แชร์

บทที่ 632

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ส่วนในเรื่องผลประโยชน์ ถ้าคุณติดตามผม อย่างน้อยคุณจะมีพลังเพิ่มขึ้นมากกว่าตอนนี้เป็นสองเท่า”

หวังซวงตื่นเต้นขึ้นมาทันที “นายพูดจริงหรือเปล่า?”

เย่ซิวกวักมือเรียกเธอ “คุณมาให้ผมตรวจร่างกายคุณหน่อย”

แม้การใช้พลังจิตจะสามารถตรวจสอบได้ แต่มันไม่สะดวกเท่ากับการสัมผัสทางร่างกายโดยตรง

หวังซวงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหาเย่ซิวและก้มหน้าถาม “นายจะตรวจยังไง? ฉันต้องถอดเสื้อผ้าหรือเปล่า?”

เธอแอบคิดในใจว่าถ้าเย่ซิวบอกว่าต้องถอด เธอจะหันหลังเดินออกไปทันที

เย่ซิวส่ายหน้าพลางยิ้ม “ไม่ต้องหรอก คุณยื่นมือมาก็พอ”

หวังซวงยื่นมือออกมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก

มือของเธอสวยงาม นิ้วเรียวยาว พออยู่ใต้แสงไฟแล้วก็สะท้อนแสงเงาอย่างอ่อนโยน

ร่างกายของเธออบอวลไปด้วยกลิ่นกายอันแปลกประหลาด มีกลิ่นหอมละมุนคล้ายกุหลาบ แต่กลับแฝงด้วยความนุ่มนวลเหมือนน้ำนม เป็นกลิ่นที่ชวนให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายอย่างประหลาด

เย่ซิวจับข้อมือของเธอไว้

ผิวของเธอเย็นเล็กน้อย แต่สัมผัสนั้นกลับนุ่มลื่นน่าพิศวง

หวังซวงสะดุ้งเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกชายแปลกหน้าจับมือ ความรู้สึกแปลกใหม่บางอย่างพลันก่อตัวขึ้นในใจ

ใบหน้าขอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 633

    “คุณจะยอมเป็นลูกศิษย์ของผมไหม?”จนถึงตอนนี้เย่ซิวยังไม่เคยมีลูกศิษย์มาก่อนแม้อายุของเขาจะยังไม่มาก แต่เขาก็มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์แล้ว ทั้งในด้านพลังฝีมือและประสบการณ์หวังซวงถึงกับตะลึงในทันทีเพราะนึกไม่ถึงว่าเย่ซิวจะพูดคำนี้ออกมาเดิมทีเธอคิดว่าเย่ซิวอาจจะสนใจตัวเธอในแง่อื่นแต่หลังจากที่ได้สติ เธอก็คุกเข่าลงตรงหน้าเย่ซิวทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย “ท่านอาจารย์ ศิษย์ขอน้อมคารวะ”เย่ซิวพยักหน้าด้วยความพอใจ “ดีมาก ลุกขึ้นเถอะ”หวังซวงลุกขึ้นยืน เฉอเซียจื่อที่อยู่ด้านข้างมองด้วยความอิจฉาตอนนี้หวังซวงมีที่พึ่งอันทรงพลังอยู่ในมือแล้ว ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนในอนาคต เธอก็สามารถเดินอย่างมั่นใจได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวใครอีกต่อไปที่เย่ซิวเปลี่ยนใจรับหวังซวงเป็นลูกศิษย์อย่างกะทันหันเพราะระหว่างที่ตรวจร่างกายของเธออยู่ เขาพบว่าร่างกายของเธอมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างแต่คุณสมบัติพิเศษนั้น ในตอนนี้ยังไม่ปรากฏชัดเจน คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับสภาพร่างกายของหวังซวงในตอนนี้ที่เหมือนถูกดึงพลังออกไปจนหมดสิ้น ทำให้คุณสมบัติพิเศษของเธอไม่สามารถแสดงออกมาได้เย่ซิวหยิบชามสะอาดมาหนึ่งใบแล้วล

