จุ๊บ!เสียงที่คมชัดดังขึ้น มีรอยริมฝีปากปรากฏบนแก้มซ้ายของเย่ซิวเซี่ยซิ่วซิ่วไม่กล้ามองเย่ซิว ก้มหน้าลง แก้มแดงระเรื่อ“คือ... ฉันยังมีธุระที่ต้องทำ ต้องขอตัวก่อนนะ เพื่อนนักศึกษาเย่ ได้โปรดอย่าโกรธแค้นน้องสาวของฉันเลย ฉันจะสั่งสอนเธอให้ดี”พูดจบเธอก็วิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนกเย่ซิวแตะแก้มตัวเอง แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อยเขาโตมาขนาดนี้แล้วนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาถูกผู้หญิงจูบ มันรู้สึกดีทีเดียวไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็มาถึงก็เข้ามาจับตัวพวกอันธพาลเหล่านี้ออกไปเพราะมีชาวบ้านใกล้เคียงให้การเป็นพยาน และมีคนแอบถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้จึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าเย่ซิวแค่ปกป้องตัวเองอย่างเหมาะสมดังนั้นเขาจึงแค่ไปบันทึกคำให้การที่สถานีตำรวจครู่เดียวแล้วก็กลับมาเซี่ยซิ่วซิ่วส่งข้อความหาเขาถึงสามครั้ง โดยบอกว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องมอบอะพาร์ตเมนต์นี้ให้กับเย่ซิวเพื่อที่เธอจะได้รู้สึกสบายใจไม่อย่างนั้นต่อไปเธอคงไม่มี กะจิตกะใจทำงานให้เย่ซิวได้ในเมื่อเป็นแบบนั้น เย่ซิวจึงทำได้เพียงตอบตกลงก็แค่อะพาร์ตเมนต์ห้องเดียวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องต่อความยาวสาวความยืดกลับบ้านเขาโทรถามลู่เสวี่ยเอ๋อร์
หากเย่ซิวต้องการจัดการตระกูลเซี่ย ก็ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้เซี่ยซิ่วซิ่วกล่าวอย่างใจเย็น “ต้องสั่งสอนชิงชิงอย่างเคร่งครัด ไม่อย่างนั้นจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นไม่ช้าก็เร็วแน่ค่ะ”เซี่ยเจี๋ยที่อยู่ปลายสายพยักหน้าหนักแน่น “ปู่มีแผนสำหรับเรื่องนี้แล้ว”หลังจากวางสาย เซี่ยเจี๋ยก็โทรหาหมายเลขที่ไม่คุ้นเคยไม่นาน ปลายสายก็กดรับเสียงแหบห้าวดังขึ้น “ในที่สุดก็โทรมาหาฉันสักทีนะ ว่าไง คิดได้หรือยังว่าจะส่งหลานสาวคนไหนมาให้ฉัน?”สีหน้าของเซี่ยเจี๋ยดูเคร่งขรึม “ผมจะส่งชิงชิงไปเรียนรู้กับคุณ แต่จำไว้ว่าเธอจะสืบทอดวิชาจากคุณเท่านั้น ส่วนองค์กรและกลุ่มอิทธิพลอื่นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ห้ามยัดเยียดให้เธอเด็ดขาด”ปลายสายหัวเราะเยาะ“เข้าใจแล้ว รีบส่งเธอมาเร็ว ๆ ล่ะ”เซี่ยเจี๋ยเตือนขึ้นอีกครั้ง “จำไว้ว่าห้ามทำร้ายชิงชิง ยังไงเธอก็เป็นหลานของคุณ!”“พูดมาก!”ปลายสายกดวางสายทันทีเซี่ยเจี๋ยโทรออกอีกครั้ง “ไปจับตัวชิงชิงกลับมา”…… เย่ซิวมองโทรศัพท์ครบเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้วเขาลุกขึ้นเดินไปที่ห้องของลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเคาะประตู“เอาล่ะ ขึ้นมาได้แล้ว ใช้น้ำร้อนชำระล้างสิ่งตกค้างในร่างกาย”
