ไม่น่าแปลกใจที่หัวหน้าแผนกหลิวจะคิดเช่นนี้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดในประเทศของบริษัทสายการบินที่เขาอยู่ในตอนนี้ อยู่ที่แค่ห้าแสนล้านบาทเท่านั้นอวี่เฟยเฟย ผู้หญิงที่เพิ่งมาเป็นแอร์โฮสเตสได้ไม่กี่ปี ถึงกับบอกว่าเธอรู้จักเพื่อนบางคนที่อยากจะลงทุนด้วยเงินหนึ่งแสนล้าน!สิ่งนี้ในสายตาของเขา นี่คือเรื่องเพ้อฝันโดยสิ้นเชิงถ้าเธอรู้จักคนใหญ่คนโตแบบนี้ ยังจำเป็นต้องมาทำงานเป็นแอร์โฮสเตสอยู่อีกเหรอ?ส่วนอวี่เฟยเฟยเมื่อได้ยินเช่นนี้ เธอก็โกรธจัด "คำพูดนี้ของคุณหมายความว่ายังไง!"หัวหน้าแผนกหลิวหัวเราะเหอะ ๆ "ฉันนึกว่าเธอไร้เดียงสามาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะเป็นการเสแสร้งทั้งนั้นพวกเรามาเปิดอกแล้วพูดกันตรง ๆ เถอะ มานอนกับฉัน แล้วฉันจะให้เธอครั้งละห้าหมื่นบาท การเลื่อนตำแหน่งในไตรมาสหน้าเองก็จะมีชื่อของเธออยู่ด้วย”อวี่เฟยเฟยโกรธมาก ขณะที่อยากจะพูดอะไรบางอย่างออกไป โทรศัพท์ก็ถูกเย่ซิวแย่งไปแล้วกดวางสายโดยตรงอวี่เฟยเฟยทำหน้าบูดบึ้ง "ไอ้อ้วนนี่น่ารังเกียจจริง ๆ กล้าดียังไงมาดูหมิ่นฉันแบบนี้!"ตอนนี้เอง อีกฝ่ายก็โทรมาอีกครั้ง และเย่ซิวก็กดตัดสายอีกครั้งจากนั้นอีกฝ่ายก็ส่งข้อความมา‘เธอกล้
ผู้ที่มีศักยภาพในการลงทุนแน่นอนว่าจะเลือกบริษัทที่มีอันดับสูงกว่าและทำกำไรได้มากกว่าชายวัยกลางคนถามอย่างระมัดระวัง "ไม่ทราบว่าคุณเย่วางแผนลงทุนเท่าไหร่ครับ สามพันล้าน?"เย่ซิวยิ้ม "คุณดูถูกผมมากเกินไปแล้ว เดาสูงอีกหน่อย"“แปด...แปดพันล้าน?”“เดาให้สูงกว่านี้อีก”ชายวัยกลางคนกลืนน้ำลายอย่างหนัก "หรือว่าจะเป็น...สองหมื่นล้านบาท?"เย่ซิวขี้เกียจที่จะเล่นทายปริศนากับเขาอีกต่อไป จึงพูดไปตรง ๆ "หนึ่งแสนล้าน"ปึก!มือของชายวัยกลางคนสั่น โทรศัพท์ร่วงลงไปที่พื้นโดยตรงเขารีบร้อนเก็บมันขึ้นมา สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หลายต่อหลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ของเขา จากนั้นถึงพูดไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "คุณเย่ คุณคงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"“คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”ชายวัยกลางคนปลื้มปีติในทันที รู้สึกเหมือนกับถูกพายขนาดยักษ์ร่วงลงมาใส่จากบนท้องฟ้า พูดไปอย่างงุนงงว่า “คุณเย่ คุณสะดวกเมื่อไหร่ครับ ผมจะไปพบคุณด้วยตัวเอง"“ไม่ต้องหรอก คุณแค่ตอบผมมาว่าทางคุณยอมรับการจัดหาเงินทุนหรือไม่ ถ้ารับ พรุ่งนี้ผมจะส่งคนไปหารือเรื่องรายละเอียดกับคุณเลย”“รับสิครับ รับแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์!”ชายวัยกลางคนตอบตกลงอย่างรว
“ท่านจอมยุทธ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย...”อวี่เฟยเฟยวิงวอน ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเย่ซิวแข็งแกร่งเกินไปจริง ๆ เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาสักนิดในเวลานี้ เธอชักดีใจแล้วที่ตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเย่ซิว ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่อาจรับมันไหวเย่ซิวหยุด จากนั้นรับรู้ถึงพลังวิญญาณของตัวเองที่เพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย ก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมากก็อก ก็อก ก็อก...ตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูก็ดังส่งมาจากด้านนอกพร้อม ๆ กับเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เล็กน้อยของหัวหน้าแผนกหลิว "คุณเย่ คุณอยู่ไหมครับ?"หลังจากถูกเจ้านายด่ากราดมา ในที่สุดเขาก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ได้แล้วจากนั้นก็ไม่มีแก่ใจแม้แต่จะสวมใส่เสื้อผ้า ขับรถตัดฝ่าไฟแดงหลายสิบดวงและบึ่งมาถึงที่นี่ภายในเวลาเพียงยี่สิบกว่านาทีภายในห้อง เย่ซิวกอดอวี่เฟยเฟย ก่อนพาเธอไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำด้วยกันก่อน ทิ้งอีกฝ่ายไว้ข้างนอกหัวหน้าแผนกหลิวคนนั้นกำลังคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ปาดเหงื่อเย็นที่ไหลออกมาจากใบหน้าไม่หยุด และไม่กล้าขยับตัวจากก้นบึ้งหัวใจเขาคุกเข่านานมากกว่าหนึ่งชั่วโมง จนกระทั่งขาชาแล้ว ประตูถึงได้เปิดออกอวี่เ
เธอลุกขึ้นอย่างเชื่อฟังไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ชื่นชอบผู้หญิงแบบนี้ทั้งสองเดินออกจากโรงแรมด้วยกัน เขาเตรียมบอดี้การ์ดให้ไปส่งอวี่เฟยเฟยกลับโรงแรมไม่นานหลังจากนั้น สวีอิงก็ขับรถสปอร์ตสุดหรูมูลค่านับร้อยล้านเข้ามามันดึงดูดสายตาที่อิจฉาและน่าทึ่งของผู้คนมากมายในทันทีนอกจากนี้ยังมีผู้หญิงแต่งตัวสวยอีกหลายคน แสดงอาการอยากเข้ามาคุยด้วยอย่างออกนอกหน้าสวีอิงลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูด้วยความเคารพผู้หญิงเหล่านั้นต่างพากันผิดหวัง ที่ไหนได้ก็แค่คนขับรถคนหนึ่งแต่แล้วดวงตาของพวกเธอเป็นประกายเมื่อได้เห็นเย่ซิวหนุ่มคนนี้หน้าตาหล่อเหลา แถมยังรวยมากด้วยเหรอนี่?พวกเธอทนไม่ไหวรีบกรูเข้าไปเหมือนฝูงผึ้งเย่ซิวส่ายหัวพร้อมร่ายคาถาอย่างลับ ๆ ทันใดนั้นเองเกิดลมพัดแรงจากพื้นแล้วไปหยุดพวกเธอไว้ เขาถึงสามารถขับหนีออกไปได้ขณะขับรถ สวีอิงมองกระจกหลังแล้วพูดว่า "นายท่านครับ ผมมีน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ปีนี้อายุสิบแปดปี ยังไม่มีแฟน เธอสวยมาก อยากให้เธอมารับใช้ท่านหรือไม่ครับ?"เย่ซิวส่ายหัว "ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง"“ครับ”สวีอิงไม่ได้พูดอะไรอีก จดจ่อกับการขับรถไปเย่ซิวหยิบขวดยาโบราณ ๆ ที่อ
“พูดมาก!” เย่ซิวตะคอกอย่างเย็นชา สายตาราวกับสายฟ้า “ผมจะทำอย่างไรมันก็เรื่องของผม พวกคุณไม่ต้องมายุ่ง!”พวกสวีลู่ทั้งสามคนถูกด่าต่อหน้าสาธารณชน สีหน้าของพวกเขาน่าเกลียดมากสวีอิงหัวเราะเบา ๆ เขาบูชาเย่ซิวถึงขั้นหูหนวกตาบอดไปแล้วเขาเดินไปเคาะประตูโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเย่ซิวเอามือไพล่หลังเดินตามไปอย่างช้า ๆ สวีหู่มองตามหลังเย่ซิวแล้วถ่มน้ำลายลงพื้น "ทำเป็นเก๊ก ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะได้เจอตาแก่หัวแข็งคนนั้นได้!"สวีฉงเห็นด้วย "ใช่ ๆ เขาคงคิดว่าไม่มีอะไรที่ตัวเองจะทำไม่ได้!"สวีลู่มีความสุขบนความทุกข์คนอื่น "ฉันอยากเห็นว่าเขาจะหน้าแตกแค่ไหนหลังถูกไล่ออกมา!"เพราะพวกเขาทั้งสามใช้ทุกวิถีทางแล้ว จึงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ซึ่งมันยากที่จะเชื่อว่าเย่ซิวจะได้เจอกับเจ้าของสำนักอวิ๋นจือถังได้ก๊อก ก๊อก ก๊อก!สวีอิงเคาะประตูไม่เบาไม่แรงหลังจากนั้นไม่นาน ผู้สูงอายุก็เปิดประตูอีกครั้งด้วยสีหน้าไม่พอใจ "ฉันพูดไปหลายครั้งแล้วว่านายท่านไม่รับแขก!ถ้ามารบกวนอีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจล่ะ!”กลิ่นอายอันทรงพลังระเบิดออกมาจากตัวเขา คาดไม่ถึงว่าจะเป็นถึงปรมาจารย์!เย่ซิวยืนเอามือไพล่หลัง ท่าทีเยือกเย
สมัยก่อน ขนาดเป็นระดับผู้ทรงอิทธิพลพวกนั้นมาเยี่ยมเยียน เขาล้วนไม่แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนให้ใคร“คุณปู่ ช้า ๆ หน่อย รอหนูด้วย!”เด็กสาวรีบวิ่งตามไปเพราะกลัวว่าจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับเขาเย่ซิวรออย่างเงียบ ๆ อยู่นอกประตูพวกสวีลู่ทั้งสามคนหัวเราะคิกคักที่ได้เห็นเย่ซิวขายหน้าแต่ไม่นานพวกเขาก็หัวเราะไม่ออก เพราะฉากที่เกิดขึ้นต่อมาส่งผลกระทบพวกเขาอย่างรุนแรงผู้สูงอายุผมหงอก หน้าตาธรรมดา ๆ วิ่งออกมาแน่นอนว่าพวกเขารู้จักผู้สูงอายุคนนี้ผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของสำนักอวิ๋นจือถัง เขาคือถังต้าไห่!เขาถามโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ของตนเองหลังจากที่วิ่งออกมา "เมื่อกี้ใครเป็นคนพูดถึงผงจินหลิง?"“ผมเอง” เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น "เข้าไปคุยด้านในกันเถอะ"ถังต้าไห่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาหันหลบหลีกให้เย่ซิวเดินนำไปก่อนหนึ่งก้าวเมื่อคนรับใช้สูงอายุและหลานสาวเห็นสิ่งนี้ต่างก็ตกใจมากจนคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอนไปแล้วส่วนพวกสวีลู่ทั้งสามคนพากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า?”“คาดไม่ถึงว่าคุณท่านจะออกมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง!”“เป็นไปได้ยังไง!”…… ในลานบ้าน ถังต้าไห่เดิน
“ท่านอาจารย์รับคุณไว้เป็นศิษย์แค่ในนามเท่านั้น ดังนั้นคุณไม่มีสิทธิ์เรียกผมว่าศิษย์น้องเล็ก”เย่ซิวหาเก้าอี้นั่งอย่างใจเย็นและพูดต่ออย่างเย็นชา "เห็นแก่ความสำนึกผิดของคุณ ผมจะไม่ฆ่าคุณ แต่มีเงื่อนไขสองประการ"ทันใดนั้นถังต้าไห่เงยหน้าขึ้นแล้วพูดด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง "ได้โปรดบอกฉันมาเถอะ ฉันทำได้แน่นอน"“ประการแรก ทรัพย์สินในชื่อของคุณทั้งหมด คุณเก็บไว้เองหนึ่งร้อยล้าน ส่วนที่เหลือให้โอนมาเป็นชื่อของผม”ทุกสิ่งที่เขามีในวันนี้ล้วนได้รับมาจากท่านอาจารย์ของเขาทั้งสิ้น เย่ซิวจึงมีสิทธิ์ที่จะเอามันกลับคืนมาถังต้าไห่พยักหน้าโดยไม่ลังเล "ตกลง!"ลูกชายคนเดียวของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาเป็นห่วงคือหลานสาวที่อยู่ด้านนอกแม้ว่าจะมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับเย่ซิวแล้ว แต่ด้วยการที่เขามีเส้นสายที่กว้างขวางมานานหลายปี นั่นก็สามารถทําให้หลานสาวมีอนาคตที่ดีได้แล้วประกอบกับเพื่อที่ตัวเองจะได้มีชีวิตรอด แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว“เงื่อนไขที่สองคือ คุณน่าจะรู้ที่อยู่ของคนทรยศคนอื่น ๆ ในตอนนั้น”“ฉันรู้” ถังต้าไห่พยักหน้า "โปรดให้เวลาฉันสักเดือน ฉันจะ
“เมื่อมันประสบความสำเร็จ แม้จะมีแค่สิบตัวในสนามรบ ก็สามารถต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยอดฝีมือระดับปรมาจารย์หนึ่งคนเชียวนะคะ!”เย่ซิวเริ่มอยากรู้อยากเห็น และประหลาดใจเล็กน้อย "ผู้หญิงอย่างเธอทำไมอยากที่จะทำสิ่งเหล่านี้ล่ะ?"“เป็นผู้หญิงแล้วมันทำไมคะ” ถังเขอเข่อเงยหน้าขึ้นพูดอย่างใส่อารมณ์ "ฉันชอบเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็กและศึกษามันมาหลายปีแล้วค่ะ”“ขอแค่คุณให้เวลาฉันอีกสักหน่อย ฉันจะทำมันให้สำเร็จอย่างแน่นอน ผลกำไรและชื่อเสียงที่ฉันจะได้รับเมื่อถึงตอนนั้น จะเกินความคาดหมายของคุณแน่!”แน่นอนว่าถ้ามันเป็นไปตามที่เธออธิบายจริง ๆ มันจะไม่เพียงแค่เรื่องผลกำไรและชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนโครงสร้างโลกทั้งใบได้ด้วย!เพราะท้ายที่สุดแล้ว จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีประเทศใดในโลกที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวิจัยหุ่นยนต์หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เย่ซิวพูดว่า "เอาแบบนี้ เธอพาฉันไปดูก่อน ถ้ามันดูแล้วมีคุณค่า ฉันจะลงทุนให้"ถังเขอเข่ออุทาน "จริงหรือเปล่าคะ คุณมีเงินเท่าไหร่?"“มีมารยาทหน่อย!” ถังต้าไห่มองดูอยู่ข้าง ๆด้วยความกังวล จึงอดไม่ได้ที่จะตักเตือนหลานสาว "เรียกเขาว่านายน้อย ถ
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด
"ตอนนี้คุณมีแฟนหรือยัง?"เมื่อได้ยินแบบนี้ ชูตงก็รู้สึกรังเกียจเธอแอบคิดว่าเย่ซิวประธานใหญ่คนนี้ ดูเหมือนจะซื่อตรงและมีเกียรติ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก็เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆหลายคนเคยถามคำถามนี้กับเธอเธอรู้ตัวดีว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากจริง ๆแม้ในใจจะดูแคลน แต่สีหน้ากลับไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย “เรียนท่านประธานคะ มีแล้วค่ะ เป็นคนที่บ้านแนะนำมา ในอีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปหมั้นกันแล้ว”เย่ซิวขานรับอืมหนึ่งที "อืม ออกไปทำงานเถอะ"ชูตงตกตะลึงไปครู่หนึ่งเธอนึกว่าเย่ซิวจะขอให้เธอเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาแต่เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ยังไม่อยากลาออก อยู่ที่นี่เธอทำงานอย่างมีความสุขมากเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์บริหารงานเข้มงวด จึงไม่มีความน่ารังเกียจทุกประเภทที่พบในที่ทำงานภายนอกปรากฏขึ้นที่นี่หลังจากที่เธอออกไป เย่ซิวก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของเซี่ยซิ่วซิ่ว เปิดรายชื่อพนักงาน และพบข้อมูลของชูตงเธอมาจากชนบทและเพิ่งจะเรียนจบ แต่กลับเปลี่ยนงานมามากกว่าสิบตำแหน่งแล้วในเรซูเม่ระบุว่างานเหล่านั้นทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ประธานหรือหัวหน้างาน
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างด่าบริษัทเครื่องสำอางเหล่านั้นอย่างสาดเสียเทเสียว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็เลยใช้ไม้แข็ง ไร้ศีลธรรมมากเกินไปแล้วเมื่อสักครู่นี้เพิ่งมีข่าวส่งมา ว่ามีผู้คนหลายหมื่นคนของประเทศอวี้ไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา"เย่ซิวเตือนไปหนึ่งประโยค "ผลกำไรของเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ต้นทุนที่เพิ่มมาก็ปล่อยให้พวกเขาไปแบกรับแทนอย่างไรเสียพวกเราคือ 'เหยื่อ' และหากมีคำด่าทออะไรก็ให้บริษัทของแต่ละประเทศไปแบกรับกันเอาเอง"เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มอย่างมีความสุขมาก "อืม ฉันรู้แล้วเว้นเสียแต่ประเทศต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้ผู้คนเดินทางไปยังประเทศอวี้ ธุรกิจของเราก็จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก"แต่มันไม่สมจริงเลยที่จะห้ามไม่ให้ผู้คนไปที่ประเทศอวี้ประเทศอวี้เป็นประเทศที่เป็นกลางอย่างยิ่ง ได้รับการคุ้มครองจากหลายร้อยประเทศ แถมยังเป็นเขตปลอดภาษีอีกด้วยใครก็ตามที่แบนมัน จะต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงแน่นอน“จริงสิ ชิงชิงจะมาถึงบ่ายวันนี้ ฉันจะไปรับเธอ นายจะไปไหม?”เกี่ยวกับเซี่ยชิงชิง เซี่ยซิ่วซิ่วบอกเขาเมื่อวานนี้ตอนนี้ตัวหมากนี้มีผลต่อเย่ซิวไม่มากแล้วบวกกับหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วติดตามเขาเธอก็ทำง
“นาย...นายท่าน...”ภายใต้การล่อลวงอย่างต่อเนื่องของเย่ซิว น่าหลันเยียนหรานมีเพียง 'ยอมแพ้' ในที่สุดนอกจากความเขินอายที่มีอยู่ น่าหลันเยียนหรานยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่พิเศษมาก ซึ่งมาจากก้นบึ้งของหัวใจ นั่นคือความรู้สึกถูกครอบงำที่แสนประหลาด!หลังจากบำเพ็ญตนจนถึงเที่ยงคืน น่าหลันเยียนหรานก็หลับสนิทไประหว่างที่หลับ ร่างกายของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาก็จะขึ้นเป็นปรมาจารย์ทั้งหมดแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ออกหน้า แต่ผู้หญิงข้างกายเขาเหล่านี้ก็สามารถครองยุทธภพเย่ซิวไม่ได้พักผ่อน แต่นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆ น่าหลันเยียนหราน หยิบสุราวิญญาณออกมาดื่มอึกใหญ่ แล้วใช้วิชายุทธเริ่มปรับแต่งมันอย่างเงียบ ๆตอนนี้เป้าหมายของเขาคือการเข้าสู่ขั้นอมตะให้เร็วที่สุด แบบนี้ถึงจะสามารถรู้ความหมายของคำพูดที่หยางชิงเสวี่ยพูดไว้ว่าถ้าเขาได้เธอ ก็จะได้ครอบครองพลังที่ทรงพลังมากเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อน่าหลันเยียนหรานตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีพลังไหลไปทั่วทั้งร่างกาย หูและสายตาของเธอเฉียบคมขึ้น สภาพดีชนิดที่ว่าเมื่อก่อนเทียบไม่ติด“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเย่”
น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค