Share

บทที่ 175

Author: เล่อเอิน
สุดท้ายแล้ว ก็เป็นตระกูลลู่ต่างหากที่ทำผิดต่อเขาแล้วก็แม่ของเขา เขาก็แค่มาทวงคืนสิ่งที่ควรเป็นของเขาก็เท่านั้น

ฉันมองหน้าฟู่ฉีชวน "อีกอย่าง ต่อให้เขาจะร้ายลึกขนาดไหน หรือต่อให้ฉันถูกเขาหลอกไปขาย แต่ยังรู้สึกซาบซึ้ง มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ"

"ตราบใดที่คุณกับผมยังไม่ได้หนังสือหย่า มันก็เกี่ยวกับผมอยู่วันนึงค่ำ!!"

เหมือนว่าเขาก็หัวร้อนจนต้องหัวเราะออกมา เขาดันปลายลิ้นตรงกระพุ้งแก้ม "หร่วนหนานจือ ฝันไปเถอะว่าจะได้สวมเขาให้ผม"

พูดจบ ก็ออกคำสั่งกับคนขับเสียงเรียบ "ออกรถ! กลับคฤหาสน์เก่า!"

ฉันอึ้ง เบิกตาโพล่งมองเขา "คุณคิดจะทำอะไร?"

"ตราบใดที่ยังไม่ได้หนังสือหย่า เลิกคิดได้เลยว่าจะได้ไปแอบเจอลู่สือเยี่ยน!"

เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่สมเหตุสมผลของเขา ฉันก็โมโหจนแทบเสียสติ พยายามขัดขืนสุดชีวิต "คุณมีสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับอิสรภาพของฉัน?!"

เขาพูดไม่แยแส "สิทธิ์ที่ยังเป็นผัวอยู่ไง!"

"..."

ฉันสูดหายใจลึกๆ พูดกึ่งถากถาง “สามีแบบใด? คำพูดของฉัน คุณเคยเชื่อสักครั้งหรือเปล่า?”

ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาลึกล้ำ "เรื่องที่โรงพยาบาลวันนี้?"

"ไม่งั้นจะเรื่องอะไร?"

เขาบีบหว่างคิ้ว น้ำเสียงหนักแน่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 176

    ฉันต้องยอมรับว่า พลังเป็นสิ่งที่วิเศษจริงๆด้วยคำพูดเพียงคำเดียวจากเขา ฉันเข้าใจชัดเจนว่า ฉันไม่สามารถออกไปได้จริงๆทันทีที่เขาออกคำสั่ง บอดี้การ์ดก็รีบสร้างกำแพงมนุษย์ ขึ้นมาตรงหน้าฉัน ทำให้ฉันขยับตัวได้ยากฉันเม้มปาก หันหลังแล้วเดินไปหาเขา เดินตรงกลับห้องด้วยใบหน้าเย็นชาและล็อกประตูด้วยมืออีกข้างนั่นไม่ใช่การขังฉันไว้ที่นี่เหรอ? โอเค งั้นก็ปิดมันซะ ยังไงก็ตาม ตอนนี้ฉันเป็นเพียงคนขี้เกียจคฤหาสน์เก่าของตระกูลฟู่ ไม่ได้ขาดแคลนอาหารและเครื่องดื่ม และมีคนคอยดูแล อย่างมากก็จะอยู่ได้จนกว่าช่วงเวลาสงบศึกหลังการหย่าร้างจะสิ้นสุดลง จากนั้นฉันก็จะเป็นอิสระห้องยังคงเหมือนเดิม และคนรับใช้ก็รู้ว่าฟู่ฉีชวนไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องสิ่งของของเขา ดังนั้นเมื่อทำความสะอาด เขาจึงถูพื้นและเช็ดฝุ่นเท่านั้นไม่ขยับสิ่งของใดๆรองเท้าแตะ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หนังสืออ่านข้างเตียง ที่คาดผม และของใช้ส่วนตัวอื่นๆ ของฉันยังคงอยู่ที่เดิมอย่างไรก็ตาม ที่เตียงฝั่งของฟู่ฉีชวนมีร่องรอยของใครบางคน ที่เคยนอนอยู่ฉันแปลกใจเล็กน้อย ที่เขายังคงอาศัยอยู่ในห้องนี้และไม่ได้ลบร่องรอยชีวิตของฉันที่นี่ออกไปเลย"ก๊อกๆ..."

