แชร์

บทที่ 145

ผู้เขียน: เล่อเอิน
พอได้ยินประโยคนั้น ฉันเหม่อลอยไปพักหนึ่ง

คำถามนี้ นอกจากเจียงไหลที่เคยถามฉันแล้ว อันที่จริงฉันไม่เคยถามตัวเองอย่างจริงจังเลย

เป็นไปได้หรอ

ถ้าหากคนที่ช่วยฉันในวันนั้นเป็นผู้ชายอีกคน คนที่ฉันตื่นขึ้นมาก็เห็นเป็นผู้ชายอีกคนเช่นกัน

ฉันจะชอบผู้ชายคนนั้นรึเปล่า

หรือหากฉีชวนไม่เคยช่วยฉัน ฉันจะยังชอบเขาขนาดนี้รึเปล่า งั้นที่ฉันชอบเขามาตลอดหลายปี...มันคืออะไร...

ฉันอารมณ์แปรปรวน ไม่กล้าจะคิดอะไรต่อ ฉันส่ายหัวเบาๆ "ฟู่ฉีชวน ฉันตอบคุณไม่ได้"

ฟู่ฉีชวนซึ่งมักจะสุขุมมาตลอดกลับไม่อาจรักษาท่าทีสงบไว้ได้ สันกรามบนใบหน้าแน่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เขาพ่นควันขมุกขมัวของบุหรี่ออกมาและพูด "...อืม"

"ฉันเคยชอบคุณเพราะว่าอะไรมันสำคัญด้วยหรอ?"

ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงเห็นเหมือนเขาดูผิดหวัง

มาถึงปลายทางจุดสิ้นสุดของความรักแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องรื้อฟื้นเหตุผลอะไรตอนแรกเลย

ฟู่ฉีชวนเหลือบหลบสายตาฉัน ขยี้ก้นบุหรี่จนดับ เขาบ่ายเบี่ยงพูดเรื่องอื่น "เรื่องที่คุณขอ ผมให้สัญญา"

"อะไรนะ?"

ฉันอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ได้สติกลับมา "เรื่องของฟู่จินอัน?"

เขาพยักหน้า "ใช่"

"ฉันหวังว่าคุณจะทำได้เหมือนที่สัญญา ไม่ทำให้วิญญาณของ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 146

    "เธอจะภูมิใจอะไรนักหนา?!"เธอโมโหหายใจเร็วจนอกกระเพื่อม แววตาของเธอแผ่รังสีโกรธเกรี้ยวอาฆาตร "หร่วนหนานจือ เธอบังคับฉันเองนะ เธอให้เขาไล่ฉันออกนอกประเทศใช่ไหม...รอตำแหน่งนายหญิงของตระกูลฟู่เป็นของฉันเมื่อไหร่ก่อนเถอะ ฉันจะไสหัวแกให้ออกไปจากเมืองเจียงเฉิง!""ไล่เธอออกนอกประเทศ?"ฉันคาดไม่ถึงคิดว่าฟู่ฉีชวนรับปากสัญญากับฉันแล้ว แต่เขาก็คงเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าๆ อย่างมากก็คงไม่แต่งงานกับเธอ ไม่คาดคิดว่าจะตัดขาดได้อย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้"เลิกสะตอสักที! อาชวนดีกับเธอขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาจะตัดขาดกับฉันแบบนี้ได้ไง!""...""ฉันขอบอกเธอไว้ ฉันจะไม่บินออกนอกประเทศ เธอล้มเลิกความหวังซะเถอะ!""เธอไปบอกกับเขาสิ คนที่ไล่เธอออกนอกประเทศไม่ใช่ฉัน"พูดจบ ฉันขณะกำลังจะเทน้ำดื่ม ฉันก็ได้ยินฟู่จินอันพูดเย็นชาเสียงดัง"ฉันฆ่าลูกของแกตาย แกคงแค้นฉันมากล่ะสิ?"ทันใดนั้นฟู่จินอันก็หัวเราะขึ้นมา แววตาร้ายกาจหัวใจของฉันเหมือนถูกคนแทงอย่างแรง ฉันหันไปมองเธอ "ฟู่ฉีชวนเป็นคนบอกเธอหรอ?""ไม่ใช่ เรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องบอกฉัน"หล่อนยิ้มเหมือนภาคภูมิใจ เดินกระแทกส้นสูงทีละก้าวเข้ามาฉัน "ฉันเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 147

    ในแววตาของฟู่จินอันคือรอยยิ้มได้ใจ!ทันใดนั้นฉันก็เข้าใจจุดประสงค์ของเธอ ฉันไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อยและค่อยๆชักมือกลับ ภายใต้สายตาตกตะลึงของฟู่ฉีชวน ฉันพูดอย่างเรียบเฉย "ตามที่คุณเห็น"ถึงยังไงก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาฟังคำอธิบายจากฉันอีกอย่าง เขาตอนนี้ยังได้เห็นเองกับตา ถ้าอธิบายมากไปก็มีแต่จะเข้าตัวเองเมื่อก่อนฉันกังวลเรื่องที่ไม่มีมูลว่าเขาจะคิดว่าฉันเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตรึเปล่า แต่ตอนนี้ ฉันไม่สนอะไรแล้วไม่มีอะไรเศร้ากว่าหัวใจที่ตายด้าน มันก็คงจะประมานนี้เขาจะมองฉันยังไง มันไม่สำคัญเลยสักนิดฟู่จินอันกุมบาดแผลของตัวเอง น้ำตานองเต็มหน้า "อาชวน ช่วยฉันด้วย...ฉันเจ็บเหลือเกิน! เธอบ้าไปแล้ว จู่ๆ ก็หยิบมีดมาแทงฉัน..."อายุ 30 กันแล้ว ยังจะแสร้งว่าตัวเองบริสุทธิ์เหมือนดอกบัวขาวฉันยิ้มหัวเราะ "ร้องอะไรนักหนา เป้าหมายของเธอไม่ใช่รึไง? บรรลุเป้าหมายแล้ว ต้องมีความสุขสิถึงจะถูก"ยั่วโมโหฉัน กะเวลาที่ฟู่ฉีชวนจะมาและบีบให้ฉันต้องลงมือขิงต้องแก่ถึงจะเผ็ดฟู่จินอันร้อนใจขึ้นมา ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้หนักมากกว่าเก่า "เธอพูดส่งเดชอะไร...ฉันก็แค่มาขอร้องเธอ อย่าให้อาชวนไล่ฉันออกนอก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 148

    "ฉินเจ๋อ?"เสียงของฟู่ฉีชวนเย็นเยือกจนน่ากลัว "ยืนเป็นสากกะเบือทำไม เอาเธอไปส่งโรงพยาบาล!"ฟู่จินอันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เธอยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ฉินเจ๋อก็ลากเธอเข้าไปในลิฟต์อย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง!เธอไม่ลืมจะจงใจแกล้งทำเลือดหยดลงพื้นฉันหันมองไปทางที่พวกเขาเดินออกไป ฉันจ้องมองเขม็งอย่างอดไม่ได้ ฉันยังคงหายใจแรงจนอกกระเพื่อม"หนานจือ เราไปล้างมือกันก่อนดีกว่า?"ราวกับว่าฟู่ฉีชวนกลัวจะทำฉันโมโห น้ำเสียงเลยนุ่มนวลเหมือนกับกำลังปลอบเด็กฉันมองเขาและถามอย่างช้าๆ "คุณไม่โทษฉันที่ทำร้ายเธอหรอ?"นี่ไม่ใช่นิสัยของฟู่ฉีชวนเขาควรจะต้องอ้างเหตุผลมาปกป้องฟู่จินอัน เข้าข้างฟู่จินอันถึงจะถูกสิเขาถอนหายใจและจูงฉันเดินมาที่ห้องน้ำและเปิดก็อกน้ำ เขาลองเช็คอุณหภูมิน้ำ จากนั้นก็ค่อยเอามือของฉันไปวางไว้ใต้ก็อก บีบเจลล้างมือใส่และล้างมือให้ฉันอย่างบรรจง"คุณตบเธอแบบนั้น มือคุณเองไม่เจ็บหรอ?"ฉันชะงักไปเล็กน้อย ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมาฉันก้มหน้าลงมองนิ้วงามเรียวยาวของเขาที่กำลังสัมผัสกับนิ้วของฉัน ฉันยิ้มให้กับตัวเองถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ฉันอาจจะใจอ่อน เมื่อก่อนขอแค่เขาทำดีกับฉันเล

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 149

    ฟู่ฉีชวนราวกับจนปัญญา เขามองฉันและอธิบายอย่างนุ่มนวล "เธอตอนนั้นเองก็เสียลูกไปเหมือนกัน ต่อให้ไปขึ้นศาล ศาลก็คงไม่มีทางตัดสินอย่างที่คุณต้องการหรอก""หรอ..."ฉันพยักหน้าให้กับตัวเอง รู้สึกเหมือนเคว้งคว้างว่างเปล่า "งั้นจะบอกว่า ลูกของฉันต้องตายฟรี?"เขาเหมือนกลัวฉันจะหุนหันพลันแล่น เลยรีบปลอบฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ไม่ใช่แบบนั้น มันยังมีอีกหลายวิธี...""วิธีอะไร?"ฉันยิ้มมุมปาก "จะส่งเธอไปต่างประเทศ งั้นให้ฉันเลือกประเทศได้ใช่ไหม?""ได้"เขาถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าโดยแทบไม่ต้องคิดฉันมองใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติของเขาแลหัวเราะ "งั้นส่งเธอไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วกันอย่างเช่นพม่า เวียดนาม ลาว...อ้อ แล้วก็แค่ส่งเธอ ห้ามให้เงินเธอใช้""หนานจือ...""ไม่ได้หรือไง?"ไม่ใช่ว่าฉันไม่เห็นสีหน้าไม่อยากเชื่อของเขา แต่ฉันจะทำแบบนี้ฟู่จินอันจะต้องชดใช้ราคาที่เธอต้องจ่ายเขาขมวดคิ้ว "ประเทศแถวนั้นวุ่นวาย ตั้งแต่ยังเด็กเธอ..."เขาพูดได้แค่ครึ่งประโยค มือถือในกระเป๋าเสื้อสูทรก็ดัง เขาหยิบออกมาดู เป็นฉินเจ๋อโทรเข้ามาฉันเลยพูดแดกดันใส่เขา "รับสิ อาจช่วยชีวิตเอาไว้ไม่ทันเลยรีบเรียกคุณไปรั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 150

    ขณะฉันถามคำถามนี้ หัวใจของฉันก็รู้สึกเคว้งคว้างขึ้นมาเพราะฉันคิดมาตลอดว่าการตายของคุณปู่ย่อมเกี่ยวข้องกับฟู่จินอัน แต่ว่าก็ไม่มีหลักฐานโชคดีที่ลุงเฉิงตอบกลับมาในทันที "มีครับ ถึงลายนิ้วมือจะมีขนาดเล็ก แต่พอลองเทียบพิสูจร์แล้วก็เป็นของเธอจริงๆ""ที่แท้ก็เป็นเธอจริงๆ..."พอฉันได้คำตอบ ทว่ากลับไม่ได้รู้สึกดีใจ รู้สึกว่าไม่ควรเกิดกับคุณปู่เลย ถ้าหาก...ถ้าหากคุณปู่วันนั้นไม่ได้พบกับฟู่จินอัน ตอนนี้คงได้เห็นคุณปู่ก็คงจะกวักมือเรียกฉันอย่างใจดี เรียกฉันว่า 'ยัยหนู' อยู่ใช่ไหมลุงเฉิงโกรธมาก "คุณท่านถึงแม้จะไม่เคยยอมรับในตัวเธอเลย แต่คุณท่านก็ไม่เคยกลั่นแกล้งเธอ เธอทำไมถึงไม้ไส้ระกำทำแบบนี้""ใช่ค่ะ"ฉันคิดอยู่หลายรอบก็ยังไม่เข้าใจ "ลุงเฉิง ฉันยังมีจุดที่ไม่เข้าใจ วันนั้นที่คุณปู่ตบฟู่ฉีชวน เขาก็ไม่ได้โกรธถึงขั้นอาการกำเริบ แล้วเธอพูดอะไรกับคุณปู่ถึงทำให้คุณปู่อาการกำเริบจนองเอยแบบนี้ได้?"อย่างแรกคือยั่วโมโหคุณปู่จนอาการกำเริบ ต่อมาก็ห้ามไม่ให้คุณปู่ทานยาช่วยชีวิตฉุกเฉินเหมือนกับวันนี้ที่เธอกระตุ้นยั่วโมโหให้ฉันลงมือ จากนั้นก็ให้ฉันตกกลุมพรางลุงเฉิงเองก็ไม่เข้าใจ "ผมเองก็คิดไม่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 151

    ฉันอดยิ้มไม่ได้ "ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ..."พอเดินเลี้ยวตรงแยกก็มีรถตู้สีดำขับเข้ามาหา ฉันถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ ทันใดนั้นรถคันนั้นก็เร่งความเร็ว เข้ามาจอดข้างๆ ฉัน!"เอี๊ยด..."เสียงเสียดสีของล้อกับถนนดังจนแสบแก้วหูฉันขมวดคิ้ว ขณะกำลังคิดจะหนี ชายหนุ่มสวมหมวกแฟลตแค๊ปคนหนึ่งเปิดประตูลงมาจากรถ ก้าวเพียงสองก้าวก็เดินมาอยู่ตรงหน้า เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเข้ามาปิดปากและจมูกของฉัน!"แกจะทำอะไร..."ทั้งหมดเกิดขึ้นไม่ถึง 5 วินาที ฉันยังไม่ทันพูดจบ ฉันไม่มีเวลาให้ขัดขืนด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จะหนีเอาตัวรอดเลยกลิ่นของยาสลบรุนแรง ระยะเวลาสั้นๆ เพียงสามวินาที ฉันก็หมดสติไป หูฟังของฉันหล่นบนพื้นขณะพวกเขากำลังยื้อยุดฉุดกระชาก……พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันรู้สึกเหมือนหัวหนักๆ แขนขาไร้เรี่ยวแรง แม้แต่แรงจะลุกก็ยังไม่มีได้แต่ลืมตาสะลึมสะลือ สังเกตุสภาพแวดล้อมรอบด้านตอนนี้ยังอยู่บนรถตู้สีดำ ฉันถูกโยนไว้ตรงมุมที่นั่งแถวท้ายสุด แขนขาถูกมัดเอาไว้ หน้าผากพิงอยู่กับหน้าต่างรถ ถนนด้านนอกล้วนเป็นสีดำมืดสนิทแต่พอจะเห็นได้ลางๆ มันคือชานเมืองบนรถถ้านับรวมคนขับไปด้วย มีทั้งหมด 4 คน หนึ่งในนั้นคือคนที่สวมหมวกแฟ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 152

    ใกล้จะหย่ากันแล้ว ฉันไม่อยากติดค้างน้ำใจอะไรกับฟู่ฉีชวน!ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือหนี้ของหลินกั๋วอัน ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ยอมไปใช้หนี้แทนคนประเภทนี้แน่นอน"ฉันรู้ดีว่าเขาเป็นใครมีฐานะอะไร"ชายเสียงเป็ดคนนั้นมุ่ยปากและกดปุ่มโทรออกพร้อมกดปุ่มเปิดลำโพง "เราไม่อยากผิดใจกับเขา ถ้าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาจริง ฉันก็ไม่ได้โง่ขนาดหาเรื่องให้กับตัวเอง"ขณะฟังเสียงต่อสายโทรศัพท์ "ตู๊ด...ตู๊ด..." ฉันรู้สึกอึดอัดใจฉันควรขอร้องเขาให้มาช่วย หรือฉันควรปฏิเสธความสัมพันธ์ฉันกำลังชั่งน้ำหนักความคิดทั้งสองในใจ แต่ว่าทันทีที่สายถูกรับ ฟู่ฉีชวนก็ให้คำตอบกับฉันปลายสายเสียงของฟู่จินอันดังขึ้นมาก่อน"ใคร? ดึกดื่นขนาดนี้แล้วโทรมาอยู่ได้..."ฉันกำมือจิกเล็บแน่น จิกจนรู้สึกเจ็บ "ฉันเอง หร่วนหนานจือ ฟู่ฉีชวนล่ะ?"เขาไม่ได้บอกว่าแค่ไปเซ็นเอกสารหรอกเหรอตอนนี้ขนาดมือถือเขาเองยังไปอยู่ในมือของฟู่จินอันฟู่จินอันแน่นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มระเริง น้ำเสียงดูภูมิใจ ค่อยๆ จีบปากจีบคอพูด "เขาน่ะหรอเขาไม่รู้ว่าหลังจากแท้งไปแล้วประมานเดือนถึงจะมีรอบเดือน เขาคิดว่าฉันรอบเดือนใกล้มา ก็เลยวิ่งไปซื้อผ้าอนามัย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 153

    ชายเสียงเป็ดเดินเข้าไปหาใช้เท้าทีบหลินกั๋วอัน หยิบขวดเหล้าเทรดใส่หัวเขา "ไอสันขวาน แกเล่นลูกไม้กับพี่ไห่งั้นรึ? ภรรยาตระกูลฟู่หรอ? บ้านป้าแกน่ะสิ! ประธานฟู่เขาไปซื้อผ้าอนามัยให้กับแฟนใหม่เขาแล้ว เขาจะมายอมใช้หนี้เงินพนันลุงเขยของอดีตภรรยารึไง?"หลินกั๋วอันไม่ทันได้ระวัง ล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้น เขาพยายามกระเสือกกระสนคลานไปอยู่ตรงหน้าหัวหน้าชายคนนั้น "พี่ไห่ พี่ไห่ครับ! ผมไม่กล้าเล่นลูกไม้กับพี่หรอก เธอเป็นภรรยาของฟู่ฉีชวนจริงๆ วันนั้นที่พวกนายไปโรงพยาบาลก็เห็นไม่ใช่หรอว่าภรรยาฉันพักอยู่ห้อง VIP ถ้าฟู่ฉีชวนไม่สนใจเธอ ภรรยาฉันจะไปพักอยู่ห้อง VIP ในโรงพยาบาลเซิ่งซินได้ไง?"……ฉันจ้องเขม็งมองเขาอย่างอาฆาตร "หลินกั๋วอัน! ลุงมันคนเนรคุณ ถ้าไม่ใช่เพื่อคุณป้า มีหรือหนูจะไปขอร้องฟู่ฉีชวนเพื่อยกให้พักผู้ป่วยนี้ให้ฉัน? ตอนนี้ลุงกลับเอามาใช้ทำร้ายหนูงั้นหรอ?!"หลินกั๋วอันทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินพูด เขากอดขาของพี่ไห่"พี่ไห่ กำขี้ก็ยังดีกว่ากำตด เธอต่อให้หย่ากับฟู่ฉีชวนแล้ว ฟู่ฉีชวนจะไม่แบ่งเงินช่วยเธอสักนิดเลยรึไง? เงินล้านเดียว สำหรับเธอแล้วมันแค่เรื่องเล็กน้อย!"หนึ่งล้านเขาแค่คนจนขี้กุ้ย ทำไมถึ

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status