แชร์

บทที่ 168

ผู้เขียน: เล่อเอิน
วันที่คุณปู่เสียชีวิตท่านเคยบอกเอาไว้ว่า ยังไงสักวันนึงฟู่ฉีชวนก็จะต้องรู้ ปิดเขาไม่ได้ทั้งชีวิต

ถ้าอย่างนั้นก็ให้รู้ซะวันนี้ไปเลยดีกว่า

เขาจะได้ไม่ต้องถูกสองแม่ลูกนี่หลอกต่อไป

เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้ฉันรับมือไม่ทัน ก็คือที่ปลายสาย ลุงเฉิงพูดขึ้นมาราวกับไม่เข้าใจ "นายหญิง คุณไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหนครับ?"

……

ฉันเกือบจะทรุด เวลานี้สัมผัสได้ถึงสายตาอันเย็นชาอย่างสุดขีดของฟู่ฉีชวนแล้ว!

"ก็คุณปู่เป็นคนบอกไงคะ"

จนฉันชักเริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองจำอะไรผิดไปหรือเปล่า แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็แน่ใจว่าเปล่าเลย ฉันไม่ได้จำผิด

ฉันพยายามรื้อฟื้นความทรงจำ "ลุงเฉิง ลืมไปแล้วหรอคะ วันนั้นที่ห้องหนังสือของคุณปู่ คุณปู่ยังหยิบ..."

"คุณจำผิดแล้วมั้งครับ?"

ลุงเฉิงตัดบทฉันอย่างเยือกเย็น!

ฉันอึ้งไปทั้งร่างกาย พูดขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ "เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะจำผิดได้ยังไง..."

"หร่วนหนานจือ!"

ฟู่จินอันที่ยังมีสีหน้าหวั่นวิตกในตอนแรก จู่ๆ ก็เหลิงได้ใจขึ้นมาทันที "เธอคงไม่ได้คิดจะซื้อตัวลุงเฉิงมาเป็นพยานให้ตัวเองหรอกนะ? น่าเสียดาย เขาเป็นคนที่คุณปู่เชื่อใจมากที่สุด ไม่มีทางเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับเธอแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Xoxo Susu
แล้วไง อยู่กับแม่ลูกฆาตกรไปแล้วกัน ส่วนนังจินอันคงจะได้กับพ่ออิฉันชวนชัวร์ ต่ำตมทั้งตระกูลจริงๆ อี๋
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 169

    "เพราะงั้น ลุงก็เลยกลัวว่าความจริงเรื่องการตายของแม่ จะไปกระทบกระเทือนจิตใจเขา?""ครับ"ลุงเฉิงพยักหน้า "จิตแพทย์แนะนำว่าให้ชะลอออกไปก่อน รอให้อาการของนายน้อยดีขึ้นกว่านี้ก่อน""เข้าใจแล้วค่ะ"ฉันรับคำมาด้วยเสียงเรียบๆ ในใจก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกอะไรขนาดที่ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่สั่งเสียเอาไว้ก่อนตาย ฉันก็คงไม่อยากจะสนใจเรื่องของตระกูลฟู่เพียงแต่ พอกลับมาถึงบ้าน เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฟู่ฉีชวน ฉันก็ยังรู้สึก...สังเวชอยู่หน่อยๆแต่ไม่นาน พอนึกขึ้นได้ว่าเขาตวาดใส่ฉันยังไงตอนอยู่ในห้องผู้ป่วย ความรู้สึกเวชอันน้อยนิดเต็มทีนั่นก็หายไปจนหมดสิ้นจู่ๆ ฉันก็รู้สึกเกลียดตัวเอง เกลียดที่ทำอะไรก็ไม่เคยเป็นไปตามความตั้งใจสักอย่าง……ขณะที่ฉันกำลังนอนแผ่หราอยู่บนโซฟาอย่างปลดปล่อยตัวเอง จู่ๆ เจียงไหลก็มาฉันเปิดประตู "ทำไมไม่แสกนลายนิ้วมือเข้ามาเลย?""ก็ฉันกลัวจะเข้ามาเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นเข้าน่ะสิ"เจียงไหลเดินบิดเอวบางพริ้วเข้ามา เตะรองเท้าส้นสูงออก ใส่สลิปในบ้านที่เป็นของเธอ แล้วเหลือบตามองฉัน แล้วถามอย่างตรงไปตรงมา "อารมณ์ไม่ดีอะไร?""วันนี้ตั้งใจจะไปตีงูแท้ๆ"ฉันโยนน้ำผลไม้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 170

