“งั้นขั้นแรกเซ็นสัญญาจ้างงานยี่สิบปีกับบริษัท ถ้าเวลาทำงานไม่ครบจะต้องชดเชยเป็นจำนวนเงินห้าร้อยล้านบาท”ชูตงมองเย่ซิวด้วยความโกรธ "ยี่สิบปีมากเกินไปแล้วมั้ง คุณเห็นฉันเป็นทาสหรือไง?"จู่ ๆ เย่ซิวก็ยื่นมือออกมาแล้วคว้าเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาร่างกายของเธออ่อนนุ่ม กลิ่นหอมลอยส่งมาปะทะจมูก "ใช่ว่าผมจะไม่จ่ายค่าจ้างให้คุณสักหน่อย เซ็นสัญญากับผม ไม่งั้นคุณก็เอาตัวเข้าแลก เลือกด้วยตัวเอง"“ไอ้คนอันธพาล” ชูตงรีบกระโดดขึ้นมาจากอ้อมแขนของเย่ซิว ถอยไปยืนให้อยู่ห่างจากเขาไม่กี่เมตร แก้มทั้งสองข้างแดงเถือกไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธหรือว่าเขินอาย แต่หัวใจของเธอเต้นเร็วมากเย่ซิวยังได้กลิ่นหอมของชูตงติดอยู่บนฝ่ามือของตัวเองเขาหัวเราะแล้วพูดว่า "หอมมาก"ชูตงกัดฟันกรอด มองผู้ชายที่น่าชังคนนี้ด้วยความโกรธแน่นอนว่านี่เป็นเพียงการแสดงออกภายนอก จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้โกรธเย่ซิวเหมือนที่แสดงออกมาให้เห็นขนาดนั้นจุดนี้ทำให้ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าทำไม?“คนล่ะ? อยู่ที่ไหน?”ตอนนี้เองที่แฟนเก่าของชูตงก็วิ่งเข้ามาเขาแทบทนรอไม่ไหวที่จะแก้แค้นผู้หญิงคนนี้อย่างไรก็ตามเมื่อเขาวิ่งเข้า
ชูตงยู่ปาก "ฉันยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้เหรอ?"“ทำไม คุณยังอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เกิดซ้ำอีกครั้งเหรอ?” เย่ซิวมองผู้หญิงที่ดื้อรั้นคนนี้แล้วพูดออกไป “ยังไม่รีบไปเก็บของแล้วย้ายออกไปจากที่นี่อีก?”ชูตงเผยสีหน้าลังเล "ค่าเช่าที่นี่ราคาถูกมาก และฉันก็จ่ายเงินมัดจำไปสองหมื่นห้าพันบาทแล้วบ้านยังไม่หมดสัญญา ถ้าฉันย้ายออกในตอนนี้ก็จะไม่ได้รับเงินมัดจำคืน…”“ตามใจคุณ จะยังไงก็ได้” เย่ซิวยักไหล่ “ถ้างั้นคุณก็รอคนพวกนั้นกลับมาหาคุณในตอนกลางดึก รอพวกนั้นสลับกันปีนขึ้นเตียงคุณเถอะ…”ดวงตาของชูตงเต็มไปด้วยน้ำตา ร่างกายของเธอสั่นสะท้านอย่างหยุดไม่ได้ "คุณอย่าขู่ให้ฉันกลัวสิ"“ผมขี้เกียจจะคุยกับคุณแล้ว”พูดจบ เย่ซิวก็ยืนขึ้นและเตรียมที่จะออกไปถ้าเขาบอกว่าตัวเองจะช่วยหาห้องหรือไม่ก็อาสาที่จะอยู่ค้างคืนกับเธอ ผู้หญิงคนนี้ต้องคิดว่าเขามีเจตนาแอบแฝงแน่ไม่สู้แสร้งทำเป็นว่าจะจากไป ปล่อยให้เธอรู้สึกกลัว ถึงตอนนั้นเธอก็จะวิ่งมาขอร้องเขาด้วยตัวเองไม่ดีกว่าหรือตามที่คาดไว้ เมื่อผู้หญิงคนนี้เห็นเย่ซิวกำลังจะจากไป เธอก็ร้อนใจขึ้นมาท้ายที่สุดเธอยังเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ไม่ว่าจะดื้อรั้นหัวแข็งแค
เย่ซิวมองเธอด้วยสายตาที่ใช้มองคนโง่ "คุณคิดว่าตัวเองมีค่ามากแค่ไหนกันเนี่ย ผู้ชายทุกคนจะต้องชอบคุณ แล้วต้องหาทางเอาอกเอาใจคุณใช่ไหม?”“เหตุผลที่ผมให้บ้านคุณอยู่ฟรี มันมีเงื่อนไขอยู่ คุณต้องช่วยผมจัดการธงานในต่างประเทศหลังจากเลิกงานแล้ว”เย่ซิวเคยดูข้อมูลของชูตงมาก่อน เธอเรียนด้านบริหารมาทางด้านสำนักโอสถนั้นทุกวันจะมีเอกสารส่งมา เย่ซิวไม่สามารถสิ้นเปลืองเวลาให้กับเรื่องนั้นได้ทุกวัน ดังนั้นเขาจึงต้องหาใครสักคนมาช่วยเขาจัดการกับสิ่งนี้ ใบหน้าของชูตงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำและร้อนผ่าวเมื่อได้ยินคำพูดของเย่ซิว เธอรู้สึกเขินอายมาก จึงรีบเปลี่ยนเรื่องพูด "ถ้างั้น...