คำพูดของหมอทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้น รู้สึกงงงวยหัวหน้าตำรวจเดินเข้ามาและถามว่า “คุณหมอครับ ที่พวกคุณพูดหมายความยังไงครับ?”หมอคนหนึ่งตอบกลับว่า “พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย กระดูกก็สมบูรณ์ดี ผมแนะนำให้กักขังพวกเขาสักสองสามวัน พฤติกรรมแบบนี้น่ารังเกียจมาก!”“ใช่ครับ!” หมออีกคนเอ่ยด้วยความโมโหเช่นเดียวกัน “พวกคุณทำให้เราต้องเสียทั้งกำลังคนและทรัพยากร ถ้าตอนนี้เกิดมีคนอื่นที่กำลังเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต พวกคุณจะรับผิดชอบยังไง?!”เมื่อผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นได้ยินคำพูดนั้นก็เริ่มกังวล“พวกคุณตรวจผิดหรือเปล่า?!”“ผมเจ็บเจียนตายอยู่แล้ว กระดูกต้องหักแน่ ๆ!”“คุณเช็กให้ดีอีกครั้งซิ!”……“คุณเลิกเล่นละครได้แล้ว!” หมอคนนั้นพูดด้วยความโกรธ “กระดูกยังสมบูรณ์ดี เห็นได้ชัดว่าคุณสามารถลุกขึ้นได้!”หัวหน้าตำรวจก็ย่อตัวลงไปบีบกระดูกของพวกเขาและพบว่าไม่มีความผิดปกติ จากนั้น เขาก็ดึงหนึ่งคนให้ลุกขึ้นยืนชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่ทันใดนั้น ก็หยุดชะงักไป แล้วพยายามลองยันขาให้ยืนขึ้น“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าขาของฉันหักไปแล้วเหรอ?”เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้บริหารระดับสูงคนอ
“อ่า…”……บริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วนี่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในอันดับที่สามของประเทศหลงเถิงณ ชั้นสูงสุดของสำนักงานใหญ่หลินซวงมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีรถวิ่งไปมาไม่ขาดสาย ดวงตาของเธอเปล่งประกายความคิดบางอย่าง“ท่านประธานคะ ข้อมูลที่เกี่ยวกับเย่ซิวอยู่นี่แล้วค่ะ”เลขานุการที่ติดตามเธอมาเป็นเวลาหลายปีเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารกองหนึ่งในมือหลินซวงรับเอกสารกองนั้นมาและเริ่มดูอย่างละเอียดใช้เวลานานเกือบชั่วโมงถึงจะอ่านจบทั้งหมดโดยมีเลขานุการของเธอยืนอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลาหลินซวงวางเอกสารลงแล้วนวดศีรษะของตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “รบกวนจองตั๋วเครื่องบินให้ฉันด้วยนะคะ ฉันต้องการพบเขาให้เร็วที่สุด”เลขานุการถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง “ท่านประธานต้องไปพบเขาด้วยตัวเองเหรอคะ? จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอคะ?”บริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วเป็นถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในอันดับสามของประเทศหลงเถิง ซึ่งมีมูลค่าตลาดเกินกว่าห้าแสนล้านบาท ถือว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่และมีอิทธิพลอย่างมากแต่ส่วนทรัพย์สินของเย่ซิวยังไม่ถึงหนึ่งแสนล้านด้วยซ้ำ สองฝ่ายนี้ไม่สามารถเปรียบเ