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 634

    เงินจำนวนนั้นเพียงพอที่จะให้เด็กสาวเหล่านี้ได้กินดีอยู่ดีไปอีกหลายเดือนหวังซวงตอบรับด้วยความนอบน้อมและจดจำทุกคำพูดของเย่ซิวไว้ในใจอย่างแม่นยำจากนั้นเธอก็ถือเงินก้อนนั้นและเอ่ยกับเด็กสาวเหล่านั้นเป็นภาษาท้องถิ่น ก่อนจะแบ่งเงินให้พวกเธออย่างเท่าเทียมเด็กสาวแต่ละคนแสดงสีหน้าตกตะลึงอย่างไม่อยากเชื่อราวกำลังฝันไป ทุกอย่างดูเหมือนไม่ใช่ความจริงเมื่อหวังซวงพูดย้ำอีกครั้งพวกเธอถึงเชื่อ และก้มศีรษะคำนับเย่ซิวด้วยความซาบซึ้งและเคารพบางคนถึงกับน้ำตาไหลพรากลงมาไม่หยุด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับความอบอุ่นจากการได้รับความใส่ใจ ความรู้สึกนี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันเลือนหายไปจากหัวใจของพวกเธอหนึ่งชั่วโมงต่อมา เย่ซิวก็มาถึงที่พักของหวังซวงมันเป็นอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ที่ดูเก่าไปบ้าง ลักษณะคล้ายกับตึกในยุคแปดศูนย์ถึงเก้าศูนย์ของหลงเถิงแต่ในพื้นที่นี้ถือว่าเป็นที่พักระดับสูงแล้ว คนทั่วไปไม่มีทรัพย์สินมากพอที่จะอาศัยอยู่ได้ห้องพักไม่ใหญ่มากนัก ประมาณเก้าสิบตารางเมตร และตกแต่งอย่างเรียบง่ายเฟอร์นิเจอร์ก็มีไม่มาก สิ่งที่ดูมีมูลค่าที่สุดคือโทรทัศน์สีขนาดยี่สิบนิ้วหวังซวงเอ่ยอย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 635

    ในตอนแรกเฉินหลานคิดว่าการบำเพ็ญตนที่เย่ซิวพูดถึงนั้นหมายถึงการฝึกกังฟูทั่วไปแต่ในภายหลังเธอถึงได้รู้ว่าความคิดของตัวเองนั้นไร้เดียงสาเกินไปแม้ว่าเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อน แต่เธอก็เคยดูภาพยนตร์หรือวิดีโอเกี่ยวข้องมามากพอสมควรดังนั้นเธอถึงกับตกตะลึงทันที เพราะไม่คิดเลยว่าสิ่งแบบนี้จะสามารถทำเพื่อบำเพ็ญตนได้จริงที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือพลังของเธอกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในระดับที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้นี่คือสิ่งที่เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยจากนั้นเธอก็ทุ่มเททั้งตัวและหัวใจให้กับมันเสียงจากห้องที่พวกเขาอยู่ดังไปทั่วจนทำให้หวังซวงซึ่งอยู่ในห้องข้าง ๆ นอนไม่หลับทั้งคืนและไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่นอนไม่หลับเท่านั้น เกือบครึ่งหนึ่งของคนในอะพาร์ตเมนต์ต่างก็ถูกเสียงดังรบกวนจนแทบจะข่มตาหลับไม่ได้เลยชายหนุ่มหลายคนถึงกับเลือดลมพลุ่งพล่าน ใครมีภรรยาก็ไปหาภรรยา ใครมีแฟนก็ไปหาแฟน…ยามรุ่งเช้ามาถึง ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ทอแสงขึ้นบนฟ้าเฉินหลานรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยพลัง แม้จะอดนอนทั้งคืนแต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแม้แต่น้อยผิวพรรณทั่วร่างเปล่งประกายสดใส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 636

    หญิงสาวคนนั้นดูเหมือนจะอายุราว ๆ ยี่สิบปีชุดกระโปรงที่เธอสวมใส่นั้นประดับด้วยอัญมณีล้ำค่าที่เปล่งประกายระยิบระยับ ซึ่งแค่เม็ดเดียวก็มีมูลค่าหลายร้อยล้านแล้วแค่ชุดนี้ชุดเดียวก็ไม่มีทางได้มาครอบครองด้วยเงินที่ต่ำกว่าสองพันล้านเหรียญหลงเถิงแน่ หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นราวกับหงส์น้อยที่ภาคภูมิใจในตัวเองทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องโถง พร้อมด้วยคำชื่นชมและคำเยินยอต่าง ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย“โอ้โห คุณหนูหลี่อีอีช่างงดงามเหลือเกิน”“ช่างงดงามราวกับนางฟ้าจากสรวงสวรรค์ ผู้คนในโลกนี้คงยากจะได้พบเจอความงามเช่นนี้บ่อยนัก”“ในโลกนี้ยังจะมีใครที่ทั้งเก่งและงดงามยิ่งกว่าคุณหนูหลี่อีอีอีกล่ะ ทั้งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแถมความสามารถก็โดดเด่น”“ไม่รู้เลยว่าจะมีผู้ชายคนไหนในโลกใบนี้ที่คู่ควรกับเธอบ้าง?”……หลี่อีอีเดินลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทางสง่างาม บนใบหน้าเธอประดับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เธอได้ยินทุกคำพูดที่พวกเขาชื่นชมเธอทั้งหมดมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มีใครเทียบได้“ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉันในค่ำคืนนี้” หลี่อีอีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 637

    เย่ซิวลงมาจากรถเป็นคนแรกเขาเปลี่ยนรูปลักษณ์และรูปร่างของตัวเองจนกลายเป็นชายวัยกลางคนธรรมดา ๆ คนหนึ่งการทำเช่นนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนจากหกตระกูลใหญ่เห็นเขาแล้วเกิดความตื่นตระหนกจนแตกกระเจิงหนีไปคนละทิศละทางเฉินหลานและหวังซวงก็ก้าวลงจากรถตามกันมา ก่อนจะมองไปยังรีสอร์ตที่อยู่ไม่ไกลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความตื่นเต้นนี่แหละคือความเหลื่อมล้ำในขณะที่หลายคนยังต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด กลับมีบางคนใช้ชีวิตหรูหราฟุ้งเฟ้อราวกับอยู่กันคนละโลกเย่ซิวเงยหน้าขึ้นมองไปยังรีสอร์ตในระยะไกล เขาเห็นไอหมอกสีแดงและดำลอยอยู่เหนือรีสอร์ตสายตาของผู้บำเพ็ญตนเป็นเซียนอย่างเขารู้ดีว่าสิ่งนี้เป็นตัวแทนของความชั่วร้ายและบาปที่ฝังลึก“หยุดอยู่ตรงนั้น! พวกแกเป็นใคร?!”ทั้งสามคนยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ก็ถูกพบตัวแล้ว บอดี้การ์ดยามคนหนึ่งได้ตะโกนออกมาเป็นภาษาท้องถิ่นแต่ไม่มีใครหยุดเดินทั้งนั้น พวกเขาเดินตรงไปข้างหน้าต่ออย่างไม่แยแสบรรดาบอดี้การ์ดแต่ละคนมองด้วยสายตาเยือกเย็นราวกับหมาป่าดุร้ายที่จับจ้องพวกเขาทั้งสามคนเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในระยะห้าร้อยเมตรจากประตู หนึ่งในบอดี้การ์ดก็ต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 638