    "ว่าบาป แล้วเหมือนจริงๆ!"เจียงไหลมองตามสายตาของฉันไป ก็ยังรู้สึกว่าเหมือน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสนุก "รีบไปกันเถอะ!"เธอปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วลงจากรถด้วยความเร็วสูงฉันเองก็ตามไปติดๆ แล้วเข้าโถงโรงแรมไปพร้อมกันแต่เงาของสองคนนั้นหายไปไหนแล้ว?เราจึงได้แต่เดินไปหน้าเค้าเตอร์ เจียงไหลปรับน้ำเสียงนุ่มนวล "ขอโทษนะคะ ชายหญิงคู่เมื่อกี้ที่เดินเข้ามา อายุห่างกันมากไหมคะ?"เพราะเธอเป็นคนสวย เมื่อส่งยิ้มหวานเป็นน้ำผึ้งออกไปอีก ก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายเคลิ้มตามได้อย่างง่ายดายหนึ่งในพนักงานรีเซ็ปชั่นที่อายุน้อยที่สุด หลุดพูดออกมาในทันที "เหมือนจะห่างกันเยอะอยู่ค่ะ...""ห่างเหิ่งอะไร? ฉันว่าสมองเธอนี่แหละที่ห่าง"พนักงานอีกคนที่ทำงานมานาน ก็ตัดบทหล่อนในทันที แล้วหันกลับมา "ขอโทษด้วยค่ะ แต่เราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าได้""ไอ้แก่นั่นเหมือนจะเป็นพ่อของฉัน!"เจียงไหลหัวไวมาก เธอพูดด้วยน้ำเสียงคลุ้งน้ำตา "แม่ฉันร่วมสร้างตัวมากับเขาตั้งแต่เสื่อผืนหมอนใบ กัดก้อนเกลือกินมาด้วยกัน พอตอนนี้เริ่มมีเงินเข้าหน่อย เขาก็แอบไปเลี้ยงอีหนูลับหลังแม่!"ฉันรู้สึกตะลึงกับความสามารถในการแต่งเรื่องของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 171

    "บุญบาป อีตาฟู่ฉีชวนนั่น อดทนสู้เลือดตาแทบกระเด็น เพื่อปกป้องแม่เลี้ยงคนที่สองของตัวเองเนี่ยนะ?""ถ้าเทียบกับเขาแล้ว"ฉันเม้มปาก "ที่ฉันอยากรู้มากกว่าก็คือ ถ้านี่เป็นเรื่องจริง เวินฟางจะทำหน้ายังไง"ที่โรงพยาบาลวันนี้ หล่อนยังพยายามสุดตัวเพื่อปกป้องลูกสาวของตัวเองถ้าได้รู้ว่าหลายปีที่หล่อนนอนไม่ได้สติมานี้ ลูกสาวของตัวเองขึ้นไปนอนบนเตียงกับสามีตัวเอง...เสี้ยมให้สองแม่ลูกนั่นแตกหักกันเอง น่าจะมันส์น่าดูเจียงไหลเหล่ตามองฉันแวบนึง แล้วว่า "กำลังคิดอะไร? อย่างกับจะทำเรื่องผิดศีลธรรมอย่างนั้นแหละ"ฉันยกริมฝีปากโค้ง "กำลังคิดว่า จะได้เห็นช็อตเด็ดๆ แห่งปีเมื่อไหร่"เจียงไหลเลิกคิ้ว "ดูไม่ออกเลยนะว่าหร่วนหนานจือคนนี้ จะชอบอะไรเลือดสาดแบบนี้""ฉันก็โดนบีบมาน่ะ"ฟู่จินอันคราวนี้ฉันจะเด็ดหัวเธอไม่ให้เหลือเงาเวลานี้ชีวิตกลางคืนในผับเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ดนตรีเสียงดังกระหึ่มแก้วหู บนฟลอร์ มีหนุ่มสาวเต้นนัวเนียกันอย่างคึกคัก ราวกับว่าพวกเขาได้เข้าสู่ในโลกอีกใบที่แปลกประหลาดขณะที่ฉันกำลังจะเปิดห้องส่วนตัวอย่างที่ทำปกติ เจียงไหลก็ดึงฉันเอาไว้ "นั่งข้างนอกเถอะ ข้างนอก...สนุก""...ได้"

