“Hi เมืองไทย กี่ปีแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน”
“แดดดี้หนูกลับมาแล้ว แต่ขอหนีเที่ยวก่อนสักสองวันแล้วจะไปรายงานตัวนะคะ” หญิงสาวหุ่นดี ในชุดเดรสสั้นรัดรูปสีดำ สุดเซ็กซี่ราคาแพง ปากแดงพูดบ่นอย่างอารมณ์ดี ทันทีที่เท้าแตะสนามบิน พร้อมสอดส่องสายตาหาใครบางคนที่จะมารับแต่ก็ไม่เจอ ก่อนมือเรียวเล็กจะหยิบมือถือ iPhone 13 pro max สีเซียร์ร่าบลู ออกมาแล้วกดโทรออก หาอีกคนทันที
“ภูผา ที่รักอยู่ไหนเขารออยู่นะ ทำไมช้าจัง”
“……กำลังไป” ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินตรงไปหาหญิงสาวร่างบางที่ยืนส่งยิ้มหวานให้
“คิดถึงจัง”
“ญี่ปุ่น!” ภูผาเค้นเสียงดุเมื่อถูกเพื่อนรักจู่โจม หอมแก้มโดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้ตั้งรับ
“อะไร แค่นี้ทำเป็นหวงตัว เมื่อก่อนยังไม่เห็นเป็นอะไร” หญิงสาวทำหน้าอ้อน กอดแขนชายหนุ่มทันที
“.......” ภูผาได้แต่ถอนหายใจ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เธอก็ไม่เคยเปลี่ยน ยังคงมั่นใจในตัวเอง แก่นเฟี้ยว แต่ต้องยอมรับว่า ผู้หญิงคนนี้เก่งและเข้มแข็งมาก อายุแค่ 24 แต่ประสบความสำเร็จในอาชีพที่เธอใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งทำงานทั้งเรียนจนเป็นที่รู้จัก เป็นดิไซเนอร์อันดับต้น ๆ ที่ถูกพูดถึง
“ไปเถอะ อยากเต้นจะแย่แล้ว เสียดายที่ภูพิงค์ไม่ว่าง คุณแม่ลูกสาม เฮ้อ...แล้วอาไรเฟิลก็คงจะหวงมาก” เมื่อนึกถึงเพื่อนสาวก็ได้แต่คิดถึง ไหนจะเสื้อผ้าที่เธอตัดและออกแบบเองที่หอบหิ้วกลับมาให้หลาน ๆ อีกหลายกระเป๋า
“......” ภูผาได้แต่เงียบ มองหน้าเพื่อนรักแล้วเดินไปลากกระเป๋า เดินตรงไปที่รถ
ระหว่างทางญี่ปุ่นก็เอาแต่พูด ๆ ๆ ๆ เหมือนเธออัดอั้น และภูผาก็ทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดี นั่งนิ่งจนถึงที่พัก
โรงแรม.....
“แล้วเป็นไงบ้าง”
“ก็ดี” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ พร้อมรับน้ำจากเพื่อน
“แล้วมาแบบนี้ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ร่างบางหย่อนก้นนั่งลงบนตักแกร่ง อย่างถือวิสาสะ
“ทำไม ไม่ได้เหรอ ใช่สิ พอมีลูกมีเมีย เราก็หมดค่าทันที” ญี่ปุ่นพูดอย่างตัดพ้อ เมื่อภูผาจ้องหน้าเธออย่างไม่พอใจ
“จะไปเที่ยวก็ไปแต่งตัว ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอได้ไม่นาน”
พรึบ!!
