Home / โรแมนติก / ในเงาของหัวใจ / บทที่ 110 ชะล้างเศษความกลัว

Share

บทที่ 110 ชะล้างเศษความกลัว

last update Last Updated: 2025-04-26 02:01:21

ในห้องน้ำ เสียงน้ำไหลไม่ดังนัก แต่พอจะกลบความเงียบที่เต็มไปด้วยความใกล้ชิดที่แทบไม่ต้องอธิบาย

ธีภพยืนอยู่ข้างหลังเธอ มือหนึ่งประคองไหล่ อีกมือค่อย ๆ สระผมให้เธออย่างเบามือ

ฟองสีขาวละมุนไหลผ่านลำคอและแผ่นหลังเปลือย

นาราหลับตา ปล่อยให้เขาดูแลเธอโดยไม่ต่อต้าน

เธอไม่เคยคิดว่าการให้ใครแตะร่างกายเธอ…จะทำให้รู้สึกปลอดภัยได้ถึงเพียงนี้

นิ้วมือของเขานวดเบา ๆ ที่กลางศีรษะ ไล้จากโคนผมไปจนถึงท้ายทอยด้วยจังหวะมั่นคงสม่ำเสมอ

และมันชวนให้เธอรู้สึกเหมือนทุกเศษความกลัว…กำลังถูกล้างออกไปช้า ๆ

“ผมอยากทำสิ่งพวกนี้ให้คุณ…ทุกวัน”

ธีภพยังคงยืนแนบชิดด้านหลัง

มือหนึ่งสางผมเธอเบา ๆ ขณะที่อีกมือประคองไหล่เปลือยเปล่าไว้อย่างแนบแน่นแต่ไม่รุนแรง

เขาโน้มหน้าลง…ริมฝีปากสัมผัสซอกคอเธอแผ่ว ๆ ก่อนจะกดจูบแน่นขึ้นอีกเล็กน้อย

เสียงหอบของเธอดังแผ่วเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนจัดที่เป่ารดบนผิวเนื้อ

เขาไม่ได้เร่ง แต่เคลื่อนริมฝีปากไปช้า ๆ จูบไล้เล็ม และลูบไล้

ไล่ผ่านลาดไหล่ บ่าบาง…ลงมาที่แผ่นหลังขาวจนกระทั่งเธอเริ่มสะท้านไม่รู้ตัว

ธีภพจับเธอให้หมุนตัวช้า ๆ หันกลับมาสบตาเขา

แววตาเธอสะท้อนแสงในห้องน้ำระยิบระยับ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 111 รอยที่เด่นชัดในสายตาเธอ

    หลังพายุอารมณ์สงบลง ร่างสองร่างยังแนบชิดกันอย่างเหนื่อยหอบ ธีภพยังคงกอดเธอไว้แน่น ทั้งที่เขารู้ว่าเธอหมดแรงแล้ว แขนเขาประคองร่างเธอไว้ราวกับกลัวว่าเธอจะสลายไปกับน้ำที่ยังไหลพร่าข้างตัว นาราซบหน้าลงกับไหล่เขา ลมหายใจยังสะท้อนอยู่บนอก ธีภพโน้มหน้าลง กดริมฝีปากเบา ๆ บนแก้มนวลของเธอ “คุณโอเคไหม…” เขาถามเสียงแผ่วพร่า แฝงความห่วงใยเต็มเปี่ยม ปลายนิ้วของเขาไล้ปอยผมเปียกที่แนบแก้มเธอออกอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขานุ่มนวลราวกับกำลังลูบดอกไม้ที่กลัวจะช้ำเพียงเพราะแรงนิ้ว นาราหลับตาอยู่ในอ้อมกอดเขา ลมหายใจยังไม่ทันเรียบสนิท “เหนื่อยนิดหน่อย…” เธอเอ่ยเสียงแผ่ว “คุณ...กินดุเกินไป” ถ้อยคำเรียบง่ายนั้นกลับดังชัดในอกเขา ธีภพชะงักเล็กน้อย ดวงตาเขานิ่งนาน…ก่อนจะยิ้มบาง ๆ อย่างที่เขาไม่เคยยิ้มให้ใครแบบนั้นมาก่อน เขากระชับวงแขนแน่นขึ้น ประคองร่างบางในอ้อมอกให้ใกล้ขึ้นอีก แล้วเอ่ยเสียงอ่อน… “งั้นก็ปล่อยให้ผมดูแลคุณ…จนกว่าจะไม่รู้สึกเหนื่อยอีกต่อไปนะ” หลังเช็ดตัวให้เธออย่างเบามือจนหยดน้ำแทบไม่หลงเหลือบนผิว ธีภพหยิบชุดลำลองผ้าฝ้ายสีอ่อนมาวางบนตักเธอ แล้วคุกเข่าลงตรงหน้า ราวกับไม

    Last Updated : 2025-04-26
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 1 ความทรงจำที่ยังหายใจ

