เขาไม่ได้จะลงมือทันที แต่เตรียมที่จะสังเกตก่อนผู้คนเริ่มเข้ามากันเรื่อย ๆฉีฉูฉู่แทบจะดึงดูดทุกคนที่เข้ามาในทันทีช่วยไม่ได้ ก็เธอสวยเกินไปน่ะสิ บุคลิกของเธอโดดเด่นมาก ท่าทางสง่าราวกับราชินีสิ่งนี้จะทำให้ผู้ชายบางคนที่คิดว่าตัวเองมีความสามารถเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะพิชิตเธอชายวัยกลางคนในชุดสูทเรียบร้อยไร้ที่ติ เขาเดินเข้าไปพร้อมกับแก้วไวน์ในมือด้วยรูปลักษณ์และรูปร่างที่สมบูรณ์แบบนี่คือผู้ชายที่มีเสน่ห์มากและมีแรงดึงดูดร้ายแรงสำหรับสาวน้อยที่เพิ่งได้สัมผัสความรู้สึกรักครั้งแรก“คนสวย ผมขอดื่มด้วยคนได้ไหม?”ฉีฉูฉู่ไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำ เธอแค่พูดว่า “ออกไป”มองแวบแรก ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นพวกช่ำชองเรื่องโรแมนติก เขาจึงไม่กังวลอะไร และตั้งใจที่จะเปลี่ยนวิธีการเข้าหาใหม่แต่ฉีฉูฉู่ไม่ให้โอกาสเขาเลย เธอยืนขึ้นและเตะเขาจนกระเด็นออกไปตลอดทางนั้นทั้งโต๊ะและเครื่องดื่มถูกกระแทกกระจัดกระจายเป็นชิ้น ๆไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่เธอก็เตะชายคนนั้นต่อหน้าเย่ซิวไปแล้วเย่ซิวกำลังดื่มคนเดียว เขาเอนกายพิงโซฟาพร้อมหลับตาลงครึ่งหนึ่ง ดูไม่แยแสต่อโลก สิ่งนี้ทำให้ฉีฉูฉู่กัดฟันด้วย
“ถ้าคุณช่วยฉันในครั้งนี้ ฉันจะจูบคุณ!”ถ้าผู้ชายคนอื่นได้ยินคำพูดของฉีฉูฉู่พวกเขาคงจะตื่นเต้นมากจนไปไม่เป็นเลยแต่เย่ซิวกลับไม่ได้ดูตื่นเต้นเลยสักนิด และเขาก็พูดในลักษณะที่เกินจริง "นี่คุณคิดจะเอาเปรียบผมหลังจากที่ผมช่วยคุณอย่างนั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!"ฉีฉูฉู่โกรธมากจนแทบจะกระอักเลือดทำไมโลกนี้ถึงมีผู้ชายที่น่ารำคาญแบบนี้กันนะ!เย่ซิวผลักเธอออก และฉีฉูฉู่ก็ต้องฉายเดี่ยวสู้กับกลุ่มชายร่างบึกบึนด้วยตัวเองเย่ซิวเทไวน์อีกแก้วแล้วดื่มช้า ๆ ราวกับว่าเขากำลังชมการแสดงดี ๆฉีฉูฉู่ที่เต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้ว และมื่อเห็นว่าเย่ซิวมองเธอราวกับเป็นธาตุอากาศ เธอก็ยิ่งเดือดดาลขึ้นไปอีกการโจมตีของเธอรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และไม่นาน ทุกคนก็ถูกเธอกวาดเรียบไปกองอยู่บนพื้นหลังจากกลับมาสงบอีกครั้ง เธอก็รู้สึกหงุดหงิดมากและจ้องมองไปที่เย่ซิวอย่างฉุนเฉียวผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้ทำให้แผนของเธอพังไม่เป็นท่าเธอมองดูใบหน้าที่เริงร่าของเย่ซิว และยิ่งเธอมองมันมากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาสมควรโดนอัดสักที และในที่สุดความโกรธของเธอก็กลายเป็นความกล้าไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว หว่านล้อมเขาก่อนแล้วค่อยจัดกา