“เชอะ เย็นชาแบบนี้ไม่เข้าใจว่ายัยน้ำเน่ารักลงได้ไง” ญี่ปุ่นพูดอย่างหมั่นไส้ เมื่อถูกภูผาผลักออกจากตักจนเกือบล้ม
“……” ภูผานิ่งแล้วเดินไปที่ระเบียงห้อง
“ไอ้บ้า นายนี่มันน้ำแข็งขั้วโลกเหนือชัด ๆ” เธอพูดยิ้ม ๆ ก่อนร่างอรชรจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ อยู่นานเป็นชั่วโมง ๆ
ผับXXX
“โอ๊ย!!! อยากแรดแล้ว เราไปเต้นกันที่รัก” ว่าแล้วร่างบางในชุดล่อตาล่อใจหนุ่ม ๆ เสื้อเกาะอกสีแดง กางเกงยีนเอวต่ำอวดสะโพกสวย ๆ ก็ลากชายหนุ่มเดินเข้าไปในผับและเต้นอวดลวดลายสุดเซ็กซี่ ขยี้ใจหนุ่ม ๆ ทำเอาผู้ชายทั้งผับถึงกับมองเธอเป็นตาเดียว
“วู้!!! สนุกเป็นบ้า!!! ไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้ว” ร่างบางโยกปล่อยตัวไปตามจังหวะเพลงอย่างเมามัน เพราะตั้งแต่ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส เธอเอาแต่เรียน ๆ ๆ เรียนไม่มีเวลาได้พักได้เที่ยวสนุกแบบนี้เลย
“เดี๋ยวมา!” ภูผาก้มลงกระซิบ เมื่อมีสายเข้า
“โอเค” เธอส่งยิ้มหวานให้เขา แล้วก็เต้นตามจังหวะเพลงต่อ แบบไม่สนใจใคร
อีกมุมของผับ...
“เหี้ย แม่เจ้าโว้ย สุดจัด คนเหี้ยอะไรจะเอวพลิ้วขนาดนั้น แล้วมึงดูหุ่น แม่งอย่างเอ็กซ์ บอกตรง ๆ กูเห็นแล้วแข็งว่ะ”
“ไหน ๆ ๆ อะไรจะขนาดนั้น ไอ้สัตว์ จริงของมึง คนอะไรโคตรสวย ไอ้แบงค์ ๆ ๆ ๆ มึงดูไอ้สัตว์ อย่างได้เลยมึง”
“......” ชายหนุ่มที่เอาแต่นั่งนิ่งในมือถือแก้วเหล้า ค่อย ๆ หันไปตามที่เพื่อนบอกอย่างรำคาญ
“เธอ!” สายตาคมกริบคู่นั้นมองไปที่หญิงสาวที่กำลังโยกย้ายไปตามเสียงเพลง
“หยุดเลยไอ้แบงค์ กูเห็นก่อนคนนี้กูจอง มึงมีน้องแป้งแล้วหมดสิทธิ์” ดนัยเพื่อนรักเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนมองสาวสวยที่ตัวเองหมายปอง
“ใช่ค่ะ แป้งอยู่ด้วยทั้งคน พี่จะไปสนใจทำไมไม่เห็นจะสวยเลย” หญิงสาวที่นั่งข้างทำเสียงออดอ้อน พยายามเรียกร้องความสนใจ แต่เขากลับเอาแต่มองเธอที่เต้นไม่สนใจใคร
“คืนนี้กูต้องได้เด็ดปีกนางฟ้าคอยดู” สิ้นประโยค ดนัยก็ถือแก้วเหล้าเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที
“สวัสดีครับคนสวย มาคนเดียวให้พี่เต้นเป็นเพื่อนไหม” พอไปถึงชายหนุ่มก็ทำการทักทายพร้อมโปรยเสน่ห์ทันที
“......” แต่เธอกลับไม่สนใจ ยังคนเต้นต่อ และไม่ได้ชายตามองคนที่เดินมาทักทายด้วยซ้ำ
พรึบ!! ร่างเล็กถูกดึงเข้าไปกอด
“หยิ่ง ๆ แบบนี้เท่าไรครับ พี่เหมาทั้งคืนเท่าไรเท่ากัน” ก่อนเขาจะกระซิบ ถึงจะได้ยินไม่ชัดแต่ก็พอเดาความหมายได้
“หึ...50 ล้านโอนมาแล้วจะไปด้วย”
พรึบ!!!