วันนั้นตอนบ่าย เซี่ยซิ่วซิ่วไปหาเย่ซิวด้วยความร้อนใจ“เย่ซิว ไม่ได้การแล้ว นายรีบอ่านข่าวเร็ว!”เย่ซิวรีบเปิดข่าวในอินเทอร์เน็ตดู ก็พบว่ามีข้อความสิบกว่าบรรทัดทั้งหมดถูกทำเป็นตัวหนาสีแดง‘เย่ซิว ประธานบริษัทสตาร์รี่สกายแห่งเมืองเจียงเฉิงมีพฤติกรรมหยิ่งยโสและอวดดี ทำร้ายร่างกายผู้บริหารบริษัทระดับสูงที่มาเจรจาขอความร่วมมือ’‘สุดช็อก! ประธานบริษัทสตาร์รี่สกายมีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมกับพนักงานหญิง!’‘ในหนึ่งเดือน บริษัทสตาร์รี่สกายสามารถทำกำไรได้หลายหมื่นล้าน เบื้องหลังรายได้มหาศาลมีความจริงอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า?’……เย่ซิวคลิกเข้าไปดูหัวข้อข่าวหนึ่ง เนื้อหาภายในบิดเบือนข้อมูลของเขาทั้งหมด ในส่วนของความคิดเห็นถูกควบคุมโดยเหล่านักเลงคีย์บอร์ดซึ่งเต็มไปด้วยคำด่าทอบางคนที่ไม่รู้เรื่องจริง เมื่อเห็นข่าวเหล่านี้ ก็ถูกชักจูงและร่วมด่าทอเย่ซิวไปพร้อมกับพวกนักเลงคีย์บอร์ดไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ชื่อเสียงของเขาทางอินเทอร์เน็ตก็พังทลายลงมีการใส่สีตีไข่เขามากมาย หากเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแออาจจะโกรธจนถึงขั้นกระอักเลือดได้แต่สำหรับเย่ซิวที่มีจิตใจมั่นคงดุจดังหินผา เขาไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเด
“นี่เป็นกลวิธีที่พวกเขาชอบใช้ พวกเขาจะเริ่มต้นด้วยการจ้างนักเลงคีย์บอร์ดมาทำลายชื่อเสียงเพื่อลดทอนความตั้งใจของคู่แข่ง และทำให้คู่แข่งขัดแข้งขัดขาตัวเองสเต็ปต่อไป คือการขุดคุ้ยข้อมูลที่เป็นเชิงลบ ถ้ายังไม่ได้ผลก็จะใช้เส้นสายของตัวเองตัดการส่งวัสดุก่อสร้างหนานกงเยวี่ยส่งเสียงหึในลำคออย่างรู้สึกขัดใจ “ช่วยไม่ได้นี่ ก็ครอบครัวของพวกเขามีธุรกิจใหญ่โต สามารถเล่นสกปรกแบบนี้ได้”เธอสองคนออกจากสนามบินไปเรียกแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัทสตาร์รี่สกายเมื่อมาถึงล็อบบี้ของบริษัท สิ่งที่ทำให้เธอสองคนแปลกใจคือ ที่นั่นกลับเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้มีความยุ่งเหยิงแม้แต่น้อยดวงตาของหลินซวงมีความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ‘ดูเหมือนว่าเย่ซิวคนนี้จะเก่งกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก’แม้ว่าภายนอกจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม แต่ภายในบริษัทของเขายังคงมีความสงบนิ่ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะบริหารจัดการได้หลังจากทั้งสองคนทำการแนะนำตัวเจ้าหน้าที่ก็รีบขึ้นไปรายงานเขาทันทีผ่านไปไม่นาน เซี่ยซิ่วซิ่วก็ออกมาต้อนรับพวกเธอด้วยตัวเองเมื่อสองสาวเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วก็ถึงกับตกตะลึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องบุคล
เมื่อสองสาวได้พบกับเย่ซิวท่าทางของพวกเธอก็ดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อยแม้ว่าเย่ซิวจะดูหล่อ รูปร่างก็ถือว่าไม่เลว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นหล่อเกินบรรยายอะไรเช่นนั้นผู้ชายแบบนั้นจะคู่ควรกับเซี่ยซิ่วซิ่วได้อย่างไร?สิ่งที่ทำให้เธอทั้งสองรู้สึกเหลือเชื่อนั่นก็คือ เซี่ยซิ่วซิ่วดันไปตกหลุมรักเขา และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังไม่ได้ตอบรับรักเธอกลับอีกด้วย เย่ซิวไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่เธอทั้งสองคนคิดอยู่ในใจหลังจากลุกขึ้นยืนเชิญให้พวกเธอนั่งลง เขาก็ทำการเริ่มชงชาด้วยตนเองทักษะการชงชาของเขานั้นยอดเยี่ยม ท่าทางลื่นไหลดุจสายน้ำช่างดูงดงามมากทำให้คนที่เห็นไม่สามารถละสายตาจากการกระทำของเขาได้เลยสองสาวต่างก็รู้สึกแปลกใจ ทันใดนั้น พวกเธอก็เริ่มรู้สึกประทับใจในตัวเย่ซิวขึ้นมาผู้ชายที่สามารถชงชาได้ถือว่าเป็นข้อดี เพราะมันสะท้อนถึงการฝึกฝน สะท้อนถึงความลึกซึ้งและบุคลิกภายในของเขาเซี่ยซิ่วซิ่วหลับตาพริ้มเธอได้ค้นพบอีกความสามารถของเย่ซิว แต่ละครั้งที่ศึกษาลึกลงไปในตัวเย่ซิวก็จะพบกับสิ่งที่มีค่าและน่าทึ่งเสมอความรู้สึกนี้ทำให้เธอหลงใหลและไม่สามารถถอนตัวออกมาได้ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเย่ซิวยิ่งลึก
หากราคาสูงเกินไปคงเป็นเรื่องยากที่จะเจรจาธุรกิจกันในวันนี้แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ ราคาที่เย่ซิวให้นั้นต่ำกว่าที่พวกเขาคาดไว้จริง ๆ“ห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร”ผู้หญิงทั้งสองคนพลันเบิกตากว้างพร้อมกันดวงตาของหลินซวงแสดงความประหลาดใจ “คุณเย่ คุณแน่ใจใช่ไหมคะว่าราคานี้ถูกต้องแล้ว?”“คุณได้ยินถูกต้องแล้วครับ ห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร” เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น “แต่ผมมีข้อกำหนดเพิ่มเติมอีกสองข้อ”หลินซวงคิดในใจว่า ‘อย่างที่คาดไว้ มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นอยู่แล้ว’ โดยผิวเผิน พวกเขาไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติแม้แต่น้อย “คุณเย่ บอกมาได้เลยค่ะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม หากเราสามารถตกลงกันได้ พวกเราก็จะทำแน่นอนค่ะ”“อย่างแรก ในอนาคต สำหรับพื้นที่เขตที่อยู่อาศัยที่คุณกำลังสร้างอยู่ตรงนั้น ผมหวังว่าคุณจะให้ผมจัดการเรื่องอสังหาริมทรัพย์ได้”หลินซวงพยักหน้า “นั่นไม่มีปัญหาค่ะ”“อย่างที่สอง สำหรับวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่จำเป็นในการก่อสร้างพื้นเขตที่อยู่อาศัย ผมหวังว่าบริษัทของคุณจะสามารถครอบคลุมได้ ส่วนเรื่องราคาก็ควรจะเป็นไปตามอัตราตลาด”หากเย่ซิวต้องจัดตั้งทีมของเขาเอง ไม่เพียงแต่ต้องใช้เวลานานและต้องใช้แ
“สถานการณ์บานปลายกว่าทีเราคาดไปแล้ว!”เซี่ยซิ่วซิ่วยืนอยู่ตรงหน้าเย่ซิวด้วยสีหน้าจริงจัง“ความคิดเห็นสาธารณะแรง ๆ พวกนั้น กับพวกที่เปิดเผยร้านทั้งหมดในองค์กรของเราทางอินเทอร์เน็ต”“ตอนนี้มีคนจำนวนมากที่คว่ำบาตรร้านของเรา และร้านหลายแห่งถูกทำลาย ส่งผลให้ได้รับความสูญเสียเป็นอย่างมาก”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยซิ่วซิ่วก็กัดฟันกรอด “นี่ถึงกับใช้วิธีน่ารังเกียจขนาดนี้ได้ ช่างน่ารังเกียจและไร้ยางอายจริง ๆ!”“อย่าโกรธเกินไปเลย” ตรงกันข้าม เย่ซิวนั้นดูสงบมาก “ปล่อยให้พวกเขาก่อเรื่องวุ่นวายต่อไป ในไม่ช้าพวกเขาจะได้ลิ้มรสผลที่ตามมาเอง”ดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วเป็นประกาย “นายเย่ซิว นายมีวิธีอะไรดี ๆ เหรอ?”เย่ซิวมอบแฟลชไดรฟ์ USB ให้กับเซี่ยซิ่วซิ่วแล้วกระซิบให้คำแนะนำแก่เธอสองสามข้อหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วได้ฟัง เธอก็พยักหน้ารัว ๆ“นายเย่ซิวนี่สุดยอดจริง ๆ ถึงกับคิดแผนสำรองเอาไว้ทุกอย่าง คราวนี้คนพวกนั้นได้เจอดีแน่”เซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่กับเย่ซิวนานไปกว่านี้ และก้าวขาเรียวยาวกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ……ภายในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งเหล่าผู้บริหารสูงสุดจากบริ
ทักษะด้านงานเขียนของเธอยังคงสูงมากตีงูต้องตีให้ตาย โจมตีศัตรูทั้งทีต้องเล็งจุดสำคัญ ชาวเน็ตจำนวนมากบนโลกอินเทอร์เน็ตกลับคำวิจารณ์ของพวกเขาทันทีเขียนให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อผู้คนมักเห็นใจผู้อ่อนแอและวิพากษ์วิจารณ์ผู้แข็งแกร่งเสมอความคิดเห็นด้านล่างก็เปลี่ยนทิศทางทันที“คนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์พวกนี้กดขี่บ้าอำนาจเกินไปแล้ว!”“ทำแบบนี้แถวบ้านผมเรียกโจร!”“พวกเขาไม่ขายที่ดินให้กับพวกคุณ ก็เลยต้องใช้วิธีน่ารังเกียจอย่างนี้สินะ!”“ทั้งความตั้งใจ ทั้งทรัพยากรการเงินมากขนาดนี้ ทำไมไม่สร้างบ้านที่คุณสร้างให้แข็งแกร่งขึ้นกว่านี้หน่อยล่ะ? แหกตาดูหน่อยว่าแต่ละปีมีบ้านที่มีปัญหาด้านคุณภาพกี่หลัง!”……เมื่อเห็นความคิดเห็นเหล่านี้ พวกนายใหญ่ก็โกรธจัด“ไอ้พวกโง่! ไอ้พวกโง่! ทำไมไอ้โง่พวกนี่ถึงถูกถ่ายไว้ได้!”“คราวนี้เจอปัญหาใหญ่ ความพยายามทั้งหมดที่เราทำในช่วงนี้สูญเปล่าไปแล้ว!”“พวกคุณดูนี่ก่อน ยังมีอีกข่าวหนึ่งด้วย!”……หลังจากออกจากหน้าที่แสดงข่าวแรก ก็เห็นว่ายังมีข่าวอื่นที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีก'ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายไม่สามารถซื้อที่ดินได้ กล่าวหาประธ
ในแววตาของเซี่ยชิงชิงไม่แสดงความแค้นอีกต่อไป หากแต่ซ่อนมันไว้ลึกสุดใจตอนนี้เธอเพิ่งสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองจนต้องตกตะลึง “ความแข็งแรงของกระดูกฉัน… พลังภายในของฉัน…”เธอรู้สึกทึ่งกับวิธีการของเย่ซิวและตามมาด้วยความยินดีอย่างท่วมท้นแค่การเพิ่มพลังในวันเดียวก็ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่ากลัวหากสามารถรักษาระดับนี้ได้ทุกวัน สักวันหนึ่งเธอก็จะสามารถก้าวสู่การสร้างรากฐานปราณได้เช่นกัน!เมื่อถึงเวลานั้น พลังพิษของเธอก็จะพัฒนาขึ้นอย่างมหาศาลแล้วเธอจะหาทางเข้าใกล้เย่ซิวเพื่อวางยาพิษเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว!แววตาเธอมีประกายความหวังขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ บทบาทที่เธอจะต้องเล่นต่อไปก็คือการทำตัวเป็นคนที่ไม่สามารถอยู่ห่างจากเย่ซิวได้จนกว่าจะถึงวันที่เธอแข็งแกร่งพอ!……หลังเลิกงาน ชูตงไม่เสียเวลาอยู่ในบริษัทแม้แต่นาทีเดียว เธอรีบสะพายกระเป๋าแล้วออกไปอย่างรวดเร็วมีสองเหตุผลเหตุผลแรกคือไม่อยากพบกับเย่ซิวอีก และเหตุผลที่สองคือต้องไปทำงานพิเศษทุกสัปดาห์งานนั้นคือการสอนพิเศษให้กับเด็กสาวที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีสุดท้ายหลังออกจากบริษัท ชูตงก็เรียกแท็กซี่
เซี่ยชิงชิงเคาะประตูห้องทำงานของเย่ซิวด้วยความกังวลใจทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าในห้องทำงานมีเพียงเย่ซิวเพียงคนเดียวโดยไม่มีผู้บริหารระดับสูงอย่างที่เขาว่าไว้ เซี่ยชิงชิงก็รู้สึกขนลุกแทบอยากจะหันหลังกลับออกไปทันทีเย่ซิวเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ยืนบื้ออยู่ตรงนั้นทำไม เข้ามาสิ”เซี่ยชิงชิงสูดลมหายใจลึกก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูให้เรียบร้อยเธอพยายามฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย “พี่เขย นายเรียกฉันมามีอะไรหรือเปล่า?”“มานี่” เย่ซิวกวักมือเรียกเธอเซี่ยชิงชิงทำได้แค่เดินเข้าไปหาเขา“เมื่อกี้ฉันตรวจดูโครงกระดูกของเธอแล้วมันยังอ่อนแออยู่ เลยคิดว่าตอนนี้พอมีเวลาจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เธอหน่อย”เซี่ยชิงชิงรู้สึกสงสัย เธอไม่เชื่อว่าเย่ซิวจะมีเจตนาดีเช่นนั้น“ไม่…ไม่เป็นไร”เย่ซิวลุกขึ้นเดินมาหาเธอ ก่อนจะยกมือปิดจุดเสียงของเธอทำให้เธอไม่สามารถพูดได้ ก่อนจะคว้ามือของเธอแล้วบีบอย่างแรง“กร๊อบ!”เสียงกระดูกแตกดังขึ้นดวงตาของเซี่ยชิงชิงเบิกกว้าง ความเจ็บปวดรุนแรงจนทำให้ลมหายใจเธอขาดห้วงแต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นจากนั้น เธอได้ลิ้มรสความทรมานท
หลังจากที่พลังเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้า ความสามารถในการจดจำก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนแทบจะเรียกได้ว่าผ่านตาเพียงครั้งเดียวก็จำได้ทุกอย่าง เอกสารลับหลายฉบับถูกจดจำไว้ในหัวของเธออย่างแม่นยำ เธอจึงยกยิ้มมุปากเล็กน้อย“ดูอะไรอยู่ล่ะ ทำไมดูจริงจังขนาดนี้”เสียงเรียบชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกะทันหันข้างหูของเธอเซี่ยชิงชิงเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าเย่ซิวมาอยู่ตรงหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เธอปิดเอกสารอย่างไม่แสดงพิรุธ ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วตอบด้วยเสียงที่มั่นคง “ว่าไงพี่เขย ฉันกำลังดูข้อมูลของบริษัทอยู่”เย่ซิวก้าวเข้ามาใกล้เธอทีละก้าวแม้ว่าเขาจะไม่ได้ปล่อยพลังที่น่ากลัวใด ๆ ออกมา แต่ก็ทำให้เซี่ยชิงชิงต้องก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวในที่สุดเธอก็ถูกบีบให้ถอยจนชิดกับผนังเย่ซิวใช้มือข้างหนึ่งเท้ากับผนังไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งเชยคางของเซี่ยชิงชิงขึ้นมาพลางใช้สายตามองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ “เธอเพิ่งมาที่บริษัท พอจะปรับตัวได้หรือเปล่า?”“ก็…ก็โอเคนะ…”เสียงของเซี่ยชิงชิงมีความตะกุกตะกักเล็กน้อยและเต็มไปด้วยความกังวลใจ เพราะเธอไม่แน่ใจว่าเย่ซิวจะรู้เรื่องอะไรบ้างหรือเปล่า“ถ้างั้นก
“คุณทำอะไรน่ะ? ปล่อยเดี๋ยวนี้!”ทันใดนั้นเมื่อถูกเย่ซิวคว้ามือไว้ ขนทั้งร่างของชูตงก็ลุกเกรียว เธอโกรธมากพยายามดึงมือออกอย่างสุดความสามารถน่าเสียดายที่ด้วยความแข็งแกร่งของเธอ มันจึงถูกกำหนดให้เป็นไปไม่ได้ชูตงรู้สึกทั้งอายและโกรธ เธอพูดอย่างโกรธจัด "รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความ!"แม้ว่าเธอจะเคยคบกับหลี่ต้าจ้วง แต่ทั้งสองคนก็ไม่เคยจับมือกันตอนนี้จู่ ๆ ก็ถูกชายคนหนึ่งที่พบเจอเพียงไม่กี่ครั้งจับมือ อย่าถามเลยว่าเธอเดือดดาลแค่ไหนโชคดีที่ระบบกันเสียงในห้องทำงานนี้ดีพอที่จะทำให้เสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีทางได้ยินจากข้างนอก ไม่อย่างนั้นทั้งบริษัทคงรู้เรื่องนี้แล้วเย่ซิวใช้แรงดึงเธอให้นั่งลงบนโซฟา จับไหล่ของเธอไว้ป้องกันไม่ให้เธอขยับชูตงตื่นตระหนกมาก คิดว่าเย่ซิวต้องการทำอะไรบางอย่างกับเธอ เธอจึงตะโกนลั่น“ช่วยด้วย ไอ้สารเลว ปล่อยฉันไปนะ ฮือฮือฮือ...”เธอรู้สึกเพียงว่าชีวิตมันช่างมืดมนเมื่อวานเพิ่งถูกแฟนหักหลัง วันนี้ยังต้องมาโดนผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้...“หุบปาก!” จู่ ๆ เย่ซิวก็ตะโกนขึ้น “ผู้หญิงโง่นี่ ใครบอกว่าผมจะทำอะไรคุณ!”ชูตงตกใจกับเสียงคำรามของเขามากจึง
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถอดผ้าปิดตาออก เอียงศีรษะแล้วมองไปที่เย่ซิว "เมื่อคืนนี้คือน้องหลิ่วใช่ไหม?"เย่ซิวรู้สึกขบขันอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงจริงจัง "คุณเดาดูสิ"ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แค่นเสียงฮึ่ม "ต้องเป็นเธอแน่ ๆ ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวในบ้านนี้ที่ใช้น้ำหอมดอกหอมหมื่นลี้คิดไม่ถึง น้องหลิ่วที่ปกติดูจะเป็นผู้หญิงที่ซื่อตรงขนาดนั้นจะ…”เย่ซิวขอโทษหลิ่วเมิ่งอิ๋นในใจอย่างเงียบ ๆ ที่ให้เธอมาแบกรับความผิดแทนหลิวอวิ้นเมื่อเห็นว่าเย่ซิวเงียบไม่พูด ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็เข้าใจไปเองแล้วว่านั่นคือหลิ่วเมิ่งอิ๋นจริง ๆหลังจากอาบน้ำทำธุระเสร็จ ก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋น จึงหัวเราะคิกคักและพูดไปว่า "น้องหลิ่ว ฉันดูไม่ออกเลยจริง ๆ นะ"หลิ่วเมิ่งอิ๋น "???"วันนี้เย่ซิวเองก็จะไปที่บริษัทกับพวกเธอด้วยเซี่ยชิงชิงติดตามไปด้วยเช่นกันเธอนั่งอยู่ในรถ กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้บรรยากาศครึกครื้น รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาบนใบหน้า ทำให้ใครเห็นใครก็รักถ้าเย่ซิวไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ เขาก็อาจจะถูกทักษะการแสดงของน้องภรรยาคนนี้หลอกเข้าให้จริง ๆเมื่อมาถึงที่บริษัท เซี่ยชิงชิงก็ถูกพี่สาวพาไปลงทะเบีย
หัวใจของเซี่ยชิงชิงกระตุกวูบ ก่อนที่เธอจะทันได้ทันตอบสนอง มือของเย่ซิวก็วางลงบนจุดตันเถียนของเธอแล้วมือใหญ่ที่มั่นคงและทรงพลังนั้นกดลงไปตรง ๆร่างกายอันละเอียดอ่อนของเซี่ยชิงชิงแข็งทื่อ เธอแทบจะหยุดหายใจแล้ว“โอ้? ไม่เลวเลย ถึงกับมีความสามารถในการฆ่าแมลงพิษที่ฉันฝังไว้” เย่ซิวมองเธอด้วยรอยยิ้มแต่เซี่ยชิงชิงรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าหมายของงูพิษร้าย ร่างกายของเธอเย็นเยียบไปหมดเธอพูดขึ้นอย่างยากลำบาก "ใช่...ใช่แล้วค่ะ ฉันพบโอสถหมื่นพิษเม็ดหนึ่งในสำนักเบญจพิษหลังจากกินมัน พลังของฉันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก และฉันก็สามารถกำจัดแมลงพิษได้ ก่อนหน้านั้นฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเป็นแบบนี้"“โอสถหมื่นพิษ” เย่ซิวเริ่มสนใจแล้วเขาสำรวจเธออย่างรอบคอบเซี่ยชิงชิงกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกถึงความอัปยศอดสูเหมือนที่ได้รับในตอนนั้นอีกครั้งแต่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากในดวงตาไม่มีร่องรอยของความแค้นเคืองอะไร มีเพียงความตื่นตระหนกและความเขินอายหลังจากสำรวจเสร็จแล้ว เย่ซิวก็หยุดมือและหัวเราะเบา ๆ "ช่างเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะขึ้นเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าแล้วงั้นตั้งแต่พร
แต่ในใจกลับค่อนข้างดูถูกดูแคลนที่แท้ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ ตัวเย่ซิวล้วนโง่เขลาขนาดนี้ เธอเอาชนะใจพวกเธอได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นฉากนี้ น้องสาวของเธอโตขึ้นมากกริ๊งประตูอิเล็กทรอนิกส์ของวิลล่าเปิดออก สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเมื่อพวกเธอเห็นเย่ซิวกลับมาจากข้างนอก ผู้หญิงหลายคนก็ปรี่ขึ้นไปต้อนรับเขากลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายทุกชนิดผสมผสานกัน ทำให้ฮอร์โมนของคนพลุ่งพล่านรอยยิ้มจากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่ซิวนี่ถึงจะเป็นสวรรค์ของเขา ไร้ซึ่งกลอุบาย และไม่มีใครที่คิดจะทำร้ายเขาสุดท้าย สายตาของเขาก็มองไปที่เซี่ยชิงชิงซึ่งยืนอย่างเขินอายห่างออกไปกว่าสิบเมตร เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อย ไม่กล้ามองเขาเย่ซิวเดินไปพร้อมกับสายตาที่พินิจพิเคราะห์เซี่ยชิงชิงจับมือทั้งสองข้างแน่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นนี่ไม่ใช่การแสดง แต่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอในตอนนี้ผู้ชายคนนี้ น่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีก เธอกลัวว่าจะเผยพิรุธออกมาขณะที่เธอหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เย่ซิวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ชิงชิงสวยขึ้นมาก คุ้นเคยกับที่นี่รึยัง?"“อืม ที่นี่ดีมาก ขอบคุณที
หลังจากที่ตื่นเต้นแล้ว หลี่หยวนก็ถูกกลิ่นเหม็นที่มาจากร่างของตัวเองเกือบทำให้หมดสติไปหลังจากทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ เขาก็วิ่งไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำดวงตากลมโตและระยิบระยับของหลี่หลิงเอ๋อร์เบิกกว้าง "ฉันเอาด้วย ฉันเองก็อยากลองบ้างเหมือนกัน"เย่ซิวพยักหน้า และกดนิ้วลงไปที่หว่างคิ้วของเธอเหมือนกันกระแสพลังวิญญาณถูกส่งเข้าไปในร่างของหลี่หลิงเอ๋อร์และไหลไปทั่วร่างสิ่งที่ทำให้เย่ซิวประหลาดใจก็คือ ศักยภาพทางร่างกายของหลี่หลิงเอ๋อร์นั้นแข็งแกร่งกว่าของหลี่หยวนมากในที่สุด พลังวิญญาณของเขาก็ถูกส่งไปเก็บในจุดตันเถียนที่ช่องท้องของหลี่หลิงเอ๋อร์"ว้าว น่าทึ่งมาก"หลี่หลิงเอ๋อร์มองไปที่เย่ซิวด้วยความชื่นชมและนับถือตัวเองนั่งสมาธิและฝึกฝนอย่างหนักที่นี่เป็นเวลาหลายปี ถึงจะประสบความสำเร็จเล็กน้อยแต่ตอนนี้เย่ซิวแค่จิ้มตัวเองเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ กลับได้รับผลประโยชน์มหาศาลชนิดที่เอาเมื่อก่อนมารวมกันก็ยังเทียบไม่ติดเธอเป็นเหมือนภูตตัวน้อย น่ารักมาก "ทำอีกหลายรอบหน่อยจะได้รึเปล่า?"เย่ซิวรู้สึกตลกและถามไปว่า “คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”“ปีนี้ฉันอายุยี่สิบแล้ว”เย่ซิวตกใจแล้วจริง ๆ เด็กสาวมีใบ
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