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 172

    ฉันสะดุ้งพรวด เมื่อหันกลับไปก็ประสานเข้ากับดวงตาสีเหลืองอำพัน แล้วก็อดไม่ได้ที่จะลูบหน้าอก "รุ่นพี่ ทำฉันตกใจหมดเลย!""ขอโทษที"เขาโค้งริมฝีปากยิ้มเบาๆ "ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะ ผมแค่เดินผ่านมาพอดี"ฉันยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนิดหน่อย "มาพบลูกค้าหรือมากับเพื่อนคะ?""มากับเพื่อน"ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยเสียงนุ่ม ขณะที่หันไปมองเจียงไหล ก็รีบซ่อนความรู้สึกหนักใจในแววตาเอาไว้นั่นทำให้ฉันรู้ทันที ว่าเพื่อนที่เขาพูดหมายถึงใครเจียงไหลเองก็ดูออกเช่นกัน "พวกเธอคุยกันไปเถอะ ฉันไปเต้นก่อน"ทันทีที่เธอเข้าผับมาก็ถอดเสื้อคลุมออก ในด้านเหลือเพียงชุดกระโปรงสายเดี่ยวผ้าซาตินสีดำ เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าทรงสวย เมื่อไปถึงฟลอร์ ก็ดึงดูดสายตาของผู้คนไม่น้อยยิ่งเมื่อเธอเริ่มเต้น ก็ยิ่งทำให้ทุกสายตาราวกับต้องมนต์สะกดฉันมองลู่สือเยี่ยนที่กำลังนั่งลง แล้วถาม "แผลดีขึ้นหรือยังคะ ไม่น่าจะดื่มเหล้าได้นะ?""แผลไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ดูน่ากลัวก็เท่านั้น"เขาส่ายหน้าอย่างไม่สนใจอะไรมาก แล้วยกหางตาส่งซิก "ผมไม่ได้ดื่ม แค่มาเป็นเพื่อนเฮ่อถิงดื่มย้อมใจน่ะ"ฉันมองเจียงไหลที่กำลังเต้นอย่างเร่าร้อนแวบนึง แล้วก็หัวเราะอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 173

