ผู้ที่มีศักยภาพในการลงทุนแน่นอนว่าจะเลือกบริษัทที่มีอันดับสูงกว่าและทำกำไรได้มากกว่าชายวัยกลางคนถามอย่างระมัดระวัง "ไม่ทราบว่าคุณเย่วางแผนลงทุนเท่าไหร่ครับ สามพันล้าน?"เย่ซิวยิ้ม "คุณดูถูกผมมากเกินไปแล้ว เดาสูงอีกหน่อย"“แปด...แปดพันล้าน?”“เดาให้สูงกว่านี้อีก”ชายวัยกลางคนกลืนน้ำลายอย่างหนัก "หรือว่าจะเป็น...สองหมื่นล้านบาท?"เย่ซิวขี้เกียจที่จะเล่นทายปริศนากับเขาอีกต่อไป จึงพูดไปตรง ๆ "หนึ่งแสนล้าน"ปึก!มือของชายวัยกลางคนสั่น โทรศัพท์ร่วงลงไปที่พื้นโดยตรงเขารีบร้อนเก็บมันขึ้นมา สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หลายต่อหลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ของเขา จากนั้นถึงพูดไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "คุณเย่ คุณคงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"“คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”ชายวัยกลางคนปลื้มปีติในทันที รู้สึกเหมือนกับถูกพายขนาดยักษ์ร่วงลงมาใส่จากบนท้องฟ้า พูดไปอย่างงุนงงว่า “คุณเย่ คุณสะดวกเมื่อไหร่ครับ ผมจะไปพบคุณด้วยตัวเอง"“ไม่ต้องหรอก คุณแค่ตอบผมมาว่าทางคุณยอมรับการจัดหาเงินทุนหรือไม่ ถ้ารับ พรุ่งนี้ผมจะส่งคนไปหารือเรื่องรายละเอียดกับคุณเลย”“รับสิครับ รับแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์!”ชายวัยกลางคนตอบตกลงอย่างรว
“ท่านจอมยุทธ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย...”อวี่เฟยเฟยวิงวอน ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเย่ซิวแข็งแกร่งเกินไปจริง ๆ เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาสักนิดในเวลานี้ เธอชักดีใจแล้วที่ตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเย่ซิว ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่อาจรับมันไหวเย่ซิวหยุด จากนั้นรับรู้ถึงพลังวิญญาณของตัวเองที่เพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย ก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมากก็อก ก็อก ก็อก...ตอนนี้เอง เสียงเคาะประตูก็ดังส่งมาจากด้านนอกพร้อม ๆ กับเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เล็กน้อยของหัวหน้าแผนกหลิว "คุณเย่ คุณอยู่ไหมครับ?"หลังจากถูกเจ้านายด่ากราดมา ในที่สุดเขาก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ได้แล้วจากนั้นก็ไม่มีแก่ใจแม้แต่จะสวมใส่เสื้อผ้า ขับรถตัดฝ่าไฟแดงหลายสิบดวงและบึ่งมาถึงที่นี่ภายในเวลาเพียงยี่สิบกว่านาทีภายในห้อง เย่ซิวกอดอวี่เฟยเฟย ก่อนพาเธอไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำด้วยกันก่อน ทิ้งอีกฝ่ายไว้ข้างนอกหัวหน้าแผนกหลิวคนนั้นกำลังคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ปาดเหงื่อเย็นที่ไหลออกมาจากใบหน้าไม่หยุด และไม่กล้าขยับตัวจากก้นบึ้งหัวใจเขาคุกเข่านานมากกว่าหนึ่งชั่วโมง จนกระทั่งขาชาแล้ว ประตูถึงได้เปิดออกอวี่เ