หัวใจของลู่เสวี่ยเอ๋อร์เต้นแรง เธอเดินไปหาเย่ซิวด้วยความรู้สึกประหม่าเล็กน้อย“ฉันต้องทำยังไง? ต้องนอนลงไหม? ต้องถอดเสื้อผ้าหรือเปล่า?”“ไม่ต้อง ผมตรวจแค่ชีพจรก็พอ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์นั่งลงข้างเย่ซิว รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้นที่แท้มันไม่ใช่สิ่งที่เธอจินตนาการไว้เย่ซิววางมือลงบนชีพจรของเธอหลังจากตรวจชีพจรแล้ว เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจชีพจรของลู่เสวี่ยเอ๋อร์แข็งแรงดีมากไม่ได้ด้อยกว่าจอมยุทธระดับหนึ่งอีกต่อไปแช่สมุนไพรอีกสองสามครั้ง สร้างรากฐานร่างกายให้แข็งแกร่ง ก็จะสามารถเริ่มฝึกวรยุทธได้แล้วด้วยรากฐานที่มั่นคงของพวกเธอทั้งสอง เย่ซิวมั่นใจว่าพวกเธอจะสามารถบรรลุไปถึงขึ้นจอมยุทธระดับสามได้ภายในสองเดือนไม่นาน หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็เดินออกมาเช่นกันเธอก้มศีรษะลงไม่กล้ามองเย่ซิวเย่ซิวแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นและโบกมือให้เธอ “มานี่ ฉันจะตรวจชีพจรให้”หลิ่วเมิ่งอิ๋นเดินไปหาเขา แต่ก็ยังไม่กล้ามองเขาเย่ซิวตรวจชีพจรของหลิ่วเมิ่งอิ๋น และพบว่ามันดีขึ้นมากเช่นกัน“เอาล่ะ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว บวกกับหลังจากแช่สมุนไพรจำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ พวกเธอเข้าไปนอนเถอะ”หญิง
ทันทีที่หันศีรษะไป ก็เห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นกอดเขาด้วยมือทั้งสองข้าง ทั้งสองใกล้ชิดกัน ความรู้สึกนั้น ใครก็เข้าใจได้โดยไม่ต้องอธิบายเย่ซิวกดจุดที่แขนซ้ายของหลิ่วเมิ่งอิ๋นเบา ๆ จากนั้นก็หลับตาลงอีกครั้งหลิ่วเมิ่งอิ๋นค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาพอกะพริบตาเธอก็ตระหนักได้ถึงสภาพปัจจุบันของตัวเองทันทีเธอรู้สึกเหลือเชื่อมาก ทำไมเมื่อคืนเธอถึงได้ใจกล้าขนาดนี้?เธอรีบเหลือบมองเย่ซิวอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าเขายังคงหลับอยู่ ก็ไม่กล้าอยู่ต่อนาน จึงรีบออกไปอย่างเงียบ ๆหลังจากที่เธอจากไปเย่ซิวก็ลืมตาขึ้นหลังจากนั้นสิบนาที เย่ซิวก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิ่วเมิ่งอิ๋นออกมาจากห้องทีละคนลู่เสวี่ยเอ๋อร์ทักทายเย่ซิว “อรุณสวัสดิ์ เพื่อนนักศึกษาเย่”เย่ซิวยิ้ม “อรุณสวัสดิ์”หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็ทักทายเย่ซิวเช่นกัน แล้วแสร้งทำเป็นถามเขาด้วยท่าทางสบาย ๆ “พี่เย่ เมื่อคืนนอนหลับดีไหมคะ?”“ก็ดี แค่ในฝันรู้สึกเหมือนถูกคนกอด”ความตื่นตระหนกแวบขึ้นมาในดวงตาของหลิ่วเมิ่งอิ๋น เธอฝืนยิ้ม “พี่คงแค่ฝันไป”“ฮ่าฮ่า ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น”หลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกค่อนข้างไม่สบายใจ เหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่ในคำพูด
น่าหลันเยียนหรานสวมรองเท้าส้นสูง วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ววันนี้เป็นวันหยุดของเธอ และเดิมทีตั้งใจจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทแต่ใครจะรู้ว่าระหว่างทางจะได้พบกับอุบัติเหตุทางรถยนต์แบบนี้“หลีกไป หลีกไป ฉันเป็นหมอ!”