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 177

    "ฉันทำได้ แล้วฉันก็มียาด้วย"ฟู่ฉีชวนลุกขึ้นและเดินเข้ามาทีละก้าว ราวกับเหยียบหัวใจของฉัน “ฉันจะสอนคุณให้ทำแผล”“งั้นคุณก็ทำเองได้”เมื่อพูดจบ ฉันก็หันหลังเดินจากไป"หร่วนหนานจือ"ฝ่ามือแห้งของเขาจับฉันไว้ทัน และเสียงของเขาหยาบกระด้างราวกับผสมกับกรวดก็พูดขึ้น “ฉันเจ็บ”ด้วยคำง่ายๆ เพียงสองคำ กำแพงในใจของฉันก็พังทลายลงทันทีนอกจากนี้ มันยังเป็นบาดแผลจากกระสุนปืน นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลยฉันจ้องมองเขาด้วยความสงสัยและพูดว่า “ฟู่ฉีชวน ทำไมฉันถึงไม่สังเกตเห็นก่อนหน้านี้ว่าคุณเก่งแค่ไหนในการเล่นเป็นเหยื่อ?”เขาลดสายตาลงและพูดอย่างไม่ใส่ใจ “มันได้ผลกับคุณไหมล่ะ?”"...ไม่เลย"ฉันพูดสองคำนี้ออกไป และในทันทีที่ฉันหันกลับมา เขาก็พูดมันออกมาอย่างหนักแน่น ในที่สุดชายผู้นั้นก็ก้มศีรษะอันภาคภูมิใจลงเป็นครั้งแรกและพูดเบาๆ : "ฉันเจ็บจริงๆ"ตอนนี้ แม้แต่ฉันก็ยังอยากสาปแช่งตัวเอง หร่วนหนานจือ เธอช่างน่าสมเพชจริงๆแต่เมื่อฉันนึกถึงอาการบาดเจ็บของเขา ฉันก็ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้วการรู้สึกสงสาร ชายผู้โชคร้ายคนนี้ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ความรู้สึกนั้นไม่ผิดในที่สุด ฉันก็ยอมแพ้ “ยาอยู่ไหน?”

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 178

    ฉันเห็นว่าเขาขมวดคิ้วโดยไม่ส่งเสียงใดๆ และพูดว่า “ฉันดูเหมือนคนประเภทที่ชอบก่อเรื่องโดยไม่มีเหตุผลหรือเปล่า?”พูดยากฉันรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นแม่ลูกคู่นั้น และฉันไม่อยากลงไปข้างล่างด้วยซ้ำ ฉันหันกลับไปที่ห้องของฉันและพูด "คุณควรจะไล่พวกเขาออกไปดีกว่า ไม่งั้นฉันจะออกไปเอง"ทันใดนั้น ก่อนที่ฉันจะเข้าประตูได้ ฟู่จินอันก็วิ่งเข้ามาและพูดว่า "อาชวน ดูนี่สิ หร่วนหนานจือนี่...."เมื่อเธอมองมาที่ฉัน คำพูดของเธอก็หยุดลงทันทีฉันไม่อยากเห็นเธอ แต่เธอเรียกชื่อฉัน ฉันจึงมองไปทางนั้นและพูดว่า "ฉันมันมีอะไร? ฉันไม่รู้เลยนะ ว่าเธอจะให้ความสนใจฉันมากขนาดนี้""เธอ เธออยู่ที่นี่เหรอ! ไร้ยางอาย! เธอหย่าไปแล้ว แต่เธอยังวิ่งกลับมาหาตระกูลฟู่…"เธอพยายามอย่างหนักที่จะปกปิดอารมณ์ของเธอ แต่ฉันยังคงได้ยินความหึงหวงและความขุ่นเคืองในน้ำเสียงของเธอ"ฟู่จินอัน!"ใบหน้าของฟู่ฉีชวนเย็นชา “ฉันไม่อยากต้องเตือนเธอเป็นครั้งที่สาม เธอยังเป็นภรรยาของฉัน”ฉันพูดอย่างใจเย็น: "ยังมีใบหย่าเหลืออยู่หนึ่งฉบับ ระหว่างเขากับฉัน ในแง่ของอารมณ์และเหตุผล ฉันเหมาะสมที่จะปรากฏตัวในตระกูลฟู่มากกว่าเธอ เมื่อเธอพูดว่าฉันไร้ยา

