Share

ตระกูลมู๋

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2024-12-11 23:39:19

ณ ห่วงเวลาอีกมิติหนึ่ง

ทรมานเหลือเกิน เจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดจนแทบอดทนไม่ไหวอยู่แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งอาเจียนออกมาอย่างทรมาน หลังจากดื่มชาเลือดนกนางแอ่นไปได้ไม่กี่อึก ก็รู้สึกทรมานและอาเจียนออกมา

"คุณหนู คุณหนูเป็นอะไรมากหรือป่าวเจ้าคะ"

ซิงอีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน พลางถ่ายทอดพลังมายังด้านหลังของ มู๋จินเป่า 

ทันใดนั้นความทรงจำมากมายก็ถาโถมเข้ามาโดยไม่หยุดหย่อย

ดรุณีผู้นี้คือมู๋จินเป่า คุณหนูสามตระกูลมู๋ อายุ14ปี แต่ก่อนนางเคยมีวรยุทธอันดีเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนหกขวบนางได้กราบเป็นศิษย์ ในสำนักชื่อดัง แม้นางจะเป็นเพียงลูกอนุ แต่นางก็ได้เข้าสำนักศึกษาชั้นต้นของเมือง เพราะนางมีความโดดเด่นทั้งเรื่องหน้าตาและวรยุทธจึงทำบิดาเอ็นดูเป็นพิเศษกว่าบุตรทุกๆคน มู๋จืออันคือบิดาของมู๋จินเป่า มู๋จืออันเป็นแม่ทัพของวังหลวง มีลูกทั้งหมดสี่คน คนโตเกิดจากฮูหยินเป็นหญิงมีนามว่า มู๋จินฮุย เป็นคุณหนูใหญ่ คนที่สองเกิดจากอนุ มู๋จินเหอ คุณหนูสอง และ มู๋จินเป่าเป็นลูกคนที่สามที่เกิดจากอนุอีกคน เป็นคุณหนูสาม ส่วนคนสุดท้ายเป็นลูกที่เกิดจากฮูหยิน มู๋ฉี่ฉ่าง คุณชายสี่ แม่ของมู๋จินเป่า กับมู๋จินเหอ ตายตั้งนานแล้ว เพราะฮูหยินไม่ต้องการให้ทั้งสองมีชีวิตอยู่จึงได้สั่งฆ่าอนุทั้งสอง มู๋จินเป่า และมู๋จินเหอ มีชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก แต่มู๋จินเหอชอบเข้าหาฮูหยินและพี่หญิงใหญ่มู๋จินฮุย จนกลายเป็นคู่หูกันในการก่อเรื่อง มู๋จินเหอยอมให้มู๋จินฮุยใช้ทุกอย่าง จนฮูหยินยอมรับมู๋จินเหอในฐานะคนรับใช้ของลูกตัวเองและไม่คิดฆ่านาง ส่วนมู๋จินเป่านางมีความสามารมากเกินไป ลูกสาวคนโตของฮูหยิน มู๋จินฮุย มีวรยุทธเพียงขั้นสี่ระดับต้น แต่มู๋จินเป่ามีวรยุทธอยู่ที่ขั้นสี่ระดับสูง มู๋จินเป่านางเด่นกว่าลูกของฮูหยินมากเกินไป อายุแค่นี้มีความสามารถเพียงนี้ถ้าปล่อยเอาไว้พวกเขาไม่มีทางรอดไม่เหลือความรักที่สามีมีให้แน่ๆ เพราะฉะนั้นฮูหยินจึงอยากจะกำจัด มู๋จินเป๋า 

มู๋จินเป่ามีบ่าวรับใช้ที่ซื่อสัตย์คนหนึ่ง ชื่อซิงอี มู๋จินเป่าสอนวิธีฝึกฝนวรยุทธให้ซิงอีด้วยเพราะว่าตอนที่นางไปเรียนที่สำนัก ซิงอีสาวใช้ข้างกายนางชอบถูกคนของฮูหหยินรักแก มู๋จินเป่ารู้ว่าฮูหยินไม่เคยชอบนางเลย นางเลยต้องหมั่นฝึกฝนเพราะนางคิดว่าถ้านางเก่งมากๆ แม่เลี้ยงของนางอย่างฮูหยินจะเอ็นดูนางสักหน่อย แต่ป่าวเลยฮูหยินยิ่งแกล้งนางสารพัดเอาของใสยาพิษมาให้นางกิน แต่มู๋จินเป่านางเรียนการปรุงยามาบ้างนางเลยรู้ กลิ่นของยาทำให้นางไม่ได้กินของพวกนั้นและต้องระวังฮูหยินขึ้นมา แต่ก่อนแม่เลี้ยงแบบฮูหยินไม่ชอบนาง แต่ตอนนี้คือเกลียดนางเลยทีเดียว มู๋จินเป่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้นางต้องระวังตัวให้ดีกว่าเดิมแค่ไหน

ในค่ำคืนอันแสนหนาวเย็นอยู่ในช่วงหน้าหนาว เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในตระกูลมู๋ มีคนไปแจ้งมู๋จินเป่าว่า ท่านแม่ทัพมู๋จืออันบาดเจ็บสาหัสต้องการรอคุณหนูสาม มู๋จินเป่าแต่เพียงผู้เดียว วันนั้นซิงอีก็ไม่อยู่นางไปดูงานเต้นรำนอกจวน มู๋จินเป่าเลยรีบไปหาบิดาคนเดียวพอมู๋จินเป่าเข้าไปในเรือนฮวาของบิดาก็มีผู้ชายกระโดดมาทุกทิศทาง มาจับตัวนางและกดลงไปเอาน้ำยาสักอย่างกรอกไปทีปาก มู๋จินเป่า พยายามต่อสู้สุดชีวิตแต่ไม่เป็นผลทำให้ได้กลืนน้ำไปหลายอึกเลยทีเดียว หลังจากที่แน่ใจว่านางได้ดื่มน้ำแล้วคนทุกคนก็พร้อมใจกันจากไป มู๋จินเป่ามีวรยุธสูงก็จริงแต่ด้วยความที่นางรีบมาหาบิดา และคิดว่าบิดาเจ็บหนักและใกล้จะจากนางไปแล้ว ทำให้นางแทบไม่มีสติ จึงไม่รู้ว่ามีคนรอดักซุ่มอยู่ หลังจากที่ทุกคนไปกันหมดแล้ว มู๋จินเป่ายังไม่ทันได้สำรวจตัวเองก็เข้าไปหาบิดาทันที แต่บิดาไม่ได้อยู่ที่นี่บิดาไปราชการอีกสองสามวันค่อยกลับ เมื่อคิดได้อย่างนั้นจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกให้มาเพื่อดื่มยาพิษ มู๋จินเป่าจึงพยายามทำให้ตัวเองอาเจียนออกมา และนางก็อาเจียนออกมาไม่น้อยแต่ไม่เป็นผลนางรู้สึกอึดอัดหายใจติดขัดนางจึงรีบกลับเรือนทันที เมื่อกลับถึงเรือนซิงอีก็มาถึงก่อนแล้ว ซิงอีกระวนกระวายมากเพราะกลับมานางไม่เจอคุณหนูแต่พอเห็นคุณหนูมาก็ดีใจ แต่ดีใจได้ไม่นานเพราะตอนที่ มู๋จินเป่ามาใกล้ๆมีกลิ่นคาวเลือดหน้าตาซีดเซียว มุมปากมีเหลือดไหลออกมา ซิงอีรีบพาคุณหนูกลับห้องและให้คนไปตามหมอแต่ไม่ได้ผล ไม่มีคนสนใจนางเลย มู๋จินเป่าคุยกับนางด้วยเสียงแหบพร้า