    เสียงฝนตกเบา ๆ นอกหน้าต่างคล้ายบทกล่อมของค่ำคืน ห้องหออบอวลด้วยกลิ่นกุหลาบขาว และแสงไฟอุ่นละมุนราวอยู่ในฝัน กานต์ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาจับจ้องด้วยแววตาที่ไม่อาจละไปไหน มือของเขาเลื่อนมาถอดผ้าคลุมผมเจ้าสาวออกอย่างเบามือ ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำและนุ่มนวล “รู้ไหมครับ ผมเคยคิดถึงภาพในวันนี้มาตลอด แต่พอเห็นคุณจริง ๆ ในชุดเจ้าสาว ผมกลับไม่แน่ใจว่ากำลังฝันอยู่หรือเปล่า” นารายิ้มบาง ๆ ดวงตาเธอเป็นประกาย ปลายนิ้วแตะมือเขาเบา ๆ ไม่มีคำพูดใดจำเป็นในตอนนั้น ความเงียบของหัวใจพูดแทนทุกอย่าง “เหนื่อยไหมวันนี้” เสียงทุ้มแผ่วเบาของกานต์ดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสอ่อนโยนที่แตะลงบนไหล่นารา เขานั่งลงข้างเธอ พลางยื่นมือมาจับมือเธอไว้แน่น “นิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้หายแล้ว” นารายิ้มจาง ๆ ก่อนจะเอนศีรษะลงบนไหล่เขาอย่างไว้ใจ กานต์ก้มหน้าลงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเธอ “ขอบคุณนะ ที่ยอมเดินมาจนถึงวันนี้ด้วยกัน” “ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ... ขอบคุณที่ไม่เคยปล่อยมือฉันเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” กานต์ขยับกายเข้ามาใกล้ รั้งตัวเธอเข้าสู่อ้อมแขนแน่นขึ้น ลมหายใจเขาอุ่นอยู่ใกล้ใบหน้าเธอ ราวกับจะบอกให้รู้ว่า เขาอ

    Last Updated : 2025-04-08
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 2 ความรักในเงาธุรกิจ

    เสียงเครื่องช่วยหายใจดังเป็นจังหวะช้า ๆ ก้องสะท้อนในห้อง ICU ที่เย็นเยียบและเงียบงันร่างของกานต์นอนนิ่งอยู่บนเตียง รายล้อมด้วยสายระโยงระยาง และกลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ลอยปะปนกับกลิ่นแห่งความหวาดกลัวที่ไม่มีใครพูดออกมานารานั่งอยู่ข้างเตียง มือเล็กกุมมือเขาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเพียงปล่อยมือเดียว…เขาจะหลุดลอยหายไปจากชีวิตเธอตลอดกาล“กานต์…ได้ยินฉันไหม…” เสียงเธอเบาราวเสียงกระซิบ แต่สั่นจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์เขาไม่ตอบ ไม่มีแม้แต่การขยับเปลือกตาแต่ภายใต้ความนิ่งเงียบเช่นนั้น...ที่ปลายลมหายใจอ่อนแรง เขา ยังอยู่เขาติดอยู่ในร่างกายที่ไม่อาจขยับเขยื้อนหัวใจของเขายังพยายามต่อลมหายใจสุดท้ายเขาอยากตอบ อยากบีบมือนั้นกลับแต่โลกของเขาค่อย ๆ มืดลง...เหมือนถูกดูดกลืนไปในความเงียบของจักรวาลที่ไม่มีใครได้ยินเสียงเรียกหมอเดินเข้ามาเงียบ ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มแต่จริงจัง“หัวใจเขาอ่อนแรงลงมากแล้วครับ เราพยายามเต็มที่หากมีอะไรที่คุณอยากพูดกับเขา...ตอนนี้คงเป็นเวลาสุดท้ายแล้ว”คำว่า “สุดท้าย” กระแทกเข้าใส่หัวใจเธอเหมือนคลื่นโถมซัดใส่ฝั่งไม่หยุดยั้งนาราก้มหน้าลงแนบหน้าผากกับมือเขา สะอื้นอย่างเงีย

    Last Updated : 2025-04-09
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 3 คำสัญญาที่ไม่มีวันเป็นจริง

