“การพัฒนาทั้งในด้านอุตสาหกรรมและการเงินนั้นดีมาก ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ภายในสองถึงสามปีข้างหน้าซีเฉิงอาจจะกลายเป็นเมืองอันดับหนึ่ง”“ข้อบกพร่องประการหนึ่งในปัจจุบันของซีเฉิงคือ วัตถุดิบทางอุตสาหกรรมและสิ่งจำเป็นด้านที่อยู่อาศัยต่าง ๆ จำเป็นต้องขนส่งจากที่อื่น ซึ่งใช้เวลานานและลำบาก”“หากสามารถเปิดการขนส่งระหว่างเจียงเฉิงและซีเฉิงได้ ก็จะสามารถส่งเสบียงต่าง ๆ จากเจียงเฉิงไปยังซีเฉิงได้”เมื่อถึงเวลา ซีเฉิงจะกลายเป็นเมืองระดับหนึ่ง และเจียงเฉิงก็จะได้รับประโยชน์เป็นการตอบแทนเช่นกัน และจะขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว”เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ หัวใจของเย่ซิวก็เต้นตุบ ๆ เขามองไปที่ใบหน้าด้านข้างอันงดงามของหูเม่ยเอ๋อร์ “คุณหมายความว่า เจียงเฉิงและซีเฉิงจะเชื่อมต่อกันด้วยรถไฟความเร็วสูง และจะมีการสร้างทางหลวงพิเศษด้วยใช่ไหม?”ปัจจุบันไม่มีทางหลวงพิเศษระหว่างเจียงเฉิงและซีเฉิง มีเพียงถนนในชนบทที่สามารถรองรับจักรยานเท่านั้นหากมีการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงและทางหลวงพิเศษเชื่อมต่อกัน หากเป็นเช่นนั้น มูลค่าที่อยู่อาศัยในเจียงเฉิงจะต้องพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอนนอกจากนี้ ยังมีสินค้าทางการเกษตร อาหารท
เย่ซิวถามแบบสบาย ๆ เขาไม่ได้คิดที่อยากจะทำแบบนั้นจริง ๆเขาไม่ใช่คนประเภทจะทำอะไรเพื่อแสวงหาผลกำไรนอกจากนี้ เป็นเพราะน้องสาวของหูเม่ยเอ๋อร์สามารถให้ข้อมูลวงในดังกล่าวนี้แก่เธอได้ครั้งหนึ่ง หล่อนก็จะสามารถให้ข้อมูลนั้นแก่เธอเป็นครั้งที่สองได้หากร่วมมือกับเธอตอนนี้ ในอนาคตก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องไม่รู้จบไม่ว่าจะเป็นในด้านใด เย่ซิวก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกงหรือเอาเปรียบเธอ “ได้ ผมสัญญา!”หูเม่ยเอ๋อร์ไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ เธอถามว่า “แล้วเรื่องซื้อที่ดินคุณวางแผนที่จะใช้เงินเท่าไหร่?”"รอผมแป๊บ"พูดอย่างนั้นแล้วเย่ซิวก็โทรหาเซี่ยซิ่วซิ่ว"ตอนนี้บัญชีของบริษัทมีเงินสดที่ใช้ได้เลยอยู่เท่าไหร่?"เซี่ยซิ่วซิ่วที่อยู่บ้านเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และกำลังเตรียมจะเข้านอนหลังจากได้รับสายจากเย่ซิว เธอก็เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบทันที แล้วพูดว่า “เรากำลังเตรียมจ่ายเงินเดือนของเดือนที่แล้วให้พนักงาน บวกกับที่ต้องจัดสรรกองทุนฉุกเฉินบางส่วนไว้ด้วย ฉะนั้นเงินที่เราใช้ได้ตอนนี้มีประมาณหนึ่งแสนล้านบาท"เย่ซิวคำนวณอย่างรวดเร็วตามราคาที่ดินปัจจุบันของสถานที่แห่งนี้หนึ่งแสนล้านบาทสามารถซื้