    หนึ่งในนั้นตะโกนลั่นใส่พวกเย่ซิว “พวกแกเป็นใคร? กินหัวใจหมีตับเสือมาหรือไงถึงกล้ามาก่อเรื่องถึงที่นี่?!”เย่ซิวไม่ได้ตอบคำถามนั้น เขาเพียงยกมือขวาขึ้นอย่างช้า ๆ ด้วยดวงตาเยือกเย็นไร้ความรู้สึก “ฉันมองเห็นบาปที่ฝังลึกอยู่ในตัวพวกแก ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของวิญญาณนับไม่ถ้วนพวกแกมันเป็นคนที่เต็มไปด้วยบาปมหันต์ ลงนรกไปสำนึกผิดซะเถอะ!”ทุกคนต่างมองเยี่ยซิวด้วยสายตาเหมือนมองคนบ้าวินาทีต่อมา ความหวาดกลัวที่ไร้จุดสิ้นสุดก็เข้าครอบงำจิตใจของพวกเขาพร้อมกับที่เย่ซิวยกมือขึ้น น้ำแข็งแหลมคมจำนวนมากประมาณหนึ่งร้อยแท่งก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือศีรษะของเขาแม้สองสาวจะเคยประจักษ์ในพลังอันมหัศจรรย์ของเย่ซิวมาก่อน แต่ก็ยังต้องตะลึงเมื่อได้เห็นภาพนี้อีกครั้งสำหรับจอมยุทธ์ที่เหลือยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในหัวของพวกเขาตอนนี้มีเพียงความคิดเดียว คือหนี หนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายที่ลอยฟุ้งมาจากน้ำแข็งแหลมเหล่านั้นเมื่อเห็นพวกนั้นวิ่งหนีแตกกระเจิงราวกับฝูงนกที่ถูกไล่ เย่ซิวจึงดีดนิ้วเบา ๆน้ำแข็งแหลมคมกว่าร้อยแท่งพุ่งแหวกอากาศออกไปด้วยความเร็วราวสายฟ้า โจมตีเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 639

    บรรดาหนุ่มสาวที่ถูกเรียกว่าผู้มีพรสวรรค์จากหกตระกูลใหญ่ต่างมองเย่ซิวและพรรคพวกด้วยสายตาเย้ยหยันพวกเขาคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ดีก่อนหน้านี้ก็เคยมีพวกที่ไม่รู้จักความตายมาหาเรื่องพวกเขาเหมือนกันและจุดจบของพวกนั้นก็ไม่พ้นต้องตายอย่างอนาถทุกครั้งไปและพวกเขาคิดว่าสถานการณ์ในครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกันทว่าไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าศัตรูในครั้งนี้ที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นไม่ใช่มดตัวเล็ก ๆ ที่ไร้ทางสู้ แต่กลับเป็นมังกรผู้ทรงอำนาจที่แผดคำรามเหนือเก้าชั้นฟ้ารอบกายของเย่ซิวเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร เขาหันไปสั่งสองสาวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “กำจัดพวกที่สมรู้ร่วมคิดกับความชั่วเหล่านี้ให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”พูดจบ เขาก็ยื่นมือทั้งสองข้างไปแตะบนไหล่ของพวกเธอเขาส่งพลังวิญญาณเข้าไปในร่างของสองสาวเพื่อช่วยยกระดับพลังของพวกเธอขึ้นชั่วคราวจนถึงจอมยุทธ์ระดับแปดเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลที่หลั่งไหลอยู่ในร่างกาย ทั้งสองคนก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาอย่างยิ่งพวกเธอพุ่งทะยานเข้าโจมตีศัตรูอย่างดุดันราวกับเสือดุร้ายสองตัวที่เพิ่งลงจากภูเขาในบรรดายอดฝีมือเหล่านั้น คนที่เก่งที่สุดกลับเป็นเพียง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 640

    คนอื่น ๆ ก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ใช่ ๆ ท่านจอมยุทธ์ทั้งหลาย พวกท่านต้องการเงินเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย”“หนึ่งพันล้านบาทพอไหม? ถ้าไม่พอสองพันล้านหรือสามพันล้านก็ได้!”“หรือว่าพวกท่านต้องการอย่างอื่นก็พูดมาได้ทุกอย่างเลย”……ก่อนหน้านี้พวกเขายโสโอหังเพียงใด ตอนนี้กลับดูน่าสมเพชเพียงนั้นเย่ซิวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ปล่อยตัวคนที่พวกแกจับไว้ทั้งหมด”คนท้องถิ่นเหล่านี้ล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ เย่ซิวไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาถูกทำร้ายอีกต่อไปแต่คำพูดนี้กลับทำให้หลี่อีอีกับพรรคพวกกลับมาฮึกเหิมขึ้นอีกครั้งทันใดนั้นพวกเขาต่างคว้าตัวคนท้องถิ่นที่ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กไว้แน่น พร้อมทั้งข่มขู่เย่ซิวอย่างดุดัน“ที่แท้ก็เป็นจอมยุทธ์จริง ๆ สินะ!”“ไม่น่าเชื่อว่าในยุคนี้จะยังมีสิ่งที่เรียกว่าจอมยุทธ์อยู่ ช่างเปิดหูเปิดตาเสียจริง!”“ตอนนี้พวกแกรีบไสหัวไปซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด!”พวกเขากลับมาใจกล้าอีกครั้ง พร้อมทั้งแสดงความยโสโอหังออกมาสุดขีดเฉินหลานและหวังซวงมองพวกเขาด้วยสายตาราวกับกำลังมองคนโง่เขลาใกล้ตายแล้วแท้ ๆ แต่ยังโง่ได้ขนาดนี้อีกเหรอ?บางทีอาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเติบโตมาชีวิต

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1034

    ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งที่เคยดูทรงพลังและน่าเกรงขาม ตอนนี้กลับดูซูบเซียวและอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัดมันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ดันไปหาเรื่องกับเย่ซิวซึ่งเป็นตัวอันตรายเข้าหากรู้แต่แรกว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ มันคงเลือกที่จะเงียบและทำตัวเป็นม้าโปร่งแสงไปเสียตั้งแต่ต้นวิชาแปรมังกรขั้นที่สามต้องบำเพ็ญให้เกิดกรงเล็บมังกร หางมังกร และเขามังกรขึ้นมาเย่ซิวไม่มีทางหยุดแน่นอน โอกาสแบบนี้ถ้าพลาดไปก็คงไม่มีวันหาได้อีกหนึ่งวันผ่านไป เขาก็ฝึกขั้นที่สามสำเร็จตอนนี้เขากลายเป็นมังกรทองในร่างมนุษย์ไปแล้วกรงเล็บมังกรสีทองแหลมคมราวกับสุดยอดศาสตราวุธ สามารถฉีกกระชากทุกสิ่งได้อย่างง่ายดายเขามังกรทั้งสองเส้นชี้ขึ้นฟ้า และมันไม่ได้มีไว้แค่ประดับเท่านั้นแต่มันช่วยเพิ่มการรับรู้และเร่งการดูดซับพลังจากฟ้าดินอีกด้วยส่วนหางมังกรก็มีประโยชน์ไม่น้อยมันเปรียบเสมือนแขนที่สามของเขา สามารถใช้เป็นอาวุธลับในสถานการณ์สำคัญได้และพอจะก้าวไปสู่ขั้นที่สี่ เขาก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าขั้นที่สามถึงสิบเท่าเย่ซิวก้มลงมองม้าศึกเพลิงน้ำแข็งและพบว่าตอนนี้มันผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก คงใกล้จะหมดสภาพเต็มทีแ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1033

    เย่ซิวค้นพบว่าภายในเสาทั้งสิบสามต้นนี้ฝังอะไรบางอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ อาจเป็นค่ายกลหรืออย่างอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้นพวกมันเชื่อมโยงกับสิ่งที่อยู่ใต้ดินและคอยดูดซับพลังจากร่างของมันจากนั้นก็ใช้พลังเหล่านั้นกดมันเอาไว้มันคล้ายกับเครื่องสูบน้ำที่ดูดน้ำจากบ่อขึ้นมาแล้วเทกลับลงไป วนเวียนเป็นวงจรซ้ำไปซ้ำมาจากนั้นเย่ซิวก็เกิดความคิดขึ้นมาอย่างหนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถแอบขโมยพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งได้หรือเปล่าหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจลองดูเจ้าแก่นี่เกือบทำให้เขาตกอยู่ใต้อำนาจมัน ถ้าไม่เอาคืนบ้างก็คงรู้สึกขัดใจไม่น้อยคิดได้ดังนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนเสาต้นหนึ่งก่อนจะเร่งพลังวิชาแปรมังกรทันทีศาสตร์นี้สามารถกลั่นพลังงานทุกประเภทในโลกให้เป็นของตนเองได้ทันทีที่เริ่มใช้งาน ฝ่ามือของเขาก็เกิดแรงดูดอันทรงพลังและดูดซับพลังวิญญาณบริสุทธิ์จำนวนมากจากเสาศิลาวิญญาณเสาเองก็ตอบสนองโดยการเร่งดูดพลังจากม้าศึกเพลิงน้ำแข็งมากขึ้นดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายขึ้น พร้อมกับที่เขาพยายามรักษาสมดุลเอาไว้ในขณะที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถึงกับสบถออกมา พลังที่มันปลดปล่อยออกมานั้นเต

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1032

    แค่เสาทั้งสิบสามต้นนี้ก็มีมูลค่ามหาศาลแล้วเทียบได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของเย่ซิวก่อนที่เขาจะเริ่มบำเพ็ญวิชาเก้าวัจนะลึกลับเลยทีเดียว“นั่นคืออะไรน่ะ? ฉันรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในร่างกายเลย” พรีเอลล์จ้องมองเสาศิลาวิญญาณเหล่านั้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสนจากนั้นเธอก็ก้าวเดินไปข้างหน้าแต่ถูกเย่ซิวขวางเอาไว้สีหน้าของสองพี่น้องดูแปลกไปเหมือนถูกอะไรบางอย่างครอบงำในขณะที่โซเฟียกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น“จงตื่น!”เสียงของเย่ซิวดังขึ้นเบา ๆ สองพี่น้องได้สติทันที พร้อมกับเหงื่อเย็นที่ผุดขึ้นเต็มตัว“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”“เมื่อกี้เหมือนฉันถูกควบคุมเลย”เย่ซิวใช้พลังเนตร มองทะลุผ่านพื้นลงไปสายตาของเขาค่อย ๆ เจาะลึกลงไปนับพันเมตร จนกระทั่งพบว่าที่ใต้ดินลึกลงไปมีค่ายกลขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ภายในค่ายกลนั้นขังบางสิ่งเอาไว้มันคือม้าศึกตัวหนึ่งที่สูงเกือบสองเมตร ทั้งร่างขาวโพลนราวหิมะบนหัวมีเขาเกลียวชี้ขึ้นด้านบนกีบเท้าทั้งสี่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีขาวดวงตาของมันลึกลับดุจห้วงเหวลึกทันใดนั้นเอง ม้าศึกตัวนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเย่ซิวเข้าเต็ม ๆโครม!เย่ซิวรู้สึกเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1031

    “ข้างในมีของสำคัญสำหรับฉันมาก ฉันเข้าไปด้วยได้ไหม?”เสียงของโซเฟียไพเราะจับใจเหมือนกับเสียงน้ำพุใสกระทบหิน มีความลึกซึ้งและก้องกังวานแค่เสียงของเธอก็ทำให้ผู้ชายมากมายหัวใจเต้นแรงได้แล้วเย่ซิวมองหญิงสาวที่สวยจนดูราวกับภาพลวงตาตรงหน้า “ถ้าปล่อยให้เธอเข้าไปแล้วฉันจะได้อะไร?”“บนตัวนายมีป้ายอันหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยร้าว เอามาให้ฉัน แล้วฉันจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม”เย่ซิวมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของมันเป็นของที่ตกมาจากเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นตอนที่เขาช่วยเธอเอาไว้ตอนนั้นเขาไม่ได้สังเกตว่ามันมีค่าอะไรเลยเก็บมันไว้ก่อนจากนั้นเขาก็ยื่นมันให้โซเฟียเธอวางมันลงบนฝ่ามือ ก่อนจะกดมือทั้งสองข้างเข้าหากันแสงสีขาวสว่างออกมาจากรอยต่อของมือและคงอยู่เช่นนั้นต่อเนื่องเป็นสิบกว่าวินาทีพอเธอคลายมือออกก็มีแผ่นหยกเรืองแสงอ่อน ๆ ปรากฏอยู่ในฝ่ามือเย่ซิวรับแผ่นหยกนั้นมาแนบไว้ที่หว่างคิ้วจากนั้นก็มีข้อมูลมากมายก็ไหลทะลักเข้าสู่สมองของเขาก่อนจะปรากฏเป็นเคล็ดวิชาหนึ่งขึ้นมาในหัวเขาทันทีวิชาแปรมังกร!เป็นศาสตร์ฝึกฝนที่ลึกล้ำเป็นอย่างยิ่งตามเนื้อหาที่บันทึกไว

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1030

    แค่กระบี่นี้ หากเล็งไปที่เมืองสักแห่ง เมืองนั้นคงถูกทำลายจนสิ้นในพริบตาหากฟันกระบี่นี้ออกไปอีกไม่กี่ครั้ง ประเทศจ้านฉงตี้คงได้รับความเสียหายอย่างหนักจนยากจะฟื้นตัวหรือไม่แน่ อาจถูกประเทศจ้านอิงตี้ฉวยโอกาสเข้ายึดครองไปเลยก็ได้อย่าดูแค่ภายนอกว่าทั้งสองประเทศเหมือนพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงจุดอ่อนขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสกลืนกินอย่างแน่นอนเย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยซากโบราณสถานแห่งนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาจริง ๆเขาใช้วิชาอัดปราณกระบี่ไปถึงเก้าครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้เย่ซิวเก็บกระบี่หงส์โบยบิน โดยไม่สนใจคนรอบข้างที่กำลังตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเขาประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แสงสีทองสว่างไสวเหมือนเปลวเพลิง ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังเขาตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!เมื่อร่างที่ทรงพลังและครอบงำทุกสิ่งจนแทบไร้เทียมทานปรากฏขึ้นท้องฟ้าอันแจ่มใสพันลี้พลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำมืดในทันทีไม่ต้องพูดถึงคนรอบข้างที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้เลยแม้แต่จักรพรรดิหมีเหล็ก ที่อยู่ห่างออกไปกว่าหลายมันไมล์ และกำลังชมวิดีโออยู่ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันหนักอึ้งและกดดันมหาศ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1029

    ร่างกายของโซเฟียเย็นเล็กน้อยสัมผัสคล้ายกับการบีบเยลลี่เมื่อเผชิญกับสายตาแข็งกร้าวของเย่ซิว เธอกลับแสดงออกอย่างสงบนิ่ง“คุณเป็นคนของโลกนี้หรือเปล่า”โซเฟียไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกเคย์ฟี่ที่เห็นฉากนี้ เกิดความอิจฉาขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำไมตัวเธอพยายามสารพัด แต่เย่ซิวกลับไม่ยอมมองเธอแม้แต่แวบเดียวขณะที่โซเฟียเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับได้รับความสนใจจากทุกคน“ไม่พูดสินะ?” เย่ซิวเพิ่มแรงบีบที่ปลายคางของเธอเล็กน้อยผิวของเธอบอบบางเกินไป เพียงบีบเบา ๆ ก็เกิดรอยช้ำขึ้นมาแล้ว“ถ้าไม่พูดก็ถือว่ายอมรับ ผมจะฆ่าคุณ”เย่ซิวไม่ได้ขู่เธอในขณะนั้น ความกระหายสังหารพลันปะทุขึ้นในใจของเขาแต่ทันทีที่ความคิดฆ่าฟันเกิดขึ้น เขากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวหญิงสาวภายในร่างกายของเธอ มีบางสิ่งที่น่ากลัวซ่อนอยู่หากเธอเผชิญกับอันตรายจริง ๆ สิ่งนั้นจะถูกกระตุ้นออกมาเองเย่ซิวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากเธอ ความตั้งใจจะฆ่าที่แผ่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ หายไปเขาไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเธอ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเธอทันทีที่เจอหน้าเย่ซิวเดินผ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1028

    ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวสุดขีด พลังของอ็อคก็พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งแรงกดดันจากร่างกายของเขารุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวผู้สนับสนุนอ็อคหลายคนเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นว่าเขาสามารถทะลวงขีดจำกัดได้อีกครั้งภายใต้ความโกรธในตอนนี้ พลังที่แผ่ออกมาจากอ็อคเทียบเท่ากับระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ ตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยความดีใจสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง อ็อคเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลับมาอยู่เหนือทุกสิ่งอีกครั้งสองข้าวิ่งทะยาน ความเร็วพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนทะลุกำแพงเสียงในพริบตาร่างของเขาพุ่งเข้าหาเย่ซิวราวกับอุกกาบาตที่ลุกไหม้เต็มไปด้วยพลังแห่งความบ้าคลั่งและไร้เทียมทานแต่แม้จะต้องเผชิญกับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ เย่ซิวก็ยังคงยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับจนกระทั่งอ็อคใกล้เข้ามา เขาถึงได้เอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“หยุด!”วาจาศักดิ์สิทธิ์!อ็อคที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันหยุดนิ่ง ถูกพลังบางอย่างตรึงร่างไว้โดยสมบูรณ์ เขาหยุดอยู่ห่างจากเย่ซิวเพียงครึ่งเมตรเท่านั้นในดวงตาของอ็อคเต็มไปด้วยความมึนงงและไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเย่ซิวยื่นมื

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1027

    พลังแห่งปฐพี!พลังแห่งปฐพีในรัศมีร้อยลี้ถูกอ็อคควบคุมและรวบรวมเข้าสู่ร่างกายของเขาทำให้หมัดที่ปล่อยออกมาทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดผู้คนรอบข้างพากันยกมือขึ้นปิดหูโดยสัญชาตญาณบางคนที่พลังอ่อนแอกว่าถึงกับเลือดไหลออกจากเจ็ดทวาร ร่างกายสั่นสะท้านจนควบคุมตัวเองไม่ได้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!ให้ความรู้สึกราวกับมีระเบิดเอชระเบิดขึ้นข้าง ๆดวงตาของอ็อคเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและความกระหายในเลือดเขาเชื่อมั่นว่าหมัดนี้ ต่อให้เย่ซิวแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงรับไว้ไม่ได้ และต้องบาดเจ็บสาหัสแน่นอนเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเย่ซิว หวังจะเห็นความหวาดกลัวแต่เขากลับต้องผิดหวังดวงตาของเย่ซิวลึกดั่งบ่อน้ำเย็นยะเยือกที่ไม่มีจุดสิ้นสุดไม่ว่าโลกภายนอกจะโหมกระหน่ำเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เกิดระลอกคลื่นใด ๆ ได้เย่ซิวขยับแล้วมือขวากำหมัดแน่นเผชิญหน้ากับหมัดที่สามารถทำลายท้องฟ้าของอ็อค เขาใช้พลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้นตู้ม!สองหมัดปะทะกัน ก่อให้เกิดเสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดินจากนั้นก็เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยแต่อ็อคกลับเริ่มแตกสลายจากหมัดของตัวเอง และรอยแตกนั้นลามขึ้นไปทั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1026

    เมื่ออ็อคเข้าใกล้ แรงกดดันอันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากตัวเขาทำให้พูท พรีเอลล์ และเคย์ฟี่ถึงกับสะดุ้ง หายใจติดขัดราวกับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูร้าย!"เย่ซิว! นายมาที่นี่ทำไม? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายควรมา!"เสียงของอ็อคดังกึกก้อง ราวกับฟ้าร้อง"หลีกไป อย่ามาขวางทางฉัน"เย่ซิวพูดอย่างไม่ไว้หน้า ขณะที่ยังคงจับจ้องไปที่โซเฟียเขากำลังคาดเดาว่าเธออาจจะมาจากโลกภายนอกนี่เป็นความเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าน่าเชื่อถือที่สุด"อวดดีนัก! อยากตายรึไง!""เย่ซิว! ที่นี่ไม่ใช่สำนักโอสถ และไม่ใช่ประเทศหลงเถิงด้วย! นายมาคนเดียว อย่าทำตัวอวดดีให้มากนัก!""ใช่! ไม่งั้นนายอาจจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่!"……เหล่าผู้ติดตามของอ็อคต่างพากันล้อมเย่ซิว สีหน้าของแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรและความเย็นชาถ้าเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน พวกเขาคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเย่ซิวแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วการปรากฏตัวของอ็อคทำให้พวกเขามั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้นเพราะพวกเขาเคยเห็นฝีมือของอ็อคมาก่อน จึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนพวกเขามั่นใจ แม้แต่เย่ซิวมาเอง อย่างมากก็คงทำได้เพียงเสมอกันยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status