เด็กสาวรู้สึกตื่นเต้นทันที และรีบเปิดทางให้น่าหลันเยียนหราน “ได้โปรดช่วยคุณปู่ของฉันด้วยค่ะ รถพยาบาลยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะมาถึง”น่าหลันเยียนหรานมาถึงที่เกิดเหตุ และเห็นชายชราคนหนึ่งนอนเลือดท่วมตัวอยู่บนพื้นเขามีบาดแผลที่แขนและขาน่าหลันเยียนหรานจัดการบาดแผลที่แขนของเขาก่อนโชคดีที่เธอเป็นหมอ เธอจึงมีกล่องปฐมพยาบาลไว้ในรถอยู่เสมอแต่เมื่อน่าหลันเยียนหรานเห็นบาดแผลตรงขาของชายชรา เธอก็ขมวดคิ้วไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่สามารถห้ามเลือดได้น่าหลันเยียนหรานถอนหายใจ มองไปที่เด็กสาว “บาดแผลตัดหลอดเลือดแดงใหญ่ แถมยังมีขนาดใหญ่มากด้วย เราไม่มีทางช่วยเขาได้แล้ว”เด็กหญิงตัวเล็กขาอ่อนแทบจะล้มลงไปกับพื้น ใบหน้าของเธอซีดเผือด และคุกเข่าต่อหน้าน่าหลันเยียนหรานพร้อมกับขอร้องอ้อนวอน “ไม่เอานะ ได้โปรดช่วยปู่ของฉันด้วย ไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยอะไรก็ตาม”คุณปู่เป็นญาติเพียงคนเดียว
เย่ซิวเปิดเปลือกตาของชายชราและตรวจชีพจรของเขา ก่อนจะพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง มีฉันอยู่ที่นี่ คุณปู่ของเธอจะไม่เป็นอะไร”จากนั้นเย่ซิวก็หยิบกล่องปฐมพยาบาลข้าง ๆ ซึ่งมียาห้ามเลือดอยู่ข้างในเขาโรยมันทั่วบาดแผลของชายชราจากนั้นก็ตรวจสอบร่างกายให้ชายชราอย่างถี่ถ้วนก่อนจะพบว่ามีกระดูกบางส่วนหักและชายชราก็น่าจะอายุประมาณหกสิบกว่าแล้วหากในวัยนี้มีปัญหากระดูกหัก มันอาจถึงแก่ชีวิตได้ตามหลักการที่ว่า การช่วยหนึ่งชีวิตนั้นยิ่งใหญ่กว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นเย่ซิวไม่ลังเลที่จะใช้กำลังภายในของเขาช่วยรักษากระดูกที่หักของชายชรารอบ ๆ มีผู้คนมากมายมุงดูอยู่เมื่อเห็นว่าเย่ซิวยังเด็กมาก ทุกคนต่างก็สงสัยในทักษะทางการแพทย์ของเขาแต่ไม่นานก็มีคนอุทานออกมา“พระเจ้า ดูชายชราคนนั้นสิ หน้าเขาหายซีดแล้ว”“พ่อหนุ่มคนนี้เป็นหมอเทวดา!”“หมอหญิงเมื่อกี้ต่างหากที่เป็นหมอเถื่อน โชคดีที่มีพ่อหนุ่มคนนี้อยู่ ไม่อย่างนั้นคงมีคนตายฟรีเพิ่มขึ้นในโลกนี้อีก”“ทำได้ดีมากพ่อหนุ่ม”…… เมื่อได้ยินเสียงชื่นชมของผู้คนรอบตัวน่าหลันเหยียนหรานก็ตกตะลึง ก่อนจะวิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจเซี่ยซิ่วซิ่วพอได้เห็นดวงตาของเธอก
คำพูดของเด็กสาวดึงดูดความสนใจของทุกคนทันทีจากนั้น นอกจากเย่ซิว ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างก็ตกตะลึงชายชราดูเหมือนได้รับบาดเจ็บสาหัสและมีเลือดท่วมตัวตอนนี้กลับฟื้นขึ้นมาแล้ว“คุณปู่เป็นยังไงบ้างคะ?” เด็กสาวช่วยพยุงชายชราเสียงของชายชราฟังดูอ่อนแรงเล็กน้อย แต่สีหน้าเขาก็ไม่ได้แย่ “เวียนหัวเล็กน้อย นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร”แพทย์เหล่านั้นรีบหยิบเครื่องมือต่าง ๆ ออกมาตรวจร่างกายของชายชราทันทีผลลัพธ์ทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก“ทุกส่วนในร่างกายของเขาเป็นปกติดี ยกเว้นความดันโลหิตที่ต่ำเล็กน้อย พระเจ้า พ่อหนุ่มคนนี้เป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้อย่างนั้นเหรอ?”เด็กสาวพยักหน้าหนัก ๆ “พี่ชายคนนี้เขาเก่งมากเลยค่ะ ถ้าไม่มีเขา ปู่ของฉันคงไม่รอด”แพทย์คนก่อนหน้านี้รีบขอโทษเย่ซิวทันที“น้องชาย เมื่อกี้พวกเราบุ่มบ่ามเกินไป”“ทักษะทางการแพทย์ของนายยอดเยี่ยมมาก คงจะมาจากสถาบันการแพทย์ที่มีชื่อเสียงแน่ ๆ”เย่ซิวโบกมือ ไม่ได้อธิบายอะไรมากน่าหลันเหยียนหรานมองไปที่เย่ซิวที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วสารทิศ เธอรู้สึกอึดอัดและไม่พอใจอย่างยิ่งแต่เธอก็รู้ดีว่าเธอทำให้ทุกคนโกรธ ตอนนี้จึงไม่กล้าพูดจาเยาะเย้ยเย่ซิวอีก
