"ไม่มีทาง พวกเขาไม่ทรยศฉันหรอก!""หากเธอคิดว่าเป็นจี้อี่หนิง ก็เอาหลักฐานออกมา ถ้าไม่มีหลักฐานก็หุบปาก เรื่องนี้ทางบริษัทใจกว้างมากแล้ว อย่ามาได้คืบจะเอาศอก"เมื่อสบเข้ากับสายตาที่รู้ทุกอย่างของเจี่ยงหรู หลิ่วอี๋หนิงรู้สึกแค่ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าตนนั้นคิดอะไรอยู่ จึงรู้สึกประหม่าออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวเธอก้มหน้าลง และกล่าวอย่างไม่ค่อยมั่นใจ "พี่หรู ฉันเข้าใจแล้ว ฉันขอกลับไปทำงานก่อนนะ"เจี่ยงหรูไม่ตอบเธอ แค่หยิบเอกสารฉบับหนึ่งขึ้นมาเริ่มอ่านเมื่อสัมผัสได้ว่าเธอโกรธ หลิ่วอี๋หนิงก็ไม่พูดอะไรอีก ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปอย่างเศร้าหมองเมื่อกลับมาถึงแผนกวิจัย เรื่องแรกที่เธอทำคือเดินไปอยู่หน้าโต๊ะทำงานจี้อี่หนิง"อี่หนิง เล่นงานลับหลังไม่ถือว่ามีความสามารถอะไร ฉันขอแนะนำเธอให้ไปสนใจกับงานดีกว่า ถึงยังไงเวลาทดลองงานของเธอก็มีตั้งสามเดือน หากระหว่างนั้นมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก้เลื่อนเป็นประจำไม่ได้แล้ว เธอว่าใช่หรือเปล่า?"เมื่อเห็นท่าทางได้ใจของเธอ จี้อี่หนิงไร้ซึ่งอารมณ์บนสีหน้าใดๆ ก่อนหลุบตาลงอ่านเอกสารต่อหลิ่วอี๋หนิงยังไม่ทันได้พูด ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างเธอที่กล่าวออกมาด้วยความโมโห "
เมื่อเห็นความโกรธที่แทบจะทะลักออกมาจากในตาเขา จี้อี่หนิงก็เบือนหน้าหนีด้วยท่าทางเรียบเฉย"ไม่มีใครทั้งนั้น ฉันไม่ระวังล้มลงไปเอง""คุณล้มจนมันเกิดรอยฝ่ามือบนหน้าคุณได้ด้วยหรือ?"จี้อี่หนิงหลุบตาลงต่ำ พลางกล่าวเสียงเบา "นี่มันเรื่องของฉัน คุณจะหยุดยุ่งได้หรือยัง?"เสิ่นเยี่ยนจือคว้ามือเธอไว้ และกล่าวด้วยเสียงขรึม "คุณเป็นเมียผม เมียผมถูกคนอื่นทำร้าย คุณคิดว่าผมจะดูเฉย ๆ ไม่ยุ่งได้หรือ?""ฉันบอกแล้วว่านี่มันเรื่องของฉัน และฉันคลี่คลายมันได้แล้ว เอาเสื้อผ้ามาให้ฉันเถอะ"ทั้งสองยืดยื้อกันอยู่สักพัก เมื่อเห็นจี้อี่หนิงยืนกรานไม่ยอมพูด เสิ่นเยี่ยนจือก็ทำได้แค่เพียงยอมแพ้"ผมจะไปส่งคุณกลับ""ไม่ต้อง ฉันนั่งรถไฟใต้ดินไปสิบนาทีก็ถึงแล้ว"ครั้นเห็นการต่อต้านและความเฉยเมยในดวงตาของเธอ เสิ่นเยี่ยนจือก็ขมวดคิ้วขึ้นมา"อี่หนิง ผมไม่ได้ขอให้คุณอภัยให้ผมตอนนี้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธความหวังดีของผม ไม่อย่างนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำเรื่องอะไรออกมาบ้าง"เมื่อได้ยินคำขู่จากในประโยคสุดท้าย ดวงตาของจี้อี่หนิงก็ฉายแววเยาะเย้ย"เสิ่นเยี่ยนจือ นี่คือสิ่งที่คุณบอกว่าจะไม่บังคับฉันอีกหรือ?"
คำพูดลวกๆ ของเขา ทำให้หลิ่วอี๋หนิงเหมือนตกลงไปในอุโมงค์น้ำแข็งเธอรู้ดี เสิ่นเยี่ยนจือสามารถทำได้ และตระกูลหลิ่วก็ไร้ความสามารถที่จะต่อกรได้เธอยกมือขึ้น และตบลงบนหน้าตัวเองอย่างแรง"เพียะ!""ทำต่อไป"เริ่มแรก หลิ่วอี๋หนิงยังรู้สึกถึงความเจ็บบนใบหน้า แต่หลังจากตบมาถึงช่วงหลัง ๆ สองแก้มก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว เธอได้แค่ทำแบบนี้ซ้ำ ๆ อย่างรู้สึกชาไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าตบตัวเองไปกี่ครั้ง ในระหว่างที่หลิ่วอี๋หนิงรู้ว่าจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ ในที่สุดเสิ่นเยี่ยนจือก้ลุกขึ้นเดินมาอยู่ข้างหน้าเธอเขาปรายตามองเธอ ราวกับมองมดแมลงตัวหนึ่ง"คุณหลิ่ว หวังว่าคุณจะจำบนเรียนวันนี้ได้ จากนี้ไปหากเจอภรรยาผมก็เดินอ้อมไปซะ หากมีครั้งต่อไป ผมจะไม่ปล่อยคุณไปง่าย ๆ แบบนี้อีก"สิ้นเสียง เขาก็เดินผ่านเธอไปโดยไม่ชายตาแลมองเลยว่าเธอจะมีปฏิกิริยายังไงบอดี้การ์ดที่คอยป้องกันไม่ให้เธอหลบหนีก็ตามออกไปเหมือนกัน ไม่นาน ภายในห้องก็เหลือแค่เพียงหลิ่วอี๋หนิงคนเดียวในที่สุดความรู้สึกที่ตึงมาตลอดก้คลายลง หลิ่วอี๋หนิงกุมหน้าร้องไห้อย่างเงียบ ๆตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่เคยเสียความรู้สึกขนาดนี้มาก่อนเลย
เสิ่นเยี่ยนจือรู้สึกในคำพูดของมารดามีความหมายแฝงอยู่ เขากำลังจะถามอย่างละเอียด คนรับใช้ก็ประคองเสิ่นซื่อเยี่ยนที่เมาแบบกึ่ม ๆ เข้ามาในห้องนั่งเล่นครั้นเห็นเสิ่นซื่อเยี่ยน เขาก็ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวเสียงต่ำ "แม่ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"พูดจบ ก็หมุนตัวเดินผ่านเสิ่นซื่อเยี่ยนออกไปเสิ่นซื่อเยี่ยนขมวดคิ้ว แต่แค่ทำหน้าบึ้งตึงเท่านั้นไม่ได้พูดอะไรเมื่อกลับมาถึงวิลล่า เขาก็โทรหาหยางอวี่ ให้เขาซื้อวิลล่าหลังหนึ่งในนามของฉินจืออี้หยางอวี่ตกใจเล็กน้อย "บอส หากคุณนายรู้เข้า...""ทำแบบลับๆ หน่อย อย่าให้ใครรู้ โดยเฉพาะอี่หนิง"หากเธอรู้ว่าเด็กในท้องฉินจืออี้ยังอยู่ ต้องยืนกรานจะหย่ากับเขามากขึ้นแน่เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เสิ่นเยี่ยนจือก็รู้สึกอารมณ์เสีย"ได้ครับบอส ผมเข้าใจแล้ว"วางสายเสร็จ หยางอวี่อดถอนหายใจออกมาไม่ได้เสิ่นเยี่ยนจือกำลังวางแผนจะผลักไสจี้อี่หนิงออกไป เดิมเรื่องการนอกใจก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้ยังเลี้ยงคนอยู่ข้างนอกอีก ช่างเป็นการขุดหลุมศพสำหรับการแต่งงานของพวกเขาจริง ๆแต่เขาก็เป็นแค่เลขาคนหนึ่ง ได้เพียงแค่ทำตามที่เสิ่นเยี่ยนจือบอกเท่านั้นหลายวันต่อมา ห
"ดูเหมือนผมจะคิดผิดพี่สะใภ้ใหญ่ว่าใจดีเกินไปแล้ว ยังไงลูกชายตัวเองก็ผิดก่อน ยังกล้าสาดน้ําใส่ลูกสะใภ้อย่างเต็มปากเต็มคํา แม่สามีที่พิลึกพิลั่นแบบนี้ก็หายากจริง ๆ นั่นแหละ"ทุกครั้งที่เสิ่นซื่อพูดแม้แต่คําเดียว สีหน้าของเฉินเสวี่ยหรงก็ย่ําแย่ขึ้นมานิดหนึ่ง สุดท้ายก็เย็นชาลง"น้องสาม นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของเรา เธอเป็นคนนอก อย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า"เสิ่นซื่อเลิกคิ้วขึ้น "เดิมทีผมก็ไม่คิดจะสอดมือเข้ามายุ่ง แต่พี่สะใภ้ใหญ่รังแกสาวน้อยคนแบบนี้ ไม่คิดว่ามันเกินไปหรือครับ?"เธอก็แค่เห็นว่าตระกูลจี้ล้มละลายแล้ว แม้ว่าเธอจะทําอะไรกับจี้อี่หนิงก็ตาม ตระกูลจี้ก็ไม่สามารถทําอะไรเธอได้ ดังนั้นเธอจึงกล้าทําตัวไร้ยางอายแบบนี้เฉินเสวี่ยหรงกัดฟันด้วยความโกรธ "มากเกินไปหรือ เพียงเพราะเยี่ยนจือมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างนอก เธอก็เลยย้ายออกไป แล้วยังจะหย่าอีก ใครทําเกินไปกันแน่?""งานเลี้ยงนอกใจไม่ได้ผิดก่อนหรอกหรือ? เป็นตระกูลเสิ่นของพวกเราที่ทําผิดต่อจี้อี่หนิง ไม่ใช่จี้อี่หนิงที่ทําผิดต่อตระกูลเสิ่น ถ้าพี่สะใภ้ใหญ่คิดเรื่องนี้ไม่ได้ ผมว่าเยี่ยนจือก็ไม่ต้องทํางานที่เสิ่นซื่อกรุ๊ปแล้ว"ใบหน้าของเฉิ
เสิ่นเยี่ยนจือนิ่งไป ขมวดคิ้วถามว่า "หมายความว่ายังไง?""คุณไปถามก็รู้แล้ว"พูดจบเธอก็เดินอ้อมเขาออกไปสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือมืดหม่นลง เขาโทรหาเฉินเสวี่ยหรงทันที"แม่ วันนี้แม่ไปหาอี่หนิงมาเหรอ?"เฉินเสวี่ยหรงถูกเสิ่นซื่อสั่งสอนในร้านอาหาร ตอนนี้ในใจกําลังลุกเป็นไฟ ได้ยินดังนั้นก็แค่นหัวเราะอย่างเย็นชา"เธอไปฟ้องแกเหรอ ไม่รู้จักกาลเทศะจริง ๆ!"เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ดวงตาของเสิ่นเยี่ยนจือก็ฉายแววโกรธ "แม่ ผมบอกแม่แล้วว่าอย่ามายุ่งเรื่องระหว่างผมกับอี่หนิง ทําไมแม่ไม่ฟัง?""ถ้าฉันไม่ได้ทําเพื่อแก แกคิดว่าฉันยอมไปหามันเหรอ ก็แค่มีผู้หญิงอยู่ข้างนอกก็ทำเป็นโวยวายจะย้ายออกไป แม้แต่ผู้หญิงตัวเองก็ยังควบคุมไม่ได้ ถ้าไปถึงหูคนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะแกยังไงกัน!""นี่เป็นเรื่องของเรา ถ้าแม่ยังแอบไปหาอี่หนิงอีก ผมจะไม่ยุ่งเรื่องพ่อผมอีก""แก!"เสิ่นเยี่ยนจือไม่ได้ให้โอกาสเธอพูดอะไรเลย กดวางสายไปทันทีเขาเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า คิ้วของเขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิดเรื่องการนอกใจก่อนหน้านี้ยังไม่ได้คลี่คลายเลย ตอนนี้เฉินเสวี่ยหรงก็มาหาเรื่องจี้อี่หนิงอีกแล้ว ถ้าเขาเป็นจี้อี่หนิงก็คงไม่อยากให
เขาเพิ่งจะรู้ตอนนี้เองว่า ลับหลังแล้วเธอทำกับจี้อี่หนิงแย่ขนาดนี้นี่ตลอดสามปีที่พวกเขาแต่งงานกัน เวลาที่ตัวเขาไม่อยู่เธอพูดจากับจี้อี่หนิงแบบนี้ตลอดเลยเหรอ?จู่ๆ เสิ่นซื่อก็โผล่เขามาในกล้องวงจรปิด มือที่เสิ่นเยี่ยนจือกำโทรศัพท์อยู่ขาวซีดเห็นเส้นเลือดเมื่อเห็นเสิ่นซื่อปกป้องจี้อี่หนิง เขาโกรธมากแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอ่อนใจเขาต่างหากที่เป็นสามีของจี้อี่หนิง คนที่ควรอยู่ข้างกายจี้อี่หนิงตอนนั้นควรเป็นเขาแท้ๆ แต่เขากลับไม่ปรากฏตัว และถ้าไม่ใช่จี้อี่หนิงบอกให้เขาไปถามเฉินเสวี่ยหรงเอาเอง เขาก้คงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เลยยิ่งคิดเยี่ยนจือก็ยิ่งรู้สึกผิดเขาผิดต่อจี้อี่หนิง ผิดต่อความรักที่มีให้กันมาแปดปีเขาปิดคลิปวิดีโอแล้วส่งข้อความหาเลขา[ต่อไปถ้าคุณนายให้คุณช่วยจัดการเรื่องพ่อผมอีก คุณไม่ต้องยุ่งแล้วนะ][ได้ครับ งั้นแล้วทางฝั่งอาเล็กจะให้สืบต่อไหมครับ?][สืบต่อไป]เดิมทีจี้อี่หนิงคิดว่าหลังจากเหตุการณ์เมื่อคืน เสิ่นเยี่ยนจือจะหยุดไปสักสองสามวัน ไม่คิดว่าวันต่อมาเขาจะหอบช่อดอกไม้มายืนอยู่หน้าประตูพอเห็นเธอสายตาของเสิ่นเยี่ยนจือฉายแววดีใจ "อี่หนิง...""มีธุระอะไร?"
เมื่อเห็นสายตาผิดหวังของจี้อี่หนิง หัวใจเสิ่นเยี่ยนจือก็ราวกับถูกจับไว้แน่น เขาเจ็บจนหายใจไม่ออก"อี่หนิง ผมรู้ไม่ว่าตอนนี้ผมจะรับปากกับคุณยังไงคุณก็ไม่มีทางเชื่อ ต่อไปผมจะพิสูจน์ด้วยการกระทำ ผมจะต้องทำได้แน่นอน"จี้อี่หนิงไม่คิดจะฟังคำรับประกันของเขา เธอเดินผ่านเขาไปเลยเสิ่นเยี่ยนจือทำท่าจะตามไป แต่โทรศัพท์ในกระเป๋าดันดังขึ้นมาพอดีพอรับสายก็ได้ยินเสียงเคร่งขรึมของเลขาก็ดังลอดมา"ประธานเสิ่น บริษัทมีปัญหาด้านความร่วมมือครับ"เสิ่นเยี่ยนจือส่ายตาเคร่งขรึม "เดี๋ยวผมไป"เขาตามไปถึงทางเข้าหมู่บ้านเห็นจี้อี่หนิงนั่งแท็กซี่ออกไปเสิ่นเยี่ยนจือเม้มริมฝีปากแล้วหมุนตัวขึ้นรถมุ่งหน้าไปบริษัทหลังจากจัดการเรื่องที่บริษัทเสร็จแล้วถึงค่อยๆ จัดการปัญหาระหว่างเขากับจี้อี่หนิงตอนที่จี้อี่หนิงมาถึงร้านอาหาร สือเวยก็รออยู่ที่นั้นแล้ว"อี่หนิง เธอมาได้สักที เมื่อกี้ฉันได้ยินข่าวเม้าส์มาล่ะ รอเล่าให้เธอฟังเลยเนี่ย"จี้อี่หนิงนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับอีกฝ่าย เอากระเป๋าวางลงบนเก้าอี้ข้างๆ แล้วเลิกคิ้ว "ข่าวอะไร?""ได้ยินมาว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนไม่รู้หลิ่วอี๋หนิงไปทำอะไรให้เสิ่นเยี่ยนจือเลยโดนตบในห้อ
จี้อี่หนิงแววตาเต็มไปด้วยความรำคาญ “ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ และก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นตัวอันตรายอะไร สำหรับฉัน เธอก็แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้นเอง”เสิ่นเยี่ยนจือสีหน้าเจือความจนใจเล็กน้อย “เธอไม่ต้องดื้อขนาดนี้ก็ได้ เราก็เคยรักกันมาก่อน ถึงแม้ตอนนี้จะเลิกกันไปแล้ว ผมก็ยังอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น แค่อาเล็กของผม เขาไม่เหมาะกับเธอเลยจริงๆ”จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว พูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระพวกนี้ หลบไป!”วันนี้เธอเจอหลี่เหวิน เดิมทีก็อารมณ์ดีอยู่แล้ว ไม่นึกว่าจะมาเจอเสิ่นเยี่ยนจือเลยทำให้อารมณ์ดีๆ หายหมดฉินจืออี้ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะ “เยี่ยนจือ เธอไม่ต้องพูดแล้ว ปล่อยให้เธออยากเป็นเมียน้อยเถอะ ยังไงคนที่น่าอับอายสุดท้ายก็ไม่ใช่เธออยู่ดี”เดิมทีจี้อี่หนิงไม่คิดจะสนใจพวกเขาแล้ว แต่พอได้ยินแบบนี้ก็อดหันไปมองฉินจืออี้ไม่ได้“พูดถึงเรื่องเป็นเมียน้อย คุณฉินน่าจะมีประสบการณ์นะ ก็ในเมื่อเธอเองก็ได้ขึ้นแท่นภรรยาจากการเป็นเมียน้อยนี่ไม่ใช่เหรอ?”ใบหน้าฉินจืออี้เปลี่ยนสีทันที ตะโกนว่า “จี้อี่หนิงเธอพูดบ้าอะไร?! ฉันกับเยี่ยนจือจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ตอนนี้ฉันคือคุณนายเสิ่นอย่างถู
หลังจากที่รุ่นพี่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอก็ไปเรียนต่อที่เมืองเป่ย์เฉิง ส่วนจี้อี่หนิงกลับมาที่เมืองเซิน นับๆ ดูแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอกันมานานกว่า 4 ปีแล้วจี้อี่หนิงตอบกลับข้อความ จากนั้นก็ถามว่าโรงแรมของรุ่นพี่อยู่ที่ไหน แล้วก็หาร้านอาหารท้องถิ่นใกล้โรงแรมไว้หนึ่งแห่งตอนหกโมงเย็นกว่าๆ จี้อี่หนิงเพิ่งเดินเข้าไปในร้านอาหาร ก็เห็นผู้หญิงผมสั้น หน้าเหมือนตุ๊กตาคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่างโบกมือให้เธอ“อี่หนิง นี่!”เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของรุ่นพี่แล้ว จี้อี่หนิงก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยเรียนมหาวิทยาลัย มุมปากของเธอก็เผลอยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัวชื่อของรุ่นพี่คือหลี่เหวิน เป็นผู้เรียนเก่ง พอเรียนต่อก็สอบเข้าเรียนปริญญาเอกโดยไม่ต้องสอบอีกครั้ง ครั้งนี้มาเข้าร่วมงานสัมมนาพร้อมอาจารย์ที่ปรึกษาหลังจากจี้อี่หนิงนั่งลง หลี่เหวินก็พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “อี่หนิง เธอแทบไม่เปลี่ยนไปจากสมัยเรียนเลยนะ”“รุ่นพี่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย พอเห็นพี่ก็ทำให้นึกถึงตอนที่พี่พาหนูทำการทดลองสมัยเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ"“อย่าเลย... พี่ไม่กล้ารับคำชม หลังๆ ก็เป็นเธอที่คอยช่วยพี่ด้วยซ้ำ ว่าแต่ สามีเธอล่ะ?
ไม่นาน ซุนสิงก็กลับมา"ประธานเสิ่นครับ เช้านี้คุณจี้มีปากเสียงกับพนักงานของชิงหงที่หน้าประตูลิฟต์ คุณจี้ถูกผลักจนล้ม เวินลี่เจ๋อน่าจะพาคุณจี้ไปโรงพยาบาลครับ"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีการปะทะกัน?"ซุนสิงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยความระมัดระวัง "ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่คุณกับคุณฉีกลับมาคบกัน... นี่คือวิดีโอจากกล้องวงจรปิด คุณดูเองเลยครับ"เสิ่นซื่อรับแท็บเล็ตจากมือซุนสิง แล้วเปิดดูวิดีโอ กลับพบว่าหน้าตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก"ไล่ออกพนักงานที่ก่อเรื่องคนนั้น""ประธานเสิ่นครับ อย่างนี้จะไม่ดีเหรอครับ? เพราะว่าคุณจี้ก็ยังตบพนักงานคนนั้นเหมือนกัน"เสิ่นซื่อมองไปที่ซุนสิงด้วยสีหน้าที่เย็นชา "ถ้าผมจำไม่ผิด ผมเคยประกาศว่าในบริษัทห้ามพูดถึงเรื่องส่วนตัวของผม"เมื่อเห็นดวงตาของเขามีความโกรธ ซุนสิงก็รีบพูดว่า "ครับ ผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ครับ"ไม่นาน ข่าวการถูกไล่ออกของพนักงานคนนั้นก็แพร่กระจายไปในบริษัท พร้อมกับประกาศฉบับหนึ่ง【พนักงานทุกคนของชิงหง หากมีใครพูดถึงเรื่องส่วนตัวของประธานบริษัท หรือสร้างปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะถูกไล่ออกทันที!】พนักงานคนอื่นๆ ที่เคยพูดถ
"เธอกับเธอเป็นอะไร ทำไมต้องช่วยเธอ?"ผู้หญิงพยายามจะสะบัดมือเขาออก แต่ไม่สำเร็จ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ"ผมกับเธอเป็นอะไรไม่จำเป็นต้องบอกเธอ พฤติกรรมที่เธอผลักเธอลงไปเมื่อกี้ถูกกล้องวงจรปิดจับได้หมดแล้ว เดี๋ยวผมจะพาเธอไปตรวจอาการ บิลค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายทางจิตใจ ผมจะให้ทนายคุยกับเธอ""ฮ่ะๆ เธอก็ไม่ได้ตบฉันเหรอ? ตรวจอาการ ใครๆ ก็ทำได้! ฉันก็จะไปตรวจ!"เวินลี่เจ๋อมีแววความเย็นชาในตา เขาเข้าใกล้ผู้หญิงและพูดเสียงต่ำที่มีแค่สองคนฟังได้: "เธอควรอธิษฐานให้เธอไม่มีอะไร มิฉะนั้นผมจะฆ่าเธอ!"เสียงของเขาเย็นชาและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหนาวเยือกในใจเธอมีลางสังหรณ์ว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ขู่เธอ เขากำลังพูดจริง!ขณะที่เธอยืนอึ้งไปด้วยความกลัว เขาก็ปล่อยมือเธอและหันหลังเดินไปทันที โดยอุ้มจี้อี่หนิงขึ้นและเดินเร็วไปที่ประตูจี้อี่หนิงไม่คิดว่า เมื่อคืนนี้ที่เธอพูดกับเวินลี่เจ๋อเขาจะช่วยเธอในวันนี้จนกระทั่งออกจากประตู เธอถึงได้สติและรีบพูดว่า: "ปล่อยฉันลงก่อน ฉันเดินเองได้ และก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ"ถึงแม้จะล้มแรง แต่คงไม่กระทบกระดูกอ
เสียงแตรดังขึ้นจากข้างหลัง จี้อี่หนิงหันกลับไปและรีบขับรถไปจอดข้างทางเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือของเธอสั่นสายยังคงเชื่อมต่ออยู่ เสียงของสือเวยที่เต็มไปด้วยความกังวลดังออกมาจากโทรศัพท์"อี่หนิง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่มีอะไรใช่ไหม? เธอกำลังขับรถไปทำงานใช่ไหม? ฉันมันโง่จริงๆ ไม่ควรบอกข่าวนี้ตอนนี้เลย!"จี้อี่หนิงเช็ดน้ำตาที่มุมตาแล้วพูดเสียงเบาๆ "ไม่มีอะไร แค่โทรศัพท์หลุดจากมือไป""ถ้าไม่มีอะไรฉันก็โล่งใจ... ฉันไม่ควรโทรหาตอนนี้จริงๆ..."เสียงของสือเวยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอเห็นข่าวนั้นเธอโกรธมากจนไม่ได้คิดอะไร รีบโทรหาจี้อี่หนิงตอนนี้คิดแล้วรู้สึกเสียใจสุดๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจี้อี่หนิง เธอคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้!"อืม ฉันต้องขับรถแล้ว เอาไว้คุยทีหลัง"พูดจบ จี้อี่หนิงก็วางสายเธอสูดหายใจลึก เปิดเว็บค้นหาเกี่ยวกับเสิ่นซื่อและฉีรั่วอวี่ข่าวทั้งหมดที่ปรากฏคือพวกเขาประกาศกลับมาคบกัน【รอแฟนเก้าห้าปี CEOชิงหง เสิ่นซื่อในที่สุดก็สมหวัง!】【เปิดเผยสาเหตุที่เสิ่นซื่อโสดมานาน เพราะรอแฟนเก่าไปเรียนต่อต่างประเทศ!】【เผยข่าวเสิ่นซื่อกับแฟนเก่ากลับมาคบกัน ทั้งค
เสิ่นซื่อสีหน้าเย็นชา "วันนั้นที่เธอกลับมาประเทศ"เหนียเว่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย เขาสูดหายใจลึกก่อนพูดอย่างช้าๆ: "ที่เธอเลิกกับจี้อี่หนิงแล้วกลับไปอยู่กับรั่วอวี่ก็เพราะเธอเหลือเวลาแค่สามเดือนใช่ไหม?"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "ผมไม่ได้กลับไปคบกับเธอ"เขาแค่สัญญาว่าจะอยู่กับเธอในช่วงสามเดือนนี้ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปคบกัน"งั้น... เธอไม่รักรั่วอวี่แล้วจริงๆ เหรอ?""ตั้งแต่วันที่เธอเลือกจะไปต่างประเทศ พวกเราก็ไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว"มือที่ลงข้างลำตัวของเหนียเว่ยชิงกำแน่นทันที สีหน้าก็เริ่มตื่นเต้น "แต่รั่วอวี่รักเธอมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเลย และตอนนี้รั่วอวี่เหลือเวลาแค่สามเดือน เธอช่วย... หลอกรั่วอวี่สักหน่อยไม่ได้เหรอ?""ไม่ได้ มันไม่ยุติธรรมกับจี้อี่หนิง"เขาให้เธอรอเขาสามเดือน และก็เคยให้สัญญาว่าจะไม่กลับไปคบกับฉีรั่วอวี่แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อ เขาก็จะไม่ลืมคำสัญญานั้น"อะไรที่ไม่ยุติธรรมล่ะ?รั่วอวี่ต้องการแค่สามเดือน หลังจากนั้นเธอก็สามารถกลับไปหาจี้อี่หนิงได้ นี่คือคำขอสุดท้ายของรั่วอวี่ ถึงแม้เธอจะไม่รักรั่วอวี่แล้ว แต่ครั้งหนึ่งพวกเธอก็เคยรักกัน เธอจะใจแข็งปล่อยให้รั่วอวี่จากไปอย
"ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องหรอก ต่อไปเราควรหลีกเลี่ยงการติดต่อกันเป็นการส่วนตัว ฉันไม่อยากถูกคนอื่นชี้หน้าด่าอีกแล้ว"หลังจากพูดอย่างเย็นชาจบ จี้อี่หนิงก็กำลังจะเดินผ่านเขาไป แต่เขากลับขวางไว้"อี่หนิง คำพูดที่แม่ผมพูดกับเธอ ผมขอโทษแทนเธอด้วยนะ ผมก็พูดกับเธอแล้ว เธอสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับเธออีก อย่าโกรธเลยนะ ได้ไหม?""ถ้าเธอคิดว่าคำพูดพวกนั้นมันผิดจริงๆ คนที่มาที่นี่คืนนี้ก็ควรเป็นเธอไม่ใช่เธอ"เวินลี่เจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วมองเธอพร้อมพูดเสียงเบา "ถ้าเธอมาขอโทษด้วยตัวเอง เธอจะให้อภัยเธอไหม?"ใบหน้าของจี้อี่หนิงแสดงความไม่พอใจออกมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเวินลี่เจ๋อถึงต้องการให้เธอให้อภัยเวินจิ้งหงเวินจิ้งหงเป็นแค่แม่เลี้ยงของเธอ พวกเธอแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจ"สิ่งที่เธอพูดกับฉัน ฉันไม่มีวันลืม และก็ให้อภัยไม่ได้ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว อย่ามาหาฉันอีกเลย"ไม่ให้โอกาสเวินลี่เจ๋อพูดอีก จี้อี่หนิงก็เปิดประตูเข้าไปในบ้านทันทีเวินลี่เจ๋อยืนอยู่หน้าประตูสักพักก่อนจะจากไป พอกลับถึงบ้านก็เจอกับเวินจิ้งหงที่เพิ่งกลับมาหยิบเสื้อผ้าเมื่อเห็นกล่องอาหารในมือเขาเวินจิ้ง
จี้อี่หนิงเม้มริมฝีปากแน่น แล้วกดโทรหาเขาโดยตรง“ฉันยังอยู่ข้างนอก ครั้งหน้าหาอะไรมาให้ไม่ต้องลำบากหรอกนะ”ปลายสายเงียบไปไม่กี่วินาที เสียงอบอุ่นของเวินลี่เจ๋อจึงดังขึ้น “โอเค ตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว ให้ฉันไปรับเธอไหม?”เพราะคำพูดของเวินจิ้งหง จี้อี่หนิงจึงไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับเวินลี่เจ๋อมากนัก“ไม่ต้อง ฉันมีเพื่อนมาส่ง ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้นะ”หลังจากวางสาย สือเวยถามด้วยความสงสัย “เมื่อกี้คุยกับใครน่ะ?”“พี่ชายต่างแม่ของฉัน”สือเวยดูตกใจเล็กน้อย “เขากลับมาแล้วเหรอ? เมื่อไหร่น่ะ?”เมื่อก่อนสือเวยไปบ้านจี้อี่หนิงบ่อย เลยเจอเวินลี่เจ๋ออยู่หลายครั้ง“ก็แค่ไม่กี่วันก่อนเอง”“โอ้ ตอนนี้เขาดูห่วงเธอดีนะ ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนไปบ้านเธอ เขาดูเย็นชาออก”“ก็โอเคล่ะ ใช่สิ…คืนนี้ฉันเป็นคนชวนแท้ๆ สุดท้ายเธอเป็นคนจ่าย เธอส่งบิลให้ฉันสิ เดี๋ยวฉันโอนให้”สือเวยมองค้อนเธอ “กับฉันยังจะคิดมากอีกเหรอ? ไว้คราวหน้าเลี้ยงคืนก็พอ แล้วเธอไปโรงพยาบาลกับเสิ่นซื่อทำไมล่ะ? เธอบาดเจ็บเหรอ?”จี้อี่หนิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำคร่าวๆ ให้ฟัง หลังจากฟังจบสือเวยก็เดือดดาลทันที“ฉันก็รู้ว่าเธอนั่นม
“ฉันไม่อยากเลือกทั้งสองอย่าง ตอนนี้จอดรถเดี๋ยวนี้ ฉันจะลงรถ”เสิ่นซื่อขับรถต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อเธอไม่อยากเลือก งั้นผมเลือกให้เอง”จี้อี่หนิงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น เธอรู้ว่าไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เสิ่นซื่อก็ไม่มีทางปล่อยให้เธอลงรถ เธอจึงเงียบแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเย็นชาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงหน้าโรงพยาบาล เสิ่นซื่ออุ้มเธอเข้าไปข้างในทันทียังไงขัดขืนก็ไม่มีประโยชน์ จี้อี่หนิงจึงนิ่งเงียบด้วยใบหน้าเย็นชาหลังจากตรวจเสร็จ หมอบอกว่าไม่มีอะไรน่ากังวล แค่จ่ายยาแบบรับประทานและยาทาตอนออกจากโรงพยาบาล เสิ่นซื่อยังจะอุ้มเธออีก แต่เธอก้าวถอยหลังหลบเธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คืนนี้ขอบคุณมาก ฉันจะกลับเองโดยแท็กซี่ก็ได้”พูดจบ เธอก็ถือถุงยาแล้วหันหลังเดินออกจากโรงพยาบาลเสิ่นซื่อเดินตามเธอมาเงียบ ๆ จนใกล้ถึงรถ เขาถึงได้ขวางเธอไว้แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ผมจะไปส่งเธอ”จี้อี่หนิงเงยหน้ามองเขาอย่างจนใจ “เราก็เลิกกันไปแล้ว สิ่งที่คุณทำตอนนี้ไม่มีความหมาย ฉันจะไม่กลับไป และไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับฉีรั่วอวี่ค่ะ”“ฉันไม่ได้กลับไปคบกับเธอ และจะไม่กลับไปคบด้วย”