ชายที่มีใบหน้าอ้วนกลมขมวดคิ้วเล็กน้อย ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและพูดว่า “นี่มันไม่ใช่แล้ว เรียกเด็ก ๆ พวกนั้นออกมา แล้วเธอไปดูกับฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น!”แม่เล้าถึงกับผงะ “เป็นอะไรไป? จะให้เรียกเด็ก ๆ ออกมาทำไม ทุกอย่างเรียบร้อยดีอยู่แล้ว”“นี่เธอโง่เหรอ? คนธรรมดาที่ไหนทำแบบนั้นกันบ้าง? เขาคนเดียวจะเล่นจ้ำจี้กับทุกคนได้ยังไง?ยิ่งกว่านั้น เขายังสั่งไม่ให้ใครอยู่รอบ ๆ อีก มันชัดแล้วว่าเขามาที่นี่เพื่อรวบรวมหลักฐานยังไงเล่า!”เมื่อเขาพูดอย่างนั้น สีหน้าของแม่เล้าก็เปลี่ยนไป พลันพูดด้วยน้ำเสียงดุเดือด “รีบไปดูเร็วเข้า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฉันจะฆ่าเขาแน่นอน!”ในไม่ช้า พวกลูกน้องราว ๆ ห้าสิบคนก็มารวมตัวกันและตรงไปยังห้องส่วนตัวที่เย่ซิวอยู่ทันทีเพื่อความรอบคอบ แม่เล้าจึงเดินเข้าไปก่อนเธอมองจากตรงประตูเข้าไปข้างในและสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติเธอจึงหันไปพูดกับชายหน้าอ้วนกลมว่า “เร็ว! รีบเข้าไปดู ดูเหมือนจะมีปัญหาแล้ว!”ปัง!ประตูถูกเปิดออกทันใด เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ชายคนนั้นก็โกรธมาก “ไอ้หนู แกมาจากแก๊งไหน? แกอยากตายใช่ไหม!”ชายหลายคนรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับอาวุธในมือ
พี่หู่ระงับความโกรธพลางฝืนยิ้ม “พี่ใหญ่ล้อกันเล่นแล้วครับ ฉันเป็นพลเมืองดีปฏิบัติตามกฎหมาย รอบตัวฉันไม่มีเพื่อนทำชั่วแบบนั้นเลยครับ”แต่ประโยคหลังจากนั้นทำให้เขากลัวราวกับวิญญาณลอยหลุดจากร่างไปแล้ว“เมื่อกี้ผมได้ส่งบันทึกเสียงไปที่สํานักงาน ป.ป.ช ภาคหนึ่ง(1) โอกาสเดียวของคุณจะเอาชีวิตรอดไปได้คือตอนนี้คุณต้องเปิดเผยไอ้พวกทุจริตปรสิตสังคมนั่นมาซะ”“ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถชดใช้ความผิดด้วยการทำความดีได้ ไม่อย่างนั้น คุณก็ไม่มีทางออกอื่นนอกจากความตาย”“อะไรนะ? สํานักงาน ป.ป.ช ภาคหนึ่ง?!” ใบหน้าของพี่หู่เปลี่ยนไปอย่างกลับหน้าเป็นหลัง ขาทั้งสองข้างพลันอ่อนยวบและทรุดตัวลงกับพื้นนั่นคือองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในหลงเถิงใครก็ตามที่เข้าสู่ขอบเขตของสํานักงาน ป.ป.ช และเมื่อข้อกล่าวหาได้รับการยืนยันแล้วจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์อันน่าสังเวชสลดใจเหลือทนเย่ซิวยังโรยเกลือบนบาดแผลเข้าไปอีก “ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ผมยังรวบรวมหลักฐานอาชญากรรมอื่น ๆ ของคุณตลอดหลายปีที่ผ่านมา และส่งให้พวกเขาไปแล้ว”“อย่างสิบแปดครัวเรือนที่ถูกบังคับให้รื้อถอนเมื่อหกปีก่อน และการติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนเมื่อสี่ปีที่แล้ว…”เย่
เขาหยิบเอกสารทั้งหมดออกมาวางบนโต๊ะด้วยสีหน้ามืดมน “ลองตรวจสอบดู นี่เป็นหลักฐานทั้งหมดที่ฉันมี”เย่ซิวนั่งลงและเริ่มพลิกดูเอกสารเหล่านี้ทีละฉบับมีเอกสารอย่างน้อยหนึ่งพันฉบับ แต่เขาสามารถอ่านมันได้ทั้งหมดภายในเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นจากนั้นเขาก็หยิบเอกสารออกมาหกฉบับและวางลงตรงหน้าพี่หู่“เรียกทั้งหกคนนี้มาหาผมหน่อย”เบื้องหลังคนทั้งหกคนนี้คือเครือข่ายความสัมพันธ์ขนาดใหญ่หากพาพวกเขามาและรับหลักฐานจากมือของพวกเขา โดยพื้นฐานแล้วก็จะสามารถหว่านแหเพื่อจับผู้สมรู้ร่วมคิดจากตระกูลขนาดเล็กและขนาดกลางทั้งหมดในเจียงเฉิงได้ในคราวเดียวหลังจากคืนนี้ไป ในเจียงเฉิงจะเหลือธุรกิจที่แท้จริงเพียงสี่แห่งเท่านั้นหนึ่งคือกลุ่มสตาร์รี่กรุ๊ปของเขา กลุ่มธุรกิจของตระกูลเซี่ย กลุ่มธุรกิจของตระกูลลู่ และอุตสากหรรมของหูเม่ยเอ๋อร์หลังจากที่เย่ซิวรวมเข้ากับบริษัทเหล่านี้ก็จะกลายเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในเจียงเฉิงทันทีความเร็วของความก้าวหน้านี้ไม่มีใครเทียบเทียมได้พี่หู่ไม่กล้าที่จะละเลยเรื่องนี้ เมื่อหาข้ออ้างที่จะเชิญพวกเขามาที่บ้านได้แล้วจึงโทรหาทั้งหกคนทันทีในทางกลับกัน เย่ซิวได้ถ่ายรูปเอก
"ตามสถิติ สินทรัพย์รวมของธุรกิจตระกูลทั้งสิบแปดแห่งมีมูลค่าเกือบแปดแสนล้านบาท โดยมีเงินสดมากกว่าสองแสนเก้าหมื่นล้านบาท!"เซี่ยซิ่วซิ่วตื่นเต้นมากจนแทบจะตะโกนออกมาการที่เย่ซิวร่ำรวยทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าการที่เธอกลายเป็นคนร่ำรวยเองเสียอีกเมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของเซี่ยซิ่วซิ่วแล้วเย่ซิวดูสงบมาก ราวกับว่าเขาไม่ได้รับเงินแปดแสนล้านบาท แต่เป็นแปดสิบบาท“ทำไมนายไม่ตื่นเต้นเลยล่ะ?” เซี่ยซิ่วซิ่วถามอย่างสงสัยเย่ซิวทำตัวสงบเกินไป นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกคนหนุ่มสาวเป็นเลยเย่ซิวยิ้ม “ไม่มีอะไรต้องตื่นเต้น ถ้าวันหนึ่งทรัพย์สินของผมสูงถึงหลายล้านล้านบาท ถึงเวลานั้นก็ยังไม่สายที่จะตื่นเต้น”เซี่ยซิ่วซิ่วชื่นชมความคิดของเย่ซิวอย่างมากนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธอชอบเย่ซิวเย่ซิวสั่งอาหารให้พวกเขา จากนั้นจึงขับรถไปรับหลิ่วเมิ่งอิ๋นเนื่องจากเมื่อคืนยุ่งมากจนไม่สามารถไปรับเธอได้ ดังนั้นวันนี้เขาจึงต้องไปรับเธอแต่เช้าเมื่อมาถึงทางเข้าอาคารเก่า ๆ ในเขตที่อยู่อาศัยเย่ซิวเห็นร่างเพรียวบางสวยสง่าของหลิ่วเมิ่งอิ๋นยืนรออยู่ตรงนั้นมีผู้ชายมากมายหลายคน มีทั้งคนที่แอบมอง ทั้งคนที่จ้องเธออย
“เอาล่ะ ลงไปได้แล้ว ฉันมีอย่างอื่นต้องทำ ฉันไม่ไปกับเธอนะ”หลิ่วเมิ่งอิ๋นลงจากรถและโบกมือลาเย่ซิวอย่างไม่เต็มใจเย่ซิวกลับมาที่บริษัท และพนักงานก็ได้จัดการทุกอย่างที่ต้องจัดเรียงเรียบร้อยแล้วเย่ซิวเรียกพวกเขามาประชุมสิ่งแรกที่ประกาศในที่ประชุมคือ คลับเหล่านั้นจะต้องได้รับการปรับปรุง และจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอนาจารอีกในอนาคตเย่ซิวสนับสนุนเงินให้ผู้หญิงเหล่านั้นคนละห้าแสนบาทคลับทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนเป็นสถานที่ซึ่งให้บริการเฉพาะด้านสปาเท้าและนวดเท่านั้นหากพวกเธอเต็มใจที่จะอยู่ต่อ ทุกคนจะต้องได้รับการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐาน และพวกเธอจะได้รับประกันสังคมและกองทุนสวัสดิการ เพื่อให้พวกเธอได้มีอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายนอกจากนี้ สำหรับ KTV บาร์ และสถานที่ที่คล้ายกัน สิ่งที่ผิดกฎหมายและอาญาทั้งหมดจะต้องถูกกำจัดเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเชิงบวกในปัจจุบัน บันทึกบัญชีของบริษัทแสดงยอดรวมกว่าสามแสนล้านเย่ซิวถอนออกมาสองแสนล้านไปรวมกับอีกหนึ่งแสนล้านในบัญชีของเขา รวมเป็นสามแสนล้านก่อนอื่นจะต้องอุดรอยรั่วนี้ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งแสนล้านจะนำไปใช้ในการพัฒนาบริษัทเซี่ยซิ่วซิ่วกำลั
“สุดหล่อ แวะมาดื่มด้วยกันไหม?”เย่ซิวอยากจะปฏิเสธแต่หูเม่ยเอ๋อร์ก็ส่งข้อความที่สองมาเสียก่อน“มีข้อตกลงทางธุรกิจใหญ่ที่ฉันต้องการร่วมมือกับคุณ”เย่ซิวคิดอยู่พักหนึ่งแล้วส่งข้อความไปขอที่อยู่ของเธอไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งที่อยู่ซึ่งเป็นสถานที่ห่างไกลมาก ซึ่งอยู่เลยชานเมืองออกไปอีกสาวสวยชวนไปสถานที่ห่างไกลขนาดนี้ ทำให้คนคนหนึ่งจินตนาการเลยเถิดโลดแล่นไปแล้ว เมื่อเย่ซิวขับรถมาถึง ก็เห็นหูเม่ยเอ๋อร์ยืนอยู่บนทุ่งหญ้าวันนี้เธอสวมชุดรัดรูป ท่อนร่างสวมกางเกงยีนท่อนบนสวมชุดลายดอกไม้ที่ดูค่อนข้างย้อนยุคแต่เมื่ออยู่บนเรือนร่างของเธอกลับมีเสน่ห์เหลือล้นเธอที่อยู่บนพื้นหญ้านั้นเปรียบเสมือนราชินีแห่งดอกไม้ทั้งปวงที่เปล่งประกายเจิดจ้าแพรวพราว จนผู้คนที่พบเห็นมิอาจละสายตาไปจากเธอได้เมื่อเห็นเย่ซิวเข้ามาใกล้ เธอก็เผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “เย่ซิว น้องชาย ตอนนี้คุณเป็นเศรษฐีแล้วนะ”เธอเดินไปหาเย่ซิ่ว และเนื่องจากรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอ การเคลื่อนไหวส่วนบนของเธอจึงเป็นลูกคลื่นขึ้นลงจนน่าสะดุดตาอย่างยิ่งแม้แต่เย่ซิวก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองอยู่หลายครั้ง ‘นี่มันนางฟ้านางสวรรค์ชัด ๆ’ตอนนี
“การพัฒนาทั้งในด้านอุตสาหกรรมและการเงินนั้นดีมาก ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ภายในสองถึงสามปีข้างหน้าซีเฉิงอาจจะกลายเป็นเมืองอันดับหนึ่ง”“ข้อบกพร่องประการหนึ่งในปัจจุบันของซีเฉิงคือ วัตถุดิบทางอุตสาหกรรมและสิ่งจำเป็นด้านที่อยู่อาศัยต่าง ๆ จำเป็นต้องขนส่งจากที่อื่น ซึ่งใช้เวลานานและลำบาก”“หากสามารถเปิดการขนส่งระหว่างเจียงเฉิงและซีเฉิงได้ ก็จะสามารถส่งเสบียงต่าง ๆ จากเจียงเฉิงไปยังซีเฉิงได้”เมื่อถึงเวลา ซีเฉิงจะกลายเป็นเมืองระดับหนึ่ง และเจียงเฉิงก็จะได้รับประโยชน์เป็นการตอบแทนเช่นกัน และจะขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว”เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ หัวใจของเย่ซิวก็เต้นตุบ ๆ เขามองไปที่ใบหน้าด้านข้างอันงดงามของหูเม่ยเอ๋อร์ “คุณหมายความว่า เจียงเฉิงและซีเฉิงจะเชื่อมต่อกันด้วยรถไฟความเร็วสูง และจะมีการสร้างทางหลวงพิเศษด้วยใช่ไหม?”ปัจจุบันไม่มีทางหลวงพิเศษระหว่างเจียงเฉิงและซีเฉิง มีเพียงถนนในชนบทที่สามารถรองรับจักรยานเท่านั้นหากมีการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงและทางหลวงพิเศษเชื่อมต่อกัน หากเป็นเช่นนั้น มูลค่าที่อยู่อาศัยในเจียงเฉิงจะต้องพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอนนอกจากนี้ ยังมีสินค้าทางการเกษตร อาหารท
เย่ซิวถามแบบสบาย ๆ เขาไม่ได้คิดที่อยากจะทำแบบนั้นจริง ๆเขาไม่ใช่คนประเภทจะทำอะไรเพื่อแสวงหาผลกำไรนอกจากนี้ เป็นเพราะน้องสาวของหูเม่ยเอ๋อร์สามารถให้ข้อมูลวงในดังกล่าวนี้แก่เธอได้ครั้งหนึ่ง หล่อนก็จะสามารถให้ข้อมูลนั้นแก่เธอเป็นครั้งที่สองได้หากร่วมมือกับเธอตอนนี้ ในอนาคตก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องไม่รู้จบไม่ว่าจะเป็นในด้านใด เย่ซิวก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกงหรือเอาเปรียบเธอ “ได้ ผมสัญญา!”หูเม่ยเอ๋อร์ไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ เธอถามว่า “แล้วเรื่องซื้อที่ดินคุณวางแผนที่จะใช้เงินเท่าไหร่?”"รอผมแป๊บ"พูดอย่างนั้นแล้วเย่ซิวก็โทรหาเซี่ยซิ่วซิ่ว"ตอนนี้บัญชีของบริษัทมีเงินสดที่ใช้ได้เลยอยู่เท่าไหร่?"เซี่ยซิ่วซิ่วที่อยู่บ้านเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และกำลังเตรียมจะเข้านอนหลังจากได้รับสายจากเย่ซิว เธอก็เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบทันที แล้วพูดว่า “เรากำลังเตรียมจ่ายเงินเดือนของเดือนที่แล้วให้พนักงาน บวกกับที่ต้องจัดสรรกองทุนฉุกเฉินบางส่วนไว้ด้วย ฉะนั้นเงินที่เราใช้ได้ตอนนี้มีประมาณหนึ่งแสนล้านบาท"เย่ซิวคำนวณอย่างรวดเร็วตามราคาที่ดินปัจจุบันของสถานที่แห่งนี้หนึ่งแสนล้านบาทสามารถซื้
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถอดผ้าปิดตาออก เอียงศีรษะแล้วมองไปที่เย่ซิว "เมื่อคืนนี้คือน้องหลิ่วใช่ไหม?"เย่ซิวรู้สึกขบขันอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงจริงจัง "คุณเดาดูสิ"ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แค่นเสียงฮึ่ม "ต้องเป็นเธอแน่ ๆ ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวในบ้านนี้ที่ใช้น้ำหอมดอกหอมหมื่นลี้คิดไม่ถึง น้องหลิ่วที่ปกติดูจะเป็นผู้หญิงที่ซื่อตรงขนาดนั้นจะ…”เย่ซิวขอโทษหลิ่วเมิ่งอิ๋นในใจอย่างเงียบ ๆ ที่ให้เธอมาแบกรับความผิดแทนหลิวอวิ้นเมื่อเห็นว่าเย่ซิวเงียบไม่พูด ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็เข้าใจไปเองแล้วว่านั่นคือหลิ่วเมิ่งอิ๋นจริง ๆหลังจากอาบน้ำทำธุระเสร็จ ก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋น จึงหัวเราะคิกคักและพูดไปว่า "น้องหลิ่ว ฉันดูไม่ออกเลยจริง ๆ นะ"หลิ่วเมิ่งอิ๋น "???"วันนี้เย่ซิวเองก็จะไปที่บริษัทกับพวกเธอด้วยเซี่ยชิงชิงติดตามไปด้วยเช่นกันเธอนั่งอยู่ในรถ กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้บรรยากาศครึกครื้น รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาบนใบหน้า ทำให้ใครเห็นใครก็รักถ้าเย่ซิวไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ เขาก็อาจจะถูกทักษะการแสดงของน้องภรรยาคนนี้หลอกเข้าให้จริง ๆเมื่อมาถึงที่บริษัท เซี่ยชิงชิงก็ถูกพี่สาวพาไปลงทะเบีย
หัวใจของเซี่ยชิงชิงกระตุกวูบ ก่อนที่เธอจะทันได้ทันตอบสนอง มือของเย่ซิวก็วางลงบนจุดตันเถียนของเธอแล้วมือใหญ่ที่มั่นคงและทรงพลังนั้นกดลงไปตรง ๆร่างกายอันละเอียดอ่อนของเซี่ยชิงชิงแข็งทื่อ เธอแทบจะหยุดหายใจแล้ว“โอ้? ไม่เลวเลย ถึงกับมีความสามารถในการฆ่าแมลงพิษที่ฉันฝังไว้” เย่ซิวมองเธอด้วยรอยยิ้มแต่เซี่ยชิงชิงรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าหมายของงูพิษร้าย ร่างกายของเธอเย็นเยียบไปหมดเธอพูดขึ้นอย่างยากลำบาก "ใช่...ใช่แล้วค่ะ ฉันพบโอสถหมื่นพิษเม็ดหนึ่งในสำนักเบญจพิษหลังจากกินมัน พลังของฉันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก และฉันก็สามารถกำจัดแมลงพิษได้ ก่อนหน้านั้นฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเป็นแบบนี้"“โอสถหมื่นพิษ” เย่ซิวเริ่มสนใจแล้วเขาสำรวจเธออย่างรอบคอบเซี่ยชิงชิงกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกถึงความอัปยศอดสูเหมือนที่ได้รับในตอนนั้นอีกครั้งแต่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากในดวงตาไม่มีร่องรอยของความแค้นเคืองอะไร มีเพียงความตื่นตระหนกและความเขินอายหลังจากสำรวจเสร็จแล้ว เย่ซิวก็หยุดมือและหัวเราะเบา ๆ "ช่างเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะขึ้นเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าแล้วงั้นตั้งแต่พร
แต่ในใจกลับค่อนข้างดูถูกดูแคลนที่แท้ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ ตัวเย่ซิวล้วนโง่เขลาขนาดนี้ เธอเอาชนะใจพวกเธอได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นฉากนี้ น้องสาวของเธอโตขึ้นมากกริ๊งประตูอิเล็กทรอนิกส์ของวิลล่าเปิดออก สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเมื่อพวกเธอเห็นเย่ซิวกลับมาจากข้างนอก ผู้หญิงหลายคนก็ปรี่ขึ้นไปต้อนรับเขากลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายทุกชนิดผสมผสานกัน ทำให้ฮอร์โมนของคนพลุ่งพล่านรอยยิ้มจากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่ซิวนี่ถึงจะเป็นสวรรค์ของเขา ไร้ซึ่งกลอุบาย และไม่มีใครที่คิดจะทำร้ายเขาสุดท้าย สายตาของเขาก็มองไปที่เซี่ยชิงชิงซึ่งยืนอย่างเขินอายห่างออกไปกว่าสิบเมตร เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อย ไม่กล้ามองเขาเย่ซิวเดินไปพร้อมกับสายตาที่พินิจพิเคราะห์เซี่ยชิงชิงจับมือทั้งสองข้างแน่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นนี่ไม่ใช่การแสดง แต่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอในตอนนี้ผู้ชายคนนี้ น่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีก เธอกลัวว่าจะเผยพิรุธออกมาขณะที่เธอหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เย่ซิวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ชิงชิงสวยขึ้นมาก คุ้นเคยกับที่นี่รึยัง?"“อืม ที่นี่ดีมาก ขอบคุณที
หลังจากที่ตื่นเต้นแล้ว หลี่หยวนก็ถูกกลิ่นเหม็นที่มาจากร่างของตัวเองเกือบทำให้หมดสติไปหลังจากทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ เขาก็วิ่งไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำดวงตากลมโตและระยิบระยับของหลี่หลิงเอ๋อร์เบิกกว้าง "ฉันเอาด้วย ฉันเองก็อยากลองบ้างเหมือนกัน"เย่ซิวพยักหน้า และกดนิ้วลงไปที่หว่างคิ้วของเธอเหมือนกันกระแสพลังวิญญาณถูกส่งเข้าไปในร่างของหลี่หลิงเอ๋อร์และไหลไปทั่วร่างสิ่งที่ทำให้เย่ซิวประหลาดใจก็คือ ศักยภาพทางร่างกายของหลี่หลิงเอ๋อร์นั้นแข็งแกร่งกว่าของหลี่หยวนมากในที่สุด พลังวิญญาณของเขาก็ถูกส่งไปเก็บในจุดตันเถียนที่ช่องท้องของหลี่หลิงเอ๋อร์"ว้าว น่าทึ่งมาก"หลี่หลิงเอ๋อร์มองไปที่เย่ซิวด้วยความชื่นชมและนับถือตัวเองนั่งสมาธิและฝึกฝนอย่างหนักที่นี่เป็นเวลาหลายปี ถึงจะประสบความสำเร็จเล็กน้อยแต่ตอนนี้เย่ซิวแค่จิ้มตัวเองเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ กลับได้รับผลประโยชน์มหาศาลชนิดที่เอาเมื่อก่อนมารวมกันก็ยังเทียบไม่ติดเธอเป็นเหมือนภูตตัวน้อย น่ารักมาก "ทำอีกหลายรอบหน่อยจะได้รึเปล่า?"เย่ซิวรู้สึกตลกและถามไปว่า “คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”“ปีนี้ฉันอายุยี่สิบแล้ว”เย่ซิวตกใจแล้วจริง ๆ เด็กสาวมีใบ
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด