อวี่เหวินห่าวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ได้ยินน้องสะใภ้ที่พูดอย่างโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ นางคงไม่ใช่คนสอนแน่เสียงตะโกนดังโวกเวกเสียขนาดนี้ ย่อมทำให้หยวนชิงหลิงตื่นเป็นธรรมดานางข้าหลวงสี่ประคองนางออกมา นางสวมเสื้อคลุมยาวลากพื้น เพราะเดินไปอย่างรีบร้อน ก้าวประคองกันไปจนร่างดูโดดเด่นคล้ายนกเพนกวินยังไงอย่างงั้น“เกิดอะไรขึ้น?” นางก้าวไปข้างหน้า มองเสี่ยวหลานและหันไปมองใบหน้าโกรธเกรี้ยวของอวี่เหวินห่าว หยวนชิงผิงพูดเรียกร้องความเป็นธรรม “พี่ใหญ่ ไม่คิดเลยว่าท่านอ๋องจะทำเสี่ยวหลาน… เขาทำแบบนั้นได้ยังไง?”อวี่เหวินห่าวที่โกรธจนไม่รู้จะโกรธยังไงแล้วพูดอย่างโกรธแค้นว่า “ข้าอยู่ที่สระผี จู่ ๆ นางก็เข้ามากอดข้าจากด้านหลัง ข้าแค่ลากนางออกมาเท่านั้น”หยวนชิงผิงตกใจมาก “พูดเหลวไหล...”แต่ว่านางหยุดคำที่จะพูดออกมาทันที และหันไปมองเสี่ยวหลาน “เจ้าบอกว่าเจ้าออกไปเดินเล่น ไปเดินเล่นที่ไหน?”แต่ว่า ไม่นะ นางเชื่อใจเสี่ยวหลาน นางออกจะใสซื่อปานนั้นแท้ ๆเสี่ยวหลานที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง ร้องไห้ฟูมฟายออกมา ร้องไห้ออกมาอย่างโศกเศร้า และสิ้นหวัง ไม่มีคำแก้ตัวอธิบายใด ๆ ในตอนนั้นหยวนชิงผิงไม่รู้ข้อเ
“สี่กูกู ท่านเห็นว่าในจวนอ๋องของเรายังมีใครบ้างที่ไม่แต่งงาน ให้เสี่ยวหลานไปแต่งกับเขาเถอะ” หยวนชิงหลิงกล่าว“คนต้อนรับของเรา อาถู่ยังไม่ได้แต่งงานเพคะ” นางข้าหลวงสี่กล่าว“ได้ งั้นจวนอ๋องจะออกเงินช่วยจัดงานแต่งงานให้พวกเขา” หยวนชิงหลิงกล่าวเสี่ยวหลานตกใจจนหน้าซีดเผือดและร้องไห้ขึ้นมา “พี่หลิง ท่านต้องการบังคับให้ข้าตายหรือ!”หยวนชิงผิงก็โกรธจนส่ายหน้าหยวนชิงหลิงโน้มลงมาพูดกับนางว่า “บังคับให้เจ้าตาย? เจ้าเป็นคนพูดเองว่ายอมตกลงเป็นทาสในจวนอ๋อง ทำไมรึ? ไม่ได้พูดจริง ๆ สินะ?”เสี่ยวหลานตกใจจนหยุดร้องไห้ และคุกเข่าก้มหัวหมอบกับพื้น “พี่หลิง ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”หยวนชิงหลิงถามออกมาอย่างเย็นชา “ผิดอันใดกัน?”เสี่ยวหลานร้องไห้และกล่าวว่า “มีคนสอนให้ข้าทำเช่นนี้ คน ๆ นั้นบอกว่า เพียงแค่ท่านอ๋องแตะต้องข้า เขาก็จะให้ข้าเป็นพระชายารอง นางบอกว่าพี่หลิง ท่านเองก็ทำเช่นนี้จนได้เป็นพระชายาฉู่”หยวนชิงผิงแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลยสักนิดจนใบหน้าของนางซีดขาว “เสี่ยวหลาน เจ้าพูดเหลวไหลอะไร?”เสี่ยวหลานเงยหน้าขึ้นมองหยวนชิงผิงด้วยใบหน้าที่นองน้ำตา “พี่ผิง ท่านยกโทษให้ข้าด้วย ข
อวี่เหวินห่าวที่กลับมาจากอาบน้ำ ใบหน้ายังคงโกรธอยู่“ลงโทษแล้วรึ?” อวี่เหวินห่าวก้าวเข้าไปในประตูถามอย่างเกรี้ยวโกรธ “โบยตายแล้วรึยัง?” หยวนชิงหลิงก้าวไปข้างหน้าปรนิบัติเขาด้วยรอยยิ้ม ซับน้ำ เช็ดผมให้แห้ง และนวดไหล่ให้ “ส่งกลับไปแล้ว ครั้งนี้ตักเตือนนางเล็กน้อย อย่าได้ทำผิดใหญ่หลวงซ้ำอีก”“ปล่อยนางไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือ?” อวี่เหวินห่าวโกรธมาก และเขาเองก็ไม่กล้าโกรธ อันที่จริงตั้งแต่ต้นเขาก็ไม่ได้ยอมรับทันที ยังบอกคนอื่นว่าถูกกอดอีก เหล่าหยวนได้คิดถึงเรื่องนี้แล้วหยวนชิงหลิงกล่าว “ก็แค่กระต่ายขาวตัวหนึ่งที่ถูกคนบงการ นางไม่อยากแต่งกับมหาบัณฑิตอู๋ จึงได้ลงมือกับท่านเพื่อหวังเป็นพระชายารอง”“บงการ? ใครบงการนาง?” ทันใดนั้นอวี่เหวินห่าวนึกถึงคนๆนึงขึ้นมา “พระชายาจี้?”“ก็คือนาง” หยวนชิงหลิงจูงเขาให้นั่งลง “อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย น้องรองเองก็ขายหน้ามากพอแล้ว ถ้ายังพูดถึงเรื่องอีก วันหลังนางคงไม่กล้ามาที่นี่แล้ว””ครั้งนี้นางไม่ระวังเอง ตั้งแต่แรกยังกล้าช่วยเสี่ยวหลานนั้นอีก ฮึ” อวี่เหวินห่าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์“นางถูกคนหลอกใช้ อย่าโทษนางเลย ใจเย็น ใจเย็นนะ” หยวนชิงหลิงลูบหลังเขาแล
ไทเฮาที่ทรงทราบแล้วก็อดกลัวขึ้นมาไม่ได้ พระชายาฉู่ตั้งครรภ์อยู่เช่นนี้ จะรับมือกันเรื่องวุ่นวายใหญ่โตได้ที่ไหน? จึงได้มีราชเสาวนีย์เรียกให้คนเชิญตัวอวี่เหวินห่าวเข้าวังหลวงทันทีเสด็จย่าถามอย่างตรงไปตรงมา “เรื่องที่สระผีผี เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” อวี่เหวินห่าวตกใจมาก “เสด็จย่า พระองค์ทรงทราบด้วย?”เมื่อได้ยินดังนั้น เสด็จย่าก็เกือบเป็นลมหมดสติไป นางชี้ไปที่เขา “เจ้ามันเลอะเลือนจริง ๆ พระชายาฉู่นางเอะอะขึ้นมาแล้วเสียลูกไป เจ้าเอาชีวิตข้าไปเถอะ”อวี่เหวินห่าวได้ยินเสด็จย่าพูดจารุนแรงเช่นนั้นจึงรีบกล่าวว่า “เสด็จย่าโปรดวางพระทัย นางไม่ได้เอะอะอันใดและเข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง พ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ได้ ไม่ได้” เสด็จย่าแม้ว่าจะทรงรู้ว่าตื่นตระหนกอย่างไม่จำเป็น แต่ว่าเป็นแบบนี้เองก็ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาที่ดี จำเป็นต้องแก้ไข นางมองอวี่เหวินห่าวและพูดว่า “เรื่องของเจ้า ข้าจะไปปรึกษาหารือกับเสด็จพ่อของเจ้า”อวี่เหวินห่าวกล่าว “ไม่จำเป็นเลยพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องทูลเสด็จพ่อเลย ไม่เป็นไรจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“เอาเถอะ เจ้ากลับไปดูแลนางให้ดี ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่” ไทเฮาก
กู้ซีคนนี้ ถ้าอยากจะทำอะไรจริงจังสักอย่าง เขาจะลงมือทำอย่างรวดเร็วตอนกลางคืนหลังจากออกจากวังหลวงแล้วได้ข้อมูลเบื้องต้นมา ก็รีบไปที่จวนอ๋องสร้างผลงานทันทีเมื่อเข้ามาในสวนแล้วพบหยวนชิงผิง ทันใดนั้นกู้ซีรู้สึกดีขึ้นมาทันที การสร้างผลงานครั้งดีจริง ๆ ทำดีได้ดีเห็นผลทันตา“คุณหนูรอง!” กู้ซีก้าวเข้าไปทักทาย เรื่องเมื่อครั้งก่อน นางควรจำเขาได้หยวนชิงผิงมองเขา “คุณชายท่านนี้ ท่านดูคุ้น ๆ”กู้ซีอดทนต่ออาการใจสลาย และแนะนำตัวเองว่า “ข้าชื่อกู้ซี ข้าเป็นเพื่อนสนิทพี่เขยเจ้า”หยวนชิงผิงตกใจ และนึกขึ้นได้ว่าเรื่องเมื่อครั้งก่อนที่ประตูเมือง ตอนนั้นก็ได้ทักทายกัน หลังจากนั้นไม่รู้ทำไมจู่ ๆ ก็หันเดินออกไป“ที่แท้คือใต้เท้ากู้ เสียมารยาทแล้ว เสียมารยาทยิ่งนัก!” หยวนชิงผิงทำความเคารพอย่างสุภาพ“เจ้ารู้จักข้าหรือ?” กู้ซีมองติดไปที่นางและเอ่ยถาม“พวกเราเคยพบกันมาก่อน แต่ใต้เท้ากู้อาจจำไม่ได้แล้ว” หยวนชิงผิงกล่าวอย่างยิ้มแย้มจำไม่ได้? ชาติหน้าก็ยังคงจำได้กู้ซีพยายามใช้ความคิดอย่างมาก หลังจากนั้นก็ทำเป็นงุนงงสับสน “ไม่รู้ว่าเคยพบกันที่ไหน”หยวนชิงผิงพูดเตือนความจำเขา “ที่นอกเมือง เรื่องโรง
กู้ซีพยายามอดทนควบคุมน้ำเสียงตัวเอง ต่อหน้าสาวงามจะอารมณ์เสียใส่ไม่ได้เขาฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวสวยและมองหยวนชิงผิง “คุณหนูรอง แล้วพบกันใหม่”“แล้วพบกันใหม่” หยวนชิงผิงคิดว่าราชองค์รักษ์กู้ซีท่านนี้ค่อนข้างอบอุ่นอ่อนโยน ไม่เหย่อหยิ่งถือตัวเลยสักนิดกู้ซีกับอวี่เหวินห่าว และหยวนชิงหลิงเข้ามาในห้องรับรองแขกแล้วจึงนั่งลง เขาเหลือบตามองอวี่เหวินห่าว “ทีกับข้า ท่านอ๋องวางท่ายิ่งใหญ่เหลือเกิน ไว้หน้าสักนิดก็ไม่มี นึกถึงท่านตอนขอให้ข้าช่วยบ้าง”อวี่เหวินห่าวเล่นแก้วในมือและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าได้ยินมาว่า พ่อตาผู้ไม่ได้เรื่องได้ราวคนนั้นพูดถึงเรื่องงานแต่งของน้องรอง ข้าสามารถเป็นคนตัดสินเรื่องนี้ได้ครึ่งหนึ่งเลยนะ”กู้ซีมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ “ท่านอย่าเอาเรื่องนี้มาขู่ข้า”“ใครขู่เจ้ากัน? เจ้ารักพูดไม่พูด ดูที่เจ้าคุยโวไว้สิ เด็กโง่นั้นถูกเจ้าคุยโว้จนลอยขึ้นสวรรค์ไปแล้ว รักชาติ ห่วงใยราษฎร เสียสละเพื่อแผ่นดิน ช่วยผู้คนอย่างกระตือรือร้น ฮึ ไม่อายบ้างรึ? ” อวี่เหวินห่าวพูดเหน็บแหนมกู้ซีพูดออกมาได้อย่างไม่อายปากว่า “ข้าพูดเรื่องจริง วันนั้นข้าช่วยคนไปหลายคน เจ้าเองก็ไม่ใช่ไม่รู้”
กู้ซือกล่าว “แม้สามารถขัดขวางไว้ได้ แต่ว่าฝ่าบาทก็ไม่อาจมีเรื่องขุ่นเคืองกับมหาเสนาบดีฉู่ได้เช่นกัน สำหรับฝ่าบาท เรื่องการแต่งพระชายารองก็เป็นเรื่องปกติ ถึงตอนนี้ไม่แต่ง แต่ในอนาคตเองก็ต้องหลบหนีจากเรื่องพวกนี้อีก เพียงแต่ตอนนี้เราต้องจัดการกับเรื่องนี้ก่อน”อวี่เหวินห่าวกล่าว “เมื่อก่อนเองก็เคยยกประเด็นเรื่องให้ข้าแต่งกับฉู่หมิงหยาง แต่ที่จริงในพระทัยเสด็จพ่อเองก็ไม่สนับสนุนมากนัก อย่างน้อยครั้งนี้… ถ้าข้ามีเหตุผลที่ดี เสด็จพ่ออาจไม่บังคับข้า แต่ว่าเจ้าเองก็พูดถูก สำหรับเสด็จพ่อแล้ว การที่ข้าแต่งพระชายารองก็เป็นเรื่องที่ปกติ ภายหลังเสด็จพ่อจะขู่บังคับอย่างไร ข้าไม่สน ตอนนี้ต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน”หยวนชิงหลิที่ได้ยิน ในใจรู้สึกหนาวเหน็บไปหมด โชคดีที่อวี่เหวินห่าวอยู่ข้างนางต่อสู้ไปด้วยกัน ไม่เช่นนั้นนางเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแต่ว่าถ้าพูดกลับกัน ถ้าอวี่เหวินห่าวเองเห็นด้วยกับการแต่งพระชายา นางเองก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจ มันไม่คุ้มเลยสักนิดนางมองใบหน้าของอวี่เหวินห่าวที่ค่อย ๆ สงบลง เขากำลังครุ่นคิดอยู่ ดูชาญฉลาดเป็นอย่างมากหยวนชิงหลิงรู้สึกว่าตัวเองบ้าผู้ชายอยู่เล็กน้อย นางมักชอบม
นางข้าหลวงสี่ก้าวไปข้างหน้า และถอนหายใจเสียงเบา “ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครปากเสียไปพูดต่อหน้าพระชายา บอกว่าท่านอ๋องอยากแต่งกับคุณหนูรองฉู่เป็นพระชายารอง นางโกรธอยู่พักหนึ่ง และทะเลาะกับท่านอ๋องขึ้นมา บอกว่าท่านอ๋องฉวยโอกาสตอนนางตั้งครรภ์ไปรับอนุ เดิมทีก็เป็นเรื่องไร้สาระ นางก็ยังจะจริงจัง ทำยังไงก็ไม่ยอมหยุด ตอนนั้นท่านอ๋องก็โกรธขึ้นมา และบอกว่าจะแต่งกับคุณหนูรองฉู่เป็นพระชายารองจริง ๆ” ขันทีมู่หรูตกใจมาก “ใครพูดจาแบบนั้นกัน?”“ยังไม่ได้ตรวจสอบหรือ? รีบปลอบพระชายาก่อน ไว้ข้าจะตรวจสอบเอง” นางข้าหลวงสี่กล่าวอวี่เหวินห่าวที่ยังโกรธอยู่ “ตรวจอะไร? ไม่ต้อง ข้าเองก็ยินดีแต่งฉู่หมิงหยางเป็นพระชายารอง จะดูว่านางจะทำกับข้ายังไง?”นางข้าหลวงสี่พูดเกลี้ยกล่อมว่า “ท่านอ๋องตอนนี้พูดยั่วโมโหนางไม่ได้นะเจ้าคะ ท่านดูสิท่านพึ่งให้นางดื่มยาอะไม่รู้ ถ้านางยกขึ้นดื่มเข้าไปจริง ๆ จะทำยังไงล่ะเพคะ?”อวี่เหวินห่าวที่ได้ยินเช่นนั้นความโกรธก็ลดลงเล็กน้อย และจู่ ๆ ก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง “หากนางกล้าก็ดื่มยานั้นลงไป ข้าก็กล้าหย่ากับนาง” นางข้าหลวงสี่พูดเบา ๆ “ท่านอ๋องอย่าได้ทะเลาะกับพระชายาเลย หมอหลวงก็บอก