"เจ้าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย หายาที่อยู่ในถุงยามาให้ข้า ถ้าเจ้าอยากมีชีวิตอยู่ก็เงียบเถอะนางแค่ต้องการชีวิตข้า"

ซิงอีร้องไห้และหายามาให้มู๋จินเป่ากิน

เวลาผ่านไปสองวันมู๋จืออันกลับมาก็ได้รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักของตัวเองไม่มีวรยุธอีกแล้ว และไม่สามารถมีวรยุทธอีกต่อไป แต่จะมีชีวิตอยู่แบบนี้แบบคนไร้ค่า มู๋จืออันไล้มู๋จินเป่าไปอยู่เรือนไกลๆที่เก่าและโทรมๆ ซิงอีเลยขอมาตามรับใช้ และมู๋จืออันก็สั่งให้ปิดข่าวเรื่องนี้ และจะหาทางจัดการเรื่องสำนักการศึกษาที่มู๋จินเป่าเรียนอยู่เอง แต่ข่าวก็แพร่ไปเร็วมาจนทำให้ทางสำนักการศึกษารู้และตัดรายชื่อของมู๋จินเป่าทันที ตอนนี้มู๋จินเป่าไม่เหลืออะไรแล้ว ทางการศึกษาก็ไม่ช่วย พ่อก็ทิ้ง มีแค่บ่าวคนเดียวที่อยู่ข้างๆ เรือนใหม่ของมู๋จินเป่าไม่มีบ่าวคนอื่นเลยนอกจาซิงอี มู๋จินเป่าไม่ยากยอมแพ้ และไม่อยากให้บ่าวอย่างซิงอีอยู่กับนาง แต่ซิงอีไม่จากไปไหน และซิงอีเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นทำให้คุณหนูของตัวเองมีสภาพเป็นแบบนี้ เพราะมู๋จินเป่าไม่เคยบอกอะไรกับนางเลย

พอเหตุการณ์สงบปกติ แต่มู๋จินเป่ายังไม่ตาย ฮูหยินก็ไม่พอใจส่งคนเอาของไปให้ซิงอีให้คุณหนูสามกินบำรุง มีทั้ง ซุปบัวหิมะ โสมร้อยปี ซิงอีจึงคิดว่าฮูหยินรักคุณหนูของนาง และเห็นลูกเลี้ยงลำบากก็เข้ามาช่วย คุณหนูสามก็ไม่รู้ว่าเป็นของฮูหยิน และตอนนี้นางไม่มีวรยุทธนางจึงไม่รู้สักนิดว่าในซุปบัวหิมะมีพิษนางเลยกินเข้าไป นางอาเจียนจึงรู้ว่ามีพิษ และสอบถามซิงอีเลยรู้ว่าเป็นของฮูหยิน มู๋จินเป่าเลยสั่งห้ามไม่ให้รับของฮูหยินอีก ซิงอีเลยรู้ว่าฮูหยินนี่เองที่ต้องการชีวิตของคุณหนูสาม วันนี้มีคนในจวนบอกว่าท่านแม่ทัพมู๋จืออันให้ส่งชาเลือดนกนางแอ่นมาให้มู๋จินเป่าบำรุงร่างกาย พอดื่มเข้าไปก็มีสภาพเช่นนี้ ดี จินเป่า ในร่าง มู๋จินเป่าคิดในใจ แล้วเรา จะเห็

นดีกัน 

Related chapters

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เรือนเก่าในตระกูลใหญ่

    หลังจากที่จินเป่าฟื้นมาในร่างของ มู๋จินเป่า ในใจก็รู้สึกสมเพชตัวเองมาก ตอนร่างนี้แข็งแรงและมีวรยุทธที่สูง ตัวเธอเองก็ไม่ได้อยู่ในร่างนี้ แต่พอไม่หลงเหลืออะไรแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็เก่าซอมซ่อขนาดนี้ ก่อนตายจากร่างเดิมก็ถูกหักหลังจากเพื่อนรัก"คุณหนูเจ้าค่ะ ท่านต้องทานข้าวทานยานะเจ้าคะ"ซิงอีสาวใช้ข้างกายของมู๋จินเป่าเอยขึ้น วันที่คุณหนูของนางถูกวางยาครั้งล่าสุดนางใจหายมาก ต่อมานางไม่เคยรับของจากจวนมู๋อีกเลย นางร่ำเรียนวรยุทธก็จริงแต่นางก็เรียนได้ย่ำแย่มาก ณ เวลานี้นางมีวรยุทธในระดับสองขั้นกลางเท่านั้น เรื่องยาพิษต่างๆนางไม่ได้ร่ำเรียนเลย ทำให้นางมองไม่ออก ถ้าคุณหนูของนางไม่เกิดเรื่องขึ้นทำให้พลังยุทธหายไปนั้น คุณหนูของนางต้องมองออกเป็นแน่ ตอนนี้ซิงอีหาอาหารให้ มู๋จินเป่า กินเองกับมือ แม่ตอนนี้แทบไม่มีเงินติดตัว ซิงอีต้องไปขุดมัน ขุดเผือก ล่าเนื้อสัตว์เล็กเช่น นก ปลา มาเพื่อที่จะประทังชีวิตของสองคน ซิงอีมองหน้าคุณหนูแล้วก็เศร้าใจคุณหนูของนางเคยโดดเด่น แต่ตอนนี้กลับซูบผอม ซิงอีไม่อยากคาดเดาอะไรทั้งนั้นว่าฮูหยินต้องการชีวิตคุณหนูของนาง ซิงอีไม่เคยพูดแต่ก็พอจะดูออกบ้างแล้ว "วันนี้มีอะไรกินล่

    Last Updated : 2024-12-11
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พี่น้องเล่นด้วยกัน

    หลังจากเหตุการณ์ที่ มู๋จินเป่า คุณหนูสามไม่อยู่เรือนจนทำให้บ่าวรับใช้ข้างกายตามหาทำให้ทหารไปช่วยตามพวกทหารจึงไปรายงานกับฮูหยิน ทำให้ฮูหยินคิดหาแผนที่จะกำจัด มู๋จินเป่าอีกครั้ง นางเคยให้บ่าวนำอาหารใส่ยาพิษไปให้มู๋จินเป่ากินแต่นางก็ไม่ตาย นางเหมือนแมวเก้าชีวิต พักหลังๆบ่าวรับใช้คนนั้นที่ชื่อซิงอี ไม่เคยรับของที่เรือนใหญ่ส่งไปให้เลย แบบนี้จะทำอย่างไรดี ฮูหยินปรึกษามู๋จินฮุยบุตรสาวของนาง "งั้นวันนี้ลูกกับน้องจินเหอไปเยี่ยมมันดีกว่า มันแข็งแรงดีแล้วกระมัง เดียวลูกกับน้องจินเหอไปเล่นเป็นเพื่อนมันสักหน่อย"มู๋จินฮุยคุยกับแม่หลังคุยกันเสร็จมู๋จินฮุยก็กลับเรือนตัวเองเพื่อไปเตรียมตัวชวนน้องสาวไปเล่นสนุกๆกับน้องสาวอีกคนณ เรือนเก่าที่ไกลจากตัวเรือนหลักอยู่มาก ต้นไม้เล็กใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด ดรุณีน้อยสองนางเดินเข้าไปโดยไม่พาบ่าวมาสักคน ก่อนที่จะถึงตัวเรือน ซิงอีเห็นก่อนก็เลยไปรายงานคุณหนู "คุณหนูเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองมาเจ้าค่ะ ไม่มีบ่าวมาสักคนน่าจะมารังแกคุณหนูแน่เลยเจ้าค่ะ เราจะทำยังไงดีแล้วค่ะ"ซิงอีรีบมารายงานมู๋จินเป่า พลางดูคุณหนูของตัวเองกำลังอ่านตำราเก่าๆที่เคยใช้เรียน แล้วรู้สึกสงส

    Last Updated : 2024-12-11
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เด็กคนนี้เป็นห่วงข้าจริงๆ

    หลังจากแอบตามคุณหนูไปด้วยใจที่กังวล พอเห็นคุณหนูกำลังจะถูกกลั่นแกล้งทีแรกซิงอีกำลังจะวิ่งไปปกป้อง แต่แล้วสถานการก็พลิกผัน คุณหนูของนางหลบจากการผลักของคุณหนูรองได้ และแกล้งเป็นลมล้มลงไป นางก็อุ่นใจขึ้นและคิดว่าต้องทำยังไงดีนะ คุณหนูก็มองมาที่นางแล้วยิ้มแถมขยิบตาให้อีก อ๋อ สักพักใหญ่ๆ"คุณหนูคุณหนูเจ้าค่ะเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ ฮือๆๆๆๆ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าค่ะ ไหนว่าจะไปเล่นกับคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองล่ะเจ้าค่ะร่างกายของคุณหนูก็ไม่แข็งแรง ฮือๆๆๆ"หลังจากที่ซิงอีโวยวายพลางร้องไห้เสร็จก็แบกคุณหนูสามกลับเรือนทันที โดยไม่ได้ฟังเสียงของคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองที่อยู่ก้นสระเลยสักนิด นางแกล้งไม่ได้ยิน"เจ้านิก็ร้ายไม่เบาเลยนะ ได้ยินคนตะโกนให้ช่วยแต่ไม่ช่วยพวกนางเดียวเจ้าก็ถูกลงโทษหรอก วางข้าลงเถอะตัวข้าหนักจะตาย"พอห่างจากบึงพอประมาณมู๋จินเป่าก็พูดขึ้น"ก็คุณหนูร้ายก่อนนิเจ้าค่ะ บ่าวแค่เล่นต่อจากคุณหนูผิดหรือเจ้าค่ะ ถ้าคุณหนูสองคนไปฟ้องท่านแม่ทัพ บ่าวก็จะอ้างว่าบ่าวตกใจกลัวคุณหนูเป็นอะไรไปเพราะคุณหนูไม่แข็งแรง และไม่ได้ยินเสียงอันใดทั้งสิ้นเพราะบ่าวมัวแต่ร้องไห้ ดีไหมเจ้าค่ะ และบ่าวก็ไม่ให้คุณ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ก็มันน่าสมน้ำหน้านิเจ้าคะ

    หลังจากซิงอีแอบตามทหารกับบรรดาบ่าวของคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองไปก็พบว่า คนเหล่านั้นถือว่าไม่โง่เลยซักนิด นางพยายามบอกหลายครั้งหลายคลาว่าพบคุณหนูสามนอนสลบอยู่ที่ริมบึงใต้ต้นไม้ใหญ่ คนเหล่านั้นก็มุ่งไปที่ต้นไม้ใหญ่ทันที"คุณหนูใหญ่คุณหนูรองเจ้าค่ะ ลงไปอะไรกันที่นั่น"เสียงบ่าวคนหนึ่งตะโกนลั่นพอคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองเห็นบรรดาบ่าวๆก็ดีใจ ทั้งอับอายจนกลายเป็นโกรธด้วยซ้ำ กว่าจะตามหาพวกนางจบพบทั้งหนาวทั้งหิว ทั้งอับอายที่บรรดาบ่าวและทหารเจอพวกตนในสภาพเช่นนี้ เรื่องนี้ทั้งหมดต้องโทษมู๋จินเป่าคนเดียวในครั้งที่พวกเขาชวนมู๋จินเป่ามาก็เพื่อที่จะจัดการให้นางตกน้ำตายแต่ทำไมคนที่ป่วยไม่มีแรงขนาดนั้นยังหลบนางได้ มู๋จินเป่าไม่มี วรยุทธแม้แต่น้อยทำไมหลบนางได้กันคิดแล้วก็น่าโมโห พวกนางสองคนพยายามปีนแล้วก็ขึ้นไม่ได้ ป่ายปีนจนมือเจ็บไปหมดทั้งใช้วรยุทธที่ตนเรียนมาก็ไม่สามารถออกไปได้ พวกบ่าวก็แหกปากร้องอยู่นั้นแทนที่จะรีบๆมาช่วยพวกนาง พอทหารช่วยคุณหนูทั้งสองขึ้นมาแล้วด้วยความยากลำบากมากเนื่องจากหน้าแล้งน้ำใกล้หมดไปจากบึง ทำให้พื้นกับก้นบึงอยู่ห่างกันมาก แม้ผู้ที่ฝึกวรยุทธในขั้นสิบก็ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นมาได้ พวก

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   นึกว่าแพ้ของดี

    ทันทีที่มู๋จินเป่านั่งก็หันหน้าไปหาพี่สาวสองคนแล้วทำท่าตกใจ"ท่านพี่ทั้งสองเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ เมื่อวานข้าเห็นท่านพี่ทั้งสองคนตกบึงไปต่อหน้าต่อตาข้าก็ตกใจกลัวจนเป็นลมล้มไป กว่าข้าจะได้สติตื่นขึ้นมาก็รุ่งเช้าแล้ว พอข้าถามซิงอีนางก็บอกว่านางพบข้านอนสลบอยู่ผู้เดียว ไม่พบผู้ใดทั้งนั้น ข้าเลยถามว่าแล้วในบึงใหญ่นั่นเจ้าได้ดูหรือป่าว นางก็บอกว่าไม่ได้ดู มัวแต่รีบแบกข้ากับเรือน ข้าเป็นห่วงท่านพี่ทั้งสองมากเจ้าคะ"มู๋จินเป่ารีบกล่าวเพื่อปัดความผิดของซิงอีลองดูว่าถ้านางกล่าวขนาดนี้แล้วบิดายังจะมาป้ายความผิดให้บ่าวของตนอีกหรือไมพอฟังคำของมู๋จินเป่ากล่าว ทุกคนก็เงียบเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี จะพูดยังไงให้สองคนนั้นผิดได้ ในเมื่อนางกล่าวปิดทางทุกทางไว้เช่นนี้แล้ว"วันนี้ที่พ่อเรียกเจ้ามาเพราะว่าเรื่องเมื่อวานนั้นแหละ เจ้าเป็นลมขนาดนั้นบ่าวเจ้าไม่พาเจ้าไปหาหมอแต่กลับพาเจ้ากลับไปยังเรือนไม่กลัวเจ้านายเจ้าเป็นอะไรไปหรอ สลบไปทั้งวันทั้งคืนขนานนั้น เจ้าเป็นบ่าวไม่ร้อนใจบ้างหรือ ซิงอี"ท่านแม่ทัพที่หาเรื่องจากบ่าวอย่างซิงอีให้ลูกมู๋จินเหอกับลูกมู๋จินฮูยไม่ได้ จึงหันมาหาเรื่องบ่าวให้ลูกมู๋จินเป่

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ท่านแม่จะหนีหรือเจ้าคะ

    หลังจากเคลียร์ปัญหาหากันเสร็จสิ้น ฮูหยินรีบกลับเรือนพร้อมบรรดา ลูกๆและบ่าว"ข้าว่าเราปล่อยสองคนนั้นไม่ได้แล้วล่ะ ดูอย่างวันนี้สิ ขนาดข้ามีศักดิ์เป็นแม่ มีศักดิ์เป็นฮูหยิน แต่ข้าไม่มีโอกาสพูดอะไรเลย นางสองคนนั้นเหมือนตั้งใจมาลบล้างความผิดของตัวเองแท้ๆ แต่พวกเราทำอะไรได้บ้างล่ะ นั่งมองพวกนางโยนความผิดมาให้จนพูดอะไรไม่ออกเลย"ฮูหยินกล่าวด้วยความโมโห"แล้วท่านแม่จะทำเช่นไรเจ้าค่ะ ไหนจะต้องจ่ายเบี้ยพวกนางอีก ซิงอีมันก็เป็นแค่บ่าวแต่ทำตัวกำเริบเสิบสานเยี้ยงนี้ ท่านพ่อไม่ว่าอะไรสักคำ แถมยังจะจ่ายเบี้ยให้อีก "มู๋จินฮูยพูดด้วยความที่มีอคติกับซิงอี เพราะนางคิดว่าซิงอีได้ยินเสียงพวกนาง แต่ซิงอีแกล้งไม่ได้ยิน ในตอนที่คุยกันอยู่บนเรือนใหญ่นางไม่มีโอกาสได้พูดอะไรเลย แถมซิงอียังมีการร้องไห้เรียกความสงสารอีก และจะให้นางไปแทรกได้เช่นไร นางอึดอัดเป็นอย่างมาก อกนางแทบจะระเบิดอยู่แล้ว"รออีกสักระยะหน่อยเดียวแม่จะหาวิธิที่มันแยบยนกว่านี้ก่อน เรื่องยาพิษคงไม่ได้เรื่องแล้วล่ะ บ่าวมันระวังตัวนายมันยิ่งกว่าอะไรดี"ฮูหยินพูดพลางคิดหาวิธีอยู่“ข้าว่ามู๋จินเป่าดูเหมือนคนไม่มีวรยุทธ์ที่ใดกัน ตอนเราไปพบนางนางอ่าน

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พี่สาวมาเยี่ยมข้าหรือเจ้าคะ

    เมื่อมู๋จินเป่ากับซิงอีไปถึงหอสมุดของตระกูลมู๋ ทั้งสองก็เดินตามผู้เฝ้าหอสมุดเข้าไป "เชิญคุณหนูสามขอรับ วันนี้คุณหนูสามหยิบได้ห้าเล่มนะขอรับ"ผู้เฝ้าหอสมุดกล่าว เขาเอ็นดูคุณหนูสามมาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะคุณหนูสามมักมาศึกษาตำราอยู่บ่อยๆ แต่เวรกรรมอันใดไม่รู้ทำให้คุณหนูสามต้องเจอกับเรื่องแย่ๆได้เพียงนี้"ขอบคุณเจ้าค่ะ"มู๋จินเป่ากล่าวอย่างนอบน้อมแล้วเดินเข้าไปกับซิงอี " ถ้าเจ้าต้องการตำราเล่มไหนก็หยิบมานะข้าให้เจ้าสองเล่ม ข้าต้องการแค่สามเล่มเท่านั้น"มู๋จินเป่ากล่าวกับซิงอีเพราะรู้ว่านางต้องการตำราเช่นกัน นางจึงเดินไปหาตำราที่ตนต้องการ เล่มที่หนึ่งตำราเกี่ยวข้องกับเขาแสงจันทร์ นางหยิบมาแล้วเปิดดูคล่าวๆประมาณสามสี่เล่มจนเจอ สิ่งที่นางต้องการ มีทั้งทำเลและที่ตั้ง สัตว์อสูรที่อยู่บริเวณต่างๆ พืชสมุนไพรต่างๆ รวมไปถึงพืชที่นางต้องการด้วย มีทั้งลักษณะทั่วไปเมื่อคนพบเห็น สัพคุณต่างๆของพืช ได้แล้วหนึ่งเล่ม ตำราพิชิตเขาป่าต้องแสงจันทร์ เล่มที่สองนางต้องการตำรากำหลาบสัตว์อสูร เล่มที่สามนางต้องการตำราเกี่ยวกับหยกสีน้ำผึ้ง นางค้นหาอยู่สักพักก็เจอทั้งสามเล่มแล้วก็เดินไปหาซิงอี ซิงอีเองก็ไม่รู้จะศึกษ

    Last Updated : 2024-12-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตัวตนที่แท้จริง

    ณ เรือนใหญ่ของตระกูลมู๋ บรรดาลูกลูกและฮูหยินของท่านแม่ทัพมู๋นั่งคุยกับ ท่านแม่ทัพอยู่"ท่านบิดาข้าโดนน้องจินเป่าทำร้ายจริงๆนะเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าน้องจินเป่านางมีวรยุทธ์กลับมาตั้งแต่ตอนไหนแล้ว นางคิดจะปกปิดเรื่องวรยุทธ์เพื่ออะไรกัน ไม่แน่ว่านางต้องการให้ท่านบิดาอับอายหรือไม่เจ้าคะ ดูข้าสองคนพี่น้องนี้สิเจ้าค่ะโดนนางแกล้งจนสะบักสะบอมเลยเจ้าคะ" มู๋จินฮุยกล่าวกับบิดา"วรยุทธ์นางกลับมาข้าก็ดีใจนะสิ แต่ทำไมนางไม่บอกข้าหรือต้องการให้ข้าตื่นเต้นไม่น่าจะอยากให้ข้าอับอายหรอก"ท่านแม่ทัพกล่าว ทำให้ฮูหยินกับลูกๆหน้าเปลี่ยนสีเลยที่เดียว เรื่องจะแย่แน่ๆถ้า วรยุทธ์ของมู๋จินเป่ากลับมาจริงๆ ไหนจะจัดการกับนางได้ยากขึ้นอีก ไหนจะท่านแม่ทัพเห็นดีเห็นงามด้วยอีก พวกเขาไม่น่าก่อเรื่องเลย ต่อไปนี้ท่านบิดาก็จะกลับไปเอ็นดูมู๋จินเป่าเหมือนเดิมแน่ๆ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว"ท่านพี่ ท่านพี่คิดดูสิเจ้าค่ะถ้าลูกมีวรยุทธ์กับมาเช่นเดินแล้ว ไม่มาบอกกล่าวกับบิดามารดาแต่ให้พี่ๆไปรู้เองเช่นนี้ นางไม่เห็นท่านพี่อยู่ในสายตาเลยนะเจ้าคะ น้องเองไม่เท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะเพราะน้องคือมารดาเลี้ยง แต่ท่านพี่ไม่คิดน้อยใจบ้างหรือเจ้าค่ะ"ฮูหยิน

    Last Updated : 2024-12-13

Latest chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   กลับบ้าน

    ณ ถ้ำอสรพิษหลังจากมู๋จินเป่าตื่นขึ้นจากพวังฝึกฝนก็มีวรยุทธเพิ่มขึ้น นางมองออกไปก็พบกับห่าวอู๋อวี่ที่กำลังนั่งฝึกฝนอยู่ ตนจึงเดินออกสำหรวจสิ่งของนางเจอกำไลนิลกาฬที่ดูแล้วสะดุดตายิ่งนักกำลังจะสัมผัส สตรีในชุดสีเหลืองอ่อนก็เข้ามาและห้ามปรามไว้"ท่านเก็บของทุกอย่างที่เป็นสีเหลืองอมส้ม หรือสมบัติของหยกสีน้ำผึ้งได้เท่านั้น"หญิงสาวได้กล่าว มู๋จินเป่าจึงกวาดของที่มีสีน้ำผึ้งเข้ามิติทันทีโดยไม่ปิดบังหญิงชุดเหลืองแม่แต่น้อย หญิงชุดเหลืองในอดีตคือคนรับใช้ของหยกสีน้ำผึ้ง นางไม่สามารถกล่าวเรื่องนี้กับผู้อื่นได้ ว่านางมีของดี มีมิติล่องหนอยู่ ในมิติล่องหนของนางใช้ที่เก็บของธรรมดาเสียที่ไหน มีทั้งต้นไม้สมุนไพรบ่อน้ำอมฤต และที่เก็บของนางตั้งใจจะทำบ้านในนั้นให้ลี่หลินอาศัยอยู่ด้วย นางเก็บของแล้วก็ส่งกระแสจิตเข้าไป จัดสิ่งของไม่นานก็ได้ยินลี่หลินสื่อกระแสจิตมาหาตน พอคุยกันเสร็จมู๋จินเป่าก็ออกมา และเดินสำหรวจรอบถ้ำต่อเพื่อรอห่าวอู๋อวี่ตื่นขึ้นมา เดินดูของในถ้ำมากมายของที่ถูกตาถูกใจก็มีแต่สีดำของนิลกาฬ นางตั้งใจแล้วว่าถ้าห่าสอู๋อวี่ออกจากพวังฝึกฝนแล้วตนจะของให้หมดเลย หลังจากดูของทุกอย่างและยิ้มด้วยควา

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แสร้ง

    หลังจากที่ห่าวอู๋หรงสั่งให้คนไปบุกเรือนคุณชายใหญ่ก็ไม่พบใคร จึงทำให้ห่าวอู๋หรงเดือดดาลเป็นอย่างมาก"พวกเจ้าไม่มีตากันเลยหรือไร เฝ้าเรือนปล่าๆมาสองคืนสองวัน ยังไม่รู้เรื่องไม่เห็นอีกหรือว่าใครไปไหน ให้คนจับตาดูที่เรือนคุณชายสี่ และถ้ำตะวันไว้ ทางที่ดีประตูทางเข้าเมืองตะวันด้วยดีกว่า ข้าจะหาผู้ที่ไว้ใจได้นำคนไปเฝ้าประตูไว้ไม่ให้คุณชายสี่กลับมา"ห่าวอู๋หลงกล่าว"ท่านพี่ผลหลิวต้องแสงจันทร์ ถ้าเด็ดออกมาจากต้นแล้วมีเวลาเก็บรักษาได้สามวันนิ ถ้าเกินนั้นก็ไม่มีผลแล้ว และบางทีอาจหายไปแล้วก็ได้"ห่าวอู๋ไห่กล่าวกับพี่สาว เขาถูกกักบริเวณแต่ก็เข้าออกเรือนพี่สาวของตนได้ จึงต้องมาวางแผนกันเป็นประจำ นี้ก็หกเจ็ดวันแล้วที่ข่าวผลหลิวต้องแสงจันทร์สุก น่าจะใช้การไม่ได้แล้ว"เจ้านั้นมันบื้อนักถ้าน้องสี่กินผลหลิวต้องแสงจันทร์เข้าไปแล้วกลับมา กลั่นไอวิเศษออกจากเลือดได้เล่าเจ้าจะว่าอย่างไร"ห่าวอู๋หรงกล่าว"ท่านพี่ท่านไม่คิดบ้างเลยหรือ ว่าถ้าหากคุณชายใหญ่ไม่ได้รับตำแหน่งผู้นำตระกูล ก็มีคุณชายสี่อีกคนที่เป็นลูกของฮูหยินไม่ใช้ลูกอนุแบบเรา"ห่าวอู๋ไห่ถามพี่สาวแบบตรงๆ คุณชายสี่ทั้งโดดเด่นหยิ่งยโส และฉลาดออก "

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตระกูลอ่าวอู๋

    หลังจากที่จื่ออี้เฉินหักหยกมิติที่ห่าวอู๋มู่ลี่มอบให้ทำให้ทุกคนเข้าไปเมืองตะวันทันที่ ณ เมืองตะวัน คนที่เฝ้าถ้ำตะวันพากันวิ่งวุ่นวายมีสัตว์อสูรและหญิงสาวลอยขึ้นมาจากน้ำอมฤต มีคนมารายงานคุณชายใหญ่ตระกูลห่าวอู๋ เพราะตระกูลห่าวอู๋นั้นถือว่าเป็นเจ้าของของถ้ำแห่งนี้ เดิมที่ถ้ำแห่งนี้ไม่มีผู้ใดกล้าย่างกายเข้าไป เพราะมีสัตว์อสูรอีกาดำสามขาเฝ้าอยู่แต่ตอนนี้บุตรชายคนเล็กของตระกูลห่าวอู๋ได้กำหราบอีกาดำสามขาได้แล้ว จึงให้อีกาดำสามขาเป็นสัตว์อสูรในพันธสัญญาและติดตามตนไป เดิมทีไม่มีคนคอยเฝ้าก็ไม่มีผู้คนเขามาอยู่แล้ว แต่ห่าวอู๋มู่ลี่ได้ส่งคนไปเฝ้าเผื่อน้องชายตนกลับมาจะได้รู้ทันที"มีผู้หญิงหนึ่งคนที่เป็นมนุษย์ เจ้าอีกาดำสามขา อีแร้งยักษ์เหมือนตัวที่เคยเป็นสัตว์ในพันะสัญญาของคุณชายเลยขอรับ แล้วก็มีจรเข้หนึ่งตัว แล้วก็จิ้งจอกเก้าหางหนึ่งตัวขอรับ"ผู้ที่เฝ้าอยู่ในถ้ำรายงาน เขากำลังนอนหลับอยูดีดีก็ได้ยินเสียงปังๆอยู่ๆก็มีร่างห้าร่างโพลขึ้นมาจากน้ำ พวกเขาจึงลงไปลากร่างขึ้นมาปรากฏว่ายังมีชีวิตอยู่"แล้วคุณชายห่าวอู๋วี่ล่ะ ยังไม่กลับมาหรอกหรอแต่สัตว์อสูรในพันธะสัญญากลับมาแล้วเนี้ยนะ ไปข้าจะไปดู"ห่าวอู

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ถ้ำอสรพิษ

    หลังจากที่ห่าวอู๋อวี่ปรับตัวได้ก็พร้อมที่จะต่อสู้ มู๋จินเป่ารับรู้ได้ว่าห่าวอู๋อวี่พร้อมสู้แล้ว"พวกท่านจะสู้หรือเจรจากับพวกข้าดี ถ้าจะเจรจาก็รีบๆกล่าวมาหัวหน้าของท่านกำลังไล่ตามพวกข้ามา ข้าสังเกตุว่าเขาน่าจะมีพิษที่ทำให้ลูกน้องตัวเองตายไปทีละคนได้ แต่เขาไม่ทำสิ่งใดพวกข้าแค่ต้องการจับตัวเขารู้ยังไงก็เอาชนะพวกข้าได้ และกำจัดลูกน้องไปทีล่ะคน ข้าเองไม่รู้หรอกว่าเพื่ออะไร แต่ข้าขอสันนิษฐานว่าเพื่อให้ดูยิ่งใหญ่ลูกน้องทุกคนตายหมด แต่เขาเป็นหัวหน้าจับพวกข้าสองคนได้ ที่เขาไล่ต้อนพวกข้ามาทางนี้อาจจะอยากให้พวกท่านจับพวกข้า และเขาก็จัดการกับพวกท่านที่หลังไง หรือไม่ก็ยืมมือพวกข้าจัดการกับพวกท่านแล้วค่อยจับพวกข้าทีหลังไง"มู๋จินเป่าเริ่มพูดให้เขาคลางแคลงใจกัน เมื่อทางโน้นได้ฟังก็เกิดคล้อยตาม ทุกคนเริ่มค่อยๆตายไปทีละคน และหัวหน้าเองก็ถามเขาว่าทำไมเจ้าไม่ตาย มันต้องใช้แน่ๆมันเป็นแบบนังตัวดีพูดจริงๆ ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคิดมู๋จินเป่าก็พยังหน้าให้ห่าวอู๋อวี่ ห่าวอู๋อวี่รู้งาน"จะชักช้าอยู่ใยกันรีบลงมือเถอะเดียวหัวหน้ามันก็มาเราจะหลบหนีไม่ทันเอา"ห่าวอู๋อวี่กล่าวพลางซัดพลังใส่คนที่หนีไปคราแรกอย่า

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เจ้าทำสิ่งใดทำไมเจ้าไม่ตาย

    "เจ้าพักผ่อนเถอะ เดียวพรุ่งนี้ก็รู้ว่าจะมีคนจากมิติเชื่อมจิตเหลือกี่คน"ห่าวอู๋อวี่กล่าว แผนนี้เหมือนจะลอบกัดแต่เอาชีวิตรอดก็ถือว่าดีแล้ว แต่ก่อนเขาเป็นคนบุ่มบ่าม ไม่เคยคิดเรื่องแผนการแบบนี้ เพราะตนมีวรยุทธสูง และติดว่ากำปั้นใครหนักผู้นั้นมีสิทธิ์อยู่ แต่สตรีที่อยู่ข้างหน้าของตนคือคนที่ไร้วรยุทธมาก่อนจึงมีกลอุบายเพื่อเอาชีวิตรอดมาได้ และตอนนี้นางมีทั้งวรยุทธที่สูงและกลอุบายที่มากมายเหมือนกัน แต่ก่อนชีวิตของเขาไร้ชีวิตชีวา แต่ตอนนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น เมื่อก่อนเข้าพร้อมสู้จนตัวตายเพราะไม่มีใครที่ทำให้เขาเป็นห่วง คนรอบข้างของเขาแข็งแกร่งกว่าเขาเสียอีก เขาบุกน้ำลุยไฟจนมีวรยุทธที่แข็งแกร่งเหมือนทุกวันนี้ แต่ถ้าเขามีมู๋จินเป่าตั้งแต่แรกเขาคงไม่กล้าเสี่ยงอันตรายเช่นนี้แน่ เพราะถ้าเขาเป็นอะไรไปนางจะอยู่อย่างไร และอีกอย่างมีคนคอยจ้องจะทำร้ายนางอยู่ "ท่านไหวหรือไม่ "มู๋จินเป่ากล่าว เดิมทีนางอยากจะดูว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นไร แต่คิดอีกทีนางพักผ่อนดีกว่าถ้าเป็นไปตามที่ต้นหลิวต้องแสงจันทร์กล่าวจะเหลือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดถึงสามคน ถึงนางจะช่วยห่าวอู๋อวี่ไม่ค่อยได้เท่าไหร่แต่นางก็จะคิดหาวิธีรับมือเม

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พิษปลิดชีพ

    มู๋จินเป่าเรียกเจ้าต้นไม้จิ๋วออกมาจากมิติที่นางพึ่งปลดผลึกได้ และทุกคนก็ร่วมปรึกษากัน เพราะคนของตนมีแค่สามคนส่วนอีกฝ่ายมีเป็นสิบห้าคน เดิมทีหากไม่มีข่ายอาคมกันตาคนกลุ่มนั้นก็คงจะกรุเข้ามาเพื่อจับตัวทั้งสองแล้ว"ถ้าพวกเจ้าอยู่ห่างจากอาคมกันตาคนเหล่านั้นก็จะจับเจ้าได้ "ห่าวอู๋อวี่กล่าว"แต่ถ้าข้าไม่ออกไปแล้วจะได้สู้หรือ5555 อาคมกันตาของท่านก็ดีอยู่หรอกแต่ข้ามีแผนของข้า ลอบกำจัดผู้ที่อยู่ใกล้ข่ายอาคมก่อนไม่ให้ผู้อื่นรู้ตัว เมื่อคนอยู่ใกล้หมดหรือพวกเข้ารู้ตัว เจ้าต้นไม้จิ๋วเจ้าทำตัวให้ใหญ่และโอบข้าไว้ ข้าจะรอจัดการคนเดินผ่านไปมา ส่วนท่านก็ล่อคนมาให้ข้าจัดการ"มู๋จินเป่ากล่าวสิ่งที่ตนคิดออกไป"เจ้าจะเก่งเพียงนั้นเลยหรือ คนกลุ่มนี้มีวรยุทธก็เหนือเจ้าทั้งนั้น แต่แผนแรกก็เข้าท่าดีข้าคิดว่ากำจัดคนที่อยู่ใกล้ก่อนนี้แหละ"ห่าวอู๋อวี่กล่าว"ถ้าท่านไม่เก็บข่ายอาคมไปแล้วข้าจะออกไปได้หรือจะจัดการกับคนพวกนั้นได้อย่างไร"มู๋จินเป่ากล่าว เพราะเขาเคยเห็นข่ายอาคมของห่าวอู๋อวี่ในตอนที่อยู่เขาป่าต้องแสงจันทร์แล้ว เขาออกไปไหนไม่ได้เลย"เดียวข้าแสดงให้เจ้าดูเอง"ห่าวอู๋อวี่กล่าวน้ำเสียงของเขาสนุกสนานในที แล

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   การไล่ล่าจากมิติเชื่อมจิต

    เมื่ออีแร้งยักษ์บินออกจากนครวิหกแล้ว ทุกคนก็รู้สึกโล่งใจ "จื่ออี้เฉินพวกเราหาประสบการณ์ในป่าแห่งนี้ก่อนดีไหม ข้ากับลี่หลินและเจ้าสือยวี่จะได้มีประสบการณ์กันมากขึ้น ขามาป่าต้องแสงจันทร์พวกข้าผจญภัยในหลายรูปแบบ ตอนที่มีวรยุทธน้อยๆอยู่ ตอนนี้ข้ามีวรยุทธมากขึ้นแล้วข้าอยากผจญภัยแบบผู้มียุทธกัน"ซิงอีกล่าว เพราะป่าแถบนี้ร่มรื่นและมีไอวิเศษอ่อนๆน่าอยู่อาศัยพลางยิ้มและจินตราการว่าจะดีไม่น้อยถ้าได้จญภัยอยู่ที่นี้สักระยะ"ถ้าหากตอนนี้ข้ากับเจ้านายยังสื่อสารกันได้ข้าก็อยากให้ท่านได้หาประสบการณ์ ได้ผจญภัยอยู่หรอกแต่ตอนนี้ข้าติดต่อเจ้านายไม่ได้นะสิ และอีกอย่างเรามีของที่คนหมู่มากต้องการอยู่ ข้าเองก็ไม่วางใจนัก หมู่บ้านต้องแสงจันทร์ก็คงจะมีประกาศติดตามหาตัวพวกเราแล้ว ถ้าพวกที่มียุทธและมีกระจกสมปราถนาแบบที่เรามีก็จะแย่เอา ข้าต้องการกลับให้ถึงเมืองตะวัน ก่อนและแจ้งให้บิดาของเจ้านายข้าออกตามหาเจ้านาย เมื่อเราพบกลุ่มเจ้านายแล้วค่อยหาที่ฝึกประสบการณ์และผจญภัยดีหรือไม่"จื่ออี้เฉินกล่าวความคิดของตนให้คนอื่นฟัง "ข้ารู้สึกว่ามีผู้จับตาดูเราอยู่ ข้าว่าเรารีบกลับเมืองตะวันของเจ้ากันเถอะ ข้าเองก็ไม่แน่ใจว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   อีแร้งยักษ์

    ทางด้านซิงอีกเมื่อรู้ว่ามู๋จินเป่าปลอดภัยนางก็เริ่มกินผลไม้ที่นกยักษ์เอามาทิ้งให้ได้ และหยดน้ำอมฤตให้จิ้งจอกเก้าหางขนสีน้ำผึ้งกับ อีกาดำสามขาทุกวันจนในที่สุดทั้งสองก็รู้สึกตัวในวันที่สามของการหลบหนีมา หลังจากที่ร่างกายได้รับไอวิเศษของผลหลิวต้องแสงจันทร์ ก็ทำให้ร่างกายทั้งสองแข็งแรงมาก เหมือนไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน "นี้มันที่ใดกัน เรามาทีนี้ได้อย่างไรกัน ข้าจำได้ว่าข้าถูกพลังยุทธของผู้มียุทธระดับสูงซัดใส่อย่างเต็มที ข้าคิดว่าพวกเราทุกคนไม่น่าจะรอดแล้วตกลงเรารอดแล้วหรือ"จื่ออี้เฉินกล่าวขึ้นพลางมองไปรอบ ๆ ก็เห็นเป็นลักษณะเหมือนรังนก และกลิ่นอายก็คุ้นเคยยิ่งนัก พลางมองทุกคนที่ตอนนี้ปลอดภัยดี จื่ออี้เฉินคิดถึงเจ้านายเป็นคนแรกจึงลองสื่อสารดูแต่ไร้ผล เจ้านายของเขาติดต่อไม่ได้อีกแล้ว พลางมองไปยังลี่หลินที่มีท่าทีเศร้าเช่นกัน"เจ้าก็สื่อสารกับเจ้านายไม่ได้ล่ะซิ ข้าติดต่อไม่ได้แต่ข้ารู้เจ้านายของข้าฟื้นแล้วและยังมีวรยุทธที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้วรยุทธของข้าก้าวกระโดดยิ่งนัก "ลี่หลินกล่าวพลางมองร่างกายตัวเองและภูมิใจมาก เดิมที่นางมีร่างกายเป็นมนุษยแต่บางครั้งการทำสีหน้าก็ไม่ค่อยมีชีวิตชีว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ปลดผนึกมิติ

    ทางด้านมู๋จินเป่าเมื่อนั่งถ่ายทอดพลังรักษาให้ห่าวอู๋อวี่ พลังในร่างกายของนางก็ปั้นป่วน เหมือนกำลังกดดันพลังบางอย่างเอาไว้ พอเริ่มถ่ายพลังออกไปเรื่อยๆ พลังของห่าวอู๋อวี่ก็ผลักดันพลังนางกลับมาทุกที ทำให้มู๋จินเป่าที่ทีแรงมีพลังในตัวถูกกดทับเอาไว้ก็เริ่มคลายตัวลง มู๋จินเป่าจึงเร่งที่จะถ่ายพลังให้ห่าวอู๋อวี่มากขึ้นเพราะพลังต้านในตัวของห่าวอู๋อวี่ทำให้ตนรู้สึกว่าอีกไม่นานตนน่าจะเลื่อนวรยุทธแล้ว พลังในตัวบุรุษผู้นี้เป็นพลังที่กลหลไม่รู้ว่าหนาวหรือร้อนปนเปกันไปหมด แต่พลังนี้มันดีต่อตัวนางใช้น้อย ทันใดนั้นนางก็เลื่อนวรยุทธทันที และห่าวอู๋อวี่เองก็กระอักเลือดออกมาและฟื้นทันที"เจ้าจะรีบถ่ายทอดพลังรักษาให้ข้าหายเร็ว หรือเพื่อเพิ่มวรยุทธของเจ้ากันแน่ ถ้าข้าไม่ตื่นเสียก่อนร่างกายของข้าคงระเบิดไปนานแล้ว พลังรักษาใครเขารีบร้อนถ่ายให้กัน ต้องค่อยๆสิ ข้าก็เคยถ่ายให้เจ้าตั้งสองครั้งไม่เห็นเจ้าจะกะอักเลือดออกมาเลย"ห่าวอู๋อวี่พูดพลางเช็ดเลือดออกจากมุมปาก และหยิบน้ำอมฤตมาดื่มก็รู้สึกว่าร่างกายของตนแปลก อยู่เฉยๆก็รู้สึกว่าพลังในร่างกายปั่นป่วน หรือจะเป็นพลังของนางที่ถ่ายทอดให้ตนเพื่อการรักษากันนะ"ข้าใช

DMCA.com Protection Status