แชร์

บทที่ 167

ผู้เขียน: เล่อเอิน
ทั้งแม่ คุณปู่ และลูกของฟู่ฉีชวน

คนทั้งสามรุ่นต้องมาตายด้วยน้ำมือของพวกหล่อน

"หร่วนหนานจือ! เธอพูดมั่วอะไร?"

ฟู่จินอันพุ่งเข้ามาผลักฉัน แล้วออกปากเตือนอย่างดุดัน "ฉันฟ้องเธอข้อหาหมิ่นประมาทได้รู้หรือเปล่า?"

เวินฟางที่อาการ "ดีขึ้น" เล็กน้อย ก็มองมาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ "คุณหร่วน ที่บอกว่าสองแม่ลูกมันหมายความว่ายังไง?"

"ฉันหมายความว่าอะไร คุณไม่เข้าใจหรอ?"

ท่ามกลางสีหน้าเย็นยะเยือกของฟู่ฉีชวน ฉันพูดใส่เวินฟางช้าๆ ชัดๆ "ตอนนั้นเพื่อให้ได้แต่งเข้าตระกูลฟู่ คุณผลักแม่ของฟู่ฉีชวนที่กำลังท้องได้สิบเดือนลงจากบันได ลืมไปแล้วหรอ?"

"จะพูดอะไรมันต้อมีหลักฐาน!"

เวินฟางตะเบ็งเสียงสูง ราวกับเดือดดาลสุดๆ ที่โดนฉันใส่ร้าย!

อย่างที่คุณปู่พูด หล่อนเข้าใจว่าตอนที่ตัวเองก่อเหตุ ได้ทำลายกล้องวงจรปิดไปแล้ว จึงไม่หลงเหลือหลักฐานอะไรอีก

คำพูดนั้นดึงสติฟู่จินอันขึ้นมา แล้วก็จับประเด็นสำคัญได้ทันที "ใช่ หร่วนหนานจือ จะถูกจะผิดมันไม่ได้อาศัยแค่ลมปากหรอกนะ"

"หลักฐานใช่ไหม"

ฉันโทรหาฉินเจ๋อ ให้เขาเอาเอกสารที่ฉันให้ฟู่ฉีชวนเมื่อกี้มาส่ง

เขาดำเนินการรวดเร็วมาก ไม่นานก็เอามาให้ ฉันดึงผลรายงานระบุลายนิ้วมืออ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 168

    วันที่คุณปู่เสียชีวิตท่านเคยบอกเอาไว้ว่า ยังไงสักวันนึงฟู่ฉีชวนก็จะต้องรู้ ปิดเขาไม่ได้ทั้งชีวิตถ้าอย่างนั้นก็ให้รู้ซะวันนี้ไปเลยดีกว่าเขาจะได้ไม่ต้องถูกสองแม่ลูกนี่หลอกต่อไปเพียงแต่ สิ่งที่ทำให้ฉันรับมือไม่ทัน ก็คือที่ปลายสาย ลุงเฉิงพูดขึ้นมาราวกับไม่เข้าใจ "นายหญิง คุณไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหนครับ?"……ฉันเกือบจะทรุด เวลานี้สัมผัสได้ถึงสายตาอันเย็นชาอย่างสุดขีดของฟู่ฉีชวนแล้ว!"ก็คุณปู่เป็นคนบอกไงคะ"จนฉันชักเริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองจำอะไรผิดไปหรือเปล่า แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็แน่ใจว่าเปล่าเลย ฉันไม่ได้จำผิดฉันพยายามรื้อฟื้นความทรงจำ "ลุงเฉิง ลืมไปแล้วหรอคะ วันนั้นที่ห้องหนังสือของคุณปู่ คุณปู่ยังหยิบ...""คุณจำผิดแล้วมั้งครับ?"ลุงเฉิงตัดบทฉันอย่างเยือกเย็น!ฉันอึ้งไปทั้งร่างกาย พูดขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ "เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะจำผิดได้ยังไง...""หร่วนหนานจือ!"ฟู่จินอันที่ยังมีสีหน้าหวั่นวิตกในตอนแรก จู่ๆ ก็เหลิงได้ใจขึ้นมาทันที "เธอคงไม่ได้คิดจะซื้อตัวลุงเฉิงมาเป็นพยานให้ตัวเองหรอกนะ? น่าเสียดาย เขาเป็นคนที่คุณปู่เชื่อใจมากที่สุด ไม่มีทางเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับเธอแ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 169

    "เพราะงั้น ลุงก็เลยกลัวว่าความจริงเรื่องการตายของแม่ จะไปกระทบกระเทือนจิตใจเขา?""ครับ"ลุงเฉิงพยักหน้า "จิตแพทย์แนะนำว่าให้ชะลอออกไปก่อน รอให้อาการของนายน้อยดีขึ้นกว่านี้ก่อน""เข้าใจแล้วค่ะ"ฉันรับคำมาด้วยเสียงเรียบๆ ในใจก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกอะไรขนาดที่ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่สั่งเสียเอาไว้ก่อนตาย ฉันก็คงไม่อยากจะสนใจเรื่องของตระกูลฟู่เพียงแต่ พอกลับมาถึงบ้าน เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฟู่ฉีชวน ฉันก็ยังรู้สึก...สังเวชอยู่หน่อยๆแต่ไม่นาน พอนึกขึ้นได้ว่าเขาตวาดใส่ฉันยังไงตอนอยู่ในห้องผู้ป่วย ความรู้สึกเวชอันน้อยนิดเต็มทีนั่นก็หายไปจนหมดสิ้นจู่ๆ ฉันก็รู้สึกเกลียดตัวเอง เกลียดที่ทำอะไรก็ไม่เคยเป็นไปตามความตั้งใจสักอย่าง……ขณะที่ฉันกำลังนอนแผ่หราอยู่บนโซฟาอย่างปลดปล่อยตัวเอง จู่ๆ เจียงไหลก็มาฉันเปิดประตู "ทำไมไม่แสกนลายนิ้วมือเข้ามาเลย?""ก็ฉันกลัวจะเข้ามาเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นเข้าน่ะสิ"เจียงไหลเดินบิดเอวบางพริ้วเข้ามา เตะรองเท้าส้นสูงออก ใส่สลิปในบ้านที่เป็นของเธอ แล้วเหลือบตามองฉัน แล้วถามอย่างตรงไปตรงมา "อารมณ์ไม่ดีอะไร?""วันนี้ตั้งใจจะไปตีงูแท้ๆ"ฉันโยนน้ำผลไม้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 170

    "ว่าบาป แล้วเหมือนจริงๆ!"เจียงไหลมองตามสายตาของฉันไป ก็ยังรู้สึกว่าเหมือน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสนุก "รีบไปกันเถอะ!"เธอปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วลงจากรถด้วยความเร็วสูงฉันเองก็ตามไปติดๆ แล้วเข้าโถงโรงแรมไปพร้อมกันแต่เงาของสองคนนั้นหายไปไหนแล้ว?เราจึงได้แต่เดินไปหน้าเค้าเตอร์ เจียงไหลปรับน้ำเสียงนุ่มนวล "ขอโทษนะคะ ชายหญิงคู่เมื่อกี้ที่เดินเข้ามา อายุห่างกันมากไหมคะ?"เพราะเธอเป็นคนสวย เมื่อส่งยิ้มหวานเป็นน้ำผึ้งออกไปอีก ก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายเคลิ้มตามได้อย่างง่ายดายหนึ่งในพนักงานรีเซ็ปชั่นที่อายุน้อยที่สุด หลุดพูดออกมาในทันที "เหมือนจะห่างกันเยอะอยู่ค่ะ...""ห่างเหิ่งอะไร? ฉันว่าสมองเธอนี่แหละที่ห่าง"พนักงานอีกคนที่ทำงานมานาน ก็ตัดบทหล่อนในทันที แล้วหันกลับมา "ขอโทษด้วยค่ะ แต่เราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าได้""ไอ้แก่นั่นเหมือนจะเป็นพ่อของฉัน!"เจียงไหลหัวไวมาก เธอพูดด้วยน้ำเสียงคลุ้งน้ำตา "แม่ฉันร่วมสร้างตัวมากับเขาตั้งแต่เสื่อผืนหมอนใบ กัดก้อนเกลือกินมาด้วยกัน พอตอนนี้เริ่มมีเงินเข้าหน่อย เขาก็แอบไปเลี้ยงอีหนูลับหลังแม่!"ฉันรู้สึกตะลึงกับความสามารถในการแต่งเรื่องของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 171

    "บุญบาป อีตาฟู่ฉีชวนนั่น อดทนสู้เลือดตาแทบกระเด็น เพื่อปกป้องแม่เลี้ยงคนที่สองของตัวเองเนี่ยนะ?""ถ้าเทียบกับเขาแล้ว"ฉันเม้มปาก "ที่ฉันอยากรู้มากกว่าก็คือ ถ้านี่เป็นเรื่องจริง เวินฟางจะทำหน้ายังไง"ที่โรงพยาบาลวันนี้ หล่อนยังพยายามสุดตัวเพื่อปกป้องลูกสาวของตัวเองถ้าได้รู้ว่าหลายปีที่หล่อนนอนไม่ได้สติมานี้ ลูกสาวของตัวเองขึ้นไปนอนบนเตียงกับสามีตัวเอง...เสี้ยมให้สองแม่ลูกนั่นแตกหักกันเอง น่าจะมันส์น่าดูเจียงไหลเหล่ตามองฉันแวบนึง แล้วว่า "กำลังคิดอะไร? อย่างกับจะทำเรื่องผิดศีลธรรมอย่างนั้นแหละ"ฉันยกริมฝีปากโค้ง "กำลังคิดว่า จะได้เห็นช็อตเด็ดๆ แห่งปีเมื่อไหร่"เจียงไหลเลิกคิ้ว "ดูไม่ออกเลยนะว่าหร่วนหนานจือคนนี้ จะชอบอะไรเลือดสาดแบบนี้""ฉันก็โดนบีบมาน่ะ"ฟู่จินอันคราวนี้ฉันจะเด็ดหัวเธอไม่ให้เหลือเงาเวลานี้ชีวิตกลางคืนในผับเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น ดนตรีเสียงดังกระหึ่มแก้วหู บนฟลอร์ มีหนุ่มสาวเต้นนัวเนียกันอย่างคึกคัก ราวกับว่าพวกเขาได้เข้าสู่ในโลกอีกใบที่แปลกประหลาดขณะที่ฉันกำลังจะเปิดห้องส่วนตัวอย่างที่ทำปกติ เจียงไหลก็ดึงฉันเอาไว้ "นั่งข้างนอกเถอะ ข้างนอก...สนุก""...ได้"

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 172

    ฉันสะดุ้งพรวด เมื่อหันกลับไปก็ประสานเข้ากับดวงตาสีเหลืองอำพัน แล้วก็อดไม่ได้ที่จะลูบหน้าอก "รุ่นพี่ ทำฉันตกใจหมดเลย!""ขอโทษที"เขาโค้งริมฝีปากยิ้มเบาๆ "ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะ ผมแค่เดินผ่านมาพอดี"ฉันยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนิดหน่อย "มาพบลูกค้าหรือมากับเพื่อนคะ?""มากับเพื่อน"ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยเสียงนุ่ม ขณะที่หันไปมองเจียงไหล ก็รีบซ่อนความรู้สึกหนักใจในแววตาเอาไว้นั่นทำให้ฉันรู้ทันที ว่าเพื่อนที่เขาพูดหมายถึงใครเจียงไหลเองก็ดูออกเช่นกัน "พวกเธอคุยกันไปเถอะ ฉันไปเต้นก่อน"ทันทีที่เธอเข้าผับมาก็ถอดเสื้อคลุมออก ในด้านเหลือเพียงชุดกระโปรงสายเดี่ยวผ้าซาตินสีดำ เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าทรงสวย เมื่อไปถึงฟลอร์ ก็ดึงดูดสายตาของผู้คนไม่น้อยยิ่งเมื่อเธอเริ่มเต้น ก็ยิ่งทำให้ทุกสายตาราวกับต้องมนต์สะกดฉันมองลู่สือเยี่ยนที่กำลังนั่งลง แล้วถาม "แผลดีขึ้นหรือยังคะ ไม่น่าจะดื่มเหล้าได้นะ?""แผลไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ดูน่ากลัวก็เท่านั้น"เขาส่ายหน้าอย่างไม่สนใจอะไรมาก แล้วยกหางตาส่งซิก "ผมไม่ได้ดื่ม แค่มาเป็นเพื่อนเฮ่อถิงดื่มย้อมใจน่ะ"ฉันมองเจียงไหลที่กำลังเต้นอย่างเร่าร้อนแวบนึง แล้วก็หัวเราะอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 173

    ระหว่างทางกลับบ้าน ลู่สือเยี่ยนบังคับพวงมาลัย แล้วเอียงศีรษะมามองฉันแวบนึง "ยังเป็นห่วงเจียงไหลยู่หรอ?""เปล่า"ฉันส่ายหน้า "เธอสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ด้วยตัวเอง"ทุกเรื่องที่เจียงไหลทำ ล้วนเกิดจากการไตร่ตรองมาดีแล้วฉันเชื่อว่าเธอมีความสามารถที่จะเอาตัวรอดได้ทันท่วงที"อืม"ลู่สือเยี่ยนรับคำเสียงเรียบ "แล้วเรื่องที่จะมา MS คิดไปถึงไหนแล้ว?""รุ่นพี่ ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะคะ"ฉันขอบคุณเสร็จ ก็อธิบายต่อ "ตอนนี้ฉันคงไป MS ไม่ได้ ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ฉันอยากจะชะลอเรื่องนี้เอาไว้ก่อน"จัดการเรื่องที่ต้องจัดการให้สบายใจไปก่อนแล้วค่อยตั้งหน้าตั้งตาไปทำงานลู่สือเยี่ยนไม่ได้ติดใจเลยแม้แต่นิดเดียว แต่แค่พูดยิ้มๆ "งั้นสงสัยว่า เราคงจะเป็นเพื่อนร่วมงานกันไม่ได้แม้แต่วันเดียวแล้วสิ""หือ?"ฉันไม่เข้าใจดวงตาของลู่สือเยี่ยนลึกล้ำมีนัยยะ ริมฝีปากบางเผยอออก คละคลุ้งไปด้วยความอ่อนโยนเบาบางจนแทบสังเกตไม่เห็น "เรื่องบางเรื่องก็ต้องรีบไปจัดการล่วงหน้า เพราะงั้น ผมกำลังจะกลับตระกูลลู่แล้วล่ะ""กลับตระกูลลู่?"ฉันแปลกใจนิดหน่อย ฟังจากความหมายของลู่สือจิ่ง ตอนนี้สวีจื่อเป็นใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 174

    ฉันตกตะลึงในความมั่นใจของเขาใช่ ฉันไม่ปฏิเสธว่าเคยชอบเขามากๆ แต่เขากล้าดียังไงถึงได้คิดว่าฉันจะรอเขาอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน และจะเลือกแต่เขาตลอดไปฉันหมุนข้อมือที่ถูกเขาตรึงออก แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่หลุด จึงพูดออกไปอย่างเน้นย้ำชัดทุกคำ "ฉันไม่เต็มใจ ฟู่ฉีชวน ปล่อย!"แสดงไฟสาดลงมาปกคลุมเหนือศีรษะของชายหนุ่ม ดวงตาของเขาเริ่มลึกล้ำยากจะคาดเดามากขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงก็เย็นชาราวกับน้ำแข็ง "เยี่ยมมาก เธอพัฒนาเร็วดีนี่"แต่วินาทีต่อมา เขาก็ผลักฉันเข้าไปในรถด้วยมือเปล่า แล้วปิดประตูดังปึ้งโดยไม่สนใจฉันที่กำลังจะเปิดประตูรถ แต่ดันประตูปิดเอาไว้อย่างแน่นหนาที่ด้านนอกรถ ชายหนุ่มทั้งสองคนที่มีสูงเกือบร้อยแปดสิบ กำลังแผ่รังศีไปทั่วบริเวณ ความตึงเครียดปะทุขึ้นอย่างดุเดือดฉันกลัวมากว่าพวกเขาจะลงไม้ลงมือกันขึ้นมาอีก ทว่าไม่รู้ว่าฟู่ฉีชวนพูดอะไรออกไปประโยคนึง แต่เท่านั้นก็ทำให้ลู่สือเยี่ยนหยุดการปะทะในทันทีสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความห่อเหี่ยวและอดกลั้นฟู่ฉีชวนดึงประตูรถออก ดันตัวฉันเข้าในด้านใน เมื่อขึ้นรถมา ฉันก็ได้ยินลู่สือเยี่ยนพูดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ "ประธานฟู่ คุณก็เหลือลูกเล่นแค่นี้แหละ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 175

    สุดท้ายแล้ว ก็เป็นตระกูลลู่ต่างหากที่ทำผิดต่อเขาแล้วก็แม่ของเขา เขาก็แค่มาทวงคืนสิ่งที่ควรเป็นของเขาก็เท่านั้นฉันมองหน้าฟู่ฉีชวน "อีกอย่าง ต่อให้เขาจะร้ายลึกขนาดไหน หรือต่อให้ฉันถูกเขาหลอกไปขาย แต่ยังรู้สึกซาบซึ้ง มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ""ตราบใดที่คุณกับผมยังไม่ได้หนังสือหย่า มันก็เกี่ยวกับผมอยู่วันนึงค่ำ!!"เหมือนว่าเขาก็หัวร้อนจนต้องหัวเราะออกมา เขาดันปลายลิ้นตรงกระพุ้งแก้ม "หร่วนหนานจือ ฝันไปเถอะว่าจะได้สวมเขาให้ผม"พูดจบ ก็ออกคำสั่งกับคนขับเสียงเรียบ "ออกรถ! กลับคฤหาสน์เก่า!"ฉันอึ้ง เบิกตาโพล่งมองเขา "คุณคิดจะทำอะไร?""ตราบใดที่ยังไม่ได้หนังสือหย่า เลิกคิดได้เลยว่าจะได้ไปแอบเจอลู่สือเยี่ยน!"เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่สมเหตุสมผลของเขา ฉันก็โมโหจนแทบเสียสติ พยายามขัดขืนสุดชีวิต "คุณมีสิทธิ์อะไรมาวุ่นวายกับอิสรภาพของฉัน?!"เขาพูดไม่แยแส "สิทธิ์ที่ยังเป็นผัวอยู่ไง!""..."ฉันสูดหายใจลึกๆ พูดกึ่งถากถาง “สามีแบบใด? คำพูดของฉัน คุณเคยเชื่อสักครั้งหรือเปล่า?”ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาลึกล้ำ "เรื่องที่โรงพยาบาลวันนี้?""ไม่งั้นจะเรื่องอะไร?"เขาบีบหว่างคิ้ว น้ำเสียงหนักแน่

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 296

    "แม่...มีสิทธิ์อะไร...หนูเป็นลูกค้านะ!""ทำตามที่บอก!"แม่เสิ่นกลืนน้ำลายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โจวฟาง มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “คุณหร่วน ในฐานะดีไซเนอร์ชุด โปรดอย่าลืมไปร่วมงานเลี้ยงหมั้นในสัปดาห์หน้าด้วย หากมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับชุด ก็สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที”“เดินทางปลอดภัย ไม่ไปส่งค่ะ”ฉันทำท่าส่งแขก จากนั้นจึงพูดว่า "ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่ ก็โอนเข้าบัญชีเดียวกับครั้งที่แล้ว ขอบคุณ"……เรื่องตลกจบลงแล้ว ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้วฉันเลยตัดสินใจเสนอพาพวกเขาไปกินหม้อไฟเมื่อเพิ่งมาถึงที่จอดรถใต้ดิน เจียงไหลได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับงานปาร์ตี้สังสรรค์และตัดสินใจทิ้งฉันไว้เหลือแค่ฉัน โจวฟาง และโจวโม่โจวฟางชูคอ หันหน้ามาทางฉัน แล้วพูดว่า "ไปนั่งรถฉันมา พรุ่งนี้จะไปส่งโมโม่ที่ทำงาน""โอเค"ขณะที่ฉันเดินไปเปิดประตูเบาะหลัง โจวโม่ก็ผลักฉันให้ไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า "พี นั่งเบาะหน้าเถอะ เบาะหลังแคบเกินไป"นั่นคือข้อเสียของรถสปอร์ต ดูดีแต่ไม่สบายตอนนั่งฉันเปิดแอพอาหารแล้วคิดว่าจะไปที่ไหน โจวฟางก็หาวแล้วพูดว่า "ฉันเหนื่อยแล้ว กลับบ้านไปกินข้าวเถอะ สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้"ไม่ใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 295

    ลูกวัวแรกเกิดอย่างโจวโม่ไม่กลัวเสือ ซึ่งทำให้เจียงไหลและฉันต่างจ้องมองกันหลังจากที่รู้ตัว ฉันก็กลัวว่าแม่เสิ่นจะลากเธอไปเอี่ยว ดังนั้นฉันจึงดึงเธอไว้ข้างหลัง“ถ้ามีปัญหาอะไรก็เอามาคุยกับฉันสิ”"พี่!”โจวโม่ไม่กลัวเลยและมองไปที่แม่เสิ่น "คุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่ต้องการชุดนี้แล้วเหรอ? งั้นก็ให้เสิ่นซิงหยูออกมา ไม่ต้องไปลองมันแล้ว""ฮ่า!"แม่เสิ่นยิ้มเยาะหลายครั้ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก “คำพูดของเธอนี่ช่างขำจริงๆ เธอก็แค่พนักงานธรรมดาๆ เธอคิดว่าเจ้านายของเธอจะเห็นด้วยกับเธอไหม? เธอรู้ไหมว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่....”"ฉันซื้อได้!”โจวโม่พองหน้าเล็กๆ และพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเย่อหยิ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำกล่าวที่เกินจริงของเธอใบหน้าของแม่เสิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างน่าตกใจ สั่นเทาด้วยความโกรธ “หร่วนหนานจือ นี่ก็เป็นจุดยืนของเธองั้นเหรอ?”“ถ้าคุณไม่พอใจกับชุดนี้ นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดี”ฉันยิ้มอย่างสุภาพ น้ำเสียงของฉันสงบและนิ่งแม่เสิ่นกัดฟันและจ้องไปที่โจวโม่ “เธอแน่ใจนะว่า ซื้อมันได้ ชุดนี้ราคาเกิน 25 ล้าน!”“แค่ 25 ล้านเอง คุณป้า คุณไม่มีเงินหรือไง?”โจวโม่เอีย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 294

    ฉันไม่ได้คิดอะไรมากและหัวเราะ “เราออกไปนานแล้ว ฉันถึงบ้านแล้วและอาบน้ำแล้ว”"งั้นก็ดีแล้ว"“หลิน… ลุงของหลาน เขาไม่ได้ก่อเรื่องอีกแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะไปกับลู่สือเยี่ยน เขาเตือนหลินกั๋วอันหลินกั๋วอันพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบจะคุกเข่าลงคุณป้าพยักหน้าแล้วพูดว่า "ไม่ ไม่ต้องห่วง เขาใบหย่าไปแล้วและเพิ่งกลับไป"ฉันแปลกใจเล็กน้อย "เซ็นต์ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวลู่สือเยี่ยนในระดับหนึ่งเมื่อคืนนี้เอง ยัวยืนกรานที่จะแบ่งทรัพย์สินของฉันคุณป้าถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ใช่แล้ว หลานต้องขอบคุณประธานลู่นะ เขาเป็นคนดีมาก”"โอเค ไม่ต้องกังวล ฉันจะหาโอกาสขอบคุณเขาเอง"ถ้าคุณป้าสามารถหย่าร้างได้อย่างราบรื่น ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขความกังวลในใจของฉันไปได้หนึ่งเปาะด้วยวิธีนี้ ฉันจะต้องดูแลคุณป้าของฉันเท่านั้นในอนาคต โดยไม่ต้องรับมือกับคนชั่วคนนี้……หนานซีเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และธุรกิจของเราก็อยู่ในระดับปานกลางตามธรรมชาติแต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตารางงานที่ยุ่งของฉันฉันใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนในการทำชุดหมั้นของเสิ่นซิงหยูในที่สุดเพชร ไข่มุก ทับทิมตร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 293

    ฉันหันกลับมาทันทีและกำลังจะถาม แต่ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาด้วยท่าทางไม่พอใจ"หนานจือ"ฉันพยักหน้าและพูดว่า "รุ่นพี่"ทันทีที่หลินกั๋วอันเห็นเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาตัวสั่นและพูดว่า "ประธานลู่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้?"เห็นได้ชัดว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนสายตาของลู่สือเยี่ยนมองมาที่ฉัน และหลังจากยืนยันว่าฉันปลอดภัยดี สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินกั๋วอัน “ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันบอกคุณอะไรไปเมื่อครั้งก่อน?”“ไม่ ไม่ ฉันไม่กล้า!”หลินกั๋วอันปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา โดยแสดงรอยยิ้มประจบประแจงและระมัดระวัง "ฉัน... ฉันเพียงมาพบภรรยาของฉัน บังเอิญว่าผู้หญิงคนนี้มาพอดี"ฉันเห็นว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนมาก ฉันจึงใช้โอกาสนี้ถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป? คุณเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่ามาบอกฉันนะ มันเป็นแค่การพูดลอยๆ"ประโยคนี้ ลู่สือเยี่ยนก็ได้ยินเช่นกันหลินกั๋วอันหดตัวลงชั่วขณะ หลบตาคุณป้าของฉัน กัดฟันแล้วพูดขึ้นมาว่า "ฉัน..."“คุณควรพูดความจริงดีกว่า”ลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่สงบแต่หนักแน่น ยิ้มอย่างสุภาพแต่แฝงไปด้วยความคุกคาม "ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมัก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 292

    "หนานจือ ลุงของคุณได้รับจดหมายแจ้งการฟ้องหย่าของเราแล้ว"ทนายฟางอดไม่ได้ที่จะเตือนฉันว่า "แต่ตอนที่ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ไปเจอลุงของคุณเข้า เขาหน้าซีดมาก และอาจทำให้คุณป้าของคุณเดือดร้อนได้""โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ! ฉันจะไปดูทันที"คุณป้าของฉันอยู่ในระยะวิกฤตของการรักษา และกระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่อ่อนไหวและเต็มไปด้วยอารมณ์การทะเลาะกันใหญ่โต ไม่ดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเธอฉันวางสายโทรศัพท์และกลับไปที่ห้องส่วนตัว ฉันเอนตัวไปที่หูของเจียงไหลและพูด "ไหลไหล ฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้กับเธอนะ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านคุณป้า ฉันต้องลองไปดู"สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและเธอพูดอย่างวิตกกังวล "เป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันพาเธอไปเอง""ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่"ฉันตบไหล่เธอ “เธออยู่ที่นี่และทำให้ทุกคนสนุกสนาน อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้เสียบรรยากาศ”เมื่อพูดจบ ฉันก็คว้ากระเป๋าและบอกลาทุกคนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินออกไปลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นทันทีเช่นกัน “คุณดื่มแอลกอฮอล์มา ฉันจะพาคุณไปเอง”"โอเค"ฉันรู้ว่าเขามาทานอาหารเย็นนี้เพราะฉันเท่านั้น ถ้าฉันออกไป เขาก็คงไม่อยากอยู่เหมือนกันขณะที่ดินออกไป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 291

    ในขณะนั้นเอง มีคนจากภายในห้องดึงประตูเปิดออกพอดีตอนที่ฉันกำลังจะแอบดู พนักงานเสิร์ฟก้าวเข้ามา ทำให้ฉันไม่สามารถมองอะไรได้เลยสถานที่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของแขกเป็นอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟถามว่า “สวัสดี คุณเป็นเพื่อนของคุณเซียวและกลุ่มของเขาหรือเปล่า?”แซ่นี้ฟังดูไม่คุ้นเลยฉันต้องส่ายหัวและบอกว่า "ไม่ ฉันเข้าห้องส่วนตัวผิด"เมื่อฉันหันหลังกลับและออกไป ดูเหมือนว่าใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้ขนที่คอของฉันลุกชันเมื่อหันกลับไปมอง สิ่งที่ฉันเห็นก็คือประตูห้องส่วนตัวที่ปิดสนิทแล้วเมื่อกลับมาที่ห้องส่วนตัว เจียงไหลสั่งอาหารเสร็จแล้ว “เอาล่ะ เธอมีอะไรอยากสั่งไหม?”"ฉันไม่เลือกหรอก สั่งมาเลย"เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ฉันรู้สึกหนักใจเล็กน้อยไม่ใช่ใครที่ฉันรู้จัก แต่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันมากแทบจะเป็นสถานการณ์เดียวกันฉันไม่เคยได้ยินว่ามีเพื่อนสนิทแซ่เซียวจากฟู่ฉีชวนเลยเจียงไหลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและโน้มตัวเข้ามาที่หูของฉัน "เธอกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 290

    เจียงไหลไม่เห็นด้วยกับความคิดของฉัน "อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็หย่าแล้ว เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้ได้แค่พูดไม่กี่คำเหรอ? จะดีกว่าไหมที่จะกำหนดเส้นตายแบบนี้"ตอนนั้น ฉันก็คิดเหมือนกันตอนที่ฉันรู้ว่าลู่สือเยี่ยนแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเวลา 20 ปี ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีมากแต่เมื่อฉันรู้ว่าเป็นฉัน ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากกว่าเป็นหนี้บุญคุณ....ยากที่จะตอบแทนในช่วงเวลาที่ฉันเงียบๆ เจียงไหลนอนลงบนโต๊ะ เขย่าต่างหูของฉันด้วยนิ้วของเธอ "อาหร่วน ทำไมเธอไม่ลองคบกับลู่สือเยี่ยนดูล่ะ มีผู้ชายที่ทุ่มเทขนาดนี้เพียงไม่กี่คนในสมัยนี้""ก็เพราะว่าเขาดีมาก ฉันจึงต้องระมัดระวังมากขึ้น"ไม่เช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นการเล่นกับอารมณ์ของคนอื่นเมื่อมีคนมอบใจให้ 100% ก็ควรให้ใจกลับไป100% ด้วยถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันก็ควรปล่อยเขาไปเร็วกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้หาคนที่ทำได้เจียงไหลไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ เธอจึงยอมแพ้และพูดว่า "เอาล่ะ คืนนี้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านประจำกันเถอะ"ร้านประจำที่เธอพูดถึงเป็นคลับเฮาส์ที่เธอเคยไปบ่อยๆฉันเดาะลิ้น “มันจะแพงเกินไปไหม?”“ไม่ต้องห่วง ฉันเลี้ยงเอง”"เงินขอเธอหล่นลงมาจากฟ้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 289

    ฉันสับสนมากไม่ใช่เขา แล้วใครส่งมา?การติดต่อครั้งเดียวที่เรามีกับRF กรุ๊ปก็ผ่านเขาเท่านั้น…ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เสียงของเฉินเย่ที่นึกขึ้นได้ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย "ใช่ ๆ ฉันจำได้แล้ว เป็นฉันเอง! จริงๆ แล้ว ฉันขอให้ผู้ช่วยของฉันสั่งให้ แต่เขาอาจจะสั่งผิด ฉันขอให้เขาสั่งตระกร้าดอกไม้ 99 ใบเพื่อบริษัทของคุณประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง"เฉินเย่รู้สึกเสียใจเล็กน้อยและพูดว่า "ตะกร้าดอกไม้ 999 ใบมันมากเกินไปจริงๆ มันทำให้คุณเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า?"“เข้าใจแล้ว…”ฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อมองไปที่ช่อดอกไม้ที่เรียงรายเต็มไปหมดจนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ลิฟต์ไปจนถึงออฟฟิศของเรา “ไม่ใช่ปัญหาจริงๆ… แต่บางทีฉันควรคุยกับร้านดอกไม้เกี่ยวกับการคืนดอกไม้บ้าง? ไม่งั้นมันจะฟุ่มเฟือยเกินไป”“ไม่จำเป็น ฉันไม่สนใจเรื่องค่าใช้จ่าย”เฉินเย่พูดออกไป แล้วกระแอมอีกครั้งแล้วพูดเสริมว่า "ผู้ช่วยของฉัน เขาแค่มาทำงาน เพื่อต้องการเปิดประสบการณ์ชีวิต เขาเป็นคนร่ำรวยมาก และฉันจะหักเงินนี้จากโบนัสของเขา"“…โอเค”ฉันขอบคุณอีกครั้ง แพูดคุยอย่างสุภาพอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายเจียงไหลเอนตัวเข้ามาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เขาให้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 288

    ฉันรู้ดีว่าคงไม่ใช่ฉันหรอก แค่การตอบกลับตามวามเคยชินเขาหรี่ตาอย่างอันตราย แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่อรับ "พวกที่รังแกคุณต้องชดใช้ยังไง"ฉันหัวเราะเบาๆ “แล้วไงต่อ”“ไม่มีแล้วไงต่อ”โจวฟางเม้มปากและเอนหลังพิงพนักพิงศีรษะ ขนตาของเขาปิดบังอารมณ์ทั้งหมดของเขาไว้ "ชื่อคุณอยู่ในสมุดทะเบียนบ้านของตระกูลหร่วน และก่อนที่ชิงหลี่จะจากไป คุณก็เป็นหร่วนหนานจือของตระกูลหร่วนไปแล้ว""แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันเหมือนคุณย่าเลย บางครั้งก็ถูกดึงดูด""......"ฉันเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที และฉันก็เฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวังเขาหัวเราะอย่างไม่เชื่อและกดลิ้นทับฟันกรามของเขา “ทำไมถึงมองแบบนั้น คุณคิดว่าฉันสิ้นหวังขนาดจะยอมคบกับใครก็ได้งั้นเหรอ?”“นั่นพูดยาก”ฉันยิ้มและดึงเสื้อโค้ทให้กระชับขึ้นโดยตั้งใจ หวังว่าจะช่วยคลายความตึงเครียดในรถได้เขาหาวและพูดออกมาสองคำอย่างไม่ใส่ใจว่า “เด็กน้อยจัง”จากนั้น เขาก็หยิบผ้าปิดตาออกมาจากที่ไหนสักแห่งโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และหลับไปอย่างสงบ……วันรุ่งขึ้นเป็นวันเปิดตัวหนานซีอย่างเป็นทางการพนักงานใหม่หลายคนมาแต่เช้า เต็มไปด้วยพลังงาน ทำให้บรรยากาศของบริษัทดีขึ้นท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status