เสวี่ยเหมยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา นิ้วของเธอพิมพ์ข้อความลงบนหน้าจออย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งข้อความไปให้หลิวคุนเนื้อหาข้อความเขียนว่า ‘ฉันอยู่กับผู้ชายที่พี่เจอเมื่อวานและตอนนี้ฉันกำลังจะมีอะไรกับเขาแล้ว’เธอกดส่งข้อความแล้วปิดโทรศัพท์ทันทีหัวใจของเธอเต้นรัว ขณะจ้องมองไปที่เย่ซิวด้วยความลังเล ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา “คุณเย่คะ ฉันอยากบำเพ็ญตนคู่กับคุณ”ในสถานที่อันเงียบสงบและห่างไกลผู้คนเช่นนี้ กับชายหญิงสองคนที่อยู่ด้วยกัน ท่ามกลางแอลกอฮอล์และบรรยากาศที่พาให้จิตใจไขว้เขว สิ่งที่จะเกิดขึ้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้บรรยากาศเริ่มเต็มไปด้วยความโรแมนติกและยั่วยวนแต่เย่ซิวกลับส่ายหน้า “เกรงว่าจะไม่ได้”คำตอบของเขาทำให้เสวี่ยเหมยตกตะลึงจนพูดไม่ออกสร้างบรรยากาศมาถึงขนาดนี้แล้ว และเธอเชื่อมั่นว่าตัวเองไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างกายเย่ซิวเลย เธอจึงถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะคะ?”เย่ซิวมีเหตุผลของเขาเองด้วยลักษณะพิเศษของพลังที่เสวี่ยเหมยฝึกฝนมา ทำให้เธอต้องได้รับการดูแลแตกต่างจากคนอื่นพูดกันตามตรง กำลังภายในของเธอตอนนี้แทบไม่ได้มีประโยชน์กับระดับ
แม้ว่าเย่ซิวจะดูดซับพลังวิญญาณจากที่นี่ทั้งหมด แต่ปริมาณที่ได้ยังไม่ถึงหนึ่งในหมื่นของพลังที่เขามีอยู่“ศิษพี่ทุกคน ฉันกลับมาแล้ว!”เสวี่ยเหมยตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น เสียงของเธอถูกส่งผ่านด้วยพลังภายใน ทำให้กระจายไปทั่วพื้นที่อย่างรวดเร็วเสียงนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ทันทีประตูบ้านไม้แต่ละหลังเปิดออกทันที ชายหนุ่มที่ดูเหมือนชาวบ้านธรรมดารีบวิ่งออกมา เมื่อพวกเขาเห็นเสวี่ยเหมย ต่างก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง“ศิษย์น้อง เธอกลับมาทำไมตอนนี้?”“หลิวคุนไม่ได้ไปหาเธอเหรอ? หรือเขาไม่ได้บอกความปรารถนาสุดท้ายของอาจารย์เราให้เธอเหรอ?”“ไม่สิ เพียงเวลาสั้น ๆ แบบนี้เธอกลับมาได้ยังไงแบบนี้?”“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”คำถามมากมายถูกโยนใส่เสวี่ยเหมยจนเธอไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดีเธอจึงตอบเลี่ยง ๆ ไป และเอ่ยด้วยความร้อนใจ “อาจารย์อยู่ที่ไหน ฉันต้องพบท่านก่อน!”“ท่านกำลังนอนพักอยู่ ช่วงนี้ท่านหลับบ่อยมาก วันหนึ่งนอนอย่างน้อยสิบสามถึงสิบสี่ชั่วโมง ดูเหมือนว่าท่านอาจจะอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์แล้ว”คนที่ตอบเธอคือศิษย์พี่
