Share

บทที่ 52

Penulis: เล่อเอิน
ถูกหลอกให้ดื่มก็แค่พูดให้ดูดี

ที่จริงแล้วคือถูกวางยา เป็นยาอันตรายทำให้รู้สึกทรมานเจียนตาย

ด้วยนิสัยเป็นคนตัดสินใจเด็ดขาดของฟู่ฉีชวนในด้านธุรกิจ พอพรุ่งนี้เขาฟื้นขึ้นมา อีกฝ่ายก็คงจะจบไม่สวย

แต่ว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลากังวลเรื่องนั้น

พอเห็นใบหน้าแดงก่ำผิดปกติของฟู่ฉีชวน ฉันก็กังวลว่าเขาจะไม่รอดคืนนี้

ขณะตกที่นั่งลำบาก มือถือบนโซฟาก็ดังขึ้น พอเห็นว่าใครโทรมา ฉันก็เหมือนได้เจอทางสว่าง รีบรับโทรศัพท์ทันที

"สุดที่รัก ฉันหาบัตรได้แล้ว เฮ่อถิงเขามีบัตร..."

"ไหลไหล!"

ฉันขัดจังหวะเธอพูดในทันที "เธอรู้ไหมว่าหากทานยานั้นเข้าไปต้องทำยังไง?"

"ยานั้น?"

"ยาไหน?"

"ก็ยา ยาปลุกเซ็กส์ไง...."

ฉันกัดฟันพูดอย่างลำบาก

เจียงไหลคงกำลังดื่มเหล้าและสำลักจนไอหลายครั้ง เธอรีบตอบ "แค่กๆ ทำไมจู่ๆ ถามแบบนี้ หรือว่าเธอ...แค่กๆๆๆ เธอ..."

"ไม่ใช่อย่างนั้น"

ฉันนึกถึงชายบนโซฟาซึ่งร้อนไปทั้งตัว เลยไม่คิดอะไรมากและพูดไปตรงๆ "คือฟู่ฉีชวน"

"...เขาตอนนี้อยู่ไหน?"

"ห้องรับแขก"

"แล้วเธออยู่ไหน?"

"อยู่ในห้อง"

ฉันถูกเธอถามจนจับต้นชนปลายไม่ถูก "เธอบอกฉันก่อนว่าต้องทำยังไง"

"รีบล็อคห้องของเธอ"

"เอ๋?"

"รีบไปล็อคสิ
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 53

    แต่พวกเราอย่ากันแล้วฉันอยากผลักเขาออกไปแต่ไม่มีแรง จนฉันอยากร้องไห้ "อย่านะ ฟู่ฉีชวน อย่าทำฉัน!""อย่าร้องสิ...ไม่อยากได้จริงๆ หรอ?" ลูกกระเดือกขยับขณะกล่าว ดวงตาสองข้างแดงก่ำ เหลือบมองฉันอย่างลึกซึ้ง เห็นได้ฃัดว่าพยายามโน้มน้าว"อืม...""งั้นก็ได้"เขาหลับตาลง ตรงขมับปูดขึ้นมาชัดเจน เขาหายใจหอบแรง ทว่ากลับค่อยๆ คลายกอดออกฉันกำมือเบาๆ "งั้น คุณ...""หนานจือครับ"เขาจู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา เขายังคงมีความใคร่ อีกทั้งยังมากยิ่งขึ้น เขาคว้าฉันเข้ามากอด ริบฝีปากไซร้ตรงข้างใบหู "ช่วยผม ได้ไหม?"อาจเพราะความคิดกระเจิดกระเจิง ฉันกลับเข้าใจว่าประโยคนั้นหมายความว่าขอให้ช่วยเหลือเขาฉันใจเต้นโครมคราม "ให้ช่วย ยังไงคะ?"พอฉันถามออกไป ชายคนนี้ก็คิดว่าฉันอนุญาต เขาโน้มตัวช้อนมือไว้ใต้เข่าอุ้มฉันขึ้นมาจู่ๆ ถูกอุ้มจนตัวลอย ฉันก็กอดคอเขาเหมือนเป็นสัญชาตญาณ กลายเป็นว่าอยู่ในท่าที่น่าอายมากเขาก้าวเพียงสองก้าวก็มาถึงโซฟาในห้องนอนนั่งลง ขาสองข้างคร่อมตรงเอวของเขาฉันรู้สึกร้อนมากจนต้องหดเท้ากลับเขาเหลือบลงมามองฉันอย่างกระหายพร้อมกับเสียงแหบพร่า "คุณทำกางเกงผมแฉะหมดแล้ว"ฉันอึ้งไปครู่หนึ่ง จ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 54

    เรื่องนี้ ฉันลืมไปเสียสนิทเลยไม่คิดว่าเขาจะยังจำได้ฉันใช้ผ้าขนหนูซับใบหน้า "ไม่ต้องหรอก ฉันไม่เป็นไร"เขาขมวดคิ้ว "เมื่อคืนคุณไม่สบายไม่ใช่หรอ?""..."ฉันคงบอกหมอไม่ได้ ทั้งๆ ที่หมอกำชับแล้วว่าช่วงท้องสามเดือนแรกห้ามมีอะไรกันเลยตอบบ่ายเบี่ยง "ตอนนี้หายดีแล้ว"เขาสงสัย "จริงเหรอ?"ถ้าไปหาหมอ ฉันต้องไปโรงพยาบาลเอกชนของตระกูลฟู่แน่นอน บริการด้วยช่องทางพิเศษไม่ต้องรอคิว รายงานผลตรวจก็ออกไวแต่ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็จะไม่สามารถปกปิดเรื่องท้องได้ไม่ว่าไงฉันก็จะไม่ไปฉันหลบสายตาเขา "ไม่อยากไป ไม่ชอบไปโรงพยาบาล""หนานจือ"ฟู่ฉีชวนหรี่ตาลง "คุณไม่ได้ปิดบังอะไรผมใช่ไหม?""ตุบ!"เขาจู่ๆ ก็ถามขึ้นมา ฉันใจหายจนขวดครีมบำรุงผิวในมือหล่นกระทบพื้นกระเบื้องหิน ตกใจจนหัวใจเกือบหยุดเต้นท่าทางร้อนตัวเห็นชัดมากเขาเดินเข้ามาพยุงตัวฉัน ดวงสีดำราวกับมองทะลุทุกอย่าง "คุณมีเรื่องปิดบังผมจริงๆ สินะ?""ฟู่ฉีชวน..."เขาสงสัยพร้อมกับมุ่ยปาก "คุณ...ไม่สบายใช่ไหม?"ฉันถอนหายใจยาว "ใช่ ดังนั้นพวกเราควรรีบหย่า ต่างคนจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลา""ไม่มีทาง!"เขาจู่ๆ ก็ขึ้นเสียงใส่ เขาสั่นจนยากจะสังเก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 55

    สายตาของเขาลึกล้ำ "เป็นเหตุผลอื่นไม่ได้รึไง?""อย่างเช่น?"ฉันไม่ปฏิเสธว่ากำลังหยั่งเชิงเขาเขาเม้มริมฝรปากเล็กน้อย "ผมแค่หวังให้คุณมีสุขภาพดี""...เหมือนกับอวยพรผู้ใหญ่คนแก่ในบ้านเลย"จู่ๆ ความคิดก้ผุดขึ้นมา ทันใดนั้น ฉันก็หัวเราะ "คุรเก็บเอาไว้อวยพรวันเกิดให้ท่านปู่เดือนหน้าเถอะ"หวังให้ฉันสุขภาพดีสู้หวังให้ครองรักกับฟู่จินอันตลอดไปดีกว่าไหม?พยาบาลมาเจาะเลือดให้ฉัน ตอนเช็ดฆ่าเชื้อที่แขน ฉันก็เผลอหดแขน จนเกร็งไปทั้งตัวกลัวกลัวมาตั้งแต่เด็กตอนป่วยสมัยเด็กพ่อจะกอดฉันไว้ แม่จะจับมือฉันอีกข้าง คอยปลอมฉันทั้งตอนฉีดยาหรือเจาะเลือดบางครั้งก็มีรางวัลให้ด้วยต่อมาช่วงสิบปีมานี้ สุขภาพแข็งแรง ไข้หวัดทั่วไปแค่อดทนก็หาย ส่วนไข้หวัดใหญ่ก็แค่ซื้อยามากิน น้อยครั้งจะต้องเจาะเลือดดังนั้นความกลัวตอนเจาะเลือด จึงไม่ลดลงไปแม้แต่น้อยแต่ว่า ต่อให้กลัวแค่ไหน ตอนนี้ฉันก็โตแล้ว พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้ว"ไม่ต้องกลัว"ทันใดนั้น มือใหญ่หยาบกร้านอันอบอุ่นก็จับมือฉันไว้อีกข้าง หัวแม่มือเขาลูบหลังมือฉันอย่างค่อยๆ พร้อมกับพูดปลอบ "ผมอยู่เป็นเพื่อน""คุณอยู่เป็นเพื่อน แต่คนเจ็บก็เป็นฉันอยู่ดี""

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 56

    ขณะครุ่นคิด ก็นึกถึงครั้งสมัยก่อนตอนนั้นฉันกับฟู่ฉีชวนเพิ่งแต่งงานกันได้ครึ่งปี ประจำเดือนมาช้าไป 10 วัน ทุกครั้งเขาจะป้องกัน แต่ก็ยังแคลงใจว่าตัวเองท้องหรือเปล่าตอนซื้อชุดตรวจครรภ์ ฉันถึงขนาดอดคิดไม่ได้ว่าจะบอกเขาเรื่องตัวเองท้องยังไงตอนนี้ตั้งท้องขึ้นมาจริงๆ พอนึกถึงฟู่ฉีชวนซึ่งห่างแค่ประตูกั้นฉันกลับไม่มีอารมณ์ตื่นเต้นหรือดีใจมีแต่แค่ความกังวลหวาดกลัว รวมถึงความกระวนกระวายใจไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้นผลลัพธ์เลวร้ายที่สุด คือต้องเสียเด็กคนนี้ไปพอนึกถึงตรงนี้ ฉันก็รู้เย็บวาบที่หลังระยะเวลาสั้นๆ แค่ 2 ปี ไม่มีอะไรเหมือนเดิม ไม่มีใครไม่เปลี่ยนไป เหมือนข้ามยุคผ่านกาลเวลาสมัยขาสองข้างของฉันเหมือนหลอมด้วยตะกั่ว เดินมาถึงประตูด้วยอารมณ์ซับซ้อน ทว่าข้างนอกกลับไม่มีแม้แต่เงาของฟู่ฉีชวนเขาไปไหน?เหลือเพียงกระเป๋าสะพายของฉัน ถูกทิ้งไว้ตรงเก้าอี้เหล็กหน้าประตูใบเดียวเขา...ไปแล้ว?ฉันควานหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า ข้อความไลน์ปรากฎบนหน้าจอ"ผมบังเอิญมีธุระด่วน รายงานผลตรวจออกแล้ว ฉินเจ๋อจะเอาไปให้ผมที่บ้านเอง ผมคืนนี้กลับดึกหน่อย เป็นเด็กดีรอผมอยู่บ้านล่ะ"……ฉันถอนหายใจโล่งอก เดิ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 57

    เพื่อลูกและเพื่อตัวเองเจียงไหลหยุดโน้มน้าวฉัน เธอแค่ถาม "คิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาแล้วใช่ไหม?""อืม ฉันคิดแล้ว"หากสถานการณ์อยู่นอกเหนือการคาดเดา ฉันจะหายตัวไปอย่างสมบูรณ์เพื่อตัดความเป็นไปได้ที่อาจจะเสียลูกไปพอตัดสินใจได้แล้ว ฉันก็ไม่มีกะใจจะกลับบ้านไปทำกับข้าว หาบะหมี่เนื้อตรงร้านเล็กๆ ใต้คอนโดทาน แล้วค่อยกลับห้องซุกตัวอยู่บนโซฟาขณะรอฟู่ฉีชวนกลับบ้านก็ถือสมุดโน๊ตเล่มหนึ่งเขียนงานรอจนกระทั่งถึงบ่าย ตรงประตูยังคงไร้วี่แววการเคลื่อนไหวฉันทนรอไม่ไหวเลยส่งข้อความไปหาฟู่ฉีชวน "ใกล้กลับมารึยัง?"รอมาตั้งครึ่งวัน แต่ไม่ได้ข้อความตอบกลับเลยเรื่องด่วนอะไรขนาดนั้น ในสายก็ไม่เห็นเจียงไหลบอกว่าบริษัทมีธุระอะไรฤดูใบไม้ร่วงกลางวันสั้นกลางคืนยาว ประมาน 5 โมงอาทิตย์ก็เริ่มตกแล้วแสงอาทิตย์ตกสีส้มเข้มส่องเข้ามา ลมฤดูใบไม้ร่วงนอกหน้าต่างเย็นเฉียบ ในใจฉันจู่ๆ ก็เหงาอ้างว้างขึ้นมา การกระทำเร็วกว่าความคิดกว่าจะรู้สึกตัว ฉันก็หยิบมือถือขึ้นมาแล้วฉันเกลียดการรอคอยแบบนี้ รู้สึกเหมือนถูกปล่อยลอยเคว้งกลางอากาศขณะกำลังจะโทรหาฟู่ฉีชวน ฉินเจ๋อก็โทรมาพอดีพร้อมกล่าวอย่างละอายใจ "นายหญิง ขอโท

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 58

    ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน พยาบาลคนหนึ่งในห้องฉุกเฉินก็ออกมาเรียกชื่อ"ฟู่จินอัน สามีคุณฟู่จินอันอยู่ไหมคะ?"ฟู่ฉีชวนสาวเทาก้าวใหญ่เดินเข้าไปหา "หมอ! ผมอยู่นี่"คำง่ายๆ สี่พยางค์ ราวกับกริชบาดเฉือนลงไปในใจฉัน เลือดสดรินไหล ปวดร้าวจนไม่อาจสูดหายใจฉันเฝ้ารอเขามาทั้งวัน ไม่ง่ายเลยกว่าจะตัดสินใจได้ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องตลกฉันยืนอยู่ตรงนั้น กลับยิ่งเหมือนตัวตลกยังไม่ทันทำเรื่องหย่าสามีฉันกลายเป็นสามีของคนอื่นต่อหน้าต่อตาห่างไม่ไกลนัก เขารลนลานรีบถาม "เธอเป็นยังไงบ้างครับ สาหัสไหม?""เสียเลือดตั้งมากขนาดนั้น คุณว่าไงล่ะ? แต่ว่ายังดีคุณมาส่งทันเวลา ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว"พยาบาลพูดจบ กลัวว่าเขาจะไม่สบายใจเลยพูดต่อ "เด็กก็ปลอดภัย"เด็ก?ฟู่จินอันท้องงั้นเหรอ?พวกเขามีลูกกันแล้ว?ฉันแทบลืมหายใจ มองฟู่ฉีชวนอย่างลังเลเห็นเพียงเขาถอนหายใจ สีหน้าในที่สุดก็ไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้น "โล่งอกไปที"บางทีฉันอาจจ้องเขามากเกินไป หรืออาจเพราะเขาเบาใจจนสัมผัสได้ถึงสายตาของฉัน พอสิ้นเสียงพูด เขาก็หันหน้ามองมาทางฉันในขณะเดียวกัน ฉันก็หันหลังเดินหายเข้าไปในทางหนีไฟฉันทรุดตัวพิงกับกำแพง ในหัวปร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 59

    เขาสวมชุดสูทรสีขาวครีม เสริมให้ดูสง่ามากขึ้น ดูสุภาพเรียบร้อยเขายิ้มหัวเราะเบาๆ "เพื่อนผมต้องแอดมิท ผมเลยมาเยี่ยม""อ้อ ค่ะ""คุณล่ะ ทำไมมาโรงพยาบาลคนเดียว?"ฉันยกรายงานผลตรวจให้เขาดู "ฉันมาเอาผลตรวจสุขภาพ"ลู่สือเยี่ยนสีหน้าเคร่งครึม "ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ?""ไม่มีค่ะ"ฉันก่อนหน้านี้ตรวจสุขภาพของบริษัทมาแล้ว ครั้งนี้ก็เหมือนครั้งก่อน ผลตรวจแต่ละรายการอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเว้นเสียแต่ในท้องมีเด็กเพิ่มมาอีกคนลู่สือเยี่ยนพยักหน้า "ทานข้าวรึยังครับ ไปทานข้าวด้วยกันมั๊ย?""เฮ่อถิงกับเจียงไหลก็มาด้วยเหมือนกัน"อาจเพราะกลัวฉันปฏิเสธ เขาเลยกล่าวเสริมฉันลูบไปที่ท้อง จริงๆ ก็หิวอยู่เล็กน้อย "ได้ค่ะ"กลับบ้านไปคนเดียวก็ไม่รู้จะกินอะไรอยู่กับหลายคนก็จะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านด้วยลู่สือเยี่ยนเอารถให้ผู้ช่วยขับกลับไป จากนั้นก็นั่งรถฉันไปยังร้านอาหารที่พวกเขาจองไว้เป็นร้านซุปแกะเก่าแก่ต้นตำรับภายในร้านดูบ้านๆ ตั้งอยู่ตรงหัวมุมภายในซอย แต่กลับขายดีเทน้ำเทท่ารถจอดตรงปากซอยจำนวนไม่น้อย ทำเอารถติดมากเราได้แต่เอารถจอดข้างนอกและเดินเข้ามา เจียงไหลและเฮ่อถิงมาถึงก่อนแล้วพอเห็นฉัน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 60

    อาหารมื้อนี้ ฉันไม่รู้รสของอาหารเลยพอกลับถึงบ้าน ฉันนอนกระสับกระส่ายตลอดทั้งคืน เหมือนกับว่าหลับไปแล้ว ก็ตื่นขึ้นมาอีกวันต่อมา ฉันนอนถึงเที่ยงกว่าจะตื่น ตอนเดินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยหลังจากค้นตู้เย็น ฉันก็ทำมะเขือยาวผัดกระเทียมใส่พริกกับเต้าหู้ผัดกุ้ง ทานพร้อมกับข้าวสวยถ้วยหนึ่ง ทานเสร็จค่อยรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาบ้างคอนเสิร์ตเริ่มตอนเย็น ตอนนี้ยังมีเวลาเหลือเฟือ แทนที่จะดิ่งอยู่กับอารมณ์ด้านลบ ฉันเลยเลือกเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานอย่างแรกฉันจะเช็คโซเชียลเป็นกิจวัตรพอเห็นแอคเคาท์ทางการของ MS โพสต์ข้อความ ฉันก็อดตกใจไม่ได้ขณะกำลังเปิดอ่านรายละเอียด สายของเจียงไหลก้เด้งขึ้นมา "เพื่อนรัก เธอเป็นไงบ้าง?"ฉันไม่อยากให้เธอกังวล "สบายดี""ฟู่ฉีชวนกลับบ้านมารึยัง?"ฉันเงียบ "ยังไม่กลับ""งั้นไม่ต้องพูดถึงเขา ผู้ชายเฮงซวย"เจียงไหลเปลี่ยนเรื่องคุย "ฉันโทรมามีเรื่องอยากบอก เธอรู้ข่าว MS ประกาศสร้างแบรนด์ร่วมกันรึยัง?""ฉันเห็นข่าวแล้ว"คอลเลคชั่นคอลแลป เป็นการตกลงร่วมระหว่างแบรนด์ แค่เซ็นสัญญาก็ไม่มีอะไรแล้วคอลเลคชั่นคอลแลปคริสต์มาสต์ของ MS ครั้งนี้ เตรียมดำเนินในรูปแบบข

Bab terbaru

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 308

    เขาจะต้องรับผลที่ตามมาจากการทำอะไรที่ไร้เหตุผลตระกูลเสิ่นเป็นคนจัดการยากเกินไป ฉันไม่อยากลากเขาลงไปในน้ำโคลนด้วยกันเขาหยุดคิดสักครู่แล้วพูดว่า "ดีแล้ว"น้ำเสียงของเธอยังคงอบอุ่นเช่นเคย แต่ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ผิดหวังปนอยู่ก่อนจะวางสาย ผู้หญิงที่ดูเป็รผู้ใหญ่แลมีสติปัญญา ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าออฟฟิศของฉันทันทีฉันเกร็งตัวและพยักหน้าให้เธอเป็นการทักทาย ขณะที่เสียงของลู่สือเยี่ยนยังคงดังผ่านโทรศัพท์ “หนานจือ สักวันหนึ่งฉันจะปกป้องคุณอย่างดี”ฟังดูเหมือนคำสาบาน เหมือนคำสัญญาจริงใจถึงขั้นไร้สาระ ราวกับว่าเขาพร้อมที่จะควักหัวใจของเขาออกมาและเปิดเผยมันให้ฉันรู้ถ้าไม่มีผู้หญิงตรงหน้าฉัน ฉันกลัวว่าหัวใจของฉันจะเต้นแรงในตอนนี้แต่ในชีวิตนี้ไม่มีคำว่า ถ้าหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ฉันก็ตอบเบาๆ ว่า "รุ่นพี่ ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นทีละน้อย สักวันหนึ่งจะไม่มีใครรังแกฉันได้อีก"ดูเหมือนเขาจะรับรู้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูดของฉัน "หนานจือ..."อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่อยู่หน้าประตู ดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะรออีกต่อไปและผลักประตูเปิดเพื่อเข้าไปฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขัดจังหวะ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 307

    วันรุ่งขึ้น ดวงอาทิตย์ขึ้นตามปกติ ข่าวลือและข่าวซุบซิบก็ยังคงแพร่สะพัดไปทั่วอินเทอร์เน็ตแม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ในบริษัทก็มองมาที่ฉันด้วยความอยากรู้เล็กน้อยเมื่อคืนนี้ เจียงไหลไปที่บ้านของฉัน คืนกระเป๋าและโทรศัพท์ให้ฉัน พร้อมตำหนิตัวเองอีกครั้งเธอไปแจ้งความโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อคนอื่นได้ยินว่าเป็นตระกูลเสิ่น พวกเขาก็เลี่ยงที่จะรับแจ้งความทันที พูดง่ายๆ ก็คือ หากไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรม ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เธอยอมรับว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกถึงความได้เปรียบของอำนาจและความรู้สึกหมดหนทางของการเป็นคนธรรมดาเธอยังล้อเล่นด้วยว่า ถ้าเธอรู้มาก่อน เธอคงไม่ยืนกรานที่จะเลิกกับเฮ่อถิง แม้ว่าจะหมายถึงการเป็นเมียน้อย แต่เมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน เธอก็จะไม่เหลือใครให้หันไปขอความช่วยเหลือโง่จนกู่ไม่กลับในขณะนั้น เธอเดินเข้าไปในออฟฟิศพร้อมกับกาแฟสองแก้ว วางแก้วหนึ่งไว้ตรงหน้าฉัน และดึงเก้าอี้ตรงข้ามฉันให้นั่งลงสีหน้าของเธอแทบจะเหมือนเดิมกับเมื่อคืนนี้ขณะที่ฉันกำลังร่างแบบสำหรับคุณย่าโจว ฉันถามด้วยความสงสัย "เกิดอะไรขึ้น ใครทำให้เธออารมณ์เสีย"เธอลังเลก่อนจะพูดประโยคเดียวออกมา

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 306

    ยังไม่ได้หลับฉันเม้มริมฝีปากและพูดอย่างจริงจัง "ฉันขอโทษจริงๆ ที่ทำกระปุกออมสินของคุณแตกในวันนั้น"เมื่อฉันพูดถึงเรื่องนี้ เขากระชากผ้าปิดตาลงด้วยความหงุดหงิด ดวงตาที่ดูอ่อนล้าสะท้อนความไม่พอใจออกมา "หร่วนหนานจือ คุณมักจะถูกคนอื่นรังแกจากข้างนอกเท่านั้น แต่พอมาอยู่กับฉันกลับรู้ดีนักว่า รู้วิธีทำให้ฉันทุกข์ใจได้ดีเชียวนะ.....""ไม่ใช่"ฉันรีบขัดจังหวะและหยิบกระต่ายน้อย ที่ช่างเซรามิกทำขึ้นออกมา พยายามสงบอารมณ์ของเขา "นี่...นี่เป็นกระต่ายที่ฉันให้ช่างทำตามแบบกระต่ายตัวนั้น มันค่อนข้างจะใกล้เคียงกับของจริง ฉันหวังว่ามันจะชดเชยความซุ่มซ่ามของฉันในวันนั้นได้"ในทางอารมณ์และตรรกะ ฉันไม่ควรแตะกระปุกออมสินของเขาเลยตอนนั้นฉันแค่รู้สึกว่าถูกบังคับอย่างอธิบายไม่ถูก จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงเอื้อมมือไปแตะข้าวของส่วนตัวของคนอื่นฉันใช้เวลาสองสามวัน ที่ผ่านมาแอบไปที่สตูดิโอปั้นเซรามิกเพื่อพยายามปั้นของที่เหมือนกันเพื่อมาแทนที่ แต่ฝีมือของฉันยังไม่ดีพอ และของที่ฉันปั้นก็ยังไม่น่าประทับใจเลยสุดท้าย ฉันก็ต้องขอความช่วยเหลือจากช่างปั้นเซรามิกโจวฟางตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาจ้องไป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 305

    คำถามสองข้อนั้น ค่อนข้างจะเฉียบแหลมแต่โจวฟางไม่แสดงท่าทีอึดอัดแม้แต่น้อย เขาใช้มือโบกมือเรียก “เข้ามาใกล้ๆ แล้วฉันจะบอกคุณ”ฉันเอนตัวไปเล็กน้อย เป็นเชิงสัญลักษณ์แล้วพูดว่า "พูดมา"พื้นที่ภายในรถกว้างขวางมากและไม่มีใครนอกจากคนขับ ทำไมถึงทำให้มันดูลึกลับขนาดนั้นเขายังเอนตัวไปด้านข้างนี้อีกสองสามเซนติเมตร พร้อมกับยิ้มในดวงตาและตีเขาอย่างสุดแรง: “ฉันทนคนที่โง่เกินไปไม่ได้จริงๆ”"......"ฉันนั่งตัวตรงและจ้องมองเขา “แล้วฉันควรจะขอบคุณคุณที่ทำให้ฉันรู้แจ้งหรือเปล่า”"ฉันไม่ถือสา"เขายิ้มอย่างสุภาพดูเย่อหยิ่งและน่ารำคาญเสมอถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถละเลยความจริงที่ว่าเขาช่วยฉันไว้ได้ ฉันมองต่ำลงเล็กน้อยและพูดว่า "ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อกี้"นิ้วเรียวยาวของเขาเคาะเบาๆ ที่เฟรมหน้าต่าง "ถ้าฉันไม่โผล่มา พวกเขาคงปล่อยคุณไปอยู่ดี""แต่ไม่ใช่ก่อนที่จะทำให้คุณทรมานมากกว่านี้อีกหน่อย"แม่ลูกตระกูลเสิ่น คงจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเรื่องอื้อฉาวทางออนไลน์เกิดขึ้น คุณนายเสิ่นคงระบายความโกรธทั้งหมดของเธอมาที่ฉันฉันระบายเสร็จแล้ว และฉันก็คงเกือบตายไปแล้ว"พวกเขาคงไม่กล้า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 304

    "ยังไหวอยู่"ฉันหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผม หลังจากที่ร่างกายเย็นๆ ของฉันฟื้นตัวเต็มที่แล้ว ฉันมองไปที่โจวฟางแล้วถามว่า "มีอะไรผิดปกติทางออนไลน์หรือเปล่า?"เขาโต้กลับว่า "นั่นไม่ใช่ฝีมือของคุณเหรอ?'"ว่ายังไงนะ?"ฉันถามคำถามนั้นอีกครั้งด้วยความสับสนเขาจ้องมาที่ฉันสักครู่ ยกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า "โอเค ฉันประเมินคุณสูงเกินไป"หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้ ดูเอง“รหัสผ่าน?”“วันเกิดของคุณ”"?"ฉันตกตะลึงไปชั่วขณะเขาเงยหน้าขึ้นเบาๆ แล้วพูดว่า "คุณกำลังเพ้อฝันอะไรอยู่ วันเกิดของคุณเหมือนกับของเธอคนนั้น"“…โอ้ คราวหน้าก็พูดให้ชัดเจนหน่อยสิ”ฉันกลัวมากจนประมวลผลไม่ทันหลังจากปลดล็อกแล้ว ฉันก็พบเรื่องที่แม่เสิ่นถามถึงอย่างรวดเร็วเสิ่นซิงหยูถูกเปิดโปงทางออนไลน์ว่า เป็นเมียน้อยที่ใช้กลวิธีแอบแฝงเพื่อบังคับให้เมียหลวงยอมหย่า และวันนี้ เธอถูกกล่าวหาว่าวางแผนลักพาตัวเมียหลวงมีคนปล่อยวิดีโอจากที่จอดรถใต้ดินของโรงแรมเมืองเจียงเฉิงออกมาด้วย เป็นวิดีโอที่มีคนลักพาตัวฉันไป วิดีโอนี้ควรจะถูกลบโดยตระกูลเสิ่นไปแล้วความคิดเห็นของสาธารณชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเธอแต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 303

    ฉันไม่ได้ยินเสียงของเธอแต่เธอพูดช้ามากจนฉันอ่านริมฝีปากของเธอได้ก่อนที่ฉันจะละสายตาไป ก็มีร่างหนึ่งรีบเดินผ่านฉันไปเป็นพ่อเสิ่นไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงของบางสิ่งที่แตกกระจายก็ดังก้องมาจากห้องนั่งเล่นเสียงการโต้เถียงแผ่วเบาตามมาฉันได้ยินชื่อของตัวเอง ฉันยังได้ยินชื่อของฟู่ฉีชวนด้วยและข่าวลือบางอย่างบนอินเทอร์เน็ตในที่สุด เสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้นจากปากของพ่อเสิ่น "เธอเอาแต่ใจและดื้อรั้น แล้วคุณก็ยังยืนกรานที่จะตามใจเธอต่อไปงั้นเหรอ ปล่อยให้เธอคุกเข่าอยู่ข้างนอกต่อไปในวันที่หิมะตกและปล่อยข่าวลือให้คนอื่นได้ยิน...."ทันใดนั้น หิมะก็หยุดตกฉันตอบสนองชั่วครู่ก่อนจะรู้สึกถึงเงาที่ปกคลุมศีรษะของฉันเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ฉันเห็นร่มสีดำสนิทและดวงตาสีน้ำตาลไร้ก้นบึ้งของโจวฟาง!เขายังคงนิ่งเฉยและยื่นร่มให้ฉัน "คุณถือมันได้ไหม?"ฉันถูมือที่แข็งเล็กน้อยด้วยคำพูดว่า "พอได้..."ก่อนที่ฉันจะพูดจบ ด้ามร่มก็ถูกยัดเข้าไปในมือของฉันวินาทีต่อมา ชายในแจ็คเก็ตหนังสีดำคุกเข่าข้างหนึ่งบนพื้นดินที่เป็นน้ำแข็ง และอุ้มฉันขึ้นมาในอ้อมแขนอย่างเงียบๆ จากนั้นเขาจึงยืนขึ้นและเริ่มเดินก้าวเด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 302

    ใบหน้าของเสิ่นซิงหยูแข็งขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเยาะเย็นช "ฉันตัดมันเอง แล้วไง?"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉันก็หมดความสนใจที่จะยุ่งเกี่ยวต่อไปและมองไปที่แม่เสิ่นเท่านั้น "คุณนายเสิ่น ฉันคงไปได้แล้วสินะ?"ฉันคิดว่า เธอแค่ระบายความโกรธที่มีต่อลูกสาวของเธอตอนนี้ความจริงก็ชัดเจนแล้วว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันเลยโดยไม่คาดคิด เธอจึงหยิกใบหน้าของเสิ่นซิงหยูด้วยความรักใคร่และพูดว่า "ลูกบ้าไปแล้วหรือ? ลูกไปเอาความบริสุทธิ์ของลูกไปเสี่ยงเพื่อใส่ร้ายเธอหรือไง?"เสิ่นซิงหยู่ทำปากยื่นและพูดเล่น "แม่ หนูผิดไปแล้ว! แต่เธอดื้อมาก หนูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้วิธีนี้""พอได้แล้ว"แม่เสิ่นพูดอย่างเอาใจ “ขึ้นไปชั้นบนเถอะ แม่จะจัดการเรื่องนี้ให้เอง”น้ำเสียงของเธออ่อนโยน ไม่มีวี่แววของการตำหนิใดๆเธออาจเป็นแม่ ที่ตามใจลูกมากที่สุดในวันนี้เสิ่นซิงหยูยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า "แม่ แม่รักหนูที่สุดเลย!"หลังจากพูดจบ เธอก็เดินขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว และแม่เสิ่นก็มองดูร่างของเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของเธอหลังจากร่างของเธอหายไป แม่เสิ่นก็ค่อยๆ ถอนสายตาออกและมองมาที่ฉันอย่างเย็นชา ราวกับว่ากำลั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 301

    ณ ห้องนั่งเล่นของบ้านเสิ่นไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่หิมะเริ่มตกโปรยจากนอกหน้าต่างบานใหญ่ พัดนวนไปมาแล้วตกลงเป็นชิ้นๆหิมะสีขาวบางๆ ตกลงมากองอยู่ที่พื้นแล้วห้องนั้นอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อน แต่เมื่อฉันสบตากับแม่เสิ่นที่เย็นชา ฉันรู้สึกหนาวไปทั้งตัวพวกเธอได้ตรวจสอบฉันพวกเขายังตรวจทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนมาที่เมืองเจียงเฉิงด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ฉันถูกขังไว้ในห้องเก็บของและตัดไฟโดยตั้งใจเพื่อจัดการกับอดีตภรรยาอย่างฉัน พวกเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่แม่เสิ่นจิบชาและมองมาที่ฉันอย่างดูถูก "เธออยากพิจารณาการออกจากเมืองเจียงเฉิงอีกครั้งไหม?"ฉันนั่งตัวตรงและถามว่า "แล้วครั้งนี้ เหตุผลคืออะไร?"คราวที่แล้ว เป็นการบังคับและติดสินบนคราวนี้เหตุผลอะไรอีก"หลังจากเริ่มทำธุรกิจ เสื้อผ้าชุกแรกที่เธอออกแบบมา ก็เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น"แม่เสิ่นเม้มริมฝีปากเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ยเยาะเย้ย "เธอคิดว่าบริษัทของเธอจะยังอยู่รอดได้ไหม ทำไมไม่ไปต่างประเทศล่ะ? ใช้เวลาสองสามปีเพื่อเรียนรู้อะไรดีๆ ฉันจะออกค่าใช้จ่ายให้เธอเอง"ฉันกำมือแน่นวันนั้นที่บ้านของตระกูลเสิ่น ฟู่ฉี่ชวนก็พูดแบบเดียวกันฃต้องการส่งฉัน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 300

    เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นฉันเย็บชุดด้วยตะเข็บที่เรียบและแน่น และชุดทั้งหมดก็ตัดเย็บให้เข้ากับรูปร่างของเธออย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าสายรัดจะขาด มันก็จะติดอยู่ในอกของเธอชั่วคราวและไม่หลุดออกทันทีเว้นแต่ว่าซิปด้านหลังจะขาดในเวลาเดียวกันแต่เป็นไปไม่ได้ซัพพลายเออร์ของผ้าและซิปได้ร่วมมือกับแซ่ฟู่กรุ๊ปตั้งแต่นั้นมา และคุณภาพก็เป็นไปตามมาตรฐานอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าเป็นงานแฮนด์เมดของฉันฉันคว้าเสื้อโค้ทของฉัน ลุกขึ้น และวิ่งขึ้นไปบนเวที เมื่อฉันพยายามช่วยเธอคลุม เธอก็คลั่งและตบหน้าฉัน!"เธอตั้งใจเทำให้ฉันรู้สึกอายในวันนี้เหรอ?"ฉันยกมือปิดหน้าที่แสบร้อนตามสัญชาตญาณ ก่อนจะตบกลับไป"เสิ่นซิงหยู นยังไม่ถึงขนาดบ้าคลั่งพอที่จะทำลายชื่อเสียงตัวเอง!"เสิ่นซิงหยู่จ้องมองมาด้วยตาที่เบิกกว้างจากความโกรธ เพร้อมจะพุ่งเข้าหาฉัน แต่ก่อนที่เธอจะเข้าใกล้ได้ ฟู่ฉีชวนก็ปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ สีหน้าของเขาเย็นชา ขณะที่เขาดึงเธอไว้ข้างหลัง ถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกเพื่อคลุมเธอแสดงท่าทางเหมือนผู้ชายที่พร้อมปกป้องภรรยาแม่เสิ่นมาพร้อมกับบอดี้การ์ดสองคน หน้าอกของเธอขึ้นลงด้วยความโกรธ "จับเธอไว้ใ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status