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 179

    ถ้าเป็นอย่างนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็ยิ่งน่ากลัวกว่าที่ฉันคิดเวินฟางยิ้มครู่หนึ่ง ริมฝีปากของเธอยังขาวซีดเล็กน้อย "ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความกตัญญูของอาชวน แม้ว่าฉันจะนอนอยู่บนเตียงมาหลายปีแล้ว แต่ฉันได้รับการดูแลเป็นอย่างดี นั่นคือเหตุผลที่ฉันรู้สึกสบายใจที่มอบความไว้วางใจให้เขาดูแลจินอัน""โอ้"มุมปากของฉันกระตุก แต่ฉันไม่เข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของเธอ ฉันจึงพูด "ก็ดีนะ"เป็นเมียน้อยซะเองแถมยังจัดการให้ลูกสาวของตัวเองเป็นเมียน้อยด้วยน่าเสียดายที่ลูกสาวของเธอติดการเป็นเมียน้อย แม้กระทั่งการแต่งงานของเธอก็ไม่รอดหลังจากนั้น ฉันก็เตรียมตัวกลับห้อง"คุณหร่วน"เวินฟางหยุดฉันไว้แล้วพูดว่า "จะไปไหน จินอันได้รับรูปถ่ายที่อธิบายไม่ได้บางรูปซึ่งเกี่ยวข้องกับคุณด้วย เราไม่ควรแสดงให้อาชวนเห็นมันลับหลังคุณ ดังนั้นคุณควรมาด้วยกัน"ฉันขมวดคิ้วและรู้สึกเป็นลางสังหรณ์ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีฟู่ฉีชวนหยิบกระเป๋าด้วยมือข้างหนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "ลงไปคุยกันเถอะ หนานจือคงหิวแล้ว"ขณะที่ฟู่จินอันกำลังจะพูด ฟู่ฉีชวนก็เหลือบมองมาอย่างเย็นชาแล้วพูด "ฉันบอกแล้วไงว่าเธอยังไม่ได้กินอาหารเช้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 180

    เขาลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ใบหน้าของเขามืดมนด้วยความโกรธ และจ้องเขม็งมาที่ฉันอย่างนาน ก่อนจะกัดฟันพูดออกมาว่า "คืนนี้ให้นอนหนุนหมอนสูงกว่านี้!"เขาอาจจะบอกให้ฉันฝันไปก็ได้ฉันก็อารมณ์เสียเหมือนกัน ฉันลุกขึ้นอย่างกะทันหันและเดินไปที่ห้องรับแขกและมองไปที่แม่ลูกคู่นั้นที่กระซิบกัน "พูดเถอะ มีเรื่องอะไร?""อาชวน!"ฟู่จินอันลุกขึ้นอย่างภาคภูมิใจ สายตาของเธอมองมาที่ฉัน และเธอมองตรงไปที่ฟู่ฉีชวน เขาขว้างระเบิดและพูดว่า "คุณรู้ไหมว่าเด็กที่หนานจือกำลังตั้งท้องอาจไม่ใช่ลูกของคุณด้วยซ้ำ"อากาศดูเหมือนจะแข็งเป็นน้ำแข็งในทันทีฉันแค่รู้สึกโกรธและอยากตบหน้า คราวนี้ ฟู่จินอันยืนคอยอยู่แล้วและผลักฉันออกไป โยนซองจดหมายใส่ฉันเธอหัวเราะเยาะและพูดว่า "ลองดูแล้วกัน ดูสิว่าเธอจะอธิบายกับอาชวนยังไง!"ซองจดหมายร่วงลงมาตามร่างกายของฉันลงสู่พื้น และมีคนหยิบมันขึ้นมาเร็วกว่าฉัน ฟู่ฉีชวนถือซองจดหมายและยืนตัวตรงนิ้วที่มีกระดูกชัดเจนเปิดซองจดหมายและหยิบรูปถ่ายออกมาหลายรูปในพริบตา มุมริมฝีปากของชายคนนั้นก็ตกลง และสีหน้าของเขาเย็นชาและโหดร้ายเมื่อมองด้วยตาเปล่า ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนของเขาตอนนี้บ่งบอกถึงความโก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 181

    "คุณหร่วน เรื่องพวกนี้มันต่างกันโดยสิ้นเชิง"เวินฟางเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ แต่เสียงของเธอกลับแผ่วเบา "หลักฐานที่คุณนำเสนอเมื่อวาน ก็คือจินอันได้แตะต้องยาของคุณปู่ นี่หมายความว่าอะไร เธอแค่อยากจะดูแลคุณปู่เท่านั้น ส่วนคุณ... ชายหญิงยืนกันตามลำพังอยู่ที่ประตูห้อง และคุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว คุณจะทำอะไรได้อีก?"ฉันหยิบแก้วจากโต๊ะกาแฟขึ้นมาแล้วสาดใส่หน้าเธอพร้อมหัวเราะเยาะ "เวินฟาง ถ้าเธอพูดอีกคำเดียว ฉันจะไม่สาดน้ำ"ฟู่จินอันนอนกับพ่อเลี้ยงลับหลัง แต่ภายนอกเธอเป็นลูกสาวกตัญญู เธอกังวลทันทีและพูด "แกกล้าทำแบบนี้กับแม่ของฉันเหรอ แกบ้าไปแล้วหรือไง?!"ฉันหยิบแก้วอีกใบขึ้นมาแล้วสาดใส่หน้าเธอ "เธอลองพูดอีกทีสิ"เครื่องสำอางค์ของฟู่จินอันถูกฉันช่วยล้างให้ และเธอมองมาที่ฉันด้วยตกใจ "หร่วนหนานจือ..."เวินฟางไม่คาดคิดว่า ฉันจะทำเรื่องที่ร้ายกาจช่นนี้ ดวงตาของเธอแดงก่ำทันที และเธอเปิดปากขึ้นมา "อาชวน ตอนนี้คุณหันหลังให้กับครอบครัวแล้วเหรอ? ทำไมพ่อของคุณถึงแต่งงานกับฉันอย่างเปิดเผย คุณจะปล่อยให้เธอปฏิบัติกับฉันแบบนี้จริงๆ เหรอ?"ใบหน้าของฟู่ฉีชวนดูเคร่งขรึมและเย็นชา ดวงตาของเขาเหมือนแอ่งน้ำแข็งลึกที่ไม

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 182

    ฉันมองเขาไม่ออกฉันก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ “คุณหมายความว่าอะไร?”“เราจะไม่หย่ากัน โอเคไหม?”ฟู่ฉีชวนจับข้อมือฉันไว้และลูบข้อมือของฉัน "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันต้องการแค่คุณจากนี้ไป ไม่ว่าจะใครก็ตาม"“รวมถึงเวินฟางและฟู่จินอันด้วยไหม?”"ใช่แล้ว""ฟู่ฉีชวน"ฉันคิดว่ามันไร้สาระมาก "คุณเชื่อเรื่องนี้ด้วยเหรอ?"หากนี่เป็นการรู้ตัวโดยกะทันหัน ก็สายเกินไปแล้วฉันไม่คิดว่าเขาจะเชื่อฉันวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่เพียงพอที่จะเชื่อมช่องว่างของทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้น้ำเสียงของเขาอ่อนลง "คุณไม่เชื่อฉันแล้วเหรอ?"ฉันมองเขาอย่างตั้งใจและพูดห้าคำ "ใช่ ฉันไม่อยากเชื่อ"ถ้าเขาตัดสินใจแบบนี้ก่อนที่จะเสียลูกไป ฉันคงจะตอบตกลงทันทีแต่ตอนนี้ ฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะมีเหตุผลอะไรที่จะเห็นด้วยเป็นตอนที่ฉันล้มลงและเขาเลือกที่จะช่วยคนอื่นแทนหรือเปล่าหรือว่าเป็นตอนที่เขาตบฉันอย่างแรงตอนที่ฉันแท้งลูกชีวิตคู่ของเราไม่มีทางไปรอดฟู่ฉีชวนยังคงนิ่งเงียบอยู่นาน จับมือฉันแน่นขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ดวงตาของเขากลับชัดเจนและเต็มไปด้วยถ้อยคำประชดประชัน "แม้แต่รูปถ่ายพวกนี้ ฉันก็ยังแกล้งทำเป็นม

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 183

    ฉันเอนหลังอ่านหนังสือบนเตียง แต่หลังจากอ่านไปนานพอสมควร ฉันก็รู้ตัวว่าพลิกหนังสือกลับหัวรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อยฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา แต่ถ้าเป็นเพราะกระสุนนัดนั้น...มันน่าจะอยู่ที่ตัวฉันฉันปิดหนังสืออย่างกระวนกระวายใจและเตรียมที่จะไปที่ระเบียงเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงของลุงเฉิง "นายหญิง"ฉันก้าวเท้าเร็วขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจขณะเปิดประตู “ลุงเฉิง ฟู่ฉีชวน…สบายดีไหม?”"ฉี่ชวนเป็นไข้"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉันถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย คิดว่าคงเป็นหวัดเท่านั้น แต่แล้วก็ได้ยินลุงเฉิงพูดขึ้น: "มันเกิดจากการติดเชื้อจากบาดแผลจากกระสุนปืนเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แตะต้องเขา และเขาก็ปฏิเสธที่จะกินยา""คุณกำลังจะหย่า ฉันไม่น่ามาหาคุณเลย แต่ฉันได้ยินเขาหลับไปและเรียกชื่อคุณ"ฉันกำหมัดแน่น “ฉันจะไปดูเขา”ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์นี้เกิดจากตัวฉัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ฉันควรไปเนื่องจากไข้ แก้มของฟู่ฉีชวนจึงมีสีแดงจางๆ ผิดปกติ ขนตายาวปิดหน้า หายใจสม่ำเสมอและยาว แต่คิ้วยังคงขมวดราวกับว่าเขาเจอปัญหาใหญ่ลุงเฉิงชี้

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 296

    "แม่...มีสิทธิ์อะไร...หนูเป็นลูกค้านะ!""ทำตามที่บอก!"แม่เสิ่นกลืนน้ำลายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โจวฟาง มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “คุณหร่วน ในฐานะดีไซเนอร์ชุด โปรดอย่าลืมไปร่วมงานเลี้ยงหมั้นในสัปดาห์หน้าด้วย หากมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับชุด ก็สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที”“เดินทางปลอดภัย ไม่ไปส่งค่ะ”ฉันทำท่าส่งแขก จากนั้นจึงพูดว่า "ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่ ก็โอนเข้าบัญชีเดียวกับครั้งที่แล้ว ขอบคุณ"……เรื่องตลกจบลงแล้ว ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้วฉันเลยตัดสินใจเสนอพาพวกเขาไปกินหม้อไฟเมื่อเพิ่งมาถึงที่จอดรถใต้ดิน เจียงไหลได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับงานปาร์ตี้สังสรรค์และตัดสินใจทิ้งฉันไว้เหลือแค่ฉัน โจวฟาง และโจวโม่โจวฟางชูคอ หันหน้ามาทางฉัน แล้วพูดว่า "ไปนั่งรถฉันมา พรุ่งนี้จะไปส่งโมโม่ที่ทำงาน""โอเค"ขณะที่ฉันเดินไปเปิดประตูเบาะหลัง โจวโม่ก็ผลักฉันให้ไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า "พี นั่งเบาะหน้าเถอะ เบาะหลังแคบเกินไป"นั่นคือข้อเสียของรถสปอร์ต ดูดีแต่ไม่สบายตอนนั่งฉันเปิดแอพอาหารแล้วคิดว่าจะไปที่ไหน โจวฟางก็หาวแล้วพูดว่า "ฉันเหนื่อยแล้ว กลับบ้านไปกินข้าวเถอะ สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้"ไม่ใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 295

    ลูกวัวแรกเกิดอย่างโจวโม่ไม่กลัวเสือ ซึ่งทำให้เจียงไหลและฉันต่างจ้องมองกันหลังจากที่รู้ตัว ฉันก็กลัวว่าแม่เสิ่นจะลากเธอไปเอี่ยว ดังนั้นฉันจึงดึงเธอไว้ข้างหลัง“ถ้ามีปัญหาอะไรก็เอามาคุยกับฉันสิ”"พี่!”โจวโม่ไม่กลัวเลยและมองไปที่แม่เสิ่น "คุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่ต้องการชุดนี้แล้วเหรอ? งั้นก็ให้เสิ่นซิงหยูออกมา ไม่ต้องไปลองมันแล้ว""ฮ่า!"แม่เสิ่นยิ้มเยาะหลายครั้ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก “คำพูดของเธอนี่ช่างขำจริงๆ เธอก็แค่พนักงานธรรมดาๆ เธอคิดว่าเจ้านายของเธอจะเห็นด้วยกับเธอไหม? เธอรู้ไหมว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่....”"ฉันซื้อได้!”โจวโม่พองหน้าเล็กๆ และพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเย่อหยิ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำกล่าวที่เกินจริงของเธอใบหน้าของแม่เสิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างน่าตกใจ สั่นเทาด้วยความโกรธ “หร่วนหนานจือ นี่ก็เป็นจุดยืนของเธองั้นเหรอ?”“ถ้าคุณไม่พอใจกับชุดนี้ นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดี”ฉันยิ้มอย่างสุภาพ น้ำเสียงของฉันสงบและนิ่งแม่เสิ่นกัดฟันและจ้องไปที่โจวโม่ “เธอแน่ใจนะว่า ซื้อมันได้ ชุดนี้ราคาเกิน 25 ล้าน!”“แค่ 25 ล้านเอง คุณป้า คุณไม่มีเงินหรือไง?”โจวโม่เอีย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 294

