แชร์

บทที่ 106

ผู้เขียน: เล่อเอิน
หัวใจของฉันถูกกรีดจนเป็นรอยแยก

น้ำตาไม่ไหลออกมาแล้ว ฉันกล่าวด้วยเสียงอ่อนแรง "ฉัน ไม่มีสามี ไม่มีครอบครัว...ขอร้องพวกคุณ ยังไงก็ต้องปกป้องลูกฉันด้วย"

"อืม..."

พยาบาลเหลือบมองตรงหว่างขาแวบหนึ่ง สีหน้าลำบากใจเล็กน้อย ทว่าในตอนท้ายก็พูดออกมา "พวกเราจะพยายามให้ถึงที่สุด"

พอได้ยินประโยคนี้จากปากหมอ ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ

จากนั้นก็ถูกเอาไปไว้บนเตียงผ่าตัด หลังจากหมอถามสถานการณ์คร่าวๆ แล้วก็พูดออกมาตรงๆ "ไปเรียกวิสัญญีแพทย์มา เตรียมการขูดมดลูกให้พร้อม"

ฉันลืมตามองไฟผ่าตัดที่ส่องแยงตา ดวงตาทั้งแห้งและเจ็บ

ชุดประโปรงยาวไปจรดเท้าถูกหมอตัดออก หมอเหมือนถามอะไรกับฉัน ในหัวมีเสียงวิ๊งดังก้อง ไม่มีตัวเลือกอะไรให้เลือก

หลังมือปวดจี๊ดขึ้นมาเบาๆ ทันใดนั้นก็ไร้ความรู้สึกและภาพก็ตัดมืดไป

"แม่"

"แม่"

"ลูกต้องไปแล้ว แม่ทิ้งหนูแล้ว..."

เห็นร่างเงาเล็กๆ ค่อยเดินห่างจากฉันไป ฉันตะโกนขึ้นมาทันใด "เปล่านะ! แม่ไม่ได้ทิ้งหนู!"

พอลืมตาตื่น กลับเป็นห้องกำแพงสีขาวหิมะ

ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงแต่เสียงน้ำเกลือที่หยดลงมา เจียงไหลที่เฝ้าไข้อยู่ข้างๆ ก็ลุกพรวดขึ้นมาและรีบพูด "รู้สึกยังไงบ้าง?"

"ไหลไหล ลูก ลูกฉ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 107

    คำถามมากมายถาโถมใส่ตรงหน้า ทำฉันตกตะลึงจนยืนอยู่ตรงนั้นฉันลูบตรงท้องน้อยที่ปวดอย่างเจ็บใจพร้อมกับถามด้วยหน้าซีดเซียว "คุณพูดอะไร?""เธอแท้งแล้ว!"ฟู่ฉีชวนชี้ไปทางห้องพักผู้ป่วย แววตาเย็นเยือกดุร้าย "เธอเสียลูกของเธอไปแล้ว! หมอบอกว่า เธอหลังจากนี้คงจะมีลูกยาก! หร่วนหนานจือ เธอพอใจรึยัง?!""..."น้ำเสียงที่เขาถามทำให้ฉันสั่นไปทั้งตัว ลำคอเหมือนมีฟองน้ำชุ่มอุดเอาไว้ มุมปากเผยรอยยิ้มอันขมขื่น ผ่านไปนานกว่าฉันจะพูด "เธอแท้งแล้วหรอ?"แต่ว่า...ฉันเองก็แท้งเหมือนกันฟู่ฉีชวนเลือดที่ออกมาจากร่างของฉันเป็นลูกของเรา เป็นลูกที่เราตั้งใจเฝ้ารอที่จะมีกันมานานฉันคิดมาตลอดว่าต่อให้สักวันจะไม่มีชีวิตแต่งงานเฮงซวยนี้แล้ว ฉันก็ยังมีลูกคอยอยู่เคียงข้างแต่ตอนนี้ มันไม่มีอีกแล้วราวกับว่า...ฉันไม่มีเรื่องอะไรคุ้มค่ากับการรอคอยอีกแล้วสิ่งที่เขาพูดว่าฟู่จินอัน "โวยวาย" ทำให้ฉันสูญเสียทุกอย่างไปแต่สุดท้าย คนที่ต้องรับผิดชอบก็ยังต้องเป็นฉันฟู่ฉีชวนจ้องมองฉันเขม็งและขบกรามจนแน่น "เธอแท้งแล้ว คุณคงดีใจสินะ?"ฉันยิ้มอย่างไม่แยแส "ใช่ เธอสมควรแล้ว!"ลูกของเธอแลกกับชีวิตของลูกฉัน ก็ไม่อาจทำใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 108

    ฉันตัวสั่นเล็กน้อย ในใจรู้สึกเศร้าที่ไม่อาจพรรณนาทั้งโลกรู้ว่าฉันชอบเขา ชอบเขาจนในสายตาฉันไม่มีใครอื่นอีก ทว่าเขากลับคิดว่าฉันชอบคนอื่นถ้าเป็นสมัยก่อน ฉันคงอยากจะควักหัวใจตัวเองออกมา ฟู่ฉีชวน คุณดูสิ บนหัวใจของฉันเขียนไว้แต่ชื่อคุณ แต่ว่าตอนนี้ฉันทำไม่ได้อีกแล้วจนฉันสงสัยว่าต่อให้ควักออกมาจริงก็คงไม่มีชื่อของเขาแล้ว คงมีแต่รอยแผลปรากฎให้เห็นเต็มตาขณะกลับไปที่บ้านของเจียงไหล เจียงไหลก็มองฉันอย่างปวดใจ อ้ำๆ อึ้งๆ จนในที่สุดก็อดถามไม่ได้ "ทำไมไม่บอกเขาว่าเธอเองก็แท้ง?""ไม่มีประโยชน์หรอก"ฉันกุมไปที่ท้องและซบไหล่เธอ น้ำเสียงอิดโรยไม่มีแรง "แลกมากับการที่เขาเปลี่ยนใจชั่วคราว แล้วจากนั้นล่ะ?"ฉันทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว พยายามครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะกลับมาดีกัน แต่ทุกครั้งก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเหมือนเดิมราคาที่ต้องชดใช้ครั้งนี้ มันสาหัสเหลือเกิน"ก็จริง"เจียงไหลถอนหายใจยาว พยายามกลั้นไม่ให้สะอึกสะอื้นพร้อมกับพูด "ก็ให้เขากับไอคนที่ฆ่าแม้แต่ลูกตัวเองอยู่ด้วยกันไป รอจนถึงวันที่เขารู้ตัวแล้วมาคอยดูกันว่าเขาจะเสียใจแค่ไหน""เขาไม่เสียใจหรอก"พอนึกถึงเขาเมื่อครู่ตอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 109

    ก็เหมือนกับชีวิตสมรสของฉันกับฟู่ฉีชวน อยู่ด้วยกันตั้งแต่เช้าจรดเย็นตลอดสามปี ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ต่อมาแค่กระเป๋าสัมภาระไม่กี่ใบก็ตัดขาดกันได้อย่างสิ้นเชิง"พี่หนานจือ"ตอนกลางวัน หลินเนี่ยนเคาะประตูเข้ามาพร้อมกับมือถือที่เปิดจอสว่าง สีหน้าอารมณ์ดูซับซ้อน และพูดอย่างลังเล "ที่แท้...คุณก็รู้จักไอดอลฉันด้วยหรอ?"ฉันรู้ว่าเธอกำลังพูดถึงลู่สือเยี่ยน ฉันยิ้ม "อืม ฉันไม่ใช่ว่าบอกเธอแล้วหรอ ฉันกับเขาคือเพื่อนสมัยมหาลัย""เขากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?""ก็ได้สักพักแล้วนะ"ฉันขณะกำลังเก็บข้างของก็พูดกับเธอไปด้วย "กะว่าไม่ค่อยยุ่งแล้วก็จะแนะนำเธอให้เขารู้จัก""พวกคุณ...ไปด้วยคอนเสิร์ตด้วยกันไม่ใช่หรอ ทำไมไม่ชวนฉันเลยล่ะคะ?""เธอคิดเลยเถิดไปไหนแล้ว"ฉันรีบอธิบาย "วันนั้นฉันโดนเทไม่ใช่รึไง เผอิญไปเจอเขาหน้าทางเข้าพอดี ก็เลยไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน""งั้นหรอคะ..."พอเห็นสีหน้าแปลกไปของเธอ ฉันก็อดถามไม่ได้ "ใช่น่ะสิ เธอมีอะไรรึเปล่า?""เปล่า ก็เห็นคุยกันในฟอรั่มว่าคุณกับเขาสนิทกันไม่ใช่น้อยๆเธอฝืนยิ้มออกมาทันที ถามฉันอย่างยิ้มแย้ม "คุณจะว่างเมื่อไหร่หรอคะ ถึงจะแนะนำให้เราได้รู้จักกัน?""ผ่านช่ว

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 110

    มะเร็งกระเพราะฉันตกใจอย่างมาก หันไปมองคุณป้าอย่างทำอะไรไม่ถูก "คุณป้า ทำไมถึง..."คุณป้ายังไม่ทันพูด หลินกั๋วอันก็พูดขึ้นมา "ก็อย่างที่ฉันพูด อย่างอื่นจะใช้ห่วยแค่ไหนก็ได้ แต่การรักษาจะต้องดีที่สุด"ฉันหันไปมองคุณป้าและกล่าวเห็นด้วย "มันควรเป็นเช่นนั้น ที่ฉันมีสองแสน ให้คุณป้าเอาไปรักษาก่อนได้"ลูกก็ไม่มีแล้ว...ฉันตัวคนเดียว ไม่ได้จำเป็นต้องไปใช้จ่ายอะไรเงินหมดก็หาใหม่ได้ คนตาย...ฟื้นกลับไม่ได้อีกแล้วใครจะไปรู้ หลินกั๋วอันกลับขมวดคิ้วไม่พอใจขึ้นมา "เธอมีแค่สองแสนเองหรอ?"ฉันพูดไปตามความจริง "ฉันมีแค่นี้จริงๆ""เธอคิดว่าฉันโง่รึไง?"หลินกั๋วอันกล่าวอย่างโมโห "อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอแต่งงานกับใคร ตอนนั้นฉันได้ถามกับตาแก่ที่มายกสินสอดให้ เขาคือตระกูลฟู่! ห้าแสนสำหรับแกแล้ว ขนหน้าแข่งไม่ร่วงหรอกจริงไหม? หร่วนหนานจือ เมื่อก่อนทำไมฉันไม่ยักรู้ว่าเธอมันคือคนอกตัญญู?!""..."รสขมเอ่อล้นขึ้นมาจากในลำคอ รู้สึกไร้เรี่ยวแรงอย่างถึงขีดสุด "ฉันจะหย่าแล้ว คุณลุง อีกหน่อยฉันก็จะไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลฟู่แล้ว"หลินกั๋วอันกับหลินเฟิงตกใจอุทานขึ้นมาพร้อมกัน "หย่าหรอ?!"ฉันพยักหน้า "ใช่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 111

    พอนึกได้ว่าคุณป้าคงไม่ได้มีชีวิตสบายนักในบ้านหลังนี้ จนฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า "คุณป้า..."คุณป้าลูบหัวของฉัน "ยัยเด็กโง่ ทำไมถึงหย่าล่ะ?""หนู..."คุณป้ากับพ่อของฉัน ดวงตาคล้ายกันมาก ทุกครั้งที่เห็นคุณป้าฉันรู้สึกสนิทสนมมากพอคุณป้าถามแบบนี้ ทำฉันอดกลั้นไว้ไม่อยู่ ฉันสวมกอดคุณป้าและร้องไห้ออกมา "หนู หนูเสียลูกไปแล้ว คุณป้า เขาโตจนมีมือมีเท้าออกมาแล้ว...แต่หนูกลับปกป้องเขาไว้ไม่ได้ หนูปกป้องเขาไว้ไม่ได้!"คุณป้าตบหลังของฉันเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ลูบหลัง "ยัยเด็กโง่ คนเราเวลามีลูก มันขึ้นอยู่กับดวงโชคชะตา โทษหลานไม่ได้หรอก ก็แค่ครั้งนี้ดวงคลาดกันนิดเดียวก็เท่านั้น""หนูเอง...หวังให้เขามาเกิดแท้ๆ"หวังว่าตัวเองจะสามารถมีครอบครัวที่แท้จริงฉันโอบกอดในอ้อมแขนของคุณป้า ไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้นานแค่ไหนถึงจะ ฉันสะอึกสะอื้นและค่อยๆ ตั้งสติขึ้นมาได้ คุณป้าปาดคราบน้ำตาให้กับฉัน "ถ้าหลานคิดดีแล้วว่าอยากจะหย่า งั้นก็หย่า ป้าสนับสนุนหลาน""ค่ะ..."ฉันกับป้าคุยกันอยู่นาน ฉันบังคับให้คุณป้ารับเงินสองแสนไปถึงค่อยกลับคุณป้าถึงจะบอกว่ามีเงินพอ แต่ก็ไม่ได้พอจริงๆอีกอย่างตอนนั้น หากท่านป้าไม่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 112

    พอได้ยินประโยคนี้ ทันใดนั้นก็เอะใจขึ้นมาพวกเขาทะเลาะกันเพราะฉันหรอ?แววตาของลู่สือเยี่ยนหมองหม่นไปชั่วขณะ ราวกับว่าคิดอะไรบางอย่างได้ เขาเหม่อลอยเล็กน้อย ฟู่ฉีชวนอาศัยจังหวะพลิกตัวขึ้นมาและต่อยกลับไปเขาลากลู่สือเยี่ยนกดติดกำแพง แววตาราวกับมีพายุก่อตัวขึ้น สีหน้าเย็นเยือก "ลู่สือเยี่ยน มีแค่หร่วนหนานจือที่โง่พอจะคิดว่าแกคือผู้ชายที่น่าชื่นชม!""แล้วแกล่ะ แกคิดว่าแกดีมากรึไง?"ลู่สือเยี่ยนเงยหน้าขึ้นมอง แววตาหมองหม่นพร้อมกับยิ้มเย้ย "แกไม่รู้สึกละอายกับเธอเลยรึไง? เธอเองก็..."พอได้ยินฉันก็สะดุ้งขึ้นมาทั้งตัว ตอนฟู่ฉีชวนกำลังจะง้างหมัดต่อยใส่เขา ฉันก็พุ่งเข้าไปขวางตรงหน้าลู่สือเยี่ยน "รุ่นพี่! เลิกพูดเถอะ!"อีกนิดฟู่ฉีชวนก็จะชกโดนหน้าของฉัน หมัดเขาพุ่งไปกระแทกกำแพงเทน สีหน้าเย็นเยือกในทันที!รูม่านตาเขาหดเล็กลง ฉาบย้อมไปด้วยไฟความโกรธซึ่งเผาผลาญได้ทั้งฟ้าดิน เขาหัวเราะเยาะ "หร่วนหนานจือ คุณเป็นห่วงมันหรอ?"ฉันอยากจะอธิบายในทันที แต่พอลองคิดดู ก็รู้สึกว่าทำไมฉันต้องอธิบายด้วยสิ่งที่เขาทำทั้งหมด เขาเคยอธิบายให้ฉันฟังเมื่อไหร่กัน ฟู่จินอันพอโทรหาปุ๊บเขาก็ไปถึงปั๊บ เข้าข้างเธออย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 113

    ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนเย็นชาเด็ดขาด ก็แค่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะมาใช้ไม้นี้กับฉันความรู้สึกระคายเคืองพรั่งพรูขึ้นมาถึงจมูก ฉันเบือนหน้าหนีไป พยายามกลั้นความน้อยใจในแววตาไม่ให้แสดงออกมา พอนึกถึงอาการของคุณป้า ฉันอดกลั้นและจำยอมในที่สุด แต่ละคำและประโยคล้วนขมขื่น"ประธานฟู่ คนในครอบครัวฉันป่วย ต้องการให้พักห้องผู้ป่วย VIP คุณช่วยจัดการให้ฉันหน่อยได้ไหม?"สีหน้าของเขาแน่นิ่งไป มือสั่นเบาๆ พร้อมกับเสียงแหบพร่า "คุณเรียกผมว่าอะไร?"ฉันกำมือแน่น "ประธานฟู่ ไม่ใช่หรอคะ?"คำเรียกนี้ราวกับปั่นประสาทเขา เขากัดฟันจนกรามแน่นพร้อมกับเอ่ยออกมาสองพยางค์อย่างเย็นชา "ไม่ได้""หนานจือ..."ฟู่จินอันค่อยๆ จิบดื่มน้ำอุ่น อธิบายด้วยสีหน้าใสซื่อ "ขอโทษนะ โรงพยาบาลเซิ่งซินมีห้องผู้ป่วย VIP แค่สามห้อง แม่ฉันพักห้องนึงแล้ว ส่วนฉันตอนนี้ต้องอยู่ไฟ ถ้าไปอยู่ห้องอื่นอาชวนก็คงไม่สบายใจ เลยบังคับให้ฉันอยู่ห้องนี้ ส่วนห้องสุดท้าย เพื่อนฉันขอให้ฉันช่วยจองไว้ให้ พรุ่งนี้ก็จะเข้ามาแอดมิทแล้ว...""เธออย่าโกรธไปเลย ถ้าเธอบอกเร็วกว่านี้หน่อย คงจะมีห้องให้เธอ""ถึงอย่างไรก็เป็นถึงคุณนายฟู่ ยังไงก็ต้องสำรองห้องให

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 114

    นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันแข็งขืนยืนกรานต้องการบางอย่างต่อหน้าของฟู่ฉีชวนแววตาของเขาดูประหลาดใจ เขาเหลือบกันมามองฉัน น้ำเสียงที่พูดออกมาเย็นชามากขึ้น "รอไม่ได้ก็ต้องรอ!""ได้"ฉันพยักหน้าพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแส "งั้นฉันจะให้ทุกคนได้รู้ว่าในตระกูลฟู่มันเน่าเฟะแค่ไหน เน่าเฟะถึงขั้นเมียน้อยสามารถเหยียบหัวเมียหลวงได้! มาดูกันว่าคุณจะทำให้ท่านปู่ที่เพิ่งจากไปผิดหวังได้แค่ไหน!"พออ้างถึงคุณปู่ เขาก็แน่นิ่งไปราวกับว่ากว่าเขาจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว สิ่งที่คุณปู่ขัดใจมากที่สุดตอนยังมีชีวิตก็คือความสัมพันธ์ของเขากับฟู่จินอันที่ไม่ชัดเจน!ไม่ทราบแน่ชัดเหมือนกันว่าเขานึกถึงคุณปู่หรือว่ากลัวฟู่จินอันเสียชื่อเสียงจนในตอนท้าย ฟู่ฉีชวนก็กลืนน้ำลาย พยายามสงบอารมณ์และเหลือบกันไปมองฟู่จินอันพร้อมกับพูดอย่างเย็นชา "ให้เพื่อนของคุณอยู่ห้องปกติ ตกลงตามนี้!"ฟู่จินอันกลับไม่ยอม "อาชวน..."ฟู่ฉีชวนปวดหัวจนตะคอกออกมา "พอสักที เลิกโวยวายไร้เหตุผลได้แล้ว!"อ้อที่แท้ เขาก็รู้ว่าฟู่จินอันเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลฉันไม่อยากคิดอะไรมาก คิดมากไปก็มีแต่ทำให้ตัวเองลำบาก ฉันกล่าวอย่างเรียบเฉย "ขอบคุณรองประธานฟู่ เดี๋ย

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 296

    "แม่...มีสิทธิ์อะไร...หนูเป็นลูกค้านะ!""ทำตามที่บอก!"แม่เสิ่นกลืนน้ำลายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โจวฟาง มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “คุณหร่วน ในฐานะดีไซเนอร์ชุด โปรดอย่าลืมไปร่วมงานเลี้ยงหมั้นในสัปดาห์หน้าด้วย หากมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับชุด ก็สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที”“เดินทางปลอดภัย ไม่ไปส่งค่ะ”ฉันทำท่าส่งแขก จากนั้นจึงพูดว่า "ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่ ก็โอนเข้าบัญชีเดียวกับครั้งที่แล้ว ขอบคุณ"……เรื่องตลกจบลงแล้ว ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้วฉันเลยตัดสินใจเสนอพาพวกเขาไปกินหม้อไฟเมื่อเพิ่งมาถึงที่จอดรถใต้ดิน เจียงไหลได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับงานปาร์ตี้สังสรรค์และตัดสินใจทิ้งฉันไว้เหลือแค่ฉัน โจวฟาง และโจวโม่โจวฟางชูคอ หันหน้ามาทางฉัน แล้วพูดว่า "ไปนั่งรถฉันมา พรุ่งนี้จะไปส่งโมโม่ที่ทำงาน""โอเค"ขณะที่ฉันเดินไปเปิดประตูเบาะหลัง โจวโม่ก็ผลักฉันให้ไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า "พี นั่งเบาะหน้าเถอะ เบาะหลังแคบเกินไป"นั่นคือข้อเสียของรถสปอร์ต ดูดีแต่ไม่สบายตอนนั่งฉันเปิดแอพอาหารแล้วคิดว่าจะไปที่ไหน โจวฟางก็หาวแล้วพูดว่า "ฉันเหนื่อยแล้ว กลับบ้านไปกินข้าวเถอะ สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้"ไม่ใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 295

    ลูกวัวแรกเกิดอย่างโจวโม่ไม่กลัวเสือ ซึ่งทำให้เจียงไหลและฉันต่างจ้องมองกันหลังจากที่รู้ตัว ฉันก็กลัวว่าแม่เสิ่นจะลากเธอไปเอี่ยว ดังนั้นฉันจึงดึงเธอไว้ข้างหลัง“ถ้ามีปัญหาอะไรก็เอามาคุยกับฉันสิ”"พี่!”โจวโม่ไม่กลัวเลยและมองไปที่แม่เสิ่น "คุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่ต้องการชุดนี้แล้วเหรอ? งั้นก็ให้เสิ่นซิงหยูออกมา ไม่ต้องไปลองมันแล้ว""ฮ่า!"แม่เสิ่นยิ้มเยาะหลายครั้ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก “คำพูดของเธอนี่ช่างขำจริงๆ เธอก็แค่พนักงานธรรมดาๆ เธอคิดว่าเจ้านายของเธอจะเห็นด้วยกับเธอไหม? เธอรู้ไหมว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่....”"ฉันซื้อได้!”โจวโม่พองหน้าเล็กๆ และพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเย่อหยิ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำกล่าวที่เกินจริงของเธอใบหน้าของแม่เสิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างน่าตกใจ สั่นเทาด้วยความโกรธ “หร่วนหนานจือ นี่ก็เป็นจุดยืนของเธองั้นเหรอ?”“ถ้าคุณไม่พอใจกับชุดนี้ นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดี”ฉันยิ้มอย่างสุภาพ น้ำเสียงของฉันสงบและนิ่งแม่เสิ่นกัดฟันและจ้องไปที่โจวโม่ “เธอแน่ใจนะว่า ซื้อมันได้ ชุดนี้ราคาเกิน 25 ล้าน!”“แค่ 25 ล้านเอง คุณป้า คุณไม่มีเงินหรือไง?”โจวโม่เอีย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 294

    ฉันไม่ได้คิดอะไรมากและหัวเราะ “เราออกไปนานแล้ว ฉันถึงบ้านแล้วและอาบน้ำแล้ว”"งั้นก็ดีแล้ว"“หลิน… ลุงของหลาน เขาไม่ได้ก่อเรื่องอีกแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะไปกับลู่สือเยี่ยน เขาเตือนหลินกั๋วอันหลินกั๋วอันพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบจะคุกเข่าลงคุณป้าพยักหน้าแล้วพูดว่า "ไม่ ไม่ต้องห่วง เขาใบหย่าไปแล้วและเพิ่งกลับไป"ฉันแปลกใจเล็กน้อย "เซ็นต์ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวลู่สือเยี่ยนในระดับหนึ่งเมื่อคืนนี้เอง ยัวยืนกรานที่จะแบ่งทรัพย์สินของฉันคุณป้าถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ใช่แล้ว หลานต้องขอบคุณประธานลู่นะ เขาเป็นคนดีมาก”"โอเค ไม่ต้องกังวล ฉันจะหาโอกาสขอบคุณเขาเอง"ถ้าคุณป้าสามารถหย่าร้างได้อย่างราบรื่น ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขความกังวลในใจของฉันไปได้หนึ่งเปาะด้วยวิธีนี้ ฉันจะต้องดูแลคุณป้าของฉันเท่านั้นในอนาคต โดยไม่ต้องรับมือกับคนชั่วคนนี้……หนานซีเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และธุรกิจของเราก็อยู่ในระดับปานกลางตามธรรมชาติแต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตารางงานที่ยุ่งของฉันฉันใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนในการทำชุดหมั้นของเสิ่นซิงหยูในที่สุดเพชร ไข่มุก ทับทิมตร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 293

    ฉันหันกลับมาทันทีและกำลังจะถาม แต่ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาด้วยท่าทางไม่พอใจ"หนานจือ"ฉันพยักหน้าและพูดว่า "รุ่นพี่"ทันทีที่หลินกั๋วอันเห็นเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาตัวสั่นและพูดว่า "ประธานลู่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้?"เห็นได้ชัดว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนสายตาของลู่สือเยี่ยนมองมาที่ฉัน และหลังจากยืนยันว่าฉันปลอดภัยดี สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินกั๋วอัน “ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันบอกคุณอะไรไปเมื่อครั้งก่อน?”“ไม่ ไม่ ฉันไม่กล้า!”หลินกั๋วอันปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา โดยแสดงรอยยิ้มประจบประแจงและระมัดระวัง "ฉัน... ฉันเพียงมาพบภรรยาของฉัน บังเอิญว่าผู้หญิงคนนี้มาพอดี"ฉันเห็นว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนมาก ฉันจึงใช้โอกาสนี้ถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป? คุณเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่ามาบอกฉันนะ มันเป็นแค่การพูดลอยๆ"ประโยคนี้ ลู่สือเยี่ยนก็ได้ยินเช่นกันหลินกั๋วอันหดตัวลงชั่วขณะ หลบตาคุณป้าของฉัน กัดฟันแล้วพูดขึ้นมาว่า "ฉัน..."“คุณควรพูดความจริงดีกว่า”ลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่สงบแต่หนักแน่น ยิ้มอย่างสุภาพแต่แฝงไปด้วยความคุกคาม "ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมัก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 292

    "หนานจือ ลุงของคุณได้รับจดหมายแจ้งการฟ้องหย่าของเราแล้ว"ทนายฟางอดไม่ได้ที่จะเตือนฉันว่า "แต่ตอนที่ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ไปเจอลุงของคุณเข้า เขาหน้าซีดมาก และอาจทำให้คุณป้าของคุณเดือดร้อนได้""โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ! ฉันจะไปดูทันที"คุณป้าของฉันอยู่ในระยะวิกฤตของการรักษา และกระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่อ่อนไหวและเต็มไปด้วยอารมณ์การทะเลาะกันใหญ่โต ไม่ดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเธอฉันวางสายโทรศัพท์และกลับไปที่ห้องส่วนตัว ฉันเอนตัวไปที่หูของเจียงไหลและพูด "ไหลไหล ฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้กับเธอนะ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านคุณป้า ฉันต้องลองไปดู"สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและเธอพูดอย่างวิตกกังวล "เป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันพาเธอไปเอง""ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่"ฉันตบไหล่เธอ “เธออยู่ที่นี่และทำให้ทุกคนสนุกสนาน อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้เสียบรรยากาศ”เมื่อพูดจบ ฉันก็คว้ากระเป๋าและบอกลาทุกคนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินออกไปลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นทันทีเช่นกัน “คุณดื่มแอลกอฮอล์มา ฉันจะพาคุณไปเอง”"โอเค"ฉันรู้ว่าเขามาทานอาหารเย็นนี้เพราะฉันเท่านั้น ถ้าฉันออกไป เขาก็คงไม่อยากอยู่เหมือนกันขณะที่ดินออกไป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 291

    ในขณะนั้นเอง มีคนจากภายในห้องดึงประตูเปิดออกพอดีตอนที่ฉันกำลังจะแอบดู พนักงานเสิร์ฟก้าวเข้ามา ทำให้ฉันไม่สามารถมองอะไรได้เลยสถานที่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของแขกเป็นอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟถามว่า “สวัสดี คุณเป็นเพื่อนของคุณเซียวและกลุ่มของเขาหรือเปล่า?”แซ่นี้ฟังดูไม่คุ้นเลยฉันต้องส่ายหัวและบอกว่า "ไม่ ฉันเข้าห้องส่วนตัวผิด"เมื่อฉันหันหลังกลับและออกไป ดูเหมือนว่าใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้ขนที่คอของฉันลุกชันเมื่อหันกลับไปมอง สิ่งที่ฉันเห็นก็คือประตูห้องส่วนตัวที่ปิดสนิทแล้วเมื่อกลับมาที่ห้องส่วนตัว เจียงไหลสั่งอาหารเสร็จแล้ว “เอาล่ะ เธอมีอะไรอยากสั่งไหม?”"ฉันไม่เลือกหรอก สั่งมาเลย"เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ฉันรู้สึกหนักใจเล็กน้อยไม่ใช่ใครที่ฉันรู้จัก แต่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันมากแทบจะเป็นสถานการณ์เดียวกันฉันไม่เคยได้ยินว่ามีเพื่อนสนิทแซ่เซียวจากฟู่ฉีชวนเลยเจียงไหลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและโน้มตัวเข้ามาที่หูของฉัน "เธอกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 290

    เจียงไหลไม่เห็นด้วยกับความคิดของฉัน "อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็หย่าแล้ว เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้ได้แค่พูดไม่กี่คำเหรอ? จะดีกว่าไหมที่จะกำหนดเส้นตายแบบนี้"ตอนนั้น ฉันก็คิดเหมือนกันตอนที่ฉันรู้ว่าลู่สือเยี่ยนแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเวลา 20 ปี ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีมากแต่เมื่อฉันรู้ว่าเป็นฉัน ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากกว่าเป็นหนี้บุญคุณ....ยากที่จะตอบแทนในช่วงเวลาที่ฉันเงียบๆ เจียงไหลนอนลงบนโต๊ะ เขย่าต่างหูของฉันด้วยนิ้วของเธอ "อาหร่วน ทำไมเธอไม่ลองคบกับลู่สือเยี่ยนดูล่ะ มีผู้ชายที่ทุ่มเทขนาดนี้เพียงไม่กี่คนในสมัยนี้""ก็เพราะว่าเขาดีมาก ฉันจึงต้องระมัดระวังมากขึ้น"ไม่เช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นการเล่นกับอารมณ์ของคนอื่นเมื่อมีคนมอบใจให้ 100% ก็ควรให้ใจกลับไป100% ด้วยถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันก็ควรปล่อยเขาไปเร็วกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้หาคนที่ทำได้เจียงไหลไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ เธอจึงยอมแพ้และพูดว่า "เอาล่ะ คืนนี้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านประจำกันเถอะ"ร้านประจำที่เธอพูดถึงเป็นคลับเฮาส์ที่เธอเคยไปบ่อยๆฉันเดาะลิ้น “มันจะแพงเกินไปไหม?”“ไม่ต้องห่วง ฉันเลี้ยงเอง”"เงินขอเธอหล่นลงมาจากฟ้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 289

    ฉันสับสนมากไม่ใช่เขา แล้วใครส่งมา?การติดต่อครั้งเดียวที่เรามีกับRF กรุ๊ปก็ผ่านเขาเท่านั้น…ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เสียงของเฉินเย่ที่นึกขึ้นได้ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย "ใช่ ๆ ฉันจำได้แล้ว เป็นฉันเอง! จริงๆ แล้ว ฉันขอให้ผู้ช่วยของฉันสั่งให้ แต่เขาอาจจะสั่งผิด ฉันขอให้เขาสั่งตระกร้าดอกไม้ 99 ใบเพื่อบริษัทของคุณประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง"เฉินเย่รู้สึกเสียใจเล็กน้อยและพูดว่า "ตะกร้าดอกไม้ 999 ใบมันมากเกินไปจริงๆ มันทำให้คุณเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า?"“เข้าใจแล้ว…”ฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อมองไปที่ช่อดอกไม้ที่เรียงรายเต็มไปหมดจนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ลิฟต์ไปจนถึงออฟฟิศของเรา “ไม่ใช่ปัญหาจริงๆ… แต่บางทีฉันควรคุยกับร้านดอกไม้เกี่ยวกับการคืนดอกไม้บ้าง? ไม่งั้นมันจะฟุ่มเฟือยเกินไป”“ไม่จำเป็น ฉันไม่สนใจเรื่องค่าใช้จ่าย”เฉินเย่พูดออกไป แล้วกระแอมอีกครั้งแล้วพูดเสริมว่า "ผู้ช่วยของฉัน เขาแค่มาทำงาน เพื่อต้องการเปิดประสบการณ์ชีวิต เขาเป็นคนร่ำรวยมาก และฉันจะหักเงินนี้จากโบนัสของเขา"“…โอเค”ฉันขอบคุณอีกครั้ง แพูดคุยอย่างสุภาพอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายเจียงไหลเอนตัวเข้ามาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เขาให้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 288

    ฉันรู้ดีว่าคงไม่ใช่ฉันหรอก แค่การตอบกลับตามวามเคยชินเขาหรี่ตาอย่างอันตราย แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่อรับ "พวกที่รังแกคุณต้องชดใช้ยังไง"ฉันหัวเราะเบาๆ “แล้วไงต่อ”“ไม่มีแล้วไงต่อ”โจวฟางเม้มปากและเอนหลังพิงพนักพิงศีรษะ ขนตาของเขาปิดบังอารมณ์ทั้งหมดของเขาไว้ "ชื่อคุณอยู่ในสมุดทะเบียนบ้านของตระกูลหร่วน และก่อนที่ชิงหลี่จะจากไป คุณก็เป็นหร่วนหนานจือของตระกูลหร่วนไปแล้ว""แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันเหมือนคุณย่าเลย บางครั้งก็ถูกดึงดูด""......"ฉันเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที และฉันก็เฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวังเขาหัวเราะอย่างไม่เชื่อและกดลิ้นทับฟันกรามของเขา “ทำไมถึงมองแบบนั้น คุณคิดว่าฉันสิ้นหวังขนาดจะยอมคบกับใครก็ได้งั้นเหรอ?”“นั่นพูดยาก”ฉันยิ้มและดึงเสื้อโค้ทให้กระชับขึ้นโดยตั้งใจ หวังว่าจะช่วยคลายความตึงเครียดในรถได้เขาหาวและพูดออกมาสองคำอย่างไม่ใส่ใจว่า “เด็กน้อยจัง”จากนั้น เขาก็หยิบผ้าปิดตาออกมาจากที่ไหนสักแห่งโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และหลับไปอย่างสงบ……วันรุ่งขึ้นเป็นวันเปิดตัวหนานซีอย่างเป็นทางการพนักงานใหม่หลายคนมาแต่เช้า เต็มไปด้วยพลังงาน ทำให้บรรยากาศของบริษัทดีขึ้นท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status