แชร์

บทที่ 633

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
“คุณจะยอมเป็นลูกศิษย์ของผมไหม?”

จนถึงตอนนี้เย่ซิวยังไม่เคยมีลูกศิษย์มาก่อน

แม้อายุของเขาจะยังไม่มาก แต่เขาก็มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์แล้ว ทั้งในด้านพลังฝีมือและประสบการณ์

หวังซวงถึงกับตะลึงในทันทีเพราะนึกไม่ถึงว่าเย่ซิวจะพูดคำนี้ออกมา

เดิมทีเธอคิดว่าเย่ซิวอาจจะสนใจตัวเธอในแง่อื่น

แต่หลังจากที่ได้สติ เธอก็คุกเข่าลงตรงหน้าเย่ซิวทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “ท่านอาจารย์ ศิษย์ขอน้อมคารวะ”

เย่ซิวพยักหน้าด้วยความพอใจ “ดีมาก ลุกขึ้นเถอะ”

หวังซวงลุกขึ้นยืน

เฉอเซียจื่อที่อยู่ด้านข้างมองด้วยความอิจฉา

ตอนนี้หวังซวงมีที่พึ่งอันทรงพลังอยู่ในมือแล้ว ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนในอนาคต เธอก็สามารถเดินอย่างมั่นใจได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวใครอีกต่อไป

ที่เย่ซิวเปลี่ยนใจรับหวังซวงเป็นลูกศิษย์อย่างกะทันหันเพราะระหว่างที่ตรวจร่างกายของเธออยู่ เขาพบว่าร่างกายของเธอมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง

แต่คุณสมบัติพิเศษนั้น ในตอนนี้ยังไม่ปรากฏชัดเจน

คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับสภาพร่างกายของหวังซวงในตอนนี้ที่เหมือนถูกดึงพลังออกไปจนหมดสิ้น ทำให้คุณสมบัติพิเศษของเธอไม่สามารถแสดงออกมาได้

เย่ซิวหยิบชามสะอาดมาหนึ่งใบแล้วล
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 634

    เงินจำนวนนั้นเพียงพอที่จะให้เด็กสาวเหล่านี้ได้กินดีอยู่ดีไปอีกหลายเดือนหวังซวงตอบรับด้วยความนอบน้อมและจดจำทุกคำพูดของเย่ซิวไว้ในใจอย่างแม่นยำจากนั้นเธอก็ถือเงินก้อนนั้นและเอ่ยกับเด็กสาวเหล่านั้นเป็นภาษาท้องถิ่น ก่อนจะแบ่งเงินให้พวกเธออย่างเท่าเทียมเด็กสาวแต่ละคนแสดงสีหน้าตกตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อราวกำลังฝันไป ทุกอย่างดูเหมือนไม่ใช่ความจริงเมื่อหวังซวงพูดย้ำอีกครั้งพวกเธอถึงเชื่อ และก้มศีรษะคำนับเย่ซิวด้วยความซาบซึ้งและเคารพบางคนถึงกับน้ำตาไหลพรากลงมาไม่หยุด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับความอบอุ่นจากการได้รับความใส่ใจ ความรู้สึกนี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันเลือนหายไปจากหัวใจของพวกเธอหนึ่งชั่วโมงต่อมา เย่ซิวก็มาถึงที่พักของหวังซวงมันเป็นอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ที่ดูเก่าไปบ้าง ลักษณะคล้ายกับตึกในยุคแปดศูนย์ถึงเก้าศูนย์ของหลงเถิงแต่ในพื้นที่นี้ถือว่าเป็นที่พักระดับสูงแล้ว คนทั่วไปไม่มีทรัพย์สินมากพอที่จะอาศัยอยู่ได้ห้องพักไม่ใหญ่มากนัก ประมาณเก้าสิบตารางเมตร และตกแต่งอย่างเรียบง่ายเฟอร์นิเจอร์ก็มีไม่มาก สิ่งที่ดูมีมูลค่าที่สุดคือโทรทัศน์สีขนาดยี่สิบนิ้วหวังซวงเอ่ยอย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 635

    ในตอนแรกเฉินหลานคิดว่าการบำเพ็ญตนที่เย่ซิวพูดถึงนั้นหมายถึงการฝึกกังฟูทั่วไปแต่ในภายหลังเธอถึงได้รู้ว่าความคิดของตัวเองนั้นไร้เดียงสาเกินไปแม้ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อน แต่เธอก็เคยดูภาพยนตร์หรือวิดีโอเกี่ยวข้องมามากพอสมควรดังนั้นเธอถึงกับตกตะลึงทันที เพราะไม่คิดเลยว่าสิ่งแบบนี้จะสามารถทำเพื่อบำเพ็ญตนได้จริงที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือพลังของเธอกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในระดับที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้นี่คือสิ่งที่เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยจากนั้นเธอก็ทุ่มเททั้งตัวและหัวใจให้กับมันเสียงจากห้องที่พวกเขาอยู่ดังไปทั่วจนทำให้หวังซวงซึ่งอยู่ในห้องข้าง ๆ นอนไม่หลับทั้งคืนและไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่นอนไม่หลับเท่านั้น เกือบครึ่งหนึ่งของคนในอะพาร์ตเมนต์ต่างก็ถูกเสียงดังรบกวนจนแทบจะข่มตาหลับไม่ได้เลยชายหนุ่มหลายคนถึงกับเลือดลมพลุ่งพล่าน ใครมีภรรยาก็ไปหาภรรยา ใครมีแฟนก็ไปหาแฟน…ยามรุ่งเช้ามาถึง ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ทอแสงขึ้นบนฟ้าเฉินหลานรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยพลัง แม้จะอดนอนทั้งคืนแต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแม้แต่น้อยผิวพรรณทั่วร่างเปล่งประกายสดใส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 636

    หญิงสาวคนนั้นดูเหมือนจะอายุราว ๆ ยี่สิบปีชุดกระโปรงที่เธอสวมใส่นั้นประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าที่เปล่งประกายระยิบระยับ ซึ่งแค่เม็ดเดียวก็มีมูลค่าหลายร้อยล้านแล้วแค่ชุดนี้ชุดเดียวก็ไม่มีทางได้มาครอบครองด้วยเงินที่ต่ำกว่าสองพันล้านเหรียญหลงเถิงแน่ หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นราวกับหงส์น้อยที่ภาคภูมิใจในตัวเองทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องโถง พร้อมด้วยคำชื่นชมและคำเยินยอต่าง ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย“โอ้โห คุณหนูหลี่อีอีช่างงดงามเหลือเกิน”“ช่างงดงามราวกับนางฟ้าจากสรวงสวรรค์ ผู้คนในโลกนี้คงยากจะได้พบเจอความงามเช่นนี้บ่อยนัก”“ในโลกนี้ยังจะมีใครที่ทั้งเก่งและงดงามยิ่งกว่าคุณหนูหลี่อีอีอีกล่ะ ทั้งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแถมความสามารถก็โดดเด่น”“ไม่รู้เลยว่าจะมีผู้ชายคนไหนในโลกใบนี้ที่คู่ควรกับเธอบ้าง?”……หลี่อีอีเดินลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทางสง่างาม บนใบหน้าเธอประดับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เธอได้ยินทุกคำพูดที่พวกเขาชื่นชมเธอทั้งหมดมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มีใครเทียบได้“ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉันในค่ำคืนนี้” หลี่อีอีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 637

    เย่ซิวลงมาจากรถเป็นคนแรกเขาเปลี่ยนรูปลักษณ์และรูปร่างของตัวเองจนกลายเป็นชายวัยกลางคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งการทำเช่นนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนจากหกตระกูลใหญ่เห็นเขาแล้วเกิดความตื่นตระหนกจนแตกกระเจิงหนีไปคนละทิศละทางเฉินหลานและหวังซวงก็ก้าวลงจากรถตามกันมา ก่อนจะมองไปยังรีสอร์ตที่อยู่ไม่ไกลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้นนี่แหละคือความเหลื่อมล้ำในขณะที่หลายคนยังต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด กลับมีบางคนใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อราวกับอยู่กันคนละโลกเย่ซิวเงยหน้าขึ้นมองไปยังรีสอร์ตในระยะไกล เขาเห็นไอหมอกสีแดงและดำลอยอยู่เหนือรีสอร์ตสายตาของผู้บำเพ็ญตนเป็นเซียนอย่างเขารู้ดีว่าสิ่งนี้เป็นตัวแทนของความชั่วร้ายและบาปที่ฝังลึก“หยุดอยู่ตรงนั้น! พวกแกเป็นใคร?!”ทั้งสามคนยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ก็ถูกพบตัวแล้ว บอดี้การ์ดยามคนหนึ่งได้ตะโกนออกมาเป็นภาษาท้องถิ่นแต่ไม่มีใครหยุดเดินทั้งนั้น พวกเขาเดินตรงไปข้างหน้าต่ออย่างไม่แยแสบรรดาบอดี้การ์ดแต่ละคนมองด้วยสายตาเยือกเย็นราวกับหมาป่าดุร้ายที่จับจ้องพวกเขาทั้งสามคนเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในระยะห้าร้อยเมตรจากประตู หนึ่งในบอดี้การ์ดก็ต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 638

    หนึ่งในนั้นตะโกนลั่นใส่พวกเย่ซิว “พวกแกเป็นใคร? กินหัวใจหมีตับเสือมาหรือไงถึงกล้ามาก่อเรื่องถึงที่นี่?!”เย่ซิวไม่ได้ตอบคำถามนั้น เขาเพียงยกมือขวาขึ้นอย่างช้า ๆ ด้วยดวงตาเยือกเย็นไร้ความรู้สึก “ฉันมองเห็นบาปที่ฝังลึกอยู่ในตัวพวกแก ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของวิญญาณนับไม่ถ้วนพวกแกมันเป็นคนที่เต็มไปด้วยบาปมหันต์ ลงนรกไปสำนึกผิดซะเถอะ!”ทุกคนต่างมองเยี่ยซิวด้วยสายตาเหมือนมองคนบ้าวินาทีต่อมา ความหวาดกลัวที่ไร้จุดสิ้นสุดก็เข้าครอบงำจิตใจของพวกเขาพร้อมกับที่เย่ซิวยกมือขึ้น น้ำแข็งแหลมคมจำนวนมากประมาณหนึ่งร้อยแท่งก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือศีรษะของเขาแม้สองสาวจะเคยประจักษ์ในพลังอันมหัศจรรย์ของเย่ซิวมาก่อน แต่ก็ยังต้องตะลึงเมื่อได้เห็นภาพนี้อีกครั้งสำหรับจอมยุทธ์ที่เหลือยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในหัวของพวกเขาตอนนี้มีเพียงความคิดเดียว คือหนี หนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายที่ลอยฟุ้งมาจากน้ำแข็งแหลมเหล่านั้นเมื่อเห็นพวกนั้นวิ่งหนีแตกกระเจิงราวกับฝูงนกที่ถูกไล่ เย่ซิวจึงดีดนิ้วเบา ๆน้ำแข็งแหลมคมกว่าร้อยแท่งพุ่งแหวกอากาศออกไปด้วยความเร็วราวสายฟ้า โจมตีเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 639

    บรรดาหนุ่มสาวที่ถูกเรียกว่าผู้มีพรสวรรค์จากหกตระกูลใหญ่ต่างมองเย่ซิวและพรรคพวกด้วยสายตาเย้ยหยันพวกเขาคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ดีก่อนหน้านี้ก็เคยมีพวกที่ไม่รู้จักความตายมาหาเรื่องพวกเขาเหมือนกันและจุดจบของพวกนั้นก็ไม่พ้นต้องตายอย่างอนาถทุกครั้งไปและพวกเขาคิดว่าสถานการณ์ในครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกันทว่าไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าศัตรูในครั้งนี้ที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นไม่ใช่มดตัวเล็ก ๆ ที่ไร้ทางสู้ แต่กลับเป็นมังกรผู้ทรงอำนาจที่แผดคำรามเหนือเก้าชั้นฟ้ารอบกายของเย่ซิวเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร เขาหันไปสั่งสองสาวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “กำจัดพวกที่สมรู้ร่วมคิดกับความชั่วเหล่านี้ให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”พูดจบ เขาก็ยื่นมือทั้งสองข้างไปแตะบนไหล่ของพวกเธอเขาส่งพลังวิญญาณเข้าไปในร่างของสองสาวเพื่อช่วยยกระดับพลังของพวกเธอขึ้นชั่วคราวจนถึงจอมยุทธ์ระดับแปดเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลที่หลั่งไหลอยู่ในร่างกาย ทั้งสองคนก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอย่างยิ่งพวกเธอพุ่งทะยานเข้าโจมตีศัตรูอย่างดุดันราวกับเสือดุร้ายสองตัวที่เพิ่งลงจากภูเขาในบรรดายอดฝีมือเหล่านั้น คนที่เก่งที่สุดกลับเป็นเพียง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 640

    คนอื่น ๆ ก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ใช่ ๆ ท่านจอมยุทธ์ทั้งหลาย พวกท่านต้องการเงินเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย”“หนึ่งพันล้านบาทพอไหม? ถ้าไม่พอสองพันล้านหรือสามพันล้านก็ได้!”“หรือว่าพวกท่านต้องการอย่างอื่นก็พูดมาได้ทุกอย่างเลย”……ก่อนหน้านี้พวกเขายโสโอหังเพียงใด ตอนนี้กลับดูน่าสมเพชเพียงนั้นเย่ซิวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ปล่อยตัวคนที่พวกแกจับไว้ทั้งหมด”คนท้องถิ่นเหล่านี้ล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ เย่ซิวไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาถูกทำร้ายอีกต่อไปแต่คำพูดนี้กลับทำให้หลี่อีอีกับพรรคพวกกลับมาฮึกเหิมขึ้นอีกครั้งทันใดนั้นพวกเขาต่างคว้าตัวคนท้องถิ่นที่ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กไว้แน่น พร้อมทั้งข่มขู่เย่ซิวอย่างดุดัน“ที่แท้ก็เป็นจอมยุทธ์จริง ๆ สินะ!”“ไม่น่าเชื่อว่าในยุคนี้จะยังมีสิ่งที่เรียกว่าจอมยุทธ์อยู่ ช่างเปิดหูเปิดตาเสียจริง!”“ตอนนี้พวกแกรีบไสหัวไปซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด!”พวกเขากลับมาใจกล้าอีกครั้ง พร้อมทั้งแสดงความยโสโอหังออกมาสุดขีดเฉินหลานและหวังซวงมองพวกเขาด้วยสายตาราวกับกำลังมองคนโง่เขลาใกล้ตายแล้วแท้ ๆ แต่ยังโง่ได้ขนาดนี้อีกเหรอ?บางทีอาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเติบโตมาชีวิต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 641

    สุดท้ายก็เหลือเพียงหลี่อีอีที่ยังมีชีวิตอยู่เธอย่อมตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก คนทั้งคนเกือบจะพังทลายลงแล้วความสามารถของเธอไม่ดี แต่เนื่องจากเธอเก่งมากในการทำให้ผู้อาวุโสมีความสุข เธอจึงเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในตระกูลหลี่ และถูกเรียกว่าเจ้าหญิงน้อยตอนนี้เธอนึกถึงโอกาสเดียวที่จะมีชีวิตรอดได้ นั่นก็คือร่างกายของตัวเองเธอยกมือไปข้างหลังโดยไม่ลังเล และดึงซิปของชุดราตรีลงจากนั้นเรือนร่างที่ขาวราวหยกซึ่งไร้ที่ติก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเย่ซิวเธอรู้สึกอัปยศมาก แต่ไม่กล้าที่จะแสดงออกมาในขณะนี้ น้ำตาที่ยังไม่แห้งติดอยู่บนใบหน้า และเธอก็ร้องขอความเมตตาจากเย่ซิว“ฉันไม่อยากตาย ขอร้องปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ฉันสามารถมอบเรือนร่างของตัวเองให้กับคุณได้ฉันยังไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนสัมผัสมาก่อน ฉันสะอาดมาก”เย่ซิวมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาที่สุดผู้หญิงคนนี้มีทุนอยู่บ้างจริง ๆอาศัยแค่การขายเรือนร่างนี้ แม้ว่าในอนาคตจะล้มละลาย แต่ไปทำงานที่สถานบันเทิง ตราบเท่าที่ขยันสักหน่อย ก็จะสามารถกลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยได้น่าเสียดายที่เย่ซิวไม่มีความตั้งใจที่จะไว้ชีวิตเธอกับผู้หญิงที่ใจสกปรกยิ่งกว่าคูน้ำเหม

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1168

    เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1167

    “อะไรนะ? แค่วันเดียวนายก็กลั่นสำเร็จจริงเหรอ?”ทันทีที่เห็นเย่ซิว เจ้าสำนักก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังเขาเองก็ไม่ได้เพิ่มพลังตัวเองมานานแล้วเหตุผลหลักก็เพราะไม่มีโอสถที่เหมาะสมพอให้ใช้โอสถระดับปฐมญาณนั้นหาได้ยากมากในตลาดต่อให้มีก็จะปรากฏแค่ในงานประมูลเท่านั้น และราคาก็มักจะพุ่งขึ้นสูงเทียมฟ้าเสมอแม้รั่วอวิ๋นจะสามารถกลั่นยาได้แต่เธอต้องลองห้าหกครั้งถึงจะสำเร็จสักครั้ง แถมแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล“ผมไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังครับ” เย่ซิวยื่นโอสถเก้าเม็ดที่ถูกเจือจางแล้วให้ ก่อนถอนหายใจหนึ่งที “ไม่คิดเลยว่าฝีมือกลั่นโอสถของผมจะแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดออกมาเป็นแค่ระดับต่ำ”เจ้าสำนักมองโอสถระดับปฐมญาณในมือแล้วถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนสุขุมมาก แต่ก็ยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาแล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความยินดี “ดี ดีมาก ๆ ฝีมือกลั่นโอสถของนายอาจจะแซงหน้าอาจารย์ของตัวเองไปแล้วก็ได้นะ”เย่ซิวยิ้มเก้อ ๆ “ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมยังพัฒนาอีกมาก เอ่อ…”จู่ ๆ สีหน้าเขาก็ซีดเผือด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้มเจ้าสำนักหรี่ตา “นายเป็นอะไรไป?”“ไม่เป็นไรครับ แค่เสียพลังมากเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1166

    เย่ซิวเอ่ยรายชื่อวัตถุดิบออกมาติดต่อกันเป็นสิบ ๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายสำหรับการหลอมร่างแยกธาตุดินเขามีแผนการบางอย่างในใจ และจำเป็นต้องสร้างร่างแยกธาตุทั้งห้าสำเร็จเสียก่อนถึงจะลงมือได้ดวงตาของเจ้าสำนักเปล่งประกายวาบ “ฉันมีหินดินธาตุดั้งเดิมอยู่ก็จริง แต่ของสิ่งนี้ล้ำค่ามาก เว้นเสียแต่นายจะสามารถกลั่นโอสถระดับปฐมญาณออกมาได้”เย่ซิวพยักหน้า เขารู้จักโอสถประเภทนี้ดี มันสามารถเพิ่มพลังระดับปฐมญาณได้แต่กระบวนการกลั่นซับซ้อนมาก แถมวัตถุดิบยังหาได้ยากสุด ๆแค่ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นก็เกินสิบล้านศิลาวิญญาณแล้วผู้บำเพ็ญสายอิสระทั่วไปไม่มีทางสู้ราคาไหวแน่“แล้วเจ้าสำนักอยากได้กี่เม็ด ถึงจะยอมแลกล่ะครับ”“นายกลั่นได้จริงเหรอ?” เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่เชื่อโอสถชนิดนี้ไม่เหมือนกับโอสถวิญญาณหยก ระดับความยากสูงกว่ากันหลายเท่าเย่ซิวไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมขอลองก่อน ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าสำนักให้วัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นกับผมก่อนถ้ากลั่นไม่ได้ ผมยินดีจ่ายค่าต้นทุน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1165

    เย่ซิวรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีพอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเสี่ยวไป๋ลอยอยู่กลางอากาศพลังวิญญาณในห้องถูกดูดเข้าไปหามันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วินาทีก็สูบพลังวิญญาณจนหมดทั้งห้องจากนั้นร่างของมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมขนาดใหญ่ แล้วค่อย ๆ ลอยลงสู่พื้นอย่างช้า ๆเย่ซิวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เสี่ยวไป๋กำลังจะวิวัฒนาการอีกแล้วรอบที่แล้วเหมือนจะพัฒนาขึ้นไม่มากเท่าไหร่แต่สัญชาตญาณของเย่ซิวบอกว่ารอบนี้น่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวเขารีบเอาน้ำพุวิญญาณที่เหลืออยู่เทราดลงไปบนรังไหมทันที ซึ่งมันก็ถูกดูดซึมหายไปอย่างรวดเร็วนี่อาจช่วยเร่งขั้นตอนวิวัฒนาการให้เร็วขึ้นได้เย่ซิวเดินไปอุ้มเจ้าเสี่ยวอวี่ที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมาเจ้าตัวนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแต่ท้องของมันนี่เหมือนหลุมดำชัด ๆเย่ซิวเลยจัดเต็มอีกครั้ง เขากลั่นโอสถวิญญาณหยกมาอีกหมื่นเม็ดให้มันไว้กินเล่นทั้งสำนักอวิ้นหลิงคงไม่มีใครกล้าทำอะไรฟุ่มเฟือยอย่างเขาอีกแล้วล่ะในช่วงครึ่งเดือนหลังจากนั้น เย่ซิวก็หมกตัวอยู่แต่กับการกลั่นโอสถและฝึกฝนวิชาต่าง ๆข้างนอกเองก็เริ่มมีข่าวแพร่กระจายไปว่าเย่ซิวสามารถกลั่นโอสถวิญญาณหยกได้ควา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1164

    จากท่าทีและสีหน้าของทุกคน เย่ซิวก็พอเดาออกว่าโอสถนี่น่าจะหาได้ยากมากในตลาดไม่งั้นพวกเขาคงไม่แห่กันมาขอซื้อแบบนี้แน่เขาทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย “ผมก็อยากช่วยนะครับ แต่โอสถตัวนี้ตอนปรุงมันใช้พลังจิตเยอะมากวันหนึ่งผมปรุงได้ไม่กี่รอบเอง แถมวัตถุดิบก็หายากด้วย”ความหมายแฝงก็คือพวกคุณต้องเพิ่มเงินและเตรียมของมาเองซึ่งทุกคนก็ไม่ใช่คนโง่และเข้าใจเจตนาของเขาทันที ก่อนจะรีบเสนอว่า“ถ้างั้นแบบนี้ดีไหม โอสถวิญญาณหยกหนึ่งเม็ด ฉันให้หนึ่งพันหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ ส่วนวัตถุดิบเราจัดการเอง แบบนี้ตกลงไหม”เย่ซิวคำนวณในหัวอย่างไวต้นทุนของโอสถวิญญาณหยกต่อเม็ดอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งพันศิลาวิญญาณถึงจะรวมค่าแรงและพลังวิญญาณที่ใช้ก็ถือว่าต้นทุนต่ำมาก อย่างมากก็แค่เสียเวลาเฉย ๆเขาสามารถกลั่นได้เป็นหมื่นเม็ดในคราวเดียวถ้าขายให้คนพวกนี้หมื่นเม็ดก็เท่ากับว่าจะได้เงินถึงสิบกว่าล้านศิลาวิญญาณเลยทีเดียวกำไรขนาดนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่ากินขาดแต่เย่ซิวก็ยังไม่ตอบตกลงทันที และทำท่าลังเลอยู่รั่วอวิ๋นที่ยืนข้าง ๆ ตบไหล่เขาเสียงดัง “ยังจะลังเลอะไรอีกล่ะ?นี่มันโอกาสทองเลยนะ ได้ทั้งเงินได้ทั้งฝึกฝีมือ”เย่ซิวถ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1163

    แล้วทุกคนก็เห็นจ่าฝูงเดินตรงไปหาเย่ซิว จากนั้นมันก็แลบลิ้นออกมาเลียหน้าของเขาเบา ๆ ด้วยแววตาประจบเอาใจสุด ๆทุกคนตกตะลึง “???”รั่วอวิ๋นถึงกับยืนนิ่งตัวแข็งเป็นหิน ตาถลน ปากอ้าค้างจากนั้นเธอก็ชี้ไปที่เย่ซิวอย่างโกรธจัด “นายยังจะกล้าบอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกเหรอ แล้วนี่มันอะไรกัน?!”แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ สิงโตหยกขาวอีกเจ็ดตัวก็วิ่งตามกันมาล้อมเย่ซิวไว้รอบด้าน แถมยังมองรั่วอวิ๋นด้วยสายตาแข็งกร้าวอย่างเต็มไปด้วยท่าทีคุกคามรั่วอวิ๋นเผลอก้าวถอยหลังไปด้วยสีหน้าซีดเผือดความรู้สึกตอนนี้เหมือนโดนใครสักคนมายึดบ้านไปคนอื่น ๆ เองก็จ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาในแบบที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองภาพที่อยู่ตรงหน้ามันเหนือจริงเกินไปเย่ซิวทำหน้าใสซื่อ “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ”รั่วอวิ๋นโกรธจนตัวสั่นสัตว์ที่เธอเลี้ยงมากับมือหลายปีดันพร้อมใจกันหักหลังเธอแบบนี้ ใครจะทนได้มันไม่ใช่แค่เรื่องทรัพยากร แต่ยังรวมถึงความรู้สึกที่ทุ่มเทไปทั้งหมดด้วย!“นายบอกว่าไม่ได้ทำอะไร แล้วทำไมพวกมันถึงพร้อมใจกันหักหลังฉัน อธิบายมาเดี๋ยวนี้!” รั่วอวิ๋นกัดฟันพูด สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความคาดโทษถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่ให

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1162

    ในใจรั่วอวิ๋นกำลังปลื้มเป็นที่สุดแต่ต่อหน้าคนอื่นเธอยังคงวางมาดสงบนิ่ง และพยักหน้าเบา ๆ แบบถ่อมตัวสุด ๆ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ แค่สัตว์วิญญาณไม่กี่ตัว เอาไว้เฝ้าประตูเฉย ๆ”คำพูดโอ้อวดแบบถ่อมตัวเช่นนี้ทำเอาคนที่ยืนฟังอยู่ถึงกับกระตุกมุมปากกันเป็นแถบเธอคิดว่านี่คือผักกาดขาวหรือไงนี่มันสัตว์วิญญาณระดับจินตานตั้งแปดตัวเชียวนะถึงสายเลือดของพวกสิงโตหยกขาวจะไม่ใช่ระดับสูงสุด แต่ก็ไม่ใช่พวกชั้นต่ำ อยู่ระดับกลางค่อนไปทางดีเลยด้วยซ้ำถ้าเลี้ยงต่อไปดี ๆ รับรองว่าเก่งขึ้นได้อีกแน่นอนลองจินตนาการดูสิ สิงโตหยกขาวแปดตัวคำรามพร้อมกันจะอลังการแค่ไหน มันต้องเป็นภาพที่อลังการและน่าเกรงขามสุด ๆ“เย่ซิวก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ” ภรรยาเจ้าสำนักทำทีเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นเขาเย่ซิวยิ้มพลางเอ่ย “ขอคารวะท่านผู้อาวุโสทุกท่าน เจ้าสำนักและภรรยา ผมแค่มาให้อาหารพวกมันน่ะครับ”ทุกคนก็พยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงรับรู้ ไม่มีใครเชื่อมโยงได้ถึงเรื่องที่สัตว์วิญญาณเลื่อนระดับได้เพราะตัวเขาเลยแม้แต่น้อยไม่นานนัก สัตว์วิญญาณทั้งแปดตัวก็ค่อย ๆ สร้างตานปีศาจได้สำเร็จแทบจะพร้อมกันพลังที่ระเบิดออกมาทำให้เกิดพายุขนาดใหญ่ไปทั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1161

    แม้ว่ารั่วอวิ๋นจะรู้ดีว่าความคิดแบบนี้มันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ แต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้เลยจริง ๆถ้าเย่ซิวแค่ลองกลั่นโอสถเป็นครั้งแรกก็เก่งกว่าเธอแบบไม่เห็นฝุ่น แบบนั้นมันก็เหมือนโดนตบหน้าแรง ๆ เข้าให้แล้วแบบนี้จะรักษาภาพลักษณ์ความเป็นอาจารย์ไว้ต่อหน้าเขาได้ยังไงกันล่ะเสียงโครมดังขึ้น ก่อนที่ฝาปิดเตาจะหลุดออกกลิ่นหอมของโอสถที่เข้มข้นจนถึงขีดสุดกระจายไปทั่วเย่ซิวถึงกับใจหล่นวูบ คิดในใจว่าแย่แล้วถึงเขาจะพยายามเก็บงำกลิ่นเท่าที่ทำได้แล้ว แต่ดูเหมือนแค่กลิ่นที่ลอยออกมาก็แรงกว่าโอสถของรั่วอวิ๋นเสียอีกรั่วอวิ๋นพยายามควบคุมสีหน้าแล้วรีบเดินเข้าไปดูโอสถในเตาพอเห็นแล้วก็ถึงกับยืนช็อกไปทั้งตัวที่ก้นเตา โอสถจำนวนห้าสิบเม็ดวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ และแต่ละเม็ดก็ใสบริสุทธิ์ดูอัดแน่นไปด้วยพลังแต่สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้ที่สุดก็คือทุกเม็ดมีลวดลายโอสถปรากฏอยู่บนผิวของมัน หมายความว่าโอสถทั้งหมดนี้เป็นระดับสูงนี่มันไม่ใช่แค่โดนตบหน้าแล้ว แต่มันคือการโดนกดหัวลงพื้นแล้วลากไปเลยต่างหากเย่ซิวไอแห้ง ๆ หนึ่งทีและจงใจไม่เข้าไปดู แต่ทำท่าทางตื่นเต้นแล้วถามเธอด้วยสีหน้าลุ้น ๆ ว่า “ท่านอาจ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1160

    ทั้งความรู้ที่เคยได้รับรวมถึงทักษะการกลั่นโอสถต่าง ๆ ก็ควรจะเหนือกว่าตัวเขาแบบทิ้งห่างสิแต่ทำไมกลับรู้สึกว่ายังห่างชั้นจากเขาอยู่เยอะเลย?เย่ซิวยังคิดว่าตัวเองอาจจะคิดไปเองจึงตั้งใจดูต่ออีกสักพักจนสุดท้ายก็มั่นใจเต็มร้อยว่าทักษะการกลั่นโอสถของผู้หญิงคนนี้ไม่ถึงหนึ่งในสิบของเขาด้วยซ้ำแค่ฝีมือระดับนี้ก็ยังยืนหยัดอยู่ในโลกของผู้ฝึกตนได้ด้วยเหรอ?หรือโลกของผู้ฝึกตนมันหากินง่ายขนาดนั้นเลย?ความคิดสารพัดผุดขึ้นมาในหัวเย่ซิว แต่สีหน้าเขาก็ยังคงนิ่งเฉย ไม่แสดงพิรุธอะไรออกมาเลยหนึ่งชั่วโมงผ่านไป โอสถก็กลั่นเสร็จเรียบร้อยรั่วอวิ๋นเปิดฝาเตาก่อนจะหยิบเม็ดยาออกมาหนึ่งเม็ด ใบหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลว ๆ หนึ่งเตาได้โอสถมายี่สิบเจ็ดเม็ด ระดับกลางหกเม็ด ถือว่าสมบูรณ์แบบ”จากนั้นเธอก็หันไปมองเย่ซิวแม้ใบหน้าจะดูเรียบเฉย แต่เย่ซิวก็พอจะจับความหมายแฝงได้ไม่ยากก็แค่รอให้เขาชมเธอนั่นแหละหากพูดตรง ๆ การกลั่นโอสถของรั่วอวิ๋นรอบนี้ถือว่าสอบตกสำหรับเย่ซิว เพราะวัตถุดิบที่ใช้ไปทั้งหมด ถ้าเป็นเขากลั่นเองอย่างน้อยจะได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแถมยังเป็นโอสถระดับสูงทั้งหมดด้วยซ้ำเมื่อเห็นโ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status