    ในมุมหนึ่งของห้องกรอบรูปขาวดำตั้งอยู่เงียบ ๆ บนโต๊ะทำงานของกานต์นาราหันไปมองแวบหนึ่ง แม้ว่าวันนี้โต๊ะทำงานข้าง ๆ เธอ จะไม่มีกานต์ สามีอันเป็นที่รักของเธอนั่งอยู่แล้วแต่เธอก็ยังคงปล่อยให้โต๊ะตัวนั้นตั้งอยู่ที่เดิม เธอคิดเสมอว่าเขายังคงอยู่เคียงข้างเธอ ไม่เคยจากเธอไปไหนและในหัวใจของเธอยังมีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาเบา ๆ“แม้ว่าจะเจอเรื่องอะไรอย่ากังวล ผมจะอยู่ข้างคุณเสมอ”คิดถึงวันที่เขาเคยอยู่กับเธอ ไม่ว่าเธอจะต้องเผชิญกับปัญหาที่ถาถมมามากมายเพียงไหน กานต์จะอยู่ข้างๆ เธอเสมอ และจะพูดประโยคนี้กับเธอทุกครั้งที่เธอรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่ต้องเผชิญขอแค่มีเขา เธอก็ไม่เคยหวาดกลัวต่ออุปสรรคใด ๆ ทั้งนั้นเช้าวันใหม่มาถึงโดยไม่มีเสียงปลุกจากคนที่เธอเคยตื่นมาเจอทุกวันนารายังคงต้องลุกขึ้นมาทำงานด้วยความรู้สึกที่ขาดหายโต๊ะไม้สีเข้มยังคงวางอยู่ที่เดิมกองเอกสารงานด้านการออกแบบที่กานต์ดูแลยังคงวางอยู่บนนั้นปลายนิ้วไล้ลงไปบนเส้นดินสอที่ยังมีเศษฝุ่นเล็ก ๆ ติดอยู่ลมหายใจสั้นลงอย่างไม่รู้ตัวนี่คือภาพเครื่องประดับที่เขาวาดไว้ล่าสุดเขาเคยบอกว่า...เขากำลังจะออกแบบชิ้นงาน ที่ได้แรงบันดาลใจจากหญิงสาว

    Last Updated : 2025-04-09
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 4 ข้อเสนอที่ไม่เป็นธรรม

    แสงแดดยามสายส่องลอดม่านหน้าต่างกระจกของห้องประชุมใหญ่ บรรยากาศเงียบขรึมถูกแต่งแต้มด้วยสีเทาเงินของผนังและโต๊ะไม้โอ๊กขัดเงาริมหน้าต่างเผยให้เห็นภาพเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ เลือนรางหลังม่านบางๆ ให้ความรู้สึกทั้งเปิดเผยและปกปิดในคราวเดียวกัน นารานั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ดวงตาคมสบมองแผ่นกระดาษเอกสารเบื้องหน้า ท่ามกลางความเงียบงันของช่วงต้นการประชุม ที่ทุกคนต่างกำลังจับจ้องรายละเอียดบนหน้ากระดาษตรงข้ามเธอ ตัวแทนฝ่ายประสานงานธุรกิจของตระกูลเดชาสกุลวงศ์นั่งตัวตรง แววตาเชื่อมั่นหลังกรอบแว่น เขาสวมสูทเนี๊ยบสีเข้ม ด้านข้างมีผู้ช่วยหนุ่มถือแฟ้มเอกสารประกบอยู่ไม่ห่าง ส่วนทางด้านซ้ายมือของนารา อรดา เลขาคนสนิท นั่งสงบนิ่งคอยจดบันทึกตามนิสัยถี่ถ้วน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองนาราแวบหนึ่ง ก่อนก้มหน้าลงดังเดิมเมื่อสบสายตาของเจ้านายสาว“ก่อนอื่น ทางเราขอขอบคุณที่คุณนาราให้เกียรติรับฟังข้อเสนอความร่วมมือในวันนี้” เสียงทุ้มนุ่มของตัวแทนดังขึ้นทำลายความเงียบ เขาเผยยิ้มบางตามมารยาท พลางสบตาทุกคนในห้อง “โครงการโรงแรมและศูนย์การค้าที่เราจะร่วมกันพัฒนาครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้งวรเมธินทร์กรุ๊ป และตระกูลเดชาสกุลวงศ

    Last Updated : 2025-04-09
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 5 กำลังใจจากเพื่อนรัก

    อรดาลอบมองสีหน้าของตัวแทนที่เริ่มเคร่งเครียดขึ้น เธอสูดลมหายใจช้าๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาแต่ชัดถ้อยชัดคำ “คุณนาราคะ ดิฉันคิดว่าเงื่อนไขที่ทางคุณ...” เธอหันไปทางตัวแทนด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเป็นมิตร “...ทางคุณศักดิ์ดาเสนอมา อาจจะดูเหมือนฝ่ายเราต้องรับภาระมาก แต่ถ้ามองในระยะยาว ดิฉันเห็นว่าเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้พันธมิตรทางธุรกิจนะคะ หากโครงการสะดุด ทางเราชดเชยไปก่อนก็เพื่อให้โครงการไม่ล้ม แล้วภายหลังเมื่อโครงการเริ่มทำกำไร เราก็จะได้รับส่วนแบ่งคืนมาพร้อมดอกผล ความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างสองบริษัทก็จะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นด้วยค่ะ”ตัวแทนเหลือบสายตามองอรดาเล็กน้อย ริมฝีปากยกยิ้มเหมือนคนได้ที ขณะที่นาราหันขวับไปมองเลขาคนสนิท แววตาฉายความประหลาดใจผสมไม่พอใจเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะกลับเป็นเยือกเย็นเช่นเดิม เธอไม่คิดว่าอรดาจะออกหน้าสนับสนุนอีกฝ่ายอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้“อรดา” นาราเอ่ยชื่อเลขาด้วยเสียงเรียบเย็น ปราศจากสรรพนามหรือคำลงท้ายใดๆ น้ำเสียงนั้นห้วนสั้นจนอรดาสะดุ้งน้อยๆ “ฉันเข้าใจว่าเธอหวังดี แต่ขอให้จำไว้ว่าเราอยู่ฝ่ายไหน” แค่ประโยคสั้นๆ แต่ทุกคำหนักแน่นดั่งหินผาที่ตกกระทบพื้นห้

    Last Updated : 2025-04-09
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 6 คุณไม่มีวันลอกหัวใจของคนได้

    “เราจะจัดประชุมด่วนไหมคะ” อรดา ผู้ที่เป็นเลขาส่วนตัวถามเบา ๆ“ไม่ต้อง” เธอตอบเสียงแผ่ว “ให้ทุกคนพักก่อน...ฉันขอเวลาทบทวนแผนแป๊บเดียว”เธอยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียงชั้นบนสุด ปล่อยให้ลมเย็นตีหน้าเบา ๆ เสียงรอบตัวเงียบลง เหลือเพียงเสียงลมหายใจและเสียงในใจที่เริ่มสั่นไหวคืนนั้นเธอกลับถึงบ้านช้ากว่าทุกวัน ไฟในบ้านเปิดไว้เพียงดวงเดียว บรรยากาศเงียบจนได้ยินเสียงนาฬิกาเดิน นาราเดินไปยังชั้นหนังสือ ค่อย ๆ หยิบกรอบรูปเก่าออกมา ภาพของเธอกับกานต์ในวันเปิดโรงแรมสาขาแรก เขายิ้มแบบเดิม...รอยยิ้มที่เคยทำให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้นเสมอ'ถ้าวันหนึ่งเธอเจออะไรหนัก ๆ ให้คิดว่าเธอไม่ได้เดินคนเดียว' เสียงของเขาในความทรงจำเอ่ยเบา ๆ“แต่ตอนนี้ฉัน...ก็เดินคนเดียวจริง ๆ ใช่ไหม” เธอพึมพำ กอดกรอบรูปแน่น น้ำตาร่วงเงียบลงบนหลังมือคืนทั้งคืนเธอไม่ได้นอน แต่เมื่อแสงแรกของวันใหม่ส่องลอดม่านเข้ามา นาราลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ ล้างหน้าแต่งตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอมองตัวเองในกระจก ดวงตายังคงแดงช้ำ แต่ภายใต้ความหม่นนั้นกลับเปล่งประกายอะไรบางอย่างเธอนั่งนิ่งอยู่บนเตียง สูดลมหายใจลึก แล้วหันไปมองตารางงานที่วางอยู่บนโต๊ะเล็ก ๆ ข้าง

    Last Updated : 2025-04-11
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 7 สืบหาคนทรยศ

    ห้องประชุมใหญ่ของวรเมธินทร์ กรุ๊ป เงียบลงชั่วครู่หลังการสรุปผลแคมเปญใหม่ เสียงปรบมือดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยพลังใจนารายืนมองทีมงานตรงหน้าอย่างภาคภูมิใจ เธอรู้ การตอบสนองของลูกค้าและสื่อคือก้าวแรกของชัยชนะ แต่ศึกที่แท้จริงเพิ่งเริ่มต้น“ขอบคุณทุกคนมากค่ะ” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ก่อนจะเว้นช่วงเล็กน้อย “ตอนนี้ให้ทุกคนกลับไปพักก่อนนะคะ พรุ่งนี้เรามีขั้นต่อไปที่ต้องเตรียมพร้อมกัน”ทีมงานทยอยออกจากห้องประชุมก่อนที่ศิตาจะเดินตามคนอื่นออกไป นารากลับเอ่ยเรียกขึ้นเบา ๆ“พี่ศิตาคะ...อยู่คุยกับฉันสักครู่ได้ไหม”ศิตาหยุดฝีเท้า หันมาพยักหน้า แล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ใกล้นาราอีกครั้ง“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณนารา?” เธอถามเบา ๆ พลางมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวตรงหน้านาราเว้นจังหวะครู่หนึ่ง ก่อนจะวางเอกสารในมือลง“ฉันอยากให้พี่ช่วยตรวจสอบข้อมูลการเข้าถึงทุกอย่างของแคมเปญที่เราเคยประชุมไว้ก่อนเปิดตัวค่ะ”ศิตาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “หมายถึง...การเข้าถึงไฟล์ทั้งหมด?”นาราพยักหน้า “ไฟล์ร่าง แนวคิดที่ใช้ตอนประชุมเบื้องต้น วันเวลา รายชื่อคนที่เข้าถึงข้อมูล ทุกอย่างเลยค่ะ”“ค่ะ...ไม่มีปัญหาเลย” ศิตาต

    Last Updated : 2025-04-11

Latest chapter

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 111 รอยที่เด่นชัดในสายตาเธอ

    หลังพายุอารมณ์สงบลง ร่างสองร่างยังแนบชิดกันอย่างเหนื่อยหอบ ธีภพยังคงกอดเธอไว้แน่น ทั้งที่เขารู้ว่าเธอหมดแรงแล้ว แขนเขาประคองร่างเธอไว้ราวกับกลัวว่าเธอจะสลายไปกับน้ำที่ยังไหลพร่าข้างตัว นาราซบหน้าลงกับไหล่เขา ลมหายใจยังสะท้อนอยู่บนอก ธีภพโน้มหน้าลง กดริมฝีปากเบา ๆ บนแก้มนวลของเธอ “คุณโอเคไหม…” เขาถามเสียงแผ่วพร่า แฝงความห่วงใยเต็มเปี่ยม ปลายนิ้วของเขาไล้ปอยผมเปียกที่แนบแก้มเธอออกอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขานุ่มนวลราวกับกำลังลูบดอกไม้ที่กลัวจะช้ำเพียงเพราะแรงนิ้ว นาราหลับตาอยู่ในอ้อมกอดเขา ลมหายใจยังไม่ทันเรียบสนิท “เหนื่อยนิดหน่อย…” เธอเอ่ยเสียงแผ่ว “คุณ...กินดุเกินไป” ถ้อยคำเรียบง่ายนั้นกลับดังชัดในอกเขา ธีภพชะงักเล็กน้อย ดวงตาเขานิ่งนาน…ก่อนจะยิ้มบาง ๆ อย่างที่เขาไม่เคยยิ้มให้ใครแบบนั้นมาก่อน เขากระชับวงแขนแน่นขึ้น ประคองร่างบางในอ้อมอกให้ใกล้ขึ้นอีก แล้วเอ่ยเสียงอ่อน… “งั้นก็ปล่อยให้ผมดูแลคุณ…จนกว่าจะไม่รู้สึกเหนื่อยอีกต่อไปนะ” หลังเช็ดตัวให้เธออย่างเบามือจนหยดน้ำแทบไม่หลงเหลือบนผิว ธีภพหยิบชุดลำลองผ้าฝ้ายสีอ่อนมาวางบนตักเธอ แล้วคุกเข่าลงตรงหน้า ราวกับไม

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 110 ชะล้างเศษความกลัว

    ในห้องน้ำ เสียงน้ำไหลไม่ดังนัก แต่พอจะกลบความเงียบที่เต็มไปด้วยความใกล้ชิดที่แทบไม่ต้องอธิบาย ธีภพยืนอยู่ข้างหลังเธอ มือหนึ่งประคองไหล่ อีกมือค่อย ๆ สระผมให้เธออย่างเบามือ ฟองสีขาวละมุนไหลผ่านลำคอและแผ่นหลังเปลือย นาราหลับตา ปล่อยให้เขาดูแลเธอโดยไม่ต่อต้าน เธอไม่เคยคิดว่าการให้ใครแตะร่างกายเธอ…จะทำให้รู้สึกปลอดภัยได้ถึงเพียงนี้ นิ้วมือของเขานวดเบา ๆ ที่กลางศีรษะ ไล้จากโคนผมไปจนถึงท้ายทอยด้วยจังหวะมั่นคงสม่ำเสมอ และมันชวนให้เธอรู้สึกเหมือนทุกเศษความกลัว…กำลังถูกล้างออกไปช้า ๆ “ผมอยากทำสิ่งพวกนี้ให้คุณ…ทุกวัน” ธีภพยังคงยืนแนบชิดด้านหลัง มือหนึ่งสางผมเธอเบา ๆ ขณะที่อีกมือประคองไหล่เปลือยเปล่าไว้อย่างแนบแน่นแต่ไม่รุนแรง เขาโน้มหน้าลง…ริมฝีปากสัมผัสซอกคอเธอแผ่ว ๆ ก่อนจะกดจูบแน่นขึ้นอีกเล็กน้อย เสียงหอบของเธอดังแผ่วเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนจัดที่เป่ารดบนผิวเนื้อ เขาไม่ได้เร่ง แต่เคลื่อนริมฝีปากไปช้า ๆ จูบไล้เล็ม และลูบไล้ ไล่ผ่านลาดไหล่ บ่าบาง…ลงมาที่แผ่นหลังขาวจนกระทั่งเธอเริ่มสะท้านไม่รู้ตัว ธีภพจับเธอให้หมุนตัวช้า ๆ หันกลับมาสบตาเขา แววตาเธอสะท้อนแสงในห้องน้ำระยิบระยับ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 109 ห่างหายมานานเกินไป

    มือของธีภพเลื่อนไปตามเรียวแขนของเธอ ไล้ผ่านเนินไหล่ ลำคอ และแผ่นอกอย่างเนิบช้า ทุกสัมผัสของเขา…ร้อนจัดอย่างไม่อาจควบคุม แต่แฝงความอ่อนโยนราวกับกำลังหลอมละลายร่างกายเธอทีละส่วน ปลายนิ้วเขาไล้ผ่านเนินอกนุ่มด้วยจังหวะช้าและทรมานใจ นาราสะดุ้งเล็กน้อย หอบลมหายใจเฮือกแรก ไม่ใช่เพราะเจ็บ…แต่เพราะความซ่านซึมที่ไหลผ่านผิวกายแบบที่ไม่อาจควบคุมได้ “ธีภพ…” เธอเรียกชื่อเขาเสียงสั่นพร่า ริมฝีปากเผยอน้อย ๆ ราวกับจะยอมรับทุกสัมผัสที่เขากำลังจะมอบให้ เขาก้มลง จูบที่ปลายคางของเธอ…แล้วลากริมฝีปากผ่านลำคอขาวเนียน ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงยอดอกที่สั่นไหวเพียงปลายนิ้วแตะ เขาใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสเบา ๆ ที่นั่น ก่อนจะดูดกลืนมันด้วยจังหวะช้า ร้อน และชื้นละมุน นาราร้องครางแผ่ว ร่างกายเธอกระตุกเล็กน้อยพร้อมเสียงหอบหายใจที่เริ่มขาดช่วง มือของเธอจิกลงที่แผ่นหลังเขาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะเขาสลับใช้มืออีกข้างบีบเคล้นอกอีกข้างของเธอเบา ๆ สัมผัสนั้นไม่รุนแรง…แต่มากพอจะทำให้เธอเสียววาบจนแทบต้องกัดริมฝีปากตัวเองกลั้นเสียง “คุณกำลัง…” เธอพูดไม่จบ เพราะในจังหวะถัดมา มือของเขาเลื่อนลงไปยังต้นขาของเธอ ปลายนิ้วสัมผัส

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 108 คุณมันเอาเปรียบ…

    “คุณธีภพ!” เธอร้องเสียงหลง ใบหน้าแดงจัด “วันนี้…” เขาก้มหน้าลง เอ่ยเสียงทุ้มกระซิบแนบหู “ยังไงผมก็ต้องได้รางวัลของผมอยู่ดี” น้ำเสียงของเขานุ่มละมุน ราวกับโอบคลุมเธอไว้ทั้งร่างกายและหัวใจ นาราทุบไหล่เขาเบา ๆ “นี่...ฉันยังทำงานไม่เสร็จ วางฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!” “ช้าไปแล้วครับคุณนารา…” เขาหัวเราะเบา ๆ เสียงหัวเราะนั้นอ่อนโยน ละลายทุกความแข็งกร้าว เสียงหัวเราะของธีภพยังคงก้องเบา ๆ อยู่ข้างหูนารา ขณะที่เขาอุ้มเธอขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานในห้องทำงานส่วนตัว ภายในบ้านเงียบสงบ แสงไฟสีอุ่นถูกหรี่ลงเหลือเพียงพอให้มองเห็น นอกหน้าต่างเป็นเพียงท้องฟ้ายามค่ำที่มืดสนิท มีเพียงแสงดาวเร้นอยู่ไกล ๆ ราวกับเฝ้ามองโลกอย่างเงียบงัน เขาก้มลงกระซิบใกล้หูเธอ เสียงนุ่มทุ้มฟังคล้ายรอยยิ้ม “พอแล้วครับ เลิกทำงานได้แล้ว…คืนนี้คุณควรพักผ่อน” นาราทำท่าจะค้าน แต่ก่อนที่คำพูดจะหลุดออกจากริมฝีปาก ร่างของเธอก็ถูกอุ้มขึ้นในอ้อมแขนอย่างไม่ทันตั้งตัว “คุณมันเอาเปรียบ…” เธอบ่นเบา ๆ พลางตีไหล่เขาอย่างเขิน ๆ “ผมก็แค่รับรางวัล...ในฐานะคนที่ทุ่มเทที่สุดในรอบปี” เขาตอบเรียบ ๆ แต่ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ เข

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 107 ต้องการรางวัล

    ภานุวัฒน์ฟังเงียบ ๆ ดวงตาคมหลุบต่ำซ่อนแววบางอย่างที่ไม่มีใครทันสังเกต เขายิ้มบาง ๆ ...ในใจกลับเยือกเย็นกว่าครั้งไหน เขาวางแก้วลงบนโต๊ะเบา ๆ ก่อนจะโน้มตัวไปข้างหน้า “แต่ถ้านายอยากได้ผลประโยชน์มากกว่านั้น โดยไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องให้ใครฟ้องร้อง…มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธี” “หมายความว่าไง?” ปกรณ์เลิกคิ้ว “มีช่องทางอื่น…ที่สะอาดกว่า ฉลาดกว่า และเติบโตได้เร็วกว่า” ปกรณ์ยังคงลังเล แววตายังเฝ้าจับผิดเล็ก ๆ “อะไรของนายอีกวัฒน์…จะให้ฉันเล่นหุ้นเถื่อนหรือไง?” ภานุวัฒน์หัวเราะนุ่ม ๆ “ไม่ใช่ของเถื่อน…แต่มันคือการมองให้ออกว่า ‘ใคร’ กำลังใช้ระบบให้เป็นประโยชน์ ดูอย่างซาเลียนสิ อยู่ ๆ ก็เข้าตลาดมาได้…ภายในเวลาแค่ปีเดียว จนใคร ๆ ก็ต้องหันมามอง” เขาเอนหลังอย่างคนที่ไม่เร่งเร้า แต่ปล่อยให้คำพูดไหลซึมเข้าสู่ความคิดของอีกฝ่าย “นายไม่อยากรู้เหรอว่า…พวกเขาทำยังไง?” ปกรณ์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่แววตาจะฉายประกายความสนใจ “แล้วถ้าฉันสนใจล่ะ?” ภานุวัฒน์ยิ้มมุมปาก “ถ้านายสนใจ…นายก็ต้องเชื่อใจฉันก่อน” ................. เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน ในบ้านที่ถูกล้อมด้วยบรรยากาศ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 106 ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นคนอื่น

    ไนท์คลับหรู ใจกลางเมือง ห้อง VIP เสียงเบสดังกระหึ่มลอดผ่านผนังผ้ากำมะหยี่ แสงไฟสีม่วงอมฟ้าสาดส่องเป็นจังหวะ ทำให้ห้องที่เงียบสงบดูเหมือนถูกล้อมด้วยจังหวะชีพจรของเมืองทั้งเมือง ปกรณ์นั่งตัวตรงอยู่บนโซฟาหนังสีเข้ม มือกุมแก้วเหล้าไว้แน่น สีหน้าดูไม่ต่างจากตอนอยู่ในอาคารสูง เพียงแต่ตอนนี้ แววตาของเขาฉายความล้าแบบที่เขาไม่เคยยอมให้ใครเห็นมาก่อน ภานุวัฒน์เอนตัวพิงพนักอย่างสบาย ดวงตาคมทอดมองอีกฝ่ายราวกับเพื่อนที่ห่วงใย “มีอะไรก็บอกมาเถอะปกรณ์ ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นคนอื่น” ปกรณ์ไม่พูดในทันที เขาเพียงแค่ยกแก้วขึ้นจิบ แล้วปล่อยให้แอลกอฮอล์ลื่นไหลลงคอราวกับหวังให้มันพาเรื่องหนักออกไปจากใจ “วรเมธินทร์...” เขาเอ่ยช้า ๆ เสียงแผ่วลง “ฉันกำลังมีปัญหาใหญ่กับพวกเขา” “นารา วรเมธินทร์?” ภานุวัฒน์เลิกคิ้ว “คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เสือของวงการธุรกิจ?” “ใช่…เธอมีหลักฐานในมือ แฟ้มการเงินที่ไม่ควรหลุดออกไปจากโต๊ะของฉัน” ปกรณ์พูดราวกับกลืนก้อนหิน “และที่แย่กว่านั้น…ศักดิ์ดา หายตัวไป” “หายตัว?” น้ำเสียงของภานุวัฒน์เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ติดต่อไม่ได้เลย ไม่ว่าจะช่องทางไหน ราวกับหายเข้ากลีบเมฆ…ฉันไม่รู้ว่าเข

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 105 มีเรื่องที่จัดการไม่ลงตัว

    ธีภพยืนสงบนิ่งกลางแสงไฟสีหม่น แสงสลัวสะท้อนใบหน้าคมที่สงบเกินจะคาดเดาได้ แต่ในดวงตายังคงเรืองประกายบางอย่างที่บอกชัดว่า เกมนี้ยังไม่จบ เขาหันไปมองภานุวัฒน์กับคีรณัฐ เพียงการสบตา...ทุกอย่างก็ถูกส่งต่อโดยไม่ต้องใช้คำ “เตรียมพร้อมขั้นต่อไป” “ถึงเวลาจัดการกับปกรณ์” เสียงของเขาเรียบ แต่หนักแน่นพอจะทำให้ใครบางคนล้มทั้งยืน ไม่มีคำถาม ไม่มีการทบทวน เพราะทุกคนรู้ดี ว่าเมื่อธีภพเอ่ยคำว่า 'จัดการ' สิ่งที่ตามมา ไม่เคยมีคำว่าลังเลอยู่ในนั้น เมื่อภารกิจถูกส่งผ่าน ธีภพคลายเนกไท ถอดสูทพาดไว้กับแขน ปลายนิ้วกดแอปฯ ร้านอาหารในมือถือ ก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วก้าวออกไปอย่างเงียบงัน ... เสียงแตรเบา ๆ ดังขึ้นหน้าประตูบ้านวรเมธินทร์ ลุงอำนวยที่กำลังเช็ดทำความสะอาดรูปปั้นหินเงยหน้าขึ้น ก่อนจะยิ้มกว้างทันทีที่เห็นร่างชายหนุ่มในตัวรถ “คุณธีภพ กลับมาแล้วเหรอครับ” “ครับ” ธีภพยิ้มบาง ยื่นถุงของสดและอาหารในมือให้ “มีปลานึ่งแบบที่เธอชอบ ฝากช่วยเตรียมจานกับหม้อซุปหน่อยนะครับ” "ส่วนถุงนี้ ของลุงครับ" ลุงอำนวยเอ่ยขอบคุณแล้วรับถุงอย่างคล่องแคล่ว พร้อมพยักหน้า พลางพูดด้วยแววตาที่อบอุ่นกว

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 104 ซากที่ยังเดินได้

    ศักดิ์ดาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งด้วยความยากลำบาก แสงไฟเหนือหัวส่องลงบนใบหน้าคมเข้มของชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ในตอนแรกเขาคิดว่าแสงนั้นหลอกตา แต่เมื่อสายตาเริ่มปรับชัด...หัวใจของเขาก็แทบหยุดเต้น ธีภพ... คนที่เขาได้ยินข่าวว่าล้มป่วยหนัก คนที่เขารู้มาแน่นอนว่า เดินทางไปรักษาตัวต่างประเทศ คนที่โลกธุรกิจทั้งวงการพากันเข้าใจว่า ถอนตัวจากทุกตำแหน่งเพราะสุขภาพไม่เอื้ออำนวย …แต่ตอนนี้เขากลับยืนอยู่ตรงหน้า ในสภาพที่เต็มไปด้วยพลัง อำนาจ และสายตาเฉียบขาดจนศักดิ์ดารู้สึกหนาวสั่นตั้งแต่ต้นคอจรดปลายสันหลัง “ค…คุณ…” เสียงของศักดิ์ดาขาดเป็นช่วง ๆ อย่างไม่เชื่อสายตา “ไม่ใช่ว่า...คุณ...ป่วย…” ธีภพไม่ตอบในทันที เขาแค่เดินเข้ามาใกล้…ช้า ๆ ชั่วขณะที่เสียงฝีเท้าแตะกับพื้นซีเมนต์ ทุกเสียงรอบตัวเหมือนหายไปจากโกดังนั้น เขาหยุดยืนตรงหน้าศักดิ์ดา โน้มตัวลงเล็กน้อย สายตาคู่นั้น เย็นจนไม่มีไออุ่นหลงเหลือ “ข่าวลือมันมักจะเชื่อง่ายกว่าความจริงเสมอ โดยเฉพาะกับคนที่อยากให้ฉันหายไป” เขากล่าวเรียบ ๆ แต่น้ำเสียงกลับเหมือนกรีดลึกลงกลางอกของคนฟัง “และมันก็ง่าย…ที่แกกับปกรณ์จะหลงคิดว่า นาราไม

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 103 จะอ่อนโยนให้มากที่สุด

    ธีภพก้มหน้าลงเล็กน้อย กระซิบใกล้ใบหูเธอ น้ำเสียงเขาต่ำทุ้ม และอ่อนหวานในแบบที่เธอไม่คุ้นชิน “สงสัยเรื่องคืนนั้นมันผ่านไปนานจนคุณจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ผมก็ไม่รังเกียจที่จะรื้อฟื้นความทรงจำให้กับคุณนะ” นาราหลบสายตา ใจเต้นแรงผิดจังหวะ แต่ยังเอ่ยเสียงแผ่ว “นี่...คุณ" "ฉัน...ยังบาดเจ็บอยู่นะ” ธีภพยิ้มมุมปาก แตะปลายนิ้วที่แก้มเธอเบา ๆ “งั้นผมจะอ่อนโยนกับคุณให้มากที่สุด” เขาไม่ได้รอคำตอบ เพียงแค่ก้มตัวลง ประคองเธอขึ้นในอ้อมแขนอย่างมั่นคง นารานิ่งไป นาทีนี้เธออายจนพูดอะไรไม่ออก สัมผัสของเขาช่างอบอุ่น…และปลอดภัย ราวกับไม่มีอะไรในโลกจะเข้าถึงเธอได้หากมีเขาอยู่ตรงนี้ เธอซุกใบหน้าลงบนไหล่เขาอย่างแผ่วเบา หัวใจเต้นช้าแต่มั่นคง ในอ้อมกอดของผู้ชายที่เธอเคยผลักไส แต่ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไปว่า…เขาคือที่พักสุดท้ายของใจเธอจริง ๆ เมื่อประตูห้องนอนถูกเปิดออก ธีภพก้าวเข้าไปอย่างเงียบงัน พร้อมกับร่างของนาราที่อยู่ในอ้อมแขน ทุกย่างก้าวของเขานุ่มนวล ราวกับกลัวจะรบกวนลมหายใจของเธอ เขาเดินตรงไปยังเตียงกว้างกลางห้อง ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวลง วางเธอลงบนผืนผ้านุ่มอย่างแผ่วเบา นารากำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status