“ออกไปซะ ฝันไปเถอะ!”จู่ ๆ เย่ซิวก็ยกเท้าขวาของเธอขึ้นในฐานะจอมยุทธ์ระดับห้า ความยืดหยุ่นของร่างกายของเธออยู่เหนือมาตรฐานโดยธรรมชาติเย่ซิวถอดรองเท้าของเธอออกแล้วดึงผมของเธอออกมาสองสามเส้น จากนั้นก็ใช้เส้นผมจักจี้ใต้ฝ่าเท้าของเธอร่างบางของฉีฉูฉู่สั่นไหว และร่างกายของเธอก็บิดเบี้ยวอย่างควบคุมไม่ได้ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบการจักจี้ และฉีฉูฉู่ก็ไม่มีข้อยกเว้นยิ่งกว่านั้นเย่ซิวยังใช้พลังวิญญาณด้วย 'พลังทำลาย' จึงยิ่งมากกว่าเดิมฉีฉูฉู่ทนได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีจากนั้นเธอก็ทนไม่ไหวแล้วและพูดว่า "หยุดได้แล้ว ปล่อยฉัน จักจี้จะตายอยู่แล้ว..."ที่ฝ่าเท้านั้นมีเส้นประสาทมากมาย และหลังจากที่เย่ซิวใช้พลังวิญญาณมันก็ยิ่งทำให้เธอจักจี้ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า“นี่มันไม่ใช่หลักการของจอมยุทธ์เลยสักนิด รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ แน่จริงก็มาสู้กับฉันตัวต่อตัวสิ ฮิ ๆ ๆ...”เธอหัวเราะหนักมากจนน้ำตาแทบจะไหล พร้อมกับสบถด่าเย่ซิวไม่หยุดเธอไม่เคยพูดคำหยาบคายมาก่อน และคำที่เธอสบถด่าไม่หยุดก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อเย่ซิวเลยในทางตรงกันข้าม ตัวเธอต่างหากที่ถูกจักจี้ไม่หยุด และร่างกายของเธอก็แทบจะทรุดลงกับพื้นพร้อมกับหั
หญิงวัยกลางคนคนนี้อาจเป็นคนสมาชิกสุดท้ายของสำนักผาสุกแล้วเนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกของเธอมีข้อจำกัด เธอจึงถูกไม่สามารถใช้เสน่ห์ขัดขวางรัฐบาลได้ด้วยตัวเองเหมือนที่เคยขัดขวางราชสำนักในสมัยโบราณดังนั้นเธอจึงฝากความหวังทั้งหมดไว้กับฉีฉูฉู่ฉีฉูฉู่เปลี่ยนเป็นชุดโยคะที่เน้นรูปร่างของเธอ และนั่งตัวตรง ท่าทีดูตั้งใจฟังหญิงวัยกลางคนเริ่มอธิบายให้เธอฟัง ค่อย ๆ เริ่มจากหลักการพื้นฐานง่าย ๆ ไปสู่หลักการที่ซับซ้อนฉีฉูฉู่ฉลาดมาก เธอจำทุกอย่างได้จากการฟังเพียงครั้งเดียวส่วนเรื่องของเส้นลมปราณในร่างกายและอื่น ๆ ในฐานะที่เป็นจอมยุทธ์ระดับห้า ย่อมมีความชำนาญในเรื่องเหล่านี้มาอย่างยาวนานแล้วหลังจากนั้น หญิงวัยกลางคนได้แนะนำฉีฉูฉู่ให้ฝึกท่าทางต่าง ๆแต่ละท่าก็สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ตั้งขึ้นมาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าเย่ซิวแอบเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ ด้วยความสนใจอย่างมาก และเขาก็ได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากเช่นกันมีหลายท่าทางที่เขาเองก็นึกไม่ถึง ดังนั้นเขาจึงจดจำเอาไว้แล้วไม่รู้ทำไม แต่จู่ ๆ ใบหน้าสวยของหลัวอีอีก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาเย่ซิวส่ายหัวอย่างแรง แอบคิดว่าตัวเองจะทำแบบนี้ไม่ได้เขาหย
สาว ๆ หลายคนไม่อยู่บ้านเพราะออกไปทำงานกันหมดทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเป็นสายของอวี่เฟยเฟยเย่ซิวกดรับสาย และเสียงสดใสราวกับระฆังเงินของอวี่เฟยเฟยที่ก็ดังมาจากปลายสาย "คุณเย่ คุณยุ่งอยู่หรือเปล่า?"“ไม่หรอก ทำไมคุณถึงมีเวลาว่างโทรมาหาผมได้ล่ะ?”อวี่เฟยเฟยยิ้มและพูดว่า "เที่ยวบินของฉันรอบนี้มาที่เมืองหลวงแล้วจะอยู่ที่นี่สักหนึ่งสัปดาห์ ฉันก็เลยสงสัยว่าคุณจะว่างหรือเปล่า ฉันอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อน่ะค่ะ"น้ำเสียงของเธอเจือความกังวลใจเย่ซิวคิดอยู่พักหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ "ได้สิ แล้วตอนนี้คุณอยู่ไหนแล้ว? ผมจะไปหาคุณเอง"“ฉันอยู่ที่ชั้นหนึ่งในซูเปอร์มาร์เก็ตซิงเย่” น้ำเสียงของอวี่เฟยเฟยดูตื่นเต้นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากวางสายแล้ว เย่ซิวก็ขับรถไปที่นั่นที่ชั้นหนึ่งของซูเปอร์มาร์เก็ตซิงเย่ อวี่เฟยเฟยยืนอยู่นั้นด้วยท่าทีสง่างาม ทั้งรู้สึกตื่นเต้นและกังวลนานแล้วที่เธอไม่ได้เจอเย่ซิว เธอจึงใจร้อนขึ้นมานิดหน่อยข้อบกพร่องประการเดียวก็คือ เมื่อเธอออกไปไหนเธอจะถูกเข้าหาเสมอไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เธอยืนอยู่ที่นี่จนถึงตอนนี้ มีผู้ชายหกคนเข้ามาคุยกับเธอเธอไม่มีทางเลือก
อวี่เฟยเฟยพาดเสื้อคลุมของเธอไว้บนเก้าอี้ ก่อนจะแอบเหลือบมองเย่ซิวเมื่อเห็นเขาจ้องมองมา เธอก็รีบก้มหน้าก้มตากินต่อ หัวใจเต้นรัวอย่างประหม่าระหว่างทานอาหารไปได้ครึ่งทาง อวี่เฟยเฟยก็เสนอว่าอยากได้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เย่ซิวไม่ปฏิเสธและขอให้พนักงานเสิร์ฟนำเหล้านารีแดงที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำมาให้เขาสองขวดแอลกอฮอล์ประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้หญิง ค่อนข้างอ่อนและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายอวี่เฟยเฟยรินเครื่องดื่มลงในแก้วของเย่ซิวและแก้วของเธอเอง จากนั้นยกแก้วขึ้น "คุณเย่ แก้วนี้สำหรับมิตรภาพของเราค่ะ หมดแก้ว"หลังจากพูดแล้ว เธอก็เงยหน้าขึ้นและดื่มจนหมดเย่ซิวเองก็ดื่มจนหมดในรวดเดียวเช่นกันแอลกอฮอล์ช่วยร่นระยะห่างของผู้คนใกล้ชิดกันมากได้หลังจากดื่มไปสองสามแก้ว อวี่เฟยเฟยซึ่งค่อนข้างจะสงวนท่าทีในตอนแรกก็ผ่อนคลายลง เธอลุกขึ้นจากที่นั่งของเธอและไปนั่งข้างเย่ซิวเธอพูดด้วยสายตาที่เย้ายวน "มา มาดื่มกันต่อเถอะค่ะ"เย่ซิวกล่าวว่า "เวลาผู้หญิงออกมาข้างนอกไม่ควรดื่มมากเกินไปนะครับ มันจะเกิดปัญหาเอาได้ง่าย ๆ”อวี่เฟยเฟยหัวเราะคิกคักยิ้มแย้ม "ฉันแค่ดื่มเหล้าต่อหน้าคุณเท่านั้น กับผู้ชายคนอื่น ฉั
“ฉัน...ชาตินี้ฉันไม่แต่งงานแล้ว ให้ฉันเป็นภรรยาน้อยของคุณได้ไหม?”“คุณว่างเมื่อไหร่ค่อยมาหาฉัน ฉันเองก็ไม่คาดหวังอะไร ขอแค่ใจของคุณเหลือพื้นที่ว่างให้ฉันแม้ว่าจะเล็กแค่เส้นผมแค่นั้นก็พอแล้ว”เธอมองเย่ซิวด้วยดวงตาที่เศร้าหมองเมื่อเทียบกับการไม่มีสถานะและต้องแบ่งปันเขากับผู้หญิงคนอื่น เธอกลัวที่จะสูญเสียเย่ซิวไปโดยสิ้นเชิงมากกว่าเย่ซิวถอนหายใจ "ทำไมต้องทำขนาดนี้..."อวี่เฟยเฟยกัดริมฝีปาก น้ำตาเอ่อคลอขึ้นในดวงตา "ถ้าคุณไม่ตอบตกลง ฉันจะไปบวชเป็นแม่ชี"น้ำเสียงนั้นหนักแน่นมากเย่ซิวไม่ใช่คนจิตใจโลเลเขาพูดทุกอย่างที่สมควรพูดออกไปแล้ว ถ้าเธอยังเต็มใจที่จะกระโดดเข้ามาในหลุมนี้ เช่นนั้นตัวเขาย่อมไม่อาจทิ้งผักกาดขาวดี ๆ หัวนี้ไปโดยเสียเปล่าได้เขาจับมือของเธอ แล้วชี้ไปที่ถนนฝั่งตรงข้าม “ที่นั่นมีโรงแรมอยู่แห่งหนึ่ง คุณพกบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวมาไหม”อวี่เฟยเฟยหยุดร้องไห้แล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มทันที พร้อมกับพยักหน้าหนักๆ "อื้ม ฉันพกมาด้วย"พอดีเลย วิชาฝึกฝนแบบคู่ที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นใหม่กำลังต้องการเป้าหมายเพื่อทดสอบในโรงแรม อวี่เฟยเฟยกำลังดำเนินการไปตามขั้นตอนแปรงฟัน อาบน้ำ พ่นน้ำ
อวี่เฟยเฟยนั่งตัวตรงทันที "คุณคิดจะทำอะไร?"เย่ซิวพูดอย่างชัดเจนมาก "แน่นอนว่าต้องลงทุนน่ะสิ จากนั้นก็ดันคุณขึ้นไปนั่งในระดับบริหาร แบบนี้จะได้ไม่ต้องวิ่งไปทั่วอีกแล้ว"ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น เย่ซิวย่อมต้องทำบางอย่างเพื่อเธออวี่เฟยเฟยรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก แต่ก็ยังส่ายหัวแล้วพูดไปว่า "ไม่ต้องหรอก แบบนี้สิ้นเปลืองเงินมากเกินไปแล้ว"“ขนาดของบริษัทที่เธออยู่น่าจะไม่ใหญ่มากใช่ไหม ถ้าหาเงินทุนไปให้หนึ่งแสนล้านจะสามารถได้รับหุ้นกี่หุ้น?”อวี่เฟยเฟยอ้าปากกว้างด้วยความตกใจ "หนึ่งแสนล้าน คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเย่ซิวรวย และก็รู้ด้วยว่าเขาขายครีมผิวหยกแต่ทำเงินได้เท่าไหร่กันแน่นั้นเธอไม่รู้สักนิดเดียวในเรื่องเงิน เย่ซิวไม่ได้ปิดบังอะไรจุดประสงค์ในการทำเงินของเขานั้นมีอยู่เพียงสองอย่างเท่านั้นหนึ่งคือเพื่อปลูกสมุนไพรให้มากขึ้น และนำมาใช้ในการบ่มเพาะเลี้ยงดูจอมยุทธ์ยอดฝีมืออีกอย่างก็คือเตรียมการสำหรับพิชิตทุกประเทศในอนาคต“ปัจจุบัน อาศัยเพียงครีมผิวหยกอย่างเดียว ก็สามารถสร้างรายได้มากกว่าหนึ่งหมื่น
หยางเฟิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ยังไม่ขอโทษทั้งสองคนอีก”“ขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว” หยางถิงถิงกล่าวอย่างไม่เต็มใจหยางเฟิงมองไปที่เย่ซิวและอลิส “พวกเธอทั้งสองคน ฉันตั้งใจจะซื้อชุดนี้กลับไปศึกษา หวังว่าจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆช่วงนี้ผมอยากออกแบบเสื้อผ้าแบบใหม่ แต่ก็ไม่มีไอเดียเลยหากทั้งสองคนยอมตัดใจจากชุดนี้ ฉันสามารถให้เงินชดเชยแก่พวกเธอได้นะแม้พวกเธออาจจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่นี่ก็ถือเป็นความจริงใจจากฉัน”ไม่เสียทีที่เป็นผู้สูงอายุที่ผ่านโลกมาหลายสิบปี วิธีการพูดของเขาทำให้คนฟังรู้สึกสบายใจมากอลิสกำลังจะอ้าปากจะปฏิเสธเธอไม่ขาดแคลนเงินเลย ขอเพียงเธอสามารถทำให้คนที่เธอชอบมีความสุขได้แต่เย่ซิวชิงพูดขึ้นก่อนที่เธอจะได้เอ่ยอะไร “ไหน ๆ ผู้อาวุโสก็ทำธุรกิจด้านเสื้อผ้า ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเสื้อผ้าที่เหมาะกับผมบ้างหรือเปล่าครับ ถ้ามีองค์ประกอบของประเทศหลงเถิงก็จะดีมากครับ”ตัวเขาเองเป็นคนประเทศหลงเถิง จะเป็นการดีที่สุดหากเขาได้สวมใส่เสื้อผ้าที่มีองค์ประกอบของประเทศของเขาได้แต่ชุดพิธีการส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักเป็นสไตล์ต่างประเทศหยางเฟิงหัวเราะ “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้ว
“พรึ่ด!”อลิสรู้สึกขบขันไปกับเย่ซิวพลางยกนิ้วโป้งให้เขา “ที่รัก คุณพูดได้ดีมากจริง ๆ”เอ็ดโกรธจนตัวสั่น ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้มาก่อนแม้เขาจะเป็นเพียงผู้มีพลังวิเศษระดับต่ำสุด แต่สถานะของเขาก็สูงมาก ไปที่ไหนเขาก็เป็นที่เคารพนับถือแต่ตอนนี้เขากำลังถูกเย่ซิวผู้ที่ไม่ได้มีหน้าตาหล่อเหลาอะไรทำให้ขายหน้าต่อหน้าคนมากมาย ใคร ๆ ก็คงจะจินตนาการถึงความโกรธที่อยู่ในใจของเขาได้เขากำหมัดแน่นและแอบรวบรวมพลังวิเศษในร่างกายเพื่อฆ่าคนตรงหน้าต่อหน้าทุกคนเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมไป อลิสจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า “ยังจะรังควานกันไม่เลิกอีกเหรอ? อย่างนั้นฉันจะโทรหาพ่อของฉันเดี๋ยวนี้เลย”สีหน้าของเอ็ดเปลี่ยนไป เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที “อย่า ๆ ๆ ผมจะไปแล้วนี่ไงคุณต้องเชื่อนะว่าผมรักคุณเสมอ ผมก็แค่ทำผิดพลาดเหมือนกับที่ผู้ชายทุกคนในโลกนี้เคยทำ ผมขอตัวก่อน คุณใจเย็น ๆ ล่ะ”พูดจบ เขาก็เดินออกไปข้างนอก และก่อนที่จะออกไป เขาจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาเย็นชาผู้หญิงที่อยู่กับเขาก็รีบตามเขาออกไปด้วยพนักงานขายสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังคงพาคนทั้งสองไปหยุดอยู่ตรงหน้าราวเสื้อผ้าราวกับไม่
