แชร์

บทที่ 146

ผู้เขียน: เล่อเอิน
"เธอจะภูมิใจอะไรนักหนา?!"

เธอโมโหหายใจเร็วจนอกกระเพื่อม แววตาของเธอแผ่รังสีโกรธเกรี้ยวอาฆาตร "หร่วนหนานจือ เธอบังคับฉันเองนะ เธอให้เขาไล่ฉันออกนอกประเทศใช่ไหม...รอตำแหน่งนายหญิงของตระกูลฟู่เป็นของฉันเมื่อไหร่ก่อนเถอะ ฉันจะไสหัวแกให้ออกไปจากเมืองเจียงเฉิง!"

"ไล่เธอออกนอกประเทศ?"

ฉันคาดไม่ถึง

คิดว่าฟู่ฉีชวนรับปากสัญญากับฉันแล้ว แต่เขาก็คงเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ อย่างมากก็คงไม่แต่งงานกับเธอ ไม่คาดคิดว่าจะตัดขาดได้อย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้

"เลิกสะตอสักที! อาชวนดีกับเธอขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาจะตัดขาดกับฉันแบบนี้ได้ไง!"

"..."

"ฉันขอบอกเธอไว้ ฉันจะไม่บินออกนอกประเทศ เธอล้มเลิกความหวังซะเถอะ!"

"เธอไปบอกกับเขาสิ คนที่ไล่เธอออกนอกประเทศไม่ใช่ฉัน"

พูดจบ ฉันขณะกำลังจะเทน้ำดื่ม ฉันก็ได้ยินฟู่จินอันพูดเย็นชาเสียงดัง

"ฉันฆ่าลูกของแกตาย แกคงแค้นฉันมากล่ะสิ?"

ทันใดนั้นฟู่จินอันก็หัวเราะขึ้นมา แววตาร้ายกาจ

หัวใจของฉันเหมือนถูกคนแทงอย่างแรง ฉันหันไปมองเธอ "ฟู่ฉีชวนเป็นคนบอกเธอหรอ?"

"ไม่ใช่ เรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องบอกฉัน"

หล่อนยิ้มเหมือนภาคภูมิใจ เดินกระแทกส้นสูงทีละก้าวเข้ามาฉัน "ฉันเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 147

    ในแววตาของฟู่จินอันคือรอยยิ้มได้ใจ!ทันใดนั้นฉันก็เข้าใจจุดประสงค์ของเธอ ฉันไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อยและค่อยๆชักมือกลับ ภายใต้สายตาตกตะลึงของฟู่ฉีชวน ฉันพูดอย่างเรียบเฉย "ตามที่คุณเห็น"ถึงยังไงก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาฟังคำอธิบายจากฉันอีกอย่าง เขาตอนนี้ยังได้เห็นเองกับตา ถ้าอธิบายมากไปก็มีแต่จะเข้าตัวเองเมื่อก่อนฉันกังวลเรื่องที่ไม่มีมูลว่าเขาจะคิดว่าฉันเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตรึเปล่า แต่ตอนนี้ ฉันไม่สนอะไรแล้วไม่มีอะไรเศร้ากว่าหัวใจที่ตายด้าน มันก็คงจะประมานนี้เขาจะมองฉันยังไง มันไม่สำคัญเลยสักนิดฟู่จินอันกุมบาดแผลของตัวเอง น้ำตานองเต็มหน้า "อาชวน ช่วยฉันด้วย...ฉันเจ็บเหลือเกิน! เธอบ้าไปแล้ว จู่ๆ ก็หยิบมีดมาแทงฉัน..."อายุ 30 กันแล้ว ยังจะแสร้งว่าตัวเองบริสุทธิ์เหมือนดอกบัวขาวฉันยิ้มหัวเราะ "ร้องอะไรนักหนา เป้าหมายของเธอไม่ใช่รึไง? บรรลุเป้าหมายแล้ว ต้องมีความสุขสิถึงจะถูก"ยั่วโมโหฉัน กะเวลาที่ฟู่ฉีชวนจะมาและบีบให้ฉันต้องลงมือขิงต้องแก่ถึงจะเผ็ดฟู่จินอันร้อนใจขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้หนักมากกว่าเก่า "เธอพูดส่งเดชอะไร...ฉันก็แค่มาขอร้องเธอ อย่าให้อาชวนไล่ฉันออกนอก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 148

    "ฉินเจ๋อ?"เสียงของฟู่ฉีชวนเย็นเยือกจนน่ากลัว "ยืนเป็นสากกะเบือทำไม เอาเธอไปส่งโรงพยาบาล!"ฟู่จินอันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เธอยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ฉินเจ๋อก็ลากเธอเข้าไปในลิฟต์อย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง!เธอไม่ลืมจะจงใจแกล้งทำเลือดหยดลงพื้นฉันหันมองไปทางที่พวกเขาเดินออกไป ฉันจ้องมองเขม็งอย่างอดไม่ได้ ฉันยังคงหายใจแรงจนอกกระเพื่อม"หนานจือ เราไปล้างมือกันก่อนดีกว่า?"ราวกับว่าฟู่ฉีชวนกลัวจะทำฉันโมโห น้ำเสียงเลยนุ่มนวลเหมือนกับกำลังปลอบเด็กฉันมองเขาและถามอย่างช้าๆ "คุณไม่โทษฉันที่ทำร้ายเธอหรอ?"นี่ไม่ใช่นิสัยของฟู่ฉีชวนเขาควรจะต้องอ้างเหตุผลมาปกป้องฟู่จินอัน เข้าข้างฟู่จินอันถึงจะถูกสิเขาถอนหายใจและจูงฉันเดินมาที่ห้องน้ำและเปิดก็อกน้ำ เขาลองเช็คอุณหภูมิน้ำ จากนั้นก็ค่อยเอามือของฉันไปวางไว้ใต้ก็อก บีบเจลล้างมือใส่และล้างมือให้ฉันอย่างบรรจง"คุณตบเธอแบบนั้น มือคุณเองไม่เจ็บหรอ?"ฉันชะงักไปเล็กน้อย ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมาฉันก้มหน้าลงมองนิ้วงามเรียวยาวของเขาที่กำลังสัมผัสกับนิ้วของฉัน ฉันยิ้มให้กับตัวเองถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ฉันอาจจะใจอ่อน เมื่อก่อนขอแค่เขาทำดีกับฉันเล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 149

    ฟู่ฉีชวนราวกับจนปัญญา เขามองฉันและอธิบายอย่างนุ่มนวล "เธอตอนนั้นเองก็เสียลูกไปเหมือนกัน ต่อให้ไปขึ้นศาล ศาลก็คงไม่มีทางตัดสินอย่างที่คุณต้องการหรอก""หรอ..."ฉันพยักหน้าให้กับตัวเอง รู้สึกเหมือนเคว้งคว้างว่างเปล่า "งั้นจะบอกว่า ลูกของฉันต้องตายฟรี?"เขาเหมือนกลัวฉันจะหุนหันพลันแล่น เลยรีบปลอบฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ไม่ใช่แบบนั้น มันยังมีอีกหลายวิธี...""วิธีอะไร?"ฉันยิ้มมุมปาก "จะส่งเธอไปต่างประเทศ งั้นให้ฉันเลือกประเทศได้ใช่ไหม?""ได้"เขาถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าโดยแทบไม่ต้องคิดฉันมองใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเขาแลหัวเราะ "งั้นส่งเธอไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วกันอย่างเช่นพม่า เวียดนาม ลาว...อ้อ แล้วก็แค่ส่งเธอ ห้ามให้เงินเธอใช้""หนานจือ...""ไม่ได้หรือไง?"ไม่ใช่ว่าฉันไม่เห็นสีหน้าไม่อยากเชื่อของเขา แต่ฉันจะทำแบบนี้ฟู่จินอันจะต้องชดใช้ราคาที่เธอต้องจ่ายเขาขมวดคิ้ว "ประเทศแถวนั้นวุ่นวาย ตั้งแต่ยังเด็กเธอ..."เขาพูดได้แค่ครึ่งประโยค มือถือในกระเป๋าเสื้อสูทรก็ดัง เขาหยิบออกมาดู เป็นฉินเจ๋อโทรเข้ามาฉันเลยพูดแดกดันใส่เขา "รับสิ อาจช่วยชีวิตเอาไว้ไม่ทันเลยรีบเรียกคุณไปรั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 150

    ขณะฉันถามคำถามนี้ หัวใจของฉันก็รู้สึกเคว้งคว้างขึ้นมาเพราะฉันคิดมาตลอดว่าการตายของคุณปู่ย่อมเกี่ยวข้องกับฟู่จินอัน แต่ว่าก็ไม่มีหลักฐานโชคดีที่ลุงเฉิงตอบกลับมาในทันที "มีครับ ถึงลายนิ้วมือจะมีขนาดเล็ก แต่พอลองเทียบพิสูจร์แล้วก็เป็นของเธอจริงๆ""ที่แท้ก็เป็นเธอจริงๆ..."พอฉันได้คำตอบ ทว่ากลับไม่ได้รู้สึกดีใจ รู้สึกว่าไม่ควรเกิดกับคุณปู่เลย ถ้าหาก...ถ้าหากคุณปู่วันนั้นไม่ได้พบกับฟู่จินอัน ตอนนี้คงได้เห็นคุณปู่ก็คงจะกวักมือเรียกฉันอย่างใจดี เรียกฉันว่า 'ยัยหนู' อยู่ใช่ไหมลุงเฉิงโกรธมาก "คุณท่านถึงแม้จะไม่เคยยอมรับในตัวเธอเลย แต่คุณท่านก็ไม่เคยกลั่นแกล้งเธอ เธอทำไมถึงไม้ไส้ระกำทำแบบนี้""ใช่ค่ะ"ฉันคิดอยู่หลายรอบก็ยังไม่เข้าใจ "ลุงเฉิง ฉันยังมีจุดที่ไม่เข้าใจ วันนั้นที่คุณปู่ตบฟู่ฉีชวน เขาก็ไม่ได้โกรธถึงขั้นอาการกำเริบ แล้วเธอพูดอะไรกับคุณปู่ถึงทำให้คุณปู่อาการกำเริบจนองเอยแบบนี้ได้?"อย่างแรกคือยั่วโมโหคุณปู่จนอาการกำเริบ ต่อมาก็ห้ามไม่ให้คุณปู่ทานยาช่วยชีวิตฉุกเฉินเหมือนกับวันนี้ที่เธอกระตุ้นยั่วโมโหให้ฉันลงมือ จากนั้นก็ให้ฉันตกกลุมพรางลุงเฉิงเองก็ไม่เข้าใจ "ผมเองก็คิดไม่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 151

    ฉันอดยิ้มไม่ได้ "ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ..."พอเดินเลี้ยวตรงแยกก็มีรถตู้สีดำขับเข้ามาหา ฉันถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ ทันใดนั้นรถคันนั้นก็เร่งความเร็ว เข้ามาจอดข้างๆ ฉัน!"เอี๊ยด..."เสียงเสียดสีของล้อกับถนนดังจนแสบแก้วหูฉันขมวดคิ้ว ขณะกำลังคิดจะหนี ชายหนุ่มสวมหมวกแฟลตแค๊ปคนหนึ่งเปิดประตูลงมาจากรถ ก้าวเพียงสองก้าวก็เดินมาอยู่ตรงหน้า เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเข้ามาปิดปากและจมูกของฉัน!"แกจะทำอะไร..."ทั้งหมดเกิดขึ้นไม่ถึง 5 วินาที ฉันยังไม่ทันพูดจบ ฉันไม่มีเวลาให้ขัดขืนด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จะหนีเอาตัวรอดเลยกลิ่นของยาสลบรุนแรง ระยะเวลาสั้นๆ เพียงสามวินาที ฉันก็หมดสติไป หูฟังของฉันหล่นบนพื้นขณะพวกเขากำลังยื้อยุดฉุดกระชาก……พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันรู้สึกเหมือนหัวหนักๆ แขนขาไร้เรี่ยวแรง แม้แต่แรงจะลุกก็ยังไม่มีได้แต่ลืมตาสะลึมสะลือ สังเกตุสภาพแวดล้อมรอบด้านตอนนี้ยังอยู่บนรถตู้สีดำ ฉันถูกโยนไว้ตรงมุมที่นั่งแถวท้ายสุด แขนขาถูกมัดเอาไว้ หน้าผากพิงอยู่กับหน้าต่างรถ ถนนด้านนอกล้วนเป็นสีดำมืดสนิทแต่พอจะเห็นได้ลางๆ มันคือชานเมืองบนรถถ้านับรวมคนขับไปด้วย มีทั้งหมด 4 คน หนึ่งในนั้นคือคนที่สวมหมวกแฟ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 152

    ใกล้จะหย่ากันแล้ว ฉันไม่อยากติดค้างน้ำใจอะไรกับฟู่ฉีชวน!ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือหนี้ของหลินกั๋วอัน ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ยอมไปใช้หนี้แทนคนประเภทนี้แน่นอน"ฉันรู้ดีว่าเขาเป็นใครมีฐานะอะไร"ชายเสียงเป็ดคนนั้นมุ่ยปากและกดปุ่มโทรออกพร้อมกดปุ่มเปิดลำโพง "เราไม่อยากผิดใจกับเขา ถ้าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาจริง ฉันก็ไม่ได้โง่ขนาดหาเรื่องให้กับตัวเอง"ขณะฟังเสียงต่อสายโทรศัพท์ "ตู๊ด...ตู๊ด..." ฉันรู้สึกอึดอัดใจฉันควรขอร้องเขาให้มาช่วย หรือฉันควรปฏิเสธความสัมพันธ์ฉันกำลังชั่งน้ำหนักความคิดทั้งสองในใจ แต่ว่าทันทีที่สายถูกรับ ฟู่ฉีชวนก็ให้คำตอบกับฉันปลายสายเสียงของฟู่จินอันดังขึ้นมาก่อน"ใคร? ดึกดื่นขนาดนี้แล้วโทรมาอยู่ได้..."ฉันกำมือจิกเล็บแน่น จิกจนรู้สึกเจ็บ "ฉันเอง หร่วนหนานจือ ฟู่ฉีชวนล่ะ?"เขาไม่ได้บอกว่าแค่ไปเซ็นเอกสารหรอกเหรอตอนนี้ขนาดมือถือเขาเองยังไปอยู่ในมือของฟู่จินอันฟู่จินอันแน่นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มระเริง น้ำเสียงดูภูมิใจ ค่อยๆ จีบปากจีบคอพูด "เขาน่ะหรอเขาไม่รู้ว่าหลังจากแท้งไปแล้วประมานเดือนถึงจะมีรอบเดือน เขาคิดว่าฉันรอบเดือนใกล้มา ก็เลยวิ่งไปซื้อผ้าอนามัย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 153

    ชายเสียงเป็ดเดินเข้าไปหาใช้เท้าทีบหลินกั๋วอัน หยิบขวดเหล้าเทรดใส่หัวเขา "ไอสันขวาน แกเล่นลูกไม้กับพี่ไห่งั้นรึ? ภรรยาตระกูลฟู่หรอ? บ้านป้าแกน่ะสิ! ประธานฟู่เขาไปซื้อผ้าอนามัยให้กับแฟนใหม่เขาแล้ว เขาจะมายอมใช้หนี้เงินพนันลุงเขยของอดีตภรรยารึไง?"หลินกั๋วอันไม่ทันได้ระวัง ล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้น เขาพยายามกระเสือกกระสนคลานไปอยู่ตรงหน้าหัวหน้าชายคนนั้น "พี่ไห่ พี่ไห่ครับ! ผมไม่กล้าเล่นลูกไม้กับพี่หรอก เธอเป็นภรรยาของฟู่ฉีชวนจริงๆ วันนั้นที่พวกนายไปโรงพยาบาลก็เห็นไม่ใช่หรอว่าภรรยาฉันพักอยู่ห้อง VIP ถ้าฟู่ฉีชวนไม่สนใจเธอ ภรรยาฉันจะไปพักอยู่ห้อง VIP ในโรงพยาบาลเซิ่งซินได้ไง?"……ฉันจ้องเขม็งมองเขาอย่างอาฆาตร "หลินกั๋วอัน! ลุงมันคนเนรคุณ ถ้าไม่ใช่เพื่อคุณป้า มีหรือหนูจะไปขอร้องฟู่ฉีชวนเพื่อยกให้พักผู้ป่วยนี้ให้ฉัน? ตอนนี้ลุงกลับเอามาใช้ทำร้ายหนูงั้นหรอ?!"หลินกั๋วอันทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินพูด เขากอดขาของพี่ไห่"พี่ไห่ กำขี้ก็ยังดีกว่ากำตด เธอต่อให้หย่ากับฟู่ฉีชวนแล้ว ฟู่ฉีชวนจะไม่แบ่งเงินช่วยเธอสักนิดเลยรึไง? เงินล้านเดียว สำหรับเธอแล้วมันแค่เรื่องเล็กน้อย!"หนึ่งล้านเขาแค่คนจนขี้กุ้ย ทำไมถึ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 154

    พี่ไห่โมโหเอามือตบหัวของชายเสียงเป็ด ตะวาดจนน้ำลายกระเด็น "แม่งูเอ๋ย ฉันโดนแกหลอกแต่แรกเลยหรอวะเนี่ย! อดีตภรรยาบ้านป้าแกที่ไหนล่ะ เจอปัญหาใหญ่แล้ว!""พี่..."ชายเสียงเป็ดชี้ไปยังเท้าของของเขาที่เหยียบอยู่บนหน้าของฉัน "พี่เอาเท้าออกก่อนดีกว่าไหมครับ?"เขาถึงได้ก้มลงมาดู ทันใดนั้นก็สะดุ้ง ขณะกำลังชัดเทากลับ ทันใดนั้นประตูม้วนก็ถูกเปิดออก!เดิมที ฉันคิดว่าเป็นคนที่ลุงเฉิงส่งมาเพื่อเอาเอกสารมาให้ฉัน พอเห็นฉันถูกลักพาตัว ก็เลยส่งคนมาช่วยฉันแต่ตอนนี้พอฉันแหงนหน้าขึ้นมอง ก็เห็นใบหน้าเย็นชาเคร่งขรึมของฟู่ฉีชวนในสายเมื่อครู่นี้ เขา...ไม่ใช่ว่าไปซื้อผ้าอนามัยให้ฟู่จินอันหรอกเหรอ ทำไมถึงมาที่นี่ได้?ระยะห่างจากที่นี่ถึงโรงพยาบาลเซิ่งซิน อย่างน้อยก็ต้องขับรถหนึ่งชั่วโมง"รอง...ประธานฟู่!"พี่ไห่ที่ยโสโอหังเมื่อครู่ ทันใดนั้นก็เสียงนอบน้อม "กระผมได้ยินชื่อท่านมานานแล้ว!"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเขายิ่งทำให้ขนลุกขนพอง "นี่หรอเหตุผลที่ต้องลักพาตัวภรรยาของฉัน?""เข้าใจผิดแล้วครับ นี่ไม่ใช่การลักพาตัว ต่อให้ผมกินใจหมีดีเสือก็ไม่กล้าหรอกครับ"พี่ไห่โยนความผิดชี้ไปทางหลินกั๋วอันและยิ้ม

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 296

    "แม่...มีสิทธิ์อะไร...หนูเป็นลูกค้านะ!""ทำตามที่บอก!"แม่เสิ่นกลืนน้ำลายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โจวฟาง มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “คุณหร่วน ในฐานะดีไซเนอร์ชุด โปรดอย่าลืมไปร่วมงานเลี้ยงหมั้นในสัปดาห์หน้าด้วย หากมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับชุด ก็สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที”“เดินทางปลอดภัย ไม่ไปส่งค่ะ”ฉันทำท่าส่งแขก จากนั้นจึงพูดว่า "ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่ ก็โอนเข้าบัญชีเดียวกับครั้งที่แล้ว ขอบคุณ"……เรื่องตลกจบลงแล้ว ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้วฉันเลยตัดสินใจเสนอพาพวกเขาไปกินหม้อไฟเมื่อเพิ่งมาถึงที่จอดรถใต้ดิน เจียงไหลได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับงานปาร์ตี้สังสรรค์และตัดสินใจทิ้งฉันไว้เหลือแค่ฉัน โจวฟาง และโจวโม่โจวฟางชูคอ หันหน้ามาทางฉัน แล้วพูดว่า "ไปนั่งรถฉันมา พรุ่งนี้จะไปส่งโมโม่ที่ทำงาน""โอเค"ขณะที่ฉันเดินไปเปิดประตูเบาะหลัง โจวโม่ก็ผลักฉันให้ไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า "พี นั่งเบาะหน้าเถอะ เบาะหลังแคบเกินไป"นั่นคือข้อเสียของรถสปอร์ต ดูดีแต่ไม่สบายตอนนั่งฉันเปิดแอพอาหารแล้วคิดว่าจะไปที่ไหน โจวฟางก็หาวแล้วพูดว่า "ฉันเหนื่อยแล้ว กลับบ้านไปกินข้าวเถอะ สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้"ไม่ใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 295

    ลูกวัวแรกเกิดอย่างโจวโม่ไม่กลัวเสือ ซึ่งทำให้เจียงไหลและฉันต่างจ้องมองกันหลังจากที่รู้ตัว ฉันก็กลัวว่าแม่เสิ่นจะลากเธอไปเอี่ยว ดังนั้นฉันจึงดึงเธอไว้ข้างหลัง“ถ้ามีปัญหาอะไรก็เอามาคุยกับฉันสิ”"พี่!”โจวโม่ไม่กลัวเลยและมองไปที่แม่เสิ่น "คุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่ต้องการชุดนี้แล้วเหรอ? งั้นก็ให้เสิ่นซิงหยูออกมา ไม่ต้องไปลองมันแล้ว""ฮ่า!"แม่เสิ่นยิ้มเยาะหลายครั้ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก “คำพูดของเธอนี่ช่างขำจริงๆ เธอก็แค่พนักงานธรรมดาๆ เธอคิดว่าเจ้านายของเธอจะเห็นด้วยกับเธอไหม? เธอรู้ไหมว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่....”"ฉันซื้อได้!”โจวโม่พองหน้าเล็กๆ และพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเย่อหยิ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำกล่าวที่เกินจริงของเธอใบหน้าของแม่เสิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างน่าตกใจ สั่นเทาด้วยความโกรธ “หร่วนหนานจือ นี่ก็เป็นจุดยืนของเธองั้นเหรอ?”“ถ้าคุณไม่พอใจกับชุดนี้ นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดี”ฉันยิ้มอย่างสุภาพ น้ำเสียงของฉันสงบและนิ่งแม่เสิ่นกัดฟันและจ้องไปที่โจวโม่ “เธอแน่ใจนะว่า ซื้อมันได้ ชุดนี้ราคาเกิน 25 ล้าน!”“แค่ 25 ล้านเอง คุณป้า คุณไม่มีเงินหรือไง?”โจวโม่เอีย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 294

    ฉันไม่ได้คิดอะไรมากและหัวเราะ “เราออกไปนานแล้ว ฉันถึงบ้านแล้วและอาบน้ำแล้ว”"งั้นก็ดีแล้ว"“หลิน… ลุงของหลาน เขาไม่ได้ก่อเรื่องอีกแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะไปกับลู่สือเยี่ยน เขาเตือนหลินกั๋วอันหลินกั๋วอันพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบจะคุกเข่าลงคุณป้าพยักหน้าแล้วพูดว่า "ไม่ ไม่ต้องห่วง เขาใบหย่าไปแล้วและเพิ่งกลับไป"ฉันแปลกใจเล็กน้อย "เซ็นต์ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวลู่สือเยี่ยนในระดับหนึ่งเมื่อคืนนี้เอง ยัวยืนกรานที่จะแบ่งทรัพย์สินของฉันคุณป้าถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ใช่แล้ว หลานต้องขอบคุณประธานลู่นะ เขาเป็นคนดีมาก”"โอเค ไม่ต้องกังวล ฉันจะหาโอกาสขอบคุณเขาเอง"ถ้าคุณป้าสามารถหย่าร้างได้อย่างราบรื่น ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขความกังวลในใจของฉันไปได้หนึ่งเปาะด้วยวิธีนี้ ฉันจะต้องดูแลคุณป้าของฉันเท่านั้นในอนาคต โดยไม่ต้องรับมือกับคนชั่วคนนี้……หนานซีเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และธุรกิจของเราก็อยู่ในระดับปานกลางตามธรรมชาติแต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตารางงานที่ยุ่งของฉันฉันใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนในการทำชุดหมั้นของเสิ่นซิงหยูในที่สุดเพชร ไข่มุก ทับทิมตร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 293

    ฉันหันกลับมาทันทีและกำลังจะถาม แต่ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาด้วยท่าทางไม่พอใจ"หนานจือ"ฉันพยักหน้าและพูดว่า "รุ่นพี่"ทันทีที่หลินกั๋วอันเห็นเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาตัวสั่นและพูดว่า "ประธานลู่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้?"เห็นได้ชัดว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนสายตาของลู่สือเยี่ยนมองมาที่ฉัน และหลังจากยืนยันว่าฉันปลอดภัยดี สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินกั๋วอัน “ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันบอกคุณอะไรไปเมื่อครั้งก่อน?”“ไม่ ไม่ ฉันไม่กล้า!”หลินกั๋วอันปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา โดยแสดงรอยยิ้มประจบประแจงและระมัดระวัง "ฉัน... ฉันเพียงมาพบภรรยาของฉัน บังเอิญว่าผู้หญิงคนนี้มาพอดี"ฉันเห็นว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนมาก ฉันจึงใช้โอกาสนี้ถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป? คุณเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่ามาบอกฉันนะ มันเป็นแค่การพูดลอยๆ"ประโยคนี้ ลู่สือเยี่ยนก็ได้ยินเช่นกันหลินกั๋วอันหดตัวลงชั่วขณะ หลบตาคุณป้าของฉัน กัดฟันแล้วพูดขึ้นมาว่า "ฉัน..."“คุณควรพูดความจริงดีกว่า”ลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่สงบแต่หนักแน่น ยิ้มอย่างสุภาพแต่แฝงไปด้วยความคุกคาม "ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมัก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 292

    "หนานจือ ลุงของคุณได้รับจดหมายแจ้งการฟ้องหย่าของเราแล้ว"ทนายฟางอดไม่ได้ที่จะเตือนฉันว่า "แต่ตอนที่ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ไปเจอลุงของคุณเข้า เขาหน้าซีดมาก และอาจทำให้คุณป้าของคุณเดือดร้อนได้""โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ! ฉันจะไปดูทันที"คุณป้าของฉันอยู่ในระยะวิกฤตของการรักษา และกระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่อ่อนไหวและเต็มไปด้วยอารมณ์การทะเลาะกันใหญ่โต ไม่ดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเธอฉันวางสายโทรศัพท์และกลับไปที่ห้องส่วนตัว ฉันเอนตัวไปที่หูของเจียงไหลและพูด "ไหลไหล ฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้กับเธอนะ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านคุณป้า ฉันต้องลองไปดู"สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและเธอพูดอย่างวิตกกังวล "เป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันพาเธอไปเอง""ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่"ฉันตบไหล่เธอ “เธออยู่ที่นี่และทำให้ทุกคนสนุกสนาน อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้เสียบรรยากาศ”เมื่อพูดจบ ฉันก็คว้ากระเป๋าและบอกลาทุกคนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินออกไปลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นทันทีเช่นกัน “คุณดื่มแอลกอฮอล์มา ฉันจะพาคุณไปเอง”"โอเค"ฉันรู้ว่าเขามาทานอาหารเย็นนี้เพราะฉันเท่านั้น ถ้าฉันออกไป เขาก็คงไม่อยากอยู่เหมือนกันขณะที่ดินออกไป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 291

    ในขณะนั้นเอง มีคนจากภายในห้องดึงประตูเปิดออกพอดีตอนที่ฉันกำลังจะแอบดู พนักงานเสิร์ฟก้าวเข้ามา ทำให้ฉันไม่สามารถมองอะไรได้เลยสถานที่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของแขกเป็นอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟถามว่า “สวัสดี คุณเป็นเพื่อนของคุณเซียวและกลุ่มของเขาหรือเปล่า?”แซ่นี้ฟังดูไม่คุ้นเลยฉันต้องส่ายหัวและบอกว่า "ไม่ ฉันเข้าห้องส่วนตัวผิด"เมื่อฉันหันหลังกลับและออกไป ดูเหมือนว่าใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้ขนที่คอของฉันลุกชันเมื่อหันกลับไปมอง สิ่งที่ฉันเห็นก็คือประตูห้องส่วนตัวที่ปิดสนิทแล้วเมื่อกลับมาที่ห้องส่วนตัว เจียงไหลสั่งอาหารเสร็จแล้ว “เอาล่ะ เธอมีอะไรอยากสั่งไหม?”"ฉันไม่เลือกหรอก สั่งมาเลย"เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ฉันรู้สึกหนักใจเล็กน้อยไม่ใช่ใครที่ฉันรู้จัก แต่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันมากแทบจะเป็นสถานการณ์เดียวกันฉันไม่เคยได้ยินว่ามีเพื่อนสนิทแซ่เซียวจากฟู่ฉีชวนเลยเจียงไหลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและโน้มตัวเข้ามาที่หูของฉัน "เธอกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 290

    เจียงไหลไม่เห็นด้วยกับความคิดของฉัน "อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็หย่าแล้ว เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้ได้แค่พูดไม่กี่คำเหรอ? จะดีกว่าไหมที่จะกำหนดเส้นตายแบบนี้"ตอนนั้น ฉันก็คิดเหมือนกันตอนที่ฉันรู้ว่าลู่สือเยี่ยนแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเวลา 20 ปี ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีมากแต่เมื่อฉันรู้ว่าเป็นฉัน ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากกว่าเป็นหนี้บุญคุณ....ยากที่จะตอบแทนในช่วงเวลาที่ฉันเงียบๆ เจียงไหลนอนลงบนโต๊ะ เขย่าต่างหูของฉันด้วยนิ้วของเธอ "อาหร่วน ทำไมเธอไม่ลองคบกับลู่สือเยี่ยนดูล่ะ มีผู้ชายที่ทุ่มเทขนาดนี้เพียงไม่กี่คนในสมัยนี้""ก็เพราะว่าเขาดีมาก ฉันจึงต้องระมัดระวังมากขึ้น"ไม่เช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นการเล่นกับอารมณ์ของคนอื่นเมื่อมีคนมอบใจให้ 100% ก็ควรให้ใจกลับไป100% ด้วยถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันก็ควรปล่อยเขาไปเร็วกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้หาคนที่ทำได้เจียงไหลไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ เธอจึงยอมแพ้และพูดว่า "เอาล่ะ คืนนี้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านประจำกันเถอะ"ร้านประจำที่เธอพูดถึงเป็นคลับเฮาส์ที่เธอเคยไปบ่อยๆฉันเดาะลิ้น “มันจะแพงเกินไปไหม?”“ไม่ต้องห่วง ฉันเลี้ยงเอง”"เงินขอเธอหล่นลงมาจากฟ้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 289

    ฉันสับสนมากไม่ใช่เขา แล้วใครส่งมา?การติดต่อครั้งเดียวที่เรามีกับRF กรุ๊ปก็ผ่านเขาเท่านั้น…ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เสียงของเฉินเย่ที่นึกขึ้นได้ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย "ใช่ ๆ ฉันจำได้แล้ว เป็นฉันเอง! จริงๆ แล้ว ฉันขอให้ผู้ช่วยของฉันสั่งให้ แต่เขาอาจจะสั่งผิด ฉันขอให้เขาสั่งตระกร้าดอกไม้ 99 ใบเพื่อบริษัทของคุณประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง"เฉินเย่รู้สึกเสียใจเล็กน้อยและพูดว่า "ตะกร้าดอกไม้ 999 ใบมันมากเกินไปจริงๆ มันทำให้คุณเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า?"“เข้าใจแล้ว…”ฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อมองไปที่ช่อดอกไม้ที่เรียงรายเต็มไปหมดจนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ลิฟต์ไปจนถึงออฟฟิศของเรา “ไม่ใช่ปัญหาจริงๆ… แต่บางทีฉันควรคุยกับร้านดอกไม้เกี่ยวกับการคืนดอกไม้บ้าง? ไม่งั้นมันจะฟุ่มเฟือยเกินไป”“ไม่จำเป็น ฉันไม่สนใจเรื่องค่าใช้จ่าย”เฉินเย่พูดออกไป แล้วกระแอมอีกครั้งแล้วพูดเสริมว่า "ผู้ช่วยของฉัน เขาแค่มาทำงาน เพื่อต้องการเปิดประสบการณ์ชีวิต เขาเป็นคนร่ำรวยมาก และฉันจะหักเงินนี้จากโบนัสของเขา"“…โอเค”ฉันขอบคุณอีกครั้ง แพูดคุยอย่างสุภาพอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายเจียงไหลเอนตัวเข้ามาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เขาให้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 288

    ฉันรู้ดีว่าคงไม่ใช่ฉันหรอก แค่การตอบกลับตามวามเคยชินเขาหรี่ตาอย่างอันตราย แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่อรับ "พวกที่รังแกคุณต้องชดใช้ยังไง"ฉันหัวเราะเบาๆ “แล้วไงต่อ”“ไม่มีแล้วไงต่อ”โจวฟางเม้มปากและเอนหลังพิงพนักพิงศีรษะ ขนตาของเขาปิดบังอารมณ์ทั้งหมดของเขาไว้ "ชื่อคุณอยู่ในสมุดทะเบียนบ้านของตระกูลหร่วน และก่อนที่ชิงหลี่จะจากไป คุณก็เป็นหร่วนหนานจือของตระกูลหร่วนไปแล้ว""แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันเหมือนคุณย่าเลย บางครั้งก็ถูกดึงดูด""......"ฉันเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที และฉันก็เฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวังเขาหัวเราะอย่างไม่เชื่อและกดลิ้นทับฟันกรามของเขา “ทำไมถึงมองแบบนั้น คุณคิดว่าฉันสิ้นหวังขนาดจะยอมคบกับใครก็ได้งั้นเหรอ?”“นั่นพูดยาก”ฉันยิ้มและดึงเสื้อโค้ทให้กระชับขึ้นโดยตั้งใจ หวังว่าจะช่วยคลายความตึงเครียดในรถได้เขาหาวและพูดออกมาสองคำอย่างไม่ใส่ใจว่า “เด็กน้อยจัง”จากนั้น เขาก็หยิบผ้าปิดตาออกมาจากที่ไหนสักแห่งโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และหลับไปอย่างสงบ……วันรุ่งขึ้นเป็นวันเปิดตัวหนานซีอย่างเป็นทางการพนักงานใหม่หลายคนมาแต่เช้า เต็มไปด้วยพลังงาน ทำให้บรรยากาศของบริษัทดีขึ้นท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status