เธอหัวเราะเยาะอย่างเย้ยหยัน สองมือผลักเขาออกจากตัวอย่างแรง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างอารมณ์เสีย
“ทำเป็นเล่นตัว เดี๋ยวเจอกู” ดนัยยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมแผนร้ายในหัว มองตามร่างอรชร ก่อนจะเดินหัวเสียกลับไปที่โต๊ะ
“.....”
“ไปไหนวะ” สุดเขต ร้องตามแบงค์ที่อยู่ ๆ ก็ลุกเดินหายไป
“พี่แบงค์!! รอแป้งด้วย”
“หยุด นั่งลง อยากโดนมันด่าหรือไง” หญิงสาวที่กำลังจะเดินตามชายหนุ่มไป ถูกสุดเขตห้ามไว้เพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้เพื่อนรักกำลังหงุดหงิด แต่เขาจะหงุดหงิดอะไรก็คงได้แต่สงสัย เพราะไม่กล้าถามและยุ่งเรื่องส่วนตัว
“พี่เขตอะ” หญิงสาวทำหน้าบึ้ง มือกอดอก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ เพราะถ้าเธออยากอยู่ใกล้เขาเธอก็ห้ามล้ำเส้น ที่ทุกวันนี้เขาให้ไปไหนมาไหนด้วย ก็เพราะเพียงแต่เห็นว่าเป็นน้องสาวที่โตมาด้วยกัน แต่ทั้ง ๆ ที่รู้เธอก็ยังพยายามที่จะเป็นให้ได้มากกว่านั้น
ห้องน้ำ...
“โอเค ๆ กลับก่อนเลย กลับได้สิ แค่นี้สบายมาก”
“ไว้พรุ่งนี้จะไปเยี่ยมแต่เช้า บาย”
“โดนทิ้งจนได้ ทำไมนะ คนสวย ๆ ต้องโดนทิ้งตลอด แต่อย่าได้แคร์ สนทำไมเธอทั้งสวยทั้งเก่ง” หญิงสาวพูดกับตัวเอง หลังจากที่ภูผาโทรมาบอกลูกชายไม่สบายต้องรีบกลับ แต่เธอยังไม่อยากกลับ เลยให้เขากลับไปก่อน
“ไปเดินหาอะไรกินดีกว่า” เธอยิ้มให้ตัวเองก่อนจะเติมลิปสติก จะกลับไปเต้นต่อก็อารมณ์ ไม่อยากเจอไอ้บ้าคนนั้นอีก ไปต่อที่อื่นคงจะสนุกกว่านี้
ว่าแล้วสองเท้าก็เดินออกจากห้องน้ำทันที ก่อนจะเดินไปตามทางเพื่อที่จะออกไปนอกผับ ท่ามกลางเสียงเพลงที่ยังดังกระหึ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ตุ้บ!!
หมับ!!
“ว้าย”
“ขอโทษค่ะ พอดีหนูรีบ พี่เป็นอะไรไหม” เด็กสาวพนักงานรีบวิ่งมาเข้าห้องน้ำไม่ทันระวัง เลยชนญี่ปุ่นเข้าอย่างจัง ร่างบางร้องเสียงหลง ดีนะมีคนช่วยดึงตัวไว้ทันไม่งั้นคงได้เจ็บตัวแน่ แค่คิดก็เจ็บรอเลย รองเท้าส้นสูง 5 นิ้ว ถ้าพลิกหกล้มนะมีหวังเดินไม่ได้เป็นอาทิตย์
“ไม่เป็นไร น้องไปเถอะ” เธอพูดเสียงเรียบ
“ขอบคุณค่ะพี่ หนูขอโทษจริง ๆ”
“.....” เธอพยักหน้า ก่อนเด็กสาวจะรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ แต่ทว่า...
