เมื่อสองสาวได้พบกับเย่ซิวท่าทางของพวกเธอก็ดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อยแม้ว่าเย่ซิวจะดูหล่อ รูปร่างก็ถือว่าไม่เลว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นหล่อเกินบรรยายอะไรเช่นนั้นผู้ชายแบบนั้นจะคู่ควรกับเซี่ยซิ่วซิ่วได้อย่างไร?สิ่งที่ทำให้เธอทั้งสองรู้สึกเหลือเชื่อนั่นก็คือ เซี่ยซิ่วซิ่วดันไปตกหลุมรักเขา และยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ยังไม่ได้ตอบรับรักเธอกลับอีกด้วย เย่ซิวไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่เธอทั้งสองคนคิดอยู่ในใจหลังจากลุกขึ้นยืนเชิญให้พวกเธอนั่งลง เขาก็ทำการเริ่มชงชาด้วยตนเองทักษะการชงชาของเขานั้นยอดเยี่ยม ท่าทางลื่นไหลดุจสายน้ำช่างดูงดงามมากทำให้คนที่เห็นไม่สามารถละสายตาจากการกระทำของเขาได้เลยสองสาวต่างก็รู้สึกแปลกใจ ทันใดนั้น พวกเธอก็เริ่มรู้สึกประทับใจในตัวเย่ซิวขึ้นมาผู้ชายที่สามารถชงชาได้ถือว่าเป็นข้อดี เพราะมันสะท้อนถึงการฝึกฝน สะท้อนถึงความลึกซึ้งและบุคลิกภายในของเขาเซี่ยซิ่วซิ่วหลับตาพริ้มเธอได้ค้นพบอีกความสามารถของเย่ซิว แต่ละครั้งที่ศึกษาลึกลงไปในตัวเย่ซิวก็จะพบกับสิ่งที่มีค่าและน่าทึ่งเสมอความรู้สึกนี้ทำให้เธอหลงใหลและไม่สามารถถอนตัวออกมาได้ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเย่ซิวยิ่งลึก
หากราคาสูงเกินไปคงเป็นเรื่องยากที่จะเจรจาธุรกิจกันในวันนี้แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ ราคาที่เย่ซิวให้นั้นต่ำกว่าที่พวกเขาคาดไว้จริง ๆ“ห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร”ผู้หญิงทั้งสองคนพลันเบิกตากว้างพร้อมกันดวงตาของหลินซวงแสดงความประหลาดใจ “คุณเย่ คุณแน่ใจใช่ไหมคะว่าราคานี้ถูกต้องแล้ว?”“คุณได้ยินถูกต้องแล้วครับ ห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร” เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น “แต่ผมมีข้อกำหนดเพิ่มเติมอีกสองข้อ”หลินซวงคิดในใจว่า ‘อย่างที่คาดไว้ มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นอยู่แล้ว’ โดยผิวเผิน พวกเขาไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติแม้แต่น้อย “คุณเย่ บอกมาได้เลยค่ะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม หากเราสามารถตกลงกันได้ พวกเราก็จะทำแน่นอนค่ะ”“อย่างแรก ในอนาคต สำหรับพื้นที่เขตที่อยู่อาศัยที่คุณกำลังสร้างอยู่ตรงนั้น ผมหวังว่าคุณจะให้ผมจัดการเรื่องอสังหาริมทรัพย์ได้”หลินซวงพยักหน้า “นั่นไม่มีปัญหาค่ะ”“อย่างที่สอง สำหรับวัสดุก่อสร้างและแรงงานที่จำเป็นในการก่อสร้างพื้นเขตที่อยู่อาศัย ผมหวังว่าบริษัทของคุณจะสามารถครอบคลุมได้ ส่วนเรื่องราคาก็ควรจะเป็นไปตามอัตราตลาด”หากเย่ซิวต้องจัดตั้งทีมของเขาเอง ไม่เพียงแต่ต้องใช้เวลานานและต้องใช้แ
“สถานการณ์บานปลายกว่าทีเราคาดไปแล้ว!”เซี่ยซิ่วซิ่วยืนอยู่ตรงหน้าเย่ซิวด้วยสีหน้าจริงจัง“ความคิดเห็นสาธารณะแรง ๆ พวกนั้น กับพวกที่เปิดเผยร้านทั้งหมดในองค์กรของเราทางอินเทอร์เน็ต”“ตอนนี้มีคนจำนวนมากที่คว่ำบาตรร้านของเรา และร้านหลายแห่งถูกทำลาย ส่งผลให้ได้รับความสูญเสียเป็นอย่างมาก”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยซิ่วซิ่วก็กัดฟันกรอด “นี่ถึงกับใช้วิธีน่ารังเกียจขนาดนี้ได้ ช่างน่ารังเกียจและไร้ยางอายจริง ๆ!”“อย่าโกรธเกินไปเลย” ตรงกันข้าม เย่ซิวนั้นดูสงบมาก “ปล่อยให้พวกเขาก่อเรื่องวุ่นวายต่อไป ในไม่ช้าพวกเขาจะได้ลิ้มรสผลที่ตามมาเอง”ดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วเป็นประกาย “นายเย่ซิว นายมีวิธีอะไรดี ๆ เหรอ?”เย่ซิวมอบแฟลชไดรฟ์ USB ให้กับเซี่ยซิ่วซิ่วแล้วกระซิบให้คำแนะนำแก่เธอสองสามข้อหลังจากที่เซี่ยซิ่วซิ่วได้ฟัง เธอก็พยักหน้ารัว ๆ“นายเย่ซิวนี่สุดยอดจริง ๆ ถึงกับคิดแผนสำรองเอาไว้ทุกอย่าง คราวนี้คนพวกนั้นได้เจอดีแน่”เซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่กับเย่ซิวนานไปกว่านี้ และก้าวขาเรียวยาวกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ……ภายในโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งเหล่าผู้บริหารสูงสุดจากบริ
ทักษะด้านงานเขียนของเธอยังคงสูงมากตีงูต้องตีให้ตาย โจมตีศัตรูทั้งทีต้องเล็งจุดสำคัญ ชาวเน็ตจำนวนมากบนโลกอินเทอร์เน็ตกลับคำวิจารณ์ของพวกเขาทันทีเขียนให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อผู้คนมักเห็นใจผู้อ่อนแอและวิพากษ์วิจารณ์ผู้แข็งแกร่งเสมอความคิดเห็นด้านล่างก็เปลี่ยนทิศทางทันที“คนจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์พวกนี้กดขี่บ้าอำนาจเกินไปแล้ว!”“ทำแบบนี้แถวบ้านผมเรียกโจร!”“พวกเขาไม่ขายที่ดินให้กับพวกคุณ ก็เลยต้องใช้วิธีน่ารังเกียจอย่างนี้สินะ!”“ทั้งความตั้งใจ ทั้งทรัพยากรการเงินมากขนาดนี้ ทำไมไม่สร้างบ้านที่คุณสร้างให้แข็งแกร่งขึ้นกว่านี้หน่อยล่ะ? แหกตาดูหน่อยว่าแต่ละปีมีบ้านที่มีปัญหาด้านคุณภาพกี่หลัง!”……เมื่อเห็นความคิดเห็นเหล่านี้ พวกนายใหญ่ก็โกรธจัด“ไอ้พวกโง่! ไอ้พวกโง่! ทำไมไอ้โง่พวกนี่ถึงถูกถ่ายไว้ได้!”“คราวนี้เจอปัญหาใหญ่ ความพยายามทั้งหมดที่เราทำในช่วงนี้สูญเปล่าไปแล้ว!”“พวกคุณดูนี่ก่อน ยังมีอีกข่าวหนึ่งด้วย!”……หลังจากออกจากหน้าที่แสดงข่าวแรก ก็เห็นว่ายังมีข่าวอื่นที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาอีก'ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายไม่สามารถซื้อที่ดินได้ กล่าวหาประธ
หลังจากเชื่อมต่อสาย เสียงดีใจมากก็ดังมาจากปลายสาย “หลานย่า หลานเห็นข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า? เกี่ยวกับเรื่องบริษัทอสังหาริมทรัพย์พวกนั้นน่ะ”รอยยิ้มหวานประกายบนใบหน้าหลินซวง “คุณย่า หนูเห็นแล้วค่ะ คุณย่าคิดว่ายังไงคะ?”“แน่นอนว่าย่ามีความคิดมากมายเลยเชียวล่ะ”“ย่าไปถามเรื่องนี้กับใครบางคนมานิดหน่อย เจ้าหนุ่มที่ถูกกล่าวหานั่นเป็นคนดีใช้ได้เลย หน้าตาก็หล่อเหลาและความสามารถก็ไม่เลวเลย”ตามข้อมูล แม้ว่าเขาจะอายุน้อยกว่าเล็กน้อย แต่ที่จริงแล้วเขาจะอายุสิบแปดปีในอีกหนึ่งเดือน “ถึงหลานจะอายุมากกว่าเขานิดหน่อย แต่ก็อย่างที่พูดกันว่า หญิงใดอายุมากกว่าสามปีจะนำความมั่งคั่งมาสู่ชาย หลานอายุมากกว่าเขาแค่หกปีเอง ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย”“รีบหาทางเอาเขามาเป็นหลานเขยของย่าเดี๋ยวนี้เลย”หลินซวงตกตะลึงทันที “คุณย่า คุณย่าเป็นอะไรไปแล้วคะ? หนูเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียวเองนะคะคุณย่าไม่เคยพบเขา แต่คุณย่าอยากให้หนูแต่งงานกับเขาเพียงเพราะข้อมูลพวกนี้ นี่มันไม่ใช่แล้วนะคะคุณย่า”หลินซวงสับสนระคนไม่เข้าใจ เธอพบว่าเรื่องนี้ค่อนข้างแปลกที่วันนี้คุณย่าของเธอดูไม่ปกติ แต่เธอไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่ามันคื
หลินซวงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากที่คุณย่าของเธอวางสายไป จากนั้นเธอก็ได้สติ“คุณย่าเป็นอะไรไป? ทำไมต้องยืนกรานให้ฉันแต่งงานกับคนที่เคยเจอแค่ครั้งเดียวด้วยล่ะ?”หลังจากคิดทบทวนเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ เธอจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนสนิทเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้……พายุบนโลกอินเทอร์เน็ตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม วิกฤตของสตาร์รี่สกายได้รับการแก้ไขแล้ว และร้านค้าต่าง ๆ ก็ไม่ได้ถูกทุบทำลายอีก และยังคงเปิดให้บริการตามปกติโทรศัพท์ของเย่ซิวดังขึ้นหลิ่วอวี้เอ๋อร์เป็นผู้โทรมา“คุณเย่ ตอนนี้คุณยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ?”มีความเขินอายอยู่ในน้ำเสียงของหลิ่วอวี้เอ๋อร์หลังจากที่เธอเมาในวันนั้น เธอก็รู้สึกอับอายมากจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอจึงแอบออกจากวิลล่าของเย่ซิวไปในตอนเช้าตรู่เหตุผลหลักก็คือเพื่อหลีกเลี่ยงการพบกับเย่ซิวอีกครั้ง และเพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากใจแต่ใครจะรู้ว่า หลังจากนั้นไม่กี่วัน เย่ซิวจะสร้างเรื่องใหญ่ขึ้น เธอจึงต้องโทรหาเย่ซิวอีกครั้งเธอรู้ดีว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เย่ซิวต้องการเงินมากที่สุด และยังเป็นโอกาสดีสำหรับเธอที่จะได้ขยายผลงานของเธอต่อไ
ได้พบกับเย่ซิวอีกครั้ง แม้ว่าหลิ่วอวี้เอ๋อร์จะเตรียมตัวมาแล้วแต่เธอก็ยังรู้สึกอับอายมาก และไม่กล้าสบตาเขาเลยเย่ซิวไม่ได้พูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้อีก แต่บอกให้เธอนั่งลงในเวลานี้ มีของมาส่งที่บ้าน“จะเที่ยงแล้ว ทานข้าวก่อนแล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ”“อ่อ ได้ค่ะ” หลิ่วอวี้เอ๋อร์พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เมื่อเห็นอาหารเต็มโต๊ะ เธอจึงถามว่า “เยอะมากเลยนะคะ มีใครจะมาอีกเหรอคะ?”“เปล่าครับ ผมสั่งมาให้เราเท่านั้น”ตอนนี้เซี่ยซิ่วซิ่วไม่ได้อยู่ในบริษัท แต่ยุ่งอยู่ข้างนอกเย่ซิวมอบหมายให้สองสาวจากกองกำลังหมาป่าราตรีปกป้องเธอโดยเฉพาะยิ่งกว่านั้น ความแข็งแกร่งของเธอเองในตอนนี้ก็ไม่เลวเลย คนธรรมดาทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้วหลิ่วอวี้เอ๋อร์กะพริบตาพลันหน้าแดงในทันใดความคิดหนึ่งของเธอก็ผุดขึ้นมาผู้ชายที่กินเก่งแต่ยังคงรักษารูปร่างได้ดีและแข็งแกร่งในทุกด้านเย่ซิวมองดูใบหน้าอันแดงระเรื่อเล็กน้อยของเธอ “ทำไมคุณถึงหน้าแดงล่ะ? ผมตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศสูงเกินไปเหรอครับ?"“เปล่า เปล่าค่ะ” หลิ่วอวี้เอ๋อร์ส่ายหัวและรีบก้มหน้าก้มตากินดูเหมือนว่าเมื่อได้พบกับเย่ซิวอีกครั้ง ฉากที่ไม่เหมาะสมบางฉากก
เสี่ยวลิ่วจื่อหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “พี่หวัง ผมคิดว่าพี่เป็นคนดีมีความสามารถมากนะ ผมก็เลยมีโอกาสที่พี่จะได้ทำเงินมหาศาลมาเสนอให้”“แกอยากพูดอะไรกันแน่?!”“สินค้าชุดนี้ต้องถูกส่งไปยังเจียงเฉิงใช่ไหมล่ะ? จากที่นี่ต้องใช้เวลาประมาณสองวันก็จะถึงเจียงเฉิงพี่หวัง ถ้าพี่ชะลอเรื่องขนส่งไปได้หนึ่งวันก็จะได้หนึ่งล้านบาท สองวันก็สองล้านเลยนะ”“แกเป็นคนของบริษัทอื่นใช่ไหม!” พี่หวังโต้ตอบทันทีเสี่ยวลิ่วจื่อก็ไม่ได้ปฏิเสธ “ผมก็แค่คนทำงานพาร์ทไทม์ ถ้าพลาดโอกาสดี ๆ ที่จะทำเงินได้มากขนาดนี้ไปคงเสียดายแย่”“เป็นไปไม่ได้หรอก หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง แล้วแกก็จะตกงาน หรืออาจถึงขึ้นถูกฟ้องร้องด้วยซ้ำ”พี่หวังส่ายหัวและปฏิเสธ รู้สึกว่านี่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยวลิ่วจื่อกล่าวต่อ “พี่หวัง ลูกสองคนของพี่จะเข้าโรงเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ ภรรยาของพี่ก็สุขภาพไม่ค่อยดีนี่ แล้วพี่ก็ยังเช่าบ้านอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”“อีกสองสามปี เด็ก ๆ ก็ต้องไปโรงเรียนแล้ว พวกเขาคงไปเรียนไม่ได้ถ้าไม่มีบ้านล่ะนะ”“ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกเพียบ ด้วยเงินเดือนของพี่เท่านี้คงจ่ายไม่ไหวแน่”“ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนจับได้หรอก พอถึงเวลานั้น พ
ยังมีม้าศึกเพลิงน้ำแข็ง อีกทั้งลู่เสวี่ยเอ๋อร์และพวกเธอล้วนมีระดับพลังอย่างน้อยอยู่ในช่วงสร้างพื้นฐานขั้นกลางบวกกับจักรกลมังกรดำ ทำให้พวกเขาเริ่มมีเค้าลางของมหาอำนาจสิ่งเดียวที่ขาดไปคืออุตสาหกรรมเศรษฐกิจระดับล่าง ซึ่งยังไม่สามารถยกระดับขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”“จริงสิ” เซี่ยซิ่วซิ่วพูดขึ้นอีกประโยค “ส่งคำเชิญไปให้ประเทศหลงเถิงด้วย ถ้ามีพวกเขาช่วย ประเทศจ้านอิงตี้ก็คงไม่กล้าเล่นตุกติก”เฉินหลานกับหวังซวงตาเป็นประกาย พวกเขาเกือบลืมไปเลยว่าประเทศหลงเถิงเป็นแบ็กอัพที่แข็งแกร่งไม่นาน ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วโลกดึงดูดสื่อมากมายนับไม่ถ้วนให้พากันรีบไปที่สำนักโอสถแม้แต่นักเดินทางเดียวดายบางคนก็เริ่มเตรียมตัวเดินทางไปเงียบ ๆนี่คือมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดคนที่มองการณ์ไกลล้วนมองออกว่าประเทศจ้านอิงตี้ไม่ได้มาด้วยเจตนาดีทั้งที่รู้ว่าเย่ซิวแข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ยังกล้าเป็นฝ่ายริเริ่มเปิดการเจรจาแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาต้องมีอะไรให้พึ่งพาทางด้านประเทศหลงเถิง หลังจากได้รับข่าวอัครมหาเสนาบดีกับผู้นำก็หารือกันว่าจะส่งใครไปเข้าร่วมนายกรัฐมนตรีเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได
เส้นผมของหวังซวงยังคงเปียกชื้นเธอสวมชุดนอนผ้าไหมที่แนบสนิทไปกับร่างกาย เผยให้เห็นสัดส่วนอันเย้ายวนของเธอเห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จเธอนั่งอยู่บนเตียง มือซ้ายถือรูปของเย่ซิว จ้องมองมันด้วยสายตาหลงใหล“อาจารย์ อาจารย์รู้ไหมว่าฉันชอบอาจารย์อาจารย์ช่างหล่อเหลา พลังของท่านก็แข็งแกร่ง ร่างกายของอาจารย์ยังสมบูรณ์แบบ แข็งแกร่งมาก...อาจารย์รู้ไหม? ทุกค่ำคืนฉันมักจะฝันถึงอาจารย์ ในความฝันฉันได้...กับอาจารย์”เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความปรารถนาเย่ซิวไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเด็กคนนี้จะมีความคิดเช่นนี้กับตนเองเขาส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวจากไปตอนนี้ผู้หญิงรอบตัวเขามีมากพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องรับเข้ามาเพิ่มอีกคนเย่ซิวลอยขึ้นไปเหนือสำนักโอสถเขาเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่แขวนอยู่บนท้องฟ้า พลันเกิดความคิดที่บ้าบิ่นขึ้นมา“บนดวงจันทร์มีอะไรอยู่กันแน่?”แม้ว่าในอดีตจะมีหลายประเทศที่ส่งยานอวกาศพร้อมมนุษย์ขึ้นไปสำรวจ และมีคนจริง ๆขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้แล้วแต่ขอบเขตที่พวกเขาเดินทางไปได้นั้นยังมีจำกัดยังมีพื้นที่อันลี้ลับบนดวงจันทร์ที่ไม่เคยถูกค้นพบที่สำคัญ
ภายในห้องลับ เย่ซิวไม่อาจรับรู้ถึงการไหลผ่านของกาลเวลาได้เลยจิตวิญญาณทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับการหลอมรวมระดับวิญญาณก่อกำเนิดด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งและการเตรียมพร้อมที่เพียงพอ การทะลวงระดับของเขาจึงราบรื่นไร้อุปสรรคในวันที่แปดของการปิดด่าน เขาสามารถควบแน่นระดับวิญญาณก่อกำเนิดได้สำเร็จระดับวิญญาณก่อกำเนิดของเขามีห้าสีเช่นกันยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของมันยังใหญ่กว่าระดับวิญญาณก่อกำเนิดขั้นต้นทั่วไปอยู่หนึ่งเท่าพลังวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอีกครั้งหากเปรียบพลังวิญญาณของเขาในอดีตเป็นเพียงตะปู ตอนนี้มันกลับกลายเป็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่งแล้วการเพิ่มพูนของพลัง ส่งผลสะท้อนกลับเข้าสู่ร่างกายโลหิตและกล้ามเนื้อของเย่ซิวเปล่งประกายราวกับอัญมณี ดวงตาของเขาส่องแสงเจิดจ้าดุจตะวันดวงน้อยเพียงแค่คิด ระดับวิญญาณก่อกำเนิดก็แยกออกจากร่าง ลอยขึ้นสำรวจโดยรอบความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนักระดับวิญญาณก่อกำเนิดคือผลรวมของจินตานและจิตวิญญาณที่หลอมรวมกันก่อนที่จะทะลวงระดับ หากจิตวิญญาณของเย่ซิวออกจากร่าง มันจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแม้แต่พลังของเขาก็ไม่อาจยื้อเวลาให้อยู่นอกกาย
ยังคงเป็นที่ห้องทดลองชีวภาพหมายเลขเก้าในประเทศจ้านอิงตี้หลังจากที่ประเทศจ้านอิงตี้ทุ่มเททุกวิถีทางในการเพาะเลี้ยงมาตลอดช่วงเวลานี้นักรบยีนสิบคนกับสิ่งมีชีวิตโบราณก็ได้หลอมรวมจนถึงระดับแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากพวกเขา ก็ทำให้พื้นของห้องทดลองแทบจะรับไม่ไหว เกิดรอยร้าวมากมายเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่อยู่นอกห้องทดลองมองดูพวกเขาด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจแต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะดำเนินการขั้นตอนต่อไป ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจู่ ๆ นักรบยีนทั้งสิบคนก็เข้าห้ำหั่นกันเอง เลือดสาดกระจายไปทั่ว ราวกับนรกบนดินนักวิทยาศาสตร์ภายนอกรีบฉีดสเปรย์สารควบคุมชนิดต่าง ๆ เข้าไป แต่กลับไม่มีผลใด ๆ“แย่แล้ว! รีบเข้าสู่สถานะเตือนภัยด่วน!”เหล่านักวิทยาศาสตร์ตกตะลึงสุดขีด รู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มเกินกว่าการควบคุมตู้ม!ทันใดนั้น พลังงานบางอย่างปะทุขึ้น ทำให้ทั้งห้องทดลองสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายจากนั้น ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากข้างในเธอมีใบหน้าที่งดงามสะกดสายตา อีกทั้งรูปร่างยังเย้ายวนเกินต้านทานแต่สิ่งที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ก็คือเส้นผมของเธอทั้งหมดกลับเป็นอส
ในขณะเดียวกัน เสียงของเย่ซิวก็ดังขึ้นข้างหูเขา "สถานที่แห่งนี้ ห้ามฟื้นฟูขึ้นใหม่ภายในหนึ่งร้อยปี มิเช่นนั้นประเทศจ้านฉงตี้จะต้องหายไปจากโลกใบนี้"นี่เป็นทั้งการดูแคลน และยังเป็นการเหยียดหยามอย่างถึงที่สุดให้พวกเขาต้องเผชิญกับความอัปยศนี้ทุกขณะในช่วงเวลาหนึ่งร้อยปีถือเป็นการโต้กลับอย่างแข็งแกร่งของเย่ซิว หลังจากประเทศจ้านฉงตี้พยายามเล่นงานเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจักรพรรดิหมีเหล็กกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ความอัปยศอันรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธแต่ในความโกรธแค้นนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกหมดหนทางอย่างลึกล้ำเพียงชั่วพริบตาเดียวราวกับว่าเขาแก่ลงไปอีกหลายสิบปีเดิมทีเส้นผมของเขายังมีสีดำเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับขาวโพลนทั้งหมดผู้ช่วยที่อยู่ข้างกาย มองดูสภาพของเขาด้วยความสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา "ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? จะยิงจรวดออกไปอีกไหม?""ไม่ต้องแล้ว ไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก"จักรพรรดิหมีเหล็กส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยล้า สายตามองไปยังร่องรอยของกระบี่อันใหญ่โตเบื้องหน้า "ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่ฉันจะต้องหาผู้สืบทอดแล้ว"……ม
เบื้องหน้าของเย่ซิวปรากฏชายชราผู้มีรูปลักษณ์ประหลาดเขามีอายุกว่าร้อยปีแล้ว ดวงตาฝ้าฟางแทบจะลืมขึ้นไม่ได้เส้นผมยาวหลายสิบเมตรถูกถักเป็นเปียและพันรอบร่างกายของตนใต้ฝ่าเท้าของเขามีการ์กอยล์หินเป็นพาหนะ มือขวาถือไม้กายสิทธิ์อันเก่าแก่เย่ซิวกระตุกบังเหียนให้ม้าหยุดลงพลางหรี่ตามองชายชราเล็กน้อย “มีธุระอะไร?”พลังที่แผ่ออกมาจากร่างของชายชราทำให้เย่ซิวรู้สึกได้ถึงอันตรายแม้ว่าจะเป็นเพียงเสี้ยวเดียวก็ตาม“ข้าคือเทพพิทักษ์แห่งประเทศจ้านฉงตี้ ปิดด่านฝึกฝนมาหลายสิบปีแล้วได้ยินว่าประเทศหลงเถิงมีอัจฉริยะที่แข็งแกร่งจึงอยากมาดูให้เห็นกับตา”เย่ซิวไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ “ตอนนี้ก็ได้เห็นแล้ว มีอะไรจะชี้แนะหรือเปล่า?”ดวงตาฝ้าฟางของชายชราเพ่งมองเย่ซิวแน่วแน่ แววตานั้นแฝงไปด้วยอันตรายเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยิ้มออกมา“ข้าน่ะเป็นคนอยากรู้อยากเห็นเลยอยากจะประลองกับเจ้าสักหน่อย ไม่รู้ว่าจะรับคำท้าหรือไม่”เย่ซิวสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ซ่อนเร้นของอีกฝ่ายที่บอกว่าเป็นการประลองคงเป็นแค่ข้ออ้างจุดประสงค์ที่แท้จริงคือก็แค่อยากทดสอบพลังของตนเองกับเขาเท่านั้น“ฉันไม่มีคำว่าประลองอะไรทั้งนั้น ถ้าคุณคิ
ทั้งคืนผ่านไปด้วยความว้าวุ่นใจและความกระสับกระส่าย เธอแทบไม่ได้หลับเลยเวลาแปดโมงเช้า เย่ซิวยืนอยู่ริมหน้าต่างมองออกไปยังทิวทัศน์ภายนอกอากาศสดชื่น เสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้กระจายไปทั่ว ที่นี่มีนกยูงเลี้ยงไว้อยู่หลายตัว บรรยากาศเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างยิ่ง“คุณเย่ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” ลิลิธเดินเข้ามาพร้อมกับก้าวย่างที่อ่อนช้อยดุจแมวป่าฝ่าเท้าขาวผ่องราวหิมะสัมผัสพื้นเบา ๆ ทีละก้าวก่อนจะหยุดอยู่ข้าง ๆ เย่ซิวเธอจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวนหลังจากฝึกฝนตลอดทั้งคืน พลังของลิลิธก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างมหาศาลตอนที่เธอมาที่นี่ เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถพัฒนาขึ้นได้เร็วขนาดนี้หากเป็นไปได้ เธอเองก็อยากบำเพ็ญร่วมกับเย่ซิวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทั้งวันทั้งคืนบางทีเธออาจสามารถบรรลุถึงระดับพลังที่ไม่มีใครในประเทศจ้านฉงตี้เคยไปถึงมาก่อนแต่น่าเสียดายที่คงเป็นแค่ความฝันที่เป็นไปไม่ได้เย่ซิวไม่ได้ตอบอะไร สายตาของเขายังคงจ้องไปข้างนอกโดยไม่กะพริบตาจินตานห้าสีของเขาหมุนวนอย่างบ้าคลั่งรัศมีพลังที่ส่องออกมาราวกับพระอาทิตย์ที่สว่างไสวและแข็งแกร่งไ
เคย์ฟี่พาลิลิธกลับมาที่ห้องของเธอเธอกับพูโรแยกกันนอนมานานแล้วหลังจากปิดประตู เธอก็รีบดึงลิลิธเข้าไปในห้องน้ำอย่างกระตือรือร้นน้ำร้อนถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วจากนั้นเคย์ฟี่ก็ปิดประตูห้องน้ำเสียงดังปังไม่นานนักก็มีเสียงอุทานของเคย์ฟี่ดังออกมาเป็นระยะด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอิจฉาลึก ๆครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องน้ำเคย์ฟี่ช่วยลิลิธแต่งตัวกับมือ จากนั้นก็ลงเครื่องสำอางให้เธอก่อนจะฉีดน้ำหอมสุดหรูราคาแพงเดิมทีลิลิธก็เป็นหญิงงามอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เสน่ห์ของเธอกลับเพิ่มขึ้นไปอีกระดับเธอมองเงาตัวเองในกระจกก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ ความมั่นใจของเธอเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วนจากนั้นเคย์ฟี่ก็พาลิลิธไปยังห้องของเย่ซิว เธอเคาะประตูเบา ๆภายในห้อง แน่นอนว่าเย่ซิวไม่มีความจำเป็นต้องนอนพักเขาเพิ่งกลั่นโอสถไปหลายเตา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เอาไว้ใช้เพื่อเพิ่มพลังบำเพ็ญตนแม้ว่าตอนนี้ผลลัพธ์ของมันอาจจะไม่ได้ทรงพลังมากนัก แต่ถ้าปริมาณมากพอก็ยังสามารถช่วยได้ตอนนี้เขามีโอสถกว่าพันเม็ดแล้วก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก เย่ซิวชะงักเล็กน้อยก่อนจะเก็บเตาหลอมและโอสถท
แต่ลิลิธกลับมีพรสวรรค์ในศาสตร์ด้านนี้สูงมาก จนสามารถฝึกฝนไปถึงระดับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนผู้ชายทั่วไปไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเลยไม่เช่นนั้น วันรุ่งขึ้นมีหวังกลายเป็นซากศพแห้งตายอย่างแน่นอนแม้ว่าลิลิธจะมีชื่อเสียงด้านความงามโด่งดังไปทั่ว แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธอเคย์ฟี่ดวงตาเป็นประกาย “ความคิดนี้ไม่เลวเลยนะ ลิลิธต้องเจอกับผู้ชายที่แข็งแกร่งระดับเย่ซิวเท่านั้นถึงจะรับมือไหวพอลิลิธทำสำเร็จแล้วเข้าไปอ้อนเย่ซิวอีกหน่อยลองชวนให้เขามาลองพี่น้องสุดเซ็กซี่ บางทีเขาอาจจะไม่ปฏิเสธก็ได้”พรีเอลล์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รีบพูดแทรกขึ้นมา “อย่าลืมแม่ลูกสุดแซ่บด้วย”เคย์ฟี่หัวเราะคิกคัก “อันนี้ก็ต้องดูที่ผลงานของลูกในอนาคตแล้วล่ะ”พูทมองด้วยความอิจฉาผู้ชายที่แท้จริงต้องเป็นแบบเย่ซิว ต้องผ่านดงดอกไม้นับไม่ถ้วนโดยไม่ทิ้งร่องรอยน่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะมีฝีมือพอตัว แต่เมื่อเทียบกับเย่ซิวแล้วยังห่างชั้นกันเกินไปแถมสาว ๆ ที่เขาเคยได้มาก็ยังไม่มีคุณภาพดีเท่านี้เลยด้วยซ้ำหลังจากหารือกันเสร็จ เคย์ฟี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลิลิธด้วยตัวเองณ เมืองระดับแนวหน้าของประเทศจ้านฉงตี้