คุณจะให้ฉันทำอะไร?"“จัดการงานต่างประเทศให้ผม คุณวางใจเถอะ ไม่กวนเวลาคุณนานหรอก ทุกวันอย่างมากทำแค่หนึ่งชั่วโมงก็พอ คุณไปจัดการธุระเหล่านั้นโดยอิงตามที่ผมขอก็พอแล้ว”“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็ตกลง”“ไปกันเถอะ”เขาเดินไปข้างนอกทันที โดยไม่หันกลับมามองเธออีกเลยกับผู้หญิงประเภทนี้ จะทำท่าดี ๆ กับเธอมากไม่ได้ชูตงรีบตามขึ้นไปหลังจากผ่านไปกว่าสี่สิบนาที ก็มาถึงเขตพักอาศัยระดับไฮเอนด์เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายนอกล้วน เป็นทห
ดวงตาของชูตงกลอกไปมารวดเร็ว ก่อนจะหยิบกระดาษและปากกามาเขียนอะไรบางอย่างอย่างคล่องแคล่วจากนั้นเธอก็ยื่นกระดาษให้เย่ซิว “เพื่อความรอบคอบ ฉันคิดว่าเราควรเซ็นสัญญากันไว้ก่อนนะ จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย”เย่ซิวส่ายหน้า ผู้หญิงคนนี้ช่างระมัดระวังเสียจริง เหมือนกลัวว่าเขาจะคิดร้ายกับเธอเสียอย่างนั้นเขาหยิบกระดาษขึ้นมาดู เนื้อหาในสัญญาก็ไม่มีอะไรที่ดูไม่สมเหตุสมผล เย่ซิวจึงเซ็นชื่อลงไปอย่างไม่ลังเลชูตงยิ้มออกมาอย่างดีใจ พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายระยิบระยับเต็มไปด้วยความหวังสัญญาที่เซ็นไว้นั้นกำหนดระยะเวลาห้าปี ตราบใดที่ชูตงช่วยงานเย่ซิว เธอก็จะสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ฟรีสิ่งที่เธอคิดในตอนนั้นคือ ต่อให้เย่ซิวไม่จ่ายเงินให้เธอ เธอก็ยังสามารถหาผู้หญิงมาร่วมเช่าได้อีกหลายคนอพาร์ตเมนต์ทำเลทองแบบนี้ไม่มีทางหาคนเช่าไม่ได้แน่นอนถ้าเธอหาผู้หญิงมาร่วมเช่าสักสองสามคน คนละหมื่นห้าต่อเดือน เธอก็จะมีรายได้เสริมเดือนละเกือบห้าหมื่นบาทเลยทีเดียวพอเป็นแบบนี้แล้ว แผนการเก็บเงินซื้อบ้านของเธอก็จะสำเร็จเร็วขึ้นไปอีกเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของเธอก็หรี่ลงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวด้วยความสุข“ยิ้ม
เย่ซิวรีบวิ่งไปที่ห้องครัวด้วยความเร็วสูงสุด เมื่อไปถึง เขาก็เห็นชูตงนั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้องพลางกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง“เกิดอะไรขึ้น?”“มีแมลงตัวใหญ่มาก ฮือ ๆ ๆ”ชูตงซุกหน้ากับผนัง และยกมือสั่นเทาชี้ไปที่ผนังด้านหลังเย่ซิวหันไปมอง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้แมลงตัวใหญ่ที่เธอกลัวนักหนา ที่แท้ก็แค่ตุ๊กแกตัวหนึ่งเท่านั้นที่นี่ไม่มีคนอยู่มาสักพักแล้ว การมีแมลงหรือสัตว์เลื้อยคลานบ้างจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเห็นดังนั้น เย่ซิวก็เกิดความคิดแผลง ๆ ขึ้น เขาตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า “แย่แล้ว ตุ๊กแกกำลังคลานมาทางคุณแล้ว!”“กรี๊ดดด!!”ชูตงกรีดร้องเสียงแหลมแล้วกระโดดเกาะเย่ซิวแน่นเหมือนปลาหมึกยักษ์ร่างของเธอนุ่มนิ่มเหมือนเยลลี่ทำให้เย่ซิวยิ้มด้วยสีหน้าที่ผู้ชายทุกคนจะรู้กันดี สัมผัสที่ไม่มีอะไรเทียบได้นี้ แน่นอนเขาย่อมไม่ปฏิเสธสิ่งดี ๆ ที่วิ่งเข้ามาหาเองหรอกชูตงกอดเย่ซิวแน่นนานเกือบนาที ก่อนจะได้สติกลับมาแล้วรีบผละตัวออก ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อจนแทบจะมีเลือดซึมออกมาทว่าเย่ซิวกลับแกล้งทำเป็นขึงขัง พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “คุณทำอะไรของคุณ? อยู่ดี ๆ ก็มาก
เมื่อเย่ซิวพบถังเขอเข่อ ก็เห็นว่าเธอกำลังสนทนากับทีมเทคนิคอย่างจริงจังอยู่เย่ซิวไม่ได้เข้าไปรบกวน แต่รอจนพวกเขาคุยกันเสร็จแล้วจึงเดินเข้าไปหา“ทำไมบอสถึงมาที่นี่ได้ล่ะคะ? เมื่อกี้พวกเรายังพูดถึงคุณอยู่เลย” เมื่อเห็นเย่ซิว ถังเขอเข่อก็แสดงท่าทางดีใจอย่างเห็นได้ชัดเย่ซิวเหลือบมองเธอเล็กน้อย “คุณพูดถึงผมแบบนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องขอเงินอีกแล้วสินะ”ถังเขอเข่อหัวเราะแห้ง “บอสช่างเฉียบแหลมจริง ๆ ฉันขอยอมรับในความเฉียบคมนี้เลยค่ะ”“ว่ามาเถอะ คราวนี้ต้องการเงินเท่าไหร่? แล้วจะเอาไปใช้อะไรอีกล่ะ”แม้ว่าถังเขอเข่อจะใช้เงินเหมือนสายน้ำ แต่เธอก็ไม่เคยใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระทุกครั้งที่เธอขอเงินล้วนเป็นการลงทุนเพื่อการพัฒนาอุปกรณ์ที่ให้ประโยชน์มหาศาลแก่เย่ซิว ดังนั้นเขาจึงไม่เคยตระหนี่ดวงตาของถังเขอเข่อเป็นประกายทันที “ตอนนี้ปัญหาหลักของหุ่นยนต์ได้รับการแก้ไขแล้วค่ะ หลังจากติดตั้งแบตเตอรี่รุ่นใหม่เข้าไป เวลาทำงานต่อเนื่องก็สามารถยืดไปได้ถึงหนึ่งชั่วโมงแต่เรายังต้องวิจัยอาวุธโจมตีและอาวุธป้องกันเพิ่มเติมแผนของฉันคือการติดตั้งปืนหกชนิดให้กับหุ่นยนต์แต่ละตัว พร้อมกับดาบมังกรครองจันทร์หนึ่
“คุณรู้จักผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาที่ไว้ใจได้บ้างไหม?”เย่ซิวเพิ่งได้รับข้อมูลลับเกี่ยวกับยีนนักรบจากประเทศจ้านอิงตี้ ซึ่งเป็นทรัพยากรล้ำค่าที่มีมูลค่ามหาศาลเขาต้องหาวิธีเปลี่ยนข้อมูลนี้ให้กลายเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ได้ เพราะการเก็บไว้เฉย ๆ คงไม่ใช่ทางเลือกเท่าไหร่ในฐานะที่ถังเขอเข่อเป็นสาวสายเทคโนโลยีระดับหัวกะทิ เขาคิดว่าเธอน่าจะรู้จักใครสักคนในแวดวงนี้ดี“คุณถามถูกคนแล้วค่ะบอส ฉันรู้จักคนที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ดี” ถังเขอเข่อหัวเราะอย่างร่าเริง“เพื่อนร่วมห้องเก่าของฉันคนหนึ่งทำงานด้านยีนชีววิทยาโดยเฉพาะ แต่ตอนนี้สถานการณ์เธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก่อนหน้านี้งานวิจัยหลายโครงการของเธอไม่เป็นไปตามคาด ทำให้ผู้ลงทุนถอนตัวจนหมด ตอนนี้เธอก็เลยเหมือนตกงานอยู่ แต่ความสามารถของเธอนั้นไม่ธรรมดาแน่นอนค่ะ”เย่ซิวพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นส่งข้อมูลติดต่อของเธอมาให้ผม แล้วช่วยโทรคุยกับเธอหน่อยว่าเธอยินดีจะพบผมไหม”“ได้เลยค่ะบอส เดี๋ยวฉันจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย”ถังเขอเข่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนต่อหน้าเย่ซิวในอพาร์ตเมนต์เช่าธรรมดาแห่งหนึ่งในเมืองหลวงหญิงสาวสวมแว่นตาหนาเตอะอายุประมาณยี่สิบส
