หลังจากซักถามอย่างละเอียดแล้วจึงได้รู้เหตุผลมันอดคิดถึงใครบางคนไม่ได้ก็เลยมาหาคาดไม่ถึงว่าเย่ซิวยังไม่กลับมา ไม่ได้เจอเขาเลยครั้งหนึ่งตอนที่ออกไปซื้อของกับหลานสาว ถูกหลัวจิ่นเห็นเข้า จากนั้นเขาก็เริ่มตามจีบเธออย่างบ้าคลั่งทันทีแต่หลัวฮุ่ยหมิ่นไม่ชอบเขาจึงบอกปฏิเสธต่อหน้าไปแล้วแต่หลัวจิ่นคนนี้ไม่ยอมตัดใจ ขอดันทุรังต่อเดิมทีหลัวอีอีกับหลัวฮุ่ยหมิ่นอยากมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดวันนี้ แต่หลัวจิ่นตามมาด้วยและเขาใช้เงินไล่ทุกคนออกไปจากที่นี่แล้วให้คนมากมายมายืนถือดอกไม้และเล่นไวโอลิน ช่างโรแมนติกสุด ๆผู้หญิงทั่วไปอาจจะชอบและตอบตกลงไปแล้วแต่หลัวฮุ่ยหมิ่นกลับไม่แยแส และแสดงสีหน้ารังเกียจอย่างสุดซึ้งหลัวจิ่นถือดอกไม้ราคานับล้านบาท และมองหลัวฮุ่ยหมิ่นอย่างเสน่หา“ฮุ่ยหมิ่น ผมชอบคุณมากจริง ๆผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็นขอแค่คุณยอมคบกับผม ต่อไปเราแต่งงานกันแล้ว ทรัพย์สินมูลค่านับนับหมื่นล้านของตระกูลผมจะยกให้คุณดูแลทั้งหมด”ผู้หญิงที่หลัวจิ่นเชิญมาถือดอกไม้ต่างพากันตื้นตันใจถ้าเป็นตัวเองคงตอบตกลงไปนานแล้วเขามีทรัพย์สินนับหมื่นล้านตั้งแต่ยังหนุ่ม และที่สำคัญหล่อขนาดนี้
หลัวฮุ่ยหมิ่นรำคาญหลัวจิ่นมาก เธอขมวดคิ้วอย่างเย็นชา และตะโกนไปว่า "สรุปคุณจะหลีกทางให้ไหม?"หลัวจิ่นยิ้มอย่างขมขื่น "อย่าทําแบบนี้เลย ผมจริงใจกับคุณจริง ๆ โตจนป่านนี้ผมยังไม่เคยมีความรักเลย คุณเป็นรักเดียวของผมนะ"“ฮ่าฮ่า คำพูดของคุณมันปลอมมาก” เย่ซิวเดินเข้ามาและพูดอย่างใจเย็น "สังเกตจากเส้นลมปราณของคุณ เกรงว่าคุณเสียหยางดั้งเดิมไปตั้งแต่อายุสิบกว่าปีแล้ว"หลัวจิ่นหันกลับมา และมองเย่ซิวอย่างอิจฉาริษยาผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าช่างสมบูรณ์แบบมาก เอาตัวเองไปยืนข้างเขามันเทียบกันไม่ติดเลย“เย่ซิว!”เมื่อหลัวอีอีกับหลัวฮุ่ยหมิ่นเห็นเขา พวกเธอดีใจทันทีและรีบวิ่งไปหาอย่างรวดเร็วสาวงามสองคน คนหนึ่งสาวใหญ่คนหนึ่งสาวน้อย แยกกันจับแขนคนละข้างของเย่ซิวและพูดว่า“เย่ซิว ในที่สุดนายก็มาแล้ว”ว้าว ทำไมนายถึงหล่อขึ้นอีกแล้ว แถมยังบุคลิกดีขนาดนี้อีก ยืนข้างนายแล้วรู้สึกต่ำต้อยไปเลย”“ฉันหิวแล้วอ่ะ เลี้ยงข้าวฉันหน่อยสิ”“ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงฉันบ้างไหม?”…… เมื่อหลัวจิ่นเห็นว่าผู้หญิงที่ตนเองตามจีบอย่างหนักไม่ไว้หน้าเขาเลย กลับไปหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวผู้ชายอีกคน ใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นด
หลัวจิ่นมองเย่ซิวอย่างภาคภูมิใจ "ทำไม ไม่กล้าพูดเหรอ? อึ้งจนพูดไม่ออกหรือไง?ฉันแนะนำให้คุณเลิกยุ่งกับฮุ่ยหมิ่นโดยเร็ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ผู้ชายธรรมดา ๆ อย่างคุณสมควรได้ครอบครอง”เย่ซิวส่ายหน้าอย่างจำใจ "จำเป็นต้องขนาดนั้นเลยเหรอ จะให้ผมตบหน้าคุณสักทีถึงจะพอใจใช่ไหม?"พูดจบเขาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบจี้หยกกับแหวนหยกออกมาจำนวนหนึ่ง ความเป็นจริงคือเอามันออกมาจากแหวนผนึกของซึ่งเดิมทีตั้งใจจะมอบให้หลัวอีอีแต่ในเมื่อหลัวฮุ่ยหมิ่นก็อยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นเอาให้เธอสักหน่อยดีกว่า“จี้หยกนี้ผมขอมอบให้คุณ ห้อยมันไม้กับตัวแล้วคุณจะปลอดภัยฝากเอาไปให้นายท่านหลัวและพี่ชายของคุณคนละชิ้นด้วยส่วนแหวน พวกคุณเอาไปคนละหนึ่งวง”“ว้าว สวยจังเลย!”“มันคืออะไร? ดูแพงมากเลย”สาวงามทั้งสองตกใจกับสิ่งที่เย่ซิวหยิบออกมาหากเปรียบหยกขาวมันแพะของหลัวจิ่นเป็นม้าธรรมดา งั้นของเย่ซิวก็คงเป็นม้าเหงื่อโลหิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ทั้งสองสิ่งไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลยหลัวอีอีกับหลัวฮุ่ยหมิ่นชอบจี้หยกที่เย่ซิวให้มากจนวางไม่ลงทันใดนั้นพวกเธอก็นึกอะไรบางอย่างได้ ทำให้ใบหน้าแดงก่ำไปหมดเย่ซิวมอบแหว
แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่มีดพับจะทำอันตรายใด ๆ แก่เย่ซิวได้เขามองดูหลัวอีอีในอ้อมแขนที่หวาดกลัวจนใบหน้าซีดเผือด และร้องไห้โฮดั่งดอกท้อต้องฝน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม "คุณร้องไห้ทำไม ผมไม่เป็นอะไรสักหน่อย"มีดพับหยุดชะงักห่างจากหลังของเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร ดูเหมือนว่ามีมือที่มองไม่เห็นคว้าไว้ ทำให้มันไม่สามารถไปต่อได้สีหน้าของหลัวจิ่นเปลี่ยนไปอย่างมาก และแม้จะใช้พละกำลังทั้งหมดที่เขามีก็ไม่สามารถดันเข้าไปได้อีก ทันใดนั้นเขาก็อุทาน "มันเป็นไปได้อย่างไร?!"เขาเป็นคนมีวิทยายุทธ และไม่ใช่ไก่อ่อนฉากตรงหน้าทําให้เขานึกถึงคําพูดที่ว่า…การปลดปล่อยกำลังภายใน!ปัง!เย่ซิวหันกลับมาเตะเข้าที่สีข้างของเขา จนเขากระเด็นไปบนกำแพง โดยที่ยังห้อยต่องแต่งอยู่ตรงนั้น ไม่แม้ขยับเขยื้อนเย่ซิวควบคุมพลังได้ดีมาก เพียงแค่ทำให้ซี่โครงของเขาหักหลายสิบซี่เท่านั้น ไม่ได้ถึงแก่ชีวิตการฆ่าเขาโดยตรงมันไม่สามารถลดทอนความแค้นความเกลียดชังในใจเย่ซิวได้หลัวอีอีรีบวิ่งไปที่ด้านหลังเย่ซิว เมื่อเห็นว่าหลังของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเย่ซิวลูบศีรษะของเธอ "เด็กโง่ ต่อไปอย่าทำเรื่องโง่ ๆ แบ
แต่ตอนนี้เหลือเพียงความตื่นตระหนกและสิ้นหวังเท่านั้นเขารู้เรื่องราววงในมากมาย แม้แต่ตระกูลชั้นนำทรงอิทธิพลอย่างตระกูลเย่และตระกูลฉีต่างก็ต้องก้มหัวให้เย่ซิวเมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขาแล้ว ตระกูลหลัวของเขาเปรียบเหมือนมด ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง“ปึก!”เขาคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ซิวโดยไม่พูดอะไรสักคำ เอาแต่โขกหัวไม่หยุดเย่ซิวมองเขาอย่างเย็นชา และไม่ได้บอกให้เขาหยุดเขาคำนับหลายร้อยครั้งติดต่อกันจนหน้าผากโชกไปด้วยเลือดก่อนที่เขาจะหยุด“ขอโทษครับคุณเย่ ผมสั่งสอนลูกไม่ดีพอ เลยทำให้ลูกอกตัญญูคนนี้บังอาจก้าวร้าวกับคุณคุณไม่ต้องกังวล ผมจะให้คำอธิบายที่น่าพอใจแก่คุณในเรื่องนี้อย่างแน่นอน!”พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นเดินไปหาหลัวจิ่นหลัวจิ่นไหลลงมาจากกำแพงแล้ว เมื่อเห็นพ่อของตัวเอง เขาตื่นกลัวและตัวสั่นเล็กน้อยเขาอยากจะพูด แต่ตอนนี้ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาเลยพ่อของหลัวจิ่นคุกเข่าลงและเอามือลูบศีรษะของเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "พ่อตามใจลูกมาตั้งแต่เล็กจนโต พ่อทําหน้าที่ของพ่อคนหนึ่งอย่างเต็มที่แล้วเมื่อก่อนลูกสร้างปัญหา พ่อหาทางจัดการให้ได้ทุกเรื่องแต่คราวนี้ต่างออกไป พลังของคนที่ลูกมีเรื่องด้วยน
“ฉัน…” หลัวอีอีแสดงสีหน้าลังเลแต่ก่อนเธอจินตนาการมาตลอดว่ามันจะเป็นความรักหวานชื่นและช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคนสองคนแต่ถ้าเลือกอยู่กับเย่ซิว เห็นได้ชัดว่าจะต้องเสียสละบางอย่างเกิดความขัดแย้งภายในใจของเธอ และในที่สุดเธอก็เกาหัวอย่างหงุดหงิด "โอ๊ย ไม่สนแล้ว เรื่องของอนาคตค่อยว่ากันทีหลังเพราะยังไงตอนนี้ฉันชอบนายมาก ๆ อยู่ด้วยกันก็อยู่มาแล้วไม่มีใครสามารถคาดเดาเรื่องของอนาคตได้ บางทีฉันอาจจะเบื่อนายและทิ้งนายไปเองก็ได้”เย่ซิวหัวเราะในเมื่อสาวน้อยพูดเช่นนั้น เขาจึงไม่พูดอะไรที่ห้ามปรามเธออีกต่อไปทั้งสองไปที่บ้านของหลัวอีอีเย่ซิวไม่ได้รีบร้อนที่จะเผด็จศึกในทันที แต่ใช้พลังวิญญาณปรับปรุงสมรรถภาพทางกายให้เธอก่อนหลัวอีอีไม่เคยสัมผัสความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ตลอดกระบวนการมันทำให้เธอรู้สึกดีมากโชคดีที่ห้องเก็บเสียงได้ดีเยี่ยมหลังจากนั้นเย่ซิวก็หยิบโอสถออกมาให้เธอกินใช้วิธีการบังคับทำให้หลัวอีอีทะลวงสู่จอมยุทธ์ระดับสี่จากนั้นหลัวอีอีก็หลับไป ไม่มีความคืบหน้าอย่างจริงจังระหว่างทั้งสองเย่ซิวไม่รีบร้อน ค่อย ๆ บ่มเพาะไปอย่างช้า ๆ สักระยะหนึ่งก่อน รสชาติถึงจะหวานอร่อยยิ่งขึ
“ฉันเปล่าสักหน่อย ก็แค่...ก็แค่…” เซี่ยซิ่วซิ่วเขินอายเล็กน้อย ลังเลอยู่นานแต่ก็พูดอะไรไม่ออกสักคำเย่ซิวหัวเราะเสียงดัง เซี่ยซิ่วซิ่วที่เป็นเช่นนี้ดูน่ารักมากเขาไม่ได้แกล้งเธออีก แล้วสัญญาว่าในคืนนี้จะกลับไปหาหลังจากวิดีโอคอล เซี่ยซิ่วซิ่วก็มีความสุขมาก คืนนี้เธอจะได้ใช้เวลาอยู่กับคนที่เธอรักที่สุดอีกแล้ว...เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เธอก็เริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นมา รัวนิ้วพิมพ์บนคอมพิวเตอร์ ดำเนินการตามกลยุทธ์ทั้งหมดที่เย่ซิวมอบให้…… ทางเหนือ ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขาและป่าเก่าแก่สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหมอกพิษตลอดทั้งปี แทบจะไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามา ถูกแยกออกจากโลกภายนอกแทบจะโดยสมบูรณ์ในสถานที่แบบนี้ มีสำนักเก่าแก่และทรงพลังที่ชื่อว่า…สำนักเบญจพิษตั้งอยู่!มีคนหลายร้อยคนที่นี่ และพวกเขายังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมที่สุดดื่มจากบ่อน้ำ เพาะปลูก และล่าสัตว์เซี่ยชิงชิงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส ตอนนี้ได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนักแล้วเธอยืนอยู่บนยอดเขา มองดูบ้านเรือนที่กระจัดกระจายด้านล่างด้วยสีหน้าไม่แยแสเธออายุเพียงสิบแปดปี แต่ใบหน้าของเธอไม่ได้แสดงรอยยิ้มมานานแล้วที่อยู่ข
“คุณสามารถกำจัดแมลงพิษออกจากตัวฉันได้จริงเหรอ?” เซี่ยชิงชิงรู้สึกประหลาดใจมากคุณลี่กล่าว "แน่นอน ก็แค่แมลงพิษตัวเล็ก ๆ เอง"เห็นเพียงเขาสะบัดมือ ขวดหยกก็บินมาอยู่ต่อหน้าเซี่ยชิงชิง "เปิดมันดูสิ"เซี่ยชิงชิงเปิดขวดหยก มีกลิ่นหอมแปลก ๆ สายหนึ่งลอยออกมาเธอเทของข้างในออกมา ร่างกายอันละเอียดอ่อนของเธอฉับพลันนั้นก็สั่นสะท้านนั่นเป็นยาเม็ดใสที่เปล่งแสงเจิดจ้าภายใต้แสงแดด“โอสถร้อยพิษไม่กล้ำกราย” เซี่ยชิงชิงอุทาน และมองดูยาในมือของเธอด้วยความเหลือเชื่อเธอเคยเห็นสิ่งนี้ในคัมภีร์โบราณของสำนักเบญจพิษมาก่อนวิธีการกลั่นและวัตถุดิบยา หายสาบสูญไปนานแล้ว“ถูกต้อง มันคือโอสถร้อยพิษไม่กล้ำกราย พูดให้ชัด แมลงพิษบนร่างกายของเธอก็เป็นพิษชนิดหนึ่ง หลังจากที่เธอกินมันเข้าไป พิษก็จะถูกถอนออกไป”เซี่ยชิงชิงวางมันไว้ใต้จมูกของเธอแล้วสูดดม เพื่อยืนยันว่ากลิ่นนั้นเหมือนกับที่อธิบายไว้ในคัมภีร์โบราณทุกประการหรือไม่ เธอมั่นใจเพียงครึ่งเดียว จึงยังไม่กลืนมันลงไปอย่างหุนหันพลันแล่นคุณลี่เห็นเธอแสดงออกแบบนี้ ก็พูดว่า "ยังไม่วางใจ? ฉันน่ะทะลวงผ่านจอมจอมยุทธ์ระดับเก้าไปแล้ว และเข้าสู่ขั้นสร้างพื้นฐานแล
หยางเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ยังไม่ขอโทษทั้งสองคนอีก”“ขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว” หยางถิงถิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจหยางเฟิงมองไปที่เย่ซิวและอลิส “พวกเธอทั้งสองคน ฉันตั้งใจจะซื้อชุดนี้กลับไปศึกษา หวังว่าจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆช่วงนี้ผมอยากออกแบบเสื้อผ้าแบบใหม่ แต่ก็ไม่มีไอเดียเลยหากทั้งสองคนยอมตัดใจจากชุดนี้ ฉันสามารถให้เงินชดเชยแก่พวกเธอได้นะแม้พวกเธออาจจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่นี่ก็ถือเป็นความจริงใจจากฉัน”ไม่เสียทีที่เป็นผู้สูงอายุที่ผ่านโลกมาหลายสิบปี วิธีการพูดของเขาทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจมากอลิสกำลังจะอ้าปากจะปฏิเสธเธอไม่ขาดแคลนเงินเลย ขอเพียงเธอสามารถทำให้คนที่เธอชอบมีความสุขได้แต่เย่ซิวชิงพูดขึ้นก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไร “ไหน ๆ ผู้อาวุโสก็ทำธุรกิจด้านเสื้อผ้า ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเสื้อผ้าที่เหมาะกับผมบ้างหรือเปล่าครับ ถ้ามีองค์ประกอบของประเทศหลงเถิงก็จะดีมากครับ”ตัวเขาเองเป็นคนประเทศหลงเถิง จะเป็นการดีที่สุดหากเขาได้สวมใส่เสื้อผ้าที่มีองค์ประกอบของประเทศของเขาได้แต่ชุดพิธีการส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักเป็นสไตล์ต่างประเทศหยางเฟิงหัวเราะ “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้ว
“พรึ่ด!”อลิสรู้สึกขบขันไปกับเย่ซิวพลางยกนิ้วโป้งให้เขา “ที่รัก คุณพูดได้ดีมากจริง ๆ”เอ็ดโกรธจนตัวสั่น ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาก่อนแม้เขาจะเป็นเพียงผู้มีพลังวิเศษระดับต่ำสุด แต่สถานะของเขาก็สูงมาก ไปที่ไหนเขาก็เป็นที่เคารพนับถือแต่ตอนนี้เขากำลังถูกเย่ซิวผู้ที่ไม่ได้มีหน้าตาหล่อเหลาอะไรทำให้ขายหน้าต่อหน้าคนมากมาย ใคร ๆ ก็คงจะจินตนาการถึงความโกรธที่อยู่ในใจของเขาได้เขากำหมัดแน่นและแอบรวบรวมพลังวิเศษในร่างกายเพื่อฆ่าคนตรงหน้าต่อหน้าทุกคนเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมไป อลิสจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า “ยังจะรังควานกันไม่เลิกอีกเหรอ? อย่างนั้นฉันจะโทรหาพ่อของฉันเดี๋ยวนี้เลย”สีหน้าของเอ็ดเปลี่ยนไป เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที “อย่า ๆ ๆ ผมจะไปแล้วนี่ไงคุณต้องเชื่อนะว่าผมรักคุณเสมอ ผมก็แค่ทำผิดพลาดเหมือนกับที่ผู้ชายทุกคนในโลกนี้เคยทำ ผมขอตัวก่อน คุณใจเย็น ๆ ล่ะ”พูดจบ เขาก็เดินออกไปข้างนอก และก่อนที่จะออกไป เขาจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาเย็นชาผู้หญิงที่อยู่กับเขาก็รีบตามเขาออกไปด้วยพนักงานขายสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังคงพาคนทั้งสองไปหยุดอยู่ตรงหน้าราวเสื้อผ้าราวกับไม่
เขาสัมผัสได้เพียงเขาที่งอกบนศีรษะ สายตาที่เขามองเย่ซิวราวกับต้องการจะกินหัวอีกฝ่ายเสียให้ได้อลิสยิ้มเยาะ “นายตาบอดเหรอ ไม่เห็นรึไงว่าเขาเป็นแฟนฉัน”“นี่คุณพูดบ้าอะไร เขาเป็นแฟนคุณ แล้วผมล่ะ? พวกเราคบกันมาตั้งหลายปี แต่คุณกลับทรยศผมแบบนี้เนี่ยนะ!”“ทรยศ?” อลิสเองก็โมโหเช่นกัน “นายยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายมีผู้หญิงคนอื่นมานานแค่ไหนแล้ว? นายเป็นคนทรยศฉันก่อน ไม่ใช่ฉันที่ทรยศนาย”ดวงตาของเอ็ดฉายแววตื่นตระหนก เขารีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “อลิส ได้โปรดฟังคำอธิบายของผมก่อน ผมกับเธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นเองนะ”ขณะที่พูด เขาก็รีบดันผู้หญิงที่อยู่ข้างกายออกไปหญิงสาวผู้นี้เองก็รู้ตัวตนของอลิส เธอจึงก้มหัวลงและไม่กล้าพูดอะไรซี้ซั้ว อีกทั้งยังพยายามทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจน้อยที่สุดอลิสพูดอย่างเย็นชา “เรื่องระหว่างเรามันจบไปตั้งแต่วันที่นายทรยศฉันแล้วแล้วนายก็ไม่ได้ผู้หญิงแค่คนเดียว คิดว่าวันนั้นฉันไม่เห็นเหรอว่านายอยู่กับเพื่อนสนิทของฉัน”เอ็ดก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะจับมืออลิส แต่กลับถูกเธอปัดมือทิ้ง“ที่รัก คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมกับเธอแค่คุยกันเรื่องงานเ
เดิมทีเขาจะออกไปอยู่แล้ว แต่เพราะคำถามของอลิส การออกเดินทางจึงล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงอีกทั้งอลิสยังเสียเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการแต่งหน้าใหม่เย่ซิวสงสัยอย่างมากว่าเธอทำมันโดยตั้งใจทั้งสองคนออกไปข้างนอกเหมือนคู่รักทั่ว ๆ ไปอลิสกอดแขนของเย่ซิว ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และอารมณ์ดีสุด ๆเธอขับรถไปยังถนนสายหนึ่งซึ่งมีความคล้ายคลึงกับถนนของประเทศจ้านอิงตี้มากที่แห่งนี้เรียกว่าถนนมหาเศรษฐีสินค้าทุกอย่างที่นี่ล้วนเริ่มต้นที่ห้าแสนบาท ซึ่งมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่สามารถซื้อได้และมักมีหญิงสาวหน้าตาดีแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราเดินไปมาบนถนนสายนี้อยู่เสมอหากเห็นผู้ชายสักคนมาที่นี่ตัวคนเดียวเดินเข้าไปซื้อของในร้านใดร้านหนึ่ง พวกเธอก็จะสร้างความบังเอิญเพื่อพยายามจับสามีรวย ๆแน่นอนว่าย่อมมีผู้ชายที่ต้องการจะหาภรรยาเศรษฐีจากที่นี่ด้วยเธอพูดว่าอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้เย่ซิว แต่หลังจากมาถึงที่นี่ อลิสก็ลากเย่ซิวไปซื้อกระเป๋าหลากยี่ห้อ เครื่องประดับ แม้กระทั่งชุดชั้นใน ทำเอาเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะหลังจากที่ติดตามเธอมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดอลิสก็พาเย่ซิวไปที่ร้านขายเส
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่