“กรี๊ดดด!”หลี่อวี่ถงกรีดร้องเสียงแหลม พลางใช้มือทั้งสองข้างปัดป่ายมั่วไปหมด ทั้งร่างเสียการทรงตัวอย่างสิ้นเชิงเย่ซิวรีบยื่นมือทั้งสองออกไปพยุงร่างของหลี่อวี่ถงไว้ทันก่อนที่เธอจะชนเข้ากับตัวเขาเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจสาวน้อยคนนี้ดูผอมบาง แต่ใครจะคิดว่ารูปร่างของเธอช่างน่าทึ่งเกินคาดหลี่อวี่ถงชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะก้มลงมองตำแหน่งที่เย่ซิววางมือไว้บนร่างกายของเธอ จากนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องที่ดังกว่าเดิมด้วยความตกใจสองนาทีต่อมา หลี่อวี่ถงนั่งหน้าแดงก่ำอยู่ตรงข้ามเย่ซิวพลางก้มหน้าไม่กล้าสบตา ร่างกายบิดไปมาและนั่งไม่ติดด้วยความกระสับกระส่ายในฐานะสาวติดบ้านที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ใกล้ชิดกับผู้ชายมากขนาดนี้ที่สำคัญคือเพิ่งพบกันได้ไม่นานก็เกิดเหตุการณ์น่าอายขึ้น และต้นเหตุก็เป็นเพราะตัวเธอเอง ทำให้เธอยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนมากกว่าเดิมแต่ลึก ๆ ในใจ กลับมีความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างผุดขึ้นมาเย่ซิวเป็นฝ่ายทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดลงก่อน “คุณหลี่ ลองบอกตัวเลขเงินเดือนที่คุณคาดหวังและประเมินงบประมาณสำหรับการจัดตั้งห้องปฏิบัติการทางชีวภาพดูสิครับ”เ
เหล่าผู้เข้าร่วมโครงการต่างตื่นเต้นไม่ต่างจากหลีอวี่ถงก่อนหน้านี้เมื่อความตื่นเต้นของทุกคนเริ่มเบาลงแล้ว เย่ซิวจึงเอ่ยถามว่าแต่ละคนยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ทุกคนต่างพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง นี่คือโอกาสที่ดีและโครงการที่ยิ่งใหญ่ ใครจะอยากพลาดมันไปล่ะ?จากนั้นเย่ซิวจึงตกลงเรื่องค่าตอบแทนของแต่ละคน พร้อมกำชับให้พวกเขาโทรหาครอบครัวในทันทีตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป พวกเขาจะไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้อีกพวกเขาจะต้องติดตามเย่ซิวและเข้าสู่สภาพแวดล้อมปิดตายโดยสมบูรณ์จนกว่าจะประสบความสำเร็จในโครงการนี้ พวกเขาจะไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกเด็ดขาดส่วนเรื่องเงินเดือนนั้น เย่ซิวกำหนดให้โอนเงินสามสิบเปอร์เซ็นต์ ของเงินเดือนเข้าบัญชีครอบครัวของพวกเขา ส่วนที่เหลืออีกเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ จะเก็บไว้ในบัญชีส่วนตัวสำหรับเงื่อนไขนี้ ทุกคนล้วนไม่มีข้อคัดค้านเย่ซิวยุ่งวุ่นวายจนกระทั่งรุ่งสาง จึงจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นและพาพวกเขาเข้าที่พักเพื่อให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เย่ซิวแอบใช้พลังวิญญาณปรับสภาพร่างกายของพวกเขาให้แข็งแรงขึ้นห้องปฏิบัติการถูกจัดตั้งขึ้นภายในสวน
