่อยู่รีบกลับคอนโดไปพรุ่งนี้มีเคลียร์กันยาวนังลูกกะเทย

ในขณะที่โต๊ะที่เอยเพิ่งจากมา คิณ ยังคงนั่งจิบบรั่นดีต่อเงียบ ๆ ใจกระหวัดคิดไปถึงเจ้าของเรือนร่างบอบบางนุ่มนิ่มหอมกรุ่นละมุนจมูก อืม อกเป็นอก ก้นเป็นก้น แค่คิดเจ้าลูกชายที่อยู่ภายใต้กางเกงก็ดันแข็งขืนขึ้นมา

อืม ไม่ไหวต้องหาที่ระบายมือหนาหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกหาลูกน้องคนสนิทไม่นานเขาก็เดินออกไปจากผับแห่งนี้ทันที

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status