    ระหว่างทางกลับบ้าน ลู่สือเยี่ยนบังคับพวงมาลัย แล้วเอียงศีรษะมามองฉันแวบนึง "ยังเป็นห่วงเจียงไหลยู่หรอ?""เปล่า"ฉันส่ายหน้า "เธอสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ด้วยตัวเอง"ทุกเรื่องที่เจียงไหลทำ ล้วนเกิดจากการไตร่ตรองมาดีแล้วฉันเชื่อว่าเธอมีความสามารถที่จะเอาตัวรอดได้ทันท่วงที"อืม"ลู่สือเยี่ยนรับคำเสียงเรียบ "แล้วเรื่องที่จะมา MS คิดไปถึงไหนแล้ว?""รุ่นพี่ ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะคะ"ฉันขอบคุณเสร็จ ก็อธิบายต่อ "ตอนนี้ฉันคงไป MS ไม่ได้ ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ฉันอยากจะชะลอเรื่องนี้เอาไว้ก่อน"จัดการเรื่องที่ต้องจัดการให้สบายใจไปก่อนแล้วค่อยตั้งหน้าตั้งตาไปทำงานลู่สือเยี่ยนไม่ได้ติดใจเลยแม้แต่นิดเดียว แต่แค่พูดยิ้มๆ "งั้นสงสัยว่า เราคงจะเป็นเพื่อนร่วมงานกันไม่ได้แม้แต่วันเดียวแล้วสิ""หือ?"ฉันไม่เข้าใจดวงตาของลู่สือเยี่ยนลึกล้ำมีนัยยะ ริมฝีปากบางเผยอออก คละคลุ้งไปด้วยความอ่อนโยนเบาบางจนแทบสังเกตไม่เห็น "เรื่องบางเรื่องก็ต้องรีบไปจัดการล่วงหน้า เพราะงั้น ผมกำลังจะกลับตระกูลลู่แล้วล่ะ""กลับตระกูลลู่?"ฉันแปลกใจนิดหน่อย ฟังจากความหมายของลู่สือจิ่ง ตอนนี้สวีจื่อเป็นใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 174

    ฉันตกตะลึงในความมั่นใจของเขาใช่ ฉันไม่ปฏิเสธว่าเคยชอบเขามากๆ แต่เขากล้าดียังไงถึงได้คิดว่าฉันจะรอเขาอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน และจะเลือกแต่เขาตลอดไปฉันหมุนข้อมือที่ถูกเขาตรึงออก แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่หลุด จึงพูดออกไปอย่างเน้นย้ำชัดทุกคำ "ฉันไม่เต็มใจ ฟู่ฉีชวน ปล่อย!"แสดงไฟสาดลงมาปกคลุมเหนือศีรษะของชายหนุ่ม ดวงตาของเขาเริ่มลึกล้ำยากจะคาดเดามากขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงก็เย็นชาราวกับน้ำแข็ง "เยี่ยมมาก เธอพัฒนาเร็วดีนี่"แต่วินาทีต่อมา เขาก็ผลักฉันเข้าไปในรถด้วยมือเปล่า แล้วปิดประตูดังปึ้งโดยไม่สนใจฉันที่กำลังจะเปิดประตูรถ แต่ดันประตูปิดเอาไว้อย่างแน่นหนาที่ด้านนอกรถ ชายหนุ่มทั้งสองคนที่มีสูงเกือบร้อยแปดสิบ กำลังแผ่รังศีไปทั่วบริเวณ ความตึงเครียดปะทุขึ้นอย่างดุเดือดฉันกลัวมากว่าพวกเขาจะลงไม้ลงมือกันขึ้นมาอีก ทว่าไม่รู้ว่าฟู่ฉีชวนพูดอะไรออกไปประโยคนึง แต่เท่านั้นก็ทำให้ลู่สือเยี่ยนหยุดการปะทะในทันทีสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความห่อเหี่ยวและอดกลั้นฟู่ฉีชวนดึงประตูรถออก ดันตัวฉันเข้าในด้านใน เมื่อขึ้นรถมา ฉันก็ได้ยินลู่สือเยี่ยนพูดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ "ประธานฟู่ คุณก็เหลือลูกเล่นแค่นี้แหละ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 175