แต่ดาราหนุ่มหน้าใสเหล่านั้น พอมาเทียบกับเย่ซิวแล้ว แม้แต่ให้ถือรองเท้าก็ยังไม่คู่ควรแม้หัวใจของหลี่อวี่ถงจะเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงแสดงออกอย่างสุขุมและเป็นมืออาชีพ เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูต้อนรับด้วยน้ำเสียงสุภาพ “สวัสดีค่ะคุณเย่ ฉันชื่อหลี่อวี่ถง เชิญเข้ามาก่อนค่ะ”เย่ซิวเดินเข้าไปในห้อง เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะแล้วเขาก็ไม่พูดจาอ้อมค้อม แต่เข้าเรื่องทันที“คุณหลี่ ผมมีข้อมูลบางอย่างอยากให้คุณดู ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องความร่วมมือกัน”พูดจบเขาก็วางแล็ปท็อปที่เพิ่งซื้อมาใหม่ลงบนโต๊ะทันทีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ยังไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลหลี่อวี่ถงกระพริบตาด้วยความอยากรู้ ก่อนจะหมุนหน้าจอเข้าหาตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีการเจรจาที่เธอไม่เคยเจอมาก่อนเลยแต่ทันทีที่เธอเริ่มอ่านเนื้อหาบนหน้าจอ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างทันทีเธอนั่งหลังตรง สายตาจับจ้องที่ข้อมูลบนหน้าจออย่างแน่วแน่ ขณะที่นิ้วมือเลื่อนดูอย่างต่อเนื่องเย่ซิวจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆหากเธอแสดงท่าทีละโมบแม้เพียงน้อยนิด เขาจะทำให้เธอสลบและลบความทรงจำเกี่ยวกั
แค่กระบี่นี้ หากเล็งไปที่เมืองสักแห่ง เมืองนั้นคงถูกทำลายจนสิ้นในพริบตาหากฟันกระบี่นี้ออกไปอีกไม่กี่ครั้ง ประเทศจ้านฉงตี้คงได้รับความเสียหายอย่างหนักจนยากจะฟื้นตัวหรือไม่แน่ อาจถูกประเทศจ้านอิงตี้ฉวยโอกาสเข้ายึดครองไปเลยก็ได้อย่าดูแค่ภายนอกว่าทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงจุดอ่อนขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสกลืนกินอย่างแน่นอนเย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยซากโบราณสถานแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาจริง ๆเขาใช้วิชาอัดปราณกระบี่ไปถึงเก้าครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้เย่ซิวเก็บกระบี่หงส์โบยบิน โดยไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเขาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แสงสีทองสว่างไสวเหมือนเปลวเพลิง ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!เมื่อร่างที่ทรงพลังและครอบงำทุกสิ่งจนแทบไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท้องฟ้าอันแจ่มใสพันลี้พลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำมืดในทันทีไม่ต้องพูดถึงคนรอบข้างที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่จักรพรรดิหมีเหล็ก ที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายมันไมล์ และกำลังชมวิดีโออยู่ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันหนักอึ้งและกดดันมหาศ
ร่างกายของโซเฟียเย็นเล็กน้อยสัมผัสคล้ายกับการบีบเยลลี่เมื่อเผชิญกับสายตาแข็งกร้าวของเย่ซิว เธอกลับแสดงออกอย่างสงบนิ่ง“คุณเป็นคนของโลกนี้หรือเปล่า”โซเฟียไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเคย์ฟี่ที่เห็นฉากนี้ เกิดความอิจฉาขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำไมตัวเธอพยายามสารพัด แต่เย่ซิวกลับไม่ยอมมองเธอแม้แต่แวบเดียวขณะที่โซเฟียเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคน“ไม่พูดสินะ?” เย่ซิวเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางของเธอเล็กน้อยผิวของเธอบอบบางเกินไป เพียงบีบเบา ๆ ก็เกิดรอยช้ำขึ้นมาแล้ว“ถ้าไม่พูดก็ถือว่ายอมรับ ผมจะฆ่าคุณ”เย่ซิวไม่ได้ขู่เธอในขณะนั้น ความกระหายสังหารพลันปะทุขึ้นในใจของเขาแต่ทันทีที่ความคิดฆ่าฟันเกิดขึ้น เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวหญิงสาวภายในร่างกายของเธอ มีบางสิ่งที่น่ากลัวซ่อนอยู่หากเธอเผชิญกับอันตรายจริง ๆ สิ่งนั้นจะถูกกระตุ้นออกมาเองเย่ซิวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากเธอ ความตั้งใจจะฆ่าที่แผ่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ หายไปเขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเธอทันทีที่เจอหน้าเย่ซิวเดินผ
ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวสุดขีด พลังของอ็อคก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งแรงกดดันจากร่างกายของเขารุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้สนับสนุนอ็อคหลายคนเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นว่าเขาสามารถทะลวงขีดจำกัดได้อีกครั้งภายใต้ความโกรธในตอนนี้ พลังที่แผ่ออกมาจากอ็อคเทียบเท่ากับระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ ตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยความดีใจสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง อ็อคเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลับมาอยู่เหนือทุกสิ่งอีกครั้งสองข้าวิ่งทะยาน ความเร็วพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลุกำแพงเสียงในพริบตาร่างของเขาพุ่งเข้าหาเย่ซิวราวกับอุกกาบาตที่ลุกไหม้เต็มไปด้วยพลังแห่งความบ้าคลั่งและไร้เทียมทานแต่แม้จะต้องเผชิญกับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เย่ซิวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับจนกระทั่งอ็อคใกล้เข้ามา เขาถึงได้เอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“หยุด!”วาจาศักดิ์สิทธิ์!อ็อคที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันหยุดนิ่ง ถูกพลังบางอย่างตรึงร่างไว้โดยสมบูรณ์ เขาหยุดอยู่ห่างจากเย่ซิวเพียงครึ่งเมตรเท่านั้นในดวงตาของอ็อคเต็มไปด้วยความมึนงงและไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเย่ซิวยื่นมื
พลังแห่งปฐพี!พลังแห่งปฐพีในรัศมีร้อยลี้ถูกอ็อคควบคุมและรวบรวมเข้าสู่ร่างกายของเขาทำให้หมัดที่ปล่อยออกมาทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดผู้คนรอบข้างพากันยกมือขึ้นปิดหูโดยสัญชาตญาณบางคนที่พลังอ่อนแอกว่าถึงกับเลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร ร่างกายสั่นสะท้านจนควบคุมตัวเองไม่ได้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!ให้ความรู้สึกราวกับมีระเบิดเอชระเบิดขึ้นข้าง ๆดวงตาของอ็อคเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและความกระหายในเลือดเขาเชื่อมั่นว่าหมัดนี้ ต่อให้เย่ซิวแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงรับไว้ไม่ได้ และต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอนเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเย่ซิว หวังจะเห็นความหวาดกลัวแต่เขากลับต้องผิดหวังดวงตาของเย่ซิวลึกดั่งบ่อน้ำเย็นยะเยือกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดไม่ว่าโลกภายนอกจะโหมกระหน่ำเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เกิดระลอกคลื่นใด ๆ ได้เย่ซิวขยับแล้วมือขวากำหมัดแน่นเผชิญหน้ากับหมัดที่สามารถทำลายท้องฟ้าของอ็อค เขาใช้พลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้นตู้ม!สองหมัดปะทะกัน ก่อให้เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดินจากนั้นก็เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยแต่อ็อคกลับเริ่มแตกสลายจากหมัดของตัวเอง และรอยแตกนั้นลามขึ้นไปทั
เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่
จากสีหน้าของสามีผู้หญิงคนนี้เมื่อครู่ ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเดาออก หรือไม่ก็รู้และปล่อยผ่านไปแล้วเรื่องแบบนี้คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในตระกูลใหญ่ มักจะมีเรื่องสกปรกแบบนี้อยู่เสมอบางครั้งเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือเป้าหมายอื่น ๆการยอมสละภรรยาหรือแม้แต่ลูกสาวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเย่ซิวเองก็เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเคย์ฟี่เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากเธอเป็นผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งวัยที่สุกงอมผู้หญิงแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นนักล่าผู้ชายโดยแท้แต่เย่ซิวกลับไม่รู้สึกสนใจเธอสักเท่าไรไม่ใช่เพราะว่าเขาสูงส่งอะไรนักหรอก แต่เพราะเขารู้สึกว่าเธอดูสกปรกเกินไปผู้หญิงที่ถูกนับไม่ถ้วนลิ้มรสแบบนี้ ต่อให้สวยแค่ไหน เย่ซิวก็ไม่มีทางสนใจดังนั้นไม่ว่าเคย์ฟี่จะพยายามยั่วยวนยังไง เย่ซิวก็ยังคงนิ่งเฉยทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยขณะที่พรีเอลล์ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ เห็นฉากนี้ สีหน้ากลับดูผ่อนคลายขึ้นมาในใจคิดว่าแม่ยังสู้ตัวเองไม่ได้ อย่างน้อยตัวเองก็เคยทำสำเร็จมาก่อนผ่านไปห้าสิบกว่านาที พวกเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทางทันทีที่ลงจากรถ ก็สามารถมองเห็นกำแพงขนาดมหึมา ล้อมรอบซากโบราณสถานท
เย่ซิวเผาผลาญเลือดสดของตนเองไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์ชั่วพริบตา พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นหนึ่งส่วนหากคำนวณเช่นนี้ ถ้าเขาเผาผลาญเลือดสดไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ก็จะสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้ถึงห้าเท่าในทันทีนี่เป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นยิ่งนักทว่าทักษะลึกลับนี้ก็มีข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงนั่นคือหลังจากเผาผลาญเลือดสดแล้วจะต้องตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอเป็นเวลานานแต่เย่ซิวสามารถลดอันตรายจากข้อเสียนี้ให้เหลือน้อยที่สุดเพราะร่างกายของเขาตอนนี้แข็งแกร่งเกินกว่าผู้ใดความสามารถในการสร้างเลือดของหัวใจนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งคนทั่วไปหากใช้วิชานี้ไปแล้วจะต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อฟื้นตัวแต่เย่ซิวไม่เหมือนคนทั่วไปเขาสามารถฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้ภายในสิบกว่านาทีหากมีพลังงานเสริมเพียงพอ เขาสามารถใช้วิชาผลาญโลหิตได้สิบกว่าครั้งรุ่งเช้าของวันถัดมาเย่ซิวเดินทางมาถึงตระกูลของพรีเอลล์ทันทีที่ลงจากรถ เขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นพ่อแม่ของพรีเอลล์ คู่สามีภรรยาที่ดูยังหนุ่มสาวมาปรากฏตัวฝ่ายหญิงงดงามสง่า ฝ่ายชายมีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาเบื้องหลังพวกเขายังมีเหล่าชายหญิงวัยหนุ่มสาวติดตามมาด้วย แต่ละคน
เย่ซิวคว้าคอของพรีเอลล์ไว้แน่น ก่อนจะปลดปล่อยวิชามารโลหิตออกมาอย่างไม่ลังเลสีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก เธอพยายามดิ้นรนสุดกำลังแต่ตอนนี้ พลังของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าเธอจะขัดขืนแค่ไหน ก็ไร้ประโยชน์พลังอันแข็งแกร่งที่แฝงอยู่ในเลือดของเธอถูกเย่ซิวดูดกลืนอย่างต่อเนื่องหลังจากดิ้นรนไปได้สักพัก ร่างกายของพรีเอลล์ก็ไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและวิงวอน ขณะที่จ้องมองไปที่เย่ซิวผิวพรรณของเธอซีดหมองราวกับแก่ลงไปสิบกว่าปีในพริบตาเมื่อดูดกลืนพลังในเลือดของเธอไปเกือบครึ่ง เย่ซิวจึงยอมปล่อยมือจากพรีเอลล์พรีเอลล์รีบถอยห่างออกจากเย่ซิวในทันที พลางหอบหายใจอย่างหนักเย่ซิวกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ผมไม่อยากเห็นคุณใช้วิธีสกปรกแบบนี้จัดการผมอีก ถ้ามีครั้งหน้า ผมไม่รับประกันว่าคุณจะรอดไปได้”เมื่อครู่ กลิ่นที่พรีเอลล์ปล่อยออกมาจากร่างกายคือยาชนิดซีและดูเหมือนว่าจะเป็นสูตรใหม่ที่เขาไม่เคยพบมาก่อน มีฤทธิ์รุนแรงมากถ้าหากเป็นช่วงที่เย่ซิวเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับจินตาน มีโอกาสสูงที่เขาจะต้านทานมันไม่ไหวหากเป็นเช่นนั้น
เย่ซิวยอมไปกับพวกเขาโดยลำพัง แสดงว่าเขาต้องมีบางอย่างที่ทำให้สามารถเมินเฉยต่อพวกเธอได้ ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลืออยู่ก็ถูกเก็บกลับไปที่จริงแล้ว จุดประสงค์ที่พวกเขามาหาเย่ซิวในครั้งนี้ ก็มีความคิดที่จะล่อเขาไปแล้วร่วมกันรุมโจมตีแต่จากสถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความคิดนั้นจะเป็นไปไม่ได้แล้วเมื่อเก็บงำความคิดที่วุ่นวายในใจลงไป พูทก็หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยื่นมือออกไปวางบนไหล่ของเย่ซิวแต่เพียงแค่โดนสายตาของเย่ซิวจ้องกลับมา เขาก็รีบหดมือกลับไปอย่างขัดเขิน“เอ่อ งั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ น้องเขยสุดที่รัก ขึ้นรถของฉันสิ นี่เป็นรถยนต์ลอยตัวรุ่นใหม่ล่าสุดที่ประเทศจ้านฉงตี้วิจัยขึ้นมา”“โอ้ งั้นเหรอ งั้นผมต้องลองดูหน่อยแล้ว” เย่ซิวเผยสีหน้าสนใจขึ้นมาไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ ลักษณะภายนอกดูไม่ต่างจากรถสปอร์ตมากนักแต่เส้นสายของตัวรถดูโฉบเฉี่ยวกว่า ใหญ่กว่า และเต็มไปด้วยความล้ำสมัยทางเทคโนโลยีพูทเป็นคนเปิดประตูรถก่อน แล้วทำท่าเชื้อเชิญให้เย่ซิวขึ้นไปเย่ซิวกับพรีเอลล์นั่งที่เบาะหลังส่วนพูทเป็นคนขับพูทกดปุ่มสตาร์ทรถ ทันใดนั้นล้อทั้งสี่ของรถก็ถูกพับเก็บเข้าไ