‘ฉันจะทำให้นายโดนน้ำร้อนลวกให้ตายไปเลย ไอ้ผู้ชายสารเลว’ชูตงกร่นด่าเย่ซิวในใจ ขณะเป่าชาร้อนกรุ่นด้วยริมฝีปากเล็ก ๆ ของเธอ“นี่ค่ะ!”หลังจากเป่าชาอยู่นานเกือบนาทีจนแก้มเริ่มเมื่อย เธอก็ยื่นถ้วยชาให้เย่ซิวพร้อมสีหน้าบึ้งตึงในใจคิดว่าถ้าเขายังกล้าบอกว่าชานี้เย็นเกินไป เธอจะสาดน้ำชาใส่หน้าเขาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยโชคดีที่เย่ซิวไม่ได้พูดแบบนั้น เขารับถ้วยชามาจิบเบา ๆ ก่อนเอ่ยชมด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลวเลย ชาที่ชงโดยสาวสวยนี่มันอร่อยจริง ๆ”ชูตงกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย เธอไม่เชื่อคำหวานของเขาแม้แต่นิดเดียว“มีอะไรอีกไหมคะ ถ้าไม่มีแล้วฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อน”เย่ซิวยิ้มพลางตอบ “ไปเถอะ แต่อย่าลืมสิ่งที่คุณสัญญาไว้เมื่อคืนล่ะ”ชูตงส่งเสียงหึในลำคอ “รู้แล้วค่ะ ก็แค่อาหารมื้อเดียวเอง ฉันไม่ลืมหรอกน่า”พูดจบ เธอก็สะบัดมือแล้วหมุนตัวเดินออกไปท่าทางสะบัดสะโพกไปมานั้นช่างเป็นภาพที่น่าดึงดูดอย่างยิ่งเย่ซิวลูบคางพลางคิดอย่างคาดหวังเขาอยากรู้ว่าถ้าวันหนึ่งผู้หญิงคนนี้ยอมคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นยังไงนะตอนนั้นเขาคงจะหยิบยกท่าทีหยิ่งยโสของเธอในวันนี้มาพูดอย่างสนุกสนานแน่ ๆตลอดทั้งวัน เ
เย่ซิวส่ายหน้าอย่างคร้านจะพูดอะไรมาก ก่อนจะสตาร์ทรถขับออกไปขับไปได้ครึ่งทาง ชูตงก็เอ่ยขึ้นว่าอยากลงไปซื้อของที่ตลาดสดเย่ซิวจึงจอดรถข้างทางแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข่าวโดยหลัก ๆ เขาจะอ่านข่าวต่างประเทศ แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ใหญ่โตอะไรเกิดขึ้นส่วนเรื่องทางฝั่งสำนักโอสถ ซึ่งเป็นเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ขนาดพอ ๆ กับเมืองเล็ก ๆ ของประเทศหลงเถิง เรื่องของที่นั่นย่อมไม่มีวันขึ้นหน้าข่าวระดับนานาชาติแน่นอนแต่แล้วก็มีข่าวหนึ่งสะดุดตาเขาเข้าอย่างจังประเทศจ้านอิงตี้ประกาศเพิ่มงบประมาณด้านการวิจัยชีวภาพอีกแปดแสนล้านบาทในปีนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจจากโครงการยีนนักรบจึงเร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องหากไม่ใช่เพราะเย่ซิวเคยสัมผัสกับโครงการนี้มาก่อน เขาคงไม่เชื่อมโยงอะไรแบบนี้ขึ้นมาแน่ตอนนี้เขายิ่งแน่ใจว่าต้องเร่งหาโอสถวิญญาณต้นสุดท้ายให้เจอโดยเร็วที่สุดผ่านไปครึ่งชั่วโมง ชูตงก็กลับมาพร้อมถุงใส่ผักสองใบใหญ่เธอวางของไว้ที่เบาะหลัง ก่อนนั่งลงตรงที่นั่งข้างคนขับด้วยสีหน้าดีใจ พร้อมพูดจ้อไม่หยุด“วันนี้ของที่ตลาดถูกมากเลยล่ะ ทุกอย่างลดราคาตั้งสี่สิบเปอร์เซ็นต์แน่ะ หมูกับอาหารทะเลก็
ในเรื่องอื่น ๆ ชูตงอาจไม่กล้าพูดว่าตัวเองเก่งแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องทำอาหาร เธอมั่นใจอย่างมากด้วยสภาพครอบครัวที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอเริ่มช่วยทำอาหารตั้งแต่อายุหกถึงเจ็ดขวบ และพออายุสิบสองปี เธอก็กลายเป็นแม่ครัวหลักของบ้านตอนนี้ห้องครัวได้กลายเป็นสนามรบของทั้งสองฝ่ายหนึ่งชั่วโมงต่อมา อาหารห้าจานกับแกงหนึ่งถ้วยจากทั้งสองคนก็ถูกจัดวางเรียงอย่างเรียบร้อยบนโต๊ะอาหารใบหน้าของชูตงเริ่มแข็งทื่อเพราะแค่ดูจากรูปลักษณ์ของอาหารอย่างเดียว อาหารที่เย่ซิวทำกลับดูดีกว่าของเธอเสียอีก“เป็นไปได้ยังไง” เธอรู้สึกเหลือเชื่อในใจ แต่ก็รีบปลอบตัวเอง “ไม่เป็นไร คงดีแค่หน้าตา แต่ต้องกินไม่ได้แน่ ๆ”เย่ซิวมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปของชูตงก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น “ลองชิมอาหารของคุณก่อนแล้วค่อยชิมของผมนะ”ชูตงแค่นเสียงหึ ก่อนหยิบตะเกียบขึ้นมาชิมอาหารของตัวเองด้วยความมั่นใจระหว่างที่กิน เธอก็พยักหน้าเงียบ ๆดูเหมือนว่าความกระหายชัยชนะจะทำให้เธอทุ่มเทสุดตัว ทำให้อาหารมื้อนี้อร่อยกว่าที่เธอเคยทำเสียอีกรอบนี้เธอต้องชนะแน่เธอคิดในใจก่อนจะปรายตามองเย่ซิวอย่างท้าทาย แล้วใช้ตะเกียบคีบอาหารของเขาขึ้
ในเวลานั้นเอง เธอก็นึกขึ้นได้ถึงข้อตกลงระหว่างเธอกับเขาถ้าเธอแพ้เธอต้องจูบเย่ซิวหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่มีวันยอมรับได้เพื่อจะได้ไม่ต้องจูบกับเขา เธอจึงกัดฟันฝืนใจพูดออกไปว่า “อาหารที่คุณทำก็มีมาตรฐานอยู่หรอกนะ แต่ถ้าเทียบกับฉันแล้ว ยังไงก็ยังขาดอยู่นิดหน่อย”เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของเย่ซิว เธอก็ยิ่งแกล้งทำเป็นมั่นใจพูดต่อว่า “แต่เอาเถอะ ในฐานะที่คุณเป็นเจ้านายของฉัน การแข่งขันครั้งนี้เราจะถือว่าเสมอกันก็แล้วกัน ฉันไม่จูบคุณ และคุณก็ไม่ต้องให้ฉันห้าแสน”พูดจบ เธอก็แอบถอนหายใจเบา ๆ และชมตัวเองในใจว่า‘ฉลาดจริง ๆ เรา แก้สถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมเลย’เย่ซิวยิ้มมุมปากเล็กน้อย “พูดแบบนี้ไม่รู้สึกละอายใจบ้างเหรอ?”ชูตงก็รู้สึกอยู่เหมือนกันว่าสิ่งที่ทำไปมันไม่ค่อยดีนัก แต่ยังไงจะให้เธอก็ไม่อยากไปจูบเย่ซิวเช่นกัน ทำให้ความรู้สึกผิดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจเธอแต่พอเธอคิดอีกที จะกลัวไปทำไม อย่างมากเวลาทำงานก็ค่อยเลิกงานช้าหน่อย ช่วยบริษัททำงานเพิ่มอีกนิดหน่อยถือว่าเป็นการชดเชยแล้วกันคิดได้ดังนั้น ความรู้สึกผิดในใจเธอก็ลดลงไปไม่น้อย ก่อนจะเชิดหน้าอย่างดื้อรั้นแล้วตอบกลับไปว่า “ฉั
“ฉันจะกัดนายให้ตายเลย!”ชูตงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกอัดอั้นจูบแรกที่เธอถนอมรักษาไว้อย่างดีตลอดหลายปีกลับต้องเสียไปให้กับผู้ชายที่เธอเกลียดที่สุดทันทีที่เย่ซิวปล่อยตัวเธอ เธอก็ก้มลงกัดแขนของเขาเต็มแรงอย่างไรก็ตาม สำหรับเย่ซิวแล้วมันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย เขาปล่อยให้เธอกัดไปตามใจชอบแต่เมื่อผ่านไปสามสี่นาทีเธอก็ยังไม่ยอมปล่อย เย่ซิวจึงเริ่มไม่พอใจ “พอได้แล้ว ปล่อยได้แล้ว”ถ้าเป็นคนธรรมดาคงโดนกัดจนเนื้อขาดไปแล้ว แต่ชูตงกลับไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเลยสักนิด แถมยังทำหน้าจริงจังเหมือนตั้งใจจะกัดไปจนวันสิ้นโลกเย่ซิวขมวดคิ้ว “ถ้ายังไม่ปล่อย ระวังผลที่ตามมานะ”แต่เธอก็ยังคงกัดแน่นไม่ยอมปล่อยเย่ซิวเอื้อมมือไปจี้ที่ใต้รักแร้ของเธอ ทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือกและปล่อยปากออกในทันทีจากนั้นเย่ซิวก็จับตัวเธอพาดบ่าพร้อมกับเดินตรงไปที่ห้องนอนคราวนี้ชูตงเริ่มตกใจ พยายามดิ้นรนสุดกำลัง “ปล่อยฉันนะ เมื่อกี้ฉันแค่ล้อเล่นเอง”เย่ซิวยิ้มเย็น เขาให้โอกาสแล้วแต่เธอกลับไม่รู้จักคว้าไว้ จึงโทษใครไม่ได้เมื่อระยะห่างจากห้องนอนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ชูตงก็ยิ่งหวาดกลัวจนยอมลดท่าทีลงพร้อมกับอ้อนวอน “ข
น้ำเสียงของชายคนนั้นสงบนิ่งราวกับไม่ได้พูดถึงการฆ่าคน แต่เป็นเพียงการบดขยี้มดตัวหนึ่งเท่านั้นแม้จะเพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก แต่เย่ซิวก็อดชื่นชมชายคนนี้ไม่ได้เขาเป็นคนที่บริสุทธิ์ใจจนเย่ซิวเกิดความรู้สึกอยากรับเขาไว้เป็นพวก แต่เขาก็รู้ดีว่าคนเช่นนี้ไม่มีทางเปลี่ยนเจตจำนงของตัวเองได้ ดังนั้นจึงไม่ได้เอ่ยปากชักชวนเย่ซิวลุกยืนตรงด้วยสีหน้าจริงจัง “จัดมาเลย ฉันจะให้นายได้ตายอย่างสมเกียรติ”ชายคนนั้นเริ่มลงมือทันทีกระบี่ไม้ในมือถูกชักออกมาอย่างรวดเร็ว แสงจันทร์ส่องกระทบใบกระบี่ที่ฟันลงมากระแสกระบี่ที่แหลมคมดุจเส้นลวดพุ่งทะลวงออกไปอย่างรุนแรงความเร็วของกระบี่นี้รวดเร็วจนตามองแทบไม่ทัน อีกทั้งพลังยังถูกควบคุมไว้อย่างมิดชิดจนไม่อาจสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนได้เลยเย่ซิวเอ่ยชมด้วยความทึ่ง “วิชากระบี่ของนายใกล้ถึงขั้นสูงสุดแล้ว หากฝึกฝนต่อไปอีกสักสิบปีเกรงว่านายคงกลายเป็นจ้าวกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ในตำนานแน่”กระบวนท่ากระบี่ของชายคนนั้นแฝงไปด้วยความลึกซึ้งเกินหยั่งถึง ในเสี้ยววินาทีที่ฟาดฟันลงมา ปราณกระบี่ถูกอัดแน่นถึงเก้าชั้น ซึ่งแม้แต่เย่ซิวในตอนนี้ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำเหมือนการอัดแผ่นหินข
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