“คุณคะ ปล่อยได้แล้ว ขอบคุณนะแต่ฉันไม่เป็นอะไร” เธอพยายามใจเย็น เมื่อคนที่ช่วยเธอไว้ มือเขายังกอดอยู่ที่เอวเธอไม่ยอมปล่อย
“นี่! บอกให้ปล่อย” เธอพูดย้ำอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะพลิกตัวหันไปมองหน้าอีกฝ่าย
“........” คนตัวเล็กในท่อนแขนแกร่งถึงกับหยุดชะงักด้วยความตกใจ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขา และไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันอีกครั้งในสถานที่แบบนี้…
“ปล่อย!”“.......” เขายังคงเงียบและกอดไม่ยอมปล่อย“เป็นบ้าอะไร ปล่อยสิ!”“......” และเขายังคงเงียบเหมือนเดิม จะเล่นสงครามประสาทกันใช่ไหม ได้!“ไม่ปล่อยใช่ไหมได้!” ร่างเล็กจ้องหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่เกรง ก่อนจะตีเข่าเข้าตรงส่วนนั้นเขาจัง ๆ แต่ทว่า...พรึบ!“ฮึ......” เขาเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน ดันร่างบางติดกำแพง“ปล่อย!” ฉันพยายามใจเย็นสุด ๆ ทำไมต้องมาเจอเขาอีกด้วย กรุงเทพฯ มันเล็กมากหรือไง บ้าชะมัด“คิดว่าฉันอยากอยู่ใกล้เธอหรือไง” น้ำเสียงและสายตาเขาที่มองมามันยังคงเย็นชาเหมือนเดิม“ใครจะไปรู้ ก็ไม่ปล่อยสักที ก็นึกว่าอยากกอด ทำไมญี่ปุ่นสวยขึ้นเหรอ พี่เลยอยากอยู่ใกล้ หรือว่าอยากมากกว่านั้น ได้นะ ไปต่อที่ไหนดี!” ฉันพูดจายั่วยวน ทำทุกอย่างที่เขาไม่ชอบ“ฮึ...ผู้หญิงอย่างเธอใครจะไปอยากอยู่ใกล้ แค่จะบอกว่า” สายตาคู่นั้นมองฉันอย่างดูถูก“อย่ามามองญี่ปุ่นด้วยสายตาแบบนั้น ถ้าพี่ไม่รู้จักญี่ปุ่นดีพอ ไม่ชอบหน้าก็ต่างคนต่างอยู่!” สองมือดันแผงอกแกร่งอย่างแรงแต่เขากลับไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว“จะเอายังไง ถ้าไม่ปล่อยญี่ปุ่นจะถือว่าพี่อยากอยู่ใกล้ ๆ หรือเวลาหลายปีที่ไม่เจอกัน ใจพี่มันเปลี่ยนไป” จาก
“แล้วนี่พี่พักที่ไหน?” ตอนนี้เราสองคนพี่น้องกำลังเดินออกจากผับ“โรงแรม......แต่ตอนนี้พี่อยากไปนอนกับตัวเล็ก เราสองคนไม่ได้นอนเมาท์กันนานแล้วนะ”“งั้นกลับบ้านกันค่ะ ถ้าแดดดี้กับแม่รู้ว่าพี่กลับมาต้องดีใจแน่เลย” โมจิยิ้มอย่างดีใจ“ว่าแต่เราไม่เมาแน่นะ!” ฉันหันไปจ้องหน้าน้อง ก็เมื่อกี้เราสองคนดื่มไปเยอะพอสมควร“แค่นี่เองสบายมาก” โมจิพูดอย่างมั่นใจ“งั้นกลับบ้านเรากัน”แล้วฉันกับน้องก็เดินโอบเอวกันไปขึ้นรถ แต่กว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาไปตีสอง แด๊ดกับแม่ก็คงนอนกอดกันอยู่ในห้อง ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยเซอร์ไพรส์แต่เช้าแล้วกัน“พี่ใส่ได้ไหม” โมจิส่งชุดนอนให้“สั้นไปนิดแต่ใส่ได้ ว่าแต่เราเนี่ยใหญ่ไม่เบาเลยนะ”หมับ!!“พี่ไม่เอาไม่เล่น”“ไม่ได้เล่น พี่แค่จับดูว่ามันใหญ่จริง หรือแค่หลอกตา” ฉันพูดยิ้ม ๆ มือยังคงบีบจับหน้าอกสองเต้าที่มันใหญ่เกินตัว“พอแล้วนอนได้แล้วค่ะ” น้องทำหน้างอน“โอ๋ ๆ ๆ ๆ ไม่งอนสิตัวเล็ก อ๊ะ ให้จับคืน” ร่างบางแอ่นอกให้น้อง“ไม่เอา หนูไม่ใช่โรคจิตเหมือนพี่ ชอบจับแต่หน้าอกหนู” โมจิเดินทิ้งตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาคลุมตัว“ก็มันใหญ่น่าจับ นุ่มนิ่มด้วย เนี่ย ๆ”หมับ!!“พี่ญี่ปุ่น ไม่เอาพอแล้วจ
“พี่พาร์ท!!!!!!!!” ฉันร้องอย่างดีใจและวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายด้วยความคิดถึง“คิดถึงจังค่ะ” และแน่นอน ไม่ได้เจอกันนานมันต้องหอมแก้มซ้ายขวา ให้หายคิดถึงเสียหน่อย“ญี่ปุ่น!” พี่พาร์ทเอ่ยเสียงดุ มือดันหัวน้องออกจากตัว“ก็ญี่ปุ่นคิดถึง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ขอกอดหน่อย” คนตัวเล็กไม่ยอมพยายามจะกอดพี่ชาย แต่คนพี่กลับเอาแต่ผลักไส“โอ้ ลืมไป” แล้วตามันไปสะดุดกับใครบางคนที่ยืนทำหน้านิ่ง“โอเค ไม่กอดแล้วก็ได้ ไม่คิดมากใช่ไหมเธียร” ฉันหันไปยิ้มให้น้อง“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นหนูตบ!” เธียรทำหน้าจริงจัง“นี่พี่เอง พี่ญี่ปุ่นไง” ฉันทำหน้าอ้อน“ฮึ...หนูล้อเล่น กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ คิดถึงจัง” ร่างบางโผเข้ากอดฉันทันที“เมื่อวาน พี่ก็คิดถึงเราแล้วน้องพลอยเป็นไงบ้าง เห็นโมจิบอกตัวจริงน้องน่าฟัดมาก”“อยู่กับคุณแม่ค่ะ พอดีวันนี้หนูมาเรียนรู้งานกับพี่พาร์ท” เธียรหันไปยิ้มให้พี่พาร์ทที่ยืนนิ่งมือล้วงกระเป๋า คนอะไรขี้เก๊กไม่เลิก มีดีแค่หล่ออย่างที่เธียรว่าจริง ๆ พี่ชายฉัน“เข้าไปข้างใน อารออยู่” พี่พาร์ทพูดเสียงตึง ๆ แล้วคว้ามือดึงเมียเดินกลับเข้าไปในห้อง“เขาเป็นอะไร” ฉันหันไปถามโมจิ“......” ตัวเล
“เป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น” ฉันเดินเข้าไปกอดแด๊ดที่กำลังคุยกันกับพี่พาร์ท“เปล่า ว่าแต่แด๊ดคะ เปลี่ยนคนอื่นไม่ได้เหรอ” คนตัวเล็กทำหน้าอ้อน“ทำไม หนูมีเรื่องอะไรกับนิธิภัทร์” แด๊ดจ้องหน้าอย่างจับผิด“......” คนตัวเล็กเงียบริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันมองหน้าพี่ชาย“ไม่มีอะไรหรอกครับอา น้องคงยังไม่ชิน” พี่พาร์ทเอ่ยขึ้น และเดินเข้ามาหา“ใช่ค่ะแด๊ด ญี่ปุ่นคงคิดมากไปกลัวเขาจะทำงานออกมาไม่ดี แต่ถ้าแด๊ดว่าโอเคหนูก็ไม่มีปัญหา”“งั้นก็ดี เพราะงานนี้แด๊ดตั้งใจทำให้หนู งั้นแด๊ดไปก่อนมีเรื่องจะคุยกับนิธิภัทร์ก่อน”“ค่ะ”“พี่เชื่อว่าน้องสาวพี่รู้จักแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว” พี่พาร์ทเดินเข้ามาจับไหล่ให้กำลังใจ“รู้ค่ะ แต่ญี่ปุ่นแค่...” มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้“หรือเรายังรักเขาอยู่”“ไม่ค่ะ ญี่ปุ่นไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว สนใจอะไรคนไม่มีใจ!”“งั้นก็ดี พี่ไปประชุมก่อน”“เดี๋ยวก่อนค่ะ” มือเล็กรีบดึงแขนพี่ชายไว้“คืนนี้พาน้องไปเที่ยวได้ไหม พวกเราไม่ได้เที่ยวกันนานแล้วนะ” คนตัวเล็กทำหน้าอ้อน“หนูไป! ไม่ได้ไปเที่ยวนานแล้ว หนูไป หนูไป” เป็นเธียรที่พูดแทรกขึ้น แล้วท่าทางน้องดูตื่นเต้นดีใจมาก“งั้นก็โอเคเลย
“เป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น” ฉันเดินเข้าไปกอดแด๊ดที่กำลังคุยกันกับพี่พาร์ท“เปล่า ว่าแต่แด๊ดคะ เปลี่ยนคนอื่นไม่ได้เหรอ” คนตัวเล็กทำหน้าอ้อน“ทำไม หนูมีเรื่องอะไรกับนิธิภัทร์” แด๊ดจ้องหน้าอย่างจับผิด“......” คนตัวเล็กเงียบริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันมองหน้าพี่ชาย“ไม่มีอะไรหรอกครับอา น้องคงยังไม่ชิน” พี่พาร์ทเอ่ยขึ้น และเดินเข้ามาหา“ใช่ค่ะแด๊ด ญี่ปุ่นคงคิดมากไปกลัวเขาจะทำงานออกมาไม่ดี แต่ถ้าแด๊ดว่าโอเคหนูก็ไม่มีปัญหา”“งั้นก็ดี เพราะงานนี้แด๊ดตั้งใจทำให้หนู งั้นแด๊ดไปก่อนมีเรื่องจะคุยกับนิธิภัทร์ก่อน”“ค่ะ”“พี่เชื่อว่าน้องสาวพี่รู้จักแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว” พี่พาร์ทเดินเข้ามาจับไหล่ให้กำลังใจ“รู้ค่ะ แต่ญี่ปุ่นแค่...” มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้“หรือเรายังรักเขาอยู่”“ไม่ค่ะ ญี่ปุ่นไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว สนใจอะไรคนไม่มีใจ!”“งั้นก็ดี พี่ไปประชุมก่อน”“เดี๋ยวก่อนค่ะ” มือเล็กรีบดึงแขนพี่ชายไว้“คืนนี้พาน้องไปเที่ยวได้ไหม พวกเราไม่ได้เที่ยวกันนานแล้วนะ” คนตัวเล็กทำหน้าอ้อน“หนูไป! ไม่ได้ไปเที่ยวนานแล้ว หนูไป หนูไป” เป็นเธียรที่พูดแทรกขึ้น แล้วท่าทางน้องดูตื่นเต้นดีใจมาก“งั้นก็โอเคเลย