ศิษย์พี่ชายไม่กี่คนของเสวี่ยเหมยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นทุกคนก็หัวเราะฮ่า ๆ“ศิษย์น้องหญิง ไม่ได้เจอหน้ามาสักพัก ดูเหมือนเธอจะมีอารมณ์ขันขึ้นมากทีเดียว”“ต้นขาของไอ้หนูนี่ยังบางไม่เท่าแขนของฉันด้วยซ้ำ บนตัวเองก็ไม่มีกลิ่นอายของผู้แข็งแกร่งเล็ดลอดออกมา เขาจะสามารถสู้ชนะพวกเราได้?”“ศิษย์น้องหญิง เธอคงไม่ใช่ถูกรูปลักษณ์ภายนอกของไอ้หนูนี่หลอกแล้วหรอกนะ? โชคดีที่เธอกลับมาหาเรา อย่างน้อยเราก็สามารถช่วยเธอแก้ไขข้อผิดพลาดได้”…… เสวี่ยเหมยตบหน้าผาก รู้เลยว่าเรื่องไม่ดีแล้วเธอรู้ถึงอุปนิสัยของศิษย์พี่ชายเหล่านี้ดี แต่ละคนดื้อรั้นเหมือนวัวไม่ว่าตัวเองจะอธิบายยังไง พวกเขาก็ล้วนไม่เชื่อวิธีเดียวคือปล่อยให้พวกเขาได้รับบทเรียนสักหน่อย เมื่อรู้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้านี้น่ากลัวแค่ไหนก็จะว่าง่ายแล้วคิดได้แบบนี้ เธอก็โค้งคำนับไปทางเย่ซิวอย่างลึกซึ้ง พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า "ศิษย์พี่ชายไม่กี่คนนี้ของฉันไม่ใช่คนเลว ขอคุณโปรดยั้งมือ สั่งสอนบทเรียนพวกเขาเล็กน้อยก็พอแล้ว"เย่ซิวพยักหน้า สาวน้อยคนนี้รู้ความกว่าแต่ก่อนมาก ฝ่ามือใหญ่ตบลงไปร่างบอบบางของเสวี่ยเหมยสั่นสะท้าน ใบหน้าของเธอแดงไปห
ศิษย์พี่หลายคนลูบหัวอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อยก็จริง ถ้าก่อนที่จะลงมือเสวี่ยเหมยบอกพวกเขาว่าชายหนุ่มที่ดูอ่อนวัยจนนน่าตกใจซึ่งอยู่ตรงหน้านี้เป็นปรมาจารย์อาวุโสท่านหนึ่ง พวกเขาไม่ทีทางเชื่ออย่างแน่นอนในความเป็นจริงเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์อาวุโสไม่รู้กี่เท่าแต่เสวี่ยเหมยขี้เกียจเกินกว่าจะอธิบาย เข้าใจผิดก็เข้าใจผิดไปเถอะการแสดงออกของเย่ซิวไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก "อย่าพูดเรื่องไร้สาระให้มาก พาผมไปพบอาจารย์ของคุณเถอะ จัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ผมจะได้กลับ"ไม่กล้าชักช้า รีบพาเย่ซิวไปหยุดอยู่ที่หน้าเตียงของอาจารย์ทันทีนี่คือผู้อาวุโสที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น เขานอนปิดตาสนิทอยู่บนเตียง คลุมผ้าห่มไว้ การหายใจช้ากว่าคนปกติมากบนตัวมีกลิ่นอายของความเสื่อมสลายเล็ดลอดออกมามองแวบแรกก็รู้เลยว่าอยู่ได้ไม่นานแล้วมองดูอาจารย์ที่รักและเอ็นดูตัวเองตอนนี้กลายเป็นแบบนี้ เสวี่ยเหมยก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปากไม่ให้ตัวเองส่งเสียงร้องไห้ออกมาศิษย์พี่ชายหลายคนเมื่อได้เห็นฉากนี้ ก็ทำได้แค่ลอบถอนหายใจในความเป็นจริง พวกเขาไม่คิดว่าเย่ซิวจะมีความสามารถช่วยชีวิตอาจารย์ของพวกเขากลับมาได้
“เธอชื่อเย่ซิวใช่หรือเปล่า อาจารย์ของเธอต้องชื่อเจียงอี้แน่!”หัวใจของเย่ซิวสั่นไหว ประกายแสงคมปลาบพุ่งออกมาจากดวงตาของเขาพริบตานั้นออร่าที่ปลดปล่อยออกมาก็ทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกำลังตกลงไปในหุบเหวลึก กระทั่งได้กลิ่นลมหายใจแห่งความตายแต่ความรู้สึกนี้มาเร็วก็หายไปอย่างรวดเร็ว เย่ซิวกลับคืนสู่ความสงบ และมองไปที่ผู้อาวุโส "คุณรู้ได้ยังไง?"เสวี่ยเหมยเองก็มองไปที่ผู้อาวุโสด้วยความตกใจมาก เป็นไปได้ไหมว่าระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความเกี่ยวข้องอะไรกันมาก่อน?ผู้อาวุโสพยักหน้า เผยสีหน้าที่หวนนึกถึงอดีต "แน่นอน เมื่อก่อนฉันน่ะตามจีบอาจารย์ของเธออยู่นานมากแต่ยายแก่นั่นไม่ชอบฉันที่แก่กว่าเขาห้าถึงหกปี เลยปฏิเสธฉันตั้งหลายครั้งตอนที่เธอยังเด็ก ฉันยังเคยอุ้มและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้กับเธอด้วย เจ้าเด็กเหลือขอนี่ มีครั้งหนึ่งยังเคยฉี่รดหน้าฉันด้วยซ้ำ"ถึงเป็นเย่ซิว เขาก็ยังอดไม่ได้หน้าแดงเมื่อได้ยินคำพูดนี้เสวี่ยเหมยยกมือขึ้นปิดปากแล้วหัวเราะเบา ๆ คิดไม่ถึงว่า เย่ซิวตอนเด็กจะน่ารักขนาดนี้เย่ซิวสามารถรู้สึกได้ว่าผู้อาวุโสคนนี้ไม่ได้พูดโกหก จึงประสานหมัดแล้วพูดออกไป “ผู้น้อยเย่ซิวคารวะผู้อาวุโส”
แต่สิ่งที่เย่ซิวคิดหลังจากเห็นรายงานนี้ คือในพื้นที่นั้นมีค่ายกลที่ทรงพลังเพื่อปกปิดสภาพที่แท้จริงเอาไว้หรือไม่ยังมีดาวเคราะห์ดวงอื่น รวมถึงดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดีที่ถูกสำรวจมานานแล้ว มันไม่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของมนุษย์ แต่จะเป็นอย่างไรหากเปลี่ยนเป็นผู้บำเพ็ญตน?ต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้แม้เย่ซิวจะไม่หายใจสักสองสามปีก็ไม่เป็นไรตัวตนที่ทรงพลังพวกนั้นกระทั่งไม่หายใจเลยตลอดชีวิตก็ไม่เป็นไรด้วยซ้ำสิ่งที่โลกนี้เปิดเผยให้เขาเห็น ขนาดยอดภูเขาน้ำแข็งก็ยังนับไม่ได้ ยังมีความลับอีกมากมายรอให้เขาไปสำรวจอยู่เย่ซิวแสร้งทำเป็นล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ไม่ได้เจาะลึกปัญหานี้นานเกินไปนัก แต่จริง ๆ แล้วหยิบขวดยาออกมาจากแหวนผนึกของสองขวด หนึ่งขวดสีดำและอีกหนึ่งขวดสีแดงเขายื่นมันให้ผู้อาวุโส "ผู้อาวุโส นี่เป็นโอสถที่ผมหลอมขึ้นมา ถ้าคุณกินโอสถเม็ดสีขาววันละหนึ่งเม็ด สภาพร่างกายของคุณจะกลับไปอยู่ที่อายุประมาณห้าสิบปีในครึ่งเดือนจากนั้นกินโอสถในขวดสีแดงนี้จะช่วยให้คุณทะลวงไปสู่จอมยุทธ์ระดับเก้าได้”สิ่งเหล่านี้มีค่ามากในโลกภายนอก แต่สำหรับเย่ซิวตอนนี้ พวกมันไม่นับว่าเป็นอะไรเลย ให้ก็ให้ไปแต่ศิ
“ยังต้องถามอีกเหรอ แน่นอนว่าต้องเป็นคุณที่นอนพื้น ส่วนผมนอนบนเตียงไง” เย่ซิวพูดอย่างเป็นธรรมชาติมากเสวี่ยเหมยแสร้งทำเป็นโกรธ เท้าเอวแล้วมองเขาอย่างโกรธเคือง "บ้าเอ๊ย คุณปล่อยให้ฉันที่เป็นผู้หญิงบอบบางแบบนี้นอนพื้นได้ลงคอเหรอ?แถมที่นี่ยังเป็นหุบเขาลึกและป่าโบราณ แถมตอนกลางคืนอากาศก็ชื้นมากด้วย!”เย่ซิวไม่ได้โต้เถียงกับเธอ ถอดรองเท้า แล้วขึ้นไปนอนบนเตียงทันที พร้อมห่มผ้าห่มเขาอาศัยอยู่ในหุบเขาลึกและป่าโบราณมาตั้งแต่เด็ก จึงใกล้ชิดกับสภาพแวดล้อมนี้เป็นพิเศษหวนนึกไปถึงฉากที่อยู่ด้วยกันกับอาจารย์คืนนี้ไม่บำเพ็ญตนแล้ว ผ่อนคลายสักครั้งก็แล้วกันเมื่อเห็นเย่ซิวปีนขึ้นเตียงแล้ว เสวี่ยเหมยก็กระทืบเท้าเบา ๆ ทำให้เกิดคลื่นกระเพื่อมลูกใหญ่ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครได้ชื่นชมมันเธอมองไปที่เย่ซิว หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เธอก็ขยับเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวังจากนั้นยกมุมผ้าห่มขึ้นแล้วสอดตัวเข้าไปเหมือนลูกแมวตัวน้อยหัวใจของเธอเต้นตึกตักอย่างแรง รู้สึกประหม่าเป็นอย่างมากเธอกลัวว่าเย่ซิวจะไล่เธอลงจากเตียง แบบนั้นตัวเองคงอับอายมากแต่หลังจากรอไประยะหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเย่ซิวไม่มีท่าทีจะไล่เ
เมื่อคืนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนได้ก้าวไปอีกขั้นอย่างไม่ต้องสงสัยลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ แล้วใส่เสื้อผ้า เดินไปที่อ่างล้างหน้า และเริ่มแปรงฟันน้ำที่นี่ล้วนมาจากน้ำพุบนภูเขา น้ำจึงหวานมากเย่ซิวเองก็ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่งตัว นั่งขัดสมาธิ และเริ่มดูดซับพลังฟ้าดินเขาค้นพบมานานแล้วว่ายามเช้าตรู่มีพลังที่บริสุทธิ์ที่สุดของวันการบำเพ็ญตนในเวลานี้จะให้ผลลัพธ์ที่เป็นสองเท่าผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากเองก็เลือกบำเพ็ญตนในตอนเช้าตรู่เพื่อที่จะได้รับแสงแรกของวันเมื่อถึงเจ็ดโมงเช้า เย่ซิวก็ผลักเปิดประตูแล้วเดินออกไปเสวี่ยเหมยเพิ่งทำและกินอาหารเช้าไปเมื่อสักครู่แม้ว่าตอนนี้เขาจะกินหรือไม่กินอาหารก็ไม่สำคัญ แต่เย่ซิวก็ยังคงรักษานิสัยเดิมของตัวเองไว้เสมอถ้าไม่ทานอาหารบ่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะเกิดความชินชาและไม่ถือว่าตัวเองเป็นมนุษย์อีก ซึ่งแบบนี้อันตรายมาก“เป็นยังไงบ้าง? เมื่อคืนนอนหลับสบายหรือเปล่า?” จู่ ๆ ผู้อาวุโสที่ฟื้นตัวและย้อนวัยกลับมาหลายสิบปีก็เดินออกมาจากในห้อง ข้างหลังเธอมีลูกศิษย์ตามมาด้วยหลายคน“อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านอาจารย์” เสวี่ยเหมยทักทายอย่างอ่อนหวาน จากนั้นเดินไปข้างหน้า
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