    สุดท้ายแล้ว ก็เป็นตระกูลลู่ต่างหากที่ทำผิดต่อเขาแล้วก็แม่ของเขา เขาก็แค่มาทวงคืนสิ่งที่ควรเป็นของเขาก็เท่านั้นฉันมองหน้าฟู่ฉีชวน "อีกอย่าง ต่อให้เขาจะร้ายลึกขนาดไหน หรือต่อให้ฉันถูกเขาหลอกไปขาย แต่ยังรู้สึกซาบซึ้ง มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ""ตราบใดที่คุณกับผมยังไม่ได้หนังสือหย่า มันก็เกี่ยวกับผมอยู่วันนึงค่ำ!!"เหมือนว่าเขาก็หัวร้อนจนต้องหัวเราะออกมา เขาดันปลายลิ้นตรงกระพุ้งแก้ม "หร่วนหนานจือ ฝันไปเถอะว่าจะได้สวมเขาให้ผม"พูดจบ ก็ออกคำสั่งกับคนขับเสียงเรียบ "ออกรถ! กลับคฤหาสน์เก่า!"ฉันอึ้ง เบิกตาโพล่งมองเขา "คุณคิดจะทำอะไร?""ตราบใดที่ยังไม่ได้หนังสือหย่า เลิกคิดได้เลยว่าจะได้ไปแอบเจอลู่สือเยี่ยน!"เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่สมเหตุสมผลของเขา ฉันก็โมโหจนแทบเสียสติ พยายามขัดขืนสุดชีวิต "คุณมีสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับอิสรภาพของฉัน?!"เขาพูดไม่แยแส "สิทธิ์ที่ยังเป็นผัวอยู่ไง!""..."ฉันสูดหายใจลึกๆ พูดกึ่งถากถาง “สามีแบบใด? คำพูดของฉัน คุณเคยเชื่อสักครั้งหรือเปล่า?”ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาลึกล้ำ "เรื่องที่โรงพยาบาลวันนี้?""ไม่งั้นจะเรื่องอะไร?"เขาบีบหว่างคิ้ว น้ำเสียงหนักแน่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 176

    ฉันต้องยอมรับว่า พลังเป็นสิ่งที่วิเศษจริงๆด้วยคำพูดเพียงคำเดียวจากเขา ฉันเข้าใจชัดเจนว่า ฉันไม่สามารถออกไปได้จริงๆทันทีที่เขาออกคำสั่ง บอดี้การ์ดก็รีบสร้างกำแพงมนุษย์ ขึ้นมาตรงหน้าฉัน ทำให้ฉันขยับตัวได้ยากฉันเม้มปาก หันหลังแล้วเดินไปหาเขา เดินตรงกลับห้องด้วยใบหน้าเย็นชาและล็อกประตูด้วยมืออีกข้างนั่นไม่ใช่การขังฉันไว้ที่นี่เหรอ? โอเค งั้นก็ปิดมันซะ ยังไงก็ตาม ตอนนี้ฉันเป็นเพียงคนขี้เกียจคฤหาสน์เก่าของตระกูลฟู่ ไม่ได้ขาดแคลนอาหารและเครื่องดื่ม และมีคนคอยดูแล อย่างมากก็จะอยู่ได้จนกว่าช่วงเวลาสงบศึกหลังการหย่าร้างจะสิ้นสุดลง จากนั้นฉันก็จะเป็นอิสระห้องยังคงเหมือนเดิม และคนรับใช้ก็รู้ว่าฟู่ฉีชวนไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องสิ่งของของเขา ดังนั้นเมื่อทำความสะอาด เขาจึงถูพื้นและเช็ดฝุ่นเท่านั้นไม่ขยับสิ่งของใดๆรองเท้าแตะ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หนังสืออ่านข้างเตียง ที่คาดผม และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ของฉันยังคงอยู่ที่เดิมอย่างไรก็ตาม ที่เตียงฝั่งของฟู่ฉีชวนมีร่องรอยของใครบางคน ที่เคยนอนอยู่ฉันแปลกใจเล็กน้อย ที่เขายังคงอาศัยอยู่ในห้องนี้และไม่ได้ลบร่องรอยชีวิตของฉันที่นี่ออกไปเลย"ก๊อกๆ..."

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status