เธอลุกขึ้นอย่างเชื่อฟังไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ชื่นชอบผู้หญิงแบบนี้ทั้งสองเดินออกจากโรงแรมด้วยกัน เขาเตรียมบอดี้การ์ดให้ไปส่งอวี่เฟยเฟยกลับโรงแรมไม่นานหลังจากนั้น สวีอิงก็ขับรถสปอร์ตสุดหรูมูลค่านับร้อยล้านเข้ามามันดึงดูดสายตาที่อิจฉาและน่าทึ่งของผู้คนมากมายในทันทีนอกจากนี้ยังมีผู้หญิงแต่งตัวสวยอีกหลายคน แสดงอาการอยากเข้ามาคุยด้วยอย่างออกนอกหน้าสวีอิงลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูด้วยความเคารพผู้หญิงเหล่านั้นต่างพากันผิดหวัง ที่ไหนได้ก็แค่คนขับรถคนหนึ่งแต่แล้วดวงตาของพวกเธอเป็นประกายเมื่อได้เห็นเย่ซิวหนุ่มคนนี้หน้าตาหล่อเหลา แถมยังรวยมากด้วยเหรอนี่?พวกเธอทนไม่ไหวรีบกรูเข้าไปเหมือนฝูงผึ้งเย่ซิวส่ายหัวพร้อมร่ายคาถาอย่างลับ ๆ ทันใดนั้นเองเกิดลมพัดแรงจากพื้นแล้วไปหยุดพวกเธอไว้ เขาถึงสามารถขับหนีออกไปได้ขณะขับรถ สวีอิงมองกระจกหลังแล้วพูดว่า "นายท่านครับ ผมมีน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ปีนี้อายุสิบแปดปี ยังไม่มีแฟน เธอสวยมาก อยากให้เธอมารับใช้ท่านหรือไม่ครับ?"เย่ซิวส่ายหัว "ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง"“ครับ”สวีอิงไม่ได้พูดอะไรอีก จดจ่อกับการขับรถไปเย่ซิวหยิบขวดยาโบราณ ๆ ที่อ
“พูดมาก!” เย่ซิวตะคอกอย่างเย็นชา สายตาราวกับสายฟ้า “ผมจะทำอย่างไรมันก็เรื่องของผม พวกคุณไม่ต้องมายุ่ง!”พวกสวีลู่ทั้งสามคนถูกด่าต่อหน้าสาธารณชน สีหน้าของพวกเขาน่าเกลียดมากสวีอิงหัวเราะเบา ๆ เขาบูชาเย่ซิวถึงขั้นหูหนวกตาบอดไปแล้วเขาเดินไปเคาะประตูโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเย่ซิวเอามือไพล่หลังเดินตามไปอย่างช้า ๆ สวีหู่มองตามหลังเย่ซิวแล้วถ่มน้ำลายลงพื้น "ทำเป็นเก๊ก ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะได้เจอตาแก่หัวแข็งคนนั้นได้!"สวีฉงเห็นด้วย "ใช่ ๆ เขาคงคิดว่าไม่มีอะไรที่ตัวเองจะทำไม่ได้!"สวีลู่มีความสุขบนความทุกข์คนอื่น "ฉันอยากเห็นว่าเขาจะหน้าแตกแค่ไหนหลังถูกไล่ออกมา!"เพราะพวกเขาทั้งสามใช้ทุกวิถีทางแล้ว จึงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี ซึ่งมันยากที่จะเชื่อว่าเย่ซิวจะได้เจอกับเจ้าของสำนักอวิ๋นจือถังได้ก๊อก ก๊อก ก๊อก!สวีอิงเคาะประตูไม่เบาไม่แรงหลังจากนั้นไม่นาน ผู้สูงอายุก็เปิดประตูอีกครั้งด้วยสีหน้าไม่พอใจ "ฉันพูดไปหลายครั้งแล้วว่านายท่านไม่รับแขก!ถ้ามารบกวนอีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจล่ะ!”กลิ่นอายอันทรงพลังระเบิดออกมาจากตัวเขา คาดไม่ถึงว่าจะเป็นถึงปรมาจารย์!เย่ซิวยืนเอามือไพล่หลัง ท่าทีเยือกเย
สมัยก่อน ขนาดเป็นระดับผู้ทรงอิทธิพลพวกนั้นมาเยี่ยมเยียน เขาล้วนไม่แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนให้ใคร“คุณปู่ ช้า ๆ หน่อย รอหนูด้วย!”เด็กสาวรีบวิ่งตามไปเพราะกลัวว่าจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับเขาเย่ซิวรออย่างเงียบ ๆ อยู่นอกประตูพวกสวีลู่ทั้งสามคนหัวเราะคิกคักที่ได้เห็นเย่ซิวขายหน้าแต่ไม่นานพวกเขาก็หัวเราะไม่ออก เพราะฉากที่เกิดขึ้นต่อมาส่งผลกระทบพวกเขาอย่างรุนแรงผู้สูงอายุผมหงอก หน้าตาธรรมดา ๆ วิ่งออกมาแน่นอนว่าพวกเขารู้จักผู้สูงอายุคนนี้ผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของสำนักอวิ๋นจือถัง เขาคือถังต้าไห่!เขาถามโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์ของตนเองหลังจากที่วิ่งออกมา "เมื่อกี้ใครเป็นคนพูดถึงผงจินหลิง?"“ผมเอง” เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น "เข้าไปคุยด้านในกันเถอะ"ถังต้าไห่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาหันหลบหลีกให้เย่ซิวเดินนำไปก่อนหนึ่งก้าวเมื่อคนรับใช้สูงอายุและหลานสาวเห็นสิ่งนี้ต่างก็ตกใจมากจนคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอนไปแล้วส่วนพวกสวีลู่ทั้งสามคนพากันอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า?”“คาดไม่ถึงว่าคุณท่านจะออกมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง!”“เป็นไปได้ยังไง!”…… ในลานบ้าน ถังต้าไห่เดิน
“ท่านอาจารย์รับคุณไว้เป็นศิษย์แค่ในนามเท่านั้น ดังนั้นคุณไม่มีสิทธิ์เรียกผมว่าศิษย์น้องเล็ก”เย่ซิวหาเก้าอี้นั่งอย่างใจเย็นและพูดต่ออย่างเย็นชา "เห็นแก่ความสำนึกผิดของคุณ ผมจะไม่ฆ่าคุณ แต่มีเงื่อนไขสองประการ"ทันใดนั้นถังต้าไห่เงยหน้าขึ้นแล้วพูดด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง "ได้โปรดบอกฉันมาเถอะ ฉันทำได้แน่นอน"“ประการแรก ทรัพย์สินในชื่อของคุณทั้งหมด คุณเก็บไว้เองหนึ่งร้อยล้าน ส่วนที่เหลือให้โอนมาเป็นชื่อของผม”ทุกสิ่งที่เขามีในวันนี้ล้วนได้รับมาจากท่านอาจารย์ของเขาทั้งสิ้น เย่ซิวจึงมีสิทธิ์ที่จะเอามันกลับคืนมาถังต้าไห่พยักหน้าโดยไม่ลังเล "ตกลง!"ลูกชายคนเดียวของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาเป็นห่วงคือหลานสาวที่อยู่ด้านนอกแม้ว่าจะมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับเย่ซิวแล้ว แต่ด้วยการที่เขามีเส้นสายที่กว้างขวางมานานหลายปี นั่นก็สามารถทําให้หลานสาวมีอนาคตที่ดีได้แล้วประกอบกับเพื่อที่ตัวเองจะได้มีชีวิตรอด แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว“เงื่อนไขที่สองคือ คุณน่าจะรู้ที่อยู่ของคนทรยศคนอื่น ๆ ในตอนนั้น”“ฉันรู้” ถังต้าไห่พยักหน้า "โปรดให้เวลาฉันสักเดือน ฉันจะ
“เมื่อมันประสบความสำเร็จ แม้จะมีแค่สิบตัวในสนามรบ ก็สามารถต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยอดฝีมือระดับปรมาจารย์หนึ่งคนเชียวนะคะ!”เย่ซิวเริ่มอยากรู้อยากเห็น และประหลาดใจเล็กน้อย "ผู้หญิงอย่างเธอทำไมอยากที่จะทำสิ่งเหล่านี้ล่ะ?"“เป็นผู้หญิงแล้วมันทำไมคะ” ถังเขอเข่อเงยหน้าขึ้นพูดอย่างใส่อารมณ์ "ฉันชอบเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็กและศึกษามันมาหลายปีแล้วค่ะ”“ขอแค่คุณให้เวลาฉันอีกสักหน่อย ฉันจะทำมันให้สำเร็จอย่างแน่นอน ผลกำไรและชื่อเสียงที่ฉันจะได้รับเมื่อถึงตอนนั้น จะเกินความคาดหมายของคุณแน่!”แน่นอนว่าถ้ามันเป็นไปตามที่เธออธิบายจริง ๆ มันจะไม่เพียงแค่เรื่องผลกำไรและชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนโครงสร้างโลกทั้งใบได้ด้วย!เพราะท้ายที่สุดแล้ว จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีประเทศใดในโลกที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวิจัยหุ่นยนต์หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เย่ซิวพูดว่า "เอาแบบนี้ เธอพาฉันไปดูก่อน ถ้ามันดูแล้วมีคุณค่า ฉันจะลงทุนให้"ถังเขอเข่ออุทาน "จริงหรือเปล่าคะ คุณมีเงินเท่าไหร่?"“มีมารยาทหน่อย!” ถังต้าไห่มองดูอยู่ข้าง ๆด้วยความกังวล จึงอดไม่ได้ที่จะตักเตือนหลานสาว "เรียกเขาว่านายน้อย ถ
สวีลู่อายุราวสามสิบกว่า รูปร่างหน้าตาให้แปดเต็มสิบเมื่อเธอวิ่งเหยาะ ๆ มันช่างเป็นทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งที่เธอเหนือกว่าสวีฉงกับสวีหู่ก็คือเธอเป็นผู้หญิง เธอสามารถใช้ข้อได้เปรียบนี้ในช่วงเวลาสำคัญ ๆ ได้เธอวิ่งไปหาเย่ซิวแล้วพูดเบา ๆ "คุณเย่ ฉันมียาดองงูเก็บไว้หนึ่งขวด เป็นยาบำรุงชั้นเลิศ คุณสนใจลองชิมไหมคะ?"ตอนนี้ที่สวีอิงจะกลายเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยสวีลู่รู้ดีว่าทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะเย่ซิวการผูกมิตรกับเย่ซิวในตอนนี้เท่ากับเป็นการลดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นอาจได้รับผลประโยชน์ด้วยซ้ำหัวใจของเย่ซิวสั่นไหวตอนนี้เขาต้องการสิ่งที่อุดมไปด้วยพลังงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองเขาพยักหน้า "คืนนี้เวลาสองทุ่ม ไปรอผมที่สตาร์ไลท์คลับ"สวีลู่มีความสุขมาก ยิ้มหน้าบานเหมือนดอกไม้เมื่อเห็นสิ่งนี้สวีฉงกับสวีหู่พากันก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ยอมแพ้ โดยบอกว่าตนเองก็มีอาหารเสริมหายากด้วยเช่นกันเย่ซิวให้พวกเขาไปเจอที่สตาร์ไลท์คลับในเวลาเดียวกันด้วยชาติตระกูลของพวกเขา ของสะสมจะแย่สักเท่าไหร่นักเชียวหลัง
ในขณะเดียวกัน เสียงของเย่ซิวก็ดังขึ้นข้างหูเขา "สถานที่แห่งนี้ ห้ามฟื้นฟูขึ้นใหม่ภายในหนึ่งร้อยปี มิเช่นนั้นประเทศจ้านฉงตี้จะต้องหายไปจากโลกใบนี้"นี่เป็นทั้งการดูแคลน และยังเป็นการเหยียดหยามอย่างถึงที่สุดให้พวกเขาต้องเผชิญกับความอัปยศนี้ทุกขณะในช่วงเวลาหนึ่งร้อยปีถือเป็นการโต้กลับอย่างแข็งแกร่งของเย่ซิว หลังจากประเทศจ้านฉงตี้พยายามเล่นงานเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจักรพรรดิหมีเหล็กกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ความอัปยศอันรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธแต่ในความโกรธแค้นนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกหมดหนทางอย่างลึกล้ำเพียงชั่วพริบตาเดียวราวกับว่าเขาแก่ลงไปอีกหลายสิบปีเดิมทีเส้นผมของเขายังมีสีดำเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับขาวโพลนทั้งหมดผู้ช่วยที่อยู่ข้างกาย มองดูสภาพของเขาด้วยความสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา "ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? จะยิงจรวดออกไปอีกไหม?""ไม่ต้องแล้ว ไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก"จักรพรรดิหมีเหล็กส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยล้า สายตามองไปยังร่องรอยของกระบี่อันใหญ่โตเบื้องหน้า "ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่ฉันจะต้องหาผู้สืบทอดแล้ว"……ม
เบื้องหน้าของเย่ซิวปรากฏชายชราผู้มีรูปลักษณ์ประหลาดเขามีอายุกว่าร้อยปีแล้ว ดวงตาฝ้าฟางแทบจะลืมขึ้นไม่ได้เส้นผมยาวหลายสิบเมตรถูกถักเป็นเปียและพันรอบร่างกายของตนใต้ฝ่าเท้าของเขามีการ์กอยล์หินเป็นพาหนะ มือขวาถือไม้กายสิทธิ์อันเก่าแก่เย่ซิวกระตุกบังเหียนให้ม้าหยุดลงพลางหรี่ตามองชายชราเล็กน้อย “มีธุระอะไร?”พลังที่แผ่ออกมาจากร่างของชายชราทำให้เย่ซิวรู้สึกได้ถึงอันตรายแม้ว่าจะเป็นเพียงเสี้ยวเดียวก็ตาม“ข้าคือเทพพิทักษ์แห่งประเทศจ้านฉงตี้ ปิดด่านฝึกฝนมาหลายสิบปีแล้วได้ยินว่าประเทศหลงเถิงมีอัจฉริยะที่แข็งแกร่งจึงอยากมาดูให้เห็นกับตา”เย่ซิวไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว มีอะไรจะชี้แนะหรือเปล่า?”ดวงตาฝ้าฟางของชายชราเพ่งมองเย่ซิวแน่วแน่ แววตานั้นแฝงไปด้วยอันตรายเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา“ข้าน่ะเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเลยอยากจะประลองกับเจ้าสักหน่อย ไม่รู้ว่าจะรับคำท้าหรือไม่”เย่ซิวสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ซ่อนเร้นของอีกฝ่ายที่บอกว่าเป็นการประลองคงเป็นแค่ข้ออ้างจุดประสงค์ที่แท้จริงคือก็แค่อยากทดสอบพลังของตนเองกับเขาเท่านั้น“ฉันไม่มีคำว่าประลองอะไรทั้งนั้น ถ้าคุณคิ
ทั้งคืนผ่านไปด้วยความว้าวุ่นใจและความกระสับกระส่าย เธอแทบไม่ได้หลับเลยเวลาแปดโมงเช้า เย่ซิวยืนอยู่ริมหน้าต่างมองออกไปยังทิวทัศน์ภายนอกอากาศสดชื่น เสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้กระจายไปทั่ว ที่นี่มีนกยูงเลี้ยงไว้อยู่หลายตัว บรรยากาศเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างยิ่ง“คุณเย่ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” ลิลิธเดินเข้ามาพร้อมกับก้าวย่างที่อ่อนช้อยดุจแมวป่าฝ่าเท้าขาวผ่องราวหิมะสัมผัสพื้นเบา ๆ ทีละก้าวก่อนจะหยุดอยู่ข้าง ๆ เย่ซิวเธอจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวนหลังจากฝึกฝนตลอดทั้งคืน พลังของลิลิธก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างมหาศาลตอนที่เธอมาที่นี่ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถพัฒนาขึ้นได้เร็วขนาดนี้หากเป็นไปได้ เธอเองก็อยากบำเพ็ญร่วมกับเย่ซิวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งวันทั้งคืนบางทีเธออาจสามารถบรรลุถึงระดับพลังที่ไม่มีใครในประเทศจ้านฉงตี้เคยไปถึงมาก่อนแต่น่าเสียดายที่คงเป็นแค่ความฝันที่เป็นไปไม่ได้เย่ซิวไม่ได้ตอบอะไร สายตาของเขายังคงจ้องไปข้างนอกโดยไม่กะพริบตาจินตานห้าสีของเขาหมุนวนอย่างบ้าคลั่งรัศมีพลังที่ส่องออกมาราวกับพระอาทิตย์ที่สว่างไสวและแข็งแกร่งไ
เคย์ฟี่พาลิลิธกลับมาที่ห้องของเธอเธอกับพูโรแยกกันนอนมานานแล้วหลังจากปิดประตู เธอก็รีบดึงลิลิธเข้าไปในห้องน้ำอย่างกระตือรือร้นน้ำร้อนถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วจากนั้นเคย์ฟี่ก็ปิดประตูห้องน้ำเสียงดังปังไม่นานนักก็มีเสียงอุทานของเคย์ฟี่ดังออกมาเป็นระยะด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอิจฉาลึก ๆครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องน้ำเคย์ฟี่ช่วยลิลิธแต่งตัวกับมือ จากนั้นก็ลงเครื่องสำอางให้เธอก่อนจะฉีดน้ำหอมสุดหรูราคาแพงเดิมทีลิลิธก็เป็นหญิงงามอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เสน่ห์ของเธอกลับเพิ่มขึ้นไปอีกระดับเธอมองเงาตัวเองในกระจกก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ ความมั่นใจของเธอเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วนจากนั้นเคย์ฟี่ก็พาลิลิธไปยังห้องของเย่ซิว เธอเคาะประตูเบา ๆภายในห้อง แน่นอนว่าเย่ซิวไม่มีความจำเป็นต้องนอนพักเขาเพิ่งกลั่นโอสถไปหลายเตา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เอาไว้ใช้เพื่อเพิ่มพลังบำเพ็ญตนแม้ว่าตอนนี้ผลลัพธ์ของมันอาจจะไม่ได้ทรงพลังมากนัก แต่ถ้าปริมาณมากพอก็ยังสามารถช่วยได้ตอนนี้เขามีโอสถกว่าพันเม็ดแล้วก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก เย่ซิวชะงักเล็กน้อยก่อนจะเก็บเตาหลอมและโอสถท
แต่ลิลิธกลับมีพรสวรรค์ในศาสตร์ด้านนี้สูงมาก จนสามารถฝึกฝนไปถึงระดับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนผู้ชายทั่วไปไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเลยไม่เช่นนั้น วันรุ่งขึ้นมีหวังกลายเป็นซากศพแห้งตายอย่างแน่นอนแม้ว่าลิลิธจะมีชื่อเสียงด้านความงามโด่งดังไปทั่ว แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเคย์ฟี่ดวงตาเป็นประกาย “ความคิดนี้ไม่เลวเลยนะ ลิลิธต้องเจอกับผู้ชายที่แข็งแกร่งระดับเย่ซิวเท่านั้นถึงจะรับมือไหวพอลิลิธทำสำเร็จแล้วเข้าไปอ้อนเย่ซิวอีกหน่อยลองชวนให้เขามาลองพี่น้องสุดเซ็กซี่ บางทีเขาอาจจะไม่ปฏิเสธก็ได้”พรีเอลล์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบพูดแทรกขึ้นมา “อย่าลืมแม่ลูกสุดแซ่บด้วย”เคย์ฟี่หัวเราะคิกคัก “อันนี้ก็ต้องดูที่ผลงานของลูกในอนาคตแล้วล่ะ”พูทมองด้วยความอิจฉาผู้ชายที่แท้จริงต้องเป็นแบบเย่ซิว ต้องผ่านดงดอกไม้นับไม่ถ้วนโดยไม่ทิ้งร่องรอยน่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะมีฝีมือพอตัว แต่เมื่อเทียบกับเย่ซิวแล้วยังห่างชั้นกันเกินไปแถมสาว ๆ ที่เขาเคยได้มาก็ยังไม่มีคุณภาพดีเท่านี้เลยด้วยซ้ำหลังจากหารือกันเสร็จ เคย์ฟี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลิลิธด้วยตัวเองณ เมืองระดับแนวหน้าของประเทศจ้านฉงตี้
