เพียะ!ณ สำนักงานขาย ผู้หญิงหน้าตาดีแต่งตัวเซ็กซี่ตบหน้าผู้ชายหน้าตาซื่อ ๆ อย่างแรงและตะคอกว่า“ถ้าไม่มีปัญญาซื้อ จะแต่งงานไปทำไม เลิกกันเถอะ!”ชายคนนั้นร้องไห้ฟูมฟาย "ซูเฟิน ราคาคอนโดที่นี่แพงเกินไป เราไปดูที่อื่นดีไหม?"ผู้หญิงที่ชื่อซูเฟินเอามือกอดอกด้วยสีหน้าเย็นชา "สามีเพื่อนร่วมชั้นของฉันซื้อที่นี่กันหมด คุณให้ฉันไปซื้อคอนโดธรรมดา ๆ ที่อื่นอยู่งั้นเหรอ ต่อไปฉันยังจะมีหน้าไปเจอพวกเธอได้อีกไหม?เลิกกันเถอะ คุณไม่คู่ควรกับฉัน”“ซูเฟิน ไม่เอาแบบนี้สิ ผมรักคุณมากนะ!”น้ำเสียงของชายคนนั้นกำลังอ้อนวอนแต่ไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนมากแค่ไหน ซูเฟินก็ยังไม่ใจอ่อน และถึงกับไล่ชายคนนั้นออกไปเมื่ออวี่เฟยเฟยได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ เธอหันกลับมาและจำซูเฟินได้ทันทีบังเอิญซูเฟินก็หันมามองด้วยเช่นกันเมื่อสบตากัน ซูเฟินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเดินไปหาอวี่เฟยเฟยด้วยความประหลาดใจ "เฟยเฟย ทำไมเธออยู่ที่นี่ได้ล่ะ"อวี่เฟยเฟยทำได้เพียงยืนขึ้นและตอบอย่างสุภาพ "แฟนของฉันมาซื้อคอนโดให้ฉันน่ะ"เมื่อซูเฟินเห็นเย่ซิวนั่งอยู่บนโซฟา จู่ ๆ หัวใจของเธอหยุดเต้นทันที และดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นประกายแวววา
เมื่อพวกเธอไปถึงห้องน้ำ หยางซูเฟินแกล้งทำเป็นล้างมือ ส่วนอวี่เฟยเฟยเข้าไปก่อนจากนั้นหยางซูเฟินหันหลังกลับและวิ่งไปนั่งข้างเย่ซิวอย่างรวดเร็วเธอจงใจดึงคอเสื้อให้ต่ำลงและดึงไหล่เสื้อลง แล้วพูดอย่างออดอ้อนว่า "พี่ชาย คุณชื่ออะไรเหรอคะ?"เย่ซิวผลักเธอออกและพูดอย่างเย็นชา "อยู่ห่างจากผมหน่อย"บนร่างของผู้หญิงคนนี้มีกลิ่นคาวโลกีย์ชัดเจนมาก บ่งบอกว่าเธอใช้ชีวิตอย่างวุ่นวาย ปราศจากความสงบในโลกีย์ ซึ่งมาจากการที่ไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายมากหน้าหลายตา และปล่อยเนื้อปล่อยตัวเขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้หยางซูเฟินยังคงยิ้มไม่หุบ คิดว่าเย่ซิวกำลังใช้แผนแสร้งปล่อยเพื่อจับ เธอยิ่งเขยิบเข้ามาใกล้พร้อมกัดริมฝีปากเล็กน้อย "พี่ชายหล่อจังเลยค่ะ คืนนี้ไปเที่ยวด้วยกันไหม?"เย่ซิวผลักเธอออกไปอีกครั้งอย่างเหลืออด "อย่ามายุ่งกับผม!"หยางซูเฟินหัวเราะปิดปาก “คิดไม่ถึงว่าพี่ชายจะช่ำชองเรื่องรักขนาดนี้ แผนแสร้งปล่อยเพื่อจับใช้ได้ผลจริง ๆ” ผู้ชายหน้าไหนไม่ชอบผู้หญิงสวยหุ่นดีแบบฉันบ้าง?”เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเย่ซิวไม่ชอบเธอ แถมยังเป็นคนหลงตัวเองอีกเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะจู่โจมอีกครั้ง เย่ซิวจิ้มไปที่สกัดจุดบนร
คราวนี้เป็นทีของเย่ซิวที่ต้องประหลาดใจ เขายิ้มพลางเอ่ยถาม “คุณพูดจริงเหรอ?”“อืม” หลิวเสี่ยวอวี้พยักหน้าเบา ๆ โดยไม่กล้าสบตาเย่ซิว เสียงของเธอเบาราวกับเสียงยุงบิน “หากนายท่านต้องการ ฉันก็ทำให้ได้…”เดิมทีเธอก็รู้สึกดีกับเย่ซิวอยู่แล้ว และผู้หญิงที่ทำงานในที่แบบนี้ก็มักจะเปิดกว้างกว่าคนทั่วไป ดังนั้น เธอจึงไม่ได้รู้สึกต่อต้านหากจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับเย่ซิวด้วยสายตาอันเฉียบคมของเย่ซิว เขามองออกทันทีว่า หลิวเสี่ยวอวี้ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แต่เธอสามารถต้านทานสิ่งยั่วยวนต่าง ๆ ได้ในทุกวัน ก็บ่งบอกถึงตัวตนของเธอได้แล้วเย่ซิวก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก มีเนื้อยื่นมาให้ถึงหน้าประตูแล้วเขาย่อมไม่ปฏิเสธแน่นอน แน่นอนว่าหากเป็นแบบหยางซูเฟินก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าเป็นเนื้อเน่า“คุณแน่ใจนะ?” เย่ซิวขยับเข้าใกล้เธอจนระยะห่างระหว่างทั้งสองเหลือเพียงไม่กี่เซนติเมตรเย่ซิวได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ เล็ดลอดออกมาจากตัวเธอหลิวเสี่ยวอวี้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความเป็นชายของเย่ซิวที่แผ่ซ่านออกมา ราวกับจะหลอมละลายเธอไปทั่วทั้งร่างร่างกายของเธอเริ่มอ่อนระทวย แววตาเต็มไปด้
“หากพวกนายยอมช่วยฉันรวบรวมโอสถหรือเหล้ายาบำรุงแบบนี้ต่อไป ฉันสามารถคุ้มครองพวกนายได้ และนอกจากนี้…”ฉึก!เขาชี้นิ้วออกไป ก่อนที่โต๊ะหินอ่อนตรงหน้าจะแยกออกเป็นสองส่วนทันที“อย่างที่พวกนายคิดนั่นแหละ ฉันคือจอมยุทธ์ระดับเก้า”หญิงสาวทั้งหกต่างกรีดร้องกันระนาว พวกเธอเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น ไม่มีความรู้เรื่องจอมยุทธอะไรมาก่อน ส่วนสามพี่น้องตระกูลสวีกลับมีทั้งความตกใจและความดีใจคำพูดของเย่ซิวทำให้พวกเขามองเห็นเส้นทางที่สดใสชัดเจน จึงรีบตอบรับทันทีโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยจอมยุทธ์ระดับเก้า เป็นสิ่งที่พวกเขาเคยได้ยินจากในตำนานเล่าขานกันเท่านั้น แต่ตอนนี้คนที่พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าคือตัวจริง ๆ แถมยังหนุ่มแน่นขนาดนี้!“แต่ว่า!” ดวงตาของเย่ซิวฉายแววเย็นชา “ถ้าฉันพบว่าพวกนายทำอะไรแย่ ๆ แม้แต่นิดเดียว ฉันจะกำจัดพวกนายทิ้งทันทีอย่างไม่ปรานี!”ต่อให้จะมีหรือไม่มีคำเตือนนี้พวกเขาก็ตอบรับโดยไม่ขัดข้องอยู่ดีสวีลู่รวบรวมความกล้าเอ่ยถาม “พี่เย่ครับ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว จะให้พวกเธออยู่ปรนนิบัติพี่ดีไหมครับ? ถ้าคนไม่พอ เดี๋ยวผมเรียกมาเพิ่มให้ หรือจะให้ผมอยู่รับใช้ก็ได้ครับ”ในฐานะจอมยุทธ์ระดับเ
พลังของหลิ่วเมิ่งอิ๋นนั้นมากมายจนน่าเหลือเชื่อหากบอกว่าแค่เธอคนเดียวก็สามารถเลี้ยงดูเด็กได้ถึงห้าคนในคราวเดียวก็คงไม่เกินจริงนัก…เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่ซิวจึงตัดสินใจไปที่บริษัทแต่เมื่อไปถึง เขากลับได้รับแจ้งว่าเธอไปที่ร้านเค้กแห่งหนึ่งที่อยู่ในเครือเย่ซิวจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังร้านเค้กไป๋เล่อแทนร้านนี้เป็นร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องการทำเค้กระดับพรีเมี่ยมเมื่อเย่ซิวมาถึงก็พบว่าคิวลูกค้ายาวล้นออกมานอกร้านไปไกลหลายสิบเมตรแต่ลูกค้าส่วนใหญ่กลับเป็นผู้ชายเสียนี่เย่ซิวมองด้วยความแปลกใจ “คนพวกนี้คงไม่ใช่ว่ามาหาหลิ่วเมิ่งอิ๋นหรอกมั้ง?”เขาเดินตรงไปยังประตูร้าน“เฮ้ พี่ชาย ต้องต่อคิวนะ”เมื่อเขากำลังจะเข้าไป ชายสวมแว่นคนหนึ่งก็มาขวางเอาไว้เย่ซิวยิ้มก่อนจะเอ่ย “ผมไม่ได้มาซื้อเค้ก ผมมาหาคนน่ะ”ชายสวมแว่นเบะปากพลางเอ่ย “ใครที่อยู่ที่นี่บ้างที่ไม่ได้มาหาคน แต่ล้วนมาหาเทพธิดาหลิ่วกันทั้งนั้น รีบไปต่อคิวซะ อย่าทำผิดกฎล่ะ”จากนั้นก็มีเสียงจากคนข้างหลังช่วยสนับสนุน“ใช่แล้ว ไปต่อคิวข้างหลังสิ”“พวกเรารอมานานแล้วนะ”……เย่ซิวยักไหล่โดยไม่คิดจะฝืนเข้าไป แม้ว่าเขาจะทำได้ก็ตามเขาห
ชายหนุ่มทั้งหลายที่เห็นเทพธิดาในดวงใจของพวกเขาจับมือกับชายอื่น ต่างพากันกุมหน้าอก หายใจติดขัดโดยเฉพาะชายสวมแว่นที่ขวางเย่ซิวไว้ก่อนหน้านี้ เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหมุนเคว้งไปหมดสุดท้ายตัวตลกก็คือฉันเอง!ความงามของหลิ่วเมิ่งอิ๋นนั้นโดดเด่นจนไม่ว่าเธอจะปรากฏตัวที่ใดก็สร้างความปั่นป่วนไปทั่วเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น เย่ซิวจึงจูงมือเธอขึ้นรถ พร้อมเอ่ยว่า “ไปกินข้าวกัน แล้วเดี๋ยวจะพาเธอกลับบ้านนะ”เดิมทีเย่ซิวตั้งใจจะใช้หลิ่วเมิ่งอิ๋นเป็นตัวช่วยในการบรรลุขั้นต่อไปแต่เมื่อเห็นเธอแล้ว เขาก็ละทิ้งความคิดนั้นไปเพราะเขารู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดจากตัวเธอ ซึ่งบ่งบอกว่าเธอกำลังอยู่ในช่วงวันนั้นของเดือนอยู่แต่หลิ่วเมิ่งอิ๋นไม่รู้ถึงความคิดในใจของเย่ซิว เธอแค่รู้สึกดีใจที่เขาอุตส่าห์มาเยี่ยมเธอแค่เท่านั้นหลังจากทานข้าวเป็นเพื่อนเธอเสร็จ เย่ซิวก็พาเธอกลับไปที่บริษัท เขาตั้งใจจะไปเก็บสมุนไพรในสวนเพื่อนำมาทำโอสถฟื้นฟูแต่จู่ ๆ ก็ได้รับข้อความจากถังต้าไห่ แจ้งว่าเขาได้รวบรวมพวกคนที่เคยทรยศเย่ซิวในอดีตไว้ทั้งหมดแล้วดวงตาของเย่ซิวฉายแววเย็นยะเยือก ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางทันที
ความเคียดแค้นในใจของเย่ซิวได้ก่อตัวจนถึงขีดสุดเหล่าคนทรยศในอดีต ทำให้อาจารย์ของเขาต้องเสียใจมาเป็นเวลานานจนตอนนี้เขาก็ยังสงสัยว่าการจากไปของอาจารย์ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทรยศเหล่านั้นดังนั้นสำหรับคนทรยศพวกนี้ เย่ซิวไม่มีทางปรานีแน่นอนหากเป็นแบบถังต้าไห่ ที่กลับใจและยอมสละทุกอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง เย่ซิวยังอาจไว้ชีวิตให้ได้“ไอ้หนุ่ม แกนี่ช่างอวดดีนัก!”กำปั้นหนึ่งพุ่งตรงมาที่ใบหน้าเขาอย่างจัง“อ๊าก!”ในวินาทีถัดมา เขาก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นเหล่ายอดฝีมือที่ยืนอยู่หน้าประตูต่างหน้าถอดสีกันเป็นแถบ ไม่มีใครทันเห็นด้วยซ้ำว่าเย่ซิวทำอะไรไป“ทุกคนบุกพร้อมกัน!”“ไอ้เด็กนี่ต้องเล่นตุกติกอะไรแน่!”เหล่ายอดฝีมือหลายคนต่างร้องตะโกนและพุ่งเข้าโจมตีเย่ซิวพวกเขาล้วนเป็นจอมยุทธ์ระดับสามถึงสี่แต่น่าเสียดายที่พวกเขาต้องมาเผชิญหน้ากับเย่ซิว!พลั่ก พลั่ก พลั่ก!ไม่มีใครมองเห็นการเคลื่อนไหวของเย่ซิวได้ชัดเจน คนพวกนั้นล้มลงกับพื้น กระดูกแหลกละเอียด ไม่มีทางหายดีได้ภายในปีครึ่งแน่เย่ซิวก้าวเดินไปข้างหน้าไม่ว่าใครจะพยายามขวาง เขาก็จัดการทุกคนราบคาบป
สายตาที่หยิ่งยโสราวกับมองดูมดปลวกนั้น เป็นสายตาแบบเดียวที่พวกเขาใช้มองผู้อื่นอยู่เสมอ“ฉันคงต้องแนะนำตัวเองหน่อย” เย่ซิวเอ่ยเสียงเรียบ “ฉันชื่อเย่ซิ่ว ประมุขรุ่นที่สองแห่งสำนักแพทย์”เพียงประโยคเรียบง่าย แต่กลับดังก้องอยู่ในหูของคนเหล่านี้ดุจสายฟ้าฟาด ทำให้พวกเขาหน้าถอดสีกันอย่างหนัก“ว่าไงนะ?!”“สำนักแพทย์ล่มสลายไปนานแล้ว แกเป็นใครกันแน่!”“ฉันนึกออกแล้ว เมื่อก่อนประมุขเคยมีลูกศิษย์ลับอยู่คนหนึ่ง หรือว่าจะเป็นแก!”…… ผู้อาวุโสทั้งเจ็ดต่างแสดงอาการลนลานอย่างหาดูได้ยากออกมา แต่หลังจากนั้น ทุกคนก็แผ่จิตสังหารอย่างรุนแรงเรื่องราวในวันนั้นเป็นรอยด่างที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเขา เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมีผู้ใดล่วงรู้ได้วันนี้เจ้าหนี้กลับมาตามทวงแล้ว และทางเดียวที่จะหลุดพ้นได้คือการกำจัดเขาทิ้งพวกเขาต่างหันไปมองถังต้าไห่ด้วยแววตาเกรี้ยวกราด“เจ้าคนทรยศ แกจงใจล่อลวงเรามาที่นี่ใช่ไหม!”“ต่อจากนี้ไป สำนักอวิ๋นจือถังต้องล่มจมแน่!”……ถังต้าไห่ได้ยินเช่นนั้นกลับหัวเราะเสียงดัง “พวกแกช่างโง่เขลาเสียจริง เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีมาหลายปี ฉันขอเตือนเลยว่า หากพวกแกถอยกลับตอนนี้ ยังพอมีทา
หยางเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ยังไม่ขอโทษทั้งสองคนอีก”“ขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว” หยางถิงถิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจหยางเฟิงมองไปที่เย่ซิวและอลิส “พวกเธอทั้งสองคน ฉันตั้งใจจะซื้อชุดนี้กลับไปศึกษา หวังว่าจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆช่วงนี้ผมอยากออกแบบเสื้อผ้าแบบใหม่ แต่ก็ไม่มีไอเดียเลยหากทั้งสองคนยอมตัดใจจากชุดนี้ ฉันสามารถให้เงินชดเชยแก่พวกเธอได้นะแม้พวกเธออาจจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่นี่ก็ถือเป็นความจริงใจจากฉัน”ไม่เสียทีที่เป็นผู้สูงอายุที่ผ่านโลกมาหลายสิบปี วิธีการพูดของเขาทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจมากอลิสกำลังจะอ้าปากจะปฏิเสธเธอไม่ขาดแคลนเงินเลย ขอเพียงเธอสามารถทำให้คนที่เธอชอบมีความสุขได้แต่เย่ซิวชิงพูดขึ้นก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไร “ไหน ๆ ผู้อาวุโสก็ทำธุรกิจด้านเสื้อผ้า ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเสื้อผ้าที่เหมาะกับผมบ้างหรือเปล่าครับ ถ้ามีองค์ประกอบของประเทศหลงเถิงก็จะดีมากครับ”ตัวเขาเองเป็นคนประเทศหลงเถิง จะเป็นการดีที่สุดหากเขาได้สวมใส่เสื้อผ้าที่มีองค์ประกอบของประเทศของเขาได้แต่ชุดพิธีการส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักเป็นสไตล์ต่างประเทศหยางเฟิงหัวเราะ “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้ว
“พรึ่ด!”อลิสรู้สึกขบขันไปกับเย่ซิวพลางยกนิ้วโป้งให้เขา “ที่รัก คุณพูดได้ดีมากจริง ๆ”เอ็ดโกรธจนตัวสั่น ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาก่อนแม้เขาจะเป็นเพียงผู้มีพลังวิเศษระดับต่ำสุด แต่สถานะของเขาก็สูงมาก ไปที่ไหนเขาก็เป็นที่เคารพนับถือแต่ตอนนี้เขากำลังถูกเย่ซิวผู้ที่ไม่ได้มีหน้าตาหล่อเหลาอะไรทำให้ขายหน้าต่อหน้าคนมากมาย ใคร ๆ ก็คงจะจินตนาการถึงความโกรธที่อยู่ในใจของเขาได้เขากำหมัดแน่นและแอบรวบรวมพลังวิเศษในร่างกายเพื่อฆ่าคนตรงหน้าต่อหน้าทุกคนเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมไป อลิสจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า “ยังจะรังควานกันไม่เลิกอีกเหรอ? อย่างนั้นฉันจะโทรหาพ่อของฉันเดี๋ยวนี้เลย”สีหน้าของเอ็ดเปลี่ยนไป เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที “อย่า ๆ ๆ ผมจะไปแล้วนี่ไงคุณต้องเชื่อนะว่าผมรักคุณเสมอ ผมก็แค่ทำผิดพลาดเหมือนกับที่ผู้ชายทุกคนในโลกนี้เคยทำ ผมขอตัวก่อน คุณใจเย็น ๆ ล่ะ”พูดจบ เขาก็เดินออกไปข้างนอก และก่อนที่จะออกไป เขาจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาเย็นชาผู้หญิงที่อยู่กับเขาก็รีบตามเขาออกไปด้วยพนักงานขายสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังคงพาคนทั้งสองไปหยุดอยู่ตรงหน้าราวเสื้อผ้าราวกับไม่
เขาสัมผัสได้เพียงเขาที่งอกบนศีรษะ สายตาที่เขามองเย่ซิวราวกับต้องการจะกินหัวอีกฝ่ายเสียให้ได้อลิสยิ้มเยาะ “นายตาบอดเหรอ ไม่เห็นรึไงว่าเขาเป็นแฟนฉัน”“นี่คุณพูดบ้าอะไร เขาเป็นแฟนคุณ แล้วผมล่ะ? พวกเราคบกันมาตั้งหลายปี แต่คุณกลับทรยศผมแบบนี้เนี่ยนะ!”“ทรยศ?” อลิสเองก็โมโหเช่นกัน “นายยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายมีผู้หญิงคนอื่นมานานแค่ไหนแล้ว? นายเป็นคนทรยศฉันก่อน ไม่ใช่ฉันที่ทรยศนาย”ดวงตาของเอ็ดฉายแววตื่นตระหนก เขารีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “อลิส ได้โปรดฟังคำอธิบายของผมก่อน ผมกับเธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นเองนะ”ขณะที่พูด เขาก็รีบดันผู้หญิงที่อยู่ข้างกายออกไปหญิงสาวผู้นี้เองก็รู้ตัวตนของอลิส เธอจึงก้มหัวลงและไม่กล้าพูดอะไรซี้ซั้ว อีกทั้งยังพยายามทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจน้อยที่สุดอลิสพูดอย่างเย็นชา “เรื่องระหว่างเรามันจบไปตั้งแต่วันที่นายทรยศฉันแล้วแล้วนายก็ไม่ได้ผู้หญิงแค่คนเดียว คิดว่าวันนั้นฉันไม่เห็นเหรอว่านายอยู่กับเพื่อนสนิทของฉัน”เอ็ดก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะจับมืออลิส แต่กลับถูกเธอปัดมือทิ้ง“ที่รัก คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมกับเธอแค่คุยกันเรื่องงานเ
เดิมทีเขาจะออกไปอยู่แล้ว แต่เพราะคำถามของอลิส การออกเดินทางจึงล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงอีกทั้งอลิสยังเสียเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการแต่งหน้าใหม่เย่ซิวสงสัยอย่างมากว่าเธอทำมันโดยตั้งใจทั้งสองคนออกไปข้างนอกเหมือนคู่รักทั่ว ๆ ไปอลิสกอดแขนของเย่ซิว ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และอารมณ์ดีสุด ๆเธอขับรถไปยังถนนสายหนึ่งซึ่งมีความคล้ายคลึงกับถนนของประเทศจ้านอิงตี้มากที่แห่งนี้เรียกว่าถนนมหาเศรษฐีสินค้าทุกอย่างที่นี่ล้วนเริ่มต้นที่ห้าแสนบาท ซึ่งมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่สามารถซื้อได้และมักมีหญิงสาวหน้าตาดีแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราเดินไปมาบนถนนสายนี้อยู่เสมอหากเห็นผู้ชายสักคนมาที่นี่ตัวคนเดียวเดินเข้าไปซื้อของในร้านใดร้านหนึ่ง พวกเธอก็จะสร้างความบังเอิญเพื่อพยายามจับสามีรวย ๆแน่นอนว่าย่อมมีผู้ชายที่ต้องการจะหาภรรยาเศรษฐีจากที่นี่ด้วยเธอพูดว่าอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้เย่ซิว แต่หลังจากมาถึงที่นี่ อลิสก็ลากเย่ซิวไปซื้อกระเป๋าหลากยี่ห้อ เครื่องประดับ แม้กระทั่งชุดชั้นใน ทำเอาเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะหลังจากที่ติดตามเธอมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดอลิสก็พาเย่ซิวไปที่ร้านขายเส
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่