เนื่องจากเธอเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน เธอยังไม่คุ้นเคยกับความแข็งแกร่งของคนทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนั้นเองที่ผู้ช่วยของเธอวางเอกสารสองฉบับไว้ตรงหน้าเขาระหว่างที่ดูเอกสาร หลิ่วอวี้เอ๋อร์ก็กำลังพูดคุยกับพวกเขาสองคนไปด้วย ยิ่งเธอดูมากเท่าไรเธอก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นเท่านั้นรอยยิ้มบนใบหน้าฉีกขึ้นเรื่อย ๆหลังจากฟังคำขอของเย่ซิวแล้ว หลิ่วอวี้เอ๋อร์ก็ยิ้มและกล่าวว่า “ด้วยคุณสมบัติของคุณเย่แล้ว สำหรับสินเชื่อสองแสนล้านบาทไม่มีปัญหาเลยค่ะ ดิฉันจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดให้กับคุณด้วยค่ะ”ในใจของเธอเอ่อล้นไปด้วยความสุข เธอเพิ่งมาทำงานที่นี่ ไม่คิดเลยว่าจะมีธุรกรรมใหญ่ขนาดนี้เข้ามาหาถึงที่เนื่องจากเป็นเรื่องของเงินจำนวนมาก แม้ว่าหลิ่วอวี้เอ๋อร์จะให้การดูแลเย่ซิวเป็นพิเศษแต่ก็ยังต้องใช้เวลาสองวันในการดำเนินการให้เสร็จสิ้นหลังจากลงนามในสัญญามากกว่าสิบฉบับ หูเม่ยเอ๋อร์ก็ยืนขึ้นเตรียมจะเดินออกไปหลิ่วอวี้เอ๋อร์ก็ยืนขึ้นและยื่นมือออกไปจับมือของเย่ซิวบางทีอาจเป็นเพราะเธอนั่งนานเกินไป หรืออาจเป็นเพราะรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่ในวันนี้มีส้นที่สูงกว่าปกติเมื่อเธอลุกขึ้นยืนก็สูญเสียการทรงตั
เย่ซิวกำลังขจัดรอยแดงบวมที่เท้าของหลิ่วอวี้เอ๋อร์ แต่จู่ ๆ จมูกของเขาก็ขยับ “ทำไมถึงมีกลิ่นแปลก ๆ”“คงเป็นเพราะห้องนี้ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดมั้งคะ ห้องก็เลยมีกลิ่น” หลิ่วอวี้เอ๋อร์อธิบายเย่ซิวพยักหน้าโดยไม่ได้คิดอะไรมาก และให้คำแนะนำ “สองสามสัปดาห์หลังจากนี้ คุณควรสวมรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าส้นเตี้ยนะครับ กระดูกของคุณค่อนข้างเปราะ อาจจะเกิดการแตกหักได้ง่าย”“ขอบคุณนะคะคุณเย่” หลิ่วอวี้เอ๋อร์ขอบคุณเขาอย่างจริงใจ“คุณพักผ่อนอยู่ที่นี่สักพักจะดีกว่าครับ ไม่ต้องไปส่งพวกเราก็ได้ พวกเราไปกันเองได้ครับ”ทั้งสองคนก็เดินออกไปข้างนอกหลังจากออกมาจากธนาคาร เย่ซิวก็ดูเวลาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงแล้วเขาปฏิเสธคำเชิญของหูเม่ยเอ๋อร์ที่จะไปคลับเย่ซิวขับรถไปรับหลิ่วเมิ่งอิ๋นที่โรงเรียนหลังจากขึ้นรถ ใบหน้าที่ปั้นมาทั้งวันของหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็หายไป พลันเผยรอยยิ้มที่สดใสไร้เดียงสาและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เธอได้พบเจอที่โรงเรียนวันนี้เย่ซิวรับฟังเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อรถมาถึงทางเข้าเขตที่อยู่อาศัย เย่ซิวก็บอกเธอว่า “ฉันซื้อวิลล่าแล้ว เราย้ายไปที่นั่นกันเถอะ”“อะไรนะคะ?”หลิ่วเมิ่งอิ๋น
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีสาวสวยขนาดนี้!”“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? นี่มันนางฟ้าลงมาเยือนโลกมนุษย์ชัด ๆ!”“สาวน้อย เธอมาทำอะไรแถวนี้? ให้พี่เดินไปเป็นเพื่อนไหมจ๊ะ?”…คนเหล่านี้มองหลิ่วเมิ่งอิ๋นด้วยสายตาหื่นกระหาย และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายรูปร่างหน้าตาของเธอสวยเกินไปจริง ๆยิ่งกว่านั้น คนเหล่านี้เดิมทีเป็นพวกขี้เกียจราวกับพวกขยะสังคม เมื่อพวกเขาเห็นสาวสวยจึงรีบเข้ามาแซวเธอหลิ่วเมิ่งอิ๋นซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเย่ซิวโดยสัญชาตญาณ คนเหล่านี้ดูดุร้ายและน่ากลัวมาก“เฮ้ ไอ้หน้าอ่อนนี่ใคร? แฟนเธอเหรอ?”“ฉันสงสัยจังว่าผอมกระหร่องดูอ่อนแอขนาดนี้ จะทนต่อหมัดฉันได้หรือเปล่า”“สาวน้อย เธออยู่กับคนอย่างนั้นไม่มีอนาคตหรอก มาอยู่กับพี่ดีกว่า”…คนเหล่านี้ไม่ได้สนใจเย่ซิวเลยดูจากรูปลักษณ์ที่ผอมสูงแบบนี้ จะไปมีแรงขนาดไหนกันเชียว?รูปลักษณ์ที่ไร้เดียงสาและมีเสน่ห์ของหลิ่วเมิ่งอิ๋นทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นจนทนไม่ไหว และอดไม่ได้ที่จะลงมือทำสีหน้าของเย่ซิวดูเย็นชามาก “พวกคุณกำลังทำเรื่องแบบนี้ในเวลาทำงาน คุณไม่กลัวถูกเจ้านายไล่ออกเหรอ!”ชายคนหนึ่งหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “ทำไมเจ้านาย
“ใช่ครับหัวหน้า พวกผมยังมีคนแก่กับเด็กเล็กที่ต้องดูแล หัวหน้าอย่าไล่พวกเราออกเลยนะครับ!”เมื่อกี้พวกเขาเย่อหยิ่งมากเท่าไร ตอนนี้พวกเขาก็อับอายขายหน้ามากเท่านั้นเมื่อหนิวเอ้อร์ได้ยินคำพูดนี้จากพวกเขา ก็รู้ได้ทันทีว่ามีเรื่องร้ายเกิดขึ้นแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่กับเขามาได้สักยะหนึ่งแล้ว แต่ในตอนนี้เขากลับทำหน้าบึ้งตึงไม่พูดจาอะไรสักคำคนพวกนี้โง่จริง ๆ ถ้าขืนยังอยู่ต่อ ไม่แน่ว่าต่อไปพวกเขาอาจจะก่อเรื่องราวใหญ่โตให้เขาเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ตอนนี้ให้เจ้านายคนใหม่จัดการไล่พวกเขาออกไปอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดสีหน้าของเย่ซิวนั้นเย็นชาจนไม่แสดงอาการใด ๆ “ไม่ต้องพูดมาก ไปจัดการเรื่องเงินเดือนให้เรียบร้อยแล้วออกไปซะ!” เมื่อเห็นเย่ซิวนั้นมีท่าทีเด็ดขาด พวกเขาก็โกรธมากจนถึงขีดสุด พวกเขารีบลุกขึ้นและเริ่มพับแขนเสื้อขึ้นดวงตาของพวกเขาแต่ล่ะคนฉายแววอันตราย“หัวหน้า คุณอยากจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ใช่ไหม?”“จะบอกอะไรให้ ผมไม่กลัวคุณหรอก ผมยังมีพวกพ้องที่อยู่ข้างนอกอีกมากมาย ถ้าคุณไล่พวกเราออก ผมกล้ารับประกันได้เลยว่าต่อไปบริษัทของคุณจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่ ๆ!”“ถ้างั้น เราลองถอยหลังคนละก้าวดูไหม? เร
รถมอเตอร์ไซค์และรถตู้จอดลงบนรถมอเตอร์ไซค์แต่ละคันมีคนนั่งอยู่ทั้งหมดสามคน เมื่อประตูรถตู้เปิดออกก็มีกลุ่มคนจำนวนสิบกว่าคนออกมากลุ่มคนจำนวนมากราวกับฝูงผึ้งรีบวิ่งเข้ามาที่หน้าบริษัทจนปิดการเข้าออกของพื้นที่นั้น“ใครมารังแกน้องชายฉัน!”“ก้าวออกมาให้ฉันดูหน่อยซิว่าใครกันที่มันกล้ามากขนาดนี้!”“ให้ตายเถอะ ที่นี่มีคนสวยขนาดนี้ด้วยเหรอนี่!”…หลังจากที่พวกอันธพาลมากกว่าสองร้อยคนลงจากรถมาแล้ว สายตาของพวกเขาก็มองไปที่หลิ่วเมิ่งอิ๋นอย่างรวดเร็วแม้ว่าเธอจะยืนอยู่ที่นั่นโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไร แต่เธอก็เหมือนกับอัญมณีที่เปล่งประกายจนดึงดูดสายตาของผู้คนที่พบเห็นในกลุ่มคนที่ถูกไล่ออก มีคนหนึ่งชี้ไปที่เย่ซิวด้วยความโกรธและพูดว่า “พวกพี่ ไอ้หมอนี่แหละที่ไล่พวกเราออก! มาเถอะทุกคน มาทำให้มันพิการไปเลย ส่วนผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ มันจะได้กลายเป็นของพวกเรา!"ทันใดนั้น พวกอันธพาลก็หัวเราะดังลั่นพร้อมกับหยิบอาวุธต่าง ๆ ออกมาแล้วเดินตรงไปหาเย่ซิวสีหน้าของหลิ่วเมิ่งอิ๋นซีดลง เธอคว้าแขนของเย่ซิวโดยไม่รู้ตัว “พี่เย่ซิว ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?” เย่ซิวลูบศรีษะของเธอ “เธอเชื่อใจฉันไหม?”หลิ่วเมิ่งอิ
กำลังภายในนี้ปกติแล้วจะไม่มีผลกระทบใด ๆ กับพวกเขาแต่ถ้าพลังชี่และเลือดของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น ความโกรธของพวกเขาก็จะระเบิดออกมาและสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของพวกเขาพูดง่ายๆ คือ ถ้าต่อไปเขาไม่ทำความชั่วอีก กำลังภายในที่อยู่ในร่างกายของพวกเขาจะค่อย ๆ หายไปเอง“ออกไปซะ! อย่าให้ผมเจอพวกคุณอีก”พวกเขารู้สึกเหมือนได้รับการอภัยโทษ พวกเขาไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป รีบพากันวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน เย่ซิวดึงหลิ่วเมิ่งอิ๋นเข้าไปในบริษัทหนิวเอ้อร์และคนอื่น ๆ แม้แต่จะหายใจก็ไม่กล้าหายใจแรง เมื่อเห็นเย่ซิวลับสายตาไปแล้ว ก็มีใครบางคนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงต่ำ“ลูกพี่ หัวหน้าคนใหม่ของเรานี่เป็นใครกันแน่?“นี่มันน่ากลัวมากเลยนะครับ คน ๆ เดียวสามารถล้มคนมากกว่าสองร้อยคนได้อย่างง่ายดาย”“ขนาดละครหลังข่าวยังสู้ไม่ได้เลย”…สีหน้าของหนิวเอ้อร์เข้มขึ้น “อะไรที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม รีบตามฉันไปหาหัวหน้าคนใหม่ซะ เขาพูดอะไรพวกเราก็ต้องทำตาม ห้ามขัดคำสั่งเด็ดขาด!”ทุกคนรีบพยักหน้าอย่าเชื่อฟังแล้วเดินตามหนิวเอ้อร์เข้าไปในบริษัทเมื่อเย่ซิวเข้ามาในบริษัทก็เห็นว่ามันไม่เป็นระเบียบเหมือนที่เขาคิดไว้ สภาพค่อนข้
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ถอดผ้าปิดตาออก เอียงศีรษะแล้วมองไปที่เย่ซิว "เมื่อคืนนี้คือน้องหลิ่วใช่ไหม?"เย่ซิวรู้สึกขบขันอยู่ในใจ แต่สีหน้ายังคงจริงจัง "คุณเดาดูสิ"ลู่เสวี่ยเอ๋อร์แค่นเสียงฮึ่ม "ต้องเป็นเธอแน่ ๆ ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวในบ้านนี้ที่ใช้น้ำหอมดอกหอมหมื่นลี้คิดไม่ถึง น้องหลิ่วที่ปกติดูจะเป็นผู้หญิงที่ซื่อตรงขนาดนั้นจะ…”เย่ซิวขอโทษหลิ่วเมิ่งอิ๋นในใจอย่างเงียบ ๆ ที่ให้เธอมาแบกรับความผิดแทนหลิวอวิ้นเมื่อเห็นว่าเย่ซิวเงียบไม่พูด ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็เข้าใจไปเองแล้วว่านั่นคือหลิ่วเมิ่งอิ๋นจริง ๆหลังจากอาบน้ำทำธุระเสร็จ ก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋น จึงหัวเราะคิกคักและพูดไปว่า "น้องหลิ่ว ฉันดูไม่ออกเลยจริง ๆ นะ"หลิ่วเมิ่งอิ๋น "???"วันนี้เย่ซิวเองก็จะไปที่บริษัทกับพวกเธอด้วยเซี่ยชิงชิงติดตามไปด้วยเช่นกันเธอนั่งอยู่ในรถ กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้บรรยากาศครึกครื้น รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาบนใบหน้า ทำให้ใครเห็นใครก็รักถ้าเย่ซิวไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ เขาก็อาจจะถูกทักษะการแสดงของน้องภรรยาคนนี้หลอกเข้าให้จริง ๆเมื่อมาถึงที่บริษัท เซี่ยชิงชิงก็ถูกพี่สาวพาไปลงทะเบีย
หัวใจของเซี่ยชิงชิงกระตุกวูบ ก่อนที่เธอจะทันได้ทันตอบสนอง มือของเย่ซิวก็วางลงบนจุดตันเถียนของเธอแล้วมือใหญ่ที่มั่นคงและทรงพลังนั้นกดลงไปตรง ๆร่างกายอันละเอียดอ่อนของเซี่ยชิงชิงแข็งทื่อ เธอแทบจะหยุดหายใจแล้ว“โอ้? ไม่เลวเลย ถึงกับมีความสามารถในการฆ่าแมลงพิษที่ฉันฝังไว้” เย่ซิวมองเธอด้วยรอยยิ้มแต่เซี่ยชิงชิงรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังตกเป็นเป้าหมายของงูพิษร้าย ร่างกายของเธอเย็นเยียบไปหมดเธอพูดขึ้นอย่างยากลำบาก "ใช่...ใช่แล้วค่ะ ฉันพบโอสถหมื่นพิษเม็ดหนึ่งในสำนักเบญจพิษหลังจากกินมัน พลังของฉันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก และฉันก็สามารถกำจัดแมลงพิษได้ ก่อนหน้านั้นฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเป็นแบบนี้"“โอสถหมื่นพิษ” เย่ซิวเริ่มสนใจแล้วเขาสำรวจเธออย่างรอบคอบเซี่ยชิงชิงกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกถึงความอัปยศอดสูเหมือนที่ได้รับในตอนนั้นอีกครั้งแต่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากในดวงตาไม่มีร่องรอยของความแค้นเคืองอะไร มีเพียงความตื่นตระหนกและความเขินอายหลังจากสำรวจเสร็จแล้ว เย่ซิวก็หยุดมือและหัวเราะเบา ๆ "ช่างเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะขึ้นเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าแล้วงั้นตั้งแต่พร
แต่ในใจกลับค่อนข้างดูถูกดูแคลนที่แท้ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ ตัวเย่ซิวล้วนโง่เขลาขนาดนี้ เธอเอาชนะใจพวกเธอได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นฉากนี้ น้องสาวของเธอโตขึ้นมากกริ๊งประตูอิเล็กทรอนิกส์ของวิลล่าเปิดออก สาว ๆ ทุกคนหันไปมองเมื่อพวกเธอเห็นเย่ซิวกลับมาจากข้างนอก ผู้หญิงหลายคนก็ปรี่ขึ้นไปต้อนรับเขากลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายทุกชนิดผสมผสานกัน ทำให้ฮอร์โมนของคนพลุ่งพล่านรอยยิ้มจากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่ซิวนี่ถึงจะเป็นสวรรค์ของเขา ไร้ซึ่งกลอุบาย และไม่มีใครที่คิดจะทำร้ายเขาสุดท้าย สายตาของเขาก็มองไปที่เซี่ยชิงชิงซึ่งยืนอย่างเขินอายห่างออกไปกว่าสิบเมตร เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อย ไม่กล้ามองเขาเย่ซิวเดินไปพร้อมกับสายตาที่พินิจพิเคราะห์เซี่ยชิงชิงจับมือทั้งสองข้างแน่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นนี่ไม่ใช่การแสดง แต่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอในตอนนี้ผู้ชายคนนี้ น่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีก เธอกลัวว่าจะเผยพิรุธออกมาขณะที่เธอหัวใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เย่ซิวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า "ชิงชิงสวยขึ้นมาก คุ้นเคยกับที่นี่รึยัง?"“อืม ที่นี่ดีมาก ขอบคุณที
หลังจากที่ตื่นเต้นแล้ว หลี่หยวนก็ถูกกลิ่นเหม็นที่มาจากร่างของตัวเองเกือบทำให้หมดสติไปหลังจากทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ เขาก็วิ่งไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำดวงตากลมโตและระยิบระยับของหลี่หลิงเอ๋อร์เบิกกว้าง "ฉันเอาด้วย ฉันเองก็อยากลองบ้างเหมือนกัน"เย่ซิวพยักหน้า และกดนิ้วลงไปที่หว่างคิ้วของเธอเหมือนกันกระแสพลังวิญญาณถูกส่งเข้าไปในร่างของหลี่หลิงเอ๋อร์และไหลไปทั่วร่างสิ่งที่ทำให้เย่ซิวประหลาดใจก็คือ ศักยภาพทางร่างกายของหลี่หลิงเอ๋อร์นั้นแข็งแกร่งกว่าของหลี่หยวนมากในที่สุด พลังวิญญาณของเขาก็ถูกส่งไปเก็บในจุดตันเถียนที่ช่องท้องของหลี่หลิงเอ๋อร์"ว้าว น่าทึ่งมาก"หลี่หลิงเอ๋อร์มองไปที่เย่ซิวด้วยความชื่นชมและนับถือตัวเองนั่งสมาธิและฝึกฝนอย่างหนักที่นี่เป็นเวลาหลายปี ถึงจะประสบความสำเร็จเล็กน้อยแต่ตอนนี้เย่ซิวแค่จิ้มตัวเองเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ กลับได้รับผลประโยชน์มหาศาลชนิดที่เอาเมื่อก่อนมารวมกันก็ยังเทียบไม่ติดเธอเป็นเหมือนภูตตัวน้อย น่ารักมาก "ทำอีกหลายรอบหน่อยจะได้รึเปล่า?"เย่ซิวรู้สึกตลกและถามไปว่า “คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”“ปีนี้ฉันอายุยี่สิบแล้ว”เย่ซิวตกใจแล้วจริง ๆ เด็กสาวมีใบ
จมูกของเซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกแสบร้อน ไม่เจอกันนาน ความเป็นเด็กและความเกลียดชังในตัวของน้องสาวเหมือนจะหายไปแล้ว เธอดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วเซี่ยซิ่วซิ่ววิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปหาเธอ น้ำเสียงสั่นเครือ "ชิงชิง!"เซี่ยชิงชิงเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วตั้งนานแล้ว ดวงตาของเธอแดงก่ำเล็กน้อย ภายในหัวผุดภาพความทรงจำระหว่างพวกเธอพี่น้องสมัยยังเด็กขึ้นมา“พี่คะ ฉันคิดถึงพี่มาก”เธอโผเข้ามากอดเซี่ยซิ่วซิ่วเซี่ยซิ่วซิ่วเองก็มีน้ำตาคลอเบ้า "พี่ก็เหมือนกัน กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว"เซี่ยชิงชิงตกใจในทันที "พี่ ความแข็งแกร่งของพี่!!!"ด้วยการกอดนี้ เธอก็สัมผัสถึงกำลังภายในในตัวของเซี่ยซิ่วซิ่วที่ทรงพลังนั้นได้ จึงรู้สึกครั่นคร้ามเป็นอย่างมากเมื่อเซี่ยซิ่วซิ่วได้ยินแบบนี้ก็พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ "เป็นเพราะพี่เขยของเธอ เขาฝีมือร้ายกาจมาก สามารถหลอมโอสถหลายชนิดเพื่อให้พี่เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง แล้วยัง..."คำพูดนั้นหยุดไปชั่วขณะ ใบหน้างามขึ้นสีแดงเล็กน้อยยังมีวิธีการบำเพ็ญตนอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ร่องรอยของความคับแค้นฉายลึกอยู่ในดวงตาของเซี่ยชิงชิง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ถ
“เดี๋ยวก่อน ฉันตกลง!”ในที่สุด เมื่อหลี่ต้าจ้วงเห็นเย่ซิวเตรียมจะจากไป เขาก็แสดงการเลือกของตัวเองเย่ซิวหยุดฝีเท้า หมุนตัวกลับมา สีหน้าไม่ได้แสดงถึงความประหลาดใจมากนักแต่ชูตงกลับหันหน้าไปพรวด มองไปที่หลี่ต้าจวงด้วยความไม่เชื่อ "คุณกำลังพูดอะไรน่ะ?"หลี่ต้าจวงวิ่งไปคว้ากระเป๋าเดินทางจากมือของเย่ซิว ยืนอยู่ที่ประตู และหัวเราะอย่างดุร้าย“ฉันน่ะเบื่อเธอจะตายอยู่แล้ว เห็นได้ชัดว่าหุ่นเซ็กซี่ขนาดนี้ ยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา!อยู่กับเธอมาตั้งนาน แม้แต่มือก็ยังไม่ยอมให้จับในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่สู้ฉันเอาเงินแล้วไปสนุกข้างนอกดีกว่า พวกเราบอกลากันตรงนี้เถอะ!”พูดจบ เขาก็หยิบกระเป๋าเดินทางแล้วจากไปชูตงราวกับถูกสายฟ้าฟาด คนทั้งคนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่ตัวเองคิดจะฝากทั้งชีวิตไว้กับเขา จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาเพื่อเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ถึงกับกระทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาน้ำตาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องเย่ซิวมองไปที่เธอ "พรุ่งนี้ไปทำงานต่อนะ อย่ามาสายล่ะถ้าคุณกล้าลาออกจากบริษัทโดยพลการ บริษัทจะให้คุณจ่ายค่าผิดสัญญาเป็นจำนวนเงินหลายสิบล้านทีเดียว”แม้ว่าตอน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ซิวก็ขึ้นราคาต่อไป "ยี่สิบห้าล้าน"แถมยัง วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่เขานำมาไว้บนพื้นแล้วเปิดออกมันเต็มไปด้วยธนบัตรหลงเถิงที่มีมูลค่าฉบับละหนึ่งพันบาท!"ซู้ด!!!"หลี่ต้าจ้วงสูดลมเย็นเข้าปอด จ้องมองไปที่เหรียญหลงเถิงที่ดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยเมื่อเทียบกับตัวเลขที่ไร้ชีวิต การที่มีเงินสดกว่ายี่สิบห้าล้านมาวางกองตรงหน้า ย่อมส่งผลกระทบมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเย่ซิวเห็นสีหน้าของเขา ก็รู้ว่าเขาหวั่นไหวแล้ว จึงพูดอย่างล่อลวงไปว่า “คุณคงไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อนใช่ไหม?คุณมีรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ล่ะ? กะประมาณหนึ่งแสนบาทก็แล้วกันถ้าคุณไม่กินหรือดื่มเลย หนึ่งปีก็จะเก็บเงินได้หนึ่งล้านสองแสนบาท และต้องใช้เวลามากกว่ายี่สิบปีถึงจะสามารถเก็บเงินได้ยี่สิบห้าล้านในความเป็นจริงทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นไปไม่ได้ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายของเมืองหลวง หนึ่งปีเก็บเงินได้สักห้าแสนบาทก็นับว่าไม่ธรรมดาแล้วหรือก็คือ คุณต้องใช้เวลาถึงสี่สิบปีจึงจะมีเงินยี่สิบห้าล้านตอนนี้ตราบเท่าที่คุณพยักหน้า เงินนี้ก็จะเป็นของคุณด้วยเงิ
ชายคนนั้นเปิดประตู ก็เห็นว่ามีชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบมากคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นเมื่อเห็นเย่ซิว ความริษยาก็วาบผ่านดวงตาของผู้ชายคนนั้น การมีอยู่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนไหนยืนอยู่ต่อหน้าเขาย่อมรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า ตัวเขาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น“คุณเป็นใคร!”ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของชายคนนั้นจึงไร้ความเป็นมิตรอย่างมาก แถมด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย เขามองไปทางห้องครัวโดยไม่รู้ตัวกลัวว่าจู่ ๆ ชูตงจะวิ่งออกมา แล้วตกหลุมรักเย่ซิวทันทีหลังจากที่ได้พบเขานี่คือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว เสแสร้ง และขาดความมั่นใจในตนเองอย่างมากเย่ซิวยิ้มและพูดว่า "ชูตงอยู่ที่นี่ใช่ไหม ผมเป็นประธานของบริษัทของเธอ คุณคงเป็นแฟนเธอสินะ"“หืม?!”ชายคนนั้นเริ่มตื่นตัวทันที "คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?"“ไม่เชิญผมเข้าไปนั่งหน่อยเหรอ?” เย่ซิวพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้ “ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมอบความมั่งคั่งให้กับคุณ”"ใครคะ?"ตอนนี้เอง ชูตงที่สวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับทัพพีในมือขวาเมื่อเขาเห็นเย่ซิว ม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย "ประธาน ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่คะ?"ไม่กี่นาทีต่อมา เย่ซ
นี่คือคำสัญญาที่เย่ซิวให้ไว้ต่อเธอลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาของเธอลงอย่างมีความสุขวันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมากนัก ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เลยบำเพ็ญตนกับเย่ซิวตลอดลากยาวไปจนถึงห้าโมงเย็นถึงได้หยุดห้าโมงเย็น ก็เลิกงานแล้วเย่ซิวขอให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กลับไปก่อน เนื่องจากเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำเมื่อมาถึงลานจอดรถ หลางต้าก็รออยู่ข้าง ๆ รถของเย่ซิวแล้วมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ที่เท้าของเขา“นายน้อย!” หลางต้าโค้งตัวลงแล้วพูด “ทุกสิ่งที่คุณต้องการเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”เย่ซิวพยักหน้า "ได้ นายกลับไปเถอะ"เขาใส่กระเป๋าเดินทางไว้ท้ายรถ จากนั้นขับรถออกไปจุดหมายคือบ้านเช่านอกชานเมืองที่ชูตงอาศัยอยู่เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงานถึงที่นี่ ทุกวันคือราวสามสิบหรือสี่สิบชั่วโมงเย่ซิวดูเงินเดือนของชูตงซึ่งมากกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหลังจากหักภาษีในทุกเดือนแล้วราคาบ้านใกล้บริษัทอยู่ที่ประมาณสองหมื่นห้าพันบาท ซึ่งอิงตามหลักการแล้วเธอน่าจะแบกรับไหวถึงจะถูกเมื่อเขามาถึงบ้านเช่าของชูตง เขาก็จอดรถ ยกกระเป๋าเดินทางออกมา แล้วเดินไปที่เขตชุมชนด้านหน้าเขตชุมชนแห่งหนึ่ง ในห้องสามศูนย์แปด