แชร์

บทที่ 98

ผู้เขียน: เล่อเอิน
วันต่อมา ฉันถูกคนใช้ขวางเอาไว้ตรงหน้าประตูคฤหาสน์หลังเก่า ไม่ให้ฉันออกไปแม้แต่ก้าว ฉันเข้าใจแล้ว

เมื่อคืน ที่แท้แค่แจ้งให้ฉันทราบ

ฉันรู้ว่านี่คือความคิดของฟู่ฉีชวน ไม่เกี่ยวอะไรกับคนใช้ ฉันเลยได้แต่ถาม "ฟู่ฉีชวนล่ะ?"

"นายน้อยออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลยค่ะ"

"ลุงเฉิงกลับมาแล้วหรือยัง?"

"ยังเจ้าค่ะ ลุงเฉิงกำลังยุ่งกับพิธีศพของคุณท่าน"

"..."

ฉันกล่าวน้ำเสียงเรียบๆ "แล้วถ้าหาก ฉันต้องออกไปข้างนอกตอนนี้ล่ะ?"

"นายหญิง ท่านออกไปไม่ได้"

คนใช้ชี้ออกไปด้านนอกหน้าต่าง บอดี้การ์ดยืนกันอยู่หลายคน

ฉันอดตกใจไม่ได้

สามปีมานี้ นิสัยโกหกของฟู่ฉีชวนยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆ

บอกกับฉันว่าอยู่ที่นี่แค่คืนเดียว ตอนนี้กลับไม่ให้ฉันออกจากบ้านด้วยซ้ำ

ฉันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เขาอาจไม่ได้ใจดีเหมือนตอนนั้นที่ส่งฉันไปโรงพยาบาล เขาตอนนั้นระวังดูแลความนับถือในตัวเองของฉัน พยายามคิดหาวิธีเชิญฉันไปทานอาหาร

ระยะแปดปี เพียงพอจะเปลี่ยนให้คนจากอีกคนเป็นอีกคนได้เลยหรอ?

ตอนเช้า มือถือมีข้อความไลน์ส่งมามากมาย พวกเขาคงรู้เรื่องการจากไปของท่านปู่ เลยมาปลอบใจฉัน

เจียงไหล ลู่สือเยี่ยน ทั้งสองคนแตกต่างกันอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 99

    เขากลัวว่าฉันจะแจ้งความอีก เขาเลยไม่ไปบริษัท เลยประชุมออนไลน์ที่ห้องหนังสือแทนฉันถูกเขาเฝ้าเหมือนกับตัวเองนั่งอยู่บนพรมเข็ม ฉันนั่งเหม่อลอยอยู่ในบ้าน……วันต่อมา เป็นงานพิธีศพของท่านปู่ บรรยากาศอึมครึมโศกเศร้าฝนตกลงมาโปรยปราย หอบลมหนาวพัดผ่านลึกถึงใจกลางทรวงส่วนฉันก็ต้องออกจากคฤหาสน์หลังเก่านี้ไปงานกับฟู่ฉีชวน ถูกเขาลากอย่างกับเป็นหุ่นเชิดให้คอยรับแขกภายในงานศพเขาสองวันนี้อารมณ์หงุดหงิดมาก ถึงจะบอกว่านิสัยเปลี่ยนไป แต่เหมือนเผยธาตุแท้ออกมามากกว่าฉันขัดขืนไม่ได้เลยเมื่อคืนฉันพูดกับเขาอีกครั้ง ก่อนท่านปู่จากไปไม่ได้ขอร้องว่าห้ามพวกเราหย่า ก็แค่ห้ามไม่ให้ฟู่จินอันแต่งเข้ามาในตระกูลฟู่เขาไม่เชื่อบอกว่าฉันโกหกส่วนฉันเหนื่อยมาก ไม่มีอารมณ์มาเถียงกับเขาตอนพิธีศพเริ่มขึ้น ฉันสวมเสื้อโค๊ทสีดำ ยืนเงียบๆ อยู่ข้างๆ ฟังบทสวดให้ท่านปู่ไปสู่สุขติเขาอายุ 80 ปี บทสรุปสุดท้ายของชีวิตกลับแสนง่ายดายสองวันก่อนเขายังยิ้มให้กับฉันอยู่เลย ตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงแค่ธุลี"คุณปู่!"ฟู่จินอันจู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในงาน สีหน้าเศร้าสร้อยคุกเข่าตรงหน้าป้ายศพ "คุณปู่...ทำไมท่านถึงจากไปกระทันหัน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 100

    พอฟังจบ ฉันก็รู้สึกถูกอกถูกใจ ทว่าไม่นานฉันก็เข้าใจเหตุผลเจียงไหลขมวดคิ้วแน่น มองมาที่ฉันอย่างไม่เข้าใจและพูดเสียงเบา "ฟู่ฉีชวนจู่ๆ ก็เป็นคนละคนเลย?""ไม่ใช่หรอก"ฉันมองฟู่จินอันถูกบอดี้การ์ดลากตัวไปและเม้มปากเบาๆ "เขาก้แค่ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ เลยแค่อยากชดเชย"ก่อนท่านปู่จะจากไป เขาในฐานะหลากรักของท่านปู่กลับไม่ได้อยู่ข้างกาย อีกทั้งยังทำให้ท่านปู่โมโหวันเดียวกันกับที่ท่านปู่เสียเขาจะไม่รู้สึกผิด ไม่เสียใจ ไม่โทษตัวเองได้ไงเพื่อแสดงให้เห็นในตอนสุดท้าย เขาเลือกจะฟังท่านปู่ ให้ฉันเป็นนายหญิงตระกูลฟู่ตลอดไปส่วนสำหรับฉัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยหลังจากพิธีศพของท่านปู่ ฉันกลับไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ช่วยลุงเฉิงจัดเก็บข้าวของของท่านปู่คนรับใช้จัดเก็บให้แล้ว ส่วนที่เหลือจะเป็นพวกเสื้อที่มักใส่ประจำของท่านปู่เสื้อผ้าแต่ละตัวที่ฉันหยิบมา ทำให้รู้สึกเหมือนท่านปู่ไม่ได้ไปไหนขณะฉันเก็บข้าวของ ฉันก็ครุ่นคิดและพูดออกมา "ลุงเฉิง คุณมั่นใจไหมว่าสองวันก่อนในกระเป๋าเสื้อของท่านปู่มียาใส่ไว้จริงๆ?""มีแน่นอนครับ คุณสั่งกับผมเอาไว้ โดยเฉพาะตอนอากาศเปลี่ยน ต้องเตรียมยาไว้ให้คุณท่า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 101

    ฉันน้ำตาไหลพรากราวสายฝน รับกล่องกำมะหยี่มาพร้อมกับนิ้วอันสั่นเทาพอเปิดออกดู ข้างในคือจี้หยกสองอัน ทั้งสองเป็นหยกเนื้อใสเปล่งประกาย อันหนึ่งมีลวดลาย อีกอันไม่มีเนื้อหยกสีบริสุทธิ์ประเภทนี้หายากมาก เห็นได้ชัดว่าท่านปู่เป็นห่วงมากเพียงใดฉันค่อยๆ ปิดกล่องลงอย่างระวังพร้อมกับสูดหายใจ "เรื่องที่ฉันท้อง...ท่านปู่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"รู้ตั้งนานอยู่แล้ว แต่กลับไม่เคยถามฉันสักครั้ง ก็เพื่อไม่อยากให้กระทบจิตใจท่านปู่จากไปแล้ว ทว่ากลับยังสัมผัสได้ถึงความเอ็นดูของคนแก่อย่างเขาลุงเฉิงกล่าว "หลังจากงานคราวก่อน คุณท่านให้คนไปค้นประวัติผู้ป่วยของคุณ คุณ...อย่าโทษคุณท่านเลย คุณท่านแค่กลัวว่าคุณมีปัญหาสุขภาพ กลัวว่าเขาจะกังวลก็เลยปิดเอาไว้""จะโทษได้ไง..."ฉันร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ "ฉันก็แค่โทษตัวเอง"หากฉันบอกคุณปู่แต่เนิ่นๆ คุณปู่อย่างน้อยก็คงได้มีความสุขสักช่วงไม่จำเป็นต้องมาคอยพะว้าพะวง จนขนาดไม่กล้าถามฉันสักคำ"คุณได้ให้กำเนิดทายาทให้กับตระกูลฟู่ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก คุณท่านเองก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ"ลุงเฉิงปลอบฉันและนึกถึงคำสั่งเสียที่ให้ไว้ "จริงสิ คุณท่านเคยบอกเอาไว้ หากวันใดคุณ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 102

    ฉันแน่นิ่งไปเกือบลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลยท่านปู่จากไปแล้ว ในฐานผู้มีสิทธิในตระกูลฟู่ แน่นอนว่าฟู่ฉีชวนต้องเข้ามาอาศัยอยู่ฉันผลักจากอ้อมกอดของเขาพร้อมกับประนีประนอม "งั้นก็ช่างมันเถอะ"ตกดึกเล็กน้อย คนใช้ได้เตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อย ลุงเฉิงเรียกพวกเราให้ลงไปรับประทานอาหารคฤหาสน์หลังเก่าอันใหญ่โต ดูเหมือนว่าทุกอย่างยังคงเป็นไปตามระเบียบเหมือนเคยเพียงแต่สีหน้าของทุกคนหมองหม่นเล็กน้อยรับประทานอาหารเสร็จ ฉันหลังจากอาบน้ำแล้วก็ล้มตัวนอนสองวันเต็มๆ ที่ไม่ได้หลับตานอน อยากจะนอนแท้ๆ แต่นอนไม่หลับตอนนี้เรื่องทุกอย่างเหมือนเพิ่งจะจบ ฉันหลับลึกจนกระทั่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเองในช่วงเช้าตรู่ของอีกวันฟู่ฉีชวนไม่อยู่แล้วช่วงสองสามวันนี้บริษัทยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวไปไหนได้ บริษัทคู่แข่งต้องการอาศัยจังหวะเวลานี้ซ้ำเติมหลังจากฉันมาถึงบริษัท ตลอดทางมีสายตาแปลกๆ คอยมองต้อนรับฉันไม่น้อยแม้ฟู่ฉีชวนจะสัญญาว่าจะไม่ไปหาสู่กับฟู่จินอัน แต่คนในบริษัทไม่รู้ พวกเขารู้แค่ว่าฟู่จินอันได้กลายเป็นเลขาของรองประธานสายตาที่มองฉัน ราวกับมองฉันเป็นเมียน้อยยังดีตรงที่ฉันตัวตรงไม่หวั่นเงาเฉเฉียง เลย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 103

    ฉันตั้งใจมองรูปภาพหนึ่งเป็นด้านข้างของกันฉันกับลู่สือเยี่ยนไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันอีกภาพเป็นตอนคอนเสิร์ตเลิก เป็นภาพถ่ายด้านหลังตอนเขาประคองใหล่ฉันพอเห็นสองภาพนั้น ฉันก็เข้าใจทันที ไม่แปลกหลังจากเกือบถูกคนกระแทกในวันนั้น ก็ไม่มีใครเข้ามาเบียดอีกที่แท้ลู่สือเยี่ยนใช้แขนบังเอาไว้ข้างหลังฉันไม่รู้จะขำหรือเศร้าดี "ความคิดเชื่อมโยงและตรรกะอนุมานของคนๆ นี้ไม่เลวเลย""ลู่สือเยี่ยนเอาใจใส่เธอขนาดนั้น ไม่แปลกที่คนอื่นจะคิดไปไกล"เจียงไหลกล่าว "ถ้าให้ฉันพูด เขาดูน่าเชื่อถือกว่าฟู่ฉีชวน""อย่าพูดเพ้อเจ้อ"ฉันจิบชาร้อน "เขามีคนที่ชอบแล้ว ชอบมาหลายปีแล้วด้วย""ชอบใคร? ทำไมไม่พามาเจอพวกเรา?""ไม่รู้ คงจะรอให้จีบติดก่อนก็ค่อยพามาก็ได้"ส่วนเรื่องว่าลู่สือเยี่ยนชอบคนทมี่แต่งงานแล้ว ฉันไม่ได้ปริปากพูดถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา จะมากจะน้อยมันก็ดู...ผิดศีลธรรม คนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดีเจียงไหลจือปากใส่ "เดิมฉันคิดว่าพวกเธอก็เข้ากันดี กลายเป็นว่าฉันคิดเป็นตุเป็นตะอยู่คนเดียว""คุณพี่คะ ฉันแต่งงานแล้วนะ ถ้าเธอจะกังวล อย่างน้อยก็รอฉันหย่าก่อนไหม?" ฉันยิ้มเจื่อน"จ้าๆๆ"เจียงไหลก้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 104

    เธอออกแรงจนเล็บที่เพิ่งไปทำมาอย่างสวยประณีตจิกลึกลงไปในผิวหนังของเธอจนรู้สึกปวดแสบปวดร้อนเจียงไหลพอได้ยินเธอพูดแบบนั้น ก็ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีและคิดจะพยายามรั้งฉันไว้ แต่ฟู่จินอันก็จิกข้อมือฉันแน่นไม่ยอมปล่อยแววตาของเธอเหมือนคนบ้าอาบย้อมด้วยความเย็นเยือก "ฟังไม่เข้าใจรึไง ฉันให้พวกเธอโทรหาอาชวนเดี๋ยวนี้""...ได้"เจียงไหลเป็นห่วงว่าฉันท้องอยู่ เลยไม่กล้าออกแรงฉุดกระชาก ยอมอดกลั้นและประนีประนอม "ฉันจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้ เธอปล่อยหรวนหร่วนก่อน""ไม่มีทาง!"หลังจากฟู่จินอันลากฉันออกมาจากห้างสรรพสินค้าก็เดินออกมาได้ระยะหนึ่ง หากเดินต่อไปอีก ข้างหน้าก็จะเป็นถนนใหญ่ที่รถขับไปมาฉันนึกถึงเลือดบนตัวของฟู่ฉีชวนคราวก่อน เลยอกสั่นขวัญแขวนเล็กน้อยฟู่จินอัน...อาจจะลากฉันให้ไปตายด้วยได้จริงๆเจียงไหลสีหน้าซีดเผือด เธอต่อสายโทรออกไปแล้ว "เธออย่าวู่วาม อย่าทำร้ายหรวนหร่วน""เปิดลำโพง"ฟู่จินอันเชิดคางใส่ มีหรือเจียงไหลจะกล้าไม่ยอมทำตาม เธอเลยรีบเปิดลำโพงไม่นานฟู่ฉีชวนก็รับสาย "ฮัลโหล?""ฟู่ฉีชวน! ฉันกับหนานจืออยู่ห้างตรงข้ามตึกของบริษัท คุณรีบมาหน่อยสิ!""เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"เสียงของฟู่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 105

    วินาทีต่อมา ฉันกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บ...เจ็บจนมึนงงหัวไปหมดเจ็บเข่า เจ็บแขน เจ็บ...ท้องฉันขยับริมฝีปากต้องการจะเรียกเขา กลับเห็นเขาลนลานวิ่งไปหาฟู่จินอันซึ่งถูกรถชน เขาตะคอกออกไปด้วยความโกรธและกระวนกระวาย "เธออยากตายรึยัง!"แม้จะถามไปด้วยความโมโห ทว่าในแววตาเขาล้วนคือความกลัวและความกังวลจากนั้นก็หยิบมือถืออกมาพร้อมกับปลายนิ้วสั่นเทา "ฉินเจ๋อ รีบขับรถมาที!""หรวนหร่วน!"ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที เจียงไหลตกใจกลัวยิ่งกว่าฉัน หลังจากได้สติ เธอก็รีบฝ่าจราจรวิ่งเข้ามาหา จนส้นสูงหลุดไปข้างหนึ่งน้ำตาของเธอไหลพรากหยดออกมา เธออยากพยุงฉันแต่กลัวว่าฉันจะบาดเจ็บหนักกว่าเก่า เธอพูดตะกุกตะกัก "หรวนหร่วน...เธอ เธอไม่ต้องกลัว..."ฉันเหมือนกับสัมผัสได้ถึงอะไรอุ่นๆ กำลังไหลออกจากร่างกาย ฉันใช้เรี่ยวแรงที่เหลือคว้าเจียงไหล "โอ๊ย...ไหลไหล ฉันปวดมาก...ช่วยลูกฉันด้วย...""ฉันอยู่นี่"เธอโทรเรียกรถพยาบาลพร้อมกับปลอบฉันอย่างทุลักทุเล "ฉันอยู่นี่ หรวนหร่วน เธอไม่ต้องกลัว จะต้องไม่เป็นไร เธอกับลูกจะต้องไม่เป็นไร!"ไม่รู้ว่าเธอกำลังปลอบฉันหรือว่ากำลังปลอบตัวเองขณะเดียวกันกับที่เธอโทร 1

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 106

    หัวใจของฉันถูกกรีดจนเป็นรอยแยกน้ำตาไม่ไหลออกมาแล้ว ฉันกล่าวด้วยเสียงอ่อนแรง "ฉัน ไม่มีสามี ไม่มีครอบครัว...ขอร้องพวกคุณ ยังไงก็ต้องปกป้องลูกฉันด้วย""อืม..."พยาบาลเหลือบมองตรงหว่างขาแวบหนึ่ง สีหน้าลำบากใจเล็กน้อย ทว่าในตอนท้ายก็พูดออกมา "พวกเราจะพยายามให้ถึงที่สุด"พอได้ยินประโยคนี้จากปากหมอ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆจากนั้นก็ถูกเอาไปไว้บนเตียงผ่าตัด หลังจากหมอถามสถานการณ์คร่าวๆ แล้วก็พูดออกมาตรงๆ "ไปเรียกวิสัญญีแพทย์มา เตรียมการขูดมดลูกให้พร้อม"ฉันลืมตามองไฟผ่าตัดที่ส่องแยงตา ดวงตาทั้งแห้งและเจ็บชุดประโปรงยาวไปจรดเท้าถูกหมอตัดออก หมอเหมือนถามอะไรกับฉัน ในหัวมีเสียงวิ๊งดังก้อง ไม่มีตัวเลือกอะไรให้เลือกหลังมือปวดจี๊ดขึ้นมาเบาๆ ทันใดนั้นก็ไร้ความรู้สึกและภาพก็ตัดมืดไป"แม่""แม่""ลูกต้องไปแล้ว แม่ทิ้งหนูแล้ว..."เห็นร่างเงาเล็กๆ ค่อยเดินห่างจากฉันไป ฉันตะโกนขึ้นมาทันใด "เปล่านะ! แม่ไม่ได้ทิ้งหนู!"พอลืมตาตื่น กลับเป็นห้องกำแพงสีขาวหิมะในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงแต่เสียงน้ำเกลือที่หยดลงมา เจียงไหลที่เฝ้าไข้อยู่ข้างๆ ก็ลุกพรวดขึ้นมาและรีบพูด "รู้สึกยังไงบ้าง?""ไหลไหล ลูก ลูกฉ

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status