เขาสัมผัสได้เพียงเขาที่งอกบนศีรษะ สายตาที่เขามองเย่ซิวราวกับต้องการจะกินหัวอีกฝ่ายเสียให้ได้อลิสยิ้มเยาะ “นายตาบอดเหรอ ไม่เห็นรึไงว่าเขาเป็นแฟนฉัน”“นี่คุณพูดบ้าอะไร เขาเป็นแฟนคุณ แล้วผมล่ะ? พวกเราคบกันมาตั้งหลายปี แต่คุณกลับทรยศผมแบบนี้เนี่ยนะ!”“ทรยศ?” อลิสเองก็โมโหเช่นกัน “นายยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านายมีผู้หญิงคนอื่นมานานแค่ไหนแล้ว? นายเป็นคนทรยศฉันก่อน ไม่ใช่ฉันที่ทรยศนาย”ดวงตาของเอ็ดฉายแววตื่นตระหนก เขารีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “อลิส ได้โปรดฟังคำอธิบายของผมก่อน ผมกับเธอเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นเองนะ”ขณะที่พูด เขาก็รีบดันผู้หญิงที่อยู่ข้างกายออกไปหญิงสาวผู้นี้เองก็รู้ตัวตนของอลิส เธอจึงก้มหัวลงและไม่กล้าพูดอะไรซี้ซั้ว อีกทั้งยังพยายามทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจน้อยที่สุดอลิสพูดอย่างเย็นชา “เรื่องระหว่างเรามันจบไปตั้งแต่วันที่นายทรยศฉันแล้วแล้วนายก็ไม่ได้ผู้หญิงแค่คนเดียว คิดว่าวันนั้นฉันไม่เห็นเหรอว่านายอยู่กับเพื่อนสนิทของฉัน”เอ็ดก้าวไปข้างหน้าเพื่อจะจับมืออลิส แต่กลับถูกเธอปัดมือทิ้ง“ที่รัก คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมกับเธอแค่คุยกันเรื่องงานเ
เดิมทีเขาจะออกไปอยู่แล้ว แต่เพราะคำถามของอลิส การออกเดินทางจึงล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงอีกทั้งอลิสยังเสียเวลาอีกครึ่งชั่วโมงในการแต่งหน้าใหม่เย่ซิวสงสัยอย่างมากว่าเธอทำมันโดยตั้งใจทั้งสองคนออกไปข้างนอกเหมือนคู่รักทั่ว ๆ ไปอลิสกอดแขนของเย่ซิว ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และอารมณ์ดีสุด ๆเธอขับรถไปยังถนนสายหนึ่งซึ่งมีความคล้ายคลึงกับถนนของประเทศจ้านอิงตี้มากที่แห่งนี้เรียกว่าถนนมหาเศรษฐีสินค้าทุกอย่างที่นี่ล้วนเริ่มต้นที่ห้าแสนบาท ซึ่งมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่สามารถซื้อได้และมักมีหญิงสาวหน้าตาดีแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราเดินไปมาบนถนนสายนี้อยู่เสมอหากเห็นผู้ชายสักคนมาที่นี่ตัวคนเดียวเดินเข้าไปซื้อของในร้านใดร้านหนึ่ง พวกเธอก็จะสร้างความบังเอิญเพื่อพยายามจับสามีรวย ๆแน่นอนว่าย่อมมีผู้ชายที่ต้องการจะหาภรรยาเศรษฐีจากที่นี่ด้วยเธอพูดว่าอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้เย่ซิว แต่หลังจากมาถึงที่นี่ อลิสก็ลากเย่ซิวไปซื้อกระเป๋าหลากยี่ห้อ เครื่องประดับ แม้กระทั่งชุดชั้นใน ทำเอาเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะหลังจากที่ติดตามเธอมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดอลิสก็พาเย่ซิวไปที่ร้านขายเส
หญิงสาวเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที “นายคิดจะไปทำธุระส่วนตัวงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้นะ พวกเราเป็นสหายร่วมรบกัน นายต้องพาฉันไปด้วยสิ!”“ผมจะไปจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย คุณก็ค่อย ๆ รักษาแผลตัวเองไปแล้วกันนะ ลาก่อน”พูดจบ เย่ซิวก็พังหน้าต่างออกไปพรีเอลล์วิ่งตามไปที่หน้าต่างแต่ก็มองไม่เห็นเงาของเย่ซิวแล้วสีหน้าของเธอขรึมลง จิตสังหารในตัวเธอทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงหลายสิบองศา “คอยดูเถอะไอ้สารเลว ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งฉันจะทำให้แกคายทุกสิ่งที่เคยกินไปออกมา!”เมื่อเย่ซิวกลับมาถึงบ้านของอลิส เธอก็ตื่นแล้วหลังจากที่อลิสตื่นขึ้นมาและพบว่าเย่ซิวหายไป เธอก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรู้สึกจิตตกทันทีเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…ตึง! ตนเองก็รู้สึกแปลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเย่ซิวแท้ ๆแต่เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมา เธอก็รีบวิ่งไปหาเขาทันที “นายไปไหนมา? ฉันนึกว่านายจะไปโดยไม่บอกลากันซะแล้ว”เย่ซิวยิ้มและกล่าวว่า “ผมไปทานข้าวมาน่ะ”อลิสไม่สงสัยแม้แต่น้อยพลางทำท่าทางกระอักระอ่วน “เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดีเอง นายมีเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหม หรือพวกเราควรไปซื้อตอนนี้เลยดี?”เย่ซ
พรีเอลล์เบิกตากว้าง “ฉันลืมอะไรไปเหรอ? อ้อ หรือว่านายอยากให้ฉันนอนกับนายอีกครั้ง? อย่างนั้นก็ได้ มาสิ”พูดจบเธอก็แสดงท่าทียินยอมพร้อมใจเย่ซิวยิ้มหยัน “ยังจะมาแกล้งโง่ต่อหน้าผมอีกเหรอ? เอาสร้อยคอที่คุณเก็บไว้ออกมาให้ผมตรวจดูมูลค่าของมันเถอะ”สีหน้าของพรีเอลล์เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มออกมา “อันนั้น...ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของนายในตอนนี้คงจะสมเหตุสมผล เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน”เย่ซิวไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเธออย่างเงียบ ๆ และบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆเหงื่อเย็นหยดหนึ่งไหลลงมาจากหน้าผากของพรีเอลล์เธอลอบกลืนน้ำลาย ยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ เสียงกลืนน้ำลายนั้นจึงฟังดูแสบแก้วหูเป็นพิเศษ“ก็ได้”ในที่สุด พรีเอลล์ก็ยอมแพ้และวางของลงตรงหน้าอย่างว่าง่ายเย่ซิวหยิบจี้ขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวังลองใช้พลังจิตแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเลยจากนั้นเขาได้ส่งผ่านพลังวิญญาณเข้าไป และจี้นั้นก็ปล่อยแสงอันเจิดจ้าออกมาเย่ซิวรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือ ราวกับกำลังถือดวงอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่ก็ไม่ปานจินตานห้าสีสั่นสะเทือนขึ้นมา เย่ซิวระดมพลังธาตุไฟและส่งผ่านมันเข้าไปตัว
รอจนเย่ซิวได้ลิ้มรสความหวานและติดใจกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้วค่อยบอกวิชาลับอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังได้อย่างรวดเร็วให้เย่ซิวถึงเวลานั้น จอมมารโลหิตก็จะสามารถใช้วิธีนี้ควบคุมเย่ซิวไว้ได้อย่างมั่นคงทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่ความจริงแล้วมันเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้นพวกอันธพาลที่เห็นเย่ซิวนิ่งเฉยก็โกรธจัด ก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่เขาในมือแต่ละคนมีท่อเหล็กพร้อมแววตาที่ฉายแววอำมหิตเย่ซิวได้สติกลับมา ก่อนจะยกมือขวาขึ้นช้า ๆ และใช้วิชาคัมภีร์มารโลหิตทันที!ตูม! ตูม! ตูม!เกิดแรงดูดมหาศาลจากฝ่ามือของเย่ซิว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของชายหนุ่มสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าสยดสยองเลือดสด ๆ ไหลทะลักเข้าสู่ฝ่ามือของเย่ซิวหลังจากผ่านกระบวนการของวิชาคัมภีร์มารโลหิต มันก็แปลงสภาพกลายเป็นพลังวิญญาณบริสุทธิ์เย่ซิวเข้าใจแล้วว่าทำไมคนในยุคโบราณจำนวนมากถึงเลือกเดินบนเส้นทางมาร เพราะมันทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เองเพียงแค่ไม่กี่วินาที พลังวิญญาณที่เขาได้รับมาก็เทียบเท่ากับการบำเพ็ญอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือนหากเขาฆ่าคนในเมืองนี้ทั้งหมด…บางท
“ทำไมถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้? เมื่อกี้ฉันเกือบจะโดนจับได้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ…บ้าจริง”พรีเอลล์ที่อ่อนแรงในอ้อมแขนของเย่ซิวยกสองนิ้วขึ้นมาบิดที่เอวของเขาอย่างแรงถึงแม้เธอจะบาดเจ็บสาหัส แต่แรงบิดของเธอก็ยังเจ็บเอาเรื่องไม่น้อยเย่ซิวยิ้มบาง ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร? หรือไปเจอคนใจบุญช่วยไว้ล่ะ”พรีเอลล์เบือนหน้าไปอีกทาง เธอไม่มีทางยอมบอกหรอกว่า ก่อนหน้านี้เธอเกือบถูกจับได้ แต่ในจังหวะคับขันกลับถูกเลสเบี้ยนคนหนึ่งลากเข้าห้องน้ำไปและโดนผู้หญิงคนนั้นลวนลามไปไม่น้อยเลยถ้าพูดออกไปคงถูกเย่ซิวล้อไม่หยุดแน่“ช่างมัน รีบไปกันเถอะ”เย่ซิวพยุงตัวพรีเอลล์ขึ้นและพาเธอเดินออกจากบาร์ต่อไปยังมีเรื่องที่ต้องจัดการคือการแบ่งสมบัติจากการต่อสู้ครั้งนี้อีกในขณะเดียวกัน เย่ซิวก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพรีเอลล์หนีจากหน่วยรบเขี้ยวพิษจำนวนมากได้อย่างไรทั้งที่เธอบาดเจ็บจากระเบิดและพลังที่เหลืออยู่ก็ลดลงเกือบครึ่ง การหนีรอดออกมาน่าจะเป็นเรื่องยากยิ่งไปกว่านั้น จากสภาพของเธอดูเหมือนจะไม่มีใครจับได้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ ทำให้เย่ซิวยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีกทั้งสองเดินออกจากบาร์ก่อนจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังมา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่