ตอนเดินผ่านน่าหลันเยียนหราน เย่ซิวหยุดเดิน “ฉันขอแนะนำเธอทางที่ดีเปลี่ยนอาชีพ จรรยาบรรณแพทย์ขั้นพื้นฐานที่สุดเธอยังไม่มีด้วยซ้ำ อยู่ในโรงพยาบาลต่อไปแบบนี้พานจะทำให้เกียรติของวิชาชีพแพทย์เสื่อมเสียเปล่า ๆ”น่าหลันเยียนหรานโกรธจนหน้าเขียว “เรื่องของฉัน ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาย!”เย่ซิวมองเธออย่างเฉยเมยและเดินต่อไปต่อไปน่าหลันเยียนหรานโกรธมากจนกระทืบเท้าเธอเห็นสายตาของเย่ซิวที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกดูถูกที่ผ่านมาเธอมักจะเป็นฝ่ายดูถูกคนอื่นเสมอ แต่เธอไม่เคยถูกคนอื่นดูถูกมาก่อนเลย“นายอย่าให้ฉันลงมือเลยจะดีกว่า อย่าคิดว่านายจะทำอะไรก็ได้เพียงเพราะนายใกล้ชิดกับตระกูลเซี่ย!”เธอคิดว่าเย่ซิวใช้วิธีอะไรบางอย่างหลอกลวงเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากเซี่ยซิ่วซิ่วและอยู่เคียงข้างเธอได้น่าหลันเยียนหรานมองว่าเขาเป็นพวกเกาะผู้หญิงกินอีกด้านหนึ่ง มีชายชราถูกช่วยเหลือขึ้นรถพยาบาลเด็กสาวอยู่เคียงข้างเขาไปถึงโรงพยาบาลไม่นานก็ตรวจร่างกายชายชราทั้งหมด พบว่าไม่มีอะไรสาหัสร้ายแรงจึงเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่อภายในห้องผู้ป่วยส่วนตัวหลังจากเขาพ้นขีดอันตรายมาได้แล้ว เด็กสาวก็แผ่ออร่าความภ
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย
"เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เทคโนโลยีของหุ่นยนต์ก็ไม่ใช่ว่าจะถ่ายโอนไม่ได้""แต่เรื่องแบบนี้ พวกเราควรมานั่งคุยกันให้ละเอียดเสียก่อน""อีกสองวันเป็นวันดี ผมขอเชิญทุกท่านมาหารืออย่างจริงจังดีไหม?"แน่นอนว่าเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ไม่มีทางถูกส่งมอบให้พวกเขา นี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์ถ่วงเวลาเท่านั้นตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเย่ซิวหรือประเทศหลงเถิง ต่างก็ต้องการเวลาเย่ซิวต้องการเวลาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดประเทศหลงเถิงเองก็ต้องการเวลาในการผลิตหุ่นยนต์ในปริมาณมากเช่นกันเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเขาเปิดตัวหุ่นยนต์เป็นพัน ๆ ตัว พวกโจรเหล่านี้ก็จะถอยไปเองผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมประชุมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น มีไม่น้อยที่ถึงกับแสดงรอยยิ้มออกมาประเทศหลงเถิงเป็นที่รู้กันดีว่ามักจะแข็งกร้าวเมื่อพูดถึงผลประโยชน์หลักของตนเองแต่ตอนนี้พวกเขากลับยอมผ่อนปรน ทุกคนจึงคิดว่ามีโอกาสที่ข้อตกลงนี้จะเป็นไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงตอบตกลงกันทั้งหมดหลังจากนั้น การประชุมทางวิดีโอที่ทั่วโลกจับตามองก็สิ้นสุดลงด้านของเย่ซิว ขณะเดียวกันก็ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจ้านชายผู้นั้นเป็นชายร่างใหญ่ มีหนวด
คำพูดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหลักการอันสูงส่ง แต่ความจริงแล้วมันเป็นการปล้นดี ๆ นี่เอง ผู้นำประเทศหลงเถิงตั้งแต่ต้นจนจบยังคงรักษาท่าทีนิ่งสงบไม่มีแม้แต่แววความไม่พอใจบนใบหน้า จนกระทั่งพวกเขาพูดจบ เขาถึงได้พูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า "ทุกท่านคิดว่าตอนนี้ประเทศหลงเถิงของเราผลิตหุ่นยนต์ไปแล้วกี่ตัว?" ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาทั้งที่ประชุมก็เงียบกริบ ใช่สิ พวกเขามัวแต่รีบร้อนเกินไป ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือต้องรีบช่วงชิงเทคโนโลยีของจักรกลมังกรดำมาให้ได้เร็วที่สุด แต่พวกเขากลับไม่เคยคิดถึงประเด็นนี้เลย เมื่อถูกเตือนขึ้นมาแบบนี้ หลายคนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลังเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาไม่หยุด ประเทศหลงเถิงสามารถมอบจักรกลมังกรดำถึงสิบสามตัวให้เย่ซิว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีสต๊อกอีกจำนวนมากเท่าไหร่?พวกเขาต่างก็เห็นพลังของจักรกลมังกรดำกันหมดแล้ว เพียงแค่สิบสามตัวก็สามารถทำลายล้างกองกำลังหลักของมหาอำนาจได้ ถ้าหากประเทศหลงเถิงมีจำนวนมากกว่านี้ ประเทศขนาดกลางและขนาดเล็กบางประเทศอาจถูกกวาดล้างจนหายไปจากแผนที่ได้เลย!เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเล็กคนหนึ่งปาดเหงื่อที่หน้าผากแล้วถามขึ้น
เย่ซิวรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางของหนานกงเสวี่ยเขาจึงฟาดฝ่ามือลงไปหนัก ๆ หนึ่งที "เวลานี้แล้วยังมาคิดเรื่องพวกนี้อีก แถมเธอยังเป็นกษัตริย์ด้วยระวังภาพลักษณ์ของตัวเองหน่อยสิ" หนานกงเสวี่ยมองเขาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายราวกับน้ำใส "แล้วมันจะเป็นอะไรไปล่ะ? ยังไงทุกคนที่นี่ก็เป็นพวกเดียวกัน อีกอย่างก็ฉันดีใจนี่นา" ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอลอบดีใจที่ตอนนั้นตัดสินใจยอมรับเย่ซิวซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดในชีวิต เธอสามารถมองเห็นอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของประเทศปิงจือได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากประชาชนของประเทศปิงจือได้เห็นกษัตริย์ของพวกเขาทำตัวแบบนี้กับเย่ซิว เกรงว่าหลายคนคงรับไม่ได้ เฉินหลานกลับไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะในสายตาของเธอเย่ซิวคือบุคคลในตำนาน เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง ท้ายที่สุด เย่ซิวก็ไม่ได้ทำตามที่หนานกงเสวี่ยคาดหวัง เขาให้เธอกลับไปประจำการก่อนเพื่อไม่ให้ทางนั้นเกิดปัญหา หนานกงเสวี่ยเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเสียดาย แต่พอเย่ซิวบอกกับเธอว่า"เดี๋ยวฉันจัดการธุระเสร็จแล้วจะไปหาเธอ" หญิงสาวก็กลับมายิ้มดีใจอีกครั้งหุ่นยนต์ทั้งสิบสามต
เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม