ทักษะด้านงานเขียนของเธอยังคงสูงมากตีงูต้องตีให้ตาย โจมตีศัตรูทั้งทีต้องเล็งจุดสำคัญ ชาวเน็ตจำนวนมากบนโลกอินเทอร์เน็ตกลับคำวิจารณ์ของพวกเขาทันทีเขียนให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อผู้คนมักเห็นใจผู้อ่อนแอและวิพากษ์วิจารณ์ผู้แข็งแกร่งเสมอความคิดเห็นด้านล่างก็เปลี่ยนทิศทางทันที“คนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์พวกนี้กดขี่บ้าอำนาจเกินไปแล้ว!”“ทำแบบนี้แถวบ้านผมเรียกโจร!”“พวกเขาไม่ขายที่ดินให้กับพวกคุณ ก็เลยต้องใช้วิธีน่ารังเกียจอย่างนี้สินะ!”“ทั้งความตั้งใจ ทั้งทรัพยากรการเงินมากขนาดนี้ ทำไมไม่สร้างบ้านที่คุณสร้างให้แข็งแกร่งขึ้นกว่านี้หน่อยล่ะ? แหกตาดูหน่อยว่าแต่ละปีมีบ้านที่มีปัญหาด้านคุณภาพกี่หลัง!”……เมื่อเห็นความคิดเห็นเหล่านี้ พวกนายใหญ่ก็โกรธจัด“ไอ้พวกโง่! ไอ้พวกโง่! ทำไมไอ้โง่พวกนี่ถึงถูกถ่ายไว้ได้!”“คราวนี้เจอปัญหาใหญ่ ความพยายามทั้งหมดที่เราทำในช่วงนี้สูญเปล่าไปแล้ว!”“พวกคุณดูนี่ก่อน ยังมีอีกข่าวหนึ่งด้วย!”……หลังจากออกจากหน้าที่แสดงข่าวแรก ก็เห็นว่ายังมีข่าวอื่นที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีก'ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายไม่สามารถซื้อที่ดินได้ กล่าวหาประธ
หลังจากเชื่อมต่อสาย เสียงดีใจมากก็ดังมาจากปลายสาย “หลานย่า หลานเห็นข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า? เกี่ยวกับเรื่องบริษัทอสังหาริมทรัพย์พวกนั้นน่ะ”รอยยิ้มหวานประกายบนใบหน้าหลินซวง “คุณย่า หนูเห็นแล้วค่ะ คุณย่าคิดว่ายังไงคะ?”“แน่นอนว่าย่ามีความคิดมากมายเลยเชียวล่ะ”“ย่าไปถามเรื่องนี้กับใครบางคนมานิดหน่อย เจ้าหนุ่มที่ถูกกล่าวหานั่นเป็นคนดีใช้ได้เลย หน้าตาก็หล่อเหลาและความสามารถก็ไม่เลวเลย”ตามข้อมูล แม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่าเล็กน้อย แต่ที่จริงแล้วเขาจะอายุสิบแปดปีในอีกหนึ่งเดือน “ถึงหลานจะอายุมากกว่าเขานิดหน่อย แต่ก็อย่างที่พูดกันว่า หญิงใดอายุมากกว่าสามปีจะนำความมั่งคั่งมาสู่ชาย หลานอายุมากกว่าเขาแค่หกปีเอง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย”“รีบหาทางเอาเขามาเป็นหลานเขยของย่าเดี๋ยวนี้เลย”หลินซวงตกตะลึงทันที “คุณย่า คุณย่าเป็นอะไรไปแล้วคะ? หนูเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียวเองนะคะคุณย่าไม่เคยพบเขา แต่คุณย่าอยากให้หนูแต่งงานกับเขาเพียงเพราะข้อมูลพวกนี้ นี่มันไม่ใช่แล้วนะคะคุณย่า”หลินซวงสับสนระคนไม่เข้าใจ เธอพบว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแปลกที่วันนี้คุณย่าของเธอดูไม่ปกติ แต่เธอไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่ามันคื
หลินซวงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากที่คุณย่าของเธอวางสายไป จากนั้นเธอก็ได้สติ“คุณย่าเป็นอะไรไป? ทำไมต้องยืนกรานให้ฉันแต่งงานกับคนที่เคยเจอแค่ครั้งเดียวด้วยล่ะ?”หลังจากคิดทบทวนเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ เธอจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนสนิทเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้……พายุบนโลกอินเทอร์เน็ตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม วิกฤตของสตาร์รี่สกายได้รับการแก้ไขแล้ว และร้านค้าต่าง ๆ ก็ไม่ได้ถูกทุบทำลายอีก และยังคงเปิดให้บริการตามปกติโทรศัพท์ของเย่ซิวดังขึ้นหลิ่วอวี้เอ๋อร์เป็นผู้โทรมา“คุณเย่ ตอนนี้คุณยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ?”มีความเขินอายอยู่ในน้ำเสียงของหลิ่วอวี้เอ๋อร์หลังจากที่เธอเมาในวันนั้น เธอก็รู้สึกอับอายมากจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอจึงแอบออกจากวิลล่าของเย่ซิวไปในตอนเช้าตรู่เหตุผลหลักก็คือเพื่อหลีกเลี่ยงการพบกับเย่ซิวอีกครั้ง และเพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากใจแต่ใครจะรู้ว่า หลังจากนั้นไม่กี่วัน เย่ซิวจะสร้างเรื่องใหญ่ขึ้น เธอจึงต้องโทรหาเย่ซิวอีกครั้งเธอรู้ดีว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เย่ซิวต้องการเงินมากที่สุด และยังเป็นโอกาสดีสำหรับเธอที่จะได้ขยายผลงานของเธอต่อไ
ได้พบกับเย่ซิวอีกครั้ง แม้ว่าหลิ่วอวี้เอ๋อร์จะเตรียมตัวมาแล้วแต่เธอก็ยังรู้สึกอับอายมาก และไม่กล้าสบตาเขาเลยเย่ซิวไม่ได้พูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้อีก แต่บอกให้เธอนั่งลงในเวลานี้ มีของมาส่งที่บ้าน“จะเที่ยงแล้ว ทานข้าวก่อนแล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ”“อ่อ ได้ค่ะ” หลิ่วอวี้เอ๋อร์พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เมื่อเห็นอาหารเต็มโต๊ะ เธอจึงถามว่า “เยอะมากเลยนะคะ มีใครจะมาอีกเหรอคะ?”“เปล่าครับ ผมสั่งมาให้เราเท่านั้น”ตอนนี้เซี่ยซิ่วซิ่วไม่ได้อยู่ในบริษัท แต่ยุ่งอยู่ข้างนอกเย่ซิวมอบหมายให้สองสาวจากกองกำลังหมาป่าราตรีปกป้องเธอโดยเฉพาะยิ่งกว่านั้น ความแข็งแกร่งของเธอเองในตอนนี้ก็ไม่เลวเลย คนธรรมดาทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้วหลิ่วอวี้เอ๋อร์กะพริบตาพลันหน้าแดงในทันใดความคิดหนึ่งของเธอก็ผุดขึ้นมาผู้ชายที่กินเก่งแต่ยังคงรักษารูปร่างได้ดีและแข็งแกร่งในทุกด้านเย่ซิวมองดูใบหน้าอันแดงระเรื่อเล็กน้อยของเธอ “ทำไมคุณถึงหน้าแดงล่ะ? ผมตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศสูงเกินไปเหรอครับ?"“เปล่า เปล่าค่ะ” หลิ่วอวี้เอ๋อร์ส่ายหัวและรีบก้มหน้าก้มตากินดูเหมือนว่าเมื่อได้พบกับเย่ซิวอีกครั้ง ฉากที่ไม่เหมาะสมบางฉากก
เสี่ยวลิ่วจื่อหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “พี่หวัง ผมคิดว่าพี่เป็นคนดีมีความสามารถมากนะ ผมก็เลยมีโอกาสที่พี่จะได้ทำเงินมหาศาลมาเสนอให้”“แกอยากพูดอะไรกันแน่?!”“สินค้าชุดนี้ต้องถูกส่งไปยังเจียงเฉิงใช่ไหมล่ะ? จากที่นี่ต้องใช้เวลาประมาณสองวันก็จะถึงเจียงเฉิงพี่หวัง ถ้าพี่ชะลอเรื่องขนส่งไปได้หนึ่งวันก็จะได้หนึ่งล้านบาท สองวันก็สองล้านเลยนะ”“แกเป็นคนของบริษัทอื่นใช่ไหม!” พี่หวังโต้ตอบทันทีเสี่ยวลิ่วจื่อก็ไม่ได้ปฏิเสธ “ผมก็แค่คนทำงานพาร์ทไทม์ ถ้าพลาดโอกาสดี ๆ ที่จะทำเงินได้มากขนาดนี้ไปคงเสียดายแย่”“เป็นไปไม่ได้หรอก หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง แล้วแกก็จะตกงาน หรืออาจถึงขึ้นถูกฟ้องร้องด้วยซ้ำ”พี่หวังส่ายหัวและปฏิเสธ รู้สึกว่านี่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยวลิ่วจื่อกล่าวต่อ “พี่หวัง ลูกสองคนของพี่จะเข้าโรงเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ ภรรยาของพี่ก็สุขภาพไม่ค่อยดีนี่ แล้วพี่ก็ยังเช่าบ้านอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”“อีกสองสามปี เด็ก ๆ ก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว พวกเขาคงไปเรียนไม่ได้ถ้าไม่มีบ้านล่ะนะ”“ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกเพียบ ด้วยเงินเดือนของพี่เท่านี้คงจ่ายไม่ไหวแน่”“ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนจับได้หรอก พอถึงเวลานั้น พ
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาออกไป ก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาถึงนอกสถานที่ก่อสร้างพวกเขาไม่ได้เข้าไป แค่สังเกตข้างนอกสักพัก จากนั้นก็เผยรอยยิ้มเย็นชาแล้วเดินออกไป……ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของเย่ซิวก็ดำเนินไปตามปกติมากในระหว่างวัน เขาจัดการเรื่องต่าง ๆ ในบริษัท และในตอนกลางคืน เขาจะแนะนำเซี่ยซิ่วซิ่ว หลิ่วเมิ่งอิ๋นและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ให้ฝึกฝนพลังที่พวกเธอได้รับหลังจากกินเนื้องูเข้าไปยังคงอยู่ในร่างกายของพวกเธอด้วยการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง พลังที่แฝงอยู่ในร่างกายจึงได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ความก้าวหน้าภายในวันเดียวของพวกเธอถือได้ว่ารวดเร็วและไปไกลมากจนกระทั่งไม่กี่วันต่อมา เย่ซิวก็ต้มดอกบัวหิมะสีเลือดเป็นโอสถให้พวกเธอกินเมื่อถึงเวลา ความแข็งแกร่งของพวกเธอจะเติบโตอย่างรวดเร็วสามวันผ่านไปไวในพริบตาในตอนเที่ยงของวันนั้น เซี่ยซิ่วซิ่วได้รับสายจากสถานที่ก่อสร้าง และสอบถามว่าทำไมวัสดุก่อสร้างยังมาไม่ถึงเซี่ยซิ่วซิ่วขมวดคิ้ว และโทรถามหลินซวงทันที“ว่ายังไงนะคะ วัสดุยังไปไม่ถึงอีกเหรอคะ?”หลังจากที่หลินซวงได้ยินข่าว เธอก็สังหรณ์ใจได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติหลังจากพูดคุยกับเซี่ยซิ่วซิ่
โรงงานวัสดุก่อสร้างซุ่นต๋านี่คือบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตเหล็กเส้นและวงกบประตู และเป็นหนึ่งในคู่ค้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วเจ้านายของพวกเขาเป็นผู้หญิงในวัยสี่สิบ และใคร ๆ ก็เรียกเธอว่า เจ๊ลี่ในขณะนี้ หลังจากวางสาย มุมปากของเจ๊ลี่ก็เผยท่าทีเย้ยเยาะ “ยัยโง่ คิดว่าฉันจะตกลงช่วยขนส่งวัสดุจริง ๆ หรือไง!”ตรงข้ามกับเธอมีชายคนหนึ่งสวมแว่นตานั่งอยู่ เขาดูสง่าและสุภาพเมื่อได้ยินคำพูดของเจ๊ลี่ ชายคนนั้นก็หัวเราะ “เจ๊ลี่ คุณเลือกได้ฉลาดมาก บริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วคงอยู่ได้อีกไม่นาน มันดีกว่าอยู่แล้วที่จะร่วมมือกับเราในอนาคต”เจ๊ลี่ยังหัวเราะ “แน่นอนสิคะ บริษัทของคุณเป็นอุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศ ราคาที่คุณให้ฉันก็ยังสูงกว่าที่ยัยหลินซวงนั่นให้ฉันตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์”ชายคนนั้นปรับแว่นตาขึ้น ดวงตาแวบประกายเฉียบคม “หลินซวงคงคิดว่าตัวเองแก้ไขปัญหาเรื่องวัสดุก่อสร้างได้แล้ว แต่เธอไม่รู้เลยว่า วิกฤติใหญ่กว่านั้นกำลังรอพวกเธออยู่”เจ๊ลี่พยักหน้า “ลองคำนวณซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้แล้ว เธอคงจะต้องเลื่อนโครงการออกไปอย่างน้อยครึ่งเดือน และด้วยที่เธอต้องเสียเงินวันละร้อยล้าน เธอจะต้องเสีย
สำหรับเย่ซิว คนพวกนี้ไม่สนใจเขาเลยดวงตาของหลางสือจิ่วเย็นชา “ไปให้พ้น!”ผู้ชายพวกนี้ไร้ยางอายและอาจหาญนักเป็นโสดมาหลายปีแล้ว จะให้ยอมถอยออกไปเพียงเพราะหลางสือจิ่วไม่พอใจได้อย่างไรกัน?ไม่ใช่แค่พวกเขาไม่ยอมถอยเท่านั้น แต่พวกเขาแต่ละคนกลับหัวเราะและเอื้อมมือไปทางหลางสือจิ่วไม่มีผู้หญิงในหมู่บ้านมานานแล้ว พวกเขาจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปได้อย่างไรเล่า?กร๊อบ!ครั้งนี้คนพวกนี้ก็แค่เจอกับกำแพงเข้าให้แล้วหลางสือจิ่วออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถหักแขนของชายคนหนึ่งที่เอื้อมมือออกมาได้แล้ว จากนั้น ก็เตะเข้าที่หน้าท้องจนชายคนนั้นล้มลงกับพื้นด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดวินาทีต่อมา เธอหมุนตัวเหวี่ยงขาออกไปราวกับแส้และกระแทกที่ชายอีกสองคนจนล้มลงกับพื้นการกระทำของเธอยังกระตุ้นให้ผู้ชายคนอื่น ๆ ที่เฝ้าดูจากระยะไกลโกรธเคืองและวิ่งเข้ามา บางคนถือเคียว จอบ และเครื่องมืออื่น ๆ“แม่เสือสาวนี่มาจากที่ไหน!”“กล้ามาทำป่าเถื่อนในหมู่บ้านของเรา ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือยังไง!”“จับเธอไป เอาให้อับอายหนัก ๆ!”……เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ชายสามสี่สิบคน หลางสือจิ่วยังคงดูสงบและพูดกับเย่ซิวว่า “นาย
จากนั้นเย่ซิวก็ปล่อยปราณกระบี่ออกมาหลายสาย ผนึกพื้นที่รอบตัวเด็กหญิงไว้ เด็กหญิงมองเย่ซิวด้วยสายตาที่น่าสงสาร เธอรู้ดีว่าตัวเองเป็นดาวหายนะ พ่อแม่และครอบครัวของเธอทั้งหมดล้วนต้องตายไปเพราะเธอ หลังจากนั้นเธอก็ถูกขังไว้ในกรงพิเศษ ไม่เคยเห็นแสงเดือนแสงตะวันเลย จนกระทั่งถูกปล่อยตัวออกมาในตอนนี้ เย่ซิวมองแววตาของเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ร่างกายที่เป็นอยู่เกิดจากชะตาฟ้าลิขิต เธอเองไม่อาจควบคุมได้ และไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อย เย่ซิวเองก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้อย่างบุ่มบ่ามพลังหายนะของเธอนั้นน่ากลัวเกินไป หากพลาดพลั้งแม้เพียงเล้กน้อย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่เกินจะจินตนาการได้ หลังจากครุ่นคิด เขาก็ร่ายอาคม สร้างเหยี่ยวตัวหนึ่งให้ก่อตัวขึ้น แล้วให้มันบินไปเกี่ยวตัวเด็กหญิงขึ้นมา เตรียมจะพาขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ยังไม่ทันจะบินขึ้น เหยี่ยวกลับสลายตัวไปในพริบตาเย่ซิวลองหาวิธีอื่นอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ ไม่สามารถพาตัวเธอออกไปจากที่นี่ได้เลยเย่ซิวรู้สึกปวดหัวไปหมด เขาจึงตัดสินใจปลอบเด็กหญิงก่อน แล้วโยนอาหารไปให้เธอจากระยะไกลไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธ
เย่ซิวเดินออกจากห้องลับ แล้วพบว่าโลกทั้งใบที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างดูชัดเจนขึ้น และเต็มไปด้วยสีสันมากขึ้น เฉินหลานเพิ่งกลับมาจากข้างนอก พอเห็นเย่ซิวก็ยิ้มหวานออกมา "สวัสดีค่ะ นายท่าน" เย่ซิวโบกมือไปมา "ต่อไปไม่ต้องเรียกนายท่านแล้ว เรียกว่าท่านเจ้าสำนักเถอะ" เฉินหลานมองเขาด้วยดวงตาชุ่มฉ่ำ ก่อนจะพยักหน้าขานรับอืมเบา ๆเรียกว่าเจ้าสำนักดูจะเป็นกันเองกว่าการเรียกว่านายท่าน "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?" เย่ซิวถาม "ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ หลังจากจบศึกครั้งนี้ คนในสำนักโอสถก็ยิ่งให้ความไว้วางใจกับพวกเรามากขึ้น งานในด้านอื่น ๆ ก็ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น" "แล้วในระดับนานาชาติล่ะ?" "บรรดาทูตจากนานาชาติมาถึงประเทศหลงเถิงตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ เดิมทีพวกเขาต้องการเริ่มการเจรจาทันที แต่รัฐบาลหลงเถิงกลับจัดเตรียมอาหารเลิศรส และการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจให้พวกเขา โดยให้เหตุผลว่าประเทศของตนให้ความสำคัญกับมารยาทมากที่สุด เมื่อลูกค้ามาเยือนก็ต้องให้การต้อนรับอย่างดี จากนั้นจึงค่อยพูดคุยเรื่องอื่น บรรดาทูตก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอมเพลิดเพลินไปกับกา
หลังจากที่ฝึกฝนความสามารถใหม่ของร่างกายจนคุ้นเคยแล้ว เย่ซิวก็กลับมาทำการหลอมโอสถต่อมีโอสถอีกหลายประเภทที่ต้องหลอมเช่นโอสถยอดเพชร โอสถต้นกำเนิด โอสถร้อยพิษไม่กล้ำกรายและอื่น ๆนอกจากเตรียมโอสถสำหรับสร้างกองกำลังสุดยอดแล้ว ยังมีบางส่วนที่เย่ซิวตั้งใจจะเตรียมไว้ใช้เอง รวมถึงให้คนใกล้ตัวของเขาหลังจากที่ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ประสิทธิภาพในการหลอมยาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอัตราการฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาหลังจากใช้งานก็เร็วขึ้นหลายเท่าตัวสองวันต่อมา ประเทศจ้านส่งสมุนไพรมาเป็นค่าชดเชย ซึ่งถูกใช้ไปแล้วกว่าเก้าหมื่นต้น ผลลัพธ์คือโอสถชนิดต่าง ๆ ถูกหลอมออกมามากกว่าห้าหมื่นเม็ดเมื่อหลอมยาเสร็จ เย่ซิวก็หยุดการหลอม เก็บเตาโอสถกลับไปแล้วหันไปมองผู้หญิงที่อยู่บนเตียงน้ำแข็งทันใดนั้นภาพถ่ายที่พรีเอลล์เคยส่งให้ก็ลอยเข้ามาในความคิดของเขาเธอเคยพูดถึงโซเฟียลูกพี่ลูกน้องของเธอเย่ซิวหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูภาพถ่าย แล้วเดินไปเปรียบเทียบกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ารูปร่างหน้าตาอาจจะแตกต่างกัน แต่บรรยากาศและพลังบางอย่างที่แผ่ออกมานั้นคล้ายกันมากมันให้ความรู้สึกเหมือนประชาชนของมหาอำนาจประเทศหนึ่ง กับคน
ตอนนี้เย่ซิวกำลังหลอมโอสถยอดเพชรโอสถชนิดนี้สามารถเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้น หากรับประทานในปริมาณที่มากพอ อาจทำให้ร่างกายกลายเป็นกายาวัชระได้ ซึ่งเป็นกายาอันแข็งแกร่งที่ได้รับการยอมรับในหมู่พุทธศาสนา นี่คือโอสถที่เย่ซิวเตรียมไว้สำหรับกองกำลังพิเศษในอนาคตของเขา ในเมื่อเป็นกองกำลังระดับสุดยอด ก็ต้องมีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพลังต่อสู้ การป้องกัน การลอบสังหาร ทุกอย่างต้องอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ ไม่สามารถมีจุดอ่อนได้ ภายในเตาหลอมโอสถ ตอนนี้มีโอสถยอดเพชรกว่ายี่สิบเม็ด แต่ท่ามกลางโอสถเหล่านั้น มีอยู่เม็ดหนึ่งที่แตกต่างจากเม็ดอื่นโดยสิ้นเชิง มันเป็นสีขาวบริสุทธิ์และมีแสงสีทองระยิบระยับไหลเวียนอยู่ภายใน ดวงตาของเย่ซิวหดแคบลงทันที นี่มันหรือว่าจะเป็นโอสถกลายพันธุ์ในตำนาน? บางครั้งในการหลอมโอสถ นักปรุงยาอาจพบกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้โอสถเกิดการกลายพันธุ์ขึ้นมา โอสถกลายพันธุ์เหล่านี้ บางครั้งอาจไร้ประโยชน์ หรือร้ายแรงถึงขั้นมีพิษรุนแรง แต่ในบางกรณี มันอาจมีสรรพคุณสูงกว่าโอสถทั่วไปหลายสิบเท่า และในบางครั้งโอสถกลายพันธุ์เหล่านี
นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที
เย่ซิวเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ดังนั้นการบำเพ็ญที่กินเวลาสองชั่วโมงกว่าจึงเริ่มขึ้น เขายังช่วยหนานกงอวี่แก้ไขข้อบกพร่องบางอย่างอีกด้วย… หลังจากนั้น หนานกงเสวี่ยก็เสร็จสิ้นงานของวันและกลับมาที่วิลล่า เมื่อเห็นเย่ซิวกลับมาก็รู้สึกดีใจมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองน้องสาวของตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย ในใจคิดว่า ‘ยายตัวแสบ แอบกินเงียบ ๆ ไม่แบ่งพี่เลยนะ’จากนั้นเธอก็เข้าร่วมการบำเพ็ญตนด้วย พลังของเย่ซิวเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็กำลังก้าวเข้าสู่จินตานขั้นสมบูรณ์อย่างมั่นคง เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ เพราะตามที่บันทึกโบราณได้กล่าวไว้ เมื่อไปถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์สูงบางคนจะสามารถเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์และโลกได้พวกเขาสามารถรวบรวมร่างพลังขนาดใหญ่ได้หลายร้อยหรือแม้แต่พันเมตร ดึงพลังของสวรรค์และโลกมาใช้ ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาล ถึงขั้นที่เมืองทั้งเมืองอาจไม่สามารถต้านทานได้ ในมือของเขายังมีโอสถเม็ดหนึ่ง ซึ่งได้มาตอนที่ได้รับเตาเพลิงปฐพีมา แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ไม่ได้ใช้มัน นี่คือโอสถที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ตอนที่ทะล
พรีเอลล์ถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย เย่ซิวไม่ได้ปฏิเสธเด็ดขาดในทันที นั่นหมายความว่ายังพอมีช่องทางให้เจรจาต่อรองได้ หลังจากพูดคุยกันอีกสักพัก เขาก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานนัก เย่ซิวก็ได้รับรูปภาพหนึ่งทางโทรศัพท์ของเขา เมื่อเปิดดู ดวงตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย ในภาพเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง หญิงสาวที่สวยจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด เธอมีผมสีทองส่องประกายราวกับเปล่งแสงได้ ดวงตาสีฟ้าลึกเหมือนอัญมณีไพลินใบหน้าสวยบริสุทธิ์แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวนเล็กน้อย สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเล็กสีชมพูชวนหลงใหล สิ่งที่ทำให้เย่ซิวรู้สึกสะดุดตาคือออร่าของหญิงสาวในภาพช่างคล้ายกับหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงน้ำแข็ง ทั้งสองมีบรรยากาศที่ดูสูงส่ง ดั่งกำเนิดมาเพื่อเป็นผู้ที่อยู่เหนือคนทั้งปวง มองลงมายังสรรพสิ่งเบื้องล่าง เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า หรือว่าหญิงสาวทั้งสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกัน?เดิมทีเย่ซิวไม่ได้สนใจอะไรมากเกี่ยวกับลูกพี่ลูกน้องที่พรีเอลล์พูดถึง แต่ตอนนี้เขากลับต้องคิดทบทวนใหม่ คงต้องหาโอกาสไปดูให้เห็นกับตา ใต้ภาพ พรีเอลล์ยังทิ้งข้อความไว้ด้วย : “เป็นไงล่ะ? สวยส
"มีอะไรหรือเปล่า?" เย่ซิวกดรับสาย คนที่โทรมาไม่ใช่ใครอื่น เป็นพรีเอลล์ครั้งก่อนเขาเผลอมองข้ามเธอไป ผู้หญิงคนนี้คงโกรธมากแน่ ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในมุมหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง พรีเอลล์มีสีหน้าดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เสียงที่เธอพูดกลับอ่อนหวานเหลือจะกล่าว จนทำให้ผู้ฟังขนลุกชัน "พี่ชายที่รัก ตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ คิดถึงมากเลยนะ" เย่ซิวแสยะยิ้มเย็น ถ้าเขาไม่เคยติดต่อกับเธอมาก่อน คงเผลอเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว "พูดมาเถอะ มีธุระอะไร ระหว่างเราไม่ต้องมาเสียเวลาพูดจาอ้อมค้อม" "จะมีอะไรได้ยังไงล่ะ หรือฉันคิดถึงคุณไม่ได้เหรอ? เราสองคนก็เคยทำแบบนั้นแล้วนี่นา แต่ทำไมคุณถึงยังสงสัยว่าฉันมีแผนอะไรอีกล่ะ เสียใจจังเลย" เย่ซิวแค่นเสียงเยาะที่มุมปาก "งั้นเหรอ ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นผมวางสายแล้วนะ" "เดี๋ยว ๆ ๆ!" เสียงของพรีเอลล์เปลี่ยนเป็นปกติขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดอย่างหงุดหงิด"ไอ้คนไร้รสนิยม! คุณนี่ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมถึงมีผู้หญิงชอบเยอะขนาดนี้แต่ก็เอาเถอะ นี่โทรมานี่ก็เพราะมีเรื่องจะถาม ว่าคุณจะขายหุ่นยนต์ให้ฉันสักสองสามตัวได้ไหม ราคาคุณตั้งมาได้เลย"
เย่ซิวกำหนดเงื่อนไขให้พวกเขาส่งคนมาได้เพียงแค่หนึ่งร้อยคน และอีกฝ่ายก็ตอบตกลง หลังจากจบการสนทนา เย่ซิวกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พลางจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความบาดหมางระหว่างเขากับประเทศจ้านคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน เขารู้ดีว่าประเทศนี้เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาตบหน้าพวกนั้นอย่างรุนแรงขนาดนี้ อีกฝ่ายจะต้องหาทางเอาคืนแน่นอน ดังนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สายการผลิตเร่งสร้างจักรกลมังกรดำอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากสายการผลิตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ขอแค่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ส่วนที่เหลือก็ให้ระบบจัดการได้เลยด้วยประสิทธิภาพการผลิตในปัจจุบัน สามารถสร้างจักรกลมังกรดำได้วันละสองตัว ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ ต้องเสริมแนวป้องกันบริเวณพรมแดนทุกจุด และต้องรับสมัครผู้ควบคุมหุ่นยนต์เพิ่มอีก ยังต้องเตรียมรับมือกับมาตรการทางทหารจากอำนาจอื่น ๆ รอบตัว แต่โชคดีที่ตอนนี้เขามีคนเก่งอยู่ในทีมเยอะขึ้นแล้ว ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแค่ออกคำสั่งก็พอ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากที่นี่และตรงไปหาหยางถิงถิงที่กำลังทำงานสร้างถนน สาวน้อยคนนี้ดูอารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่น้อย