เย่ซิวมองสิ่งของที่วางอยู่ตรงหน้าตัวเองโดยไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนักตอนนี้เงินทองพวกนี้ไม่ได้มีผลอะไรมากนักสำหรับเขาแล้วแต่รถยนต์ลอยตัวนั่นนับว่ายังพอมีค่าอยู่บ้างเขาย่อมรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ทำแบบนี้เพราะอะไรต้องยอมรับว่าเธอมีความกล้าหาญไม่น้อยเลยทีเดียวแต่เพียงแค่นี้ยังไม่พอที่จะทำให้เขาเชื่อใจเธอได้อย่างสมบูรณ์“ของพวกนี้ฉันรับไว้ แต่ถ้าพวกเธอยอมย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่สำนักโอสถจะยิ่งดีเข้าไปอีก”หากเป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งของกำไรที่พวกเขาได้รับในแต่ละปีจะต้องเสียภาษีนอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการพัฒนาบุคลากรท้องถิ่นของสำนักโอสถได้อีกด้วยที่สำคัญที่สุดคือสามารถใช้เป็นมาตรการควบคุมพวกเขาได้หากในอนาคตพวกเขาไม่เชื่อฟังหรือกระทำสิ่งใดที่เป็นภัยต่อสำนักโอสถเย่ซิวสามารถริบทรัพย์สินทั้งหมดของสำนักงานใหญ่ของพวกเขาไปได้ทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันทีเย่ซิวกำลังกุมจุดอ่อนของพวกเขาไว้อย่างแน่นหนาพูโรหัวเราะเสียงดัง “นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก บริษัทไม่ได้เป็นของผมเพียงคนเดียว ผมยังไม่อาจตอบตกลงได้ทันทีขอให้ผมจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันพรุ่งนี้ก่อน แล้วผมจะหารือก
นั่นคือสายตาที่มองลงมาจากระดับชีวิตที่สูงกว่าราวกับพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเย่ซิวตบไปที่หัวม้าศึกเพลิงน้ำแข็งเบา ๆ มันจึงยอมเก็บพลังของตัวเองกลับไป เปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ใต้กีบเท้าก็ค่อย ๆ มอดลงเคย์ฟี่มองเย่ซิวด้วยสายตาร้อนแรงตอนนี้เขาดูสง่างามและทรงอำนาจ ทั้งยังหล่อเหลาเกินบรรยาย เหนือกว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวในฝันของเธอเสียอีกเธอถึงกับน้ำลายสอโลกนี้มีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ได้อย่างไรเย่ซิวหยิบของจำนวนหนึ่งออกมาจากแหวนผนึกของแล้ววางลงตรงหน้าพรีเอลล์กับพวกพ้อง “นี่คือส่วนแบ่งของพวกเธอในครั้งนี้ เอาไปได้เลย”พรีเอลล์ก้มลงมองของตรงหน้า จากนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที “ของพวกนี้มันไม่ใช่ของที่พวกเราเคยได้มาจากเรือรบของประเทศจ้านอิงตี้ครั้งก่อนเหรอ?”สิ่งที่เย่ซิวนำออกมาเป็นชุดเกราะและอาวุธต่าง ๆ ที่ได้มาเมื่อนานมาแล้ว“ใช่” เย่ซิวพยักหน้าโดยไม่ปิดบัง “ของที่ฉันได้จากข้างในมีค่ามากเกินไป ไม่สามารถให้พวกเธอได้เลยต้องใช้ของพวกนี้แทน”แม้สองพี่น้องจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมาในตอนนี้พูทแววตาเป็นประกายขึ้นมา จากนั้นก็ฉีกเสื้อเป็นผืนเล็ก ๆ แล้วใช้มันมัด
เย่ซิวแสยะยิ้มมุมปาก “แกลองเดาดูสิว่าทำไมฉันถึงมั่นใจกล้าปล่อยแกออกมา”ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีขึ้นมาทันทีแต่มันยังไม่ทันได้คิดให้ถี่ถ้วน เย่ซิวก็เริ่มขยับริมฝีปากร่ายคาถาบางอย่างออกมาทันทีที่เสียงคาถาดังก้องในอากาศ ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งก็กรีดร้องอย่างเจ็บปวดทั่วร่างของมันปรากฏอักขระเรืองแสงผุดขึ้นมาจากผิวหนัง ค่อย ๆ ก่อตัวเป็นโซ่ตรวนล่องหนที่พันธนาการมันเอาไว้อย่างแน่นหนามันทรุดลงกับพื้นกลิ้งไปมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความทรมาน“สารเลว เหตุใดเจ้าถึง…พอได้แล้ว หยุดเดี๋ยวนี้ บอกว่าให้หยุดอย่างไรเล่า!”มันส่งเสียงร้องปวดร้าวจนใจแทบแตกสลายความปรารถนาที่จะฆ่าเย่ซิวที่มันเคยมีนั้นก็หายไปหมด ตอนนี้เหลือเพียงความหวาดกลัวอย่างท่วมท้นเท่านั้นเย่ซิวมีสีหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความเมตตา และเขาไม่คิดจะหยุดแต่อย่างใด เขาสวดคาถาต่อเนื่องเป็นเวลากว่าสิบนาทีจนม้าศึกเพลิงน้ำแข็งถูกทรมานจนแทบไม่เหลือแรง เขาจึงหยุดลงในที่สุดตอนนี้ลมหายใจของมันสับสนวุ่นวาย ไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งโอหังเช่นตอนแรกอีกต่อไปสายตาที่มันมองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อเย่ซิวมีคาถานี้อยู่ในมือ เขาก็สามาร
เย่ซิวกำลังจะเดินออกจากห้องไปแต่ทันใดนั้น เขาหันไปมองที่กลางห้องก่อนจะดีดนิ้วส่งปราณกระบี่ออกไปทำลายพื้นด้านล่างปรากฏว่าข้างใต้มีช่องลับซ่อนอยู่ภายในนั้นมีหีบสีดำใบหนึ่งวางอยู่เย่ซิวสร้างร่างแยกขึ้นมาเพื่อเข้าไปเปิดมันภายในมีม้วนหนังสัตว์ปริศนาที่ไม่รู้ว่าทำจากหนังของสัตว์ชนิดใดเขาหยิบขึ้นมาดู พบว่ามีตัวอักษรเรียงรายแน่นหนาอยู่เต็มไปหมดแต่ไม่ใช่ตัวอักษรที่ใช้กันในปัจจุบัน เย่ซิวจึงอ่านมันไม่ออกในทันทีเขาทำได้แค่เก็บมันไว้ก่อน แล้วค่อยหาทางแก้ไขปริศนาในภายหลังตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งเท่านั้นจากนั้นเย่ซิวก็เดินไปยังจุดที่มันถูกผนึกไว้ทันทีที่ม้าศึกเพลิงน้ำแข็งสัมผัสได้ถึงการเข้าใกล้ของเขา มันก็เริ่มส่งเสียงโหยหวนขึ้นมา“ข้ายอมแล้วพี่ชาย ท่านเป็นบรรพบุรุษของข้าเลย ปล่อยข้าไปเถอะ อย่าดูดพลังข้าอีกเลย ถ้าดูดต่อไปข้าต้องตายจริง ๆ แน่”มันไม่เคยเจอมนุษย์ที่โหดร้ายบ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อนถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของมันแข็งแกร่งแต่กำเนิด ป่านนี้มันคงสลายไปแล้วเย่ซิวไม่คิดจะเสียเวลาคุยไร้สาระกับมัน เขาก้าวไปข้างหน้าโอบกอดหนึ่งในเสาหลักของผนึก ก่