“พี่พาร์ท!!!!!!!!” ฉันร้องอย่างดีใจและวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายด้วยความคิดถึง“คิดถึงจังค่ะ” และแน่นอน ไม่ได้เจอกันนานมันต้องหอมแก้มซ้ายขวา ให้หายคิดถึงเสียหน่อย“ญี่ปุ่น!” พี่พาร์ทเอ่ยเสียงดุ มือดันหัวน้องออกจากตัว“ก็ญี่ปุ่นคิดถึง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ขอกอดหน่อย” คนตัวเล็กไม่ยอมพยายามจะกอดพี่ชาย แต่คนพี่กลับเอาแต่ผลักไส“โอ้ ลืมไป” แล้วตามันไปสะดุดกับใครบางคนที่ยืนทำหน้านิ่ง“โอเค ไม่กอดแล้วก็ได้ ไม่คิดมากใช่ไหมเธียร” ฉันหันไปยิ้มให้น้อง“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นหนูตบ!” เธียรทำหน้าจริงจัง“นี่พี่เอง พี่ญี่ปุ่นไง” ฉันทำหน้าอ้อน“ฮึ...หนูล้อเล่น กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ คิดถึงจัง” ร่างบางโผเข้ากอดฉันทันที“เมื่อวาน พี่ก็คิดถึงเราแล้วน้องพลอยเป็นไงบ้าง เห็นโมจิบอกตัวจริงน้องน่าฟัดมาก”“อยู่กับคุณแม่ค่ะ พอดีวันนี้หนูมาเรียนรู้งานกับพี่พาร์ท” เธียรหันไปยิ้มให้พี่พาร์ทที่ยืนนิ่งมือล้วงกระเป๋า คนอะไรขี้เก๊กไม่เลิก มีดีแค่หล่ออย่างที่เธียรว่าจริง ๆ พี่ชายฉัน“เข้าไปข้างใน อารออยู่” พี่พาร์ทพูดเสียงตึง ๆ แล้วคว้ามือดึงเมียเดินกลับเข้าไปในห้อง“เขาเป็นอะไร” ฉันหันไปถามโมจิ“......” ตัวเล
“แล้วนี่พี่พักที่ไหน?” ตอนนี้เราสองคนพี่น้องกำลังเดินออกจากผับ“โรงแรม......แต่ตอนนี้พี่อยากไปนอนกับตัวเล็ก เราสองคนไม่ได้นอนเมาท์กันนานแล้วนะ”“งั้นกลับบ้านกันค่ะ ถ้าแดดดี้กับแม่รู้ว่าพี่กลับมาต้องดีใจแน่เลย” โมจิยิ้มอย่างดีใจ“ว่าแต่เราไม่เมาแน่นะ!” ฉันหันไปจ้องหน้าน้อง ก็เมื่อกี้เราสองคนดื่มไปเยอะพอสมควร“แค่นี่เองสบายมาก” โมจิพูดอย่างมั่นใจ“งั้นกลับบ้านเรากัน”แล้วฉันกับน้องก็เดินโอบเอวกันไปขึ้นรถ แต่กว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาไปตีสอง แด๊ดกับแม่ก็คงนอนกอดกันอยู่ในห้อง ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยเซอร์ไพรส์แต่เช้าแล้วกัน“พี่ใส่ได้ไหม” โมจิส่งชุดนอนให้“สั้นไปนิดแต่ใส่ได้ ว่าแต่เราเนี่ยใหญ่ไม่เบาเลยนะ”หมับ!!“พี่ไม่เอาไม่เล่น”“ไม่ได้เล่น พี่แค่จับดูว่ามันใหญ่จริง หรือแค่หลอกตา” ฉันพูดยิ้ม ๆ มือยังคงบีบจับหน้าอกสองเต้าที่มันใหญ่เกินตัว“พอแล้วนอนได้แล้วค่ะ” น้องทำหน้างอน“โอ๋ ๆ ๆ ๆ ไม่งอนสิตัวเล็ก อ๊ะ ให้จับคืน” ร่างบางแอ่นอกให้น้อง“ไม่เอา หนูไม่ใช่โรคจิตเหมือนพี่ ชอบจับแต่หน้าอกหนู” โมจิเดินทิ้งตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาคลุมตัว“ก็มันใหญ่น่าจับ นุ่มนิ่มด้วย เนี่ย ๆ”หมับ!!“พี่ญี่ปุ่น ไม่เอาพอแล้วจ
“ปล่อย!”“.......” เขายังคงเงียบและกอดไม่ยอมปล่อย“เป็นบ้าอะไร ปล่อยสิ!”“......” และเขายังคงเงียบเหมือนเดิม จะเล่นสงครามประสาทกันใช่ไหม ได้!“ไม่ปล่อยใช่ไหมได้!” ร่างเล็กจ้องหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่เกรง ก่อนจะตีเข่าเข้าตรงส่วนนั้นเขาจัง ๆ แต่ทว่า...พรึบ!“ฮึ......” เขาเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน ดันร่างบางติดกำแพง“ปล่อย!” ฉันพยายามใจเย็นสุด ๆ ทำไมต้องมาเจอเขาอีกด้วย กรุงเทพฯ มันเล็กมากหรือไง บ้าชะมัด“คิดว่าฉันอยากอยู่ใกล้เธอหรือไง” น้ำเสียงและสายตาเขาที่มองมามันยังคงเย็นชาเหมือนเดิม“ใครจะไปรู้ ก็ไม่ปล่อยสักที ก็นึกว่าอยากกอด ทำไมญี่ปุ่นสวยขึ้นเหรอ พี่เลยอยากอยู่ใกล้ หรือว่าอยากมากกว่านั้น ได้นะ ไปต่อที่ไหนดี!” ฉันพูดจายั่วยวน ทำทุกอย่างที่เขาไม่ชอบ“ฮึ...ผู้หญิงอย่างเธอใครจะไปอยากอยู่ใกล้ แค่จะบอกว่า” สายตาคู่นั้นมองฉันอย่างดูถูก“อย่ามามองญี่ปุ่นด้วยสายตาแบบนั้น ถ้าพี่ไม่รู้จักญี่ปุ่นดีพอ ไม่ชอบหน้าก็ต่างคนต่างอยู่!” สองมือดันแผงอกแกร่งอย่างแรงแต่เขากลับไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว“จะเอายังไง ถ้าไม่ปล่อยญี่ปุ่นจะถือว่าพี่อยากอยู่ใกล้ ๆ หรือเวลาหลายปีที่ไม่เจอกัน ใจพี่มันเปลี่ยนไป” จาก
“Hi เมืองไทย กี่ปีแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน”“แดดดี้หนูกลับมาแล้ว แต่ขอหนีเที่ยวก่อนสักสองวันแล้วจะไปรายงานตัวนะคะ” หญิงสาวหุ่นดี ในชุดเดรสสั้นรัดรูปสีดำ สุดเซ็กซี่ราคาแพง ปากแดงพูดบ่นอย่างอารมณ์ดี ทันทีที่เท้าแตะสนามบิน พร้อมสอดส่องสายตาหาใครบางคนที่จะมารับแต่ก็ไม่เจอ ก่อนมือเรียวเล็กจะหยิบมือถือ iPhone 13 pro max สีเซียร์ร่าบลู ออกมาแล้วกดโทรออก หาอีกคนทันที“ภูผา ที่รักอยู่ไหนเขารออยู่นะ ทำไมช้าจัง”“……กำลังไป” ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินตรงไปหาหญิงสาวร่างบางที่ยืนส่งยิ้มหวานให้“คิดถึงจัง”“ญี่ปุ่น!” ภูผาเค้นเสียงดุเมื่อถูกเพื่อนรักจู่โจม หอมแก้มโดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้ตั้งรับ“อะไร แค่นี้ทำเป็นหวงตัว เมื่อก่อนยังไม่เห็นเป็นอะไร” หญิงสาวทำหน้าอ้อน กอดแขนชายหนุ่มทันที“.......” ภูผาได้แต่ถอนหายใจ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เธอก็ไม่เคยเปลี่ยน ยังคงมั่นใจในตัวเอง แก่นเฟี้ยว แต่ต้องยอมรับว่า ผู้หญิงคนนี้เก่งและเข้มแข็งมาก อายุแค่ 24 แต่ประสบความสำเร็จในอาชีพที่เธอใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งทำงานทั้งเรียนจนเป็นที่รู้จัก เป็นดิไซเนอร์อันดับต้น ๆ ที่ถูกพูดถึง“ไปเถอะ อยากเต้นจะแย่แล้ว เสียดายที่ภู