“เอาล่ะ ลงไปได้แล้ว ฉันมีอย่างอื่นต้องทำ ฉันไม่ไปกับเธอนะ”หลิ่วเมิ่งอิ๋นลงจากรถและโบกมือลาเย่ซิวอย่างไม่เต็มใจเย่ซิวกลับมาที่บริษัท และพนักงานก็ได้จัดการทุกอย่างที่ต้องจัดเรียงเรียบร้อยแล้วเย่ซิวเรียกพวกเขามาประชุมสิ่งแรกที่ประกาศในที่ประชุมคือ คลับเหล่านั้นจะต้องได้รับการปรับปรุง และจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอนาจารอีกในอนาคตเย่ซิวสนับสนุนเงินให้ผู้หญิงเหล่านั้นคนละห้าแสนบาทคลับทั้งหมดจะต้องเปลี่ยนเป็นสถานที่ซึ่งให้บริการเฉพาะด้านสปาเท้าและนวดเท่านั้นหากพวกเธอเต็มใจที่จะอยู่ต่อ ทุกคนจะต้องได้รับการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐาน และพวกเธอจะได้รับประกันสังคมและกองทุนสวัสดิการ เพื่อให้พวกเธอได้มีอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายนอกจากนี้ สำหรับ KTV บาร์ และสถานที่ที่คล้ายกัน สิ่งที่ผิดกฎหมายและอาญาทั้งหมดจะต้องถูกกำจัดเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเชิงบวกในปัจจุบัน บันทึกบัญชีของบริษัทแสดงยอดรวมกว่าสามแสนล้านเย่ซิวถอนออกมาสองแสนล้านไปรวมกับอีกหนึ่งแสนล้านในบัญชีของเขา รวมเป็นสามแสนล้านก่อนอื่นจะต้องอุดรอยรั่วนี้ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งแสนล้านจะนำไปใช้ในการพัฒนาบริษัทเซี่ยซิ่วซิ่วกำลั
“สุดหล่อ แวะมาดื่มด้วยกันไหม?”เย่ซิวอยากจะปฏิเสธแต่หูเม่ยเอ๋อร์ก็ส่งข้อความที่สองมาเสียก่อน“มีข้อตกลงทางธุรกิจใหญ่ที่ฉันต้องการร่วมมือกับคุณ”เย่ซิวคิดอยู่พักหนึ่งแล้วส่งข้อความไปขอที่อยู่ของเธอไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งที่อยู่ซึ่งเป็นสถานที่ห่างไกลมาก ซึ่งอยู่เลยชานเมืองออกไปอีกสาวสวยชวนไปสถานที่ห่างไกลขนาดนี้ ทำให้คนคนหนึ่งจินตนาการเลยเถิดโลดแล่นไปแล้ว เมื่อเย่ซิวขับรถมาถึง ก็เห็นหูเม่ยเอ๋อร์ยืนอยู่บนทุ่งหญ้าวันนี้เธอสวมชุดรัดรูป ท่อนร่างสวมกางเกงยีนท่อนบนสวมชุดลายดอกไม้ที่ดูค่อนข้างย้อนยุคแต่เมื่ออยู่บนเรือนร่างของเธอกลับมีเสน่ห์เหลือล้นเธอที่อยู่บนพื้นหญ้านั้นเปรียบเสมือนราชินีแห่งดอกไม้ทั้งปวงที่เปล่งประกายเจิดจ้าแพรวพราว จนผู้คนที่พบเห็นมิอาจละสายตาไปจากเธอได้เมื่อเห็นเย่ซิวเข้ามาใกล้ เธอก็เผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “เย่ซิว น้องชาย ตอนนี้คุณเป็นเศรษฐีแล้วนะ”เธอเดินไปหาเย่ซิ่ว และเนื่องจากรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอ การเคลื่อนไหวส่วนบนของเธอจึงเป็นลูกคลื่นขึ้นลงจนน่าสะดุดตาอย่างยิ่งแม้แต่เย่ซิวก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองอยู่หลายครั้ง ‘นี่มันนางฟ้านางสวรรค์ชัด ๆ’ตอนนี
“การพัฒนาทั้งในด้านอุตสาหกรรมและการเงินนั้นดีมาก ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ภายในสองถึงสามปีข้างหน้าซีเฉิงอาจจะกลายเป็นเมืองอันดับหนึ่ง”“ข้อบกพร่องประการหนึ่งในปัจจุบันของซีเฉิงคือ วัตถุดิบทางอุตสาหกรรมและสิ่งจำเป็นด้านที่อยู่อาศัยต่าง ๆ จำเป็นต้องขนส่งจากที่อื่น ซึ่งใช้เวลานานและลำบาก”“หากสามารถเปิดการขนส่งระหว่างเจียงเฉิงและซีเฉิงได้ ก็จะสามารถส่งเสบียงต่าง ๆ จากเจียงเฉิงไปยังซีเฉิงได้”เมื่อถึงเวลา ซีเฉิงจะกลายเป็นเมืองระดับหนึ่ง และเจียงเฉิงก็จะได้รับประโยชน์เป็นการตอบแทนเช่นกัน และจะขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว”เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ หัวใจของเย่ซิวก็เต้นตุบ ๆ เขามองไปที่ใบหน้าด้านข้างอันงดงามของหูเม่ยเอ๋อร์ “คุณหมายความว่า เจียงเฉิงและซีเฉิงจะเชื่อมต่อกันด้วยรถไฟความเร็วสูง และจะมีการสร้างทางหลวงพิเศษด้วยใช่ไหม?”ปัจจุบันไม่มีทางหลวงพิเศษระหว่างเจียงเฉิงและซีเฉิง มีเพียงถนนในชนบทที่สามารถรองรับจักรยานเท่านั้นหากมีการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงและทางหลวงพิเศษเชื่อมต่อกัน หากเป็นเช่นนั้น มูลค่าที่อยู่อาศัยในเจียงเฉิงจะต้องพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอนนอกจากนี้ ยังมีสินค้าทางการเกษตร อาหารท
เย่ซิวถามแบบสบาย ๆ เขาไม่ได้คิดที่อยากจะทำแบบนั้นจริง ๆเขาไม่ใช่คนประเภทจะทำอะไรเพื่อแสวงหาผลกำไรนอกจากนี้ เป็นเพราะน้องสาวของหูเม่ยเอ๋อร์สามารถให้ข้อมูลวงในดังกล่าวนี้แก่เธอได้ครั้งหนึ่ง หล่อนก็จะสามารถให้ข้อมูลนั้นแก่เธอเป็นครั้งที่สองได้หากร่วมมือกับเธอตอนนี้ ในอนาคตก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องไม่รู้จบไม่ว่าจะเป็นในด้านใด เย่ซิวก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกงหรือเอาเปรียบเธอ “ได้ ผมสัญญา!”หูเม่ยเอ๋อร์ไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ เธอถามว่า “แล้วเรื่องซื้อที่ดินคุณวางแผนที่จะใช้เงินเท่าไหร่?”"รอผมแป๊บ"พูดอย่างนั้นแล้วเย่ซิวก็โทรหาเซี่ยซิ่วซิ่ว"ตอนนี้บัญชีของบริษัทมีเงินสดที่ใช้ได้เลยอยู่เท่าไหร่?"เซี่ยซิ่วซิ่วที่อยู่บ้านเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และกำลังเตรียมจะเข้านอนหลังจากได้รับสายจากเย่ซิว เธอก็เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบทันที แล้วพูดว่า “เรากำลังเตรียมจ่ายเงินเดือนของเดือนที่แล้วให้พนักงาน บวกกับที่ต้องจัดสรรกองทุนฉุกเฉินบางส่วนไว้ด้วย ฉะนั้นเงินที่เราใช้ได้ตอนนี้มีประมาณหนึ่งแสนล้านบาท"เย่ซิวคำนวณอย่างรวดเร็วตามราคาที่ดินปัจจุบันของสถานที่แห่งนี้หนึ่งแสนล้านบาทสามารถซื้
เนื่องจากเธอเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน เธอยังไม่คุ้นเคยกับความแข็งแกร่งของคนทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนั้นเองที่ผู้ช่วยของเธอวางเอกสารสองฉบับไว้ตรงหน้าเขาระหว่างที่ดูเอกสาร หลิ่วอวี้เอ๋อร์ก็กำลังพูดคุยกับพวกเขาสองคนไปด้วย ยิ่งเธอดูมากเท่าไรเธอก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นเท่านั้นรอยยิ้มบนใบหน้าฉีกขึ้นเรื่อย ๆหลังจากฟังคำขอของเย่ซิวแล้ว หลิ่วอวี้เอ๋อร์ก็ยิ้มและกล่าวว่า “ด้วยคุณสมบัติของคุณเย่แล้ว สำหรับสินเชื่อสองแสนล้านบาทไม่มีปัญหาเลยค่ะ ดิฉันจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดให้กับคุณด้วยค่ะ”ในใจของเธอเอ่อล้นไปด้วยความสุข เธอเพิ่งมาทำงานที่นี่ ไม่คิดเลยว่าจะมีธุรกรรมใหญ่ขนาดนี้เข้ามาหาถึงที่เนื่องจากเป็นเรื่องของเงินจำนวนมาก แม้ว่าหลิ่วอวี้เอ๋อร์จะให้การดูแลเย่ซิวเป็นพิเศษแต่ก็ยังต้องใช้เวลาสองวันในการดำเนินการให้เสร็จสิ้นหลังจากลงนามในสัญญามากกว่าสิบฉบับ หูเม่ยเอ๋อร์ก็ยืนขึ้นเตรียมจะเดินออกไปหลิ่วอวี้เอ๋อร์ก็ยืนขึ้นและยื่นมือออกไปจับมือของเย่ซิวบางทีอาจเป็นเพราะเธอนั่งนานเกินไป หรืออาจเป็นเพราะรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่ในวันนี้มีส้นที่สูงกว่าปกติเมื่อเธอลุกขึ้นยืนก็สูญเสียการทรงตั
เย่ซิวกำลังขจัดรอยแดงบวมที่เท้าของหลิ่วอวี้เอ๋อร์ แต่จู่ ๆ จมูกของเขาก็ขยับ “ทำไมถึงมีกลิ่นแปลก ๆ”“คงเป็นเพราะห้องนี้ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดมั้งคะ ห้องก็เลยมีกลิ่น” หลิ่วอวี้เอ๋อร์อธิบายเย่ซิวพยักหน้าโดยไม่ได้คิดอะไรมาก และให้คำแนะนำ “สองสามสัปดาห์หลังจากนี้ คุณควรสวมรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าส้นเตี้ยนะครับ กระดูกของคุณค่อนข้างเปราะ อาจจะเกิดการแตกหักได้ง่าย”“ขอบคุณนะคะคุณเย่” หลิ่วอวี้เอ๋อร์ขอบคุณเขาอย่างจริงใจ“คุณพักผ่อนอยู่ที่นี่สักพักจะดีกว่าครับ ไม่ต้องไปส่งพวกเราก็ได้ พวกเราไปกันเองได้ครับ”ทั้งสองคนก็เดินออกไปข้างนอกหลังจากออกมาจากธนาคาร เย่ซิวก็ดูเวลาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงแล้วเขาปฏิเสธคำเชิญของหูเม่ยเอ๋อร์ที่จะไปคลับเย่ซิวขับรถไปรับหลิ่วเมิ่งอิ๋นที่โรงเรียนหลังจากขึ้นรถ ใบหน้าที่ปั้นมาทั้งวันของหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็หายไป พลันเผยรอยยิ้มที่สดใสไร้เดียงสาและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เธอได้พบเจอที่โรงเรียนวันนี้เย่ซิวรับฟังเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อรถมาถึงทางเข้าเขตที่อยู่อาศัย เย่ซิวก็บอกเธอว่า “ฉันซื้อวิลล่าแล้ว เราย้ายไปที่นั่นกันเถอะ”“อะไรนะคะ?”หลิ่วเมิ่งอิ๋น
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีสาวสวยขนาดนี้!”“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? นี่มันนางฟ้าลงมาเยือนโลกมนุษย์ชัด ๆ!”“สาวน้อย เธอมาทำอะไรแถวนี้? ให้พี่เดินไปเป็นเพื่อนไหมจ๊ะ?”…คนเหล่านี้มองหลิ่วเมิ่งอิ๋นด้วยสายตาหื่นกระหาย และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายรูปร่างหน้าตาของเธอสวยเกินไปจริง ๆยิ่งกว่านั้น คนเหล่านี้เดิมทีเป็นพวกขี้เกียจราวกับพวกขยะสังคม เมื่อพวกเขาเห็นสาวสวยจึงรีบเข้ามาแซวเธอหลิ่วเมิ่งอิ๋นซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเย่ซิวโดยสัญชาตญาณ คนเหล่านี้ดูดุร้ายและน่ากลัวมาก“เฮ้ ไอ้หน้าอ่อนนี่ใคร? แฟนเธอเหรอ?”“ฉันสงสัยจังว่าผอมกระหร่องดูอ่อนแอขนาดนี้ จะทนต่อหมัดฉันได้หรือเปล่า”“สาวน้อย เธออยู่กับคนอย่างนั้นไม่มีอนาคตหรอก มาอยู่กับพี่ดีกว่า”…คนเหล่านี้ไม่ได้สนใจเย่ซิวเลยดูจากรูปลักษณ์ที่ผอมสูงแบบนี้ จะไปมีแรงขนาดไหนกันเชียว?รูปลักษณ์ที่ไร้เดียงสาและมีเสน่ห์ของหลิ่วเมิ่งอิ๋นทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นจนทนไม่ไหว และอดไม่ได้ที่จะลงมือทำสีหน้าของเย่ซิวดูเย็นชามาก “พวกคุณกำลังทำเรื่องแบบนี้ในเวลาทำงาน คุณไม่กลัวถูกเจ้านายไล่ออกเหรอ!”ชายคนหนึ่งหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “ทำไมเจ้านาย
“ใช่ครับหัวหน้า พวกผมยังมีคนแก่กับเด็กเล็กที่ต้องดูแล หัวหน้าอย่าไล่พวกเราออกเลยนะครับ!”เมื่อกี้พวกเขาเย่อหยิ่งมากเท่าไร ตอนนี้พวกเขาก็อับอายขายหน้ามากเท่านั้นเมื่อหนิวเอ้อร์ได้ยินคำพูดนี้จากพวกเขา ก็รู้ได้ทันทีว่ามีเรื่องร้ายเกิดขึ้นแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่กับเขามาได้สักยะหนึ่งแล้ว แต่ในตอนนี้เขากลับทำหน้าบึ้งตึงไม่พูดจาอะไรสักคำคนพวกนี้โง่จริง ๆ ถ้าขืนยังอยู่ต่อ ไม่แน่ว่าต่อไปพวกเขาอาจจะก่อเรื่องราวใหญ่โตให้เขาเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ตอนนี้ให้เจ้านายคนใหม่จัดการไล่พวกเขาออกไปอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดสีหน้าของเย่ซิวนั้นเย็นชาจนไม่แสดงอาการใด ๆ “ไม่ต้องพูดมาก ไปจัดการเรื่องเงินเดือนให้เรียบร้อยแล้วออกไปซะ!” เมื่อเห็นเย่ซิวนั้นมีท่าทีเด็ดขาด พวกเขาก็โกรธมากจนถึงขีดสุด พวกเขารีบลุกขึ้นและเริ่มพับแขนเสื้อขึ้นดวงตาของพวกเขาแต่ล่ะคนฉายแววอันตราย“หัวหน้า คุณอยากจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ใช่ไหม?”“จะบอกอะไรให้ ผมไม่กลัวคุณหรอก ผมยังมีพวกพ้องที่อยู่ข้างนอกอีกมากมาย ถ้าคุณไล่พวกเราออก ผมกล้ารับประกันได้เลยว่าต่อไปบริษัทของคุณจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่ ๆ!”“ถ้างั้น เราลองถอยหลังคนละก้าวดูไหม? เร
น่าหลันเยียนหรานหัวเราะคิกคัก "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดื่มเก่งมาก มา ดื่มกันต่อ..."โดยปกติแล้วคนที่ชอบพูดว่าตัวเองดื่มเก่ง ในความเป็นจริงล้วนไม่ค่อยจะเท่าไหร่ยกตัวอย่างเช่นน่าหลันเยียนหราน อวดว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ดื่มไปสามแก้วติดกัน ก็นอนฟุบหมดสติไปกับโต๊ะแล้วเย่ซิวส่ายหัวอย่างหมดคำพูด เดินขึ้นไปแล้วอุ้มเธอกลับไปที่ห้องน่าหลันเยียนหรานดูตัวสูงเพรียว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ตัวหนัก น่าจะสักประมาณสี่สิบห้ากิโลกรัม สำหรับเย่ซิวแล้วจึงไม่ต่างอะไรกับการอุ้มก้อนสำลีมากนักเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของน่าหลันเยียนหราน กลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกมะลิก็ลอยมาปะทะจมูก ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเบิกบานเมื่อได้กลิ่นห้องพักสะอาดมาก ไม่มีอะไรที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องหน้าแดงเขาวางเธอลงเบา ๆ ไม่ทันรอให้เย่ซิวดึงมือกลับไป เธอก็ลืมตาที่แดงก่ำขึ้นแล้วพูดอย่างคลุมเครือฟังไม่ค่อยชัดแต่เย่ซิวได้ยินมันอย่างชัดเจนมาก เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "คุณแน่ใจเหรอ? ผมไม่สามารถให้สถานะแก่คุณได้"น่าหลันเยียนหรานค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทางเหมือนยอมให้ท่านกระทำได้ทุกอย่างนี่เป็นการตัดสินใจเลือกของเธอเอง เย่ซิวไม่ได้บังค
“วิชาจินตานเบญจมหาธาตุวิถี!”เย่ซิวมองไปที่วิธีบ่มเพาะจินตานที่บันทึกไว้ในหนังสือในมือของเขาด้วยความดีใจเป็นอย่างยิ่งสิ่งที่เรียกว่าการสร้างแก่นจินตาน สามารถมองได้ว่ามนุษย์กับธรรมชาติเป็นหนึ่งเดียวกันโดยใช้กายมนุษย์เป็นเตาหลอม พละกำลัง ลมปราณ และพลังวิญญาณเป็นวัตถุดิบยา หลอมกลั่นมันออกมาตลอดทุกยุคสมัยล้วนมีบันทึกไว้แบบนี้ เมื่อจินตานหนึ่งเม็ดอยู่ในท้องข้า ก็ตระหนักได้แล้วว่าชะตากรรมข้ามิได้ถูกกำหนดโดยฟ้าดินอีกต่อไปและวิธีการสร้างตานในมือของเย่ซิว ก็คือหนึ่งในวิธีที่ยากที่สุดในบรรดาวิธีการต่าง ๆจำเป็นต้องรวบรวมสมบัติแห่งฟ้าดินทั้งห้าธาตุ แล้วกลั่นเป็นตานแห่งเบญจมหาธาตุวิถี!จินตานประเภทนี้จะมีพลังวิญญาณแฝงอยู่เป็นสิบเท่าของจินตานทั่วไป และความเร็วในการฟื้นตัวเองก็มากกว่าหลายเท่า ยิ่งไปกว่านั้น ในระดับขั้นเดียวกัน ผู้บำเพ็ญตนที่มีตานแห่งวิถีห้าธาตุ จะสามารถเอาชนะขั้นอมตะทั่วไปได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีความสามารถในการต่อสู้แบบข้ามขั้นที่น่ากลัวด้วยแน่นอนว่า ศักยภาพเองก็แข็งแกร่งเช่นกัน สามารถไปต่อได้ไกลเย่ซิวจดทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น จากนั้นนำหนังสือกลับไปคืนที่เดิม ทิ้ง
ในตอนนั้นเอง กระบี่พยัคฆ์ก็รู้สึกได้ว่าจิตสังหารที่รายล้อมรอบตัวเขาได้จางหายไปแล้วเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “ผมกำลังขาดสุนัขที่รู้จักเห่าและกัดเจ็บอยู่ สนใจจะเป็นไหม?”เขามองออกว่ากระบี่พยัคฆ์เป็นคนที่หยิ่งทะนงและไม่ยอมใคร การใช้คำพูดที่สุภาพกับคนแบบนี้คงไม่มีประโยชน์ ต้องใช้พลังที่เหนือกว่าและความเด็ดขาดเท่านั้นถึงจะควบคุมได้และเป็นดังที่คาดไว้ กระบี่พยัคฆ์ที่เพิ่งโดนพลังของเย่ซิวข่มขวัญก็ยอมจำนนในทันที แทนที่จะรู้สึกไม่พอใจ เขากลับยิ้มอย่างยินดี “ผมยินดีรับใช้ ขอบคุณที่คุณรับผมไว้ครับ!”ภาพนี้ทำเอานักพรตทั้งสองคนตกตะลึงจนพูดไม่ออกเย่ซิวเดินเข้าไปหานักพรตสาวที่หน้าตางดงามราวกับงานศิลปะ พลางเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน “พอจะอนุญาตให้ผมเข้าไปดูหนังสือในห้องสมุดของพวกคุณได้ไหม?”นักพรตสาวกลับมาตั้งสติ ก่อนจะมองหน้านักพรตอีกคนนักพรตคนนั้นรีบวิ่งเข้ามาพร้อมท่าทีที่นอบน้อมอย่างมาก “ดะ…ได้เลย…เชิญโยมตามอาตมาเข้ามาได้เลย”ตอนนี้เขารู้สึกเกรงกลัวเย่ซิวเป็นอย่างยิ่งชายที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หากเขาโกรธขึ้นมา เกรงว่าทั้งอารามเต๋าอาจถูกทำลายจนไม่เหลือเย่ซิวหันไปมองกระบี่พยัคฆ์ “คุกเข่ารอฉันตรงนี
กระบี่พยัคฆ์มีท่าทีที่ดุดันและแข็งกร้าว แต่ก็สมกับพลังที่เขามีจริง ๆกระบี่ที่เขาฟาดออกไปมีกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่และทรงพลังดั่งมหาสมุทร ราวกับจะผ่าทั้งสวรรค์และปฐพีออกเป็นสองส่วนเด็กสาวที่วิ่งออกมาจากในอารามที่ดูงดงามราวกับตุ๊กตาได้แต่มองกระบี่นี้ด้วยความตกตะลึงเธออยากจะเข้าไปช่วย แต่ด้วยพลังที่มีไม่พอจึงได้แต่เบือนหน้าหนี ไม่อยากเห็นภาพที่เย่ซิวจะถูกแยกออกเป็นสองท่อนนักพรตหนุ่มถึงกับหน้าซีด คิดจินตนาการถึงภาพที่เย่ซิวต้องเลือดสาดเต็มพื้น“ไม่เลวเลย จอมยุทธ์ระดับแปดขั้นต้นที่สามารถปลดปล่อยพลังได้ถึงขั้นสูงถือว่าหายากทีเดียว”ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ มีเพียงเย่ซิวเท่านั้นที่ยังมีอารมณ์มาวิจารณ์การโจมตีนี้ด้วยท่าทีสงบ กระบี่พยัคฆ์ได้ยินดังนั้นก็แสยะยิ้มเย้ยหยัน “ตายคาที่แล้วยังจะทำเป็นอวดเก่งอีก!”แต่เพียงชั่วพริบตา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ แทนที่ด้วยสีหน้าตกตะลึงราวกับเห็นผีเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือ เย่ซิวใช้เพียงสองนิ้วคีบหยุดคลื่นกระบี่อันน่าสะพรึงนั้นได้อย่างง่ายดายท่ามกลางสายตาตกตะลึงของกระบี่พยัคฆ์และนักพรตทั้งสอง เย่ซิวคีบคลื่นกระบี่ไว้ได้ราวกับไม่มีอ
ชายคนนั้นมีท่าทีไม่เชื่ออย่างแรง “อย่ามาหลอกฉัน ถ้าเจ้าอาวาสไม่ออกมา ฉันก็ไม่ไป และวัดนี้ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมากราบไหว้อีก!”นักพรตหนุ่มรู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง เมื่อเจอกับคนที่มีพลังแข็งแกร่งและเล่นไม่ซื่อแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้จะรับมือยังไง“เฮ้ พวกเธอสองคน ไสหัวไปซะ!”ชายคนนั้นมองเย่ซิวกับน่าหลันเยียนหรานด้วยสายตาดุดันดั่งสิงโตที่กำลังคำราม ดูน่ากลัวเป็นอย่างมากนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนที่มาไหว้พระพากันหนีไปหมดเย่ซิวเอ่ยเรียบ ๆ “นี่เป็นที่สาธารณะ ทำไมผมต้องไปด้วย?”ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “ไอ้หนู คิดจะโชว์แมนต่อหน้าแฟนหรือไง? อยากโดนฉันสั่งสอนใช่ไหม!”พูดจบ พลังอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขามีเพียงผู้ที่ผ่านสมรภูมิความเป็นความตายอันโหดร้ายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นที่จะสามารถแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวเช่นนี้ออกมาน่าหลันเยียนหรานตัวสั่นเทิ้ม ขนลุกไปทั้งร่างชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้วแต่ในวินาทีนั้นเย่ซิวก็ยื่นมือใหญ่ที่อบอุ่นและแข็งแรงมาจับมือเล็ก ๆ ของเธอไว้ เธอรู้สึกสงบลง ก่อนจะมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาขอบคุณนักพรตหนุ่มรีบวิ่งลงมาหาเย่ซิวพร้อมเตือนด้วยความกังวล “โย
คนส่วนใหญ่มีทัศนคติที่เกลียดชังคนรวยเหมือนกับตอนนี้ที่แม้น่าหลันเยียนหรานเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเห็นได้ชัดแต่เพียงเพราะเธอขับรถหรูและใส่เสื้อผ้าราคาแพง คนรอบข้างจึงคิดว่าเป็นความผิดของเธอเหตุการณ์แบบนี้ที่แสดงถึงความเกลียดชังคนรวยมีให้เห็นทั่วไปขณะที่น่าหลันเยียนหรานไม่รู้จะทำอย่างไรดี เย่ซิวก็ปรากฏตัวขึ้นมายืนขวางหน้าเธอไว้น่าหลันเยียนหรานยิ้มด้วยความดีใจ “คุณเย่มาที่นี่ได้ยังไงคะ”“ผ่านมาแถวนี้พอดี” เย่ซิวมองหญิงชราที่นอนขวางรถของน่าหลันเยียนหราน แล้วเอ่ยเรียบ ๆ “ลุกขึ้น แล้วไสหัวไปซะ!”หญิงชรายิ้มเยาะ “อะไร พวกเธอสองคนรวมหัวกันจะรังแกคนแก่เหรอ หน้าไม่อาย ถ้าฉันไม่ลุกพวกเธอจะทำอะไรฉันได้!”คนที่ไม่รู้จักอายมักจะได้เปรียบเสมอเย่ซิวจ้องมองเธอด้วยดวงตาที่เปล่งประกายแล้วตวาดใส่หญิงชราคนนั้น “มองฉัน!”หญิงชราหันมามองตาของเย่ซิวโดยไม่ทันรู้ตัวตึง!สมองของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ ราวกับสติหายไปชั่วคราวเย่ซิวมองเธอ “บอกมาว่าทำไมถึงคิดจะหลอกคนอื่น”หญิงชราเผยความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว“ฉันเล่นไพ่นกกระจอกจนเสียเงินค่าใช้จ่ายสำหรับทั้งปีไป กลัวสามีจะด่าก็เลยคิดจะหลอกเอาเงินจากค
“พี่เป็นคนดีจริง ๆ ฉันรักพี่ที่สุดเลย”จวงเสี่ยงหยิงดีใจจนกระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าเย่ซิว“พอแล้ว” เย่ซิวกดไหล่เธอลง “ผู้หญิงไม่ควรกระโดดโลดเต้นต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ จะเสียเปรียบเอานะ”จวงเสี่ยงหยิงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง ใบหน้าเธอแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยด้วยความเขินอาย “พี่นี่ลามกจริง ๆ เลย คราวหน้าฉันจะกระโดดแค่ต่อหน้าพี่แค่คนเดียวดีไหมคะ?”จวงเสี่ยงหยิงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ยังตูมรอวันผลิบาน แผ่กลิ่นอายแห่งความสดใสและเยาว์วัยออกมาทุกอณูการได้อยู่กับสาวน้อยแบบนี้ทำให้จิตใจพลอยสดชื่นไปด้วยถ้าไม่ติดว่ายังมีเรื่องรอให้ทำอีกมากมาย เย่ซิวคงจะอยู่กับเธอนานกว่านี้หน่อยหลังจากออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เย่ซิวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาอารามเต๋าภายในประเทศตอนนี้เขาอยู่ในขั้นสูงของการสร้างรากฐานปราณ อีกไม่นานก็จะถึงขั้นสมบูรณ์ เขาต้องเริ่มเตรียมตัวสำหรับการบ่มเพาะจินตานแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำคือหาวิธีการบ่มเพาะจินตานปัจจุบัน อารามเต๋าในประเทศที่มีอายุมากกว่าร้อยปีนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่งเย่ซิวค้นเจออารามเต๋าห้าแห่ง หนึ่งในนั้นมีอยู่ที่เมืองหลวงและระยะทางก็ไม่ไกลมากเมื่อค้นเจอต
เย่ซิวชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมา “ว่าไงครับ?”หยางชิงเสวี่ยเม้มปากเล็กน้อย ดวงตางดงามจับจ้องไปยังเย่ซิวที่ยืนอย่างองอาจ “คุณต้องเร่งบำเพ็ญตนให้มากขึ้น แล้วรีบทะลวงให้ถึงระดับจินตานให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้น…”ประโยคหลังจากนั้นเธอไม่ได้พูดออกมา แต่แค่ขยับริมฝีปากเท่านั้นเย่ซิวเข้าใจอย่างชัดเจน จึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากหยางชิงเสวี่ยมีร่างกายที่พิเศษ และต้องรอให้เย่ซิวทะลวงระดับจินตานเสียก่อนจึงจะสามารถมีสัมพันธ์กับเธอได้นี่เป็นกฎที่อาจารย์ของเขากำหนดไว้เมื่อถึงเวลาที่เขาสมหวังกับหยางชิงเสวี่ย เขาจะได้รับพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมากเย่ซิวกลับไปที่ศาลา ก่อนจะหยิบจี้หยกสองชิ้นออกมา แล้วสวมให้เธอด้วยมือของเขาเองทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนกลิ่นอายความแข็งแกร่งของเขาแผ่ซ่านเข้ามาจนสัมผัสได้หยางชิงเสวี่ยรู้สึกเหมือนร่างกายถูกจุดไฟ รู้สึกอ่อนแรงและใบหน้าก็แดงระเรื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้นเย่ซิวก็คว้ามือเล็กอ่อนนุ่มของเธอไว้ ก่อนจะสวมแหวนลงบนนิ้วของเธอสองวง แล้วบอกวิธีใช้ให้เธอฟัง“ของพวกนี้ล้ำค่าเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”หยางชิงเสวี่ยส่ายหน้า พยายามจะถอดออก“ไม่เป็นไร ของพว
ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม