“อ่า…”……บริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วนี่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในอันดับที่สามของประเทศหลงเถิงณ ชั้นสูงสุดของสำนักงานใหญ่หลินซวงมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีรถวิ่งไปมาไม่ขาดสาย ดวงตาของเธอเปล่งประกายความคิดบางอย่าง“ท่านประธานคะ ข้อมูลที่เกี่ยวกับเย่ซิวอยู่นี่แล้วค่ะ”เลขานุการที่ติดตามเธอมาเป็นเวลาหลายปีเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารกองหนึ่งในมือหลินซวงรับเอกสารกองนั้นมาและเริ่มดูอย่างละเอียดใช้เวลานานเกือบชั่วโมงถึงจะอ่านจบทั้งหมดโดยมีเลขานุการของเธอยืนอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลาหลินซวงวางเอกสารลงแล้วนวดศีรษะของตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “รบกวนจองตั๋วเครื่องบินให้ฉันด้วยนะคะ ฉันต้องการพบเขาให้เร็วที่สุด”เลขานุการถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง “ท่านประธานต้องไปพบเขาด้วยตัวเองเหรอคะ? จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอคะ?”บริษัทอสังหาริมทรัพย์จิ่นซิ่วเป็นถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในอันดับสามของประเทศหลงเถิง ซึ่งมีมูลค่าตลาดเกินกว่าห้าแสนล้านบาท ถือว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่และมีอิทธิพลอย่างมากแต่ส่วนทรัพย์สินของเย่ซิวยังไม่ถึงหนึ่งแสนล้านด้วยซ้ำ สองฝ่ายนี้ไม่สามารถเปรียบเ
วันนั้นตอนบ่าย เซี่ยซิ่วซิ่วไปหาเย่ซิวด้วยความร้อนใจ“เย่ซิว ไม่ได้การแล้ว นายรีบอ่านข่าวเร็ว!”เย่ซิวรีบเปิดข่าวในอินเทอร์เน็ตดู ก็พบว่ามีข้อความสิบกว่าบรรทัดทั้งหมดถูกทำเป็นตัวหนาสีแดง‘เย่ซิว ประธานบริษัทสตาร์รี่สกายแห่งเมืองเจียงเฉิงมีพฤติกรรมหยิ่งยโสและอวดดี ทำร้ายร่างกายผู้บริหารบริษัทระดับสูงที่มาเจรจาขอความร่วมมือ’‘สุดช็อก! ประธานบริษัทสตาร์รี่สกายมีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมกับพนักงานหญิง!’‘ในหนึ่งเดือน บริษัทสตาร์รี่สกายสามารถทำกำไรได้หลายหมื่นล้าน เบื้องหลังรายได้มหาศาลมีความจริงอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า?’……เย่ซิวคลิกเข้าไปดูหัวข้อข่าวหนึ่ง เนื้อหาภายในบิดเบือนข้อมูลของเขาทั้งหมด ในส่วนของความคิดเห็นถูกควบคุมโดยเหล่านักเลงคีย์บอร์ดซึ่งเต็มไปด้วยคำด่าทอบางคนที่ไม่รู้เรื่องจริง เมื่อเห็นข่าวเหล่านี้ ก็ถูกชักจูงและร่วมด่าทอเย่ซิวไปพร้อมกับพวกนักเลงคีย์บอร์ดไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ชื่อเสียงของเขาทางอินเทอร์เน็ตก็พังทลายลงมีการใส่สีตีไข่เขามากมาย หากเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแออาจจะโกรธจนถึงขั้นกระอักเลือดได้แต่สำหรับเย่ซิวที่มีจิตใจมั่นคงดุจดังหินผา เขาไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเด
“นี่เป็นกลวิธีที่พวกเขาชอบใช้ พวกเขาจะเริ่มต้นด้วยการจ้างนักเลงคีย์บอร์ดมาทำลายชื่อเสียงเพื่อลดทอนความตั้งใจของคู่แข่ง และทำให้คู่แข่งขัดแข้งขัดขาตัวเองสเต็ปต่อไป คือการขุดคุ้ยข้อมูลที่เป็นเชิงลบ ถ้ายังไม่ได้ผลก็จะใช้เส้นสายของตัวเองตัดการส่งวัสดุก่อสร้างหนานกงเยวี่ยส่งเสียงหึในลำคออย่างรู้สึกขัดใจ “ช่วยไม่ได้นี่ ก็ครอบครัวของพวกเขามีธุรกิจใหญ่โต สามารถเล่นสกปรกแบบนี้ได้”เธอสองคนออกจากสนามบินไปเรียกแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัทสตาร์รี่สกายเมื่อมาถึงล็อบบี้ของบริษัท สิ่งที่ทำให้เธอสองคนแปลกใจคือ ที่นั่นกลับเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้มีความยุ่งเหยิงแม้แต่น้อยดวงตาของหลินซวงมีความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ‘ดูเหมือนว่าเย่ซิวคนนี้จะเก่งกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก’แม้ว่าภายนอกจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม แต่ภายในบริษัทของเขายังคงมีความสงบนิ่ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะบริหารจัดการได้หลังจากทั้งสองคนทำการแนะนำตัวเจ้าหน้าที่ก็รีบขึ้นไปรายงานเขาทันทีผ่านไปไม่นาน เซี่ยซิ่วซิ่วก็ออกมาต้อนรับพวกเธอด้วยตัวเองเมื่อสองสาวเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วก็ถึงกับตกตะลึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องบุคล
เมื่อสองสาวได้พบกับเย่ซิวท่าทางของพวกเธอก็ดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อยแม้ว่าเย่ซิวจะดูหล่อ รูปร่างก็ถือว่าไม่เลว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นหล่อเกินบรรยายอะไรเช่นนั้นผู้ชายแบบนั้นจะคู่ควรกับเซี่ยซิ่วซิ่วได้อย่างไร?สิ่งที่ทำให้เธอทั้งสองรู้สึกเหลือเชื่อนั่นก็คือ เซี่ยซิ่วซิ่วดันไปตกหลุมรักเขา และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังไม่ได้ตอบรับรักเธอกลับอีกด้วย เย่ซิวไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่เธอทั้งสองคนคิดอยู่ในใจหลังจากลุกขึ้นยืนเชิญให้พวกเธอนั่งลง เขาก็ทำการเริ่มชงชาด้วยตนเองทักษะการชงชาของเขานั้นยอดเยี่ยม ท่าทางลื่นไหลดุจสายน้ำช่างดูงดงามมากทำให้คนที่เห็นไม่สามารถละสายตาจากการกระทำของเขาได้เลยสองสาวต่างก็รู้สึกแปลกใจ ทันใดนั้น พวกเธอก็เริ่มรู้สึกประทับใจในตัวเย่ซิวขึ้นมาผู้ชายที่สามารถชงชาได้ถือว่าเป็นข้อดี เพราะมันสะท้อนถึงการฝึกฝน สะท้อนถึงความลึกซึ้งและบุคลิกภายในของเขาเซี่ยซิ่วซิ่วหลับตาพริ้มเธอได้ค้นพบอีกความสามารถของเย่ซิว แต่ละครั้งที่ศึกษาลึกลงไปในตัวเย่ซิวก็จะพบกับสิ่งที่มีค่าและน่าทึ่งเสมอความรู้สึกนี้ทำให้เธอหลงใหลและไม่สามารถถอนตัวออกมาได้ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเย่ซิวยิ่งลึก
หากราคาสูงเกินไปคงเป็นเรื่องยากที่จะเจรจาธุรกิจกันในวันนี้แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ ราคาที่เย่ซิวให้นั้นต่ำกว่าที่พวกเขาคาดไว้จริง ๆ“ห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร”ผู้หญิงทั้งสองคนพลันเบิกตากว้างพร้อมกันดวงตาของหลินซวงแสดงความประหลาดใจ “คุณเย่ คุณแน่ใจใช่ไหมคะว่าราคานี้ถูกต้องแล้ว?”“คุณได้ยินถูกต้องแล้วครับ ห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร” เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น “แต่ผมมีข้อกำหนดเพิ่มเติมอีกสองข้อ”หลินซวงคิดในใจว่า ‘อย่างที่คาดไว้ มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นอยู่แล้ว’ โดยผิวเผิน พวกเขาไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติแม้แต่น้อย “คุณเย่ บอกมาได้เลยค่ะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม หากเราสามารถตกลงกันได้ พวกเราก็จะทำแน่นอนค่ะ”“อย่างแรก ในอนาคต สำหรับพื้นที่เขตที่อยู่อาศัยที่คุณกำลังสร้างอยู่ตรงนั้น ผมหวังว่าคุณจะให้ผมจัดการเรื่องอสังหาริมทรัพย์ได้”หลินซวงพยักหน้า “นั่นไม่มีปัญหาค่ะ”“อย่างที่สอง สำหรับวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่จำเป็นในการก่อสร้างพื้นเขตที่อยู่อาศัย ผมหวังว่าบริษัทของคุณจะสามารถครอบคลุมได้ ส่วนเรื่องราคาก็ควรจะเป็นไปตามอัตราตลาด”หากเย่ซิวต้องจัดตั้งทีมของเขาเอง ไม่เพียงแต่ต้องใช้เวลานานและต้องใช้แ
“สถานการณ์บานปลายกว่าทีเราคาดไปแล้ว!”เซี่ยซิ่วซิ่วยืนอยู่ตรงหน้าเย่ซิวด้วยสีหน้าจริงจัง“ความคิดเห็นสาธารณะแรง ๆ พวกนั้น กับพวกที่เปิดเผยร้านทั้งหมดในองค์กรของเราทางอินเทอร์เน็ต”“ตอนนี้มีคนจำนวนมากที่คว่ำบาตรร้านของเรา และร้านหลายแห่งถูกทำลาย ส่งผลให้ได้รับความสูญเสียเป็นอย่างมาก”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยซิ่วซิ่วก็กัดฟันกรอด “นี่ถึงกับใช้วิธีน่ารังเกียจขนาดนี้ได้ ช่างน่ารังเกียจและไร้ยางอายจริง ๆ!”“อย่าโกรธเกินไปเลย” ตรงกันข้าม เย่ซิวนั้นดูสงบมาก “ปล่อยให้พวกเขาก่อเรื่องวุ่นวายต่อไป ในไม่ช้าพวกเขาจะได้ลิ้มรสผลที่ตามมาเอง”ดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วเป็นประกาย “นายเย่ซิว นายมีวิธีอะไรดี ๆ เหรอ?”เย่ซิวมอบแฟลชไดรฟ์ USB ให้กับเซี่ยซิ่วซิ่วแล้วกระซิบให้คำแนะนำแก่เธอสองสามข้อหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วได้ฟัง เธอก็พยักหน้ารัว ๆ“นายเย่ซิวนี่สุดยอดจริง ๆ ถึงกับคิดแผนสำรองเอาไว้ทุกอย่าง คราวนี้คนพวกนั้นได้เจอดีแน่”เซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่กับเย่ซิวนานไปกว่านี้ และก้าวขาเรียวยาวกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ……ภายในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งเหล่าผู้บริหารสูงสุดจากบริ
ทักษะด้านงานเขียนของเธอยังคงสูงมากตีงูต้องตีให้ตาย โจมตีศัตรูทั้งทีต้องเล็งจุดสำคัญ ชาวเน็ตจำนวนมากบนโลกอินเทอร์เน็ตกลับคำวิจารณ์ของพวกเขาทันทีเขียนให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อผู้คนมักเห็นใจผู้อ่อนแอและวิพากษ์วิจารณ์ผู้แข็งแกร่งเสมอความคิดเห็นด้านล่างก็เปลี่ยนทิศทางทันที“คนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์พวกนี้กดขี่บ้าอำนาจเกินไปแล้ว!”“ทำแบบนี้แถวบ้านผมเรียกโจร!”“พวกเขาไม่ขายที่ดินให้กับพวกคุณ ก็เลยต้องใช้วิธีน่ารังเกียจอย่างนี้สินะ!”“ทั้งความตั้งใจ ทั้งทรัพยากรการเงินมากขนาดนี้ ทำไมไม่สร้างบ้านที่คุณสร้างให้แข็งแกร่งขึ้นกว่านี้หน่อยล่ะ? แหกตาดูหน่อยว่าแต่ละปีมีบ้านที่มีปัญหาด้านคุณภาพกี่หลัง!”……เมื่อเห็นความคิดเห็นเหล่านี้ พวกนายใหญ่ก็โกรธจัด“ไอ้พวกโง่! ไอ้พวกโง่! ทำไมไอ้โง่พวกนี่ถึงถูกถ่ายไว้ได้!”“คราวนี้เจอปัญหาใหญ่ ความพยายามทั้งหมดที่เราทำในช่วงนี้สูญเปล่าไปแล้ว!”“พวกคุณดูนี่ก่อน ยังมีอีกข่าวหนึ่งด้วย!”……หลังจากออกจากหน้าที่แสดงข่าวแรก ก็เห็นว่ายังมีข่าวอื่นที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีก'ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายไม่สามารถซื้อที่ดินได้ กล่าวหาประธ
หลังจากเชื่อมต่อสาย เสียงดีใจมากก็ดังมาจากปลายสาย “หลานย่า หลานเห็นข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า? เกี่ยวกับเรื่องบริษัทอสังหาริมทรัพย์พวกนั้นน่ะ”รอยยิ้มหวานประกายบนใบหน้าหลินซวง “คุณย่า หนูเห็นแล้วค่ะ คุณย่าคิดว่ายังไงคะ?”“แน่นอนว่าย่ามีความคิดมากมายเลยเชียวล่ะ”“ย่าไปถามเรื่องนี้กับใครบางคนมานิดหน่อย เจ้าหนุ่มที่ถูกกล่าวหานั่นเป็นคนดีใช้ได้เลย หน้าตาก็หล่อเหลาและความสามารถก็ไม่เลวเลย”ตามข้อมูล แม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่าเล็กน้อย แต่ที่จริงแล้วเขาจะอายุสิบแปดปีในอีกหนึ่งเดือน “ถึงหลานจะอายุมากกว่าเขานิดหน่อย แต่ก็อย่างที่พูดกันว่า หญิงใดอายุมากกว่าสามปีจะนำความมั่งคั่งมาสู่ชาย หลานอายุมากกว่าเขาแค่หกปีเอง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย”“รีบหาทางเอาเขามาเป็นหลานเขยของย่าเดี๋ยวนี้เลย”หลินซวงตกตะลึงทันที “คุณย่า คุณย่าเป็นอะไรไปแล้วคะ? หนูเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียวเองนะคะคุณย่าไม่เคยพบเขา แต่คุณย่าอยากให้หนูแต่งงานกับเขาเพียงเพราะข้อมูลพวกนี้ นี่มันไม่ใช่แล้วนะคะคุณย่า”หลินซวงสับสนระคนไม่เข้าใจ เธอพบว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแปลกที่วันนี้คุณย่าของเธอดูไม่ปกติ แต่เธอไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่ามันคื
เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ
“อะไรนะ? แค่วันเดียวนายก็กลั่นสำเร็จจริงเหรอ?”ทันทีที่เห็นเย่ซิว เจ้าสำนักก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังเขาเองก็ไม่ได้เพิ่มพลังตัวเองมานานแล้วเหตุผลหลักก็เพราะไม่มีโอสถที่เหมาะสมพอให้ใช้โอสถระดับปฐมญาณนั้นหาได้ยากมากในตลาดต่อให้มีก็จะปรากฏแค่ในงานประมูลเท่านั้น และราคาก็มักจะพุ่งขึ้นสูงเทียมฟ้าเสมอแม้รั่วอวิ๋นจะสามารถกลั่นยาได้แต่เธอต้องลองห้าหกครั้งถึงจะสำเร็จสักครั้ง แถมแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล“ผมไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังครับ” เย่ซิวยื่นโอสถเก้าเม็ดที่ถูกเจือจางแล้วให้ ก่อนถอนหายใจหนึ่งที “ไม่คิดเลยว่าฝีมือกลั่นโอสถของผมจะแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดออกมาเป็นแค่ระดับต่ำ”เจ้าสำนักมองโอสถระดับปฐมญาณในมือแล้วถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนสุขุมมาก แต่ก็ยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาแล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความยินดี “ดี ดีมาก ๆ ฝีมือกลั่นโอสถของนายอาจจะแซงหน้าอาจารย์ของตัวเองไปแล้วก็ได้นะ”เย่ซิวยิ้มเก้อ ๆ “ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมยังพัฒนาอีกมาก เอ่อ…”จู่ ๆ สีหน้าเขาก็ซีดเผือด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้มเจ้าสำนักหรี่ตา “นายเป็นอะไรไป?”“ไม่เป็นไรครับ แค่เสียพลังมากเก
เย่ซิวเอ่ยรายชื่อวัตถุดิบออกมาติดต่อกันเป็นสิบ ๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายสำหรับการหลอมร่างแยกธาตุดินเขามีแผนการบางอย่างในใจ และจำเป็นต้องสร้างร่างแยกธาตุทั้งห้าสำเร็จเสียก่อนถึงจะลงมือได้ดวงตาของเจ้าสำนักเปล่งประกายวาบ “ฉันมีหินดินธาตุดั้งเดิมอยู่ก็จริง แต่ของสิ่งนี้ล้ำค่ามาก เว้นเสียแต่นายจะสามารถกลั่นโอสถระดับปฐมญาณออกมาได้”เย่ซิวพยักหน้า เขารู้จักโอสถประเภทนี้ดี มันสามารถเพิ่มพลังระดับปฐมญาณได้แต่กระบวนการกลั่นซับซ้อนมาก แถมวัตถุดิบยังหาได้ยากสุด ๆแค่ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นก็เกินสิบล้านศิลาวิญญาณแล้วผู้บำเพ็ญสายอิสระทั่วไปไม่มีทางสู้ราคาไหวแน่“แล้วเจ้าสำนักอยากได้กี่เม็ด ถึงจะยอมแลกล่ะครับ”“นายกลั่นได้จริงเหรอ?” เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่เชื่อโอสถชนิดนี้ไม่เหมือนกับโอสถวิญญาณหยก ระดับความยากสูงกว่ากันหลายเท่าเย่ซิวไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมขอลองก่อน ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าสำนักให้วัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นกับผมก่อนถ้ากลั่นไม่ได้ ผมยินดีจ่ายค่าต้นทุน
เย่ซิวรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีพอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเสี่ยวไป๋ลอยอยู่กลางอากาศพลังวิญญาณในห้องถูกดูดเข้าไปหามันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วินาทีก็สูบพลังวิญญาณจนหมดทั้งห้องจากนั้นร่างของมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมขนาดใหญ่ แล้วค่อย ๆ ลอยลงสู่พื้นอย่างช้า ๆเย่ซิวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เสี่ยวไป๋กำลังจะวิวัฒนาการอีกแล้วรอบที่แล้วเหมือนจะพัฒนาขึ้นไม่มากเท่าไหร่แต่สัญชาตญาณของเย่ซิวบอกว่ารอบนี้น่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวเขารีบเอาน้ำพุวิญญาณที่เหลืออยู่เทราดลงไปบนรังไหมทันที ซึ่งมันก็ถูกดูดซึมหายไปอย่างรวดเร็วนี่อาจช่วยเร่งขั้นตอนวิวัฒนาการให้เร็วขึ้นได้เย่ซิวเดินไปอุ้มเจ้าเสี่ยวอวี่ที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมาเจ้าตัวนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแต่ท้องของมันนี่เหมือนหลุมดำชัด ๆเย่ซิวเลยจัดเต็มอีกครั้ง เขากลั่นโอสถวิญญาณหยกมาอีกหมื่นเม็ดให้มันไว้กินเล่นทั้งสำนักอวิ้นหลิงคงไม่มีใครกล้าทำอะไรฟุ่มเฟือยอย่างเขาอีกแล้วล่ะในช่วงครึ่งเดือนหลังจากนั้น เย่ซิวก็หมกตัวอยู่แต่กับการกลั่นโอสถและฝึกฝนวิชาต่าง ๆข้างนอกเองก็เริ่มมีข่าวแพร่กระจายไปว่าเย่ซิวสามารถกลั่นโอสถวิญญาณหยกได้ควา
จากท่าทีและสีหน้าของทุกคน เย่ซิวก็พอเดาออกว่าโอสถนี่น่าจะหาได้ยากมากในตลาดไม่งั้นพวกเขาคงไม่แห่กันมาขอซื้อแบบนี้แน่เขาทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย “ผมก็อยากช่วยนะครับ แต่โอสถตัวนี้ตอนปรุงมันใช้พลังจิตเยอะมากวันหนึ่งผมปรุงได้ไม่กี่รอบเอง แถมวัตถุดิบก็หายากด้วย”ความหมายแฝงก็คือพวกคุณต้องเพิ่มเงินและเตรียมของมาเองซึ่งทุกคนก็ไม่ใช่คนโง่และเข้าใจเจตนาของเขาทันที ก่อนจะรีบเสนอว่า“ถ้างั้นแบบนี้ดีไหม โอสถวิญญาณหยกหนึ่งเม็ด ฉันให้หนึ่งพันหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ ส่วนวัตถุดิบเราจัดการเอง แบบนี้ตกลงไหม”เย่ซิวคำนวณในหัวอย่างไวต้นทุนของโอสถวิญญาณหยกต่อเม็ดอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งพันศิลาวิญญาณถึงจะรวมค่าแรงและพลังวิญญาณที่ใช้ก็ถือว่าต้นทุนต่ำมาก อย่างมากก็แค่เสียเวลาเฉย ๆเขาสามารถกลั่นได้เป็นหมื่นเม็ดในคราวเดียวถ้าขายให้คนพวกนี้หมื่นเม็ดก็เท่ากับว่าจะได้เงินถึงสิบกว่าล้านศิลาวิญญาณเลยทีเดียวกำไรขนาดนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่ากินขาดแต่เย่ซิวก็ยังไม่ตอบตกลงทันที และทำท่าลังเลอยู่รั่วอวิ๋นที่ยืนข้าง ๆ ตบไหล่เขาเสียงดัง “ยังจะลังเลอะไรอีกล่ะ?นี่มันโอกาสทองเลยนะ ได้ทั้งเงินได้ทั้งฝึกฝีมือ”เย่ซิวถ
แล้วทุกคนก็เห็นจ่าฝูงเดินตรงไปหาเย่ซิว จากนั้นมันก็แลบลิ้นออกมาเลียหน้าของเขาเบา ๆ ด้วยแววตาประจบเอาใจสุด ๆทุกคนตกตะลึง “???”รั่วอวิ๋นถึงกับยืนนิ่งตัวแข็งเป็นหิน ตาถลน ปากอ้าค้างจากนั้นเธอก็ชี้ไปที่เย่ซิวอย่างโกรธจัด “นายยังจะกล้าบอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกเหรอ แล้วนี่มันอะไรกัน?!”แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ สิงโตหยกขาวอีกเจ็ดตัวก็วิ่งตามกันมาล้อมเย่ซิวไว้รอบด้าน แถมยังมองรั่วอวิ๋นด้วยสายตาแข็งกร้าวอย่างเต็มไปด้วยท่าทีคุกคามรั่วอวิ๋นเผลอก้าวถอยหลังไปด้วยสีหน้าซีดเผือดความรู้สึกตอนนี้เหมือนโดนใครสักคนมายึดบ้านไปคนอื่น ๆ เองก็จ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาในแบบที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองภาพที่อยู่ตรงหน้ามันเหนือจริงเกินไปเย่ซิวทำหน้าใสซื่อ “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ”รั่วอวิ๋นโกรธจนตัวสั่นสัตว์ที่เธอเลี้ยงมากับมือหลายปีดันพร้อมใจกันหักหลังเธอแบบนี้ ใครจะทนได้มันไม่ใช่แค่เรื่องทรัพยากร แต่ยังรวมถึงความรู้สึกที่ทุ่มเทไปทั้งหมดด้วย!“นายบอกว่าไม่ได้ทำอะไร แล้วทำไมพวกมันถึงพร้อมใจกันหักหลังฉัน อธิบายมาเดี๋ยวนี้!” รั่วอวิ๋นกัดฟันพูด สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความคาดโทษถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่ให
ในใจรั่วอวิ๋นกำลังปลื้มเป็นที่สุดแต่ต่อหน้าคนอื่นเธอยังคงวางมาดสงบนิ่ง และพยักหน้าเบา ๆ แบบถ่อมตัวสุด ๆ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ แค่สัตว์วิญญาณไม่กี่ตัว เอาไว้เฝ้าประตูเฉย ๆ”คำพูดโอ้อวดแบบถ่อมตัวเช่นนี้ทำเอาคนที่ยืนฟังอยู่ถึงกับกระตุกมุมปากกันเป็นแถบเธอคิดว่านี่คือผักกาดขาวหรือไงนี่มันสัตว์วิญญาณระดับจินตานตั้งแปดตัวเชียวนะถึงสายเลือดของพวกสิงโตหยกขาวจะไม่ใช่ระดับสูงสุด แต่ก็ไม่ใช่พวกชั้นต่ำ อยู่ระดับกลางค่อนไปทางดีเลยด้วยซ้ำถ้าเลี้ยงต่อไปดี ๆ รับรองว่าเก่งขึ้นได้อีกแน่นอนลองจินตนาการดูสิ สิงโตหยกขาวแปดตัวคำรามพร้อมกันจะอลังการแค่ไหน มันต้องเป็นภาพที่อลังการและน่าเกรงขามสุด ๆ“เย่ซิวก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ” ภรรยาเจ้าสำนักทำทีเหมือนเพิ่งสังเกตเห็นเขาเย่ซิวยิ้มพลางเอ่ย “ขอคารวะท่านผู้อาวุโสทุกท่าน เจ้าสำนักและภรรยา ผมแค่มาให้อาหารพวกมันน่ะครับ”ทุกคนก็พยักหน้าเบา ๆ เป็นเชิงรับรู้ ไม่มีใครเชื่อมโยงได้ถึงเรื่องที่สัตว์วิญญาณเลื่อนระดับได้เพราะตัวเขาเลยแม้แต่น้อยไม่นานนัก สัตว์วิญญาณทั้งแปดตัวก็ค่อย ๆ สร้างตานปีศาจได้สำเร็จแทบจะพร้อมกันพลังที่ระเบิดออกมาทำให้เกิดพายุขนาดใหญ่ไปทั
แม้ว่ารั่วอวิ๋นจะรู้ดีว่าความคิดแบบนี้มันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ แต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้เลยจริง ๆถ้าเย่ซิวแค่ลองกลั่นโอสถเป็นครั้งแรกก็เก่งกว่าเธอแบบไม่เห็นฝุ่น แบบนั้นมันก็เหมือนโดนตบหน้าแรง ๆ เข้าให้แล้วแบบนี้จะรักษาภาพลักษณ์ความเป็นอาจารย์ไว้ต่อหน้าเขาได้ยังไงกันล่ะเสียงโครมดังขึ้น ก่อนที่ฝาปิดเตาจะหลุดออกกลิ่นหอมของโอสถที่เข้มข้นจนถึงขีดสุดกระจายไปทั่วเย่ซิวถึงกับใจหล่นวูบ คิดในใจว่าแย่แล้วถึงเขาจะพยายามเก็บงำกลิ่นเท่าที่ทำได้แล้ว แต่ดูเหมือนแค่กลิ่นที่ลอยออกมาก็แรงกว่าโอสถของรั่วอวิ๋นเสียอีกรั่วอวิ๋นพยายามควบคุมสีหน้าแล้วรีบเดินเข้าไปดูโอสถในเตาพอเห็นแล้วก็ถึงกับยืนช็อกไปทั้งตัวที่ก้นเตา โอสถจำนวนห้าสิบเม็ดวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ และแต่ละเม็ดก็ใสบริสุทธิ์ดูอัดแน่นไปด้วยพลังแต่สิ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้ที่สุดก็คือทุกเม็ดมีลวดลายโอสถปรากฏอยู่บนผิวของมัน หมายความว่าโอสถทั้งหมดนี้เป็นระดับสูงนี่มันไม่ใช่แค่โดนตบหน้าแล้ว แต่มันคือการโดนกดหัวลงพื้นแล้วลากไปเลยต่างหากเย่ซิวไอแห้ง ๆ หนึ่งทีและจงใจไม่เข้าไปดู แต่ทำท่าทางตื่นเต้นแล้วถามเธอด้วยสีหน้าลุ้น ๆ ว่า “ท่านอาจ
ทั้งความรู้ที่เคยได้รับรวมถึงทักษะการกลั่นโอสถต่าง ๆ ก็ควรจะเหนือกว่าตัวเขาแบบทิ้งห่างสิแต่ทำไมกลับรู้สึกว่ายังห่างชั้นจากเขาอยู่เยอะเลย?เย่ซิวยังคิดว่าตัวเองอาจจะคิดไปเองจึงตั้งใจดูต่ออีกสักพักจนสุดท้ายก็มั่นใจเต็มร้อยว่าทักษะการกลั่นโอสถของผู้หญิงคนนี้ไม่ถึงหนึ่งในสิบของเขาด้วยซ้ำแค่ฝีมือระดับนี้ก็ยังยืนหยัดอยู่ในโลกของผู้ฝึกตนได้ด้วยเหรอ?หรือโลกของผู้ฝึกตนมันหากินง่ายขนาดนั้นเลย?ความคิดสารพัดผุดขึ้นมาในหัวเย่ซิว แต่สีหน้าเขาก็ยังคงนิ่งเฉย ไม่แสดงพิรุธอะไรออกมาเลยหนึ่งชั่วโมงผ่านไป โอสถก็กลั่นเสร็จเรียบร้อยรั่วอวิ๋นเปิดฝาเตาก่อนจะหยิบเม็ดยาออกมาหนึ่งเม็ด ใบหน้าเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “ไม่เลว ๆ หนึ่งเตาได้โอสถมายี่สิบเจ็ดเม็ด ระดับกลางหกเม็ด ถือว่าสมบูรณ์แบบ”จากนั้นเธอก็หันไปมองเย่ซิวแม้ใบหน้าจะดูเรียบเฉย แต่เย่ซิวก็พอจะจับความหมายแฝงได้ไม่ยากก็แค่รอให้เขาชมเธอนั่นแหละหากพูดตรง ๆ การกลั่นโอสถของรั่วอวิ๋นรอบนี้ถือว่าสอบตกสำหรับเย่ซิว เพราะวัตถุดิบที่ใช้ไปทั้งหมด ถ้าเป็นเขากลั่นเองอย่างน้อยจะได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแถมยังเป็นโอสถระดับสูงทั้งหมดด้วยซ้ำเมื่อเห็นโ