    ฉันไม่ได้คิดอะไรมากและหัวเราะ “เราออกไปนานแล้ว ฉันถึงบ้านแล้วและอาบน้ำแล้ว”"งั้นก็ดีแล้ว"“หลิน… ลุงของหลาน เขาไม่ได้ก่อเรื่องอีกแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะไปกับลู่สือเยี่ยน เขาเตือนหลินกั๋วอันหลินกั๋วอันพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบจะคุกเข่าลงคุณป้าพยักหน้าแล้วพูดว่า "ไม่ ไม่ต้องห่วง เขาใบหย่าไปแล้วและเพิ่งกลับไป"ฉันแปลกใจเล็กน้อย "เซ็นต์ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวลู่สือเยี่ยนในระดับหนึ่งเมื่อคืนนี้เอง ยัวยืนกรานที่จะแบ่งทรัพย์สินของฉันคุณป้าถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ใช่แล้ว หลานต้องขอบคุณประธานลู่นะ เขาเป็นคนดีมาก”"โอเค ไม่ต้องกังวล ฉันจะหาโอกาสขอบคุณเขาเอง"ถ้าคุณป้าสามารถหย่าร้างได้อย่างราบรื่น ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขความกังวลในใจของฉันไปได้หนึ่งเปาะด้วยวิธีนี้ ฉันจะต้องดูแลคุณป้าของฉันเท่านั้นในอนาคต โดยไม่ต้องรับมือกับคนชั่วคนนี้……หนานซีเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และธุรกิจของเราก็อยู่ในระดับปานกลางตามธรรมชาติแต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตารางงานที่ยุ่งของฉันฉันใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนในการทำชุดหมั้นของเสิ่นซิงหยูในที่สุดเพชร ไข่มุก ทับทิมตร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 293

    ฉันหันกลับมาทันทีและกำลังจะถาม แต่ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาด้วยท่าทางไม่พอใจ"หนานจือ"ฉันพยักหน้าและพูดว่า "รุ่นพี่"ทันทีที่หลินกั๋วอันเห็นเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาตัวสั่นและพูดว่า "ประธานลู่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้?"เห็นได้ชัดว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนสายตาของลู่สือเยี่ยนมองมาที่ฉัน และหลังจากยืนยันว่าฉันปลอดภัยดี สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินกั๋วอัน “ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันบอกคุณอะไรไปเมื่อครั้งก่อน?”“ไม่ ไม่ ฉันไม่กล้า!”หลินกั๋วอันปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา โดยแสดงรอยยิ้มประจบประแจงและระมัดระวัง "ฉัน... ฉันเพียงมาพบภรรยาของฉัน บังเอิญว่าผู้หญิงคนนี้มาพอดี"ฉันเห็นว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนมาก ฉันจึงใช้โอกาสนี้ถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป? คุณเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่ามาบอกฉันนะ มันเป็นแค่การพูดลอยๆ"ประโยคนี้ ลู่สือเยี่ยนก็ได้ยินเช่นกันหลินกั๋วอันหดตัวลงชั่วขณะ หลบตาคุณป้าของฉัน กัดฟันแล้วพูดขึ้นมาว่า "ฉัน..."“คุณควรพูดความจริงดีกว่า”ลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่สงบแต่หนักแน่น ยิ้มอย่างสุภาพแต่แฝงไปด้วยความคุกคาม "ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมัก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 292

    "หนานจือ ลุงของคุณได้รับจดหมายแจ้งการฟ้องหย่าของเราแล้ว"ทนายฟางอดไม่ได้ที่จะเตือนฉันว่า "แต่ตอนที่ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ไปเจอลุงของคุณเข้า เขาหน้าซีดมาก และอาจทำให้คุณป้าของคุณเดือดร้อนได้""โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ! ฉันจะไปดูทันที"คุณป้าของฉันอยู่ในระยะวิกฤตของการรักษา และกระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่อ่อนไหวและเต็มไปด้วยอารมณ์การทะเลาะกันใหญ่โต ไม่ดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเธอฉันวางสายโทรศัพท์และกลับไปที่ห้องส่วนตัว ฉันเอนตัวไปที่หูของเจียงไหลและพูด "ไหลไหล ฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้กับเธอนะ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านคุณป้า ฉันต้องลองไปดู"สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและเธอพูดอย่างวิตกกังวล "เป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันพาเธอไปเอง""ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่"ฉันตบไหล่เธอ “เธออยู่ที่นี่และทำให้ทุกคนสนุกสนาน อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้เสียบรรยากาศ”เมื่อพูดจบ ฉันก็คว้ากระเป๋าและบอกลาทุกคนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินออกไปลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นทันทีเช่นกัน “คุณดื่มแอลกอฮอล์มา ฉันจะพาคุณไปเอง”"โอเค"ฉันรู้ว่าเขามาทานอาหารเย็นนี้เพราะฉันเท่านั้น ถ้าฉันออกไป เขาก็คงไม่อยากอยู่เหมือนกันขณะที่ดินออกไป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 291

    ในขณะนั้นเอง มีคนจากภายในห้องดึงประตูเปิดออกพอดีตอนที่ฉันกำลังจะแอบดู พนักงานเสิร์ฟก้าวเข้ามา ทำให้ฉันไม่สามารถมองอะไรได้เลยสถานที่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของแขกเป็นอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟถามว่า “สวัสดี คุณเป็นเพื่อนของคุณเซียวและกลุ่มของเขาหรือเปล่า?”แซ่นี้ฟังดูไม่คุ้นเลยฉันต้องส่ายหัวและบอกว่า "ไม่ ฉันเข้าห้องส่วนตัวผิด"เมื่อฉันหันหลังกลับและออกไป ดูเหมือนว่าใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้ขนที่คอของฉันลุกชันเมื่อหันกลับไปมอง สิ่งที่ฉันเห็นก็คือประตูห้องส่วนตัวที่ปิดสนิทแล้วเมื่อกลับมาที่ห้องส่วนตัว เจียงไหลสั่งอาหารเสร็จแล้ว “เอาล่ะ เธอมีอะไรอยากสั่งไหม?”"ฉันไม่เลือกหรอก สั่งมาเลย"เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ฉันรู้สึกหนักใจเล็กน้อยไม่ใช่ใครที่ฉันรู้จัก แต่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันมากแทบจะเป็นสถานการณ์เดียวกันฉันไม่เคยได้ยินว่ามีเพื่อนสนิทแซ่เซียวจากฟู่ฉีชวนเลยเจียงไหลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและโน้มตัวเข้ามาที่หูของฉัน "เธอกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 290

    เจียงไหลไม่เห็นด้วยกับความคิดของฉัน "อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็หย่าแล้ว เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้ได้แค่พูดไม่กี่คำเหรอ? จะดีกว่าไหมที่จะกำหนดเส้นตายแบบนี้"ตอนนั้น ฉันก็คิดเหมือนกันตอนที่ฉันรู้ว่าลู่สือเยี่ยนแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเวลา 20 ปี ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีมากแต่เมื่อฉันรู้ว่าเป็นฉัน ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากกว่าเป็นหนี้บุญคุณ....ยากที่จะตอบแทนในช่วงเวลาที่ฉันเงียบๆ เจียงไหลนอนลงบนโต๊ะ เขย่าต่างหูของฉันด้วยนิ้วของเธอ "อาหร่วน ทำไมเธอไม่ลองคบกับลู่สือเยี่ยนดูล่ะ มีผู้ชายที่ทุ่มเทขนาดนี้เพียงไม่กี่คนในสมัยนี้""ก็เพราะว่าเขาดีมาก ฉันจึงต้องระมัดระวังมากขึ้น"ไม่เช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นการเล่นกับอารมณ์ของคนอื่นเมื่อมีคนมอบใจให้ 100% ก็ควรให้ใจกลับไป100% ด้วยถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันก็ควรปล่อยเขาไปเร็วกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้หาคนที่ทำได้เจียงไหลไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ เธอจึงยอมแพ้และพูดว่า "เอาล่ะ คืนนี้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านประจำกันเถอะ"ร้านประจำที่เธอพูดถึงเป็นคลับเฮาส์ที่เธอเคยไปบ่อยๆฉันเดาะลิ้น “มันจะแพงเกินไปไหม?”“ไม่ต้องห่วง ฉันเลี้ยงเอง”"เงินขอเธอหล่นลงมาจากฟ้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 289

    ฉันสับสนมากไม่ใช่เขา แล้วใครส่งมา?การติดต่อครั้งเดียวที่เรามีกับRF กรุ๊ปก็ผ่านเขาเท่านั้น…ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เสียงของเฉินเย่ที่นึกขึ้นได้ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย "ใช่ ๆ ฉันจำได้แล้ว เป็นฉันเอง! จริงๆ แล้ว ฉันขอให้ผู้ช่วยของฉันสั่งให้ แต่เขาอาจจะสั่งผิด ฉันขอให้เขาสั่งตระกร้าดอกไม้ 99 ใบเพื่อบริษัทของคุณประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง"เฉินเย่รู้สึกเสียใจเล็กน้อยและพูดว่า "ตะกร้าดอกไม้ 999 ใบมันมากเกินไปจริงๆ มันทำให้คุณเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า?"“เข้าใจแล้ว…”ฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อมองไปที่ช่อดอกไม้ที่เรียงรายเต็มไปหมดจนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ลิฟต์ไปจนถึงออฟฟิศของเรา “ไม่ใช่ปัญหาจริงๆ… แต่บางทีฉันควรคุยกับร้านดอกไม้เกี่ยวกับการคืนดอกไม้บ้าง? ไม่งั้นมันจะฟุ่มเฟือยเกินไป”“ไม่จำเป็น ฉันไม่สนใจเรื่องค่าใช้จ่าย”เฉินเย่พูดออกไป แล้วกระแอมอีกครั้งแล้วพูดเสริมว่า "ผู้ช่วยของฉัน เขาแค่มาทำงาน เพื่อต้องการเปิดประสบการณ์ชีวิต เขาเป็นคนร่ำรวยมาก และฉันจะหักเงินนี้จากโบนัสของเขา"“…โอเค”ฉันขอบคุณอีกครั้ง แพูดคุยอย่างสุภาพอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายเจียงไหลเอนตัวเข้ามาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เขาให้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 288

    ฉันรู้ดีว่าคงไม่ใช่ฉันหรอก แค่การตอบกลับตามวามเคยชินเขาหรี่ตาอย่างอันตราย แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่อรับ "พวกที่รังแกคุณต้องชดใช้ยังไง"ฉันหัวเราะเบาๆ “แล้วไงต่อ”“ไม่มีแล้วไงต่อ”โจวฟางเม้มปากและเอนหลังพิงพนักพิงศีรษะ ขนตาของเขาปิดบังอารมณ์ทั้งหมดของเขาไว้ "ชื่อคุณอยู่ในสมุดทะเบียนบ้านของตระกูลหร่วน และก่อนที่ชิงหลี่จะจากไป คุณก็เป็นหร่วนหนานจือของตระกูลหร่วนไปแล้ว""แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันเหมือนคุณย่าเลย บางครั้งก็ถูกดึงดูด""......"ฉันเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที และฉันก็เฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวังเขาหัวเราะอย่างไม่เชื่อและกดลิ้นทับฟันกรามของเขา “ทำไมถึงมองแบบนั้น คุณคิดว่าฉันสิ้นหวังขนาดจะยอมคบกับใครก็ได้งั้นเหรอ?”“นั่นพูดยาก”ฉันยิ้มและดึงเสื้อโค้ทให้กระชับขึ้นโดยตั้งใจ หวังว่าจะช่วยคลายความตึงเครียดในรถได้เขาหาวและพูดออกมาสองคำอย่างไม่ใส่ใจว่า “เด็กน้อยจัง”จากนั้น เขาก็หยิบผ้าปิดตาออกมาจากที่ไหนสักแห่งโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และหลับไปอย่างสงบ……วันรุ่งขึ้นเป็นวันเปิดตัวหนานซีอย่างเป็นทางการพนักงานใหม่หลายคนมาแต่เช้า เต็มไปด้วยพลังงาน ทำให้บรรยากาศของบริษัทดีขึ้นท

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status